คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : You're mine (100%)
CHAPTER 5
You're Mine
คุณหญิงอิมที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศหลังจากที่ไปฮันนีมูนกับสามีมาเกือบอาทิตย์พอลงจากเครื่องก็ตรงดิ่งกลับมาที่บ้านทันที
รถตู้ BMW
ขับเข้ามายังตัวคฤหาสน์ในตอนเย็นหลังจากที่รถจอดยังบริเวณหน้าบ้านเหล่าแม่บ้านก็เข้ามาช่วยกันขนของเข้าไปเก็บ
คุณหญิงเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะได้ยินเสียงหลานสาวเรียกและวิ่งมาหาตั้งแต่ไกล
“คุณปู่
คุณย่าขา” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงเดินมากอดคุณยาย
“ว่าไงคะ
หลานรักของคุณย่า” คุณหญิงอิมฟัดแก้มนิ่มของอิม เฮนา หลานรัก
“คิดถึ๊ง
คิดถึงคุณย่าขาของหนูที่สุด” เด็กหญิงได้ทีอ้อนคุณย่าใหญ่ “
คิดถึงคุณปู่ด้วย”
“อ้อนจะเอาอะไรละหืมคนดี
ไหนพ่อเราอยู่ไหนละหืม” ผู้เป็นปู่ถามหลานสาวของตัวเอง
“คุณป๊าไปทำงานค่า
แต่เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” เด็กหญิงว่า
“ไหนอยู่กับป้านมหนูเหงาหรือเปล่าคะ”
“ไม่เหงาค่ะ
คุณม้ามาอยู่ด้วยหนูไม่เหงา” อิมจียอนถึงกับเลิ่กคิ้ว
หมายความว่าอย่างไรลูกชายหล่อนพาสาวที่ไหนมาอีกหรือเปล่าแล้วตาหนูคนนั้นที่หล่อนเจอล่ะ
ถ้าไม่ใช่ตาหนูคนนั้นแม่จะเผ่นกบาลให้แยกเลยคอยดู
จียอนผละจากหลานรักเดินไปทางห้องครัวเพราะได้กลิ่นอาหารลอยโชยมาถึงนี่
ร่างผอมบางของอิมจียอนเดินเข้าไปข้างในครัวเมื่อเห็น
ตาหนูที่หล่อนพูดถึงกำลังทำอาหารอยู่ในครัวคนแก่อย่างเธอรู้สึกโล่งใจคิดว่าลูกชายตัวดีจะพาสาวอื่นมาที่บ้าน
จินยองที่กำลังจะตักอาหารใส่ชามก็ชะงักก่อนจะยื่นชามให้แม่บ้านทำหน้าที่แทนส่วนเจ้าตัวก็ทำความเคารพผู้อาวุโสกว่าคุณหญิงยิ้มรับด้วยความเอ็นดู
“คุณหญิงสวัสดีครับ”
“ฉันบอกว่าไง
ให้โอกาสเรียกใหม่” คุณหญิงตีหน้าดุ จนจินยองรีบแก้คำ
“ขอโทษครับคุณแม่”
จียอนพอใจกับคำตอบก่อนจะเดินไปดูในหม้อที่ลูกสะใภ้เธอเป็นคนทำ
แกงกิมจิและบูลโกกิแต่ละที่เพราะตนรู้มาว่าวันนี้จียอนและยองอุคกลับมาจากต่างประเทศ
“ทำเองหรอลูก”
“ครับ
คุณแม่หิวกันหรือยัง” จินยองเอ่ยถาม
“ยังหรอกจ๊ะ
รอตาแจบอมมาแล้วค่อยทาน” จินยองพยักหน้าและยิ้มตอบรับคนที่อายุมากกว่าตนก่อนจะหันไปสนใจแกงในหม้อเพื่อปิดเตาแก๊สและเดินไปหาลูกสาวที่กำลังค้นของฝากที่คุณปู่คุณย่าซื้อมาฝากด้วยท่าทางตื่นเต้น
จินยองมองดูเด็กน้อยอวดของขวัญแต่ละชิ้นด้วยรอยยิ้มจะว่าไปเขาก็ยังไม่ได้ให้ของขวัญเด็กน้อยเช่นกันตอนที่ไปเที่ยวเมืองไทยแต่ไว้วันหลังเขาค่อยให้แล้วกัน
อิมแจบอมที่ออกมาจากบริษัททันทีหลังจากทำงานเสร็จร่างสูงเดินตรงมาทางรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบริษัทเขาเร่งฝีเท้าไปที่รถเพราะรีบกลับบ้านไปหาใครบางคน
รถยนต์ AUDI
TT ขับมุ่งไปยังบ้านทันที
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านเขานำรถไปจอดพร้อมเดินเข้ามาในบ้านจากนั้นก็เดินตรงมายังห้องอาหารเพื่อทานข้าวเย็นโดยเจ้าตัวนำกระเป๋าฝากให้แม่บ้านขึ้นไปเก็บไว้ข้างบน
ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างน้อง
เขามองไปที่บนโต๊ะอาหารพอเดารู้ว่าเป็นฝีมือใครเมื่อตักข้าวเสร็จช้อนก็ตักชิมที่ซุปกิมจิ
คุณหญิงรู้สึกว่าลูกชายเธอคงจะเจริญอาหารและอ้วนพีเข้าสักวันเพราะพบว่าจินยองนั้นทำอาหารอร่อยเกือบทุกอย่าง
“ตาแจบอมทำไมไม่ลองพาน้องไปโกยางล่ะลูก”
“เอ่อ..”
แจบอมรู้สึกตะกุกตะกักไม่อยากให้เจอกับคุณย่าสักเท่าไหร่เธอค่อนข้างที่จะหัวโบราณอยู่พอสมควรและเรื่องหวงเขานี่บอกเลยว่ามากเพราะเป็นหลานชายคนเดียวในตระกูลอิม
“ไม่เป็นไรครับ”
จินยองยิ้มปฏิเสธเพราะตัวเองก็ยังไม่พร้อมเจอใครเหมือนกันแค่นี้ก็เกร็งจะแย่โชคดีที่คุณแม่เอ็นดูเขา
“ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะ
แม่ไม่ยอมถ้าจะพาคนอื่นไปแม่จะเพ่นกบาลให้” จินยองขำกับสายตาอาฆาตที่จียอนมองลูกชายตัวเอง
“โห แม่”
น้ำเสียงกระเง้ากระหงอดของลูกชายทำเอาทั้งโต๊ะหัวเราะ
“ไว้ไปนะคะหนูก็คิดถึงคุณทวดมากๆ”
“ค่ะ
ไว้ป๊าจะพาไปหาคุณทวดนะคะ”
“ได้ค่ะ”
ภายในห้องนอนที่ตกแต่งสไตล์อิมแจบอมโดยมีแมวทั้งสามตัวนอนอยู่ที่เบาะมุมห้อง
ร่างเล็กในชุดนอนเดินขึ้นมาที่เตียงหลังจากที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จอิมแจบอมที่นอนรออยู่บนเตียงกำลังนอนเมื่อเขาก้าวขึ้นเตียงจู่ๆก็ถูกร่างหนาของคนที่นอนอยู่ก่อนหน้าคร่อมตัวราวกับรอคอยโอกาส
จินยองถึงกับละล่ำละลั่กบอกให้คนนิสัยไม่ดีลงจากตัวเขาไป
“คุณอิมผมหนักครับ”
“จะว่าไปตั้งแต่คุณมาอยู่ที่นี่เรายังไม่ได้ลองกับผ้าปูที่นอนใหม่เลยนะ”
แววตาคนเจ้าเล่ห์จ้องใบหน้าหวานพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก
จินยองกะพริบตาปริบๆรู้ความหมายว่าเขากำลังพูดถึงอะไร
“หยุดความคิดนั้นเลยครับ
ลงไปจากตัวผมเลย” ร่างบางที่ถูกคร่อมอยู่ใต้ร่างพูดปราม
“คิดหยุดผมให้ได้สิ”
มือหนาของคนที่อยู่คร่อมร่างของเขาค่อยปลดกระดุมชุดนอนทำเอาจินยองเริ่มกลืนน้ำลายฝืดคอ
มินิคัทเล็กๆ
จินยองตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยอาการที่เจ็บร้าวตั้งแต่สะโพกลงไปร่างเล็กค่อยๆขยับตัวออกห่างจากอ้อมกอดอุ่นเมื่อเวลาตอนนี้เกือบ
7 โมงครึ่ง
เขามองไปที่นาฬิกาที่แขวนผนังร่างหนายังคงนอนหลับอย่างเต็มอิ่มหลังจากเมื่อคืนเอาเปรียบเขาจินยองก้มเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดอยู่ข้างเตียงนำไปใส่ตะกร้าผ้าสานที่วางไว้ตรงหน้าห้องน้ำเจ้าตัวหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากที่อาบน้ำเสร็จไม่มีท่าทีที่คนตัวโตจะยอมตื่น
จินยองเดินไปที่เตียงอีกครั้งเพื่อปลุกเรียกให้ไปทำงาน
“คุณอิมครับ
ไม่ไปทำงานเหรอครับ” จินยองสะกิดคนตัวโตที่นอนอยู่บนเตียง
แจบอมหรี่ตาจากแสงอาทิตย์ที่เข้ามาในห้องนอนจ้องมองใบหน้าหวานอย่างไม่ลดละ
จนเจ้าตัวต้องถามอีกครั้ง
“ไปค่ะ
ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังเลยคะ”
“ผมตื่นเช้าเป็นนิสัยอยู่แล้วครับไม่ได้ขี้เซาเหมือนคุณสักหน่อย”
มือหนาบีบจมูกด้วยความหมั่นไส้ที่เจ้าตัวเล็กเหน็บแนมเขา
ใครกันล่ะที่ทำให้เขาต้องตื่นสายด้วยใบหน้าแมวยั่วแบบนี้
“ตื่นก็ได้ค่ะ
แต่ไม่มีพลังเลยหมดพลังงานไปกับเมื่อคืนขอเติมหน่อยได้ไหม” ร่างหนายิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้งและใช้นิ้วชี้ชี้ไปที่ริมฝีปาก
จินยองส่ายหน้าเพราะรู้ว่าคนอย่างคุณอิมไม่ทางจบแค่จูบ
“ไปอาบน้ำครับ” เจ้าตัวบอกด้วยใบหน้าดุ จนร่างหนาหน้างอด้วยความเสียดาย
หลังจากที่คนตัวอิมแจบอมเดินเข้าไปในห้องน้ำจินยองจึงจัดการกับผ้าปูที่นอนม้วนใส่ในตะกร้าผ้าและนำลงไปซักข้างล่างจะให้แม่บ้านซักให้เขาเองก็ทำหน้าไม่ถูกสักเท่าไหร่ในจะคราบอย่างว่าอีก
จินยองเดินลงไปข้างล่างไปทางเครื่องซักผ้าจึงจัดการนำผ้าปูที่นอนลงไปซักในเครื่องซักผ้าทิ้งไว้
จินยองเดินไปที่โต๊ะกินข้าวเด็กหญิงตัวน้อยในชุดพละกำลังนั่งทานขนมปังทาแยมช็อกโกแลตนูเทลล่าอยู่บนโต๊ะอาหาร
เด็กหญิงเห็นคุณม้าเดินเข้ามาก็กลาวสวัสดีตอนเช้าด้วยน้ำเสียงสดใส
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณม้าทานไหมเดี๋ยวน้องให้ป้านมเอามาให้”
“ไม่เป็นไรครับ
หนูทานเถอะเดี๋ยวไปโรงเรียนสายน้า” จินยองชี้ให้ลูกสาวคนสวยดูเวลาด้านหลัง
“ว้า หนูจะสายแล้ว
งั้นหนูไปโรงเรียนก่อนนะคะ” เด็กหญิงเช็ดปากด้วยทิชชู่ก่อนจะเดินมาหาเขาที่กำลังทานอาหารอยู่
เด็กหญิงทำท่าเหมือนจะกระซิบอะไรสักอย่างทำให้จินยองโน้มตัวไปหาลูกสาวริมฝีปากกระจับหอมแก้มนิ่มของคุณม้าแถมพูดเจื้อยแจ้วอีกตั้งหาก
“ฝากหอมแก้มคุณป๊าแทนหนูด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะตอนเย็นเจอกันนะคะ” เด็กหญิงคาบขนมปังในจานและถือนมกล่องรีบวิ่งไปที่รถ
จินยองกะจะให้เจ้าตัวนั่งกินให้หมอแต่ทว่าไม่ทันเมื่อเจ้าตัวเล็กวิ่งปรู๊ดไปที่รถจอดข้างนอก
จินยองยิ้มด้วยความเอ็นดูการกระทำในวันนี้ตกอยู่ในสายตาของจียอนผู้เป็นย่าก็ดีใจที่หลานสามารถเข้ากับจินยองได้ดีมากๆกว่าที่คิดไว้
แวบหนึ่งความรู้สึกเหมือนกับว่าเฮราลูกสะใภ้ของเธอยังอยู่ ก่อนจะสะบัดความคิดเมื่อคนสองคนไม่ใช่คนเดียวกันและไม่มีทางเป็นไปได้
อิมแจบอมที่ลงมาทานอาหารข้างล่างเสียดายที่ตัวเขานั่นลงมาช้าอดหอมแก้มลูกสาวก่อนไปโรงเรียน
ร่างหนานั่งลงบนเก้าอี้แม่บ้านนำกาแฟและแซนด์วิชมาเสิร์ฟที่โต๊ะ
อิมแจบอมดื่มกาแฟจนหมดแก้วแต่ไม่ได้ทานแซนด์วิชเข้าไป
“ไม่ทานแซนด์วิชรองท้องหน่อยหรอครับ”
จินยองถาม
“ไว้ไปทานที่โรงอาหารที่บริษัท
ใครบอกว่ากินข้าวดีกว่าไงคะ” จินยองยิ้ม
“งั้นก็ได้ครับ อ่อ
วันนี้ผมกลับค่ำๆหน่อยนะครับ พอดีผมไปส่งแบมแบมกับยองแจชอปปิ้งน่ะ” จินยองบอกไว้ก่อน
ร่างหนาพยักหน้าก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินและหยิบบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดยื่นให้กับคนรักของตน
“เอาไว้ใช้ถ้าอยากได้อันไหนก็ซื้อเลย
บัตรนี้เป็นของเราแล้ว” บัตรเครดิตสีดำด้านถูกางลงบนมือบาง
จินยองมีสีหน้าลำบากใจก่อนจะส่งบัตรนั้นคืนไปไม่ยอมรับ
“ไม่เป็นไรครับ
มันเป็นของคุณ”
“เป็นของเรา
อย่าปฏิเสธรับไปเถอะค่ะ”
“ก็ได้ครับ ขอบคุณนะครับ”
จินยองยิ้มให้กับคนรักของตัวเองเมื่ออิมแจบอมทานเสร็จก็เดินไปที่รถยนต์
Mercedes Benz คันสีดำที่จอดทิ้งไว้ไม่ค่อยได้ขับสักเท่าไหร่นัก
จินยองเดินไปส่งที่รถก่อนไปทำงานมือบางยื่นกระเป๋าเอกสารให้กับอิมแจบอมก่อนจะโน้มใบหน้าหาแก้มสากที่อิมเฮนาฝากไว้ให้คุณพ่อของเธอ
“..” สีหน้าคนตรงหน้าดูอึ้งๆ
แต่ระบายยิ้มออกมาจนออกนอกหน้า
“ ลูกสาวของคุณฝากมาครับ
ส่วนนี่ของผม” จินยองเขย่งปลายเท้าริมฝีปากนุ่มประทับลงบนอวัยวะเดียวกันครั้งแรกที่จินยองเห็นคนอย่างประธานซีอีโอของสายการบิน
IM Airline เขินจนใบหน้าแดงและใบหูแดงเถือก
จินยองนึกขำในใจอยากถ่ายรูปเก็บไว้
“อ้อนแบบนี้ผมก็ไปไม่ถูกนะ
งั้นเจอกันตอนเย็นนะคะ” รถยนต์ Mercedes ขับออกไปจนสุดประตูรั้ว
จินยองจึงจัดการขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อแต่งตัวออกไปข้างนอก
ณ ห้างสรรพสิน¬ค้า
จินยองเดินทางมาถึงห้างก่อนเวลาเพราะกว่าที่สองคนจะมาก็ค่อนข้างทีจะลีลา
ชักช้าเหลือทน
เจ้าตัวเดินเข้าไปในห้างเดินเข้าร้านกาแฟตรายี่ห้อนางเงือกสีเขียวแบรนด์ดัง
เมื่อเดินเข้าไปเขาสั่งเครื่องดื่ม Salted Caramel Mocha Crumble พร้อมกับ ครัวซองท์ครีมอัลมอนด์
เมื่อจ่ายเงินค่าอาหารเสร็จเจ้าตัวเดินถือไปเลือกโต๊ะนั่งระหว่างที่รอเพื่อน
เวลาไม่นานนักแบมแบมและยองแจก็มากันครบ
ทั้งสามคนก็เดินขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นเสื้อผ้าของแบรนด์ชั้นนำ
ช็อปกันจนของเต็มมือไปหมดแต่จินยองนั้นไม่ได้หยิบบัตรที่อิมแจบอมให้มาออกมาใช้เขาใช้บัตรเครดิตของตัวเองแทน
เมื่อช็อปเสร็จก็ปาไปเกือบบ่ายความหิวเริ่มเข้ามาแทนที่จนทั้งสามคนตัดสินใจไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นบุพเฟ่ต์ที่ไม่ว่าเวลาไหนคนก็แน่นร้านโชคดีที่พอมีโต๊ะว่าง
เมื่อเดินไปที่โต๊ะร้านเป็นแบบสายพานสามารถเลือกอาหารได้ตามใจชอบ
แต่ร้านนี้เป็นแบบเวลาจำกัดชั่วโมงครึ่งหลังจากที่ทานจนรู้สึกแน่นตึงที่ท้อง
จึงเริ่มกินช้าลงและหันมาคุยกัน ยองแจที่นั่งข้างๆเขาพูดขึ้นมา
“ย้ายไปอยู่กับคุณอิมเป็นไงบ้าง”
ยองแจถามด้วยสายตาเปล่งประกาย
“มึงยังจะถามอีกเหรอช่วยดูรอยที่คอมันด้วย”
แบมแบมว่า
จินยองรีบดึงคอเสื้อมาปิดพร้อมถลึงตาใส่คนชอบแซวอย่างพวกมันสองคน
“อ่ะ ปิดใหญ่เชียว”
“รำคาญพวกมึง
อย่าได้ถึงทีกูนะ”
จินยองคาดโทษเอาไว้ถึงตาพวกมันเมื่อไหร่อย่าหาว่านี่ร้ายละกันจะเอาให้เขินไปสามบ้านแปดบ้าน
เสียงหัวเราะแหลมของยองแจหัวเราะด้วยความสะใจ
เมื่อทานอาหารจนอิ่มไม่สามารถที่จะยัดเข้าได้อีก
จึงสั่งเก็บค่ารายการอาหารเพื่อคิดเงิน
จินยองดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะขอตัวกลับก่อนทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับ
ร่างบางไม่รู้จะไปที่ไหนเพราะยังไม่อยากเข้าบ้านสักเท่าไหร่ยังอยากอยู่เที่ยวข้างนอกต่อจึงตัดสินใจนั่งรถเมล์ไปยัง
Soul Tower เมื่อไปถึงจู่ๆความรู้สึกเก่าๆที่เคยหายไปก็กลับเข้ามา...
จินยองในชุดนักเรียนแอบโดดเรียนมาเที่ยวที่โซลทาวเวอร์กับคิมยูคยอมแฟนหนุ่มของตัวเอง
ทั้งสองคนนั่งรถไฟใต้ดินกันก่อนจะจูงมือกันไปจุดชมวิวของหอคอยซื้อแม่กุญแจมาคล้องด้วยกัน
จากนั้นก็โยนลูกกุญแจลงไปข้างล่างทั้งสองคนยิ้มให้กันพร้อมกระชับมือเดินไปเดตสถานที่ต่อไป
คิมยูคยอมคือรักแรกของปาร์ค จินยอง
เมื่อเจ้าตัวไปเรียนต่อทำให้ต้องห่างกันและไม่มีการติดต่อกลับมาจากอดีตแฟนหนุ่มอีกเลย
จินยองเพียงแค่ยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาถึงจุดที่เคยใส่แม่กุญแจไม่รู้ว่าตอนนี้จะยังอยู่หรือไม่แต่แล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลกเมื่อคนที่เขาเพิ่งนึกถึงกลับมาอยู่ตรงหน้าของตัวเอง
ร่างสูงที่คุ้นตาผมดูยาวขึ้น ไหล่กว้างกว่าเดิม
เขากำลังยืนหันหลังให้กับเขาหัวใจของเขากระตุกวูบแต่เขาพยายามคิดว่าแค่คนที่ดูคล้ายกันเท่านั้นเอง
คงไม่ใช่คิมยูคยอมหรอก
รถแท็กซี่ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์อิม
จินยองถึงบ้านเกือบเย็นพอเดินเข้าไปในบ้านจู่ๆความรู้สึกของเขามันก็ไม่เหมือนเดิม
ความรู้สึกยังคงยึดติดกับความสงสัยกับเมื่อตอนที่อยู่ที่นั้นเขาไม่แน่ใจและสงสัยว่าเขาคนนั้นที่เจอนั่นใช่คนที่เขาอยากเจอหรือเปล่า
อิมเฮนาที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่หน้าทีวี
จินยองสะบัดความคิดที่ฟุ้งซ่านของตัวเองก่อนจะเดินไปช่วยเด็กน้อยที่กำลังงุนงงกับการบ้านเพราะสีหน้าออกขนาดนั้น
จินยองนึกขำเจ้าตัวเล็กจึงมาช่วย
“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
“มีค่ะ น้องทำข้อนี้ไม่ได้”
มือเล็กชี้ที่โจทย์คณิตศาสตร์ข้อ 2 เรื่องการบวก ลบ
“จอยมีมะม่วงอยู่
12 ผล โจ้เก็บมะม่วงมากกว่าจอย 8 ผล...” จินยองจึงชูนิ้วและอธิบายให้เด็กหญิงฟัง
อิมเฮนาจ้องมือเรียวเมื่อจอยมีมะม่วงอยู่ 12 ผล
โจ้เก็บได้มากกว่านั้นก็ต้องเป็นบวกจินยองอธิบายจนเด็กหญิงเข้าใจ
“เท่ากับ
20 ใช่มั๊ยคะ”
“เก่งมากค่ะ”
เด็กน้อยตบมือให้ตัวเองเมื่อทำการบ้านเสร็จก็ทำเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วเดินไปเล่นตุ๊กตาแต่งตัว
โดยมีจินยองเล่นด้วย
เด็กหญิงหัวเราะคิกคักเมื่อเจ้าตัวสร้างเหตุการณ์สมมติเล่นกับคุณม้า
จู่ๆเสียงแฟลชกล้องก็กระทบเข้าม่านตาของทั้งสองคนจึงเหลียวมองไปข้างหลัง
อิมแจบอมที่ถือกล้องฟิล์มอยู่ในมือยิ้มให้ทั้งสองแม่ลูก
ไว้ค่อยล้างฟิล์มและเก็บใส่กรอบเอาไว้
ไม่นานนักจียอนก็เดินมาเรียกเด็กๆมาทานข้าวเย็นโดยวันนี้เธอเป็นคนแสดงฝีมือเองทั้งหมด
อาหารมื้อเย็นในวันนี้คือสปาเก็ตตี้คาโบนาราของโปรดของหลานสาวที่บ่นอยากกินเมื่อวานวันนี้คุณย่าจึงจัดการเอาใจหลานสาวคนเดียวของเธอ
ส่วนของผู้ใหญ่นั้นเธอทำสปาเก็ตตี้เนื้อตุ๋น
โดยหล่อนได้เนื้อชั้นดีจากสวิตเซอร์แลนด์ที่เพื่อนของเธอนั้นส่งมาให้
หลังจากที่ทานอาหารเด็กหญิงตัวน้อยก็พูดเล่าตอนไปโรงเรียนให้ทุกคนฟังบนโต๊ะอาหาร
แต่ว่าวันนี้ตัวเองอยากจะนอนกับคุณม้าจึงอ้อนคุณป๊าของตัวเอง
“ปะป๊าขา
วันนี้น้องนอนด้วยคนได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ”
แจบอมพยักหน้ารับลูกสาว
“งั้นผมไปนอนอีกห้องนะครับ”
แต่เด็กหญิงไม่ยอมเพราะอยากจะนอนตรงกลางโดยมีคุณม้านอนอยู่ด้วย
“งื้อไม่เอาค่ะ
คุณม้าต้องนอนด้วยซี่” เด็กหญิงอ้อนด้วยสายตาหวานๆจนจินยองถอนหายใจ
เพราะเขานั้นแพ้แววตาเด็กคนนี้เวลาอ้อนมันน่าหยิก น่าบีบอะไรแบบนี้
“งั้นก็ได้ค่ะ”
จินยองตอบตกลง
“เย้”
เฮนายิ้มดีใจ
“ว้า
งั้นวันนี้น้องก็ไม่นอนกับปู่กับย่าเลยน่ะสิ” จียอนพูดเชิงหยอกเย้าหลานสาวเมื่อเจ้าตัวเล็กยิ้มแป้นแล้นปานนั้น
“งื้อออ
คุณย่าอย่างอนน้องนะคะ ไว้พรุ่งนี้น้องจะไปนอนด้วย” น้ำเสียงออดอ้อนทำเอาคนทั้งโต๊ะอยากจับเจ้าตัวมาฟัดแก้ม
พอตกกลางคืนเด็กหญิงในชุดนอนเดินเข้ามาเคาะห้องคุณป๊ากับคุณม้าเพื่อมานอนด้วย
เฮนาในชุดหมีน้อยและอุ้มตุ๊กตาเป็ดน้อยมาด้วยเดินมาที่เตียงและกระโดดขึ้นไปเพื่อประจำที่
จินยองจึงเดินไปปิดไฟตอนนี้เหลือเพียงแค่แสงไฟจากโคมไฟข้างเตียง
จินยองเดินไปที่เตียงคิงไซซ์ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างเด็กน้อย
เฮนานอนยิ้มอยู่บนเตียงอิมแจบอมปิดไฟที่โคมไฟก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มกู้ดไนท์คิสก่อนนอน
ตกดึกสงัดเครื่องปรับอากาศปรับเปลี่ยนตามอุณหภูมิความเย็นของห้องทำให้ร่างกลมที่นอนขดอยู่ตรงกลางขยับเข้าไปหาคุณม้าของเธอโดยอัตโนมัติ
ร่างเด็กน้อยม้วนกลมซุกเข้ากับผ้าห่มผืนหนา
แสงแดดในยามเช้านาฬิกาบนหัวเตียงส่งเสียงดังปลุกคนที่นอนอยู่บนเตียงทั้งสามคนให้ตื่นจากการฝันหวาน
แต่ทว่าคนที่ถูกปลุกคือจินยองที่ปรับโฟกัสสายตาเห็นพ่อลูกนอนอยู่บนที่นอนก็อดเอ็นดูไม่ได้
จินยองหยิบกล้องฟิล์มในลิ้นชักข้างเตียงของแจบอมขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้หลายรูป
เมื่อมองนาฬิกาเจ้ายอมให้เฮนานอนต่ออีกสักนิดยังไม่อยากปลุกเพราะดูเหมือนเด็กน้อยคงอยากนอนมากกว่า
จินยองเดินลุกออกจากเตียงไปทำธุระส่วนตัวก่อนจะเดินลงมายังข้างล่างเพื่อช่วยแม่บ้านทำอาหารในเช้านี้
จินยองเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบวัตถุดิบในการทำข้าวต้มหมูเด้ง
โดยร่างเล็กปั้นหมูในมือหยอดใส่หม้อที่ตั้งน้ำเดือดโดยมีแม่บ้านช่วยเป็นลูกมือ
“เอ่อ
คุณจินยองค่ะ ป้าว่าไปปลุกคุณหนูไปโรงเรียนดีไหมคะ กลัวว่าจะสาย” ป้าแม่บ้านเตือนเพราะป่านนี้ยังไม่เห็นคุณหนูของเธอเลย
“ตายจริง
ผมลืมไปเลยครับ งั้นฝากตักใส่ชามทีนะครับเดี๋ยวผมไปเรียกเอง” จินยองเพิ่งนึกขึ้นได้จึงรีบวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นสองห้องนอนมือบางค่อยบิดประตูเข้าไปก็ต้องหลุดขำเมื่อภาพที่เห็นคือสองพ่อลูกกำลังวุ่นวายอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า
สองพ่อลูกเห็นทีจะดูวุ่นวายจินยองเลยช่วยตัวเล็กแต่งตัวแทนและให้แจบอมนั้นทำของตัวเองไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้นป้านมนำชุดนักเรียนที่รีดเรียบร้อยนำมาให้คุณหนูของตนที่ห้องนอนใหญ่ของเจ้านาย
จินยองกล่าวขอบคุณและรับชุดนักเรียนขอเด็กน้อยมาแล้วพาเฮนาไปแต่งตัวเด็กหญิงถอดชุดนอนของตัวเองถอดทิ้งไว้ในตะกร้าผ้าสวมใส่ชุดนักเรียนเอง
เมื่อผูกโบว์ที่คอเสื้อเสร็จเฮนาก็เดินมาถามคุณม้าของตน
“คุณม้าทำผมให้น้องหน่อยได้ไหมคะ”
“ถักเปียหรอค่ะ”
เด็กหญิงพยักหน้า
จินยองให้น้องนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะเห็นตลับหนังยางกล่องเล็ก
มือค่อยๆหวีผมเบาๆเพราะกลัวว่าตัวเล็กจะเจ็บ
จินยองแบ่งผมเป็นสองช่อใหญ่และเริ่มการถักเปียแต่ละช่อใช้เวลาไม่นานในการผมที่ถูกปล่อยในตอนเช้ากลับกลายเป็นถักรวบตึงทั้งสองข้าง
มือบางหยิบโบว์มาผูกให้เด็กน้อย
“เสร็จแล้วค่ะ”
จินยองยืนเด็กน้อยยิ้มหวานในกระจก
“คุณม้าถักเปียสวยจังค่ะ
จะว่าไหมถ้าหนูเดินมาให้คุณม้าเปียผมทุกเช้า”
“ได้ค่ะ
ตอนนี้ก็ลงไปทานข้าวได้แล้วนะคะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย” จินยองพาลูกสาวลงไปข้างล่างยังห้องอาหารโดยมีคุณพ่อและคุณแม่ของอิมแจบอมนั่งอยู่
จียอนเอ่ยถามเรื่องทำกับข้าวในวันนี้คาดว่าน่าจะเป็นหนูจินยองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอเป็นคนทำแถมวันนี้เห็นว่าถักเปียให้ยัยหนูหลานของเธอด้วย
ตอนนี้ทุกคนนั่งทานข้าวกันครบและพูดคุยกันเรื่องต่างๆ จนกระทั่งข้างนอกมีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้านแม่บ้านเดินมาบอกว่ามีคนมาหาคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย
“เอ่อ...คุณหญิงคะ
มีคนมาหาน่ะค่ะ”
“ใครมาหรอ”
“ผู้ชายตัวสูงๆค่ะ
เขาบอกว่าเป็นหลานของพวกคุณ” จียอนเลิ่กคิ้วมองหน้าสามีเชิงเป็นคำถามว่าเป็นใคร
“เชิญเขาเข้ามาเลยก็ได้จ๊ะ”
ร่างสูงของผู้ชายผิวขาวรูปร่างสูงโปร่ง
เรือนผมสีดำขลับทรงผมยาวระต้นคอเดินเข้ามาในบ้านพร้อมเดินมาที่ห้องอาหารร่างสูงค้อมหัวทักทายสวัสดีผู้เป็นป้าและลุงของเธอ
อิมแจบอมเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ยิ้มให้
ยูคยอมค้อมหัวให้พี่ชายของเขาเล็กน้อย สายตาพลันมองไปข้างตัวของพี่ชายใครบางคนที่เขารู้จักมากๆเรียกว่ารู้นิสัยกันมากพอสมควร
ปาร์ค จินยอง
“ทำไมมาแล้วไม่บอกลุงล่ะเจ้านี่นิ”
อิมยองอุคหันมาดุหลานชาย
“ผมจำเบอร์มือถือของลุงไม่ได้
แล้วนี่...” สายตาของคิมยูคยอมเบนมาทางร่างบางของชายหนุ่มที่นั่งด้วยสีหน้ากระอั่กกระอวลใจอย่างที่สุด
เขากระตุกยิ้มเหมือนเดิมทุกอย่างเลยนะ
“เป็นแฟนฉันเอง”
อิมแจบอมตอบไป
นึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อแววตาของยูคยอมมองมายังคนรักของเขา
“งั้นเหรอครับ
ไม่ยักรู้ว่าชอบคนที่แก่กว่า” ยูคยอมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดังนักแต่จินยองกลับได้ยินเต็มสองรูหู
สีหน้าของเขาเริ่มไม่พอใจ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
จินยองยิ้มแบบฝืน
“ทุกคนขาหนูไปโรงเรียนก่อนนะคะ
สวัสดีค่ะ” อิม เฮนา
ขอตัวไปโรงเรียนเพราะตอนนี้ก็จวนเวลาสายเต็มทนแล้วอีกอย่างเธอนั้นรู้สึกแปลกๆบรรยากาศดูอบอวลไปด้วยความกระอักกระอวนจึงขอตัวไปเรียนทั้งที่อาหารบนโต๊ะยังไม่หมดดีด้วยซ้ำ
ตอนนี้ทุกคนออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว
อิมแจบอมไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ไปงานข้างนอกตอนนี้มีเพียงเขาและคิมยูคยอมอยู่ในบ้านเท่านั้น
จียอนจึงขอให้ว่าที่ลูกสะใภ้ช่วยดูแลหลานชายเธอแทนที
จินยองจึงมีหน้าที่พาคิมยูคยอมไปที่ห้องนอนรับแขกที่ให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดให้เรียบร้อยเสร็จจินยองเดินนำขึ้นบันไดพาแขกไปที่ห้องนอน
เมื่อเดินเข้าไปเสร็จพวกแม่บ้านก็นำกระเป๋าไปเก็บไว้ในห้องไว้ให้หลังจากแม่บ้านออกไปแล้วจู่ๆร่างสูงของคิมยูคยอมเดินเข้ามาเขาเหมือนกับต้องการพูดอะไรบางอย่าง
ขายาวค่อยๆก้าวเข้ามาหาตัวเขาช้าๆจนเขาเริ่มถอยไปข้างหลังเรื่อยๆ
“ไม่คิดจะทักทายผมหน่อยหรอ
จินยอง” ตอนนี้แผ่นหลังของร่างเล็กชิดกำแพงก่อนจะโดนแขนแกร่งทั้งสองข้างกักไว้
“คิม
ยูคยอมหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ผมเป็นแฟนพี่คุณนะ”
“แต่นายก็เคยเป็นแฟนฉันเหมือนกัน
ไม่ยักจะรู้ว่านายจะกลายมาเป็นพี่สะใภ้ฉัน” ยูคยอมกระตุกยิ้มมุมปากที่กวนประสาทอดีตแฟนของตัวเองได้
“แฟนบ้าอะไรครับจู่ๆก็ไปจากผมโดยไม่บอก
ไม่มีแม้แต่คำบอกลาด้วยซ้ำ”
“ขอโทษตอนนั้นจู่ๆพ่อก็ให้ผมไปเรียนต่อที่ต่างประเทศกะทันหัน”
“ช่างมันเถอะมันเป็นเรื่องอดีต
ตอนนี้ผมก็เป็นแฟนพี่ชายคุณ” จินยองผลักแขนแกร่งจะเดินออกจากห้องแต่ทว่าเจ้าคนตัวสูงตรงหน้ายังคงมาวอแวจนเขาเริ่มรำคาญ
“นี่ยังไงฉันกับนายก็เป็นเพื่อนกันได้นะเว้ย”
ยูคยอมหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งของอดีตแฟน
“ไม่อยากเป็น
จะออกไปแล้วรำคาญ” จินยองเดินหนีทันที
ส่วนคนตัวสูงหัวเราะไล่หลังที่แกล้งเขาได้
จินยองเดินหัวเสียออกมาจากห้องนอนของอดีตแฟนด้วยความโมโห
ให้ตายกับความกวนตีนของคิมยูคยอมจากที่ตอนแรกรู้สึกดีตอนนี้แม่งติดลบ ระหว่างที่กำลังฟึดฟับอยู่กับอารมณ์ของตัวเองเสียงโทรศัพท์จากจินเฮก็โทรเข้ามาเป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือของแม่ที่โทรเข้ามา
จินยองกดรับสายพร้อมปรับโหมดน้ำเสียงให้เป็นปกติ
“ว่าไงครับแม่”
(จินยองอยู่โซลหรือเปล่าลูก)
“ครับ
มีอะไรหรือเปล่า” เขาถามแม่
(คืองี้แม่ว่าจะฝากพี่ซูยองเอาของไปให้แกที่คอนโดน่ะ)
“คือว่า...ถ้าพี่มาให้มาเจอผมที่ถนนXXX
ละกันนะครับ” จินยองพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเพราะตัวเองนั้นยังไม่ได้บอกเรื่องที่ย้ายคอนโดให้กับครอบครัว
“ทำไมน้ำเสียงดูแปลกๆ...มีอะไรปิดบังฉันหรือไงยะ”
“บ้าน่า
ไม่มี๊ แม่คิดมากแล้วงั้นแค่นี้นะครับ”
“ดะ
เดี๋ยว..” จินยองรีบกดวางโทรศัพท์อย่างรวดเร็วไม่ทันที่แม่จะพูดอะไรด้วยซ้ำ
ร่างเล็กได้แต่ขอโทษแม่ภายในใจเท่านั้นเขายังไม่อยากบอกแม่เรื่องความสัมพันธ์ของเขาและคุณอิมสักเท่าไหร่
มีหวังแม่คงบังคับให้เขาแต่งงานแน่ๆ รอสักหน่อยค่อยบอกก็แล้วกัน
ในตอนเย็นจินยองอาสาที่จะเข้าครัวเพื่อทำอาหารให้กับคนที่บ้านทาน
ร่างเล็กเดินปที่ตู้เย็นเพื่อดูวัตถุดิบที่จะทำว่าตนนั้นสามารถทำอะไรได้บ้างจากของที่อยู่ในตู้
เขาหยิบเนื้อไก่ที่นอนแช่อยู่ในช่องฟิตมาละลายน้ำแข็งเมนูวันนี้ที่เขาจะทำนั้นคือ
พุลถัก หรือเรียกว่า ไก่เผ็ดกระทะร้อน
เขารู้มาจากจียอนแม่ของคุณอิมว่าความจริงอิมแจบอมนั้นชอบทานไก่มากที่สุดในโลก
เขาเริ่มเตรียมของต่างมาที่จะเริ่มทำแต่ทว่าเจ้าตัวนึกได้ว่าเฮนานั้นทานเผ็ดไม่ได้เพราะเธอยังเด็กจึงทำอีกเมนูขึ้นมาคือคิมชิ
พกกึมบับ หรือที่เรียกกันว่าข้าวผัดกิมจิ
โดยจินยองทำเพิ่มคือโพซั่มหมูห่อผักและให้แม่บ้านช่วยกันทำเครื่องเคียง
ใช้เวลาไม่นานนักอาหารทุกอย่างก็เสร็จลงเรียบร้อย
จินยองวานแม่บ้านให้เอาไปเตรียมโต๊ะเพื่อตั้งอาหารเพราะอีกไม่นานทุกคนก็กำลังจะกลับมา
ระหว่างที่จินยองกำลังง่วนอยู่กับการทำคิมบับมีใครบางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
“หอมจัง
ทำอะไรทาน” ยูคยอมที่ยืนซ้อนหลังของเขาอยู่
จินยองรีบขยับหนีด้วยความไม่ชอบใจ
“ต้องการอะไรของนายกันแน่เนี่ย”
จินยองถาม คิมยูคยอมกระตุกยิ้ม
“ไม่รู้สิ
นายคิดว่าฉันจะทำอะไร” มือหนาลูบใบหน้าเนียนอย่างถือดี
จินยองพยายามที่จะปัดออก
“เป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย...ปล่อยถ้าคนอื่นมาเห็นเขามันจะไม่ดี”
“ไม่”
ร่างสูงโน้มตัวลงมาประชิดที่ใบหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
อิมแจบอมที่กลับมาจากที่ทำงานพร้อมกับลูกสาววันนี้เขาเป็นคนไปรับเองก่อนจะพาเจ้าหญิงน้อยของเขาไปแวะทานไอศกรีมก่อนกลับ
เด็กหญิงมองหาคุณม้าของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นคุณม้าของเธอเลยสักนิด
ในเวลานั้นแม่นมของเธอก็เดินมาพอดีเด็กหญิงจึงถามแม่นมของเธอ
“นมขา
คุณม้าจินยองอยู่ไหนเหรอคะ”
“อยู่ในครัวค่ะ”
อิมเฮนา พยักหน้าตอบรับก่อนจะหันไปหาคุณพ่อ
“ไปหาคุณม้ากันไหมดีกว่าค่ะ
ดูคิดถึงแล้ว”
เด็กหญิงเดินนำหน้าเข้าไปที่ครัวอย่างรวดเร็วก่อนจะชะงักให้กับภาพที่เธอเห็นซึ่งอิมแจบอมก็เห็นว่าลูกพี่ลูกน้องของตัวเองนั้นกำลังยุ่งกับคนรัก
อารมณ์ตอนนี้เขาพร้อมที่จะระเบิดเต็มที่ให้กับภาพที่เห็นคือจินยองอยู่ในอ้อมแขนของมัน
“พวกนายสองคนกำลังทำอะไรกัน”
เสียงเข้มของเขาทำให้จินยองผลักร่างสูงของยูคยอมออกจากตัวไป
แววตาเล็กสั่นระริกด้วยความรู้สึกผิดและกำลังกลัว
“เปล่านี่ครับ
พี่ชายมีอะไรหรือเปล่าผมก็แค่มายืนข้างๆพี่สะใภ้เพราะหอมดี...หมายถึงอาหารน่ะ”
ยูคยอมยิ้มกวนประสาทยั่วลูกพี่ลูกน้องอยู่นัยน์ๆ
บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวในมื้อเย็นเต็มไปด้วยความอึดอัดอย่างเห็นได้ชัดคุณอิมดูนิ่งไม่ได้สนใจเขาอย่างที่จะเป็น
ร่างหนาหันไปคุยตักอาหารให้กับลูกสาวน้องเฮนา
เด็กน้อยได้แต่นั่งทำตาปริบๆเมื่อนั่งอยู่ตรงกลางเด็กหญิงจึงถามขึ้นมาเมื่อเห็นคุณม้าของเธอนั้นนิ่งเกินไป
“คุณม้าขาวันนี้ข้าวผัดกิมจิอร๊อยอร่อยค่ะ”
อิมเฮนายกนิ้วโป้งให้คุณแม่ จินยองยิ้มบางๆให้กับลูกสาว
“งั้นก็ทานเยอะๆนะคะ”
จินยองคีบเนื้อหมูมาห่อไว้ในผักและยื่นให้เจ้าตัวเล็กทาน
เด็กหญิงอ้าปากยอมให้คุณแม่ป้อนโพซัม
“ขอบคุณนะคะ”
เฮนายิ้มตาหยี จากนั้นก็เคี้ยวหมูห่อพักที่คุณม้าป้อนให้ทาน
คุณหญิงนั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะระหว่างแจบอมและว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอเหมือนกับว่ากำลังมีปัญหาอะไรกันสักอย่าง
หวังว่าตาลูกชายของเขาจะไม่ปล่อยมือน้องแล้วกันดีขนาดนี้
หวังว่าคงจะดีกันซึ่งเธอก็ไม่อยากก้าวก่ายนัก
แต่พอหันไปมองหลานชายคุณหญิงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคิมยูคยอมกลับมาจากอเมริกาเพราะอะไรแถมมาก็ยังไม่บอกไม่กล่าวอะไรอีก
“นี่ว่าจะถามว่ามาที่นี่พ่อรู้หรือเปล่า”
จียอนถามหลานชาย
“ไม่ได้บอกครับ
อยากมาผมก็กลับมาเลย”
“อืม
ยังไงโทรบอกพ่อเขาหน่อยก็ดีตอนนี้ก็คงเป็นห่วง” อิม ยองอุค
บอกหลานชายแต่คิมยูคยอมกลับนิ่งเฉย
ยองอุคได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้ว่าคิมยูคยอมนั้นไม่ถูกกับพ่อของตัวเองสักเท่าไหร่ตั้งแต่น้องสาวของเขาเสียไปสองคนนั้นก็ทะเลาะกันหนักข้อมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น