อัพเดทชีวิตบ้างอะไรบ้าง

แง... ตอนแรกอัพเอาไว้ยาวมากกก
แล้วเผลอไปกดอะไรไม่รู้ หายหมดสิ้น
หมดอารมณ์อัพเลยทันใด งอน :(

คำเตือน : รุปเยอะมากเจ้าค่า!




BALI TRIP 24-26 OCT 2010



Day 1 : 24 Oct

นั่งรอไฟล์ต้ั้งแต่ราวๆ ตีสี่ แต่กว่าเครื่องจะออกจริงๆ ก็ปาไปหกโมงเช้า
ใช้ระยะเวลาเดินทางราวเกือบห้าชั่วโมง เราก็มาถึงสนามบินกูรารัย


  


แดดร้อนมากกก อากาศไม่ต่างจากบ้านเรา ร้อนกว่าด้วยซ้ำ -_-;


จากนั้นก็ไปที่สวนวิษณุการูด้า
ด้านในจะมีลานกว้างๆ ล้อมด้วยเขาที่โดนตัด ให้ความรู้สึกเหมือนแหะเมืองผีผสมลานกอล์ฟ 55

 


พอหันหลังจากจุดนี้ก็จะเห็นเป็นรูปปั้นครุฑยักษ์นอนในท่าหนุมานอมเมืองอยู่ด้านบนบันได


 


แถวๆ นี้ไม่ค่อยมีอะไรประทับใจเท่าไหร่ เพราะเดินเลยไปจะเป็นรูปปั้นพระวิษณุครึ่งตัว
แต่ที่ชอบคือ สวนประดับในอณาเขต ถ่ายรูปได้เริ่ดมาก 55


 




จากนั้นก็ไปที่วัดอูลูวาตู

ที่นี่เป็นวัดริมผาที่ต้องเดินเลียบกำแพงขึ้นเป็นทางไกล มีของขึ้นชื่อสองอย่างคือ
- วิวหน้าผา ที่เหมือนวิวออสเตรเลีย

 


- และสอง ลิงเจ้าถิ่น -*-





ซึ่งมีเยอะราวกับปีเตอร์ แถมยังเกเรสุดๆ!
มันจะจ้องดึง แว่นตา หมวก สร้อยคอ กล้อง กระเป๋าใบเล็ก ต่างหูตุ้งติ้ง รองเท้าแตะ
หรืออะไรที่ดึงหลุดได้ออกจากนักท่องเที่ยว ทำทีเอาไปกัด
แล้วชาวบ้านที่มาร่วมหากินก็จะเอาผลไม้โยนไปแลก แล้วเก็บเงินค่าช่วยจากนักท่องเที่ยว
คือเหมือนทำจนลิงติดเป็นนิสัยน่ะ
จากวิวงามๆ กลายเป็นเดินไประแวงไป กลัวลิงฉก T^T






ถ่ายภาพชุดระบำบาหลีก่อนกลับ 55!




Day 2 : 25 Oct.


เริ่มที่ บาติกแฟคตอรี่ เป็นที่เพ้นท์ผ้าบาติก (แพงมากกก!)
ด้านหน้าจะมีเพ้นท์บาติกโชว์ แล้วก็จะมีบริการเพ้นท์ด้วยขี้ผึ้งบนเสื้อผ้าให้ (จ่ายตามต้องการ)
ตอนแรกใส่แมกซี่ไป เลยไม่มีที่ให้เพ้นท์ พี่สาวทักเรื่องกั๊กยีนส์เลยนึกได้เอาไปให้เพ้นท์ทันใด


 

เพ้นท์ไม่ถึงห้านาทีเท่านั้น
ไกด์บอกถ้าไม่ชอบก็ไปแช่น้ำร้อนขี้ผึ้งจะได้ละลายไป ถ้าชอบก็แช่น้ำเย็น :)



ไปกินข้าวต่อที่ร้าน... (จำชื่อไม่ได้ แง) ที่ข้างวิวภูเขาไฟบาร์ตู
ดูเหมือนเพิ่งระเบิดไปรึเปล่าไม่รู้ เพราะรอบๆ มันเป็นเขม่าดำเป็นแนวกว้างเลย


 



จากนั้นไปดูน้ำพุศักดิ์ทีร่าเอมพูล ที่วิหารเทมภัคสิริงค์





คนบาหลีเชื่อว่าเป็นนำพุใช้ขอพรพวกความรัก ลูก และความสำเร็จ
ก็จะพากันเอากระทงดอกไม้ (ใช้แทนมาลัยบ้านเรา) ไปไหว้ แล้วก็ลงไปแช่ อาบพร้อมขอพร




จริงๆ น้ำในนั้นใสเย็นนะ แต่ตะไคร่มันขึ้นหินขอบน้ำพุ สีเลยดำๆ ไปหน่อย
ถ้าไม่รีบ อยากเปลี่ยนชุดไปว่ายด้วย 55



ระหว่างทางกลับโรงแรม เจอชาวบ้านกำลังจะไปทำบุญที่วัดพอดี

 

ชอบที่เขาใส่ชุดเป็นเอกลักษณ์กันทุกคนแบบนี้จัง :)
แล้วดูตระกร้าที่เขาจัดไปไหว้พระด้วยนะ แถมยังเทินบนหัวไปอีกต่างหาก


บาหลีมีความเป้นเอกลักษณ์สูงจริงๆ นะ
แต่ละบ้านจะมี Family Temple 





ถ้าเทียบกับไทยอาจจะอาการศาลพระภูมิในบ้านทำนองนั้น
แต่ของเขาจะสร้างใหญ่มาก สร้างด้วยปูนกับหิน เหมือนศาลาเลย
แล้วมีแทบทุกบ้าน แบบ โอ้วว อเมซิ่ง ขนาดบนหลังคาตึกเตี้ยๆ ที่ขายบิลาบอง ยังมีแบบนี้น่ะ

 


Day 3 : 26 Oct.


วันนี้ตะลอนวัดมาก เริ่มจาก วัดเม็งวี
ที่ด้านในจะมียอดตั้งแต่สิบเอ็ดไล่ลงไปเป็นทาง









ชอบจัง :)
แต่บางคนที่ชอบถ่ายภาพสีสันอาจจะไม่ปลื้มนะ เพราะบาหลีมองไปไหนก็ขาวดำล้วนๆ
บ้านไม่ทาสีเลยสักหลัง แต่รู้สึกชอบนะ -_-)b



แวะกินข้าวที่ร้านอาหาร ริมนาขั้นบันได





ถ่ายรูปลงไปที่รีสอร์ทด้านล่าง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น บ้านจำลองเลย น่ารักๆ



จากนั้นไปที่ วัด อูลุนดานุ
ชอบที่นี่ที่สุดเลย เพราะมันเป็นวัดที่สร้างยื่นไปในทะเลาสาปน้ำใส ล้อมด้วยภูเขา แล้วเมฆลงต่ำมาก
เห็นครั้งแรกแล้วแบบ โอ้ววว อวตาร 55555555+






จากนั้นไปต่อที่ วัดทานาลอค




เป็นวัดที่สร้างบนโขดหิน เวลาน้ำขึ้นจะล้อมรอบเสมือนเป็นวัดบนเกาะกลางน้ำ
ที่นี่ไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้า เพราะสถานที่เล็ก
เป็นไคลแมกซ์ยามพระอาทิตย์ตก แต่คนเยอะมากกกกก!
ก็เลยรู้สึกวุ่นวายนัก ไม่ค่อยชอบเหมือนอูลุนดานุ :)


แต่ที่ชอบในเขตทานาลอทคือ... มาร์เก็ตตต >O<///




ของขายเยอะมากก และชอบปิ้งได้ของเยอะมาก !

คำเตือนถ้าใครคิดจะไปเดินซื้อของที่บาหลี
1. แม่ค้าตื้อมาก ลากข้อมือเข้าร้านประดุจจะฉุดไปปล้ำเลยทีเดียว (โดยเฉพาะตลาดปราบเซียน)
2. ราคาโก่งไว้แล้ว ต่อให้ได้ 50-70% ค่อยซื้อ!
3. แม่ค้าพูดภาษาไทยพอได้ โดยเฉพาะตัวเลข ถ้าไม่กระจ่าง แม่ค้าจะหยิบเครื่องคิดเลขออกมากดโชว์ทันที 55






 

ส่งท้ายวันกลับด้วยภาพชายหาดหน้าโรงแรม
...ด้วยเสื้อที่เพิ่งถอยเมื่อวานสดๆ ร้อนๆ และไม่ได้ซัก 55!





************************


งานมอบรางวัลนักเขียนหน้าใส 2010


ความจริงมิได้มีบทบาทอะไรในงานเลย
แต่แบบ อยากแก้ตัวที่หนีเที่ยววันมีทติ้ง เลยขอมาสักหน่อย 555


 

ลันลากับลูกชุปส์ :)






ชุบ  และโอ๋ (กรรมการ นข. หน้าใส ประจำปีนี้)





เมอลินที่ทำให้ฉันริษยาออร่าความขาวเสมอ และอาย ผู้เลอโฉม



หลังจากชักภาพหมด เราก็เข้าไปเดินเล่นในงาน
(ไม่เห็นมีภาพงานมอบรางวัลเลย เอาเป็นว่ายินดีกับน้องๆ นักเขียนหน้าใหม่ด้วยจ้ะ 555)





เดินเฉี่ยวบูทแจ่มใส อยากจะกรีดมาก
ฉากหลังเป็นลาย Prince's Darling ยักษ์ใหญ่ด้วย!
แค่แว่นตาโอนิกซ์ ก็ใหญ่กว่าหัวน้องแจ๋มแจ๋วด้านล่างแล้วอ่ะ 55!



หลังจากงานหนังสือ ก็ไปลันลาที่ CDC ต่อกะชุบและวาว
คือ... จริงๆ เราไปหาพลอตกัน เสวนาแนวทางเลิฟซีรีย์สมัยใหม่ทำนองนั้น (กล้า 55)

เพียงแต่ว่า... ดูเหมือนร้านแหวนจะโดนใจกว่าพลอต 555!









...จะซื้อแหวนมาใส่อะไรกันมากมายค่าาา!! (กล้าพูด เพราะตัวเองได้แหวนตู้ทองมาแค่สอง 55)


สุดท้ายก็ไปหาอะไรกินใน CDC
ร้าน BAR ITALIA กับ Coffee Gallery
...บรรยากาศดีนัก ชอบ >O<//




(ดูเหมือนทุกคนจะสนใจแต่มือถือ แม้กระทั่งตัวเองยังเอาแต่มือถือมาถ่ายรูป
ไหนว่าหาพลอต -_-;)






 





********************

รีวิวหนังสือ

Knight Errant อัศวินพิทักษ์ใจ 1


  

หลังจากมีในครอบครองอยู่นาน ก็เพิ่งจะได้อ่านกะเขา (เชยนัก U_U)

จริงๆ ชอบเล่มนี้ตั้งแต่ปกเรื่องแล้วอ่ะ เห็นแล้วกริ๊บกริ้วมาก 55
เนื้อเรื่องของเรื่องคือนางเอก (ยาโยย) ถูกพี่สาวสามคน (ไม่ใช่พี่แท้)
บังคับให้พยายามเข้าโรงเรียน อะคิริว ให้ได้ ซึ่งโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนพิเศษที่เข้าได้ยากสุดๆ

อ่านตอนแรกก็เดาว่าโรงเรียนนี้ต้องมีอะไรไม่ธรรมดา เดาจากที่พี่สาวคุณเธอบรรยายว่ากินพื้นที่เขาไปเป็นลูก
(แต่รู้สึกเอเธเนี่ยนอลังการกว่า เพราะกินที่ทั้งเกาะ 555 ...ไม่เกี่ยวล่ะ ผ่าง U_U)
กว่าจะเข้าที่นี่ได้ก็จะต้องผ่านการทดสอบที่ไม่ใช่สอบเข้า แต่เป็นเหมือนด่านทดสอบ
ระหว่างทดสอบยาโยยเจอปีศาจจะทำร้าย แต่ได้รับการช่วยไว้จากชายหนุ่มเสียก่อน (ฮะฮิ้วว)
แถมยังได้เข้าเป็นนักเรียนทุนพิเศษของโรงเรียนได้อย่างงงๆ

เรื่องนี้มีฉากต่อสู้กันบ้างเพราะดูเหมือนนางเอกจะเป็นพวกดึงดูดปิศาจให้เข้าหา
พระเอก (เคียระ) เลยต้องคอยปกป้องนางเอกตลอด น่าอิจฉานนัก :(
แต่อ่านจบไปก็ยังมีปริศนาที่ทิ้งไว้ให้อยากรู้อีกหลายเรื่อง เช่นเรื่องสำคัญที่ว่า
ความสัมพันธ์ของเคียระกับยาโยย และยาโยยคือไผ?
(ก็สี่เล่มจบนี่นะ 555)

...เนื้อเรื่องอ่านเข้าใจง่าย ใช้ภาษาไม่ยาก
คล้ายๆ อ่านพวกการ์ตุนญี่ปุ่นผสมโรงเรียนต่อสู้ทำนองนั้น
แต่มันกริ๊บกริ้วตอนฉากพระนางอยู่ด้วยกัน -.,-//

...เอาไว้มีเวลาต่อเมื่อไหร่จะเริ่มอ่านเล่มสองล่ะนะ ฮี่ๆ :)


สุดท้าย... ใครยังไม่เคยอ่านลองไปหาอ่านดูเน้อ สนุกดี ^^)b