ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END ทัณฑ์รัก ในเพลิงแค้น (BNIOR)

    ลำดับตอนที่ #4 : ใจยักษ์ ใจมาร (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.88K
      161
      18 ม.ค. 64

        ตอนที่ ๓

    ใจยักษ์ ใจมาร

     



     

    ปรักปรำฉันเป็นจำเลยของคุณ
    นี่หรือพ่อ นักบุญ
    แท้จริงคุณคือคนป่า.


     

          

                แสงแดดอ่อน ๆ สาดเข้ามายังห้องนอนร่างของทั้งสองกำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียง ร่างเล็กนอนหนุนแขนแกร่งจนร่างเล็กของพระพายเริ่มรู้สึกตัว 

                    พระพายขยับเปลือกตาก่อนจะเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อตัวเองนั้นอยู่ในอ้อมกอดของใคร

                    ร่างเล็กขยับออกห่างอย่างนึกรังเกียจ จนกระทั่งคนหน้ายักษ์ขยับตัวพระพายแสร้งทำเป็นหลับต่อด้วยการนอนมุดผ้าห่มหันหน้าไปอีกฝั่งไม่อยากร่วมสนทนากับคนอำมหิต

                                    "ลุก กูรู้ว่ามึงตื่นแล้ว " ติณฑ์สะกิดร่างเล็กแต่ทว่าพระพายไม่ยอมโต้ตอบใด ๆ เลือกที่จะนอนต่อ มือหนากระชากแขนเล็กให้ลุกออกจากเตียงโดยเร็วจนร่างของพระพายนั้นเคล็ดไปหมด 

                    "โอ๊ย มันเจ็บนะ" พระพายร้องด้วยความเจ็บที่ข้อมือ

                    "อย่ามาสำออย หายไข้ก็ลุกมาสิวะ ที่นี่มีงานให้มึงทำอีกเยอะ" ติณฑ์จิกกัดร่างเล็กที่ทำหน้าเคือง 

                    พระพายลุกจากที่นอนด้วยใบหน้ามู่ทู่ เขายอมเดินตามร่างสูงก่อนจะถูกดันตัวเข้าห้องน้ำไปทันที

                    “ไปอาบน้ำแล้วมาเจอกูข้างล่าง” พอออกคำสั่งเสร็จร่างสูงก็เดินออกไปจากห้องทันที

                    ติณฑ์พาพระพายไปยังแปลงผักบนเกาะสำหรับให้คนงานใช้ทำอาหาร ซึ่งคนในเกาะนี้จะไม่ค่อยซื้ออะไรนักเพราะผักที่นี่มีหลากหลาย แถมยังเลี้ยงสัตว์อีกด้วย ใครที่มาทำงานที่นี่ล้วนแต่อิ่มหนำสำราญกันทั้งนั้น

                    เขาโยนพลั่วและถังน้ำใส่ร่างเล็กที่ยืนอยู่ พระพายก้มลงไปหยิบพลั่วและถังน้ำอย่างจำใจก่อนจะเดินไปยังแปลงผักที่มีคนใจร้ายสั่งนู่นสั่งนี่ให้เขาทำตั้งแต่เช้าจรดจนเที่ยง เขาเหนื่อยจนจะร้องไห้

                    ติณฑ์เดินไปสั่งให้คนงานในไร่พักทานข้าวกลางวันกันรวมถึงพระพายด้วย หลังจากถึงช่วงพักติณฑ์ได้ฝากฝังเข้าไว้กับคนที่นี่ก่อนตัวเองจะออกไปทำธุระ 

                    พระพายวางจอบในมือไปต่อแถวกินข้าวกับพวกคนงาน พอคนใจร้ายออกไปพระพายรู้สึกหายใจหายคอสะดวกขึ้นมาหน่อย พระพายเดินไปรับอาหารที่สำหรับแจกคนงานมานั่งทานที่ต้นไม้ใหญ่คนเดียว จนทานเสร็จมีเวลาเหลือเขากะว่าจะงีบสักครู่ ซึ่งบรรยากาศตอนนี้ช่างดูเป็นใจเสียเหลือเกิน

                    พระพายใช้หลังพิงกับต้นไม้ใหญ่และผล็อยหลับไปในที่สุด

                    พระพายที่นอนไปได้สักพักรู้สึกแปลก ๆ เปลือกตาสีส้มลืมตาขึ้นมาก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่ตอนนี้

                    “นายเป็นใคร”

                    “หวัดดี ผมชื่อไม้นะ”

                    ไม้ เป็นเด็กหนุ่มบนเกาะฟาร์มมุกที่แอบหนีพ่อกับแม่มาหาปลาท้ายเกาะเขาแวะมาหานายหัวแต่ทว่าถามคนงานก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่านายหัวนั้นไม่อยู่ ชายหนุ่มว่าจะกลับแล้วแต่พบผู้ชายหน้าหวานที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม ร่างสูงจึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ

                    " ทำไมน่ารักจัง " ไม้คิดในใจพร้อมสำรวจใบหน้าของคนตัวเล็กที่จ้องหน้าอยู่ตอนนี้

                    " โทษทีที่เสียมารยาท พี่ชื่ออะไร? เราชื่อไม้นะ " เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองพลางยื่นมือให้คนตรงหน้า พระพายมองหน้านิ่งแต่ก็ยกมืออีกข้างขึ้นเพื่อจับตอบ

                    "เราชื่อพระพาย นายพาเราออกไปจากที่นี่ได้ไหม " พระพายแนะนำตัวและอ้อนวอนพร้อมกุมมือร่างสูงเพื่อขอร้องให้พาตัวเขาเองไปให้พ้นจากที่นี่

                     ไม้ทำสีหน้าลำบากใจ เพราะรู้ข่าวคร่าวๆมาว่านายหัวของเขาลักพาตัวใครไม่รู้มากรุงเทพ ถ้าหากเข้าช่วยครอบครัวคงลำบากแน่นอน นายหัวคงไม่เอาเขาแน่ๆ

                    "เอ่อ.. เราขอโทษที่ช่วยไม่ได้นะ จริงนายหัวใจดีนะพระพาย คนที่นี่รักนายหัวทั้งนั้น " ไม้เอ่ยชมนายหัวของตน พระพายเบะปากทันที

    ดีกับทุกคน ยกเว้นเขายังไงหล่ะ

                    ติณฑ์ที่กลับมาจากทำธุระเสร็จก็สงสัยทำไมร่างเล็กที่ควรอยู่ตรงแปลกผักแต่กลับไม่เจอ เขาเดินหาไปทั่วบริเวณนั้น และพบว่าคนตัวเล็กกำลังนั่งกุมมือนายไม้เด็กคนงานบนเกาะของเขาอยู่ ร่างสูงมองไปก่อนจะยิ้มเหยียดและรู้สึกสมเพช

                    อยากออกไปจนต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยา อ่อยคนงานของเขาขนาดนั้นเชียว

                     ติณฑ์พาลนึกถึงรูปถ่ายในคอมของเขาที่จุลจักรส่งมาควงผู้ชายหลายต่อหลายคนไม่ซ้ำหน้าก็โกรธเลือดขึ้นหน้าอย่างไร้ความปราณีรีบเดินไปหาทั้งสองคนตรงต้นไม้ใหญ่นั้น

                    " คงคันมากสินะอาโป " ติณฑ์มองด้วยความไม่พอใจน้ำเสียงแฝงความจิกกัดให้พระพายรู้สึกไม่ชอบใจ

                    ร่างสูงเดินเข้าไปหาทั้งคู่เพื่อขัดจังหวะทันที   ติณฑ์กระชากแขนลากไปยังสวนที่เขายังทำไม่เสร็จ ใช่ที่ไหนละ เขาทำเสร็จตั้งนานแล้วตั้งหากแต่โดนคนใจมารบางคนพังมันมากกว่า ใจร้ายเกินไปแล้วนะ

                    " นี่ ทำไมแปลงผักที่ผมทำ ทำไมมันรกแบบนี้ละคุณ " พระพายเท้าสะเอวมองหน้าคนทำ คนปลูกมันเหนื่อยนะโว้ย

                    " ไม่รู้ มันรกก็ทำไปดิวะ ทีอ่อยผู้นี่ระริกระรี้ ทำงานนี่อิดออดถ้าอยากกินข้าวเย็นก็ทำให้เสร็จซะอาโป " ติณฑ์สั่งร่างเล็กเสร็จก็เดินไปนั่งดูใต้ที่ร่ม พระพายหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ ใครมันจะไปพอใจเล่นทำลายแปลงผักซะเละขนาดนั้น

                    " อีกอย่างฉันชื่อพระพายต่างหากเล่า หึ้ย อีกอย่างเขาไม่ได้อ่อยใครซักหน่อย ฟันเหยินแล้วยังมาว่าเขาอีก ขอให้เหยินไปอีกหมื่นปีหมื่นชาติ " พระพายบ่นกระปอดกระแปดไปก็ก้มหน้าพรวนดินไปด้วย เขาต้องมีชีวิตรอดออกไปจากเกาะบ้าบ้านี่ให้ได้คอยดู นายติณฑ์

                    "ให้เราช่วยไหม ?" ไม้ที่เห็นคนตัวเล็กปาดเหงื่อหลายต่อหลายครั้งก็นึกสงสารจึงอาสามาช่วย แต่..

                    "ไอ้ไม้ ไปทำอะไรก็ไป ให้มันทำคนเดียว" เสียงประกาศิตสั่งให้เขาผละออกจากพระพายทันที

                    " ไม่เป็นไรหรอกไม้ เราทำเอง " ร่างเล็กยิ้มให้คนตรงหน้า ติณฑ์นึกไม่ชอบทีกับเขาทำหน้ายังกับเห็นผี ทีกับคนอื่นระริกระหรี้

    พอไม้เดินออกไปร่างสูงก็ตะโกนขึ้นมาจนพระพายอย่างเขวี้ยงจอบให้โดนฟันหน้าอิตานี่ให้เลือดอาบปาก

                    " อ่อยเสร็จก็พรวนดินไปสิวะ จะกินไหมข้าวเย็น ถ้าทำไม่เสร็จก็ไม่ต้องแดก "

    พระพายเย็นไว้ เย็นไว้

                    ร่างเล็กถือจอบแน่นก่อนจะใช้จอบแซะดินแรงๆเพื่อระบายอารมณ์ขุ่นเคืองในใจจากร่างสูง ลงกับดินแทนละเพราะเขาทำอะไรตานั่นไม่ได้

                    ตอนเย็นถึงเวลากินข้าวพระพายนั่งรวมกินกับคนงานบนเกาะ ทุกคนดูเป็นมิตรกับเขามากกว่าตาบ้านั่นอีก พระพายถือจานข้าวก่อนจะทิ้งตัวนั่งๆ ไม้เพื่อนใหม่ของเขาบนเกาะนี้พระพายตักอาหารเข้าปากไปได้ไม่กี่คำก่อนจะโดนร่างสูงที่มองมาทางนี้ด้วยความไม่พอใจ

                    "ทำไมหยุดทานละอาหารไม่ถูกปากเหรอ" ไม้เงยหน้ามามองพระพายที่จู่ๆก็หยุดทานไปดื้อ ๆ

                    "เปล่าน่ะ " ตานั่นเล่นจ้องเขาคาเขม็งขนาดนั้นใครมันจะไปกินลงกัน

                    " เดี๋ยวทานข้าวเสร็จเดี๋ยวเราพาไปเดินย่อย " ไม้ออกตัวเพราะเขาอยากอยู่ใกล้พระพาย

                    " อื้อ " เขายิ้มหวานให้คนตรงหน้า ก็ยังดีแหละขอไปพ้นๆอิตานั่นสักนาทีก็พอใจเล่า

    เคร้งง...

                    เสียงเขวี้ยงจานทิ้งลงกับพื้นจนแตกกระจาย ทุกคนที่นั่งทานอาหารอยู่ถึงกับตกใจเมื่อจู่ๆ นายหัวของพวกเขาหุนหันพลันแล่นเดินออกไปท่าทีที่ไม่พอใจอะไรสักอย่าง

                    พระพายถึงกับเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ เป็นบ้าอะไรของเขา 

                    หลังจากทานอาหารเสร็จพระพายและไม้ก็ออกไปเดินเล่นท้ายเกาะคนเดียวเพราะไม้ต้องออกไปล่าหมึกกล้วยกับพ่อของไม้

                    เกาะที่นี่ใหญ่พอสมควรหรือเรียกว่าเป็นชุมชนได้เลย พระพายเอ่ยทักทายกับชาวประมงที่กำลังลากเรือเพื่อเตรียมออกไปล่าปลาหมึกกล้วยในตอนกลางคืน ทุกคนดูเป็นมิตรกับเขามากกว่านายหัวของพวกเขาเสียอีก เขาเดินเล่นไปรอบๆ จนพบกับที่ที่หนึ่ง

    ทำไมมันปลอดคนจังแฮะ

                    พระพายเดินไปเรื่อยๆจนพบกับเรือลำหนึ่งเป็นเรือไม้ ร่างเล็กหันซ้ายมองขวาเพื่อความแน่ใจก่อนจะลากเรือออกสู่ทะเลกว้าง เขาตายกลางทะเลยังดีกว่าจะตายอยู่ที่นี่

                    ติณฑ์ที่บังเอิญเดินผ่านมาจริง ๆ ก็ไม่บังเอิญหรอกเขาเดินตามมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก ร่างสูงมองไปก็เห็นว่านักโทษของตัวเองกำลังจะหนีจึงรีบสาวเท้าไปหาทันที

                    "จะหนีไปไหนของมึง" 

                    พระพายเตรียมลากเรือให้เร็วที่สุดด้วยตัวเรือที่เป็นไม้ทั้งหมดมันทำให้ยากลำบากต่อรูปร่างของเขาพอสมควร ติณฑ์ก้าวขาให้ยาวที่สุดก่อนจะกระชากแขนพระพายให้ขึ้นฝั่งมากับตน

                    " โอ๊ย ปล่อยผมนะ " พระพายดิ้นหนีแต่โดนแขนแกร่งอุ้มพาดกับตัวเองก่อนจะเดินไปยังบ้านพักตากอากาศ พระพายพยายามดิ้นหนีแต่โดนฝ่ามือหนาตบลงที่ก้นเพื่อให้เขาหยุดดิ้น

    เพี้ยะ

                    " โอ๊ย บอกให้ปล่อยไงคุณ ปล่อยสิวะ ว้อย " พระพายดิ้นขลุกขลักอีกครั้งก่อนจะโดนร่างสูงของติณฑ์กดทุ่มลงบนเตียงจนพระพายรู้สึกจุก

                    " อ๊ะ ปล่อยแล้วไง อย่าคิดที่จะหนีเด็ดขาดไม่อย่างนั้นกูจะเอาร่างของมึงไปโยนที่หน้าผา " ติณฑ์ขู่ร่างเล็ก แต่พระพายไม่ยอมแล้วเขาขอสู้

                    " ผมทำอะไรให้คุณนักหนา ผมไม่รู้จักคุณเลยด้วยซ้ำ " พระพายเริ่มโวยวาย ด้วยความโมโหทำให้พระพายกล้าที่จะต่อปากต่อคำด้วย

                    " หึ เดี๋ยวก็รู้อาโป ธารธารา หิรัญธกูล " ติณฑ์เรียกชื่อเต็มของคนตรงหน้า

                    " บอกกี่รอบว่าผมไม่ใช่อาโป ผมชื่อพระพาย พอรออะ พระ พอ อา ยอ พาย อ่านว่าพระพาย " พระพายพยายามอธิบายแต่โดนร่างสูงยื่นมือหนาเข้ามาบีบปลายคางจนรู้สึกเจ็บ

                    "เลิกตอแหลซักทีเถอะ มึงทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ " ติณฑ์พูด พระพายทำหน้างงเขาไม่เคยทำไม่ดีอะไรเลยนะนอกจากขับรถจักรยานยอดสร

                    " เดี๋ยว (พี่ชาย)ผมไปทำอะไรให้คุณ คุณบอกผมมาตรงๆเถอะ " พระพายต้องการที่จะรู้ว่าพี่ชายฝาแฝดเขาทำอะไรทำไมคนใจร้ายคนนี้ถึงมาลงกับเขา

                    " ยังไม่ถึงเวลา วันนี้ไม่ต้องนอนฉันจะพานายไปอยู่ที่ใหม่ ตามมา " ติณฑ์ลากแขนพระพายไปยังบ้านไม้หลังเล็กๆ ก่อนจะโยนไม้กวาดและไม้ถูพื้นใส่ร่างพระพาย

                    " ยื่นให้ดีๆได้ไหมล่ะ " พระพายมองหน้าติณฑ์แบบเอาเรื่อง พระพายหยิบไม้กวาดขึ้นมาก่อนจะกวาดจนฝุ่นคลุ้งกระจายแกล้งคนตัวสูง ขอเอาคืนหน่อยเหอะ

                    " นี่ กวาดดี ๆ สิวะ " ติณฑ์เดินเข้าไปจับไม้กวาดยึดไว้กับตน พระพายจิ๊ปากอย่างขัดใจ

                    " รู้แล้ว เอาไม้กวาดมาสิ " พระพายยื่นมือมา ติณฑ์ยื่นด้ามไม้กวาดให้ ร่างเล็กเดินชนก่อนจะไปกวาดทางอื่น หมั่นไส้

                    กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบ 2 ทุ่ม พระพายเพิ่งเก็บกวาดเสร็จเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ร่างเล็กเดินไปหยิบผ้าปูที่นอนมาปูกับฟูก

    จ๊อก

                    เสียงท้องร้องของพระพายดังขึ้น มือเรียวลูบพุงตัวเองป้อยๆ 

                    ทำไมตอนนี้เขาหิวแบบนี้ละ 

                    พระพายกำลังจะหันไปหาคนใจดำแต่ติณฑ์นั้นผล็อยหลับไปแล้ว

                    " สบายจริง ๆ พ่อคุณ " พระพายยืนกอดอกมองร่างสูงที่นอนบนโซฟาอย่างสบายใจเฉิบ เขาเดินย่องเพราะกลัวจะตื่นไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วย ตอนนี้เขาหิวชะมัดเพราะเมื่อตอนเย็นเขาก็กินข้าวไปแค่นิดเดียวเอง

                     พระพายตัดสินใจออกไปที่โรงอาหารของคนงานเผื่อมีเหลือบ้างก็ยังดี เขากำลังเดินออกจากประตูแต่โดนมือหนากระชากลงมาทำให้ร่างเล็กเซจนล้มมานั่งทับบนตัวของติวานนท์พอดิบพอดี พระพายเตรียมจะลุกแต่โดนมือหนากดสะโพกเอาไว้ ไม่ยอมให้เขาลุก

                    " คุณปล่อยก่อน " พระพายดิ้นและพยายามแกะมือหนาออกจากสะโพกของตัวเอง ทำให้บางอย่างในตัวติณฑ์มันกำลังตื่น!!

                    " ยะ หยุดดิ้น " ติณฑ์รู้สึกตึง ๆ ที่กางเกงของตัวเองเมื่อก้นสวยบดคลึงไปที่ตรงนั้นของเขา

                    " คุณก็ปล่อยสิ " พระพายหลุดออกจากมือหนาก่อนจะลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

                    "จะไปไหนของนาย " ร่างสูงเอาหมอนมาปิดตรงนั้นเอาไว้ พระพายมองด้วยท่าทีแปลกๆ

                    " ก็มันหิว ทำความสะอาดมันเหนื่อยไง " พระพายทำท่าว่าจะเดินออกไปข้างนอก แต่โดนร่างสูงดึงมือไว้

                    " ไม่ต้องไป เดี๋ยวให้พวกนั้นเอาอาหารมาให้ มันมืดแล้ว ตกหน้าผาตายขึ้นมา ฉันยังทรมานไม่สาแก่ใจเลย " ติณฑ์พูดจาร้าย ๆ ใส่พระพายอีกครั้ง

                    "ครับ " พระพายขมุบขมิบปากด่าในใจ ก่อนจะนั่งรอกับข้าวที่ร่างสูงโทรสั่งจากบ้านใหญ่มาให้เขาที่นี่

                    "นายหัวครับ กับข้าวมาแล้ว" ไม้ยื่นจานและขวดน้ำเปล่ามาให้นายของตนพร้อมเหลือบไปทางพระพายที่ยืนยิ้มเมื่อเห็นไม้ ติณฑ์รับจานข้าวมาก่อนจะไล่คนงานของตนเองทันที

                    "อะ ทานซะ" พระพายรับจานข้าวจากมือเขาทันที ก่อนจะลงมือกิน ติณฑ์เดินไปปิดประตูเรือนไม้ก่อนจะขังพระพายไว้ในห้องหลังเล็ก โชคดีที่ยังมีห้องน้ำในตัวไม่อย่างนั้นเขาคงตายแน่ ๆ 

                    พระพายตัดสินใจหลังจากทานข้าวเสร็จก็เดินไปอาบน้ำด้วยความเหนียวตัว ร่างเล็กลืมไปว่าตนเองไม่มีเสื้อผ้าที่จะใส่จึงนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างสูงของติณฑ์อยู่ในห้อง

    เขากลับไปแล้วนี่หว่า

                    "เอาเสื้อผ้ามาให้ ไว้ตอนบ่ายพรุ่งนี้จะพาขึ้นฝั่งไปซื้อเสื้อผ้า" ติณฑ์ยื่นเสื้อผ้าของตัวเองให้กับร่างเล็กที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เผยให้เห็นเอวคอดกิ่วที่เล็กกว่าผู้หญิงบางคนที่เขาเคยเห็นมา ผิวขาวเนียนที่น่าสัมผัสทำให้ติณฑ์นึกกลืนน้ำลายเข้าไปอย่างฝืดคอ 

                    พระพายรับเสื้อผ้าจากมือเขาวิ่งไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

                    หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ พระพายสวมชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่โคร่งพร้อมกับกางเกงตัวหลวม พระพายเดินอย่างลำบากนิดหน่อยเพราะเดินทีรู้สึกกางเกงจะหลุดกองอยู่ที่พื้นตลอดเวลา

                    "คุณก็ออกไปได้แล้ว ผมจะนอน" พระพายเอ่ยปากไล่ทันที รู้สึกไม่ปลอดภัยกับตัวเองเสื้อที่เขาเอามาให้ก็คอกว้างซะจน จะเห็นสะดือ ไม่มีชุดอื่นให้ใส่หรอวะ

                    "เอออ อย่าคิดหนี" ติณฑ์เดินเข้ามาใกล้ๆและปล่อยลมหายใจร้อน ๆ ใส่หน้าพระพายทำให้คนตัวเล็กอย่างเขาใจสั่นแปลกๆ พระพายใช้มือผลักร่างหนาออก คนหน้ายักษ์ยิ้มที่แกล้งเขาได้

                    หลังจากที่ติณฑ์เดินออกไป พระพายไม่เข้าใจเขาเลยสักนิด จะดีก็ดีใจหาย จะร้ายขึ้นมาก็เหมือนยักษ์เหมือนมาร

                    ไม่นานนักป้าอรกับแม่บ้านอีกคนหนึ่งก็ยกข้าวเย็นมาให้ พระพายรีบยกมือไหว้ขอบคุณ 

                    “ขอบคุณนะครับที่ยกมาให้”

                    “ไม่เป็นไรค่ะ ทานเถอะค่ะ เมื่อเช้าคุณทำงานมาเหนื่อยๆ ป้าไปก่อนนะคะ”

                    พระพายมองอาหารตรงหน้าที่ป้าอรเป็นคนยกมาให้ล้วนแต่เป็นอาหารภาคใต้ทั้งหมด มีน้ำพริกกระปิเคยและไข่เจียวร้อนๆ และอีกเมนูหนึ่งคือแกงเหลือง

    รอดไปอีกวันแล้วสินะ พระพาย


     


     


     

     


     


     


     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×