ทับอุทัยสวรรค์ - นิยาย ทับอุทัยสวรรค์ : Dek-D.com - Writer
×

    ทับอุทัยสวรรค์

    ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ที่พลอยบุษบาเที่ยวซุกซนอยู่ในห้วงความฝัน คืนแล้วคืนเล่ากับชายหนุ่มรูปงามที่ทะลุมาในชีวิตจริงด้วย อาจด้วยปาฎิหาริย์ หรือเพราะอะไร ทำให้คนสองคนต้องมาพบเจอกัน..........

    ผู้เข้าชมรวม

    130

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    130

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  5 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 ม.ค. 68 / 14:37 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เสียงสวดมนต์ทำวัตรเย็น จากการประสานเสียงของชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ ดังกึกก้องทั่วอาณาบริเวณโบสถ์หลังงามเก่าแก่  วัดอุทัยสวรรค์    ที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ 300 กว่าปี  ยังคงปรากฏปฏิมากรรมในยุคโบราณ  ที่มีความงดงามอ่อนช้อยด้วยศิลปะสมัยอยุธยา   และยังไม่เคยหมดสิ้นความเข้มขลัง และความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ที่คลาคล่ำกันเข้ามาสักการะพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในพระอุโบสถหลังงามนี้มาอย่างยาวนาน    พลอยบุษบา  หญิงสาวผู้มีถิ่นกำเนิดเป็นเด็กสาวต่างจังหวัด  แต่ผิวพรรณหน้าตากลับเหมือนผู้ดีเมืองกรุง  และรูปร่างที่สูงโปร่งเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น  เธออาศัยอยู่กับคุณย่าอุ่นเรือน   ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในตำบลนี้  ฐานะทางบ้านถือว่ามีอันจะกินและเป็นที่นับน่าถือตาในชุมชน  เธออบรมสั่งสอนหลานสาวเป็นอย่างดี  พลอยบุษบาจึงได้นิสัยย่ามาเต็มๆ  ทั้งกิริยาท่าทาง  เรียบร้อย  วางท่าอย่างผู้ดี  มารยาทงาม รู้กาลเทศะ  อัธยาศัยดี  ชาวบ้านต่างพากันชื่นชม  และเธอยังเป็นหลานสาวเพียงคนเดียว  เป็นกำพร้ามารดา และบิดานั้นผู้เป็นย่าไม่เคยเอ่ยถึงและชาวบ้านต่างไม่รู้ว่าพ่อที่แท้จริงของเธอนั้นเป็นใคร  ในทุกๆวัน  เธอจะมาทำวัตรเย็นกับผู้เป็นย่าบ่อยจนเหมือนบ้านหลังที่สอง   เธอจึงรู้จักมักคุ้นกับวัดอุทัยสวรรค์เป็นอย่างดี  แต่มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง    ตาลุงสัปเหร่อชอบเรียกเธอว่า  คุณพุดตาน  ซึ่งเธอรู้สึกชื่นชอบชื่อนี้เป็นพิเศษ  เหมือนกับว่าชื่อนี้เธอเคยได้ยินที่ไหน   แต่ทุกครั้งที่ลุงแกเรียก  แกจะต้องตกใจทุกครั้ง  และรีบบอกให้รีบหนีไปจากที่นี่  ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม   ลุงสัปเหร่อต้องแสดงอาการและกิริยาแบบนั้นกับเธอ    จนกระทั่งวันนี้  เธอได้ยินเสียงระฆังเล็กๆ  ที่ดังแว่วอยู่ไม่ไกลจากตัวโบสถ์มากนัก  พร้อมกับกลิ่นดอกไม้อะไรสักอย่างที่หอมมากๆ   จนอยากจะเด็ดมาเก็บไว้ที่บ้าน   เธอเดินตามกลิ่นและเสียงไป  จนมาถึงกองหิน มีต้นการเวกออกดอกบานสะพรั่ง ปลูกอยู่เมื่อดอกการเวกบานเต็มที่  จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอม ดอกคล้ายกระดังงาจีน ต่างกันที่ขนาดเล็กกว่า    กลิ่นหอมของดอกการเวกนั้นหอมแรง หอมนาน ชวนหลงใหล  คนโบราณจึงนิยมนำดอกไปอบผ้า     พลอยบุษบา ตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ จนกระทั่ง  ได้ยินเสียงกระซิบ     “มาแล้วหรือ แม่พุดตาน”   เสียงนั้น คุ้นเคย  อบอุ่น  เย็นสบาย  เหมือนเสียงญาติผู้ใหญ่ที่รักและเคารพ “มาทวงสัญญาหรือแม่”  เสียงนั้นยังคงพูดต่อจากนั้นเธอรู้สึกเหมือนหลุดไปในสถานที่ที่สวยงาม   เหมือนสวนดอกไม้นานาชนิด  ในมือถือเครื่องสานคล้ายกระด้ง มีดอกไม้หลากสีอยู่ในนั้นและส่งกลิ่นหอมอบอวล   “หนูพลอย  หนูพลอย”   เสียงหญิงชราเรียกสติจนพลอยบุษบาตื่นจากภวังค์   “ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ลูก  ง่วงนอนก็ไม่บอก   ย่าจะให้อยู่บ้านไม่ต้องตามมาวัดด้วย”   เธอลุกขึ้นนั่งด้วยความมึนงง  ไม่เข้าใจว่าตัวเองหลับไปตอนไหน  เพราะจำได้ว่าเธอยังไม่ได้หลับเลย   กลิ่นหอมและเสียงระฆังจิ๋ว  หายไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่   หรือเธอจะอ๊อง  จนไม่มีสติ  ก็ไม่น่าเป็นไปได้  อยู่มาจนอายุ30กว่าแล้ว   แฟนก็ยังไม่เคยมี  ยังไม่เห็นเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้  หรือจะนั่งสมาธิกับคุณย่าจนเพี้ยน ก็อาจจะเป็นไปได้....สองย่าหลานพากันเดินไปขึ้นรถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่  ที่พลอยบุษบา  เก็บเงินซื้อเองด้วยน้ำพักน้ำแรกของเธอ แต่....กลิ่นหอมนั้นยังติดที่จมูกอยู่เลย......เมื่อมาถึงบ้านเธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า   เข้าห้องนอนตามปกติ ไม่ลืมสวดมนต์ไหว้พระตามประสาเด็กดีของคุณย่า     และผล็อยหลับไปอย่างเหนื่อยล้าหลับไปนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้แต่รู้สึกตัวอีกครั้ง    เอาอีกแล้ว เธอมาตื่นที่ไหนอีกแล้วนี่  กลิ่นหอมนี้เหมือนช่วงเย็นที่ผ่านมาเลย  ผู้คนแต่งตัวแปลกตา และช่วยกันทำงานอย่างขะมักขะเม้น อบผ้าหรือ   เธอพูดกับตัวเอง   นี่ฉันได้มาเห็นเค้าอบผ้า  ทำน้ำปรุง น้ำอบกัน  ฝันหรือนี่  เธอหยิกตัวเอง  และทำหน้าหยี่   เจ็บจริงๆด้วย  ฉันไม่ได้ฝัน แล้วฉันมาที่นี่ได้อย่างไร   “คุณพุดตานเจ้าขา   ช่วยดูผ้าทีรือแม่  กลิ่นนี้ใช้ได้หรือมั้ยเจ้าคะ”   หญิงวัยรุ่น ฟันดำ เดินเข้ามาทักทายและเชื้อเชิญให้ไปดูผ้า แต่เรียกฉันว่าพุดตาน  “ข้าไม่”  ห๊ะ! ตะกี้ฉันจะพูดว่าฉันไม่  แต่ทำไม เสียงที่ออกมาถึงได้... เธอยังคงมึนงงอยู่ แต่ก็เดินตามเจ้าร่างเล็กฟันดำไปแต่โดยดี ผ้าถูกจัดวางอย่างประณีตและส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ   เนื้อผ้านี้แปลกตาแต่สวยมากๆ  “หอมมากจ๊ะ” เธอกล่าวหลังจากหยิบผ้าผืนงามขึ้นมาชื่นชม   เมื่อมองดูหน้าตาของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า จัดว่าเป็นคนสวยทีเดียว  หน้าตาคมขำ  แม้จะไม่มีเครื่องสำอางบนใบหน้าเลย  แต่ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา ดูสะอาดตา  ปากแดงระเรื่อด้วยหมากกับปูนแดง  จะทำให้ฟันนั้นดำไปหมดแล้ว  ไม่เข้าใจว่าชอบฟันดำกันทำไม  “แลพาข้าไปดูทั่วเรือนทีรือ” คนฟังทำหน้าแปลกใจ ว่าเหตุไฉนผู้เป็นนาย จึงกล่าวเยี่ยงนี้ทั้งที่เรือนนี้ก็เรือนของนาง “ฉันไหว้จ๊ะ  แม่พุดตานไข้รือไม่” คนพูดกล่าวด้วยความเป็นห่วง   “พี่ช่วยพาฉันไปที ฉันข้องใจ”  “แม่เป็นกะไร เรือนนี้ของแม่หนา  หรือคิดว่า คุณพระจะรักหญิงอื่นมากกว่าแม่เทียวรือ” “คุณพระหรือ” คือใครกัน ฉันเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้   “พาข้าไปหาคุณพระที”  สาวน้อยเดินนำไปแต่โดยดี  ทางเดินนั้นมืดถึงขนาดจุดคบเพลิงตามจุดต่างๆแล้วก็ยังไม่สว่างมากพอ  จึงต้องเดินอย่างระมัดระวัง  จนมาหยุดยืนที่ห้องหนึ่ง    เรือนไม้หลังนี้ใหญ่มากและงดงามมาก  แม้แต่ประตูห้องก็ทำด้วยไม้แกะสลักอย่างดี  เป็นไม้เนื้อหา   และมีกลิ่นหอมอ่อนๆของเปลือกไม้   กลิ่นเหมือนไม้เทพทาโร   นั้นแสดงให้เห็นว่าคนยุคนี้เชื่อเรื่องโชคลาง   “คุณพระอุทัยเจ้าขา   คุณหญิงอุทัยมาพบเจ้าข้า”   ประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ภายในห้องนั้น  แสงเทียนสลัวขับใบหน้าให้ยิ่งหล่อเหลาไปอีก     หล่อแบบโบราณ หมือนพระเอกในวรรณคดี  นี่คือสามีของฉันนนนนนน!!!!!!        งานดีจัง   เธอคิดในใจ  “แม่พุดตาน  เข้ามาก่อน  พี่ยังมินอนดอก”   เธอเดินมาเข้าไปเหมือนถูกมนต์สะกด  สาวใช้ปิดประตูลงอย่างรู้งาน   “เจ้าจะนอนกับพี่รือ   หายโกรธพี่แล้วรือเจ้า”ชายหนุ่มตรงหน้าจับไหล่น้อยๆของเธออย่างทะนุถนอม  จนเจ้าตัวเกิดความรู้สึกหวั่นไหวในใจแบบบอกไม่ถูก  และมีความรู้สึกน้อยใจ คนตรงหน้า  หงุดหงิดชอบกล   หรือจะโกรธอย่างที่เค้าว่าจริงๆ  แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก  ว่าไม่พอใจคนตรงหน้าด้วยเรื่องอะไร  “อิฉัน มิได้มิพอใจกะไรดอกเจ้าค่ะ  เพียงแต่อิฉันมิทราบว่าตัวของอิฉันเป็นอะไร  ครั้นเนื้อครั้นตัวเหมือนจะมีไข้เจ้าค่ะ  แลเห็นสิ่งใดก็มิใคร่ชอบใจนัก” คุณพระเป็นคนฉลาด  เพียงแค่พุดตานเอ่ยออกมาแค่นี้ก็รู้ได้ในทันที  จึงเข้าสวมกอดอย่างเอาใจ  “พี่รักน้องคนเดียวหนา แม่พุดตาน  หญิงอื่นหมื่นแสนที่คุณแม่หามาให้  จะดีสักปานใด ก็มิสู้แม่ดอกหนา  พี่รักษาสัญญากับเจ้าแล้ว   พี่มิเคยลืมดอก”  คนฟังรู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  อาจเป็นเพราะคำพูดที่อบอุ่นฟังดูจริงใจนี้ จึงทำให้เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคนในอ้อมกอดอีกครั้ง  ไม่รู้ว่านานเท่าใดแต่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจมาก  จนยากที่จะตื่นจากฝันในครั้งนี้.......กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  เสียงนาฬิกาปลุก  บอกเวลาว่าเช้าแล้ว  ทำให้พลอยบุษบา  ต้องรีบตื่นขึ้นมาแบบไม่เต็มใจ   “กำลังฝันดีอยู่เลย” เธอพาร่างเข้าห้องน้ำอย่างไม่เต็มใจ  เพราะต้องลุกขึ้นทำกับข้าวไปใส่บาตรกับคุณย่าทุกเช้า  ซึ่งก็เป็นกิจวัตรประจำวันของเธอไปแล้ว  แต่ก็ไม่ลืม ที่จะทำบุญให้กับคุณพระ คนในฝันของเธอด้วยเช่นกัน........

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น