รีวิว

ลำดับตอนที่ #3 : :: สองรักล้นใจ-คีตภา ::

เรื่อง สองรักล้นใจ

ผู้แต่ง คีตภา

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

จำนวนหน้า 367+322= 689 หน้า

ราคา  469 บาท

ชีวิตของ ‪‎รุจศยา ราบรื่นราวโปรยด้วยกลีบกุหลาบมาตลอด กำหนดแต่งงานก็ใกล้เข้ามาทุกที ความสุขสมหวังล้นปรี่ชัดเจนอยู่ตรงหน้า หากไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นกับมารดา!

หลังการสูญเสียเธอได้รับรู้ความลับอันดำมืดที่มารดาเก็บงำไว้ซึ่งหนักหนาเกินรับไหว และเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดกาล ถ้าเลือกได้...เธอก็อยากจะขอตายตามไปเสียตรงนั้น

ระหว่างที่มืดแปดด้าน ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพื่อนร่วมงานปากเสียอย่าง ‪‎ทวิพัทธ์ กลับก้าวเข้ามาอยู่เคียงข้าง คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจทุกอย่าง....ดูจะทำเกินหน้าที่ 'เพื่อนร่วมงาน' ไปไกล

หญิงสาวไม่รู้ว่าคู่ปรับอย่างเขามาช่วยเธอทำไม แต่เขาเปรียบเสมือนแสงสว่างเดียวที่ปลายอุโมงค์ เป็นสิ่งเดียวที่เธอพอจะคว้าเอาไว้ได้ แม้ในใจจะมีแต่ความงุนงงสงสัย

'คงมีแต่ผู้ชายจอมเจ้าเล่ห์คนนั้น....เขาคนเดียวที่ "รู้ดี" ว่าทุกอย่างที่ทำ ทำไปเพื่ออะไร!'

หลังอ่าน

รุจศยา หรือ จ๋า หญิงสาวสวยโปรไฟล์ดีชีวิตงาม  เธอเป็นหญิงสาวที่อยู่กับมารดาผู้เป็นเพียงคนที่รักคนเดียวที่เธอไว้วางใจ   คุณศราพรรณผู้เป็นมารดาเองก็ทำงานเป็นถึงประธารบริหาร บ.โฆษณาพร้อมกับหุ้นส่วนใหญ่อีก 2 คนผู้เป็นเพื่อนรักและรุจศยาเองก็รักทั้งสองเหมือนแม่แท้ๆ   รุจศยาเองหลังจากที่จบมาจากเมืองนอกก็ได้มาทำงานใน บ.ของมารดาในตำแหน่งที่ดีและเธอเองก็ขยันทำงานเพื่อจะพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าเธอเองไม่ได้เป็นเพียงแค่เด็กเส้น  ทุกอย่างราบรื่นมาโดยตลอด งานการดีมีเพื่อนร่วมงานรักจะมีบ้างก็อาจจะมีเพียงบางคนเท่านั้น   แต่แล้วสิ่งดีๆ ที่มีสำหรับจ๋าก็พังลงเมื่อเธอทราบข่าวว่ามารดาเสียชีวิตกระทันหันกับอุบัติเหตุแต่สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่านั้นก็คือ “ความลับที่ยิ่งใหญ่” ที่มารดาปิดบังเธอแม้ว่าความลับที่ว่าจะถูกปิดบังเพราะความที่มารดารักและเป็นห่วงเธอแต่เมื่อมันถูกเปิดเผยออกมาเสียแบบนี้มันสั่นคลอนความรู้สึกบางอย่างของเธอเหมือนโลกพังทลายลงตรงหน้า  เธอโทษแม่ เธอโทษคุณน้าทั้งสองเพื่อนของแม่ เธอโทษทุกอย่างและไม่ฟังเหตุผลใดๆ เลย   นอกจากเรื่องความลับของแม่ก็ยังมีเรื่องราวของหนี้สินที่เธอเองก็มารับรู้และก็ต้องหาทางแก้ไขซึ่งก็ถือว่าเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่เพราะมันเป็นปัญหาต่อเนื่องยาวนานและเจ้าหนี้ก็ไม่ใช่ใครเพราะเขาเป็นถึงเสี่ยตัณหากลับที่พยายามหาทางทวงหนี้และหยิบยื่นข้อเสมอให้กับรุจศยาให้ไปเป็นน้อย  ทุกอย่างเริ่มประดังประเดเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวเธอไม่สามารถไว้ในใครได้แต่แล้วคนที่เข้ามาเป็นอัศวินมาขาวคอยช่วยเหลือเธอกลับเป็น ทวิพัทธ์ หรือ สอง   อริที่เธอไม่อยากคบหา ไม่อยากเสวนาเพราะเรื่องราวเมื่อหลายปีก่อนที่เกิดขึ้นซึ่งก่อนหน้านี้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันอาจจะเริ่มต้นด้วยดีแต่มันมีเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่ต้องหมางใจกันด้วยเพราะ “ปากพาจน” ของ ทวิพัทธ์ที่เอ่ยปากเกี่ยวกับรุจศยาและบังเอิญเธอผ่านมาได้ยินเข้ามันเลยเป็นสาเหตุที่ทั้งคู่ต้องกลายมาเป็นอริศัตรูกันเสีย    ด้วยเพราะมารดาเองก็ทำงานและมีชื่อเสียงในวงการโฆษณาและวงสังคม เมื่อ “ความลับ” ที่มาพร้อมกับอุบัติเหตุเปิดเผยก็เลยกลายเป็นเรื่องสนุกปากของอีกหลายๆ คน  และหนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นเรื่องของครอบครัวและว่าที่คู่หมั้นที่วางแผนจะแต่งงานอยู่แล้วกลับต้องล้มไม่เป็นท่า  และสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็คงเป็นการเลิกล้มงานแต่งมันมาพร้อมกับการประกาศหมั้นหมายของคู่หมั้นเธอกับเพื่อนสนิท ( คิดไม่ซื่อ ) อีก   กลายเป็นว่าทุกอย่างเหมือนทำให้รุทศยาแทบล้มทั้งยืน   แต่ทั้งหมดนี้เธอกลับได้แรงใจและการช่วยเหลือจาก ทวิพัทธ์ แทบทั้งหมด  และเมื่อเหตุการณ์คับขันเข้าสิ่งต่างๆ เหมือนตีกรอบให้ทั้งคู่ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง   ความสัมพันธ์ที่เคยค้างคาว่าเป็นอริกลับต้องจางหายแต่กลับจะต้องมากลายเป็นการ “ต้องร่วมมือ” กันต่อสู้ กับ “ความลับ” ที่แม่ทิ้งเอาไว้ให้และทั้งสองคนก็ต้องฝ่าฝันอุปสรรคนี้ไปด้วยกัน


เรื่องนี้ต้องสารภาพเลยค่ะว่า  ไม่ได้อ่านรีวิวที่ไหนนอกจากในกลุ่มบิงโก ไม่ได้รับรู้กระแสว่าเรื่องนี้แรงประมาณไหน   แต่ด้วยเพราะว่าเห็นชื่อของ คีตภา เลยอยากลองอีกครั้งหลังจากเคยลองแล้วบางเรื่องมีทั้งติดบ้างและไม่ติดบ้างแต่เล่มนี้ขอบอกเลยว่าซื้อเพราะว่าอยากลอง และขอบอกว่า ชอบมว้ากกกกกกกก ค่ะ     เรื่องนี้มีความเป็นดราม่าคุกรุ่นมากเน้นเล่มแรกเลยเพราะถือว่าเป็นเรื่องของ “ความลับ” ของแม่รุทศยาและผลพวงของสิ่งนั้นที่มันทำให้รุทศยาต้องรับผิดชอบร่วมด้วย    อยากบอกว่าเรื่องนี้นางเอกเค้ารับไปเต็มๆ เลยล่ะค่ะดราม่าที่เราอ่านไปก็สะท้อนสะเทือนใจไปด้วย   หลายปัญหาขอบอกว่ามันไม่ได้ใหญ่จนหาทางแก้ไม่ได้เลยแต่ถ้าทุกปัญหามันโหมมาทีในระยะเวลาเดียวกันมันค่อนข้างหนักเหมือนกันนะคะ แต่ว่าสำคัญคือสิ่งที่สะเทือนใจสำหรับเธอมันคือสิ่งที่แม่ปิดบังซ่อนเร้นกับเธอและเมื่อมันเปิดเผยขึ้นมาแบบทันด่วนมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะช็อคเอาได้ทีเดียว   ความสับสนเกิด  ความมั่นใจหายไป ความระแวงสงสัยและความเจ็บปวดที่แต่ละคนมีและรับมือได้ไม่เหมือนกันนั่นคือเพราะมันเกิดกับรุทศยาเข้าแล้ว   สิ่งที่เธอคิดคือ เธอไม่มีใครแล้วที่จะไว้ใจได้แต่เมื่อเวลานั้นเกิด กลับมีมือหนึ่งยื่นมาให้เธอจับเพื่อประคองให้เธอยืนและเดินกลับเป็นน้ำใจจากคนที่เธอคิดว่าเขาคือคนที่ไม่น่าคบอย่างแรง นั่นคือ สอง หรือ ทวิพัทธ์   หนุ่มคนนี้สารภาพว่าอ่านไปแล้วจะนึกถึงใครไม่ได้เลยค่ะเพราะอิฉันนึกถึงแต่ ดีเจพุฒคนเดียวเท่านั้น   ด้วยเพราะว่าความหล่อล่ำกับซิกแพ็คงามๆ รอยยิ้มพิมพ์ใจและหน้าที่การงานของพ่อสองนั้นก็ถอดมาจากดีเจพุฒนั่นล่ะค่ะ  เรื่องนี้เลยฟินง่ายกระจายเฮเลยค่ะ  โอ้ย พูดแล้วป้าเขินมาก   เรื่องนี้ตาสองหรือว่าพี่สองของใครๆ  เค้าหลงรักนางเอกมานานมากแต่ก็ไม่ได้บอกได้กล่าวพอมาเจอกับความผิดเพราะปากพาจนครั้งนั้นเขาก็รวนเลยเพราะเธอจากที่เคยพูดคุยดีก็กลายเป็นไม่ชอบหน้า พาลไม่พูดคุย  แต่ว่าเมื่อวันหนึ่งเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันกับผู้หญิงที่เขารักเขาชอบเขากลับยื่นมือเข้าช่วยเหลือและมันไม่ใช่แค่การช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ  แต่มันเป็นการช่วยเหลือที่หยิบยื่นให้อย่างเปี่ยมด้วยน้ำใจและมากกว่าที่ใครจะให้เธอได้ในเวลานั้น   บุคลิกของสองพระนางต้องเรียกว่าเริ่มต้นอาจจะมองว่านางเอกนั้นค่อนข้างแข็งกระด้างเย็นชาเป็นคุณหนูไฮๆ  ส่วนนายสองนั้นเป็นดีเจก็ต้องคุยเก่งและสิ่งที่เค้าถนัดเลยก็คือ การกวนอารมณ์ของรุทศยาให้ขุ่นมัวได้  แต่ขอบอกว่าการยั่วยุทางอารม์ของพระเอกนั้นมันน่ารักค่ะ  แรกเริ่มสำหรับเล่ม 1 อาจจะมีเรื่องพาเครียดดราม่าน้ำตาไหลเบาๆ กับความสงสารในความรันทดของนางเอกเขา แต่พอเริ่มที่จะมีบทบาทของพระนางร่วมกันเพราะจะต้องร่วมมือแก้ไขสถานการณ์อันนี้ขอบอกว่า ฟินจิกหมอนขาด 3 โหลค่ะ ... คิดถึงแต่ละฉากแต่ละตอนขอบอกว่าพี่สองของเรานายแน่มาก นายรักก็บอกว่ารัก นายอยากก็บอกว่าอยาก  ฉากทุกตอนที่เข้าพระเข้านางมันเป็นอะไรที่อ่านแล้วขำและเขินแบบว่าอ่านไปอ่านมาอะไรอ่ะอิจฉานางเอกวุ้ย  เพราะว่าตอนอ่านนี่คิดถึงแต่หน้าพี่เสือหรือดีเจพุฒนี่ล่ะค่ะมันใช่อ่ะมันใช่ โอ้ย อะไรกันนี่   สรุปแล้วคือ ชอบค่ะเรื่องนี้ชอบแบบว่ายกนิ้วให้เลยว่าไม่ได้อ่านหนังสือแบบสองเล่มจบแบบรวดเดียวด้วยอารมณ์หลากหลายแบบนี้นานแล้วนะพอมาเจอเล่มนี้แล้วยอมเลยค่ะ  ซื้อมาแบบไม่ต้องถามไถ่ใครให้วุ่นวายอยู่ๆ ก็ซื้อมาเองเลยแบบนี้ขอบอกว่าคุ้มมากค่ะ