คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คุณแม่ของน้องเฮนา (100%)
CHAPTER 4
คุณแม่ของน้องเฮนา
ช่วงเวลาดินเนอร์ทั้งสี่คนเลือกร้านอาหารริมทะเลเป็นร้านอาหารที่ติดกับหาดกะรน
เป็นบรรยากาศร้านที่มีตัวร้านยื่นเป็นระเบียงไว้สำหรับการดื่มด่ำกับกลิ่นของทะเล
เมื่อเดินเข้าไปในร้านเขาเลือกโต๊ะที่อยู่ริมระเบียงในสุดโดยมีพนักงานร้านตามไปรับออเดอร์ถึงที่โต๊ะ
ระหว่างที่กำลังเลือกอาหารที่จะสั่งทานกันโชคดีที่คุณอิมและพี่มาร์คสามารถทานเผ็ดได้แต่ยกเว้นปาร์คจินยองที่นอกจากจะทานเผ็ดไม่ได้แล้ว
อาหารไทยนั้นเขาทานได้ไม่กี่อย่างเพียงเท่านั้น
แบมแบมเป็นคนจัดการเลือกอาหารมื้อค่ำในวันนี้
ใช้เวลาไม่นานนักอาหารไทยก็ถูกมาวางเสิร์ฟเต็มโต๊ะคืออาหารทะเลเผาต่าง ๆ
นานาและซิกเนเจอร์ของเจ้าของร่างผิวสีน้ำผึ้งนั้นก็คือส้มตำปูปลาร้าที่เจ้าตัวชอบ
เมื่อทานกันเสร็จเรียบร้อยมาร์คและแบมแบมแยกตัวออกไปทันที่เหลือเพียงแค่ปาร์คจินยองและคุณอิมแจบอมซีอีโอหนุ่มเจ้าของธุรกิจการบินอิม
AIRLINE
ร่างบางยังไม่อยากกลับห้องพักเพราะรู้สึกไม่ง่วงสักเท่าไหร่นัก
อิมแจบอมจึงชวนร่างบางไปเดินเล่นชายหาดที่เดินไปเมื่อตอนบ่าย
เดินย่อยมื้อเย็นอากาศที่เย็นสบายมีลมพัดเย็นอ่อนๆ ไปทั่วบริเวณรอบๆ
จนทำให้เจ้าตัวเริ่มหนาวเล็กน้อย ทั้งสองคนทิ้งตัวนั่งลงบนผืนทรายนุ่มทอดมองออกไปข้างหน้าโดยมีขวดเบียร์เล็กๆ
ที่คุณอิมเป็นคนเดินไปซื้อมาก่อนมาเดินเล่น ร่างสูงในชุดฮาวายสีขาวทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
อิมแจบอมแกะฝาเบียร์ยื่นให้น้อง จินยองนำขวดมาถือไว้ จากนั้นก็ดื่มและคุยกันเรื่องสัพเพเหระ
ท้องฟ้าตอนนี้เป็นสีดำสนิทแต่เป็นวันที่พระจันทร์ส่องแสงสว่างไปทั่วหาดทำให้ทั้งสองคนมองเห็นวิวบรรยากาศรอบๆ
พร้อมนั่งจิบเบียร์ในมือมันได้บรรยากาศเสียจริง
จนกระทั่งคนตัวโตถามเขาถึงความสัมพันธ์ในตอนนี้ว่าตอนนี้พวกเขาสองคนนั้นเป็นอะไรกัน
แจบอมนั้นอยากจะเป็นคนรักอย่างเต็มที่แต่ไม่รู้ว่าจินยองนั้นจะคิดเช่นไร
“ทำไมนายถึงไม่ยอมคบกับฉันสักทีล่ะ
จินยอง”
“ไม่รู้สิครับ
ผมยังรู้สึกไม่มั่นใจในตัวคุณสักเท่าไหร่” คุณอิมเลิ่กคิ้วเมื่อน้องไม่มั่นใจอะไรในตัวเขาอีกในเมื่อเขาชัดเจนเกือบทุกอย่าง
จินยองคิดว่าคนอย่างคุณอิมต้องเจอกับคนอีกเยอะซึ่งตัวเขาเองก็ไม่มีคุณสมบัติที่ดีอะไรขนาดนั้นถ้าเทียบกับผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตชายหนุ่มเขาคงอยู่ส่วนปลายมากกว่า
อีกอย่างคนอย่างเจ้าของสายการบินคงไม่มีทางจริงจังกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอย่างเขาหรอก
“นายยังไม่มั่นใจอะไรฉันอีก
ฉันแสดงชัดเจนไม่พอเหรอว่าฉันชอบนาย อีกอย่างลูกสาวของฉันก็ชอบนายด้วย ลองบอกฉันบอกมาสิ”
“ผมเคยเห็นรูปภาพในห้องคุณ
นั่นคือภรรยาของคุณใช่ไหม” อิมแจบอมพยักหน้าใบหน้าคมเศร้าลงถนัดตา
ในตอนนั้นที่เขาไปนอนห้องของอิม
แจบอมเขาเจอรูปของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายกับเขาราวกับฝาแฝดแต่ตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยมีแฝดด้วยซ้ำ
ซึ่งภายในความคิดของจินยองตอนนี้ที่คิดว่าแจบอมมาวอแวตัวเองนั้นเพราะว่าแค่หน้าเหมือนอดีตภรรยา
ยังไงเขาก็ไม่มีวันจริงจังกับพนักงานต้อนรับต็อกต๋อยแบบเขาแน่ๆ
“ใช่ และเขาเหมือนนาย”
อิม แจบอมยอมรับ ซึ่งก็ทำให้น้องนั้นอดเสียใจไม่ได้
ร่างเล็กเม้มปากและพูดสิ่งที่อยากพูดออกไป
“คุณไม่ได้ชอบผมจริงๆ
หรอกครับ ผมแค่หน้าคล้ายภรรยาเก่าของคุณเพียงเท่านั้น” จินยองพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยเขากลัวใจตัวเองจะถลำลึกไปมากกว่านี้ยิ่งถ้าเขาคนนี้ดีกับเขาขนาดไหน
มันก็ยิ่งอันตรายต่อหัวใจสู้ไม่ไปต่อและเป็นเพียงแค่เจ้านายและลูกน้องก็คงจะดีกว่า
“ตอนแรกๆ
ฉันยอมรับนะว่าผมตกใจที่นายหน้าเหมือนกับภรรยาเก่าของฉัน
แต่พอมารู้จักนิสัยใจคอของนายฉันไม่ได้ชอบนายเพียงเพราะแค่หน้าเหมือนภรรยาเก่าแต่ชอบนายที่เป็นตัวของนายเองมากกว่า”
อิมแจบอมพูดพลางจ้องตาเข้าไปในส่วนลึกของนัยน์ตาหวานทำให้หัวใจของคนคนนี้สั่นไหวกับคำพูดของคนตรงหน้า
ร่างบางหลบสายตาเหมือนไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเองว่าแท้จริงก็ชอบเขาเช่นกัน
“ผมว่า...” จู่ๆ ห้วงคำพูดก็ขาดช่วงเมื่อใครบางคนประกบริมฝีปากบนปากนุ่มนิ่มของจินยอง
ร่างเล็กเบิกตาโตด้วยความตกใจพยายามที่จะขืนตัวแต่กลับโดนมือหนาล็อคใบหน้าหวาน
ริมฝีปากหนาของชายหนุ่มตักตวงความหอมหวานของโพรงปากเด็กน้อยตรงหน้ายิ่งพยายามถอยหนีเขายิ่งต้อนคนตัวเล็กให้จมมุม
จนเจ้าของร่างผิวขาวต้องยอมจำนนไม่ขัดขืนใดๆ
ปล่อยให้คุณอิมจูบไปอย่างนั้นเป็นเวลาเนิ่นนานกว่าคนตัวโตจะยอมถอนริมฝีปากออก
จินยองเมื่อเป็นอิสระรีบตักตวงอากาศเข้าปอดให้เร็วที่สุด
ร่างบางมองค้อนคนที่ทำเขาเกือบตายจินยองหน้าแดงซ่านทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้
“ทีนี้มั่นใจฉันได้หรือยัง”
“ไม่รู้ผมง่วงแล้ว”
ร่างบางตัดบทรีบลุกจากชายหาดเดินไปที่พักโดยมีคุณอิมเดินตามหลังมาด้วย
ทันทีที่เข้าห้องคนที่โดนขโมยจูบรีบเดินหนีไปที่ห้องน้ำทันที
คุณอิมเดินตามเข้าไปในห้องเห็นเจ้าตัววิ่งเข้าห้องน้ำก็นึกขำกับท่าทางของน้อง
เป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงที่จินยองยังคงนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำไม่ยอมออกไปข้างนอก
จนกระทั่งเสียงเคาะประตูของคนตัวโตที่อยู่ข้างนอกเคาะเรียกเนื่องจากเห็นเขายังไม่ยอมออกจากห้องน้ำสักที
“เป็นอะไรหรือเปล่า
เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
“ครับ”
จินยองลุกออกจากอ่างอาบน้ำไม่ลืมที่จะเปิดน้ำในอ่างใหม่ให้คนตัวโตที่จะมาอาบต่อ
ทำไมความรู้สึกเหมือนเมียที่ต้องเตรียมน้ำอาบให้ผัวยังไงก็ไม่รู้สิเจ้าตัวคิด
เหมือนฟ้าแกล้งกันหรืออย่างไรเมื่อจินยองลืมเอาเสื้อผ้าเข้ามาในห้องน้ำด้วยแต่เดชะบุญที่มีผ้าคลุมอาบน้ำทำให้คนตัวเล็กหยิบมันขึ้นมาสวมจากนั้นก็เปิดประตูลูกบิดจะออกไป
แต่ทว่าคนที่จะเข้าห้องน้ำต่อไม่ยอมให้เขาออกไป
“นี่คุณ ฮื๊ออ
ทำอะไรเนี่ยจะออกไปแล้ว” อิมแจบอมไม่ตอบก้าวขาเดินไปหาจินยองที่เดินถอยหลังลงไปแววตาเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้าทำเอาจินยองไม่โอเคเพราะตอนนี้ร่างกายของเขามีเพียงแค่ชุดคลุมอาบน้ำเท่านั้น
“ถูหลังให้ผมหน่อยสิ”
“เรื่องไรเล่า
นี่คุณผมจะเปียกนะ อีกอย่างผมอาบน้ำแล้วด้วย” แจบอมไล่ต้อนคนตัวเล็กจนชิดอ่าง
สายตาเล็กๆ สอดส่ายหาทางรอดแต่คงคิดว่าไม่มี
เมื่ออิมแจบอมไม่ยอมเปิดทางให้เขาหนีไปทางไหนได้เลย
“อาบอีกก็อาบใหม่ได้”
แจบอมถอดเสื้อทิ้งไว้อีกมุมของห้องน้ำ เขาช้อนตัวของจินยอง
และวางลงบนอ่างน้ำตอนนี้ของเขาเปียกชุ่มไปหมด จินยองแหวใส่คนตัวโตด้วยความไม่พอใจ
“ย่าห์ทำอะไของคุณเนี่ย
ผมเปียกเนี่ย หึ้ยยย” จินยองนั่งหน้างออยู่ในอ่างอาบน้ำทำท่าจะลุกแต่โดนมือของคนตรงหน้าดึงไว้ไม่ยอมให้ลุก
ตอนนี้เสื้อคลุมอาบน้ำมันลู่จนแนบเนื้อ อิมแจบอมเผลอกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นผิวขาวเนียนของจินยองที่ล่อสายตา
จินยองรีบตะปบคอเสื้อตัวเองทันทีแต่ก็คงไม่พ้นสายตาราชสีห์อย่างแจบอมที่จ้องจะตะปบเขากินทุกตอน
“ปิดทำไมก็เห็นหมดแล้ว”
จินยองหมั่นไส้กับคำพูดของคนตรงหน้าอยากปั๊มขววดสบู่แล้วเอามาป้ายตาของคุณอิมชะมัด
แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดในใจถ้าทำไปมีหวังคงได้เปลี่ยนงานใหม่แน่ๆ
“ผมง่วงแล้ว นะ
ไม่แกล้งผมนะ นะ” จินยองทำท่าเป็นแมวอ้อน
แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเมื่อจู่ๆ
คุณอิมเลื่อนใบหน้าเข้ามาหาตัวเองอย่างรวดเร็วจนจินยองแทบจะหายใจสะดุด
ใบหน้าที่ห่างกันไม่กี่เซนหัวใจของคนตัวเล็กเต้นระรัวเป็นกลองเมื่อใบหน้าของคุณอิมไม่มีทีท่าที่จะออกห่างเขาเลยสักนิด
“คะ อื้อ” หัวแม่โป้งของใหญ่เกลี่ยริมฝีปากอิ่มอย่างเบามือและใช้ปากประกบลงมาอีกครั้ง
มือหนาวางไว้บนท้ายทอยของร่างบาง
จินยองพยายามหาทางรอดเงื้อมมือแต่เปอร์เซ็นต์น้อยมากแต่จะให้โดนกินอีกครั้งเขาไม่ยอม
“โอ๊ยย” จินยองตัดสินใจงับปากคนตัวหนาทันทีจนเขาต้องถอนจูบ
ตัวแสบรีบวิ่งออกจากห้องน้ำทันที
แจบอมส่ายหัวให้เขาความดื้อของเมียเด็กตัวเองที่ไม่ยอม
แต่อีกเดี๋ยวก็ยอมตอนนี้เขาจะปล่อยไปก่อน ว่าแต่แสบปากชะมัด
ในตอนเช้าตรู่จินยองถูกปลุกขึ้นมาฟังเสียงคลื่นทะเลและสูดกลิ่นอายของทะเลทำให้เจ้าตัวรู้สึกสดชื่นมองไปที่ข้างกายที่คั่นกลางไว้ด้วยหมอนข้างเมื่อคืนบัดนี้หมอนข้างกลับถูกโยนลงจากเตียงและใบหน้าตี๋ที่นอนหันหน้ามาทางเขากำลังนอนหลับสนิทร่างบางค่อยๆ
ยันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนเบาๆ เพียงเพราะกลัวว่าคนที่นอนหลับสนิทจะตื่นขึ้นมา
ร่างบางยืนมาดูวิวที่ระเบียงที่เห็นผืนน้ำทะเลสีฟ้าจุดสุดลูกหูลูกตา
ร่างบางตัดสินใจหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายพร้อมอัพลงโซเชียล
เขาเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวจะไปเดินเล่นข้างนอกคิดว่าจะไปนั่งเรือไปเที่ยวชมเกาะอื่น
เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยคนตัวเล็กเดินไปเรียกอิมแจบอมที่นอนอยู่
“คุณอิม ตื่นได้แล้วครับ”
ร่างหนาหรี่ตาขึ้นมามองและเปลือกตาปิดลงอีกครั้งด้วยความง่วง
เพราะเมื่อคืนนี้กว่าจะข่มตานอนได้ก็สาหัสพอสมควรกลิ่นพีชที่เขามักได้กลิ่นจากคนตัวเล็กเขาข่มใจไม่ดึงคนตรงหน้ามาฟัดก็ดีแค่ไหนแล้ว
“คุณตื่น งั้นผมจะออกไปคนเดียวละนะ”
“โอเค ผมตื่นแล้ว”
แจบอมลุกขึ้นจากที่นอนเดินตรงไปที่ห้องน้ำในสภาพที่ยังไม่อยากตื่นสักเท่าไหร่แต่ถ้าให้น้องไปเดินคนเดียวเขาไม่ยอม
หวง.
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงทั้งคู่แต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยก็พากันเดินลงลิฟต์ไปเจอมาร์คและแบมแบมที่ห้องอาหารของโรงแรมจากนั้นทั้งสี่คนจ้างเรือกันเที่ยวตามเกาะต่างๆ
เรือจอดยังจุดเยี่ยมชมปะการัง
จินยองสวมชุดประดาน้ำเรียบร้อยจากนั้นก็เตรียมลงไปคนแรก เขาสวมหน้ากากออกซิเจนเพื่อที่จะดำดูปะการังใต้น้ำ
อิมแจบอมลงมาตามคนตัวเล็กที่กำลังดำน้ำชมสิ่งสวยงามใต้ทะเล
ส่วนแบมแบมกับมาร์คเลือกที่นอนอาบแดดอยู่บนเรือก่อนปล่อยให้เพื่อนรักสวีทกันไปก่อน
ขณะที่จินยองกำลังดำน้ำชื่นชมปะการังนั้นมือหนาค่อยใครบางคนที่ว่ายมาสอดประสานมือเข้าด้วยกันและว่ายน้ำไปด้วยกันความอุ่นแผ่ซ่านไปที่หัวใจของจินยองใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ร่างบางว่ายเคียงคู่ซีอีโอหนุ่มดูพวกปลาการ์ตูน
อิมแจบอมหยิบกล้องที่ถ่ายใต้น้ำขึ้นมาเก็บภาพหลายรูปจนพอใจ
จนกระทั่งเริ่มบ่ายคล้อยบวกกับความหิวทำให้พวกเขาขึ้นมาพักก่อน ที่เรือลำนี้มีอาหารเวฟสำหรับลูกค้าที่เช่าทั้งหมดพักทานอาหารกลางวันกันจากนั้นก็พาไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ
จนถึงช่วงเย็นที่โรงแรมที่พวกเขาพักมีงานเลี้ยง ฟลูมูนปาร์ตี้
ในค่ำคืนนี้จินยองรู้สึกสนใจแต่ก็ไม่วายโดนแบมแบมเบรกเรื่องการแตะแอลกอฮอล์สุ่มสี่สุ่มห้า
เวลาหนึ่งทุ่มจินยองในชุดเสื้อสีขาวบางส่วนอิมแจบอมอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มข้างในเป็นเสื้อกล้ามและกางเกงขาสามส่วนเดินไปที่งานที่จัดขึ้นหน้าหาดเสียงดนตรีที่เรียกนักท่องเที่ยวให้มาสนุกสนานกันในค่ำคืนนี้
แบมแบมเดินถือบัคเกตที่ตนซื้อมาทั้งหมด 2 ถังยื่นให้กับคุณอิมถังหนึ่ง กลิ่นเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอร์ลอยฉุนขึ้นมา
ผู้คนหรือนักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามามีทั้งคนต่างชาติและคนไทยที่มาเที่ยว
สาวๆ
ในชุดบิกีนี่เดินเข้ามาเบียดร่างหนาของซีอีโอหนุ่มและนักบินสายตาหวานของเจ้าหล่อนมองมาที่พวกเขาอย่างหิวกระหาย
แบมแบมเห็นแล้วรู้สึกไม่พอใจสักเท่าไหร่จึงชวนจินยองไปที่โซนที่มีแต่ฝรั่งหุ่นแซ่บๆ
ร่างบางทั้งสองคนบดเบียดเดินฝ่าฝูงชนแต่ทว่าจินยองกลับพลัดหลงในฝูงชนพอแบมแบมหันหลังไปก็ไม่เห็นเพื่อนของเขาที่เดินตามมาตั้งแต่แรก
ทางด้านจินยองที่เผลอไปแป๊บเดียวแผ่นหลังบางของแบมแบมก็พ้นสายตาไปจนมองไม่เห็น
ร่างบางพยายามแหวกผู้คนออกมาใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะแหวกฝูงชนออกมาได้เรียกว่าเกือบตายใน
‘ดงตีน’ ของจริง
ทางที่ออกมาเหมือนเป็นทางข้างหลังที่เต็มไปด้วยโขดหิน
จินยองให้ฝ่ากลับไปก็คงไม่ไหวระหว่างนี้ก็คงนั่งรออยู่แถวนี้สักพัก
โชคดีที่วันนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงทำให้บรรยากาศดูไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่
เขาหย่อนตัวลงนั่งพิงโขดหินมีเพียงเสียงเพลงที่ลอยมาไม่ดังมาก
โทรศัพท์ที่แผดเสียงขึ้นมาเขากดรับพร้อมกรอกเสียงลงปลายสายแต่ทว่าสัญญาณถูกตัดไป
แบมแบมโทรหาจินยองไม่มีสัญญาณตอบรับทั้งสามคนเริ่มเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอันตราย
อิมแจบอมจึงอาสาที่จะเดินไปที่คนของเขาหายตัวไปทั้งหมดแยกย้ายกันตามหาจินยองกัน
ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเดินไปจุดที่คาดว่าได้พลัดหลงไป สาวๆ
หลายคนที่เข้ามาอยากทำความรู้จักด้วยก็ต้องแห้วเพราะร่างสูงไม่ได้สนใจพวกหล่อนเลยสักนิด
จนออกมาสุดทางของงานเจอกับหาดที่เงียบสงบในยามค่ำคืนพร้อมกับใครบางคนที่เขาตามหา
จินยองที่นั่งเล่นเขี่ยทรายฆ่าเวลาไปพลางๆ
แจบอมรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นจินยองยังคงปลอดภัย
เขาเดินไปที่ร่างเล็กที่นั่งหันหลังให้
ตัดฉับๆ เข้าบล็อก
จินยองไม่รู้ว่าแจบอมพาเขากลับจากหาดตอนไหน
เพราะเจ้าตัวเอาเปรียบร่างกายของตัวเองไม่น้อยตั้งแต่สะโพกลงไปตอนนี้รู้สึกปวดไปหมด
สายตาหวานมองไปยังพื้นที่ด้านข้างไม่พบร่างสูงของใครนอนอยู่แต่ได้ยินเสียงเหมือนมีใครอยู่ตรงโซนครัว
ร่างบางค่อยๆ ลุกขึ้นตอนนั้นแจบอมเป็นคนจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาทุกสิ่งอย่าง เมื่อปลายเท้าเหยียบลงบนพื้นความเจ็บแล่นไปที่สะโพกมนและช่องทางด้านหลังจนถึงกับต้องเบ้หน้าเพื่อข่มความเจ็บปวดนั้นเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
ร่างเล็กเลิกปกเสื้อตรงลำคอขาวมีรอยกลีบกุหลาบหลายจุดและเป็นจุดที่คนสังเกตเห็นชัด
ไม่ว่าจะเป็นตรงไหปลาร้า หน้าอก ล้วนเป็นฝีมือของคุณอิมทั้งสิ้น..
ให้ตายแล้ววันนี้เขาจะออกไปไหนได้ไหมเนี่ย
เสียงจานกระทบกับช้อนดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดประตูห้องนอนทำให้จินยองรีบจัดการกับตัวเอง
เมื่อเดินออกมาก็ได้กลิ่นหอมๆ ของอาหารเป็นเมนูออมเล็ต ไข่ดาวและไส้กรอก
2 ชิ้นจัดวางอยู่ในจานกระเบื้องสีขาว
ร่างหนายิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางการเดินของน้อง
“จะทานบนเตียงหรือจะทานที่โต๊ะข้างนอกครับ”
แจบอมวางจานอาหารที่ตัวเองเป็นคนทำวางไว้ตรงโต๊ะเล็กๆ
ตรงหน้าต่างและหันมาถามคนรักหมาดๆ ของตัวเองเมื่อคืนนี้
“ทานข้างนอกก็ได้ครับ”
แจบอมพยักหน้าพร้อมยกจานกระเบื้องสีขาวยกไปไว้ที่โต๊ะกินข้าวข้างนอก
ร่างบางของจินยองยังคงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงผ้าแพรสีน้ำตาลแบบกางเกงสะดอค่อยๆ
หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้
“ถ้ากลับไปย้ายข้าวของของคุณที่อยู่คอนโดย้ายมาอยู่ที่บ้านผมให้หมด”
อิมแจบอมเอ่ยเป็นคำสั่ง ใครจะปล่อยให้เมียตัวเองอยู่คอนโดคนเดียววะ
ไม่มีทาง
“ห้ะ ไม่เอาอ่ะ
ผมไม่ย้ายนะคุณ” เขาอยู่คอนโดของเขาคนเดียวมาตั้งกี่ปี
อีกอย่างเขายังไม่อยากย้ายไปไหนทั้งนั้น
“แต่เราเป็นเมียพี่...ก็ต้องอยู่กับพี่”
เมื่อคนตรงหน้าแทนตัวเองว่าพี่ แก้มกลมของคนตัวเล็กขึ้นสีระเรื่อทำไมต้องเขินขนาดนี้กันเล่า
“แต่...”
“ห้ามปฏิเสธค่ะ
ว่าที่คุณแม่”
ตูมมมม
ไม่ใช่เสียงระเบิดหรือก่อการร้ายในประเทศไทยแต่เสียงของคนที่โดนดาเมจความรุนแรงของคำหวานของซีอีโอหนุ่มเจ้าของสายการบินตรงหน้าที่ทิ้งระเบิดให้เขาจนรู้สึกอยากระเบิดตัวเองตอนนี้
จินยองไม่สนใจก้มหน้าก้มตาทานอาหารมื้อเช้าของตัวเอง
อิมแจบอมรู้ว่าน้องเขินเพราะตอนนี้พวงแก้มกลมเป็นสีชมพูระเรื่อจนน่ากดลงบนโต๊ะกินข้าว
คุณอิมระบายยิ้มเล็กๆ บนใบหน้ามองใบหน้าหวานที่ก้มหน้างุดด้วยความเขิน
แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งก้มคอเสื้อที่ตัวเองใส่นั้นกว้างแค่ไหน
แจบอมไม่ใช่คนหื่นแต่ก็อดที่จะมองไม่ได้ยิ่งมีรอยคิสที่เขาเป็นคนทำน้องยิ่งดูเซ็กซี่
ระหว่างที่กำลังทานข้าวเช้าอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นคนตัวโตลุกไปหยิบสมาร์ทโฟนสีดำด้านยี่ห้อผลไม้ที่วางไว้บนโต๊ะบาร์ที่ทำอาหาร
ริมฝีปากหน้าคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อเห็นรูปภาพและชื่อของคนที่โทรมา
“MY daughter”
ร่างหนากดรับสายภาพในหน้าจอฉายเด็กหญิงยิ้มแป้นมาแต่เช้า
ผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบไว้ด้านหลัง
อิมเฮนาวันนี้อยู่ในชุดกระโปรงเอี๊ยมกำลังนั่งอยู่บนโซฟาโดยมีลูกสมุนทั้งหมดสามตัวกำลังซนอยู่ด้านหลัง
มือเล็กโบกมือให้คุณพ่อทักทาย
(คุณป๊า อยู่ไหนคะ)
“อยู่เมืองไทยครับ
หนูทานข้าวหรือยังลูก” อิมแจบอมถามลูกสาวกลับ
(ทานแล้วค่า
คุณป๊ากลับเมื่อไหร่น้องคิดถึง)
“พรุ่งนี้ตอนบ่ายป๊าก็กลับแล้วค่ะ
ป๊ามีอะไรเซอร์ไพรส์เราด้วย” จู่ๆ
อิมแจบอมก็แพลนกล้องมาทางจินยองที่นั่งทานข้าวอยู่
(คุณม้า
ทำไมอยู่ด้วยกันละคะ ฮั่นแหน่ มาสวีทกันมะบอกหนู)
“พรุ่งนี้ตอนบ่ายป๊าก็กลับแล้วค่ะ
ป๊ามีอะไรเซอร์ไพรส์เราด้วย” จู่ๆ
อิมแจบอมก็แพลนกล้องมาทางจินยองที่นั่งทานข้าวอยู่
“ไว้วันหลังค่อยมาด้วยกันนะคะ”
(หนูขอคุยกับคุณม้าหน่อยซี่)
แจบอมยื่นโทรศัพท์ให้จินยอง มือบางรับก่อนจะยิ้มทักทายให้กับเด็กน้อยในหน้าจอ
(คิดถึงจังเลยค่า คุณม้าทำไรอยู่หรอคะ)
“ทานข้าวอยู่ครับ
วันนี้ไม่ไปโรงเรียนหรอคนเก่ง”
(แหะ
วันนี้น้องรู้สึกปวดหัวน้องเลยให้คุณป้าแม่บ้านโทรไปคุณครูที่โรงเรียนแทนค่ะ)
“ตอนนี้โอเคไหมลูก”
อิมแจบอมโพรงถามขึ้นมา เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้างึกๆ
และชูแขนเล็กเบ่งกล้ามให้คุณป๊าและว่าที่คุณม้าดู เรียกรอยยิ้มให้ทั้งสองคน
(โอเคแล้วค่า
งั้นน้องไม่กวนคุณป๊ากะคุณม้าแย้วนะ เชิญสวีทกันไปเลย บ๊ายบายค่ะ)
เด็กหญิงยิ้มแป้นแล้นโบกมือให้ในหน้าจอก่อนจะกดวางไปหน้าจอมือถือขึ้นเป็นหน้าจอปกติ
อิมแจบอมวางมันลงที่โต๊ะกินข้าว เขารู้สึกคิดถึงลูกสาวเหมือนกัน
อิมแจบอมมองนาฬิกาที่แขวนบนผนังเป็นเวลาเกือบ
11 โมงเมื่อทานข้าวเสร็จจินยองเป็นคนนำจานไปเก็บไว้ที่ซิงค์ล้างจานและเป็นคนล้าง
แจบอมกดโทรศัพท์พิมบางอย่างส่งไปก่อนจะเก็บโทรศัพท์สมาร์ตโฟนใส่กระเป๋ากางเกงเพื่อเตรียมตัวไปข้างนอก
โดยทริปนี้จินยองเป็นคนจัดการทั้งหมดโดยการที่นั่งรถสองแถวไปชมเมืองภูเก็ต
จินยองชวนแจบอมนั่งรถสองแถวชมรอบเมือง
แจบอมซึ่งไม่เคยนั่งรถแบบนี้เลยสักครั้งแม้กระทั่งรถเมล์โดยสารนี่ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรกในการนั่งรถสองแถวของซีอีโอหนุ่ม
ทั้งสองคนเดินทางกันไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่วางแผนไว้
สถานที่แรกที่พวกเขาไปถึงคือ ย่านเมืองเก่าตึกแถวโบราณ อาคารชิโน-โปรตุกีส
เป็นเมืองเก่าโบราณของสมัยรัชกาลที่ 5 ตกแต่งอาคารด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป
แจบอมหยิบกล้องฟิล์มบันทึกภาพก่อนจะแวะซื้ออาหารข้างทางลองชิม และไปตระเวนหาร้านชื่อดังในเมืองภูเก็ตที่พวกบล็อคเกอร์ได้ลงไว้
หลังจากที่ตระเวนหาของกินกนรอบเมืองภูเก็ตสถานที่สุดท้ายก่อนจะนั่งเรือกลับหาดก็คือแลนด์มาร์คของที่นี่
แหลมพรหมเทพ หรือแหลมเจ้า ทั้งคู่นั่งรถสองแถวขึ้นไปยังเนินเขามองทิวทัศน์ไปรอบๆ
จินยองหยิบกล้องบันทึกภาพไว้ในแต่ละสถานที่
จินยองเดินลงไปถ่ายที่แหลมทางค่อนข้างที่จะชันแต่เจ้าตัวอยากได้รูปสวยๆ
จึงอ้อนให้คนตัวโตพาไป
เมื่อเดินมาถึงจุดหมายมือบางหยิบกล้องมาถ่ายวิวจากนั้นก็แอบแพลนกล้องไปที่ใครบางคนที่กำลังถ่ายรูปอยู่แต่เหมือนจะรู้ตัวเมื่อเขากดชัตเตอร์
ร่างสูงหันมาชูสองนิ้วให้กับช่างภาพตรงหน้า
เวลาท่องเที่ยวหมดลงแล้วหลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จก็พากันนั่งรถสองแถวกลับไปยังที่พัก
หาดกะรนในยามเย็นแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า เวลาท่องเที่ยวหมดลงแล้วหลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จก็พากันนั่งรถสองแถวกลับไปยังที่พัก
หาดกะรนในยามเย็นแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าจากท้องฟ้าสีส้มจะกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มปกคลุม
จินยองที่กลับมาเสร็จแบมแบมก็พาไปทำสปาโดยที่เจ้าตัวก็งงๆ
ว่าเนื่องในโอกาสอะไรแต่ก็ยอมไป ภายในห้องได้กลิ่นเทียนอโรม่า
ร่างสูงโปร่งของจินยองค่อยๆ ก้าวลงอ่างเพื่อแช่ตัว
กลิ่นสมุนไพรและกลิ่นหอมของกุหลาบลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
เมื่อแช่กายจนครบเวลาที่กำหนดพนักงานของสปาเคาะประตูเรียกร่างโปร่งของชายหนุ่มเดินขึ้นจากอ่าง
เรียวขายาวก้าวไปหยิบผ้าคลุมมาคลุมกายและออกไปขัดผิวและใบหน้า
ใช้เวลาไม่นานก็ถูกพามายังห้องแต่งตัวโดยมีช่างแต่งหน้าและแต่งตัวเลือกชุดให้กับเขา
เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวและกางเกงยีนถูกส่งมาให้เปลี่ยนเป็นของแบรนด์ เอสคาด้า เขาถูกแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าเพียงเล็กน้อยก็ถูกพาไปแต่งตัวในห้องแต่งตัว
กำลังหยิบผ้าขึ้นมาสวมเมื่อเห็นป้ายราคาทำเอาเสื้อที่อยู่ในมือเกือบร่วง เสื้อราคา
50,000
บาท ส่วนกางเกงยีนทำเอาคนตัวเล็กลมแทบจับเมื่อเห็นป้ายบอกราคา 300,000
บาท ให้ตายชีวิตจินยองไม่เคยใส่กางเกงยีนตัวละแสนมาก่อน
อย่างต่ำก็เกือบหมื่นแต่อันนี้หลักแสน ร่างบางมีความคิดตระหนักว่าจะสวมใส่มันดีหรือไม่?
แบมแบมที่รออยู่ข้างนอกจวนจะถึงเวลาแต่ยังไม่เห็นเพื่อนของตัวเองออกมาจากห้องแต่งตัวสักทีจึงเดินเข้าไปเคาะเรียก
“จินยอง เสร็จหรือยัง”
จินยองเปิดประตูออกมาในชุดคลุมอาบน้ำเพราะไม่กล้าใส่เสื้อผ้าราคาน่ากลัวแบบนี้
“ทำไมยังไม่แต่งตัวอีก
ไปแต่งเดี๋ยวนี้เลย” ร่างบางถูกเพื่อนตัวเล็กผิวสีน้ำผึ้งดันหลังเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
จนเจ้าตัวยอมเปลี่ยนชุดออกมา
จินยองถูกปิดตาเดินไปที่ใดสักที่หนึ่งโดยมีแบมแบมเป็นคนนำทาง
เจ้าของเรือนร่างผิวน้ำผึ้งจูงมือเพื่อนเดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่รู้จุดหมายปลายทางว่าจะไปที่ใด
ตลอดทางถูกถามตลอดว่าจะพาไปที่ไหนแต่แบมแบมไม่ยอมบอก
จนกระทั่งความรู้สึกเปลี่ยนไปเมื่อเท้าเหยียบอยู่บนผืนทราย
กลิ่นอายของทะเลลอยเข้ามาเตะจมูกทำให้เจ้าตัวรับรู้ว่าตอนนี้อยู่ที่หาด
เสียงไวโอลินดังขึ้นพร้อมกับผ้าปิดตาที่ปลดออกไป ทันทีที่ผ้าปิดตาหลุดออกภาพที่เห็นคือซุ้มสีขาวที่ถูกตกแต่งด้วยผ้า
มีแสงไฟที่พันอู่บนไม้ไผ่ที่ปักอยู่บนทรายที่ทำเป็นซุ้มพร้อมกับร่างหนาของใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงซุ้มเพราะช่อดอกไม้
อิมแจบอมในเสื้อเชิ้ตสีเดาลายทางตรงข้างในสวมเสื้อคอกลมสีขาวและกางเกงยีนสีดำ
เขายิ้มและก้าวมาหาที่ที่จินยองยืนอยู่
ตอนนี้แบมแบมปลีกตัวหายไปปล่อยให้คู่รักข้าวใหม่ปลามันเขาสวีทกันไป
แจบอมพาน้องมานั่งที่เก้าอี้สีขาวที่บนโต๊ะมีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ
ร่างหนานั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆ
จินยองไม่ได้พูดอะไรเพราะตัวเองนั้นกำลังเขินเกินกว่าที่จะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกไป
“ชอบไหมคะ” จินยองพยักหน้า
คนตัวโตระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าน้องชอบในสิ่งที่ตัวเองทำให้
อิมแจบอมยื่นช่อดอกไม้เยอร์บีร่าให้กับน้อง
ตอนนี้พวงแก้มของคนตรงหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ
จินยองเริ่มรับรู้ความรู้สึกตัวเองว่ารู้สึกดีกับคุณอิมไม่น้อยมือบางยื่นไปรับดอกไม้
ที่อิมแจบอมเลือกดอกนี้มาก็เพียงเพราะว่าตัวเขาก็เหมือนดอกเยอร์บีร่าส่วนจินยองก็เหมือนดวงอาทิตย์ถ้าไม่มีแสงดอกไม้อย่างเขาก็คงไม่รู้สึกเติบโตเพราะจินยองเป็นเหมือนปุ๋ยที่คอยเติมเต็มหัวใจของเขาเอง
ร่างหนาเคยคิดว่าจินยองคือตัวแทนของภรรยาคนเก่าแต่กลับเปล่าเลย น้องกลับแตกต่างกับภรรยาของเขาโดยสิ้นเชิงและเป็นเขาเองต่างหากที่ตกหลุมรักทุกการกระทำที่น้องแสดงออกมา
ตกหลุมรักเพราะน้องเป็นตัวของน้องเอง
“ขอบคุณสำหรับดอกไม้ครับ”
“จินยอง
พี่จริงจังเรื่องที่ว่าจะให้เราย้ายไปอยู่ที่บ้าน”
“มันไม่เร็วไปหรอครับ ผมรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเรามันไปเร็วเกินไป”
“ไม่มีอะไรเป็นตัวกำหนดว่ามันช้าหรือเร็ว
มันมีแค่ว่ารักหรือไม่รัก” น้องหลบสายคมเฉี่ยวที่กำลังคิดกรุ้มกริ่มอะไรสักอย่าง
หัวใจที่รัวเป็นจังหวะกลองไม่หยุด
“งั้นผมขอเวลา 2 อาทิตย์โดยเราห้ามติดต่ออะไรกันโดยทั้งสิ้น
ผมขอเวลาส่วนตัวก่อนที่ผมจะย้ายเข้าไป”
“ได้ พี่ให้เวลาแค่นั้น
แต่ถ้าเราย้ายมาอยู่เฮนาแกคงดีใจ”
“งั้นตกลงครับ”
แจบอมคลี่ยิ้มให้กับคำตอบของน้อง
ทั้งสองคนนั่งทานอาหารเย็นดินเนอร์ใต้แสงเทียนบนผืนทรายยอมรับว่าจินยองประทับใจไม่น้อย
ไม่รู้ว่าอนาคตแจบอมจะคบเขาจริงจังหรือเล่นๆ หรือไม่
ตอนนี้เขาถือว่ามันก็ดีที่สุดแล้ว
สนามบินอินชอน
ร่างบางระหงเดินลงมาจากเครื่องหลังจากที่ลูกเรือโดยสารลงจากเครื่องเสร็จสิ้น
จินยองแยกย้ายกันกับพนักงานบนเครื่องคนอื่นๆ เดินไปที่ประตูเก็ทเพื่อออกจากสนามบินตอนนี้ร่างกายเหนื่อยเต็มทนใช้เวลาอยู่บนเครื่องหลายชั่วโมงร่างกายของเขาต้องการที่จะพักผ่อนเต็มที
ร่างบางเดินไปเรียกแท็กซี่หน้าสนามบินไปยังคอนโดของตัวเอง
เมื่อบอกสถานที่ที่จะไปจินยองค่อยๆ ปิดเปลือกตาช้าๆ ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นนอนหลับไปนานเท่าไหร่จนกระทั่งคนขับแท็กซี่ปลุกเรียกเมื่อถึงสถานที่เรียบร้อย
จินยองหยิบธนบัตรออกจากกระเป๋าสตางค์ยื่นให้กับคนขับรถเดินอ้อมไปยังข้างหลังเพื่อนำกระเป๋าเดินทางลงจากรถ
ร่างบางเดินเข้าตึกไปทันทีตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากทำนั่นก็คือ การนอน เมื่อถึงยังห้องพักจินยองถอดเสื้อผ้าและโยนทุกสิ่งอย่างลงในตะกร้าและเปลี่ยนเป็นชุดที่ใส่สบายมานอนที่เตียงเพียงแค่แปปเดียวก็หลับเป็นตายทันที
อิมแจบอมขับรถเข้ามาในบ้านหลังใหญ่เป็นเวลาเกือบค่ำ
ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านก็มีเด็กน้อยได้ยินเสียงรถตั้งแต่ขับเข้ามาวิ่งมากอดคุณพ่อด้วยความคิดถึง
โดยมีเหล่าสมุนตัวอ้วนวิ่งมาอีกสามตัว พร้อมคลอเคลียผู้เป็นบ่าว
“คุณป๊าขา น้องคิดถึ๊ง
คิดถึง”
“ป๊ะป๋าก็คิดถึงน้องเหมือนกันค่ะ
ไหนคนเก่งดื้อกับคุณนมและคุณย่าไหมเอ่ย” อิมแจบอมอุ้มสาวน้อยนั่งตักบนโซฟา
“ม่ายยย
น้องม่ายดื้อเลยค่ะ เป็นเด็กดีมากๆ เลยเนาะ” เฮนาหันไปคุยกับเหล่าสมุนทั้งสามตัวที่ร้องเมี๊ยวๆ
ขานรับบอกว่าลูกพี่พวกแกไม่ดื้อเลยสักนิด
“เชื่อก็ได้ครับว่าไม่ดื้อ
หนูทานข้าวหรือยังครับ”
“ยังเลยค่ะ
หนูรอทานพร้อมคุณป๊า วันนี้คุณปู่กับคุณย่าไปเที่ยวตั้งเดือนนึงแหนะ
เห็นบอกว่าไปทำงานและฮันยีมูนด้วย ฮันยีมูน คืออะไรหรอคะ” เด็กน้อยตาใสแป๊วมองคาดคั้นคำตอบของคุณพ่อ
“ฮันนีมูนคือการไปเที่ยวไงคะ”
“ฮื่อทำไมคุณย่ากะคุณปู่ไม่พาน้องไปด้วยอ่ะ
น้องงอนเล่า” เด็กหญิงยู่ปากด้วยอาการงอน
คุณพ่อเห็นอาการของลูกสาวก็นึกหมั่นเขี้ยวไม่น้อยจึงจัดการฟัดแก้มนุ่มด้วยความคิดถึงคนตัวเล็กหัวเราะคิกคัก
คนตัวโตชวนลูกสาวไปทานข้าวเมื่อมองนาฬิกาถึงเวลาทานข้าว
แจบอมอุ้มเด็กหญิงไปที่โต๊ะกินข้าวที่แม่บ้านกำลังจัดสำหรับอาหารคาวหวานไว้เต็มโต๊ะ
“ทานข้าวกันเถอค่ะ”
แจบอมตักกับข้าวให้ลูกสาวของตัวเอง
คอนโด
J
ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นนอนมานานเท่าไหร่จนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์ปลุกเรียก
จินยองดูเบอร์ที่โทรมาตนเองไม่ได้เมมไว้
คิ้วเล็กขมวดด้วยความสงสัยจึงกดรับพร้อมกรอกสายตามเสียงไป
“สวัสดีครับ ปาร์คจินยอง
พูดสาย”
(พี่จินยอง
ลงมาเปิดประตูให้ฮยอนจินหน่อยสิ)
“ฮยอนจินหรอ แปปนึงนะ”
จินยองวางสายไปก็แปลกใจไม่น้อยว่า ฮวังฮยอนจินมาหาเขาทำไมที่นี่
และเวลานี้ จินยองมองนาฬิกาบนผนังห้องเวลาสองทุ่มครึ่ง
ก่อนจะรีบลงไปรับน้องชายข้างบ้านที่รออยู่ข้างล่างคอนโด
“มาโซลทำไมเนี่ยห่ะ
แล้วขับรถนั่นมาอีก” จินยองมองไปที่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าคอนโด
“ก็มาเที่ยว
แล้วเงินหมดไม่มีที่พักเลยโทรหาแม่ให้ขอที่อยู่พี่ที่โซลจากแม่พี่แล้วมาหาเลย”
ฮวังฮยอนจินยิ้มตาหยี
“ให้ตายเถอะเราหนะ
แล้วทานข้าวมาหรือยัง” จินยองถาม
“ยังเลย
ก็บอกแล้วไงว่าเงินหมด” จินยองเดินนำไปที่ลิฟต์พามายังห้องของตัวเอง
ห้องนอนที่เป็นระเบียบข้าวของทุกอย่างถูกเก็บอย่างเรียบร้อยอย่างดี
“ห้องรกหน่อยนะ”
ตรงไหนที่เรียกว่ารกถ้าเทียบกับห้องของเขา
ห้องของเขานี่คงโรงงานขยะถ้าห้องของจินยองนั่นเรียกคือรก
“ผมนอนบนเตียงกับพี่ไม่ได้อ่อ
เหมือนตอนนั้นไง”
“อืม ก็ได้
ว่าแต่ยังไม่ได้ทานข้าวใช่ป่ะ เดียวไปทำมาให้อาหารง่ายๆ
แล้วกันเนอะเพราะไม่ได้จ่ายตลาดเลยอ่ะ”
“พี่ทำอะไรผมทานได้หมดแหละครับ”
จินยองหายเข้าไปในครัวไม่นานก็มาพร้อมกับถ้วยมาม่า
2 ถ้วยยื่นชามให้กับชายหนุ่ม ฮยอนจินยิ้มบางๆ
รับถ้วยมาม่าพร้อมคีบเส้นและสูดเข้าปากด้วยความหิว ความจริงเขาตั้งใจมาหาจินยองที่นี่โดยเฉพาะแค่มาดูว่าพี่ชายที่เขาแอบรักนั่นอยู่กับใครหรือเปล่า
แต่ก็ต้องพบว่าจินยองนั้นอยู่คนเดียวเขาก็ดีใจไม่น้อยถึงจะรู้ว่าตอนกลับโซลจะมีรถคันหรูมารับถึงหน้าบ้านก็เถอะ
เขาไม่ยอมให้จินยองไปเป็นของใครง่ายๆ หรอก พี่จินยองเป็นของเขามาโดยตลอด
เมื่อทานข้าวเสร็จฮยอนจินอาสาเป็นคนจัดเก็บถ้วยชามทั้งหมด
จินยองเดินไปหาชุดนอนให้น้องเปลี่ยนแต่ก็ค่อนข้างจะยากเพราะเขาตัวบางกว่าฮยอนจริงจนเจอเสื้อที่เขาสั่งมาผิดไซซ์จึงหยิบออกจากตู้เอามาให้น้องที่ยืนล้างจานอยู่หน้าเคาน์เตอร์
“อ่ะ ไปอาบน้ำก่อนไป
เดี๋ยวต่อนี้ล้างเอง”
“งั้นก็ได้ครับ” ฮยอนจินหยิบเสื้อจากมือจินยองก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
จินยองจัดที่นอนพร้อมเอาผ้าห่มที่เก็บไว้ในตู้อีกผืนเอาออกมาให้ฮยอนจินห่ม
เสียงกลอนประตูห้องน้ำดังขึ้นฮยอนจินในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมและกางเกงสีน้ำเงินของเขา
ผมที่ลู่เปียกลาดไหล่มีผ้าเช็ดผมร่างหนาขยี้ผมเดินไปที่เตียง
“พี่มีไดร์ป่ะ”
“อยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งอ่ะ”
ร่างสูงเดินไปหยิบไดร์เป่าผมสีน้ำเงินจากนั้นก็เสียบปลั๊กเพื่อเป่า
“พี่อยู่คนเดียวเหรอครับ”
“อืม คนเดียว” แต่หลังจากสองอาทิตย์ก็คงจะไม่คนเดียวแล้ว
จินยองเหล่มองโทรศัพท์ที่มีเพียงข้อความไลน์กรุ๊ปที่ดังยกเว้นข้อความของใครบางคน
จะทำตามข้อตกลงที่ขอจริงจังเลยหรอทำไมเป็นเขาที่เป็นคนคิดถึงคุณอิมล่ะ
“ถ้านานจะนอนก็นอนไปก่อนเลยนะพี่เพิ่งตื่นน่ะ
ไปดูซีรี่ก่อนเดี๋ยวกลับมานอน”
“งั้นก็ได้ครับ
ฝันดีล่วงหน้าก็แล้วกัน” ฮยอนจินบอกกับจินยอง
จินยองเดินออกไปยกแล็ปท็อปเปิดขึ้นมาดูหนังจนกว่าจะง่วง
โทรศัพท์ไม่มีข้อความของเขาเลยสักนิด ให้ตายเถอะ อิมแจบอม
ความคิดเห็น