ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END ทัณฑ์รัก ในเพลิงแค้น (BNIOR)

    ลำดับตอนที่ #24 : ไม่อยากเห็นหน้า (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.66K
      182
      28 ก.ย. 61

    CHAPTER 19

    ไม่อยากเห็นหน้า





                   แสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างร่างเล็กที่นอนอยู่ในผ้าห่มผืนหนากับใครบางคน เปลือกตาสีไข่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาห้องคอนโดที่แสนจะคุ้นเคยทำให้กุญแจนิ่งค้างเมื่อภาพเหตุการณ์เมื่อคืนมันย้อนเข้ามาในหัว ร่างบางมองไปที่เสื้อผ้าที่ใส่เมื่อคืนถูกถอดออกมากองอยู่บนพื้น สายตาเรียวมองไปที่คนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงร่างบางค่อยๆก้าวลงจากเตียงช้าๆ ความเจ็บปวดแล่นผ่านแกนกายสาวจนใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเจ็บปวด หญิงสาวกัดฟันเดินถือเสื้อผ้าของตัวเองเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ก่อนจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

                จุลจักรที่ตื่นขึ้นมาในตอนสายมือหนาปัดป่ายคว้าร่างบางของหญิงสาวเพื่อที่จะกอดแต่ก็คว้าได้เพียงอากาศ เขาลืมตาโพลงขึ้นมาพบว่ากุญแจได้ออกไปจากที่นี่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เช้าจากพื้นที่ข้างกายที่เย็นเฉียบ ร่างหนารีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาหญิงสาวทันทีแต่กุญแจไม่ยอมรับสายเขาเลยสักนิดเดียว ร่างหนาเริ่มที่จะกังวลเขาทำอะไรลงไปเมื่อคืนนี้ จักรรีบแต่งตัวขับรถเข้าไปในบริษัททันทีเพราะคิดว่ากุญแจอาจจะมาทำงานแต่กลับไม่พบใครสักคน จักรปัดของที่อยู่บนโต๊ะเพื่อระบายความโมโห

                “โธ่เว้ย” ตอนนี้เขากลัวว่าน้องจะไปจากเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่มีวันยอม

                เสียงเคาะประตูของเลขาทำให้จักรระงับความโมโหของตัวเองลง เลขาส่วนตัวเดินมาพร้อมกับกระเป๋าแอร์เมดในมือที่เขาซื้อให้กุญแจ เลขาวางมันที่โต๊ะก่อนจะเดินออกไปเพราะดูเหมือนเจ้านายของตนกำลังอารมณ์ไม่ดี ร่างสูงมองไปที่กระดาษใบเล็กๆที่แนบมา

                แจเอามันมาคืน ลาก่อนค่ะ หวังว่าเราอย่าเจอกันอีกจักรวางกระดาษโน๊ตขยำมันทิ้งลงในถังขยะก่อนจะวิ่งออกไปด้านนอกห้องที่เลขานั่งทำงานอยู่ถึงกับสะดุ้ง

                “กุญแจลงไปนานหรือยัง”

                “เอ่อคุณกุญแจไม่ได้มาค่ะ มีคนนำกระเป๋าฝากยามขึ้นมาให้บอสค่ะ”

                “วันนี้ผมไม่เข้ามาละนะ มีงานอะไรก็ส่งมาทางเมลผมได้เลย” จักรฝากฝังกับเลขาเสร็จก็วิ่งลงลิฟต์ไปทันทีจุดมุ่งหมาที่เขาจะไปคือบ้านของเพื่อนสนิทตัวเองเพราะกุญแจพักอยู่ที่นั่นหวังว่าน้องคงยังไม่หนีเขาไปไหน



    ติวานนท์ที่อยู่ที่บ้านวันนี้เขาไม่ต้องออกไปรับเด็กน้อยของเขาเพราะพระพายมานอนกับเขาที่นี่ด้วยเพราะเขากลับมาในช่วงตอนดึกๆไม่อยากขับรถอ้อมไปส่งคนตัวเล็กหรือเรียกว่าบังคับทางอ้อมก็ว่าได้ ร่างบางทำท่าอิดออดเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนของเขาอยู่ดี ติณฑ์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าสังเกตเห็นน้องสาวของตัวเองที่เพิ่งกลับมาในตอนเช้า กุญแจเห็นติณฑ์ก็เดินขึ้นข้างบนไปอย่างรวดเร็วโดยเขายังไม่ได้ทันถามด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนหายไปไหนมา วันนี้ร่างหนาคิดว่าวันนี้จะลาเพราะจะพาแฟนเด็กของตัวเองเที่ยวแต่ก็ต้องนกเมื่อพระพายวันนี้เข้ามหาลัยไปทำการติดต่ออาจารย์ในตอนบ่ายตอนนี้กำลังอาบน้ำอยู่ข้างบน ตั้งแต่น้องยอมคบกับเขาได้มากที่สุดก็แค่จูบกับกอดไม่มีเกินเลยไปมากกว่านี้ทั้งที่เขาอยากทำมากกว่านั้นแต่กลัวว่าจะทำให้เด็กน้อยเตลิดไปไกลและคิดว่าเขานั้นหวังแค่เพียงร่างกาย ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ พระพายก็เดินลงมาจากข้างบนเพื่อทานข้าวเช้าโดยมีแม่บ้านเป็นคนทำให้

                “เดี๋ยวให้พี่ไปส่งไหมคะ”

                “ไม่เป็นไร ผมอาจจะไปนานอ่ะ” พระพายปฏิเสธเพราะไม่อยากให้ติณฑ์ไปรออีกอย่างวันนี้เห็นว่ามีประชุมอีกตอนบ่ายสองถ้ารอเขาก็ต้องเสียเวลา ร่างบางลาหนึ่งวันโดยเจ้านายสุดที่รักยอมให้ทุกอย่าง

                “พี่เห็นกุญแจกลับมาแล้วอยู่ข้างบน ตัวเองช่วยไปดูให้พี่หน่อยได้ไหม” ติณฑ์พูดคำว่าตัวเองก็รู้สึกกระดากปากเขาอยากลองพูดเหมือนเวลาที่แฟนเรียกแทนกันหนุ่มวัยสามสิบกว่าต้องคุยมุ้งมิ้ง หวังว่าอย่าให้พนักงานของตัวเองได้ยินเลยโคตรไม่น่าเคารพ

                “ทำไมพี่ตัวเรียกผมว่าตัวเองอ่ะ มันจั๊กกะจี้แปลกๆ”

                “จะได้หวานๆไงคะ”

                “หรือจะให้เรียกว่าผัวจ๋าเมียจ๋า” ร่างสูงทำตาปริบๆ ถ้าเรียกแบบนี้ได้ก็ถือว่าเป็นกำไร แต่เหมือนน้องจะไม่โอเคพร้อมทำหน้าบึ้งและเงื้อมือที่จะฟาดต้นแขนเขาแต่เขาหลบทัน

                “มงเมียไรเล่า”

                “ฟื้นความหลังได้นะ”

                เพี๊ยะ

                คนตัวโตโดนฝ่ามืออรหันต์ของน้องไปเรียบร้อยเพราะกวนโทสะของน้องจนเกินเหตุหรืออาจเป็นเพราะว่าเขินก็ไม่รู้ พระพายที่เก็บจานเดินหนีขึ้นข้างบนไปเรียบร้อยสงสัยจะไปหาเพื่อนของตัวเอง

               

                พระพายเดินขึ้นข้างบนเลี้ยวไปตรงห้องมุมขวาสุดเขาเคาะประตูให้เพื่อนตัวเล็กให้เปิดประตูแต่ไร้เสียงตอบรับ เขาจึงเคาะมันอีกรอบจนกุญแจยอมเปิดประตูให้สีหน้าปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ดวงตาบอบช้ำเหมือนคนร้องไห้

                “เป็นอะไรหรือเปล่า หิวไหมเดี๋ยวเราเอาข้าวขึ้นมาให้” กุญแจส่ายหัวเล็กๆ

                “มีอะไรจะบอกเราหรือเปล่า”

                “ไม่มีหรอก แกไม่ต้องห่วงฉันหรอกลงไปหาพี่ติณฑ์นู่นไป”

                พระพายเมื่อเห็นเพื่อนไม่ยอมบอกอะไรตัวเขาเองก็ไม่อยากไปคาดคั้นเพราะถ้าเจ้าตัวคิดจะบอกก็คงจะบอกเอง ร่างบางจึงเดินไปที่ห้องนอนเพื่อเตรียมตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปมหาวิทยาลัยในตอนบ่าย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอติวานนท์นั่งอยู่บนเตียงเขาหรี่ตามองเจ้าตัวด้วยท่าทีที่สงสัยว่าทำไมยังไม่ไปที่บริษัทอีก

                “ทำไมยังไม่ไปทำงานครับ”

                “อยากฟัดแก้มแฟนก่อนค่ะ แล้วค่อยไป” ติณฑ์ทำหน้าเจ้าเล่ห์ ขาเรียวยาวของชายหนุ่มเดินตรงมาทางเขาโน้มใบหน้าลงมาจุ๊บแก้มทำเอาคนตัวเล็กขัดเขินจนยืนแทบไม่เป็นวงแก้มมีสีชมพูระเรื่อเล็กๆ แต่ทว่าคนเจ้าเล่ห์ยังไม่พอนิ้วหัวแม่โป้งเกลี่ยริมฝีปากอิ่มจากนั้นก็ใช้อวัยวะเดียวกันทาบทับลงไปอีกครั้ง เจ้าตัวยอมหรืออาจเป็นเพราะเผลอใผลหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เรียวปากของคนตัวโตตักตวงจากร่างบางอย่างไม่รู้จักอิ่ม จนกระทั่งเสียงแตรรถปลุกคนตัวเล็กให้มีสติมือบางผลักอกคนตัวโตทันที ตานนท์จิ๊ปากด้วยอารมณ์ไม่พอใจ

                มาขัดจังหวะทำไมวะ มาไม่ดูเวล่ำเวลา

                ติณฑ์ดูหัวเสียไม่น้อยเมื่อถูกขัดจังหวะจนนึกอยากเดินไปดูหน้าว่าไอ้หน้าไหนที่แม่งมาขัดจังหวะเขากัน คนตัวโตเดินลงมาโดยความหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่น้อยเมื่อเดินลงมาก็เห็นผมสีน้ำตาลของเพื่อนสนิทแต่ดูท่าทางมันก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ต่างจากเขา ร่างหนาเดินเข้ามาหาติวานนท์พร้อมถามหาน้องสาวของเจ้าตัว

                “กุญแจอยู่ข้างบนหรือเปล่า”

                “อยู่..แต่เดี๋ยว” ติณฑ์ขัดเมื่อเห็นไอ้เพื่อนตัวดีจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนของน้องสาวเขา

                “กูขอคุยกับเขาหน่อยได้ไหม”

                “ทะเลาะอะไรกัน” จักรไม่ตอบเพราะมันคือความผิดเขาทั้งหมดทั้งในเรื่องในอดีตและปัจจุบัน

                พระพายที่ได้ยินเสียงตะโกนของจุลจักรจึงเดินไปเรียกกุญแจที่นอนอยู่ในห้องแต่ทว่ามีเสียงไม่พอใจของเจ้าตัวปฏิเสธการพบเจอครั้งนี้และเขายังได้ยินเสียง

    สะอื้นเล็กๆที่เล็ดลอดออกมา

                “บอกให้เขากลับไป ฮึก”

               

     

                “กุญแจเขาบอกว่าไม่อยากเจอคุณ” ร่างบางบอกคนตรงหน้าจุลจักรทำสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด พระพายว่าคู่นี้ไม่ได้เป็นแค่พี่น้องหรือเพื่อนพี่ชายในอดีตของทั้งคู่ต้องมีอะไรมากกว่านั้น

                “อืม เป็นแบบนี้ทุกที”

                “มึงมีเรื่องไรกัน”

                “กู...” จักรอาการเหมือนน้ำท่วมปากเขาไม่กล้าพูดเรื่องความสัมพันธ์ของเขาและกุญแจให้ติณฑ์ได้รู้ ยิ่งถ้ารู้ว่าเขาข่มขืนน้องมันก็คงจะเลิกคบเขาแต่เขารักกุญแจจริงๆ

                “กูรู้นะว่าเมื่อก่อนมึงแอบคบกันจนวันที่กุญแจไปเรียนต่างประเทศ..มันคือยังไงเรื่องที่เกิดคืออะไร” ติณฑ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง

                “ใช่ กูกับกุญแจคบกันแล้วกู...” จักรเล่าทุกเรื่องให้ติวานนท์ฟังจนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคนเป็นพี่แทบปรี๊ดแตกเดินไปต่อยหน้าเพื่อนที่คบกันมายาวนานเกือบ 10 ปี คนหวงน้องเริ่มมีอาการไม่พอใจเมื่อรู้ว่าต้นเหตุทั้งหมดที่กุญแจหนีไปเรียนต่างประเมทศเป็นเพราะมันและเรื่องที่มันขืนใจน้องสาวเข้าถ้าพระพายไม่ดึงเขาไว้เพื่อนตัวดีนอนจมกองเลือดตัวเองไปแล้ว

                “แต่กูรักน้องมึงจริงๆ ตั้งแต่น้องมึงไปมึงเคยเห็นกูมีใครไหม” จักรถามเพื่อนตัวเองให้คิด ติณฑ์คิดย้อนไปก็อย่างที่เพื่อนเขาพูดเพื่อนเขามันเอาแต่บ้างานทั้งที่มีหญิงสาวมากมายเดินมาให้มันเลือกแต่มันกลับเลือกเด็กบ๊องแบบน้องสาวเขา (พี่นั่นน้องไง)

                “กูว่ามึงกลับไปก่อน เดี๋ยวยังไงกูจะช่วยคุยให้” จักรพยักหน้ายอมจากไปแต่โดยดี รถยนต์คันหรูขับออกไปนอกประตูรั้วโดยมีร่างบางของใครบางคนยืนดูอยู่หลังผ้าม่านบนระเบียงมองลงมา


    หลังจากที่จักรเพื่อนของตนขับรถออกไปติณฑ์ตั้งใจจะเดินไปพูดกับน้องสาวแต่ทว่าพระพายขวางไว้เพราะตอนนี้กุญแจคงยังไม่พร้อมคุยอะไรกับใครตอนนี้ ร่างบางจึงขออาสาคืนนี้จะอยู่เป็นเพื่อนกุญแจเองแต่ตอนนี้ตนต้องเดินทางไปที่มหาวิทยาลัย พระพายเตรียมกระเป๋าและอยู่ในชุดลำลองที่เหมาะสมและเดินออกไปข้างนอกบ้านเมื่อรถแท็กซี่มาจอดรอรับ ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานนักวันนี้การจราจรไม่ได้ติดขัดกว่าที่เขาคิดไว้ร่างบางเดินเข้าไปในตึกคณะที่ห้องพักอาจารย์

                “นายปราณนต์ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอจะจบแล้ว คิดหรือยังว่าอยากทำงานหรือจะเรียนต่อ”

                “เอ่อ..ใจนึงอยากเรียนต่อครับแต่คิดว่าค่าใช้จ่ายคงไม่ไหว”

                “พอดีอาจารย์มีทุนสำหรับป.โท เกรดแต่ละเทอมที่ผ่านมาเธอทำดีมาตลอด ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนั้นเธอดรอป ฉันมีทุนเรียนต่างประเทศของทางมหาลัยและฉันอยากให้เธอเรียนต่อเธอเป็นคนเก่งนะปราณนต์ ฉันอยากเห็นอนาคตที่ดีของเธอ” อาจารย์ยิ้มให้นักศึกษา

                “ผมขอเวลาคิดได้ไหมครับ”

                “มีเวลาอีกเยอะ ลองคิดดูนะ อาจารย์ไม่มีอะไรแล้วค่ะฝึกงานอีกไม่กี่เดือนก็เสร็จแล้วใช่ไหม”

                “ครับ”

                “ตั้งใจนะ ปราณนต์” อาจารย์หญิงยิ้มอีกครั้ง พระพายยิ้มตอบและยกมือไหว้ลาอาจารย์

                พระพายเดินออกมาจากห้องพักครูคิดไม่ตกกับเรื่องเรียนต่อใจนึงตัวเองก็อยากไปเรียนต่างประเทศแต่เรื่องค่าใช้จ่ายมันจะสูงเกินที่ตัวเองจะแบกไหว ร่างเล็กมองนาฬิกาที่ข้อมือเป็นเวลาเกือบบ่ายสองความรู้สึกหิวและบวกกับอากาศร้อนทำให้ตัดสินใจนั่งรถรางของมอไปที่หน้ามหาวิทยาลัยเดินไปร้านกาแฟแต่ทว่าร้านกลับปิดปรับปรุง พระพายจึงไปเดินเล่นที่ห้างแทนร่างบางเดินขึ้นรถเมล์ลงป้ายห้างสรรพสินค้าทันทีที่เข้าไปเหมือนอยู่คนละขั้วลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ร่างเล็กเดินไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแต่ทว่าเมื่อเดินเข้าไปโต๊ะกลับเต็มทั้งหมดทั้งที่วันนี้เป็นวันธรรมดา สายตาสอดส่ายหาโต๊ะมือหนาของใครบางคนถือวิสาสะคว้าข้อมือเขา

                “คุณ..” พระพายจำได้ว่าคนนี้คือคนของพี่ชายฝาแฝดของตัวเอง แต่เขาจำชื่อไม่ได้ ร่างสูงตรงหน้ากระตุกยิ้มเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันดีของเขาเอง

                “โต๊ะไม่ว่างก็นั่งกับฉันก็ได้ ถ้าไม่รังเกียจ” พระพายคิดหนักกับคำเชื้อเชิญของอีกฝ่าย แต่ก็ยอมทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้โซฟาตรงข้าม

                ร่างสูงของรฐนนท์ชูมือเรียกพนักงานมารับออเดอร์ที่โต๊ะ จากนั้นก็สั่งอาหารพร้อมยื่นเมนูให้กับอีกฝ่ายได้เลือกร่างเล็กของพระพายดูเลือกรายการในเมนูอาหารเมื่อสั่งเสร็จสิ้นพระพายก็คืนเมนูให้พนักงานไป

                “ทำไมถึงมาทานที่นี่คนเดียวละ”

                “ก็หิวครับ แล้วพี่อาโปไม่มาด้วยหรอครับ ”

                รฐนนท์ไม่ได้ตอบคำถามคนตัวเล็กตรงหน้าเพราะตอนนี้เขาสนใจน้องมากกว่าพี่อีกตอนนี้ พระพายรู้ตัวว่าโดนจ้องจนรู้สึกเกร็งไปหมดเขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้อันตรายแต่ทำไมพี่ชายเขาถึงเอาตัวเข้าไปยุ่งทำไมกัน พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟจนครบตามที่สั่งพระพายเลือกที่จะรีบทานจะได้รีบกลับจู่ๆมือหนาของคนตรงหน้าเอื้อมมาเช็ดเศษอาหารที่ติดอยู่ตรงมุมปาก ร่างเล็กของพระพายสะดุ้งโหยงผงะใบหน้าหนีมือหนาและหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเอง ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเล็กน้อยพี่น้องที่นิสัยต่างกันราวกับฟ้าและเหว

                “ผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ” พระพายลุกขึ้นพร้อมวางเงินค่าอาหารของตัวเองและหมุนตัวเดินออกไปด้านนอกร้านทันทีและเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน ติวานนท์ที่โทรมาเนื่องจากแฟนตัวเองยังไม่ยอมกลับสักที ร่างบางล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดรับกรอกเสียงลงปลายสาย

                (อยู่ไหนครับ ทำไมยังไม่กลับ) ติณฑ์เอ่ยเสียงดุ

                “อยู่ห้างครับผมมาหาอะไรทาน กำลังจะกลับแล้ว”

                (งั้นพี่รอนะคะ)

                “ครับ”

                ทันทีที่วางสายพระพายเดินไปทางประตูทางออกห้างพร้อมโบกเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ระหว่างที่นั่งอยู่ในแท็กซี่พระพายนำเอกสารทุนที่อาจารย์ยื่นมาให้ ร่างเล็กคิดหนักไม่รู้ที่จะบอกติวานนท์อย่างไรกับเรื่องเรียนต่อ แท็กซี่จอดยังหน้าบ้านพระพายยื่นเงินให้คนขับแท็กซี่และเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่ลืมที่จะพับกระดาษใบเรียนต่อเก็บไว้จากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้านมือหนาของติวานนท์ดึงร่างเล็กเข้ามากอด คางเกยที่ไหล่เล็กอ้อนคนตัวเล็ก

                “กุญแจลงมาทานอะไรหรือยังครับ”

                “ยังเลยค่ะ พี่ไปเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ” พระพายหน้าถอดสีกลัวว่ากุญแจจะคิดสั้นจึงผละตัวออกจากแขนแกร่งและวิ่งขึ้นไปข้างบนมือบางทุบประตูเสียงดังเพื่อให้คนข้างในตอบรับแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น พระพายเริ่มคิดวิตกกังวลใจจนขอร้องให้ติวานนท์นำกุญแจห้องขึ้นมาไข ร่างสูงสั่งแม่บ้านให้นำกุญแจขึ้นมาที่ห้องนี้เดี๋ยวนี้ แม่บ้านรีบวิ่งลงไปเอากุญแจขึ้นมาให้เจ้านายทันที

                เมื่อกุญแจห้องมาถึงติณฑ์ไขเข้าไปข้างในห้อง เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานร่างสูงสอดส่ายสายตาหาร่างบางของน้องสาวของตัวเอง ภาพของไตรภูมิแวบเข้ามาในหัวเมื่อเห็นกุญแจนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นปูนในห้องพร้อมกับขวดยาเม็ดเล็กๆที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น...

                “กุญแจ!!





















    ต้มน้ำแพร๊บบบบบบบบบ




    14/08/61 เจอกันหลังวันที่ 25 นะคะ ขอไปทำหน้าที่ของตัวเองก่อนทิ้งระเบิดให้แล้วหนีไป รักนะจุ๊บๆ เอามาม่าลงพร้อมเสิร์ฟระหว่างจักรและกุญแจคิดว่าจะหนักหน่วง(คิดว่า) 








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×