คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : กาวเชื่อมใจ (100%)
Chapter
6
กาวเชื่อมใจ
I would rather have had One breath of her hair,
one kiss from her mouth, one touch of her hand, than eternity without it. One!
ผมขอเพียงแค่..ได้สูดกลิ่นจากผมของคุณแค่เพียงครั้ง
ได้สัมผัสรสจูบจากปากของคุณ ได้สัมผัสไออุ่นจากมือของคุณ
แค่เพียงครั้งเดียว มากกว่าที่จะอยู่เป็นอมตะ
== city of angels ==
CUT
ภายในห้องนอนเจ้าหญิงของคนตัวเล็กเด็กหญิงตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้าวันนี้เป็นวันหยุดเนื่องจากที่โรงเรียนของเธอนั้นมีงานทำให้นักเรียนไม่จำเป็นต้องไปเธอจึงเลือกที่จะไม่ไป
เธอนอนเล่นอยู่บนเตียงสักพักก่อนเจ้าแมวตัวเล็กสีเทาที่เดินจากห้องคุณพ่อเดินขึ้นมาเหยียบบนอกเล็กแล้วขดตัวนอน
ประตูในบ้านของพ่อเธอและเธอนั้นจะมีช่องประตูที่พ่อเป็นคนทำขึ้นมา
“นี่แกจะมาถือวิสาสะนอนบนนี้ไม่ได้นะ
ฮียู” แมวก็คือแมวเมื่อเลือกที่จะนอนที่ไหนก็ต้องได้นอนทำให้เฮนาถอนหายใจยอมให้แมวตัวเล็กนอนบนตัวของเธอ
“ป๊าไม่ให้กวนละสิ ฮียู
ถึงมาป่วนห้องเราเนี่ย” มือเล็กเกาหัวทุยของแมวสีเทามีเสียงหายใจ
ครืด ๆ ด้วยความพอใจ
“ให้นอนแปปเดียวแล้วต้องลุกนะ
เฮนาจะไปหาคุณม้า” พูดไปเจ้าแมวอ้วนก็นอนนิ่งไม่ตอบรับใดๆทั้งสิ้น
ในตอนสายจินยองตื่นขึ้นมาพบว่าข้างกายนั้นไม่พบร่างหนาของคุณอิมพอตื่นขึ้นมาก็ต้องโล่งใจคิดว่าร่างกายจะเปลือยเปล่าแต่กลับอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งและไม่ใช่ของใครที่ไหนนอกจากว่าของคุณอิม
จินยองมองนาฬิกาเกือบจะสิบโมงนี่นอนกินบ้านกินเมืองขนาดนี้เลยหรอเรา
ร่างบางค่อยขยับลุกแต่ร่างกายมันปวดแปล๊บไปหมด
จินยองค่อยๆลุกขึ้นไปอาบน้ำท่าทางการเดินแม้จะลำบากนักเพราะเมื่อคืนอิมแจบอมไม่ผ่อนแรงเลยสักนิด
ใบหน้าแผ่ซ่านของเจ้าตัวเผยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
‘พะ...พี่ หนูไม่ไหว อ๊ะ’
พูดไปได้ไงวะ
ฮื่ออออ
จินยองสะบัดหัวไปมาใบหน้าร้อนผ่าวร่างเล็กประคองเข้าห้องน้ำยืนอยู่หน้าบานกระจกขนาดใหญ่พบว่าคอนั้นมีรอยรักที่คนตัวโตเป็นคนทำรอยตีตราเป็นเจ้าของ
ไม่ว่าจะเป็นต้นคอ หน้าท้อง แม้กระทั่งเรียวขาของเขาเองอิมแจบอมก็ไม่เว้น
จินยองแหวกเสื้อเชิ้ตดูรอยตามตัวนี่คงกะจะให้เขาแต่งเป็นมัมมี่อยู่บ้านทั้งที่อากาศร้อนแบบนี้นี่นะ
อิมแจบอม!
จินยองนอนแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พร้อมเอาหน้าจุ่มลงน้ำเพียงแค่ครึ่งหน้าภาพเมื่อคืนมันย้อนเข้ามาเป็นฉากๆจนเขาอายตัวเองทำไมถึงกล้าทำแบบนั้นจินยองนึกแล้วก็เอาหัวมุดน้ำอุ่นในอ่างด้วยความเขินอายตอนนี้กลายเป็นว่าไม่กล้าสู้หน้ากับสรรพนามเมื่อคืนนี้
ขนลุก
จ๋อมมม มม
ทำยังไงดีวะ
หนีกลับคอนโดได้ไหมอ่ะ ฮืออออ
จินยองนั่งในอ่างด้วยใบหน้ามู่ทู่คิดวิธีเอาตัวรอดด้วยการที่จะหลบหน้าอิมแจบอมโดยการไปนอนกับยองแจหวังว่าคงจะไม่บินหรอกมั้งนะ
กำลังคิดวิธีหาทางออกเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะจินยองเอื้อมมือไปเช็ดผ้ามือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับโดยลืมดูชื่อหน้าจอ
“เพิ่งตื่นหรอคะ หนู”
เสียงหยอกเย้าของอิมแจบอมแหย่คนตัวเล็กจนใบหน้านั้นแดงไม่รู้ว่าน้ำอุ่นไปหรือเขินกันแน่
“หยุดเรียกผมแบบนั้นเลยนะครับ”
จินยองพูดพร้อมมุดหน้าด้วยความอาย
“ไม่เอาแค่เมื่อคืนสิเวลาอยู่กับพี่แค่สองคนให้แทนตัวเองว่าหนู”
ตาเรียวจ้องหน้าจอโทรศัพท์มองไปที่รอยคิสมาร์กที่อยู่ทั่วลำคอขาวเนียนนั้นอิมแจบอมกระตุกยิ้มด้วยความชอบใจ
“เลิกยิ้ม
เลิกจ้องเดี๋ยวนี้เลยครับ” จินยองกลายเป็นลูกแมวขู่ฟ่อๆในโทรศัพท์
“งั้นก็เจอกันตอนเย็นนะคะหนู”
จินยองค้อนใส่ร่างหนาที่ยิ้มโชว์ฟันก่อนจะแลบลิ้นด้วยความหมั่นไส้
จินยองค่อยๆเดินออกจากอ่างกุชชี่
หยิบผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาไปที่ห้องแต่งโตเป็นเวลาสายมากๆไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกสาวของเขานั้นจะตื่นหรือยัง
เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อแขนยาวที่ปกปิดคอก่อนจะหยิบผ้าพันคอมาพันไม่ให้ใครเห็นรอยนี้มันน่าอายจะตาย
จินยองจัดการแต่งตัวตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมตัวที่จะลงไปด้านล่างแต่เดินสวนกับแม่นมจึงถามหาอิมเฮนา
“นมครับ
น้องอยู่ไหนเหรอครับ”
“ยังไม่ตื่นเลยค่ะ
นมว่ากำลังจะเดินไปเรียกนี่แหละค่ะ คุณจินยอง” นมหรือพี่เลี้ยงของเด็กหญิงบอก
“งั้นผมไปด้วยนะครับ”
นมพยักหน้าและให้จินยองเดินนำไปที่ห้องเจ้าหญิงของเด็กหญิงตัวน้อย
จินยองหยุดยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับเคาะประตูแต่ไร้สัญญาณเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กเขาจึงค่อยๆบิดลูกบิดอย่างเบามือเข้าไปในห้องพื้นหลังสีชมพูพาสเทลกับเตียงมุ้งออโรร่าเจ้าหญิงนินทราและอีกโซนเป็นของเล่นของเธอเอง
จินยองเดินเข้าไปหาเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียงพอเปิดมุ้งจะเรียกก็พบว่าอิมเฮนาและแมวสามตัวกำลังนอนเกยที่ไหล่ซ้ายและไหล่ขวา
อีกยังมีที่หน้าอกอีกตัวนอนซุกขดกลมเรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูกันกับภาพที่เห็น จินยองค่อยๆอุ้มเจ้าแมวสีเทาที่หลับปุ๋ยเมื่อคืนยังนอนที่เตียงแมวของตัวเองอยู่เลยเช้ามาก็มานอนที่ห้องนี้หรือไง
จินยองวางแมวไว้ข้างล่างเตียงและปลุกเจ้าหญิงน้อยที่นอนอยู่บนเตียงให้ตื่นจากการหลับไหล
“เอ...เจ้าหญิงจะตื่นหรือยังน้า”
จินยองแอบเห็นอิมเฮนาหรี่ตามองเขาแว่บหนึ่งพอเขาหันมาก็ทำท่าเหมือนหลับต่อ
“ว้าตื่นยากจริงๆด้วย
เดี๋ยวปูจะเริ่มไต่แล้วนะคะ” จินยองตั้งท่าสองนิ้วคว่ำลงกับพื้นเตียงพร้อมไต่ไปทางเด็กน้อยที่นอนอยู่
“คิก ๆ คุณม้า คิก คิก
หนูจั๊กกะจี๋ อ๊างงงง” เด็กน้อยงอตัวและกลิ้งไปบนที่นอน
“ไหนยอมลุกดีๆหรือยังคะ”
“ลุกแล้วค่า
คุณม้าขาวันนี้ไปไหนหรือเปล่าคะ” เธอทำหน้าอ้อนใส่เขา
“ไม่นะคะ
หนูอยากไปไหนหรอคะ” จินยองถามตอนแรกคิดจะปฏิเสธแต่พอเห็นแววตาอ้อนใจอ่อนยวบ
“หนูอยากไปไหนก็ได้กับคุณม้าค่ะ”
“งั้นก็ไปแต่งตัวกันเลยค่ะ”
เด็กหญิงคว้าผ้าเช็ดตัวลายคิตตี้วิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที
จินยองหันไปหัวเราะกับแม่นมของเจ้าหญิงตัวน้อย
เวลาไม่นานอิมเฮนาออกมาในชุดลายดอกสีชมพูอ่อนโดยสวมเสื้อแขนยาวทับไว้ลายเดียวกันกับชุดกระโปรง
ร่างเล็กเดินออกมาหาคุณม้าเพื่อเตรียมตัวที่จะออกไปเที่ยวด้านนอก
เฮนาสังเกตว่าวันนี้คุณม้าของเธอนั้นสวมเสื้อผ้ามิดชิดชนิดแทบที่ว่าเธอนั้นรู้สึกร้อนแทน
“คุณม้าขา
ทำไมถึงใส่เสื้อแขนยาวคลุมหมดเลยไม่ร้อนหรอคะ” จินยองแทบพ่นกาแฟเมื่ออิมเฮนาถามถึงเหตุผลที่เขาใส่ชุดเหมือนกับว่าฤดูนี้คือฤดูหนาว
“คือว่า...พอดีเป็นผื่นนะจ๊ะ
(พ่อหนูนั่นแหละทำ)” คำข้างหลังได้แต่ก่นด่าในใจ
“คันแย่เลยงั้นไม่ไปดีไหมคะ
ไม่อยากให้ผื่นของคุณม้ากำเริบ” เฮนาทำหน้าสลด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
มันไม่รุนแรง ทานข้าวเสร็จแล้วก็ไปกันเลยนะคะ” จินยองชี้ไปที่จานข้าวของเด็กน้อย
อิมเฮนาพยักหน้าและตักมันเข้าปาก
เสียงผิวปากเดินลงบันไดมาด้วยความเปี่ยมสุขของร่างสูงคิมยูคยอมเดินเข้ามาในห้องทานอาหารพร้อมนั่งโต๊ะตรงข้ามกับจินยองแม่บ้านเดินเอาอาหารมื้อเช้ามาเสิร์ฟให้ร่างสูงตรงหน้าเด็กหญิงที่เจื้อยแจ้วหันไปชวนคุณอาของเธอไปด้วย
“คุณอายูคยอมขา
พวกเราจะไปเที่ยวกันไปด้วยกันไหมคะ” จินยองเบิกตากว้าง
“ชวนคุณอาช้าไปแล้วครับวันนี้อามีธุระข้างนอก”
คิมยูคยอมว่า ทำให้จินยองถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“งั้นโอกาสหน้าไปด้วยกันนะคะ”
ยูคยอมยิ้มให้เฮนาก่อนจะเงยหน้ามองเขาที่ยืนหน้าหงิกอยู่โต๊ะอาหาร
“ถ้าคุณม้าเขาอนุญาตให้อาไปด้วยนะคะ
อาไปก่อนนะ” ยูคยอมเดินไปลูบผมหลานสาวก่อนจะคว้ากุญแจรถยนต์
เมอคาเดซ จีที คันสีเทาอ่อนที่จอดอยู่ขับออกไปที่ใดสักที่
จินยองเมื่อเห็นตัวปัญหาไปสักทีเขาจึงหยิบกุญแจรถที่ใกล้มือที่สุดก่อนจะจูงมือพาลูกสาวไปเที่ยว
รถยนต์บีเอ็มดับบิล
สีขาวขับไปตามถนนใหญ่เรื่อยๆโดยจุดมุ่งหมายที่จะไปนั่นก็คือสวนสนุกเอเวอร์แลนด์
จินยองขับรถไปจอดที่สถานีรถไฟซื้อตั๋วสถานี จอนแดน – เอเวอร์แลนด์
สาย ยองอิน เอเวอร์ไลน์
เด็กหญิงดูตื่นเต้นกับการนั่งรถไฟพบว่ามีหลายครอบครัวที่ไปกัน
พมาถึงสถานีเสร็จทั้งสองคนก็มานั่งรถบัสที่จะไปสวนสนุก
เมื่อตอนนี้ทั้งสองคนเดินมาถึงข้างหน้าทางเข้าของสวนสนุก เฮนาหวีดร้องด้วยความดีใจกระตุกมือคุณแม่เข้าไปข้างใน
โดยภายในสวนสนุกจะมีทั้งหมด 5 อย่าง Magic Land,
European Adventure, Zootopia , Lost Valley, Plantopia และในตอนกลางคืนจะมีขบวนงานเทศกาลต่างๆ
“คุณม้าขา
ไปที่นี่กันเถอะค่ะ” เธอชี้ไปที่ซูโทเปีย
ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี
“งั้นไปกันค่ะ” จินยองจูงแขนพาคนตัวเล็กเดินไปที่รถรับตามจุดต่างๆ
เมือถึงหน้าซูโทเปียก็เข้าไปในสวนสัตว์มีสัตว์โดยมีรสบัสสำหรับนั่งชมทำเอาอิมเฮนามองด้วยตาที่เป็นประกายที่สัตว์เหล่านั้น
“คุณม้าดูนั่นซี่คะ”
เธอชี้ไปที่เมียร์แคต ที่กำลังยืนสองขายืดคอดูอะไรสักอย่าง
“อ่า เมียร์แคตนี่เอง
ขอบหรอ”
“น่ารักดีค่ะ
น่าเอามาเลี้ยง” จินยองยิ้มให้กับเด็กน้อยแต่ถ้าเอาจริงคิดว่าควรหยุดก่อนแค่แมวก็วุ่นวายแล้วมีเมียร์แคตในบ้านอีกตัวแม่บ้านคงนั่งร้องไห้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
มันเลี้ยงในบ้านไม่ได้ค่ะ มันเป็นสัตว์ป่า”
“ว้า เสียดายจังเลยค่ะ
สิงโตนั่นน่ารักจังค่ะ เชื่องด้วยถ้าหนูขอป๊ะป๊าจะยอมไหมคะ มันเหมือนแมว” เด็กหญิงเจื้อยแจ้วเรื่อยเปื่อย
“มันอยู่ที่สวนสัตว์ดีแล้วค่ะ”
รถพาชมไปเรื่อยๆจนถึงทางออกของซูโทเปีย
จินยองเลยพาลูกสาวไปที่ยูโรเปี่ยนเอดเวนเจอร์ เล่น ทีเอ็กเพลสโดยลูกสาวเป็นคนชวนเล่นจินยองถึงกับเหงื่อแตกเมื่อเดินไปที่เครื่องเล่นรถไฟเหาะ
จินยองกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกเด็กหญิงนำคุณแม่ไปที่เครื่องเล่นพร้อมรัดเข็มขัดเรียบร้อย
เอาวะ
อย่าไปกลัว... จินยองพูดให้กำลังใจตัวเอง
ครืด ด ด ด ด ด
เฮือกกกก
เคลื่อนแล้ว มันเคลื่อนแล้ว ฮื่อ
เครื่องกำลังทำงานไปข้างหน้าก่อนจะหยุดชะงักตรงทางดิ่งจินยองจับมือลูกสาวแน่น
ความจริงมันควรสลับกันแต่เป็นอันว่าอิมเฮนานั่นกรี๊ดแต่ไม่กลัวเลยด้วยซ้ำพอเครื่องปล่อยลงไป
จินยองแหกปากกรี๊ดสุดเสียงทำเอาเฮนาขำกลิ้ง พอลงจากเครื่องเล่นเสร็จอิมเฮนาเห็นคุณแม่ของเธอหน้าซีดจึงพาไปนั่งม้านั่งเพื่อพักก่อนเด็กหญิงให้คุณแม่นั่งก็ขอตัวเดินไปซื้อน้ำและของกินเพื่อให้จินยองดีขึ้น
“คุณม้าโอเคไหมคะ”
จินยองพยักหน้า
ตอนแรกคิดว่าเด็กหญิงจะเล่นม้าหมุนหรือชิงช้าสวรรค์แต่กลับไม่ใช่กลายเป็นเครื่องเล่นหวาดเสียวแทน
“งั้นไปด่านต่อไปเลยค่ะ”
จินยองสูดลมหายใจเล่นเป็นเพื่อนอิมเฮนาถึงแม้ตัวเองนั้นจะกลัวความสูงก็เถอะ
“ไหวแน่นะคะ” จินยองยกมือทำท่าโอเค เต็มที่เลยลูก
ก่อนเด็กหญิงจะจูงมือคุณแม่ไปทางเครื่องเล่นอีกทางซึ่งนั่นก็ไม่ต่างจากเครื่องเล่นอันแรกสักเท่าไหร่
จินยองเห็นเด็กน้อยที่ต้องคอยลูบหลังเขาจนเธอตัดสินใจให้คุณแม่ไปนั่งพักและเธอเดินไปเล่นอีกครั้ง
เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงบ่ายสามโมงตอนนี้กำลังกลับกันจินยองพาเด็กน้อยไปซื้อของที่ระลึกซึ่งเป็นร้านตุ๊กตาเด็กน้อยเดินดูด้วยความสนใจไม่น้อย
จนมาเจอกับตุ๊กตาน่ารักตัวนี้เธอชี้และหันมาหาจินยอง
“อยากได้ตัวนี้เหรอคะ”
จินยองถาม น้องพยักหน้าเจ้าตัวจึงหยิบใส่ตะกร้า
“อันนี้อีกได้ไหมคะ
แบ่งกันกอดตัวนี้ของหนูส่วนตัวนี้ของคุณม้า” จินยองมองตุ๊กตาพีชในมือลูกสาวและลูกสาวก็ยื่นตุ๊กตาแมวให้เขา
“ขอบคุณนะคะ
งั้นเราไปจ่ายเงินดีกว่าเนาะ”
“โอเคค่า” เฮนาเดินนำหน้าเธอไปที่เคาน์เตอร์คิดเงิน
อิมเฮนาเดินยิ้มกอดตุ๊กตาออกจากร้านด้วยท่าทางมีความสุขวันนี้เธอได้มาเที่ยวกับคุณม้าถือว่าวันนี้เธอมีความสุขที่สุดเลย
จินยองจูงมือเล็กไปที่ซัทเทิลบัสไปยังสถานีรถไฟเพื่อกลับบ้านกันเมื่อถึงสถานีรถไฟเมื่อเจอแอร์เย็นของเครื่องปรับอากาศเด็กน้อยใช้หัวพิงคุณม้าของเธอก่อนจะกดปิดปุ่มสวิตท์ในตัวและหลับไปทันที
กลิ่นหอมของสวนดอกไม้เยอบีร่าบนเขาลูกหนึ่งในต่างจังหวัด คิมยูคยอมใช้เวลาในการขับรถมาถึงช่วงเย็นเขาเดินไปที่เนินเขาซึ่งเป็นหลุมศพของ อิม เฮรา ร่างสูงเดินนำดอกไม้ไฮเดรนเยียร์เป็นช่อมาวางไว้ที่หน้าหลุมศพ
“พี่เหงาหรือเปล่า...ผมขอโทษที่ไม่ได้มาหาเลยนะครับ”
ยูคยอมมองแผ่นสลักชื่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“ผมทะเลาะกับพ่ออีกแล้ว...แต่ครั้งนี้ไม่มีพี่ให้กอดเหมือนที่ผ่านมา
พี่คิดถึงเจ้าเด็กโย่งคนนี้ไหม” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองฟ้าไม่ให้น้ำตาไหลหยดลงมา
7 ปีก่อน
ร่างเล็กของยุน
เฮราที่เดินด้วยใบหน้าแต้มยิ้มเดินมาหาน้องชายคนสนิทของเธอที่นั่งอยู่ที่สวนหลังบ้าน
เธอเดินเข้ามาตบไหล่เขาด้วยท่าทางมีความสุข
ยูคยอมชอบมองเวลาที่เฮรายิ้มมันเหมือนเขากำลังมองดวงดาวที่กำลังสุกสกาวอยู่บนท้องฟ้า
“นี่ ยูคพี่มีข่าวดีจะบอกเรา”
“อะไรครับ?” เธอยิ้มและยื่นที่ตรวจครรภ์ให้กับเขา
เขาเพิ่งรู้คำว่าใจสลายมันเป็นยังไงเขามองที่ตรวจครรภ์ในมือตัวเองราวกับว่าไม่มีทางที่ยุน
เฮรา
จะหันมามองเขาในเมื่อตอนนี้เธอกำลังจะมีลูกกับคนที่เธอรักนั่นคือลูกพี่ลูกน้องของเขา
“ดีใจใช่ไหม จะมีหลานแล้วน้า”
“ยินดีด้วยนะครับ”
ยูคยอมบอกเสียงสั่น
“พี่ว่าจะบอกแจบอมดีไหม
เขาจะดีใจหรือเปล่า แต่พี่กับเขายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะ เขาจะ..” เธอกลัวว่าอิมแจบอมแฟนของเธออาจจะไม่ได้ดีใจอย่างที่เธอเป็น
“บอกสิครับ
พี่แจบอมคงจะดีใจไม่น้อยเหมือนกัน” อยากให้เรื่องในตอนนี้เป็นแค่ความฝัน...เขาอยากตื่น
ตื่นจากฝันร้ายนี่สักที เขามองเธอเดินเข้าไปหาคนรัก ยุนเฮรา
ยื่นที่ตรวจครรภ์ให้กับแฟนหนุ่มของเธอ
อิมแจบอมยื่นนิ่งก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามากอดด้วยความดีใจที่กำลังจะเป็นพ่อคน
เขามองภาพที่เห็นเต็มไปด้วยความยินดีและความเสียใจปะปนกัน
แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องร้ายกับเธอขึ้นเมื่อยุนเฮรานั้นท้องได้ 3 เดือน
ก็เจอกับโรคร้ายเมื่อมะเร็งกำลังจะพรากเธอไปจากทุกคนเมื่อพบว่าตอนนี้เชื้อมะเร็งกำลังจะลุกลามต้องให้คีโมเธอแต่เนื่องจากเธอกำลังตั้งครรภ์ทำให้ไม่สามารถให้ได้นอกจากเธอจะต้องนำเด็กออกเพื่อรักษา
“ทำไมพี่ไม่เอาออก
พี่ไม่รักชีวิตพี่หรือไงวะ”
“รักสิ
ยูคยอมพี่รักแต่พี่ไม่สามารถทำร้ายลูกของพี่ได้” เธอร้องไห้
“ทำไมพี่แจบอมไม่ให้เธอเอาเด็กนี่ออก
รู้ไหมมันกำลังจะพรากเธอไป!!” ยูคยอมกระชากคอลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง
“พี่ทำไม่ได้มันคือคำขอของเฮรา”
แจบอมตอบไปด้วยน้ำตาไม่ต่างกันเขาก็ไม่อยากเสียเธอไปเหมือนกันแต่งงานได้แค่
2 เดือนก็ต้องพบกับเรื่องร้ายๆ
“แม่งเอ้ย!!” ยูคยอมโมโหสุดขีดที่ตัวเองนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อคนที่เขารักและบูชาเหมือนกับแม่ได้
“ยูคยอม ฟังพี่นะ
พี่ไม่เป็นไรหรอกพี่รู้ว่าเราห่วง” มือบางที่ไร้เรี่ยวแรงกุมมือหนาของยูคยอมเอาไว้
“...”
“อย่าโกรธแจบอมเลยนะ แล้วก็อย่าโทษตัวเองรู้ไหมเด็กดี” เธอลูบมือน้องชายคนสนิทอย่างเบามือ ยูคยอมไม่ตอบก่อนที่เธอจะนอนหลับไปเพราะฤทธิ์ยา อาการของยุนเฮราที่พยายามพยุงร่างกายให้สู้กับโลกร้ายนั้นเกือบเก้าเดือนเต็มๆ ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป
ตอนนั้นเขาแทบทานอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำไม่ต่างจากอิมแจบอมหลังจากเสร็จงานศพของยุนเฮราก็เอาแต่ดื่มเหล้าและหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน
การจากไปของยุน เฮรานั้นทำเขากลายเป็นโรคซึมเศร้า...
ยูคยอมนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอันน่าเจ็บปวดของตัวเอง
ก่อนจะใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาทิ้งเขามองไปที่รูปภาพที่เธอยิ้มนั้นไม่ว่าอย่างไรยิ้มของยุน
เฮรานั้นก็มีความสุขเสมอ
“ผมกลับก่อนนะครับ
แล้วพบจะมาหาใหม่” ยูคยอมพูดหน้าหลุมศพเหมือนกับว่าเธอรับรู้ก่อนจะมีลมเย็นเข้ามาปะทะร่างหนา
เขาส่งยิ้มให้กับหลุมศพของหญิงสาวอีกครั้งจากนั้นก็หันหลังเดินลงเนินเขาไปที่รถยนต์ที่จอดไว้
จินยองขับรถขับมาในบ้านหลังโตเขาขับเข้ามาจอดในโรงจอดรถ
เขาค่อยปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นจากการนอนหลับท่าทางเพลียๆของเธอทำเอาจินยอ
อดเอ็นดูไม่ได้เธออุ้มตุ๊กตาสองตัวเดินกอดเข้ามาในบ้านจินยองจึงให้แม่นมพาเฮนาไปนอนใกล้ถึงเวลากินข้าวแล้วค่อยขึ้นไปปลุก
“หนูไปไหนมาหรอคะ ฟอด”
อิมแจบอมฟัดแก้มนิ่มของคนรักของตัวเองต่อหน้าแม่บ้านทำเอาแขนเรียวฟาดเข้าที่ต้นแขนโดยความโกรธ
“ประเจิดประเจ้อนักนะครับ
ไม่ต้องมานงมาหนูกับผมเลย” อิมแจบอมหรี่ตามองก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของน้อง
“พี่ขา...แรงๆสิคะ
หนูไม่ไหว” เขาบีบเสียงพูดใส่หูเล็กจนจินยองเขินหน้าแดงตัวแดงไปหมด
“ย่าห์ อิมแจบอม” ร่างน้อยเดินกระทืบเร่าๆเดินออกไปจากตรงนี้
เขาหัวเราะในลำคอที่แกล้งคนตัวเล็กได้
ปาร์ค
จินยองเดินหัวเสียเข้ามาในห้องทั้งโกรธและทั้งเขินคนบ้าอะไรได้ทีแล้วแกล้งเขาเข้าไปใหญ่
ไอ้รอยบ้านี่อีกไม่รู้กี่วันถึงจะหาย
จินยองเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อไปอาบน้ำแต่ทว่าอยู่ดีๆ
ก็ถูกผ้าของใครบางคนผูกเข้าที่ตาคงจะหนีไม่พ้นคุณอิมสินะ
เขาพยายามแกะแต่โดนรั้งมือไว้ข้างหลัง
“เล่นบ้าอะไรของคุณอีกเนี่ย”
“อาบน้ำด้วยคนค่ะ”
ร่างหนากระซิบเข้าที่ใบหูก่อนจะงับติ่งหูเบาๆ ทำเอาจินยองขนลุกซู่
“อาบน้ำแล้วทำไมต้องปิดตาด้วยเล่า
ปล่อยเลยนะครับ อื้อออ”
จินยองถูกดึงเข้าไปในห้องน้ำริมฝีปากหนาจู่โจมอย่างรวดเร็ว
จนน่าตกใจกำปั้นเล็กทุบที่หน้าอกหลายทีเพื่อให้ริมฝีปากถูกปล่อยเป็นอิสระ
นี่เขาดูหนังเรื่องฟิฟตี้ เชด ออฟ เกรย์มากไปหรือเปล่า
“อึก แฮ่ก ๆ ๆ” ริมฝีปากอิ่มถูกปล่อยเป็นอิสระ
มือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงยีน มืออีกข้างกดแขนไปข้างหลัง มือรูดซิบลงช้าๆ
เกือบครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำและการต่อสู้กับอาการรบเร้าแทะโลมเขาทีละนิดอย่างไม่รู้จบ
คิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่เนี่ย
อิมแจบอมจูงมือบางไปห้องลูกสาวที่ห้องนอนเพื่อปลุกมากินข้าว
อิมเฮนากอดตุ๊กตาพีชหลับตาพริ้มบนที่นอนเจ้าหญิงของตัวเอง
อิมแจบอมรู้สึกดีที่ว่าจินยองนั้นสามารถดูแลลูกสาวแทนเขาได้แทบเฮนายังรักมากกว่าเขาอีกด้วยมั้งอะไรก็คุณม้า
คุณม้า
“คนเก่งตื่นได้แล้วครับ”
อิมแจบอมปลุกลูกสาวให้ตื่น
“หื่อออ
ถึงเวลาทานข้าวแล้วเหรอคะ”
“ครับ
ได้เวลาแล้วครับเดี๋ยวคุณย่าจะบ่นนะคนเก่ง” เฮนายืดแขนให้พ่อเป็นคนดึงเธอให้ลูกขึ้นนั่ง
ก่อนที่เธอจะเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้มันสดชื่นขึ้น
ทั้งสามคนเดินลงมาทานข้าวเย็นข้างล่างโดยวันนี้แม่บ้านทำอาหารอิตาเลี่ยนมีชุดสเต็ก
และสลัดเพราะตอนนี้คุณหญิงจียอนกำลังลดน้ำหนักเพื่อออกงานเครื่องเพชรในเดือนหน้า
จียอนมองหาหลานชายเพราะว่าไม่เห็นลงมากินข้าวเย็น
“นมจ๊ะ
ยูคยอมยังไม่กลับมาอีกเหรอ”
“ยังเลยค่ะ
คุณหญิงเห็นออกไปตั้งแต่กลางวันแล้วนะคะ”
“งั้นก็เก็บส่วนที่เหลือไว้ให้เขาด้วยแล้วกันนะเผื่อเขากลับมา”
“ได้ค่ะ” แม่นมยูอีพยักหน้าก่อนจะขอตัวไปดูแลส่วนอื่นๆของบ้าน
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จจินยองก็ได้รับข้อความจากหัวหน้าของพนักงานต้อนรับติดต่อมาเรื่องการชั่วโมงบินจากตารางที่ส่งมาทางไลน์ทำเอาจินยองหันไปหาคนที่เป็นต้นเหตุก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้าด้วยท่าทางเอาเรื่องไม่น้อย
“มันหมายความว่ายังไงครับ
ทำไมตารางการบินของผมมันไม่มีเลยล่ะ” จินยองฉุน
“ก็หมายความตามที่เห็นนั้นแหละค่ะ
ความจริงเราไม่ต้องทำงานอยู่ที่นี่ก็มีเงินเดือนให้นี่คะ” แจบอมว่าแต่ท่าทางครานี้จินยองโกรธจริง
“ไม่เกี่ยวครับ
ถึงผมจะเป็นแฟนคุณแต่ผมก็ต้องได้สินี่มันงานของผมนะ”
“คนอื่นๆเขาหวังให้ฉันเลี้ยงแต่ทำไม...”
“ขอโทษทีนะครับที่ผมไม่เหมือนคนของคุณที่ผ่านๆมา
งานของผมตรงนี้คือจุดยืนเดียวของผมถ้าวันใดวันหนึ่งคุณเจอใครที่ดีกว่า...”
“ยังคิดว่าฉันไม่จริงจังกับนายอีกหรอ
ปาร์ค จินยอง” ใบหน้าคมฉายแววผิดหวังออกมา
จินยองเหมือนรู้ตัวว่าตัวเองกำลังพูดไม่คิดเพราะความโกรธ
“เอ่อ ผมขอโทษ
แต่คุณทำแบบนี้มันก็ไม่ถูกอ้ะ”
“งั้นฉันจะให้คุณยูจัดตารางให้ใหม่ละกัน”
อิมแจบอมฉายใบหน้านิ่ง
“นี่คุณจะมาโกรธผมไม่ได้อ่ะ
คุณไม่ปรึกษาผมอ่ะ คุณ”
ปังง...
เสียงปิดประตูห้องน้ำเสียงดังแสดงถึงว่าตอนนี้เขากำลังงอน งอนหนักมากด้วย อิม
เฮนาที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องกระพริบตาปริบๆ
ไม่แน่ใจว่าตอนนี้คุณป๊ากับคุณม้าของเธอนั้นทะเลาะอะไรกัน เธอเดินเข้ามาในห้องนอนเงียบๆอุ้มตุ๊กตาพีชมานั่งแมะอยู่ที่เตียง
“อ้าว มาแล้วเหรอคนดี”
จินยองยิ้มให้กับเด็กน้อย
“เอ่อ
คุณม้ากับคุณป๊าทะเลาะกันหรือเปล่าคะ” เธอถามคนตรงหน้าด้วยแววตาใสซื่อ
“ไม่ใช่ค่ะ
ไม่ได้ทะเลาะกัน” จินยองปฏิเสธ
แต่ความจริงแล้วเรียกว่าทะเลาะกันนั้นแหละ
“งั้นเหรอคะ อ๊ะ คุณป๊าขา”
แจบอมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าทะมึนทึงแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มเมื่อเจอลูกสาว
“มานอนได้แล้วค่ะ คนดี”
อิมแจบอมเดินไปที่เตียง เด็กน้อยรีบไปนอนประจำที่ของตัวเอง
“คุณป๊าขากอดหนูหน่อย
คุณม้าด้วย” เด็กหญิงลอบยิ้ม อิมแจบอมโอบลูกสาวโดยมีจินยองโอบอีกฟากหนึ่ง
“ใกล้ๆหนูหน่อยซี่ แบบนี้”
เธอกุมมือหนาของคุณพ่อมาวางบนมือของคุณม้า
หวังว่าเธอคงช่วยได้เท่านี้แหละน้า
“นอนได้แล้วค่ะ เด็กดี”
“ฝันดีนะคะ ทั้งสองคนเลย”
แจบอมปิดไฟที่รีโมททุกอย่างในห้องมีเพียงแต่ความมืดจินยองเมื่อเห็นว่าเฮนานั้นนอนไปเรียบร้อยก็จะเอามือออกแต่ทว่ามือหนากุมไว้แน่นไม่ยอมจะส่งเสียงดังก็กลัวว่าเด็กน้อยจะตื่นจึงยอมให้กุมแม้ว่าจะเคืองอยู่ก็ตาม
แสงแดดลอดผ่านม่านหน้าต่างจำต้องทำให้จินยองนั้นต้องงัวเงียตื่นขึ้นมา
มืออีกข้างหนึ่งยังคงถูกอิมแจบอมนั้นกุมทั้งคืนจนถึงเช้าร่างบางพยายามแกะมือหนาที่เกาะกุมออกไปราวกับมือตุ๊กแก
พอจัดการนำมือของคนตัวโตได้สำเร็จเจ้าตัวมองนาฬิกาเป็นเวลาเกือบ 7 โมงเช้า
จินยองลุกออกจากที่นอนมุ่งตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวไปข้างนอก
ร่างเล็กก้าวยาวลงไปข้างล่างแม่บ้านกำลังเตรียมข้าวต้มให้กับเจ้านายที่กำลังนอนอยู่ข้างบน
เขาเดินผ่านไปที่โซฟาก็พบกับร่างสูงของยูคยอมที่นอนหลับที่โซฟาในท่าที่หมดสภาพและกลิ่นเหล้าคลุ้งไปหมด
หัวหน้าแม่บ้านและคนอื่นๆเดินเข้ามาเพื่อจะพาคนไร้สติไปนอนที่ห้องของตัวเอง
“ให้ผมช่วยไหมครับ”
จินยองเดินเข้าไปประคองคนตัวโตให้ลุกยืนร่างหนาทิ้งน้ำหนักลงที่เขาจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่
จินยองและป้าแม่บ้านคนอื่นๆช่วยกันประคองยูคยอมขึ้นบันไดด้วยความยากลำบาก
พอขึ้นบันไดเสร็จจินยองให้แม่บ้านช่วยเปิดประตูส่วนเขานั้นจะเป็นคนแบกเข้าไปเอง
“ขอบคุณนะคะคุณจินยอง
ป้าขอตัวไปเตรียมอาหารให้คุณหญิงกับคุณผู้ชายก่อนนะคะ”
“ครับ
ตรงนี้ผมเป็นคนจัดการเอง”
หลังจากที่แม่บ้านเดินไปทำหน้าที่ของตัวเองจินยองสูดลมหายใจแบกร่างสูงไปที่เตียงก่อนจะนับ
1 2 3
และโยนคนตัวหนาลงเตียงแต่จู่ๆคนที่ไม่ได้สติก็ยื่นมือมาคว้าข้อมือไว้ทำให้เขาตกใจพยายามสะบัดออกแต่ไม่เป็นผล
“ผมคิดถึงพี่
พี่มาหาผมเพราะเป็นห่วงใช่มั๊ย” ยูคยอมจ้องมองใบหน้าของจินยองด้วยแววตาพริ้มมือหนาลูบแก้มนิ่มชวนน่าขนลุก
“ผมไม่เคยลืมพี่เลยนะ
ทำไมตอนนั้นถึงไม่เป็นผม”
“ยูคยอม ตั้งสติ
นี่จินยอง ปาร์ค จินยอง” จินยองเน้นย้ำชื่อของตัวเองให้คนที่เมาไร้สติได้พอได้สติบ้าง
ปรากฏว่าได้ผลเมื่อยูคยอมนั่นนิ่งเงียบไป
“จินยอง...ฉันขอโทษ
ตอนนั้นมันดีจริงๆแต่เป็นเพราะฉันลืมเขาไม่ได้ ฮึก ขอโทษ” จินยองรู้สึกแปลกๆ
พอหันไปทางขวามือที่โต๊ะมุมก็ต้องเห็นภาพหญิงสาวที่ใบหน้าคล้ายตัวเอง
ครั้งนี้เขามองชัดมีบางอย่างที่คล้ายกับเขาราวกับแฝดแต่เขากับเธอนั้นไม่ใช่พี่น้องหรือญาติกัน
เพราะเขาไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาหน้าตาคล้ายภรรยาคุณอิมถึงเก็บเข้าไว้เพื่อเป็นตัวแทนของเธอ
“ไม่หรอก...” จินยองพูดกับตัวเองในใจ เขาไม่โอเคเลยที่ต้องเป็นตัวแทนของใครสักคนหนึ่ง
ถ้าเป็นแบบนั้นเขาเลือกที่จะเดินจากไปยังดีกว่าอยู่เป็นตัวแทนของใคร
แต่เขาเชื่อในคำพูดของอิมแจบอมที่เคยพูดไว้
ว่าไม่ได้ชอบที่หน้าตาเหมือนภรรยาแต่ชอบตรงที่นิสัยแม้คราแรกนั้นจะสะดุดกับหน้าตาของเขา
ส่วนคิมยูคยอมเขาหายข้องใจกับการหายไปของยูคยอมตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วด้วยซ้ำ
แต่ความทรงจำตอนนั้นที่คบกับเขายอมรับว่าจินยองมีความสุข
จินยองคงจะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำที่ดี
“เมาก็นอนไปซะจะให้คนมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้”
จินยองมองร่างหนาที่นอนเหมือนคนหมดสภาพได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนร่างบางหันไปปิดประตูก็ต้องชะงักเมื่ออิมแจบอมยืนอยู่หน้าห้องและมองเขาที่กำลังออกจากห้องของลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอยู่ด้วยแววตาที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น
“เอ่อ...” จินยองกำลังจะพูดแต่นึกขึ้นมาได้ว่าโกรธอยู่จึงเดินไปห้องอิมเฮนาโดยไม่สนใจอิมแจบอมเลยสักนิด
เขาใช้หลังมือเคาะประตูเพื่อเป็นสัญญาณที่จะเข้าไปในห้องสามทีก่อนจะมีเสียงเล็กๆตอบรับกลับมาด้วยความร่าเริง
“เข้ามาเลยค่า”
จินยองยิ้มให้กับเด็กหญิงวันนี้อิมเฮนาอยู่ในชุดวอมของโรงเรียนชั้นประถม
ผมยาวสยายถึงกลางหลังคนตัวเล็กเดินมานั่งที่หน้ากระจกเพื่อให้คุณม้าของเธอนั้นทำผมให้ตัวเอง
“วันนี้ทรงไหนดีคะ”
จินยองถาม เฮนาทำหน้าคิดเล็กน้อย...
“เอาทรงมัดรวบก็ได้ค่ะ
วันนี้น้องมีกีฬา”
“งั้นมัดรวบนะคะ” จินยองหยิบหวีมาสางผมให้ลูกเลี้ยงด้วยความแผ่วเบา
ก่อนจะใช้หวีและมือรวบผมยาวสลวยของเธอขึ้นไปจนเสร็จเรียบร้อยจากนั้นจินยองก็หยิบโบว์ผูกผมสีน้ำเงินมาผูกให้กับเฮนา
“คุณม้าทำผมเก๊งเก่ง ลงไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะน้องหิวแล้ว”
จินยองจูงมือเล็กของอิมเฮนาเดินลงบันไดเข้าไปห้องอาหารทุกคนกำลังนั่งทานข้าวต้มกุ้งอยู่
จินยองค่อยๆจูงมือพาเฮนาไปนั่งที่โต๊ะ
พอนั่งเสร็จคุณหญิงอิมจียอนสังเกตสิ่งผิดปกติบางอย่างได้เพราะเธอนั้นเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้วทั้งนั้นดูท่าว่าลูกชายกับว่าที่สะใภ้ของเธอคงจะงอนกันตามประสาหนุ่มสาว
ตาลูกชายของเธอนั่นก็นั่งนิ่งทานขนมปังกับกาแฟ
ส่วนจินยองก็ไม่สนใจนั่งทานและคุยกับหลานของเธอแทนเห็นทีว่าในอนาคตลูกคงดกน่าดูถ้างอนกันขนาดนี้
“คุณปู่ขา คุณย่าขา
หนูไปโรงเรียนก่อนนะคะ” เด็กหญิงโค้งตัวทำความเคารพลาผู้ใหญ่ทั้งสองคนด้วยความนอบน้อม
“ตั้งใจเรียนนะลูก
ไหนให้ปู่หอมหน่อยสิ” อิม
ยองอุคกดริมฝีปากหนาที่แก้มกลมของหลานสาว
“คิกๆ จั๊กกะจี๊ค่ะ คิกๆ”
เด็กน้อยหัวเราะเมื่อตอหนวดของคุณปู่นั้นทิ่มแก้มของเธอ
“โกนได้แล้วนะคะคุณน่ะ
เดี๋ยวหลานไม่ให้กอดก็มางอนอีก” คนเป็นย่าว่าให้สามี
“คงงั้นแหละนะ” ยองวุคเห็นด้วยกับภรรยา
สองปู่ย่าพากันไปส่งหลานสาวกันที่รถโดยมีจินยองนั่งไปด้วยเพราะวันนี้เขาว่าจะเข้าไปที่บริษัทการบินพร้อมกับอิมแจบอมด้วย
วันนี้เด็กน้อยน่าจะดีใจเป็นพิเศษที่ว่าคุณม้าของเธอนั้นมาส่งโรงเรียนด้วยครั้งแรกคนตัวเล็กระหว่างอยู่ในรถก็ฮัมเพลงที่คุณป๊าเปิดอย่างมีความสุข
เรียกรอยยิ้มให้กับผู้ใหญ่ทั้งสองแม้ว่าจะงอนกันก็ตามที
รถยนต์ออดี้คันสีดำจอดอยู่หน้าโรงเรียน
จินยองเปิดประตูรถเดินลงไปส่งเด็กน้อยถึงหน้าโรงเรียน
“ตั้งใจเรียนนะคะเด็กดี”
“ขอบคุณที่มาส่งหนูนะคะ
จุ๊บ” เด็กหญิงกระโดดจุ๊บแก้มคุณม้าของเธอตอนที่จินยองนั้นกำลังก้มลงจัดสายกระเป๋าให้
ก่อนเธอจะอายม้วนเดินเข้าโรงเรียนไป
จินยองยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กน้อยจะว่าไปเขาหลงเฮนาไม่น้อยไปกว่าครอบครัวนี้เลยด้วยซ้ำ
จินยองรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นแม่คนทั้งที่ตัวเองไม่เคยมีลูกด้วยซ้ำ
เขินเขินแฮะ
ร่างเล็กกลับหันหลังไปที่รถพร้อมกับปรับโหมดเงียบขรึมคีพลุคด้วยความงอน
รอยยิ้มเมื่อกี้หายไปราวกับสั่งได้มือเรียวเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งภายในรถมีเพียงเสียงเพียงคลอเบาๆ
วันเวลาเหล่านี้เหมือนกับว่าคุณเป็นของฉัน
เหมือนเป็นของฉันแต่มันไม่ใช่
มันเหมือนกับว่าฉันเป็นของคุณ
เหมือนฉันเป็นของคุณแต่ก็ไม่ใช่
แล้วเราเป็นอะไรกันหละ
ฉันสับสนแล้วนะ
อย่าหายจากฉันไปเลยนะ
(SOME
– SOYOU)
ระหว่างที่นั่งนิ่งฟังเพลงที่เปิดภายในรถนั้น
จินยองกำลังยิ้มอยู่...สักพักหนึ่งรถก็ขับเข้าไปจอดเลียบข้างถนน
อิมแจบอมนั่งนิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
มือหนาเข้ากอบกุมมือบางของคนรักด้วยความแผ่วเบา
แจบอมสาบานว่าไม่เคยง้อใครมาก่อนที่ง้อก่อนเพราะเขานั้นไม่อยากเสียคนตรงหน้าไปเพราะลูกสาวของเขานั้นก็รักจินยองเหมือนกับแม่แท้ๆชองตัวเองเหมือนน้องมาเติมส่วนที่ขาดของคำว่าครอบครัว...คงยากถ้าเขาจะใช้ถิฐิของตัวเองแล้วปล่อยให้น้องโกรธต่อไปจึงเปิดเพลงง้อตั้งแต่น้องเข้ามานั่งในรถ
มือหนาที่กุมอยู่นั้นแจบอมหันมาเอ่ยคำๆนั้น
“พี่ขอโทษได้ไหมครับ
ต่อไปจะไม่ทำอะไรตามใจตัวเองแล้ว” จินยองเหลือบมองก็ต้องใจอ่อนยวบเพราะอิมแจบอมทำหน้ารู้สึกผิดจริงๆ
“ผมก็ต้องขอโทษพี่ด้วยเหมือนกันครับ
ผมเข้าใจว่าพี่ไม่อยากใหผมเหนื่อยแต่ผมรักงานตรงนี้” จินยองใช้คำพูดที่ดีโน้มน้าวจิตใจคนรักของตัวเอง
“เข้าใจแล้วครับ
งั้นไปที่ทำงานพี่ก่อนแล้วเราค่อยขับรถไปหาเพื่อนก็แล้วกัน”
“โอเคครับ”
เมื่อรถออดี้จอดอยู่หน้าบริษัท
จินยองเดินลงจากรถเพื่อเปลี่ยนจากคนนั่งเป็นคนขับร่างบางโบกมือให้อิมแจบอมก่อนจะขับรถไปหาเพื่อนตอนแรกเขานั้นกะจะเข้าไปที่บริษัทเพื่อเปลี่ยนตารางงานแต่ตอนนี้หวังว่าอิมแจบอมคงจะทำให้เรียบร้อย...
ภายในห้องทำงานอิมแจบอมหยิบเอกสารตารางงานของพนักงานต้อนรับสายการบินออกมาปรับตารางงานให้ทุกคนแต่เขาจะให้จินยองออกบินน้อยที่สุด(ยิ้มร้าย)
ร่างหนาปรับแก้ตารางงานแล้วส่งไปให้คนที่ทำหน้าที่นี้ต่อ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้แจบอมเงยหน้าจากกองเอกสารต่างๆมองไปที่ประตู
ทั้งมาร์คและแจ็คสันยืนยิ้มแฉ่งที่หน้าประตูก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมเอ่ยทักแทบไม่ได้เจอกันด้วยซ้ำ
เพราะเขาบินบ่อยจนวันนี้วันหยุดจึงกะจะมาชวนเพื่อนรักทานข้าวเที่ยงแต่ทว่าเห็นสีหน้าของเพื่อนนั้นจะดูเครียด
“เครียดไรของมึงเนี่ยไอ้แจบอม”
มาร์คทัก
คิ้วขมวดเป็นปมขนาดนั้นบอกไม่เครียดจะเอาแฟ้มเคาะกระบาลเข้าให้
“ก็นิดนึง”
“ทะเลาะกับน้องจินยอง”
แจ็คสันหยั่งเชิงถามพร้อมดูปฏิกิริยา...เขาเดาถูกจริงๆด้วยทำไมหวยไม่เดาถูกบ้างหว่า
“เออ แต่ตอนนี้ดีกันแล้ว”
“ดีกันแล้ว...แล้วมึงจะทำหน้าเศร้าหาหอกไรละ”
มาร์คไม่เข้าใจ
“กูไม่อยากให้น้องทำงานว่ะ
กูเลี้ยงของกูได้ตลอดอ่ะเงินเดือนกูให้ก็ได้” แจบอมระบายกับเพื่อน
“มึง
น้องเขายังเด็กเขาก็อยากหาประสบการณ์ให้ตัวเองมึงจะให้เขาอยู่กับมึงตลอดหรือไง
น้องเขา 24 มึง 44” มาร์คกัดเพื่อนว่าหน้าแก่ก่อนจะโดนแฟ้มเอกสารขว้างใส่
“44 บ้านมึง 34 ไอ้สัส ด่ากูช่วยลบรอยตีนกาที่หน้ามึงด้วย ยิ้มทีนี่กูนับแทบไม่ได้”
จากนั้นสงครามการด่าทอก็เกิดขึ้น
“ได้
น้องจินยองก็ใช่ย่อยเหมือนกูนั่นแหละ”
“อย่าว่าน้องจินยองของกู....”
จากนั้นก็เถียงกันยืดยาว
แจ็คสันที่นั่งฟังก็เริ่มรำคาญก่อนจะโพลงเสียงดังออกมาให้หมาสองตัวหยุดกัดกันก่อนที่เขานั้นจะเป็นบ้า
“จะเถียงกันทำไมวะ เพื่อนกันทั้งนั้นนี่จะชวนมาแดกข้าวไม่ได้ชวนให้พวกมึงมาทะเลาะกัน”
แจ็คสันถอนหายใจเมื่อมาร์คกับแจบอมเหมือนเด็กสามขวบที่งอนกันเรื่องแย่งอมยิ้ม
34 แล้วนะพวกมึงงอนกันเป็นเด็กไปได้ไอ้ชิบหาย
“เออ ดีกันก็ได้โว้ย”
มาร์คว่าก่อนจะหันมาจับมือและคล้องคอกัน
“ดีก็ดีจ้า”
“ส่วนมึงกูมีวิธีถ้าไม่อยากให้จินยองทำงานหนัก...”
แจ็คสันใช้นิ้วชี้เรียกแจบอมจากนั้นก็กระซิบอะไรสักอย่างให้
ก่อนที่เสือร้ายจะยกยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ
ความคิดเห็น