คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : หลานสะใภ้ของตระกูลอิม (100%)
CHAPTER 8
หลานสะใภ้ของตระกูลอิม
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ปาร์คจินยองกำลังจะกลับมายังประเทศเกาหลีซึ่งอิมแจบอมรอจะเจอใจจะขาดตั้งแต่เมื่อคืนทั้งพ่อและลูกสาวต่างคิดถึงคุณหม่าม้าไม่ต่างกันนัก
เช้านี้อิมแจบอมตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าพร้อมจัดกระเป๋าทริปพาคนรักไปพักผ่อนที่ไร่ตระกูลอิมโดยทริปนี้ไม่ได้มีแค่เขาและจินยองอิมเฮนาก็ไปด้วยเด็กหญิงตื่นเต้นที่จะไปหาคุณปู่ทวด
คุณย่าทวดเป็นที่สุด
“เก็บเสื้อผ้าเสร็จหรือยังคะ คนเก่ง”
“เสร็จแล้วค่า น้องพร้อมแล้ว”
เด็กหญิงแบกเป้สีชมพูลายเจ้าหญิงออโรล่าและกระเป๋าลากลายคิตตี้พร้อมวิ่งอยู่กับที่ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เจอคุณทวดทั้งสองท่าน
เมื่ออิมแจบอมแบกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเองขึ้นรถเมอคาร์เดซ
เบนซ์ อีคลาส ซาลูน และนำกระเป๋าของลูกสาวขึ้นไปเก็บโดยไม่ลืมถามย้ำว่าลูกสาวเพื่อความมั่นใจว่าคนตัวเล็กจะไม่ลืมอะไร
“เช็กของทุกอย่างแล้วใช่ไหมคะ
เราจะได้ไปรอหม่าม้าที่สนามบิน”
“ครบหมดแล้วค่ะ ไปเลย เลทโก”
เด็กหญิงวิ่งอ้อมไปที่เบาะหลังประจำสักพักรถก็ขับมุ่งตรงไปยังท่าอากาศยานอินชอน
ปาร์คจินยองเดินออกมาจากเครื่องหลังจากที่ลูกเรือโดยสารลงไปจากตัวเครื่องทั้งหมดทั้งจินยอง
แบมแบมและยองแจเดินลงจากเครื่องโดยนั่งรถบัสสำหรับรับส่งระหว่างรันเวย์เข้าตัวอาคารของสนามบินเมื่อไปถึงก็มายืนรอกระเป๋าสัมภาระไม่นานนักกระเป๋าทั้งหมดสามใบก็เลื่อนมาอยู่ตรงหน้า
ทั้งสามคนเดินไปเอากระเป๋าจินยองโทรหาแจบอมว่าตอนนี้ตนเองถึงสนามบินอินชอนเรียบร้อยจากนั้นก็เดินออกมาจากเกสมุ่งไปยังสถานที่จอดรถที่แจบอมและอิมเฮนารออยู่พอมาถึงตัวรถเสียงดังของลูกสาวตะโกนเรียกตัวเองเดินมาที่รถ
“คุณม้าขา” เด็กน้อยโบกมือเรียกคุณหม่าม้า
รอยยิ้มบนใบหน้าหวานยกขึ้นเมื่อเห็นอิมเฮนามารับเขาด้วย
อิมแจบอมเปิดประตูเดินลงมาจากรถแบกกระเป๋าเดินทางของน้องใส่ไว้ตรงข้างหลังจากนั้นจินยองก็เตรียมไปยังเมืองโกยางไกลจากโซลประมาณ
17
กิโลเมตร
รถยนต์ขับไปตามถนนเรื่อยๆจนเริ่มเข้าสู่ชนบทสองข้างทางเต็มไปด้วยสวนของชาวบ้านมากมายตลอดเส้นทาง
จนในที่สุดก็เจอป้ายที่เขียนว่า 토마토
정원 อ่านว่า โทมาโท
จองวอน รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าไปเรื่อยๆตลอดทางเต็มไปด้วยไร่มะเขือเทศ
เมื่อขับเข้าไปก็เจอบ้านขนาดกลางตั้งตระหง่านอยู่โดยมีคนงานและชายหญิงที่มีอายุไม่น้อยแล้วยืนรออยู่ใบหน้านั้นคล้ายกับอิมแจบอมสุดๆ
เมื่อลงมาจากรถเด็กหญิงวิ่งมาอ้อนคนเป็นทวดพร้อมหอมแก้มแสดงความรักยกใหญ่เพราะนานๆทีเธอจะมาครั้งหนึ่งเท่านั้น
อิมแจบอมเดินจูงมือร่างเล็กของคนรักมาทำความรู้จักกับคุณปู่
คุณย่าของตนจินยองโค้งทักทายทั้งสองคนด้วยความเคารพแต่ทว่าสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองดูทีว่าจะไม่ชอบเขาแน่ๆ
“นี่ ปาร์คจินยอง แฟนของผม”
แจบอมแนะนำคนข้างๆให้รู้จัก
“สวัสดี ฉันอิม แทฮวัง
ปู่ของอิมแจบอมส่วนนี่ เมียฉัน”
คุณปู่เหมือนจะไม่อะไรกับเขานักยกเว้นคุณย่าที่แทบไม่มองเขาเลยด้วยซ้ำ
อิมแจบอมบีบมือเล็กให้กำลังใจก่อนจะช่วยกันถือกระเป๋าสัมภาระเข้าไปเก็บไว้ในบ้านไม่ทันได้เหยียบเข้าไปในบ้านเสียงของคุณย่าก็ดังเข้ามากระทบหู
“เนี่ยนะเรอะ หลานสะใภ้ เชอะ
จะได้เรื่องเรอะดูท่าจะทำอะไรไม่เป็น” คำพูดของอิม คยองริ
เพื่อสบประมาทว่าที่หลานสะใภ้ไม่วายโดนสามีแก่ส่งสัญญาณเตือนให้ระวังคำพูดสักนิดเพราะหลานก็ยืนอยู่ตรงนั้น
“แม่มึง เพลาๆหน่อยโว้ย”
ตอนนี้คนงานที่ยืนต้อนรับถึงกับเลิ่กลักมองหน้ากันเมื่อนายหญิงของไร่พูดขึ้นมา
แจบอมพาจินยองเข้าไปในบ้านพร้อมลูกสาวเขารู้สึกไม่น่าพาน้องมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ
ร่างหนาบีบมือส่งกำลังใจว่ามีเขาคอยอยู่ข้างๆเสมอ ร่างเล็กเงยหน้ามองคนตรงหน้ายิ้มบางๆส่งไปให้คลายกังวล
จินยองลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าบางส่วนเก็บใส่ในตู้ก่อนจะขอนอนพักผ่อนเพราะตั้งแต่ลงจากเครื่องมาเขายังไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำแจบอมจึงให้น้องนอนส่วนเขากับลูกสาวลงไปข้างล่างเพื่อลงไปหาอะไรทาน
เมื่อลงไปถึงเจอคยองริอยู่ในครัวกำลังเตรียมอาหารกลางวันให้หลานชายและเหลนสุดน่ารักของเธอ
“คุณย่าทวดทำอะไรอยู่คะ ห๊อมหอม” คยองริยิ้มให้หลานมือเหี่ยวย่นคนต็อกในหม้อใหญ่จากนั้นก็ตักใส่ชามให้หลานชายและเหลนถ้วยใหญ่
“ต็อกบกกีไก่
มากินสิลูกไม่อิ่มก็ตักได้เต็มที่” หญิงชราปราดตาหาตัวหลานสะใภ้ก็ไม่เห็น
ริมฝีปากเหยียดว่าแล้วมาถึงก็นอนแล้ว ไม่มีมารยาทเอาซะเลย
“แล้วเมียเอ็งไปไหน แจบอม”
คำว่าเมียทำเอาแจบอมเกือบสำลักกับคำที่คุณย่าเรียกจินยอง “ชิชะ
มาถึงก็เอาแต่นอนแบบนี้ไม่ไหวนะ” คนแก่ก็พูดต่อไปจนอิมแจบอมรีบแก้ต่างให้น้อง
“เขาเพิ่งลงจากเครื่องมาเหนื่อยๆผมก็พามาหาย่าเลยไม่ได้นอนนะครับ”
“ช่างเถอะไม่ได้อยากรู้
ทานให้อร่อยนะลูก”
คุณย่าลูบหัวเหลนสาวก่อนจะเดินออกจากครัวไปช่วยสามีคุมคนงานข้างนอก
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจินยองก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเองตั้งไว้ร่างเล็กจัดเก็บที่นอนให้เรียบร้อยเหมือนเดิมพร้อมเดินลงไปข้างล่างก็ไม่พบใครอยู่ข้างล่างสักคนอิมแจบอมคงพาเฮนาออกไปเที่ยวชมสวนมะเขือเทศจินยองเลยเดินไปที่ครัวเพื่อหาอะไรทานเพราะนอนเป็นเวลานานทำให้ตัวเองนั้นเริ่มหิวเมื่อเดินไปถึงครัวก็เห็นหม้อต็อกบกกีตั้งอยู่บนเตา
ร่างเล็กจึงทำการเปิดเตาเพื่ออุ่นอาหารในหม้อโดยไม่ทันสังเกตว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลัง
“อ้าวคุณย่ามาทำอะไรตรงนี้ครับผมคิดว่าไปข้างนอกกันหมด”
จินยองยิ้มให้
“นี่บ้านข้า จะอยู่ตรงไหนก็ได้
เพิ่งตื่นหรือไง”
“ครับ”
“ข้าวมีในหม้อ ถ้าจะทานก็ไปตักเอา
พรุ่งนี้ก็เตรียมไปไร่แต่เช้าที่นี่ไม่มีคุณนายตื่นสายทั้งนั้นนะ”
หญิงแก่ว่าแล้วปรายตามองที่หลานสะใภ้ที่หางตาจากนั้นเชิดตาเดินจากไปพอคุณย่าเดินไปจินยองถึงกับพ่นลมหายใจทันทีดูท่าทางจะยากแล้วแฮะ
คุณย่าไม่ชอบเขาเลยด้วยซ้ำ
ตอนเย็นมีปาร์ตี้เล็กๆในไร่ตระกูลอิมโดยนายใหญ่ของที่นี่เลี้ยงต้อนรับหลานและเหลนมาพร้อมกับหลานสะใภ้เป็นการกินเลี้ยงโดยเชิญคนงานมาร่วมทานด้วยเมื่อเวลาผ่านไปก็มีการตั้งวงดื่มโซจูกันแต่แจบอมปฏิเสธเพราะเขาไม่ดื่มคุณปู่จึงชวนหลานสะใภ้ดื่มแทน
“หนูจินยองดื่มสิ ดื่มสิ
โซจูนี้ชาวบ้านเป็นคนหมักเองนะขอบอก”
คุณปู่ชวนจินยองจึงตอบรับคำชวนด้วยการดื่มโซจูสูตรพิเศษเพียงดื่มแก้วเดียวทำเอาร่างเล็กถึงกับเป๋ทันทีจนแจบอมต้องปรามคุณปู่ทันที
“พอเลยนะปู่
เลิกดื่มกลับบ้านใครบ้านมันดีกว่าครับพรุ่งนี้เราต้องไปฉีดยาฆ่าแมลงกันนะครับ”
“อย่าเพิ่งซี่
กำลังสนุกเลยใช่ไหมแม่มึง”
“แยกย้ายๆตามที่หลานมันบอกเดี๋ยวไม่เป็นการเป็นงาน
เอ็งก็พาเมียเอ็งเข้าบ้านซะพรุ่งนี้มีงานให้ทำอีกเยอะ”
ซึ่งคยองริได้ลิสต์รายการไว้ให้เสร็จสรรพหมดทุกอย่างแล้ว
ที่เหลือคนทำก็คือหลานสะใภ้ของเธอยังไงหล่ะ
คยองริพาเหลนมานอนด้วยส่วนสามีตัวเองนั้นนอนโซฟาด้านนอกเพราะเมา
อิมแจบอมพาร่างมึนๆของน้องพาเข้ามาพักในห้อง
จินยองเชื่อแล้วว่าแรงจริงแก้วเดียวก็แทบยืนไม่อยู่ถ้าไม่ได้แจบอมประคองไว้ตอนนี้เขาหมอบอยู่ที่พื้นแล้ว
อิมแจบอมประคองน้องมาที่เตียงพร้อมถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวไหมคะ ตาปรือเชียว
ปู่ก็เล่นแรงเกินไป”
“งานยากของผมแล้วมั้งครับ
คุณปู่กับคุณย่าดูไม่ชอบผมเลยด้วยซ้ำ” จินยองทำหน้าหงึ
“อีกไม่กี่วันพี่เชื่อว่าปู่กับย่าจะยอมรับเชื่อสิ
อาบน้ำไหมครับเดี๋ยวพี่พาไป” ร่างหนายิ้มกรุ้มกริ่มฝ่ามือเล็กตีเข้าที่แขน
“รู้นะครับว่าคิดอะไร
หยุดเลยนะผมไปอาบเองดีกว่า” อิมแจบอมหัวเราะในลำคอเมื่อน้องรู้ทันเขา
“ก็ได้ครับ
งั้นพี่รอหน้าห้องน้ำนะไม่ต้องล็อกเพื่อเราเมาไม่ได้สติ เข้าใจไหม”
“งั้นพี่ก็ห้ามเข้ามานะครับ”
จินยองเดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเดินเข้าไปเสร็จจินยองถอดเสื้อผ้าใส่ในตะกร้าหวายในห้องน้ำจากนั้นก็เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นรินรดตัวเพื่อไล่พิษความเมาแต่ไม่ช่วยเท่าไหร่นัก
ไม่นานนักเสียงเคาะประตูห้องน้ำจากคนข้างนอกเพื่อเช็กว่าตอนนี้คนในห้องน้ำนั้นอาบน้ำนานเกินไปจินยองจึงปิดเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมแต่งตัวในชุดนอนเดินออกมาตอนนี้เขาง่วงเกินจะทนที่จะรอคุณอิมออกมาจากห้องน้ำจึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วทันทีที่หัวถึงหมอน
ร่างหนาใช้เวลาอาบน้ำไม่กี่นาทีเปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นคนตัวเล็กนอนอยู่บนเตียงเขาเดินขึ้นไปบนเตียงก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดหลายวันมานี้เพื่อทดแทนความคิดถึงที่ห่างกันไป
เช้าตรู่ของไร่มะเขือเทศบ้านปูนสองชั้นบานหน้าต่างเปิดรับลมเย็นในตอนเช้าร่างของคนสองคนนอนกอดก่ายใต้ผืนผ้านวมอากาศเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศก็อากาศดีเพราะอยู่บนภูเขาทำให้ลมโกรกเย็นสบายเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพทืมือถือปลุกเรียกคนที่นอนหลับฝันดีอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้นมา
มือหนาของคนใส่ชุดนอนอดิดาสปัดป่ายหาโทรศัพท์ตัวปัญหาที่แผดเสียงดังจนน่ารำคาญร่างหนาคว้าโทรศัพท์กดปิดเสียงแล้วคว้าร่างของคนตัวเล็กมานอนกอดอีกครั้ง...
ติ๊ดดดด...ดดดด
เสียงนาฬิกาปลุกเครื่องใหญ่บนหัวนอนทำการปลุกครั้งที่
2
ต่อจากการปลุกครั้งแรกในมือถือปาร์คจินยองจึงตัดสินใจตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียเล็กน้อยมือเล็กขยี้เปลือกตาสีไข่เพื่อให้ตาสว่างได้เต็มตาเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแสงตะวันกำลังสาดแสงเข้ามาทางบานหน้าต่างและได้ยินเสียงเหล่าคนงานแว่วมาเจ้าตัวจึงจัดการปลุกคนตัวโตที่นอนไม่ยอมตื่นสักที
“พี่แจบอมครับตื่นได้แล้ว”
“อือ...”
มีเพียงเสียงฮึมฮัมในลำคอแล้วร่างหนาก็นอนต่อ
จินยองจึงตัดสินใจตื่นไปช่วยงานแทนร่างเล็กลุกออกจากที่นอนหยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่จะใส่เดินนำเข้าไปในห้องน้ำด้วยเมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จจินยองเดินออกมาจากห้องน้ำอิมแจบอมกำลังนั่งรออยู่บนเตียงเพื่อรอต่อเข้าห้องน้ำจากน้อง
“ตื่นแล้วก็ลงมาข้างล่างนะครับผมไปช่วยทุกคนข้างล่างก่อน”
“โอเคครับ เดี๋ยวพี่ตามลงไปนะ”
จินยองพยักหน้าตอบรับก่อนจะลงไปช่วยแม่บ้านที่เป็นคนดูแลเรื่องอาหารของคนในไร่ทั้งหมดเมื่อเดินลงไปถึงคุณปู่
คุณย่า นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารเขาเริ่มเกร็งโดยอัตโนมัติเจ้าตัวค่อยๆเดินเข้าไปในท่าทีสงบเสงี่ยมลากเก้าอี้ไม้สักอย่างแผ่วเบาและบรรจงนั่ง
“ตาแจบอมยังไม่ตื่นอีกหรือไง
เธอชื่ออะไรนะ ฉันจำไม่ได้” เธอถามชื่อของแฟนหลานชายอีกครั้ง
ซึ่งดูเป็นการไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่นัก
“ชื่อจินยองครับคุณย่า”
“คยองกยูตักข้าวสิ”
นายหญิงแห่งไร่มะเขือเทศสั่งแม่บ้านให้เริ่มตักข้าวใส่จานระหว่างนั้นอิมแจบอมก็อยู่ในชุดที่พร้อมในการทำงานในไร่ร่างหนาของอิมแจบอมเดินมานั่งข้างแฟนหนุ่มเพื่อร่วมทานอาหารกันพร้อมหน้า
ส่วนมากก็พูดโดยรวมของไร่มะเขือเทศเมื่อทานข้าวเสร็จร่างหนาก็ออกไปไร่กับคุณปู่ส่วนเขานั้นรออยู่บ้านแทน
เสียงจานกระทบกันเนื่องจากการล้างจานบนซิงค์เขาเป็นคนอาสาเองแม้ว่าแม่บ้านที่นี่จะรู้สึกเกรงใจก็ตาม
นายหญิงของไร่แอบมองว่าที่หลานสะใภ้ของตัวเองก็เห็นทำทุกอย่างคล่องไปหมดแต่ก็ยังหาเหตุผลต่างๆมาแย้งเพราะอาการคำว่าหวงหลานชายสุดที่รัก
อีกทางด้านหนึ่งของห้องนอนใหญ่ร่างเล็กของเด็กหญิงลืมตาตื่นขึ้นมามองไปที่นาฬิกาเป็นเวลาของช่วงสายเธอค่อยๆทิ้งขาลงจากเตียงเดินไปจัดการตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยที่ว่าจะได้เดินไปหาคุณย่าทวดและคุณหม่าม้าระหว่างที่กำลังเดินลงมาก็เห็นคุณย่าทวดนั้นด้อมๆ
มองๆ
อยู่ตรงหน้าประตูห้องครัวเด็กหญิงเลิ่กคิ้วด้วยความสงสัยจึงเดินไปอยู่ข้างหลังคนแก่
“คุณย่าทวดมาแอบอยู่ทำไมตรงนี้ละคะ?”
คนแก่สะดุ้งโหยงเมื่อพบว่าเหลนคนสวยยืนอยู่ด้านหลังตน
“อ๋อเปล่าค่ะ
ทวดเดินเล่นแล้วยืนพักตรงนั้นต่างหาก” เธอเฉไฉ
คยองริจูงมือหลานเข้ามาในห้องครัวเมื่อเฮนาเห็นจินยองยืนล้างจานอยู่ก็ร้องเรียกเสียงดังทันทีทำเอาคนแก่ตกอกตกใจมากโข
“คุณม้าขา
ล้างจานทำไมละคะทำไมไม่ให้คุณแม่บ้านทำละคะ”
“ม้าอยากช่วยน่ะค่ะ
หิวหรือเปล่าคะจะได้ไปหาอะไรให้ทาน”
“หิวมากเลยค่ะ หนูไปรอที่โต๊ะกับคุณย่าทวดนะคะ”
จินยองพยักหน้าจากนั้นก็สั่งแม่บ้านให้มาล้างจานแทนตัวเอง
เขานำอาหารออกมาอุ่นให้กับเฮนาพร้อมขอให้แม่บ้านอีกคนช่วยยกไปไว้ที่โต๊ะทานข้าวเมื่อจินยองเดินไปหาลูกสาวที่นั่งทานข้าวอยู่
หารู้ไม่ว่ามีสายตาของใครบางคนแอบจำผิดว่ารักเหลนเขาจริงหรือเปล่าแต่ดูแล้วเหลนของเธอจะติดเมียเด็กของหลานเขามากๆ
“คุณย่าทวดขา คุณพ่ออยู่ที่ไร่เหรอคะ”
“ใช่จ๊ะ
จะไปหาเหรอลูกเดี๋ยวทวดให้ยูริไปส่งนะ”
“งั้นก็ได้ค่ะ คุณม้าไปด้วยกันไหมคะไปหาป๊ะป๋ากัน”
จินยองกำลังจะตอบแต่ถูกคยองริชิงตอบแทนตัวเอง
“วันนี้ท่าจะไม่ได้นะ ทวดมีอะไรจะให้จินยองเขาทำน่ะ”
เธอยิ้มให้เหลนสาวท่าทางใจดีแต่ความจริงนั้นงานกำลังจะเข้าว่าที่หลานสะใภ้อย่างเขาเองต่างหาก
จินยองจึงเงียบและยอมทำตามใจคนแก่ไม่อยากมีปัญหาให้แจบอมไม่สบายใจจึงทำตาม
“ว้าแย่จังค่ะ
งั้นไว้วันอื่นก็ได้เดี๋ยวน้องไปหาป๊าเอง”
“โอเคครับ” เฮนาทานข้าวเสร็จก็เดินไปที่โรงรถที่อยู่ข้างบ้านเพื่อให้ยูริขับรถกระบะเข้าไปที่ไร่เพื่อไปส่งเจ้านายตัวน้อย
ตอนนี้ทุกคนในบ้านต่างไปที่ไร่มะเขือเทศกันหมดแล้วเหลือเพียงแต่เขาและคุณย่าของอิมแจบอมที่ยืนกอดอกวางมาดเหมือนกับไม่ชอบเขาเสียเต็มประดาเธอเรียกให้เขาเดินตามมาที่หลังบ้านหญิงชราหยุดอยู่ตรงหน้าเครื่องซักผ้าถังเดี่ยวขนาดใหญ่ซึ่งมีตะกร้าผ้าวางอยู่ตรงนั้น
“ผ้าในตะกร้าเต็มแล้วน่ะ
เธอช่วยซักให้ฉันหน่อยได้ไหมจินยอง”
จินยองถึงกับอึ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าการมาเที่ยวไร่ครั้งนี้จะมาในฐานะหลานสะใภ้เลยสักนิดคนรับใช้ยังจะเรียกถูกกว่าอีก
“แล้วแม่บ้านละครับ? เขาไปไหนกัน”
“อยู่ที่ไร่น่ะสิ
ไม่เป็นไรเธอคงไม่อยากทำเดี๋ยวฉันทำเองก็ได้”
หญิงชราเดินไปที่ตะกร้าโดยท่าทีแสนงอนที่หลานสะใภ้ไม่ยอมว่าตามแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้
“โอ๊ะ...โอ๊ย ปวดหลังจังเลย”
คุณทวดก้มลงจะนำเสื้อผ้าใส่ในถังซักกระดูกกระเดี้ยวก็ใช่ว่าจะดีเด่อะไรเพียงแค่ก้มนิดเดียวปวดไปหมด
จินยองจึงรีบประคองหญิงชรามานั่งพิงที่เก้าอี้หลังบ้าน
“คุณย่าครับโอเคไหมครับ
เดี๋ยวผมซักให้เองครับ”
จินยองนำผ้าลงซักในถังก่อนกดปุ่มเพื่อให้เครื่องมันซักปั่นเองโดยอัตโนมัติ
เมื่อเห็นว่าที่หลานสะใภ้นั้นซักผ้าแทนตนก็แอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ
วันทั้งวันในวันนี้
“โอ๊ย กวาดตรงนั้นให้ฉันหน่อย”
“จินยองจ๊ะ ช่วยฉันนั้นนี่ บลาๆๆๆๆๆ”
ปาร์คจินยองนั่งทรุดอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านเมื่อทั้งวันเขาแทบไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ
ร่างบางถอนหายใจรัวๆนี่คุณย่าคิดจะทดสอบอะไรเขากันแน่
ไม่นานนักเสียงรถกระบะก็ขับเข้ามายังโรงจอดรถพร้อมกับเสียงเฮฮาของเหล่าคนงานที่หัวเราะชอบใจในเรื่องอะไรที่เขาก็ไม่ทราบ
อิมแจบอมกระโดดลงมาจากหลังกระบะเดินมาหาจินยองที่นั่งอมทุกข์อยู่หน้าบ้านสงสัยจะเจอฤทธิ์ย่าของเขาแน่ๆเพราะไม่ใช่แค่จินยองเท่านั้นที่เจอแม่ของเขาก็เคยเจอเช่นกัน
“ขอโทษแทนคุณย่าด้วยนะเหนื่อยมากเลยใช่ไหม”
มือหนาลูบผมแฟนหนุ่มจินยองจึงคว้าตัวของร่างหนามากอดได้กลิ่นเหงื่อผสมกับน้ำหอมราคาแพง
“นิดหน่อยครับ
แต่ผมว่าผมไม่เป็นไรนิดเดียวเอง”
น้ำเสียงอู้อี้ของเขาตอบอิมแจบอมไปเพราะตอนนี้ใบหน้าเขาอยู่ที่หน้าท้องของคนตัวโตมือหนาลูบผมแฟนด้วยความเอ็นดู
“เข้าไปข้างในกันเถอะ
เห็นคุณย่าโทรมาบอกกับปู่ว่าคุณจะทำอาหารให้ทานนี่ ผมจะบอกให้ว่าพวกเขาชอบทานอะไร”
จินยองถูกแจบอมพาเข้าไปในบ้านไม่นานนักเสียงรถกระบะอีกคันก็ขับเข้ามาพร้อมเสียงเจื้อยแจ้วของอิมเฮนาที่วันนี้ไปเที่ยวทั้งไร่และฟาร์มข้างๆมาก็รีบไปหาคุณป๊าและคุณม้าของเธอทันที
อีกทางด้านหนึ่งของหลังบ้านคยองริกำลังสั่งให้แม่บ้านเก็บเสื้อผ้าที่เมื่อเช้าจินยองเป้นคนซักและตากแม่บ้านเห็นก็อดเอ่ยชมว่าที่นายน้อยของไร่ตระกูลอิมไม่ได้เพราะผ้าที่ซักล้วนกลิ่นหอมสะอาดกว่าที่พวกเธอซักเป็นไหนๆ
ซึ่งคยองริก็เห็นด้วยกับเหล่าแม่บ้านในใจแม้ภายนอกจะฟอร์มจัดก็ตามที
เมื่อเดินเข้ามาในบ้านนายหญิงของไร่สั่งให้แม่บ้านนำผ้าไปเก็บไว้เพื่อรีดในวันพรุ่งนี้หลังจากที่สั่งงานเสร็จเธอก็เดินผ่านยังห้องครัวเห็นว่าที่หลานสะใภ้กำลังเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารอย่างคล่องมือโดยมีลูกมือเพียงแค่หั่นซอยตามที่ร่างบางนั้นเป็นคนสั่ง
ก็ดูคล่องอยู่แต่รสชาติอาหารจะได้เรื่องหรือเปล่า
ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ห้องรับแขกดูละครตอนค่ำเพื่อรออาหารเย็นจากพ่อครัวจำเป็นจินยองกำลังทำอาหารอยู่ในครัวเหลือเพียงเมนูสุดท้ายซึ่งเป็นเมนูสุดโปรดของคุณย่าที่แจบอมกระซิบบอกเมนูต่างๆถูกยกเสิร์ฟนำมาวางไว้ที่โต๊ะอาหารจินยองให้แม่บ้านไปเรียกทุกคนมาทานข้าว
คุณปู่คุณย่าและพ่อลูกทั้งสี่คนเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารต่างหยุดมองที่โต๊ะอาหารที่มีอาหารมากมายเรียงรายอยู่ข้างหน้าโดยเฉพาะคุณย่าที่มองไปที่จานเมนูโปรดก็แอบยิ้มและให้คะแนนอยู่ในใจ
“คุณปู่กับคุณย่าลองทานดูนะครับพี่แจบอมบอกว่าเป็นเมนูโปรดของปู่กับย่า”
จินยองนำเสนออาหารให้คู่ชายหญิงชราที่นั่งมองพินิจกับอาหาร
“อย่างนั้นเหรอ...”
คุณย่าหยิบช้อนกลางตักอาหารมาใส่ไว้ในจานของตัวเองจากนั้นก็ลองชิมตักเข้าไปในปาก
ทันทีที่ลิ้นลิ้มรสชาติก็ถึงกับตาโตเพราะอร่อยมาก
“เป็นไงบ้างครับ”
จินยองเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น
“งั้นๆน่ะแหละ”
คุณย่ายังคงวางฟอร์มแต่ช้อนกลางนั้นตักเมนูนั้นไม่ยอมหยุดทำเอาอิมแจบอมกับจินยองแอบยิ้มขำกับท่าทางฟอร์มจัดนั้น
คุณปู่จึงลองตักชิมบ้างเมื่อคำแรกเข้าไปในปากก็เอ่ยชมไม่หยุดร่างเล็กยิ้มดีใจที่คุณปู่ชื่นชอบอาหารและตักทานอยู่หลายคำ
“ไหนคุณบอกว่าไม่อร่อยไงรสชาติแบบนี้เปิดร้านอาหารได้เลยด้วยซ้ำ”
“ขอบคุณครับคุณปู่”
จินยองยิ้มดีใจที่คุณปู่ชอบ
“สำหรับฉันก็เฉยๆนั้นแหละ”
“เฮ้ออ วางฟอร์มเก่งนัก”
“นี่ ฉันเปล่าสักหน่อยนะคุณ”
คุณย่าขัดใจที่โดนสามีแซะ ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะอาหารเฮนาที่ทานอิ่มจึงวิ่งตามไปหาคุณย่าทวดส่วนจินยองก็รู้สึกว่าไม่มีทางที่ว่าคุณย่าจะชอบเขาเลยด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องห่วงหรอกจินยอง
ย่าก็เป็นซะแบบนี้แหละลูก”
“ครับ”
คุณหญิงก็อดหงุดหงิดกับสามีของตัวเองไม่ได้ที่เข้าข้างเธอเดินออกมานั่งที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านเพื่อจัดการอารมณ์หงุดหงิดอิมเฮนาจึงเดินมานั่งข้างๆคุณย่าทวดของเธอ
“คุณย่าทวดค่ะ โกรธคุณม้ากับคุณปู่เหรอคะ”
“อ้าวออกมาทำไมละลูก...ทานข้าวเสร็จแล้วหรือ”
คุณย่าทวดถามเหลน
“คุณย่าทวดอย่าโกรธหม่าม้าเลยนะคะ
หนูอยากให้คุณย่าทวดกับหม่าม้าดีกัน” เด็กหญิงตัวน้อยพูดน้ำเสียงสั่นคลอ
“ไม่ได้โกรธค่ะ
ไม่ร้องสิลูกคุณย่าทวดไม่ได้โกรธหม่าม้าจินยองของหนูนะลูก”
“จริงเหรอคะ”
“จ๊ะ
กลับเข้าไปในบ้านกับคุณย่าทวดดีกว่านะคะ”
เด็กหญิงพยักหน้าก่อนจะถูกคุณย่าจูงมือเดินเข้าไปในบ้าน
ปาร์คจินยองเดินเข้าไปในห้องนอนอิมแจบอมนั่งอยู่ในห้องก็อดสงสารน้องไม่ได้เหมือนพามาให้น้องลำบากใจแม้รู้ว่าจินยองจะไม่ได้คิดมากก็เถอะร่างหนาเดินมาหาคนตัวเล็กที่ทำหน้าเหนื่อยแต่พอเจอหน้าก็ยิ้มออกมาบางๆเท่านั้น
แจบอมเดินเข้ามาสวมกอดคนตัวเล็ก
“ขอโทษแทนย่าด้วยนะคะที่ทำให้ไม่สนุก”
คางเรียวของแจบอมเกยไว้ที่ไหล่แคบ
“ผมรู้ว่าคุณย่าหวงคุณแต่ผมจะทำให้คุณย่าชอบผมให้ได้”
อิมแจบอมแอบยิ้มให้กับความมุ่งมั่นของน้อง
“อาบน้ำด้วยกันไหมคะ ประหยัดน้ำดี” อิมแจบอมซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์และขยั้นขะยอให้น้องเข้าไปอาบน้ำกับตนด้วยจินยองไม่ทันได้ให้คำตอบอะไรร่างเล็กก็ถูกอุ้มเข้าไปในห้องน้ำเสียแล้ว
เมืองจินเฮ
เกาหลีใต้
ครอบครัวปาร์คกำลังนั่งดูละครหลังข่าวกันหน้าโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขกซึ่งเป็นศูนย์รวมของคนในครอบครัวที่จะร่วมทำกิจกรรมกันปาร์คมินคยองกำลังนั่งขบคิดรู้สึกว่าลูกชายตัวดีของตัวเองเหมือนกำลังปกปิดอะไรสักอย่างไม่อยากให้ครอบครัวรู้
แถมตอนที่เขาใช้ให้ลูกสาวคนโตไปหาก็ไม่ได้ไปหาที่คอนโดเดิมแล้วยังอยู่ไกลจากคอนโดอีกมากโข
จินซองเห็นภรรยาของตนกำลังคิดเรื่องอะไรสักอย่างจึงถามภรรยาไปตามตรง
“เป็นอะไรละแม่”
“พ่อ
แม่ว่าจินยองกำลังปิดบังอะไรเราแน่ๆเลยอ่ะ” ปาร์คจินซองขำกับภรรยาที่คิดไปเรื่อยเปื่อย
“แม่ก็คิดมาก
ถึงมันจะปิดอะไรแต่ลูกมันโตแล้วนา”
“โอ๊ยพ่อ
แม่อยากจะรู้อ่ะว่าคนที่รวยๆที่เคยมารับมันใช่แฟนมันหรือเปล่าแถมมีลูกติดอีกต่างหาก”
เธอนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่มีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักเรียกลูกชายเธอว่า หม่าม้า
มันหมายความว่าอย่างไงกัน
“ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของเด็กมันหรอกน่าแม่ก็
ดูละครต่อเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ”
มินคยองถอนหายใจไม่ว่าอย่างไรเรื่องของลูกชายก็ยังค้างคาใจเธอไม่เปลี่ยนไว้กลับบ้านเมื่อไหร่จะเค้นให้หมดเลย
คอยดู!
ภายในห้องน้ำร่างของคนสองคนกำลังซ้อนกันอยู่ในอ่างอาบน้ำมือหนายังคงสาละวนกับผิวเนื้อเนียนใต้น้ำ
ร่างหนาใช้คางเชยไหล่เล็กของจินยอนท่อนแขนแกร่งโอบรอบเอวบางที่ซ่อนอยู่ใต้ฟองสบู่ไม่ยอมละมือที่จะปล่อยเขาให้ขึ้นไปจากอ่างเลยสักนิด
ริมฝีปากหนาเม้มขบไปที่ผิวขาวจนเป็นรอยจ้ำเล็กย้ำๆ
“อื้อ 2 รอบแล้วนะครับ ผมเมื่อยแล้วนะ” จินยองรีบแย้ง
“อีกครังหนึ่งนะ พี่รักจินยองนี่นา”
ร่างเล็กจึงขยับตัวโดยการหันหน้าไปเผชิญกับคนหื่น
“วันอื่นไม่ได้เหรอครับ...นะนะ”
จินยองอ้อนคนตัวโตกว่าด้วยการเอาศีรษะพิงไหล่
แจบอมถอนหายใจยอมตามใจน้องโดยติดค้างไว้ก่อนถ้าได้เอาคืนสัญญาว่าจะเอาให้จมเตียง
“ก็ได้ งั้นเราออกไปรอพี่ข้างนอก”
จินยองเลิ่กคิ้วและไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกันก่อนจะคิดได้ว่าคนตัวโตจะทำอะไรก็รีบคว้าชุดคลุมแล้วเดินออกจากห้องน้ำทันที
ขืนยังอยู่ในห้องน้ำ...ไม่รอดแน่ๆ
เสียงของเครื่องไดร์เป่าผมของจินยองดังขึ้นเจ้าตัวตื่นมาอาบน้ำแต่เช้าเพื่อเข้าไปยังไร่มะเขือเทศเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต
จินยองอยู่ในชุดเอี๊ยมยีนส์เดินลงมาทานข้าวข้างล่างที่ห้องอาหารโดยเป็นเมนูข้าวที่ทำให้อิ่มสำหรับวันนี้ต้องใช้กำลังกายกันเกือบทั้งวัน
เมื่อทานข้าวเสร็จอิมแจบอมเดินไปคว้ากุญแจรถกระบะแล้วขับมาจอดหน้าบ้านจินยองนั่งข้างถัดไปจากคนขับโดยมีเด็กหญิงตัวน้อยอย่างอิมเฮนานั่งตักเข้าอยู่รถกระบะมุ่งหน้าไปยังไร่มะเขือเทศทันที
เมื่อรถจอดยังใต้ร่มไม้ทุกคนรีบเตรียมอุปกรณ์เก็บเกี่ยวมะเขือเทศ ครอบครัวอิม
จินยองและคนงานคนอื่นๆแบ่งทีมกันคนละ 5-7 คนเพื่อแบ่งหน้าที่กันเก็บเกี่ยวโดยจินยองกับแจบอมและคุณย่าอยู่ทีมเดียวกันและมีหนูน้อยเฮนาคอยช่วยด้วย
“แกไปเก็บตรงนู้น
เดี๋ยวฉันจะสอนจินยองเอง”
แจบอมคอตกทันทีกะจะพาน้องไปสวีทแต่โดนคุณย่ากักตัวไว้ไม่ให้ไปไม่รู้ว่าย่าจะทำอย่างไรกับจินยองอีก
“ก็ได้ครับ เฮนาไปกับป๊ามาลูก”
แจบอมส่งสายตาเป็นกำลังใจให้กับจินยองว่าครั้งนี้ต้องผ่านไปให้ได้
น้องเพียงยิ้มให้เท่านั้นจากนั้นอิมเฮนาก็โบกมือให้ย่าและหม่าม้าก่อนจะวิ่งตามป๊ะป๊าเข้าไปในสวนมะเขือเทศ
ทางด้านจินยองหลังจากที่สองพ่อลูกเดินหายไปทางสวนมะเขือเทศบรรยากาศรู้สึกถึงความเกร็งก็มาอีกครั้งนายหญิงแห่งไร่มะเขือเทศปรายตามองหลานสะใภ้ที่ยืนนิ่งเหมือนกับหุ่นจึงถอนหายใจเธอไม่ใช่ยักษ์ใช่มารสักหน่อย
ร่างเล็กของหญิงชราพาจินยองเข้าไปในไรมะเขือเทศอีกฝั่งเพราะแบ่งกันเก็บในแต่ละจุด
คยองริถือตะกร้าเดินนำไปโดยมีจินยองเดินตามหลังเมื่อถึงจุดที่ต้องการเก็บ
คยองริสอนวิธีการเก็บให้กับหลานสะใภ้ซึ่งเขาก็ทำมันได้ดีจนถึงช่วงเวลาพักเที่ยงจินยองพาคุณย่าไปนั่งรวมที่จุดทานข้าวของคนงาน
มือหนาประคองหญิงวัยชราไปที่โต๊ะก่อนจะมีแม่บ้านของที่นี่ทำหน้าที่ในการทำอาหารส่งให้กับเจ้านายและลูกน้องของไร่มะเขือเทศ
“ขอบใจ เธอไปทานข้าวได้แล้ว”
คยองริปัดให้จินยองไปตักข้าวที่โต๊ะซึ่งมีหม้อใส่อาหารเพื่อตักราดบนข้าวร้อนๆ
โดยเมนูวันนี้คือ ไก่ผัดพริกและจิมดัก
จินยองเดินไปหยิบจานเพื่อจะตักอาหารสักพักหนึ่งกลิ่นน้ำหอมประจำตัวที่เขาคุ้นเคยจึงหันไปมองเห็นรอยยิ้มของอิมแจบอมที่ส่งยิ้มมาให้เขาและยื่นทัพพีสำหรับตักข้าวสวยร้อนมือเรียวจับด้ามทัพพีพร้อมคดข้าวของตัวเองโดยมีร่างสูงเดินตามหลังและคนงานคนอื่นอีกมากมาย
เมื่อตักอาหารเสร็จจินยองกำลังจะกลับไปนั่งที่โต๊ะแต่โดนมือหนาสอดประสานแล้วพาไปทานข้างนอก
ร่างเล็กเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ไปทานข้าวร่วมกับคนอื่นๆ
“ไปไหนของพี่เนี่ย”
อิมแจบอมไม่ตอบแต่เดินนำจูงมือนอกไปอีกทางหนึ่งซึ่งคนงานก็มองกันเต็ม
เฮนาแอบลอบยิ้มเธอชอบเวลาเห็นป๊ากับหม่าม้าอยู่ด้วยกันเด็กหญิงมองจนทั้งสองคนหายลับตาไปจากตรงนั้นก่อนจะเดินถือจานไปนั่งกับคุณปู่ทวดและคุณย่าทวดที่ชำเลืองมองไปเช่นกัน
อิมแจบอมพาจินยองไปนั่งอีกที่หนึ่งตรงที่รถกระบะจอดอยู่ร่างหนาหยิบผ้าแพรที่อยู่หลังรถมาปูที่พื้นก่อนจะนั่งลงไป
ทั้งสองคนนั่งทานข้าวท่ามกลางลมเย็นตรงใต้ต้นไม้ที่รถยนต์จอดอยู่ระหว่างที่นั่งทานข้าวอิมแจบอมก็ตักไก่ในจานแบ่งให้น้องจนน้องเริ่มขมวดคิ้วก็เล่นตักให้เยอะขนาดนั้น...ใครมันจะกินหมดเล่า
“พี่จะทานแต่ข้าวหรือไงครับ
เอาไปบ้างผมทานไม่หมดสักหน่อย” จินยองตักไก่คืนคนพี่ไป
ตักให้เยอะขนาดนี้แล้วตัวเองจะกินอิ่มหรือไงกัน
“อยากให้เราทานเยอะๆนี่คะ
สนุกหรือเปล่าเก็บมะเขือเทศ”
“ครับ
คุณย่าสอนวิธีเก็บตอนนี้ได้หลายตะกร้าแล้วเหมือนกัน”
ร่างหนายิ้มที่น้องไม่คิดว่าที่มาที่นี่ไม่น่าเบื่อกลัวว่าน้องอาจจะไม่ชอบใช้ชีวิตแบบนี้แต่ก็คิดผิดถนัดเมื่อคนตัวเล็กพร้อมจะเรียนรู้เหมาะกับการเป็นนายหญิงคนต่อไปของไร่มะเขือเทศที่สุด
แต่น้องเป็นผู้ชายต้องเรียกว่านายน้อย
“ดีแล้วที่ชอบพี่กลัวเราจะเบื่อ”
“คิดมาก รีบทานข้าวเถอะครับ”
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จจู่ๆอิมแจบอมก็ยื่นหน้าเข้ามาหาเขาพร้อมใช้นิ้วเรียวปาดซอสที่ติดตรงริมฝีปากของเขา
ร่างหนาใช้หัวแม่มือปาดซอจากนั้นก็ชิมเข้าไปจากอากาศที่เย็นสบายตอนนี้จินยองเริ่มรู้สึกร้อนที่แก้มทำเอาใจเต้นระรัวมันเกินไปแล้วนะมีวันไหนไม่ที่จะไม่ทำให้เขาเขินน่ะ
จินยองกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองด้วยการลุกไปเก็บจานทันทีสร้างรอยยิ้มที่ผุดบนใบหน้าคมของคนที่นั่งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้
เวลาน้องเขินแม่งโคตรน่ารักเลย...
ตอนนี้คนงานทั้งหมดแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองจินยองเดินไปหาคุณย่าโดยมีอิมเฮนาที่มาอยู่กับเขาด้วยเมื่อเตรียมพร้อมเสร็จก็เริ่มจัดการกับผลมะเขือเทศที่สุกเต็มที่เด็กน้อยเดินมาช่วยทั้งคุณย่าและคุณหม่าม้าของเธออย่างขยันขันแข็ง
“คุณม้าขา
วันนี้หนูขอไปนอนด้วยคนได้ไหมคะ”
เด็กน้อยถามพลางหยิบมะเขือเทศเพื่อคัดมาใส่อีกตะกร้าหนึ่ง
“ได้สิครับ”
“เย้” เด็กน้อยยิ้มดีใจ
ระหว่างที่จินยองคุยกับอิมเฮนาอยู่ในสายตาของคุณเป็นย่าทวดดูท่าทางเหลนของเธอจะรักผู้ชายคนนี้ของหลานชายเธอเสียเหลือเกินติดขนาดนี้
เธอจับผิดหลายครั้งคิดว่าจินยองเหมือนทุกคนที่เข้ามาหลานชายเพราะฐานะแต่กลับคนนี้กลับไม่ใช่เพราะจินยองดูรักลูกสาวของหลานชายเขาราวกับว่าเป็นลูกของตัวเอง
หรือเธอจะไฟเขียวให้กับว่าที่หลานสะใภ้คนนี้ดี
และแล้วงานก็เสร็จสิ้นลงเสียทีมะเขือเทศที่เก็บทั้งหมดนั้นเอาไปไว้ที่โรงเก็บอย่างดี
โดยจินยองและคนอื่นช่วยกันยกมาไว้ที่โรงเก็บวัตถุดิบแต่เหลือของปู่และอิมแจบอมส่วนคนงานบางส่วนได้กลับกันไปเกือบหมดอิมเฮนานอนหลับอยู่บนตักนุ่มของจินยองนั่งรอที่เก้าอี้ยาวโดยมีคยองริคุณย่านั่งข้างๆ
ท่ามกลางความเงียบคยองริจึงชวนคุยพร้อมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องหลานชายและจินยอง
“เธอกับแจบอมคบกันนานหรือยัง”
“ก็ไม่นานครับ
เรารู้จักกันได้ตอนนี้ก็เกือบ 4 เดือนแล้วครับคุณย่า”
จินยองแอบเห็นรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าระหว่างแก้มของคุณย่า
“ยังงั้นเองเหรอ...เธอรักหลานชายฉันหรือเปล่า”
นัยน์ตาของหญิงชรามองไปที่นัยน์ตาของหลานสะใภ้เพื่อค้นหาความจริงเพราะถ้าโกหกแววตาคนเรามักจะเปลี่ยนไป
จินยองเงียบสักพัก...
“ตอนแรกไม่ได้รักครับ แต่ตอนนี้ผมรักเขาตอนไหนก็ไม่รู้
รู้แต่ว่าผมรู้สึกดีเวลาที่เขาอยู่ข้างๆผมแบบนี้” จินยองอมยิ้มเล็กๆ
เมื่อนึกถึงเรื่องน่ารักต่างๆที่อิมแจบอมสร้างรอยยิ้มให้กับเขา
“ความรักวัยรุ่นสินะ...ฉันขอโทษเรื่องเมื่อวานที่ใช้งานเธอเฮนาเล่าว่าเธอดูแลเหลนของฉันได้ดีขอบคุณมากนะ...ไม่มีแม่แต่ก็ได้ความรักจากทุกคนขอบคุณที่เธอมาเติมเต็มให้กับพวกเขา”
มือบางเหี่ยวกุมมือหนาของจินยองและบีบเพื่อขอบคุณจากใจจริง…ไม่นานนักเสียงรถกระบะของคุณปู่และอิมแจบอมก็กลับมารับคนงานที่เหลือรวมทั้งจินยอง
เฮนาและคุณย่าของเขา
ร่างหนาเดินลงจากรถเดินไปอุ้มลูกสาวไว้บนบ่าอุ้มไปหาคุณย่าที่นั่งรออยู่ที่รถเมื่อกี้หลังจากที่ลงเพื่อให้เฮนานอนหนุนไหล่ของคุณย่าทวดอิมแจบอมจัดแจงท่านอนให้ลูกสาวพร้อมปิดประตูกระบะก่อนจะพาจินยองขึ้นกระบะหลังนั่งรวมกับคนงานเพื่อเดินทางกลับไปยังบ้าน
บรรยากาศโพล้เพล้ในตอนเย็นร่างเล็กของจินยองเหม่อมองไปบนท้องฟ้าก่อนมือหนาของคนข้างจะสอดประสานที่มือของตัวเองจินยองเพียงแค่ยิ้มเล็กๆให้คนตรงหน้าก่อนจะใช้ศีรษะพิงที่ไหล่หนาเพื่อพักพิงระหว่างที่รถสั่นคลอนมือหนาประคองศีรษะให้น้องไม่รู้สึกเจ็บเวลาที่รถมันตกหลุม
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเมื่อเขาได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของคนตัวเล็ก
หลับง่ายดายเสียจริง
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะพักอาศัยที่ไร่มะเขือเทศพรุ่งนี้เช้าพวกเขาทั้งสามคนจะต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองโดยตอนเย็นของวันนั้นมีงานเลี้ยงส่งและฉลองหลังจากที่เก็บมะเขือเทศและทำการเตรียมส่งออกในตอนเช้าจึงมีการจัดงานเลี้ยงโดยมีทั้งคนงานหลายสิบคนเข้ามาร่วมด้วยโดยอาหารมากมายที่เป็นฝีมือของหลานสะใภ้ตระกูลอิมและซิกเนเจอร์ของไร่นั่นก็คือเหล้าดองที่พวกชาวบ้านเป็นคนคิดค้นกันทำ
ในตอนเย็นมีเสียงเพลงคึกครื้นกันส่วนลูกๆของคนงานก็เดินมาชวนอิมเฮนาไปเล่นไม่ไกลจากที่พวกผู้ใหญ่นั่งทานอาหารนัก
เสียงเจี้ยวจ้าวของเด็กทั้งหมด 7 – 8 คนวิ่งไปรอบๆ
คนงานบางส่วนเท่านั้นที่ตั้งโต๊ะกินเหล้ากันซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีคุณปู่ของอิมแจบอมนั่งร่วมวงอยู่ในนั้น
ส่วนคุณย่ากับเม้ามอยกับพวกรุ่นเดียวกันอย่างสนุกสนานสักพักหนึ่งอิมแจบอมจึงเดินมาชวนน้องไปนั่งกินกับเหล่าคนงานซึ่งเจ้าตัวตั้งใจจะไม่แตะแอลกอฮอร์แต่ทว่า
1 ชั่วโมงผ่านไป
“กินเยอะๆจินยองอีกนิดๆ”
คุณปู่ยกแก้วให้หลานสะใภ้
“อึก อึก
อ๊าส์ เอาอีกแก้วครับรสนี้อร่อย” จินยองขออีกแก้วเพราะรสนี้เป็นเหล้าชนิดพิเศษที่ชาวบ้านเพิ่งคิดค้นขึ้นมา
คนงานคนหนึ่งรีบรินใส่แก้วให้นายน้อยของไร่อิมอย่างเอาใจ
“คุณจินยองนี่ทานเหล้าเก่งใช่ย่อยเลยนะครับ”
“พอทานได้ครับ...”
จินยองยิ้มรับ
ไม่นานนักก็เริ่มมีคาราโอเกะโดยมีคนเปิดเครื่องเสียงและไมค์
คนงานเชียร์ให้คุณปู่อิมแทฮวังและปาร์คจินยองดวลกันสักเพลง
เสียงปรบมือทันทีเมื่อจินยองลุกขึ้นยืนและเดินไปถือไมค์และค้อมตัวผายมือเชิญนักร้องอันทรงเกียรติอย่างคุณปู่ขึ้นมาร่วมร้อง
เสียงเชียร์และเสียงหัวเราะของคนงานชอบใจส่วนคนที่ยิ้มแก้มบานที่น้องสามารถเข้ากับคนในครอบครัวมากที่สุดคือ
อิมแจบอม เสียงดนตรีเริ่มขึ้นทั้งสองคนเต้นเข้าจังหวะกันเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอร์
“จาจารารา
รารารา จาราราจาจาจาจา” เสียงร้องพร้อมกันของปู่และหลานสะใภ้ที่สลับกันร้องแต่ละท่อน
หลังจากที่ร้องจบเพลงก็มีคนโห่ร้องซึ่งหนึ่งในนั้นที่เป็นกองเชียร์เฮนาปรบมือเมื่อคุณหม่าม้าและคุณปู่ทวดของเธอนั้นร้องเพลงเพราะมากๆ
จินยองและแทฮังโค้งคำนับก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เพื่อกินต่อแต่ทว่าคนงานก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“อยากฟังเสียงร้องของคุณแจบอมบ้างจังครับ”
แล้วเสียงปรบมือก็ดังกันเกรียวซึ่งจินยองก็ตบมือไปกับทุกคนด้วย
คนงานส่งไมค์อีกตัวให้กับอิมแจบอมร่างหนายืนอยู่หน้าจอมอนิเตอร์เพื่อเลือกเพลงที่จะร้องซึ่งภาพที่หน้าจอขึ้นชื่อเพลงว่า
‘Look at me’ เสียงดนตรีขึ้นคนงานที่กรึ่มๆก็เริ่มลุกออกมาเต้นซึ่งคุณปู่ก็พาคุณย่าออกมาเต้นด้วยเมื่อหลานร้องเพลง
“นัล บวา
นัล บวา กวี ซุน นัล บวา นัล บวา กวี ซุน” ร่างหนาเดินมาตรงหน้าคนรักและเชิญออกมาเต้นข้างหน้าซึ่งจินยองไม่ขัดข้องพร้อมเดินไปข้างหน้าโดยมีเฮนาที่ไปด้วยภาพที่เห็นคือเรียกรอยยิ้มคนทั้งไร่จนอิมแจบอมร้องเพลงจบทุกคนก็โห่ร้องปรบมือร่างหนาเดินมานั่งที่เดิมเพื่อดื่มเหล้า
พอผ่านไปจนตอนนี้จินยองนั้นตัวและใบหน้าแดงไปหมดร่างเล็กซบหน้าอยู่ไหล่หนา
“ไหวหรือเปล่าครับ”
แจบอมถาม ซึ่งร่างเล็กที่นอนซบหน้านั้นพยักหน้าหงึกๆ
“หวายซี่
ยางไม่มาวเลยย” น้ำเสียงยานครางทำเอาคนตรงหน้าเกือบขำไม่เมาจริงๆ
ตอนพูดตาก็แทบจะลืมไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
“พาน้องไปนอนก็ได้ลูก
ไม่ไหวแล้วนั่น” อิมแทฮวังบอกกับหลานดูท่าทางคืนนี้จะหนักกับหลานรักเขาแน่ๆ
“ไม่มาวสักหน่อย...คุณปู่มีแฝดตั้งแต่เมื่อไหร่อะครับ”
อิมแทฮวังหัวเราะครืนเมื่อหลานสะใภ้หาว่าเขามีแฝดแถมยังยืนโค้งคำนับกับอากาศอีกด้วยไม่ได้เรียกเสียงฮาให้กับคุณปู่เพียงคนเดียวแต่ทั้งวงเหล้าเลยด้วยซ้ำ
“ทำไมทุกคนมีแฝดหมดเยย
โอ๊ะ พี่ก็มี” จินยองหันไปหาแจบอมที่ทำหน้าขรึมมองดูคนเมาที่ไร้สติไปเรียบร้อย
“ไปนอนเถอะครับ
เดี๋ยวพาไปที่ห้อง” แจบอมขอตัวจากผู้ใหญ่ในวงเหล้าก่อนจะคว้าเอวเล็กเดินเข้าไปในบ้านโดยจุดมุ่งหมายคือห้องนอน
แจบอมพาจินยองเดินขึ้นบันไดด้วยความยากลำบากเพราะว่าน้องเดินแทบไม่ไหวแล้ว
ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะเมาแต่พอเห็นจินยองเมาแล้วทำเอาเขาสร่างเมาทันทีเลยด้วยซ้ำ
“เดินดีๆสิครับ”
“ฮื่ออ
พื้นมันไม่นิ่งอ่ะ”
เฮ้อออ
สาบานว่าเขาจะไม่ให้น้องแตะแอลกอฮอล์ทุกชนิด
เมื่อมาถึงหน้าห้องมือหนาบิดลูกบิดประตูเปิดเข้าไปในห้องเขาพาจินยองเดินประคองไปที่เตียงก่อนจะโยนร่างไปบนเตียงนุ่มซึ่งใบหน้าเล็กบิดเล็กน้อยด้วยความจุกหลังจากที่โดนโยนลงบนเตียงแจบอมจัดท่านอนให้คนขี้เมาอยู่ดีจินยองก็หรี่ตาขึ้นมาถามถึงอิมเฮนา
“เฮนานอนแล้วเหรอครับ”
“นอนแล้วครับ
เราก็นอนได้แล้ว”
หมับ...
จินยองพยายามลุกขึ้นพยายามลืมตาให้เต็มตาเพื่อมองหน้าของคนตรงหน้า
สีหน้าของจินยองดูงอแงเล็กน้อยเมื่อเจอใบหน้าดุของแจบอมเข้า
“ยังไม่ง่วงเลยครับ”
จินยองพูดพร้อมกับถอดเสื้อยืดโยนไปที่พื้น “อยากทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่นอน”
ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันบ่งบอกถึงความต้องการซึ่งภาพที่อิมแจบอมเห็นตอนนี้โคตรอยากขย้ำคนตรงหน้าให้แหลกคามือเลยด้วยซ้ำแต่ก็ต้องทนไว้
“ใส่เสื้อมันเย็น
จินยองใส่เสื้อครับ” แจบอมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งระงับอารมณ์ของตัวเอง
“ไม่ใส่ครับ”
แล้วร่างเล็กก็ใช้มือเกี่ยวกางเกงของตัวเองออกไปทำเอาลมหายใจของชายหนุ่มวัย
30
กว่าถึงกับลมหายใจขาดห้วงเมื่อผมกับเรียวขาเนียนและมองขึ้นมาคือชั้นในสีขาวที่แกนกายเล็กกำลังจะพองตัวขึ้น
อา
จินยองกำลังจะทำให้สติของเขากระเจิง โคตรยั่ว
ฉับ
แสงอาทิตย์ของยามเช้าของวันถัดมาสาดเข้ามาทางบานหน้าต่างเผยให้เห็นสงครามกลางเตียงเมื่อคืนนี้
เสื้อผ้ากระจัดจายไปยังมุมห้อง
ผ้าปูที่นอนกองอยู่ที่ปลายเท้าและผ้าห่มผืนหนาคลุมกายไว้
เสียงเคาะประตูเสียงดังจากคนเป็นย่าเพื่อเรียกหลานชายให้ตื่นกลับจากโซลเช้าๆจะได้มีเวลาพักผ่อนทำให้อิมแจบอมที่สะดุ้งตื่นก่อนจะจัดแจงความเรียบร้อยในห้องแล้วตะโกนตอบรับย่าของตัวเองไป
“ครับ
ย่า เดี๋ยวผมลงไป”
อิมแจบอมหยิบบ็อกเซอร์ที่กองอยู่ที่พื้นขึ้นมาสวมสายตามองไปที่เตียงเหมือนกับผ่านสนามรบมาหมาดๆ
ร่างหนาลุกขึ้นมาเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นทั้งหมดลงในถุงเพื่อเก็บใส่ในรถยนต์
เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาปลุกเรียกคนขี้เซาที่นอนหลับอุตุอยู่บนเตียง
“จินยองครับ
ตื่นได้แล้วได้เวลากลับโซลแล้วนะ”
“อื่อ”
น้องตอบแค่นั้นแล้วก็นอนต่อ
แจบอมถอนหายใจร่างหนาตัดสินใจขึ้นเลิ่กผ้าห่มให้มันพ้นทางเผยให้เห็นกายขาวที่เต็มไปด้วยรอยกลีบกุหลาบมากมายบนเนื้อขาวซึ่งเขาเป็นคนทำมันทั้งหมด
ร่างหนาขึ้นคร่อมกลางลำตัวของคนตัวเล็ก...ในเมื่อปลุกดีๆแล้วไม่ตื่นก็คงได้ปลุกแบบฉบับอิมแจบอมสินะ
ริมฝีปากหนาจูบพรมไปทั่วแผ่นหลังใช้ฟันขูดไปทั่วกายขาว เสียงฮึมฮัมในลำคอของจินยองกำลังทำเขาพอใจริมฝีปากหนาพรมจูบไปทั่วจนกระทั่งถึงลูกพีชกลมฟันคมกัดมันเบาๆ
“อ๊ะ
พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย” จินยองงัวเงียผงกหัวขึ้นมามอง
“นึกว่าจะไม่ตื่นซะอีกครับ
ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว” แจบอมหยิบผ้าขนหนูที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้ายื่นให้
แต่พอจะเอื้อมไปหยิบความเจ็บแปล๊บก็ตีขึ้นมา
“อ๊ะ...”
เจ็บชิบหาย จินยองซี๊ดที่ปากเบาๆ
“เจ็บมากไหมคะ”
“ยังจะถามอีกเหรอครับเพราะพี่คนเดียวเลยอ่ะ”
จินยองบ่นตอนนี้ตัวเขาเองปวดร้าวไปทั้งตัว
“แล้วต้นเหตุคือใครล่ะครับ”
ร่างเล็กเงียบทันทีเพราะเขาจำได้ว่าเป็นคนยั่วก่อน
“ไม่คุยด้วยแล้วจะไปอาบน้ำเล่า”
จินยองลุกไปเข้าห้องน้ำอย่างเชื่องช้าแจบอมยิ้มมุมปากรู้สึกเอ็นดู
จากนั้นเขาจัดการนำผ้าปูที่นอนม้วนใส่ตะกร้าเพื่อเตรียมลงซัก
เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่เขาจะเข้าไปอาบบ้างมือหนาบิดลูกบิดประตูห้องน้ำไม่เสียงดังมากนักจินยองยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวร่างหนาเดินเข้ามากอดจากทางด้านหลังคนในอ้อมแขนแกร่งหันหน้ามาเผชิญใบหน้าของคนสองคนห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้นใบหน้าคมกระซิบที่ใบหูอย่างแผ่วเบา
“พี่รักจินยองนะ”
แก้มกลมขึ้นสีระเรื่ออย่างเห็นได้ชดถ้าถามว่าอุณหภูมิน้ำกับอุณหภูมิในร่างกายอันไหนร้อนกว่ากันก็คงไม่ต้องบอก
“ทำไมชอบทำให้เขินอ่ะครับ”
กำปั้นทุบอกคนตัวโตกว่าเบาๆ
“เขินบ่อยๆน่ะดี
รีบอาบแล้วรีบลงไปหาคุณย่ากับคุณปู่กันเถอะป่านนี้คงรอจนบ่นแล้ว” จินยองพยักหน้าเห็นด้วยทั้งสองคนจัดการอาบน้ำให้เสร็จให้ทันเวลา
ทางด้านอิมแจบอมที่แต่งตัวเดินลงมาจากด้านบนห้องนอนก็มุ่งตรงมายังห้องทานอาหารลูกสาวตัวน้อยนั่งทานข้าวต้มกุ้งฝีมือของคุณย่าทวดร่างหนาเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้อิมแทฮวังยกยิ้มกับเมียแก่ของตัวเองก่อนจะถามหลานชายกับรสเหล้าเมื่อคืนนี้
“สูตรพิเศษของเหล้าที่ปู่เป็นคนทำเป็นไงมั่ง”
“ก็อร่อยดีครับ
แต่น้องเมามากปู่ผสมไปเท่าไหร่เนี่ย” แจบอมไม่วายบ่นคุณปู่ของตัวเอง
“ก็เยอะไม่งั้นเมื่อคืนนี้คง...”
ปู่เว้นช่วงไปสักพักชายมีอายุเดินเข้ามากระซิบหลานชาย “เมื่อคืนหลานสะใภ้ปู่คงเหนื่อยแย่ล่ะสิ”
“แค่ก ๆ”
อิมแจบอมถึงกับสำลักกาแฟพัลวัน มือเหี่ยวย่นตบบ่าหลานๆ
“แม่มึงเอาน้ำให้มันที”
แทฮวังสั่งเมียรักให้รินน้ำให้หลานชายส่วนตัวเองก็เดินผิวปากออกไปทางหลังบ้าน
จินยองที่เดินสวนกบคุณปู่พอดีก็ยิ้มทักทาย
พอเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าวแม่บ้านก็นำข้าวต้มมาให้
จนกระทั่งช่วงสายสามคนพ่อแม่ลูกเตรียมพร้อมที่จะขับรถเดินทางกลับโซลแจบอมหยิบกระเป๋าเดินทางใส่ไว้ที่ช่องด้านหลังรถ
อิมเฮนากอดและหอมแก้มคุณปู่ทวดและคุณย่าทวด
“หนูไปแล้วนะคะ
ไว้ปิดเทอมหนูจะมาหาใหม่น้า”
“ไปก่อนนะครับย่า
ไปก่อนนะครับปู่” จินยองกอดปู่กับย่ามือเหี่ยวย่นตามอายุลูบเรือนผมหลานชายก่อนจะผละออกมากอดหลายสะใภ้บ้าง
“ผมไปก่อนนะครับ
คุณปู่คุณย่า”
“ไปดีมาดีนะทั้งสามคนถึงโซลแล้วโทรมาทันทีนะ
จินยองถ้าอยากให้ย่ารับเป็นสะใภ้แบบเต็มตัวให้ครั้งหน้าต้องมาสี่คนแล้วย่าจะยอม
ไปได้แล้วเดี๋ยวจะถึงโซลไม่ทันเวลา” อิมคยองริพูดทิ้งท้ายพร้อมยิ้มและโบกมือลาก่อนที่รถยนต์จะขับออกไปจากไร่มะเขือเทศ
ความคิดเห็น