คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Earned It
Chapter
3
Earned
It
แสงอาทิตย์แรกของวันนี้ส่องมาทางหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องนอนของเจ้าของที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่ถูกหมอนปิดเอาไว้
แสงแดดแยงตาจนปลุกเจ้าของห้องเป็นสัญญาณให้เจ้าตัวตื่นขึ้นมาได้แล้ว
ร่างบางลืมตาขึ้นมามือบางควานหาโทรศัพท์เป็นอันดับแรกเพื่อดูเวลา
มือล้วงเข้าไปใต้หมอนหยิบขึ้นมาหน้าจอยังคงเป็นภาพนิ่งของร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนเตียงพร้อมกับแมวของเขา
หางของเจ้าแมวตัวเล็กโผล่ออกมาจากใต้ผ้าห่มเพียงเล็กน้อย
จินยองมองคนนอนหลับบนหน้าจอ ใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาของอิม แจบอม
จินยองจดจ้องใบหน้าหล่อบนหน้าจอโทรศัพท์
พร้อมจะยกยิ้มเมื่อเห็นว่าคนในหน้าจอนั้นนอนหลับสนิท
แมวตัวเล็กขยับตัวและบังเอิญหางนั้นโดนที่ใบหน้าของทำให้เขาตื่นขึ้นมา
อิมแจบอมปัดป่ายหางเรียวของแมวน้อยลืมตาขึ้นมามองไปที่หน้าจอที่ตั้งอยู่ด้านขวามือของเขาเอง
“ตื่นนานแล้วหรอ”
“เพิ่งตื่นไม่นานนี้ครับ”
จินยองยกโทรศัพท์ขึ้นมาในมุมสูงเพราะบิดขี้เกียจ
จินยองมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์เห็นแมวตัวสีขาวพันธ์สก๊อตติสโฟล์ดเดินขึ้นมานอนและอ้อนคนในหน้าจอร่างสูงเล่นกับมันไปสักพักแต่ก็มองหน้าจอมากกว่าใบหน้าของจินยองตอนตื่นเขาชอบมากที่สุด
“อย่าเพิ่งวางนะ
ผมขอไปอาบน้ำแต่งตัวแป๊บหนึ่ง” อิมแจบอมไม่ได้ขอร้องแต่เป็นเชิงออกคำสั่งมากกว่า
ร่างสูงวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
จินยองได้แต่ทำตาปริบๆ
อยู่หน้าจอเมื่อสัญญาณว่าแบตเตอรี่ใกล้จะดับจินยองหยิบสายชาร์ตขึ้นมาและชาร์ตทิ้งไว้บนโต๊ะและเดินไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองระหว่างที่รอคนในโทรศัพท์
ใช้เวลาประมาณ 10
นาทีจินยองเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นประมาณเข่าเดินออกมาจากในห้องน้ำตรงมาทางมือถือที่วางชาร์ตทิ้งไว้
จินยองมองไปที่หน้าจอยังไม่มีใครมีเพียงแต่เสียงแมวที่ลอดออกจากลำโพงปลายสายเหมือนอ้อนอะไรสักอย่างและเสียงกุกกักดังตามมาจินยองมองในมือถือเห็นภาพอิมแจบอมกำลังตั้งมือถือไว้ที่ไหนสักที่ร่างสูงอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยังติดกระดุมยังไม่เรียบร้อยดีกำลังที่จะใส่เนกไท
จินยองเผลอจ้องไปที่แผงอกแกร่งก่อนแก้มจะร้อนขึ้นเมื่อสาบเสื้อข้างบนมันเผยรอยกัดที่เป็นฝีมือของตัวเองยังอยู่บนตัวของเขา
“นายกลับบ้านเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้เช้าครับ”
จินยองบอกคนในหน้าจอ
“ไม่ต้องเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปรับที่บ้าน”
“รู้ที่เหรอครับ”
จินยองยิ้มพร้อมยักคิ้วกวนใส่คนที่แก่กว่าเป็นคนอื่นเขาคงมีด่าแต่ถ้าเป็นจินยองอะไรก็ถูกเสมอ
“อย่าลืมว่าผมเป็นใครสิ
ปาร์คจินยอง” ยิ้มทีหลังเจ้าเล่ห์กว่าเก่า
จินยองจึงไม่ได้ห้ามอะไรถึงห้ามก็เชื่อว่ายังไงอิมแจบอมก็ต้องหาเหตุผลบางอย่างให้เขาต้องยอมอยู่ดี
“งั้นก็แล้วแต่คุณเลยครับ”
ผมปฏิเสธหรือห้ามได้ที่ไหนกันเล่า
หลังจากที่จินยองวางสายจากคุณอิมเสร็จเขาเดินลงมาข้างล่างปาร์ค
มินคยองแม่ของเขากำลังทำอาหารเช้ากลิ่นหอมของอาหารลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ
จินยองเดินเข้าไปช่วยแม่เตรียมอาหารเช้าเมื่อจัดโต๊ะเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมตักข้าวต้มเสิร์ฟสำหรับทุกคน
เมื่อทานเสร็จจินยองจึงเดินไปที่แปลงผักคะน้าของเขาสมัยตอนป.2 จนถึงตอนนี้มันก็ยังอยู่เพราะพ่อกับแม่ของเขาดูแลใส่ปุ๋ยมันอย่างดี
ขณะที่กำลังสำรวจอยู่นั้นจินยองก็ต้องชะงักเมื่อเจอฮยอนจินปรากฎอยู่ตรงหน้า
“นายมาทำไม” จินยองยังไม่หายโรธเรื่องเมื่อคืนที่ถูกขโมยจูบไป
ฮยอนจินเดินเข้ามาพร้อมกล่าวคำขอโทษคนตรงหน้า
“เมื่อคืนผมขอโทษ”
ฮยอนจินบอกด้วยใบหน้าสำนึกผิดเพราะเป็นคนคิดอะไรแล้วทำโดยไม่คำนึงว่าผลมันจะเป็นอย่างไรเพราะเป็นคนกล้าได้กล้าเสียยิ่งไปเรียนในวัฒนธรรมเมืองนอกอีก
จินยองมองไปที่ฮยอนจินก็เห็นว่าน้องดูสำนึกผิดจริงๆ
จึงยอมที่จะคุยด้วยแต่ต่อไปนี้ก็คงระวัง
“ละตกลงมาทำไม”
“จะพาเที่ยวครับ”
ฮยอนจินชี้ไปที่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ Ducati Testa Stretta
NCR ที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“บอกหรือไงว่าจะไปด้วยน่ะ”
“ถ้าพี่ไม่ไปพี่พลาดนะบอกก่อน”
ฮยอนจินทำหน้าเสียดายเสียเต็มประดา
“งั้นก็ได้”
จินยองจึงขอเวลาในการแต่งตัวประมาณ 10
นาที จินยองอยู่ในชุดเซฟตี้เพื่อว่าไอ้เด็กบ้านี่พาเขาเอารถไปล้ม
เมื่อออกมาจากบ้านบอกกล่าวพ่อกับแม่เสร็จก็ควบซ้อนท้ายฮยอนจิน
น้องส่งหมวกกันน็อคให้เขาสวมก่อนจะขี่ทะยานไปข้างหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่ฮยอนจินจะพาเที่ยว
รถจักรยานยนต์คันไหญขับไปจนถึงเมืองปูซานดูคาติคันใหญ่จอดตรงบริเวณหน้าหาดฮุนแด
ร่างบางบิดขี้เกียจจากการนั่งรถนานๆ หาดที่นี่มีผู้คนมากมายที่มาพักผ่อนกัน
ฮยอนจินเดินมาพร้อมกับไอศกรีมในมือพร้อมยื่นให้ร่างบางตรงหน้า
“พี่จะกลับโซลเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้เช้าน่ะ”
จินยองมองไปยังทิวทัศน์รอบๆ คลื่นลมทะเลในตอนเย็น
อากาศกำลังดีร่างบางมองไปที่เด็กน้อยฝรั่งสองคนกำลังก่อกองทราย
เขานั่งอยู่บนหาดทรายจนพระอาทิตย์ใกล้จะคล้อยหายไปก่อนกลับก็แวะซื้อของฝากให้กับเพื่อนๆ
และแวะทานอาหาร รถจักรยานยนต์จอดที่ริมรั้วจินยองถอดหมวกกันน็อคคืนรุ่นน้องไป
“ขอบคุณมากนะ” จินยองยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
ฮยอนจินเมื่อเห็นร่างบางเดินเข้าบ้านไปก็สตาร์ทรถกลับบ้านของตัวเองทันที
คฤหาสน์อิม
รถยนต์ AUDI TT ขับรถวนเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของบ้านร่างสูงของแจบอมเดินลงมาจากรถยื่นกุญแจให้คนขับรถนำไปเก็บไว้ยังที่เก็บกุญแจรถ
อิมแจบอมเดินเข้ามาในบ้านเจ้าแมวทั้งสามก็เดินมาอ้อนพันแข้งพันขา
เขาเดินไปยังห้องรับแขกอิมเฮนากำลังเล่นแต่งตัวตุ๊กตาอยู่กับพี่เลี้ยง
“คุณป๊าขา”
เด็กหญิงทิ้งตุ๊กตาในมือวิ่งไปอ้อนคุณพ่อ
แจบอมลูบหัวลูกสาวด้ยความเอ็นดูนี่ถ้าอิมเฮนาโตมาไปอ้อนใครนอกจากเขาสาบานว่าผู้ชายคนนั้นคงโดนลูกปืนของเขาเป่าหัว
“ว่าไงคะ
เด็กดีของป๊ะป๋า”
“พรุ่งนี้โรงเรียนน้องหยุด
เราไปเที่ยวกันดีไหมคะ” เด็กน้อยช้อนสายตาหวานเพื่ออ้อนคุณป๊า
ใบหน้าหวานยิ้มกรุ้มกริ่มกุมมือทั้งสองข้างเชิงขอร้องอิมแจบอมหัวเราะกับท่าทางของลูกสาว
“พรุ่งนี้ป๊าจะไปรับว่าที่คุณม้าของหนูไปด้วยกันไหมคะ”
“งื้อออ
ไป น้องคิดถึงวันนี้คอลอีกได้มั๊ยคะ” เด็กน้อยมองไปที่โทรศัพท์ของคุณป๊า
แต่คุณป๊าส่ายหน้า ชิ จะคุยกับหม่าม้าคนเดียวละสิ
“ทำไมหนูถึงเรียกพี่เขาว่าหม่าม้าละลูก”
อิมแจบอมถามลูกสาว
“น้องชอบหม่าม้าคนนี้
คุณป๊าต้องให้เขาเป็นหม่าม้าของน้องนะคะ”
“ถ้าเขาไม่ยอมเป็นหม่าม้าของหนูละคะ”
“ต้องเป็นซี่
ถ้าป๊าจีบม้าจินยองไม่สำมะเร็ดน้องจะโกดมากเลยนะ” อิมแจบอมรู้สึกคิดหนักร่างสูงยอมรับว่าจินยองคือคนที่เขาจีบยากที่สุดถึงจะได้แล้วก็เถอะแต่ก็ถือว่าร่างบางไม่ได้เต็มใจเป็นเพียงแค่ฤทธิ์ยา
“งั้นน้องก็ช่วยป๊ะป๋าด้วยนะคะ”
“ได้เลยค่ะ”
เฮนายกนิ้วก้อยไปคล้องกับนิ้วก้อยของผู้เป็นพ่อพร้อมปั๊มหัวแม่มือชนกันเป็นอันการทำตามสัญญาจนกว่าจะสำเร็จ
ถึงเวลามื้อค่ำของบ้านอิมแจบอมอยู่ในชุดลำลองเดินลงมาทานข้าวกับครอบครัวคุณผู้หญิงแห่งบ้านตระกูลอิมนั่งอยู่ข้างๆ
ผู้เป็นสามี วันนี้เธอสอบถามจากเลขารู้ว่าพรุ่งนี้ลูกชายเขาลา 1 วัน
โดยสาเหตุใดก็ไม่ทราบหญิงวัยกลางคนจึงถามขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร
“ฉันถามเลขาของแกบอกว่าพรุ่งนี้แกหยุดงาน
จะไปไหนหรอ”
“พาเฮนาไปเที่ยวน่ะครับ”
“ไม่ใช่ไปรับคนนั้นเหรอ
แม่โกรธมากรู้ไหมทำไมไม่ให้น้องรออยู่ทานข้าวเย็นกับแม่วันนั้น” คุณหญิงตำหนิลูกชายหารู้ไม่ว่าลูกชายของตัวเองก็ไม่อยากให้กลับแต่น้องดึงดันที่จะกลับเขาจึงต้องปล่อยไปแถมยังไม่ให้ไปส่งด้วย
“น้องมีธุระวันนั้นเลยรีบกลับครับ”
“ไม่รู้แหละ
ยังไงก็พามาบ้านอีกก็ได้ ดูท่าทางจะดื้อใช่ย่อย เขาไม่ยอมคบกับแกสินะ สมน้ำหน้า
เมื่อก่อนน่ะมั่วดีนัก” คุณหญิงอดแซะลูกชายของตัวเองไม่ได้
“แม่ก็ว่าไป
ทานข้าวเถอะครับ” อิมแจบอมรีบตัดบทก่อนจะเกรียมไปมากกว่านี้
อิมยองวุคหัวเราะกับคำกัดแซะของภรรยาตัวเองที่กำลังว่าลูกชายอยู่เนื่องๆ
“ไม่ต้องหัวเราะหรอกค่ะตอนหนุ่มคุณก็ใช่ย่อย”
ผู้เป็นสามีถึงกับสำลักน้ำชาในมือ ไหงมันมาลงที่เขาได้ล่ะ
อิมเฮนาในชุดนอนสีเหลืองรูปเป็ดเดินมาเคาะห้องคุณป๊าเพราะกลัวว่าพรุ่งนี้คุณป๊าจะแอบออกไปรับคุณม้าคนเดียวน้องไม่ยอมหรอก
ร่างเล็กเคาะประตูเชิงขออนุญาตเมื่อได้รับการตอบรับก็อุ้มตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลเดินมาที่หน้าเตียงคุณป๊า
“น้องนอนด้วยนะคะ”
เฮนาไม่สนคำอนุญาตโดดขึ้นเตียงคุณป๊าทันที
ไม่ทันได้นอนอิมแจบอมจับเด็กน้อยฟัดแก้มด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยดีดดิ้นบนที่นอนหัวเราะคิกคัก
“ง่วงหรือยังคะ
ให้ป๊าเล่านิทานให้ไหม” เด็กน้อยพยักหน้าร่างเล็กนำผ้าห่มพร้อมนั่งรอฟังนิทานจากป๊ะป๊าอย่างใจจดจ่อ
เมื่ออิมแจบอมเล่าไปสักพักหนังตาเด็กน้อยก็ค่อยๆ หนักก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด
“ฝันดีนะครับ
เด็กดีของป๊า” อิมแจบอมจูบหน้าผากลูกสาวพร้อมกระชับผ้าห่มให้ลูกสาวจะได้ไม่หนาวเพราะเขาเป็นคนขี้ร้อนแต่พอลูกนอนด้วยจึงปรับเป็นอุณหภูมิปกติ
25 องศา ถึงทนร้อนหน่อยแต่ถ้าเปิดเหมือนที่ตัวเองเปิดนอนบ่อยๆ เกร็งว่าลูกจะป่วย
ร่างสูงเปิดโทรศัพท์พิมข้อความส่งให้ว่าที่หม่าม้าของลูกสาวก่อนจะหลับฝันดีเมื่อคนในมือถือส่งรูปมา
ในตอนเช้าอิมเฮนาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีด้วยซ้ำ
เด็กน้อยตื่นเต้นที่จะไปรับคุณหม่าม้าที่จินเฮทำให้ปลุกคนเป็นพ่อที่นอนหลับสนิทสะดุ้งตื่นตกใจไปด้วยเด็กหญิงเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองสักพักก็ถือชุดพะรุงพะรังให้คุณป๊าช่วยเลือกว่าจะใส่ตัวไหนไปรับคุณม้าดี
“ป๊า
น้องใส่ชุดสีไหนดี” เฮนาชูชุดเดรสสีขาวและสีฟ้าให้คุณป๊าช่วยเลือก
อิมแจบอมพินิจพิจารณาอยากให้ลูกสาวแต่งตัวให้ดูกระชับกระเฉงจึงพาลูกสาวไปที่ห้องนอนของลูกสาวจัดการค้นตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวสีเหลืองและเอี๊ยมสียีนยื่นให้ลูกสาวก่อนจะให้พี่เลี้ยงพาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนเขาก็ต้องไปทำธุระส่วนตัวเช่นกัน
อิมแจบอมรอลูกสาวอยู่ข้างล่างในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนนั่งรอลูกสาวที่โต๊ะอาหาร
แม่บ้านกำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับคนในบ้าน เสียงวิ่งตึงตังจากข้างบน
อิมเฮนาในชุดเสื้อสีเหลืองเอี๊ยมกระโปรงยีน
เดินลงมารับประทานอาหารข้างล่างเด็กหญิงเดินไปอ้อนคุณย่าและคุณปู่ที่กำลังรับข้าวต้มอยู่
“คุณย่าขา
น้องขอค่าขนมหน่อยสิคะ” เด็กหญิงแบมือทำตาปริบๆ
อิมจียอนผู้เป็นย่าถึงกับยิ้มก่อนใช้มือบีบจมูกหลานแกมมันเขี้ยว
หญิงสูงวัยค้นในกระเป๋าครัชยี่ห้อชื่อดังล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบแบงก์ 5 หมื่นวอน
2 ใบ ยื่นให้หลาน
“ขอบคุณค่าคุณย่า
ฟอด” เด็กหญิงหอมแก้มคุณย่าก่อนจะเดินไปนั่งทานข้าวประจำที่ของตัวเอง
หลังจากที่ทานอาหารมื้อเช้าเสร็จอิมแจบอมก็พาลูกสาวออกไปที่รถ
วันนี้เขาเลือกรถ Rolls-Royce Phantom 2018
ที่ซื้อมายังไม่เคยได้ใช้เลยร่างสูงหยิบกุญแจรถปลดล็อกพาเฮนาไปนั่งภายในรถ
ร่างสูงอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับสตาร์ทรถมุ่งสู่ถนนจินเฮ
เด็กน้อยมองไปทิวทัศน์ตึกอารามรอบๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
อิมแจบอมจอดรถที่มินิมาร์ทซื้อขนมและน้ำให้ลูกสาวเวลาหิว ร่างสูงจูงมือลูกสาวไปเลือกซื้อขนมที่มินิมาร์ท
ความจริงเขาก็ไม่ได้ชอบให้ใครมาทานอะไรในรถแต่แค่อภิสิทธิ์ยกเว้นลูกสาวของเขาเองและว่าที่เมียในอนาคตที่เขาจะสามารถยอมได้คนอื่นไม่ว่าน้ำหรือขนมก็เอาเข้ามาไม่ได้
รถยนต์มุ่งเข้าสู่เมืองปูซานอีกไม่กี่ร้อยกี่โลเมตร เพราะตื่นเช้าเกินไปเด็กน้อยตาเริ่มหนักขึ้นก่อนจะทำให้สัปหงก
“นอนก่อนก็ได้ลูกถึงละเดี๋ยวป๊าโทรปลุกนะครับ”
มือหนาลูบหัวพร้อมจอดรถตบไฟเลี้ยวข้างทางพร้อมปรับเอนเบาะให้ลูกสาวให้นอนสบายขึ้น
“ถึงแล้วต้องเรียกหนูนะคะ”
เด็กหญิงค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด
รถยนต์ Rolls-Royce มาถึงเมืองจินเฮร่างสูงเปิด GPRS ที่จินยองส่งมาให้ก่อนจะขับไปตามทางรถขับเคลื่อนไปทางหมู่บ้านตามที่แผนที่บอกจนมาหยุดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งแจบอมกดโทรศัพท์โทรออกหาเจ้าของบ้านเพื่อให้ออกมาแต่ทว่าปาร์คมินคยองที่กำลังรดน้ำแปลงดอกกุหลาบสังเกตเห็นรถคันนี้มาจอดที่หน้าบ้านได้สักพักจึงอดแปลกใจไม่ได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
หญิงวัยกลางคนเดินมาเคาะที่กระจกรถเบาๆ
ทำให้เด็กหญิงตัวเล็กงัวเงียตื่น อิมแจบอมค่อยๆ ลดกระจกลงเพื่อคุยกับเจ้าของบ้าน
จินยองที่อยู่ในชุดเสื้อเชิร์ตสีฟ้าเช่นเดียวกับอิมแจบอมราวกับเสื้อคู่
มินคยองพอจะเดาออกว่าเป็นอะไรกันจากการคาดเดาของตัวเอง
“แม่นี่
เจ้านายผมคุณอิมครับ ส่วนคุณอิมนี่แม่ผมครับ” อิมแจบอมค้อมหัวเพื่อทักทายกับว่าที่แม่ยายของตัวเองอีกครั้ง
“หม่าม้า”
เด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในรถตะโกนเมื่อเห็นจินยอง
ร่างบางเหงื่อแตกพลั่กไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้แม่ฟัง สายตาของคนเป็นแม่มองปราดเดียวก็รู้ว่าที่มารับลูกเขาคือใครแถมยังเป็นพ่อม่ายลูกติดซะด้วย
“กลับกันเถอะครับ
คุณอิม แม่ ผมกลับก่อนนะครับ” จินยองหอมแก้มลามินคยอง
มือบางหมั่นไส้หยิกเอวลูกชายที่รีบกลับจนเขาไม่ได้ซักถามอะไรไว้ถ้าไปโซลเมื่อไหร่จะซักให้ขาวสะอาดเลยละคอยดู
จินยองเข้าไปนั่งข้างในรถโดยมีเด็กน้อยนั่งอยู่บนตัก
แจบอมที่เหลือบมองก็ต้องยิ้มกว้างความรู้สึกเหมือนพาเมียกับลูกมาเที่ยวต่างจังหวัดระหว่างทางก็แวะพาลูกสาวมาเที่ยวในตัวเมืองปูซานด้วยการไปเที่ยวห้างชินเซเกต่อด้วยการไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ
รถยนต์จอดตรงบริเวณแถวๆ นั้นเพื่อแวะชมวัดยองกังซา ร่างสูงจูงมือเล็กของลูกสาว
เฮนาใช้มือว่างอีกข้างหนึ่งจับมือของจินยองก่อนจะพาเดินเข้าไปชมในบริเวณวัด
“คุณป๊า
ถ่ายรูปให้น้องหน่อยสิคะ คุณม้าถ่ายรูปกับหน่อยสิคะ” เด็กหญิงยื่นมือถือให้คุณพ่อเป็นคนถ่าย
ทั้งคู่ชูนิ้วสองนิ้วพร้อมกับรอยยิ้ม
เด็กน้อยช่วยคุณม้าเปลี่ยนท่าไปหลายอย่างเรียกรอยยิ้มให้คนหลังกล้องไม่น้อย
“อีกรูปไหมครับ”
อิมแจบอมถามลูกสาว
“คุณป๊ามาถ่ายกับพวกเราซี่
น้องจะได้เอาไปอวดเพื่อนๆ”
“แล้วป๊าไปถ่ายด้วยแล้วใครจะถ่ายเราละครับหืมมม”
“เดี๋ยวผมถ่ายให้แล้วกันครับ”
จินยองอาสาจะเป็นคนถ่ายรูปให้กับคู่พ่อลูก
แต่เด็กหญิงปฏิเสธเพราะต้องการถ่ายรูปทั้งหมดสามคน
เฮนาเดินไปหานักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาขอให้พวกเขาถ่ายรูปครอบครัวให้ตัวเอง
“ขอบคุณนะคะ”
เฮนากล่าวขอบคุณหลังจากได้ภาพที่ต้องการก่อนจะชี้รูปในมือถือให้คุณป๊ากับคุณม้าดู
“น้องว่าคุณป๊าถ่ายคู่กับคุณม้าดีกว่า
เดี๋ยวน้องถ่ายให้” พูดเปล่าพร้อมดันคุณม้าให้ยืนขนาบข้างคุณพ่อของตัวเองเด็กหญิงหัวเราะคิกคักอยู่หลังกล้องมือถือ
“ชิดๆ
กันหน่อยสิคะ”
อิมแจบอมวันนี้ปลื้มลูกสาวเป็นพิเศษ
ทำดีมากลูก ทำได้ดี หนูอยากได้อะไรบอกป๊ามาเลยป๊าเปย์ให้หนูหมดเลยลูก แจบอมค่อยๆ
ขยับเข้าไปใกล้จินยองมือหนาโอบเอวและดึงมาให้ชิดตัวเอง
“แบบนั้นแหละค่ะ”
เฮนารีบกดชัตเตอร์รัวๆ
เมื่อถ่ายรูปเสร็จจินยองรีบฟาดฝ่ามือใส่แขนแกร่งที่บังอาจมาแตะตัวเขา
แจบอมยิ้มหน้าชื่นตาบานสุดไรสุดผู้คนมองดูครอบครัวเล็กๆ ก็ต่างดูอบอุ่น
หลังจากที่ท่องเที่ยวกันจนถึงตอนเย็นก็เป็นเวลาที่ต้องกลับอิมแจบอมไปส่งจินยองที่คอนโด
ตอนนี้เด็กน้อยหลับอยู่หลังเบาะเรียบร้อย
“พรุ่งนี้คุณบินกี่โมง”
“ไฟล์แรกเลยครับ”
“กลับวันไหน”
จินยองไม่ตอบ
“ผมลงละนะครับ
ฝากลาน้องด้วยนะ” จินยองมองเด็กน้อยที่หลับปุ๋ยอยู่เบาะหลัง
จินยองกล่าวขอบคุณที่แจบอมมารับที่บ้านเสร็จก็เดินกลับเข้าไปในคอนโด
เมื่อร่างบางเข้าไปในคอนโดเสร็จเขาก็ค่อยๆ เหยียบขับกลับบ้านของตัวเองไป
อิมแจบอมค่อยดับเครื่องยนต์เปิดประตูรถอุ้มลูกสาวที่นอนหลับสนิทอยู่ที่เบาะหลังเพื่อพาไปนอนในห้องนอนเจ้าหญิงของเด็กน้อย
แจบอมสั่งแม่บ้านให้เอาของฝากที่ซื้อมาและไว้หลังรถนั้นไปเก็บประจำที่ให้หมด
เขาแบกร่างเล็กของลูกสาวเดินขึ้นบันไดไปเปิดประตูห้องเข้ามาเขาค่อยๆ
อุ้มเฮนาวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา
มือหนาลูบผมลูกสาวก่อนจะจุ๊บราตรีสวัสดิ์และห่มผ้าให้ลูกสาวหนาๆ
“ฝันดีนะครับคนดีของป๊า”
…………………………………….
วันต่อมาหลังจากที่กลับมาถึงคอนโดตั้งแต่เมื่อวานเช้าวันนี้จินยองตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะเตรียมบินไฟล์ทแรก
เขาจัดของในกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือใกล้ถึงเวลาในการเดินทาง
ร่างบางในชุดสายการบินเตรียมลากกระเป๋าออกจากห้องเพราะตอนนี้แท็กซี่ที่ตนเรียกมาจอดรออยู่บริเวณหน้าคอนโดแล้ว
เมื่อถึงสนามบินจินยองเดินเข้าไปในเก็ตที่เพื่อเตรียมตัวดูแลลูกเรือโดยสารทุกท่านคอยต้อนรับผู้โดยสาร
ไฟล์บินวันนี้มีพนักงานต้อนรับทั้งหมด 5 คน
หนึ่งในนั้นคือมีเพื่อนสนิทอย่างแบมแบมเดินทางไปด้วย
เมื่อพนักงานต้อนรับเตรียมแสตนบายรอลูกเรือขึ้นเครื่องบินโดยสาร
ลูกเรือทั้งต่างประเทศและในประเทศต่างขึ้นเครื่องมานั่งตามเลขที่นั่งตั๋วโดยมีพนักงานต้อนรับอย่างเขาพาไปสำหรับคนที่หาที่นั่งของตัวเองไม่เจอ
เมื่อลูกเรือโดยสารนั่งประจำที่ของตัวเองเรียบร้อยจนครบทุกที่นั่งแบมแบมเริ่มทำการตรวจเช็คผู้โดยสารโดยใช้เครื่องนับไล่ตามลำดับที่นั่งเพื่อที่เช็คสำหรับคนที่ยังมาไม่ถึงจะให้ประชาสัมพันธ์ทางสนามบินช่วยแจ้งและติดต่อถ้ามาไม่ทันในเวลาที่กำหนดผู้โดยสารก็ต้องยอมรับตามกฎของสายการบินโดยที่ทางสายการบินจะไม่มีการคืนเงินใดๆ
ทั้งสิ้นให้กับผู้โดยสาร
แบมแบมทำการตรวจเช็คลูกเรือโดยสารเรียบร้อยพนักงานต้อนรับของสายการบินก็เริ่มทำการสาธิตการใช้อุปกรณ์บนเครื่องบินให้ลูกเรือโดยสารทุกท่าน
โดยเริ่มจากการสาธิตจากการที่มีเสียงประกาศบนเครื่องเกี่ยวกับการปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดระหว่างอยู่บนเครื่อง
การใช้เข็มขัดนิรภัยและหน้ากากออกซิเจนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินยังมีเสื้อชูชีพและร่มชูชีพเมื่อการสาธิตเสร็จสิ้นถึงเวลาที่กัปตันจะทำการนำเครื่องขึ้นเหล่าพนักงานต้อนรับแอร์โอสเตส
สจ๊วตต่างนั่งประจำที่คือเก้าอี้โดยสารข้างหน้าที่เว้นว่างไว้ เมื่อเครื่องอยู่ในระดับที่เหมาะสมจินยองจึงลากรถเข็นสำหรับอาหารลูกเรือโดยสารที่สั่งโดยจินยองเดินเข็นรถไปกับแอร์รุ่นพี่
โดยคนที่ไม่ได้สั่งก่อนหน้าสามารถสั่งซื้อได้โดยจ่ายเงินสดเท่านั้น ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าในการเดินทางสู่สนามบินไทเป พักเพียงแค่ 1 วันเท่านั้นก็ต้องบินอีก
จินยองและแบมแบมเดินลากกระเป๋าโดยสารไปยังห้องพักที่จองไว้ตอนนี้พวกเขาต้องการที่จะพักผ่อนมากที่สุดโดยมีแพลนกันว่าตื่นช่วงบ่ายจะไปช็อปปิ้งแถวๆ
ย่านการค้าของไทเป เมื่อถึงห้องพักที่จองไว้เข้าไปในห้องก็เจอเตียงคิงไซซ์ขนาดใหญ่
จินยองวางกระเป๋าก็หยิบผ้าขนหนูและพวกครีมบำรุงต่างๆ
เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายที่จะเตรียมนอนส่วนแบมแบมนั่นกำลังคุยโทรศัพท์กับมาร์คเมื่อถึงที่พักเสียงงุ้งงิ้งที่เล็ดลอดออกมาทำเอาเพื่อนอย่างเขาอดหมั่นไส้คนมีคู่ไม่ได้
ร่างบางทิ้งตัวลงในอ่างอาบน้ำแช่ตัวเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า เสียงข้อความในมือถือของตัวเขาเองดังขึ้น
มือเรียวหยิบโทรศัพท์จิ้มเข้าไปที่แอพพลิเคชั่นสีเขียวเพื่อตอบข้อความ
โดยจินยองเมมชื่อไว้ว่า ‘คุณอิมจอมเอาแต่ใจ’ จินยองเปิดข้อความขึ้นมาก็ต้องอมยิ้มเมื่อเจอกับภาพถ่ายที่เขาถ่ายกับอิมเฮนา
JINYOUNG:
ขอบคุณที่ส่งมาให้ครับ 09.12
คุณอิมจอมเอาแต่ใจ:
ถึงแล้วเหรอ 09.13
ทำอะไรอยู่
09.13
JINYOUNG: ถึงที่พักเรียบร้อยแล้วครับกำลังอาบน้ำ 09.15
ขอโทษทีพอดีเผลอไปโดนกล้องเข้านะ 09.16
คุณอิมจอมเอาแต่ใจ:
Read
JINYOUNG: ผมไปนอนก่อนนะครับ
จินยองไม่ได้ตั้งใจที่จะกดถ่ายภาพเรียวขาของตัวเองส่งไปให้คุณอิมเลยสักนิดแต่เพราะมือที่เปียกทำให้กดพลาดไปโดนกล้องหลังพร้อมถ่ายภาพและกดส่งโดยอัตโนมัติ
ร่างบางขบคิดคุณอิมจะหาว่าเขาอ่อยหรือเปล่า
ทางด้านอิมแจบอมนั่งมองเรียวขาที่เห็นแค่หัวเข่า
CEO
หนุ่มรู้สึกคับตึงบริเวณเป้ากางเกงทันที แต่ทำตอนนี้ไม่ได้เพราะอีกเดี๋ยวก็ต้องเข้าประชุมกับผู้ร่วมหุ้น
ตัวแสบเล่นเข้าให้แล้วไง!
เป็นเวลาบ่ายทั้งคู่ออกมาเดินเล่นกันที่แหล่งการค้าในไทเปเพื่อซื้อของกัน
ร่างบางผิวสีน้ำผึ้งและร่างบางผิวสีน้ำนมพากันแวะร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งเป็นสินค้าที่รวมทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ระหว่างที่เลือกซื้อเสื้อผ้ากำลังจะจ่ายเงินสายตาหวานมองไปที่ชุดเด็กผู้หญิงชุดหนึ่งเป็นชุดกระโปรงสีขาวมีลูกไม้แต่งบริเวณที่แขนที่อยู่ในหุ่นทำให้เขานึกถึงเด็กน้อย
จินยองยิ้มบางๆ รู้ตัวอีกทีเสื้อตัวนั้นก็อยู่ในถุงช็อปปิ้งของเขาเรียบร้อย
แบมแบมเห็นเพื่อนซื้อเสื้อผ้าเด็กก็อดแซวไม่ได้
“อะแหนะ
ซื้อเสื้อผ้าเด็กให้ใครหรอ ได้ข่าวว่าน้องมึงก็โตแล้วไม่ใช่หรอ”
“ยุ่ง!
ซื้อให้ลูกสาวคุณอิมเขาน่ะ น้องน่ารักดี”
“ทำตัวเป็นคุณแม่ไปอีกหรือเตรียมตัวจะคบแล้ว
โอ้ย” เจ้าของเรือนร่างถึงกับเบ้หน้าเมื่อโดนเพื่อนของตัวเองใช้มือบิดที่แขน
แบมแบมรีบสะบัดออกเพราะเจ็บ
คนที่เป็นคนทำหัวเราะชอบใจส่วนคนโดนกระทำก็ทำหน้าค้อนใส่เพื่อน
“ก็น้องน่ารักดีอ่ะ
ถ้ามีลูกก็อยากได้แบบนี้”
“ก็เป็นแม่ของลูกให้คุณอิมสิ
โอ๊ย มันเจ็บนะเว้ย เขียวหมดแล้วมั้งเนื้อกู”
“สมน้ำหน้าไปที่อื่นกันได้แล้ว”
จินยองกระตุกแขนเพื่อนให้เดินไปข้างหน้า
ร่างบางของทั้งคู่เดินไปตามตรอกร้านค้าต่างๆ
ที่เรียงรายยาวไปขนสุดถนนกว่าจะกลับถึงโรงแรมก็เกือบเย็น
จินยองเช็กตารางบินของวันพรุ่งนี้บินตอน 7.35 จากไทเป –
ภูเก็ต
แบมแบมที่เดินออกมาจากห้องน้ำเห็นจินยองยังนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนไม่ยอมไปอาบน้ำสักที
ข้างๆ ตัวเหมือนมีคนโทรเข้ามาแต่เพื่อนตัวดีของเขาไม่ยอมรับ
แบมแบมจึงถามด้วยความแปลกใจ
“ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์เนี่ยสั่นเป็นเจ้าเข้าขนาดนี้”
“อื่อ ไม่อยากรับ”
เขาไม่กล้าสู้หน้าคนที่โทรมาตอนนี้
เมื่อนึกถึงภาพเมื่อตอนเช้าเจ้าของเรือนร่างผิวสีน้ำนมก็หน้าแดงซ่านขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวรับเอง” ไม่ทันออกปากห้ามเพื่อนตัวดีของเขาก็กดรับสายพร้อมกรอกเสียงด้วยความสดใสไปอีก
“สวัสดีครับคุณอิม
พอดีจินยองเขาไปเขาห้องน้ำน่ะครับ อ่ะนั่นไงมาพอดีเลย”
ออกบ้าออกบออะไรเขากับมันก็นั่งหัวโด่อยู่ข้างๆ
กันนี่แหละ จินยองรับโทรศัพท์จากมือพร้อมส่งสายตาคาดโทษเพื่อนตัวดีเอาไว้
แบมแบมยิ้มร่านอนเล่นมือถือ
(พรุ่งนี้ถึงไทยกี่โมง)
“ก็ไม่แน่ใจครับน่าจะบ่ายๆ
ถามทำไมเหรอครับ” จินยองรู้สึกทะแม่งๆ
เมื่อคนตัวโตถามเวลาถึงไทยเวลากี่โมง
(ก็แค่ถาม..เรื่องรูปนั้นนะ
คุณทำผมแสบนักนะ)
“ฮื่อออ
หยุดพูดเรื่องนั้นเลยนะ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ”
(ต้องขอบคุณโทรศัพท์นายหรือเปล่า..)
“โอ้ยเปลี่ยนเรื่องไม่คุยเรื่องนี้”
ร่างบางแหวทันทีตอนนี้ใบหน้าแดงไปหมดไม่ใช่เพราะความโกรธแต่มันคือความเขินอายล้วนๆ
(อายทำไม เห็นหมดแล้ว)
โอ๊ยยยย
จะระเบิดเป็นจุณแล้วววววววว
“คุณมัน...หึ้ยยยย
แล้วลูกคุณไปไหนอ่ะ” จินยองเปลี่ยนเรื่องมันที
ปลายสายหัวเราะเพราะรู้ทันว่าคนตัวเล็กของเขาคงจะเขิน
(น้องมาหาคุณป๊าทีครับ/
อะไรหรอคะ)
“สวัสดีครับน้องเฮนา”
(หม่าม้า ฮื่ออ
อยู่ไหนหรอคะ)
“อยู่ไทเปค่ะ มาทำงาน”
(หูววว
น้องอยากไปเที่ยวบ้างจังค่ะ คุณม้าซื้อของฝากให้หนูด้วยนะ)
“แน่นอนครับรอรับได้เลย”
(น้องจะรอนะคะ)
จินยองยิ้มบางๆ
มองไปที่ถุงเสื้อผ้าที่วางไว้บนโซฟาหวังว่าอิมเฮนาคงจะชอบมัน
(งั้นไว้เจอกันนะ จินยอง)
“ผมไม่อยากเจอคุณ
ผมอยากเจอเฮนามากกว่า”
(งั้นเหรอ แค่นี้นะ)
หลังจากที่อิมแจบอม
ร่างบางงุนงงกับคำที่ว่าเจอกัน หมายความว่ายังไง
ขณะที่กำลังหันหน้าจะเอาโทรศัพท์ไปไว้เห็นเพื่อนตัวดีที่ยิ้มแซว
จนจินยองเขวี้ยงหมอนใส่ ใบหน้าน่าหมั่นไส้
“หม่าม้าใจร้ายจังเลยนะคะ”
“ไอ้แบมม
ไปคุยกับพี่มาร์คนู่นไป”
“พี่มาร์คบินอ่ะ
คืนนี้อดคุย” ถึงว่าแฟนไม่อยู่นี่เองไม่งั้นมันคงไม่มากวนเขาแบบนี้
ทางด้านอิมแจบอมหลังจากวางสายจากจินยองเสร็จ
ร่างหนายิ้มมุมปากมองไปที่โต๊ะข้างมือตัวเองมีพาสสปอร์ต วีซ่าและตั๋วเครื่องบิน
โซล – ภูเก็ต ไฟล์ทดึกของวันนี้
หลังจากส่งเด็กน้อยลูกสาวของเขาเข้านอนก็ว่าจะออกเดินทาง
แล้วเจอกันนะ
ตัวแสบ!
อิมแจบอมบอกคนในรูปที่ส่งเรียวขาขาวมาให้ตัวเองในตอนเช้า
มือหนากดปิดรูปพร้อมเดินขึ้นไปข้างบนเพื่อจัดเตรียมกระเป๋าเดินทางในคืนนี้ทันที
สนามบิน อินช็อน
เกาหลีใต้
ไฟลท์
23.40 ท่าอากาศยานอินช็อน – ท่าอากาศยานภูเก็ต
ชายหนุ่มในชุดสบายๆ มีเพียงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และตั๋วเครื่องบินในมือเดินเข้าเกต 17 สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศเขาขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของตัวเองไป โดยมาร์คและนักบินอีกคนเป็นคนขับ ร่างสูงเดินขึ้นไปบนเครื่องมีเพียงแค่เขาเท่านั้นไม่มีแอร์โฮสเตสสาวๆ ภายในลำมีเพียงแค่เขาและนักบินเท่านั้นถ้าต้องการอะไรก็แค่เพียงเดินไปหยิบเอง อิมแจบอมดูเวลาอีกนานกว่าจะเช้าเขาจัดการดื่มไวน์ชั้นดีที่เก็บไว้บนเครื่องชมทัศนียภาพบนท้องฟ้า ไม่รู้ว่าลูกสาวคนสวยของเขาจะโวยวายหรือเปล่าที่หนีมาคนเดียว เพียงอดใจรออีกไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เจอกันแล้วอำนาจของเจ้าของสายการบินสืบเสาะหาเรียบร้อยว่าพนักงานคนโปรดของเขาจองห้องพักที่ไหนเขาก็ไปเช่าห้องข้างๆ ถ้ามีคนอยู่ก็แค่ยื่นข้อเสนอเงินสดให้ไปพวกนั้นก็ยอม
ร่างสูงมองนาฬิกาที่ข้อมือเป็นเวลาเกือบตี1 ความรู้สึกง่วงเริ่มเข้าครอบงำเขาปิดเปลือกตาลงเพื่อพักผ่อนพรุ่งนี้จะได้มีแรงฟัดยัยลูกพีชของเขาให้จมเตียง เวลาผ่านไปจนเช้าวันใหม่แสงอาทิตย์แรกของวันนี้แยงเข้าตาจนทำให้เขาตื่นขึ้นมาเห็นท้องฟ้าสีคราม เขาหยิบกล้องถ่ายรูปแบบโพลลารอยด์ขึ้นมาถ่ายบรรยากาศข้างนอกหน้าต่าง ตอนนี้เขาอยู่น่านฟ้าเมืองไทยเรียบร้อยกำลังจะบินลงใต้สู่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย อิมแจบอมถึงท่าอากาศยานภูเก็ตประมาณ 8 โมง ร่างสูงของหนุ่มนักบินและเจ้าของสายการบินเช่ารถจากที่สนามบินไปยังที่พัก เขาทำการเช็คอินเรียบร้อยเพียงแค่ห้องเดียวเพราะตอนนี้เขามีแผนในใจถ้าแบมแบมมายังไงมาร์คก็พาตัวแฟนของตัวเองไปส่วนเขาก็พักกับจินยอง ลงตัวดี ระหว่างที่รออิมแจบอมและมาร์คก็เดินเที่ยวรอบชายหาด สาวๆ ในละแวกนั้นต่างมองสองหนุ่มตาเป็นมัน บางคนส่งสายตาหวานเชื่อมแต่พวกเขาเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น
เครื่องบินจากไทเปลงจอด ณ
สนามบินภูเก็ตในเวลาเกือบบ่ายโมงหลังจากที่ดูแลลูกเรือจนถึงจุดหมายปลายทางเครื่องจะพักประมาณ
3 วัน อากาศประเทศไทยที่ร้อนอบอ้าวทำให้แบมแบมและจินยองเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดาเสื้อฮาวายที่กำลังฮิตในเมืองไทยเขาใส่พร้อมกับกางเกงขาสั้นและรองเท้าสาน
เจ้าของร่างทั้งสองลากกระเป๋าสัมภาระเดินขึ้นรถของโรงแรมที่มารับ
ทำการเช็คอินเพื่อเข้าพักเสร็จเรียบร้อยก็ทำการเก็บของให้เข้าที่และออกไปหาอะไรกินเพราะตั้งแต่เช้าพวกเขาทานแค่ข้าวมื้อเดียว
ตามทางเดินแบมแบมพาเขาไปยังร้านที่อยู่ตามข้างถนน
เพราะร้านแบบนี้มักจะอร่อยกว่าร้านแพงๆ
สองหนุ่มหน้าหวานเดินเข้าไปในร้านเป็นร้านอาหารไทยเล็กๆ
“ป้าครับ เอาตำปูปลาร้า
พริกสองเม็ดครับ” แบมแบมหันไปสั่งป้าเป็นภาษาไทย
จินยองลืมไปว่าเพื่อนสนิทของตัวเองนั่นเป็นคนไทยจึงสามารถพูดไทยได้อย่างคร่องปร๋อ
อาหารที่เพื่อนสีผิวน้ำผึ้งมีแต่ของเผ็ดเพราะอาหารไทยส่วนมากเป็นอาหารรสจัด
ใช้เวลาไม่นานอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียว
2 กระติ๊บ แบมแบมที่ดูจะมีความสุขที่สุดหลังจากที่ไม่ได้กินรสชาติไทยแบบนี้มานาน
ส่วนจินยองลองชิมก็ไม่สามารถกินได้มันเผ็ดจนใบหน้าขาวๆ นั้นแดงเป็นปื้น
น้ำแทบหมดกระติ๊กเมื่อจินยองทานเข้าไป จินยองทานได้แต่ไก่ย่างเพียงเท่านั้น
เมื่อทานอาหารเสร็จก็ไปเดินย่อยอาหารกันแถวๆ ริมหาด
ระหว่างที่เดินคุยกันไปเรื่อยเปื่อยก็มาสะดุดกับแผ่นหลังกว้างของใครคนหนึ่งที่แสนคุ้นตา
แบมแบมมองไปที่คนที่ใส่เสื้อสีขาวที่ยืนหันหลังให้ตัวเอง
“มึงว่าสองคนนี้คุ้นๆ ไหม”
แบมแบมหันมากระซิบกับเขา
“อื่อ เหมือนคุณมาร์ค”
“กับคุณอิม
ไม่ใช่มั้งดูผิดแน่ๆ อ่ะ” แบมแบมมองไปยังไงก็ใช่ว่าคนเสื้อขาวนั่นคือแฟนของเขา
แต่อีกใจหนึ่งก็เถียงว่ามันไม่ใช่จนกระทั่งเมื่อคนที่พูดถึงหันหน้ามาทางพวกเขาพอดี
ปาร์คจินยองเบิกตากว้างเมื่อเจอกับแววตาคมของคุณอิมแจบอมที่ปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเขาที่ภูเก็ตตอนนี้
ร่างสูงเดินเข้ามาพร้อมคว้ามือบางของจินยองเดินมากับตัวเอง
สายตาทั้งสองทอดมองไปยังเบื้องหน้าที่ยาวออกไปจนสุดลูกหูลูกตา
จินยองไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ คุณอิมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
ร่างบางแหงนมองคนตัวโตสายตาเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
“กำลังสงสัยอยู่หรือไงว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่”
แจบอมเหล่มองตามร่างบางเขารู้สึกไม่ชอบใจกับเสื้อที่คนตัวเล็กใส่ไหนจะกางเกงขาสั้นที่ใส่อยู่นั่นอีกน่าจับถอดไปเปลี่ยนให้รู้แล้วรู้รอด
“ครับ
แล้วคุณตามมาหรือเปล่าหรือว่ามาเที่ยวมึงไทยผมก็ว่ามันไม่ใช่” จินยองหรี่ตาเรียวจับผิดนักธุรกิจหนุ่ม
ร่างสูงยิ้มขำเมื่อคนตัวเล็กเหมือนจะรู้ทัน ใช่เขาตามเจ้าของรูปที่ส่งรูปยั่วเขามากะจะทำโทษสักหน่อยรู้หรือเปล่าว่าเขาเกือบคุยกับนักธุรกิจอีกคนที่จะมาร่วมหุ้นกับการบินของเขาแทบไปไม่เป็นในหัววนเวียนกับเรียวขาคนตรงหน้าที่เหมือนตั้งใจส่งมายั่วเขา
ทีนี้หวังว่าลูกแมวคงจะยั่วเขาให้เต็มที่เลยเขาไม่ว่า
“ใช่ ผมตามคุณมา”
“แลดูว่างนะครับ สบายใจจริงคุณซีอีโอ”
“อยากสบายกว่านี้ก็มาเป็นเมียซีอีโอสิ”
อิมแจบอมก้มลงมากระซิบเสียงแหบพร่าใส่หูของคนตัวเล็ก
หัวใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นระส่ำทำไมกันนะทำไม
จินยองเริ่มรู้สึกว่าอุณหภูมิตรงแก้มเริ่มเห่อร้อนขึ้น
แข่งกับอากาศเมืองไทยแล้วแหละ จินยองผละมือออกจากการเกาะกุมของมือหนาเพื่อจะเดินหนีทันทีแต่ก็ถูกคว้ามาอีกจนได้
“เขินหรอครับ”
“ใครเขิน ไม่มีสักหน่อย
ทำไมไม่พาเฮนามาด้วยละครับ” จินยองถามหาเด็กน้อยลูกสาวของคนตรงหน้า
“มาไม่ได้น่ะ” จินยองถอนหายใจเขาคิดถึงเด็กหญิงชะมัด
แจบอมเอื้อมมือไปโอบเอวบางเมื่อมีฝรั่งตาน้ำขาวมองมาที่คนของตัวเอง
สายตาคมตวัดไปที่พวกนั้นจนสะดุ้งและรีบเดินไปทางอื่น
อิมแจบอมอยากจะตัดกางเกงนี่ทิ้งลงทะเลจริงๆ เสื้อนี่ก็จะบางไปไหนอีก
คุณซีอีโอหนุ่มพาร่างเล็กไปหาแบมแบมกับมาร์คที่นั่งรออยู่ร้านกาแฟของรีสอร์ตที่เข้าพัก
ทั้งสองเดินเข้ามาภายในร้านกาแฟเดินไปที่โต๊ะของคู่รักที่กำลังนั่งหวานกันอยู่
จินยองหมั่นไส้เพื่อนของตัวเองจึงกระแอมเรียกสติเพื่อนเบาๆ
“อะแฮ่มมม เบาหน่อย”
“หึ
อย่าให้ถึงทีตัวเองแล้วกัน” แบมแบมค้อนใส่
มาร์คยีผมสีน้ำตาลเข้มของแฟนอย่างหมั่นเขี้ยว
กาแฟที่สั่งไปที่เคาน์เตอร์ไม่ต้องการน้ำตาลละแหละ หวานจนขึ้นตาขนาดนี้
สักพักหนึ่งกาแฟที่สั่งก็ถูกนำมาวางเสิร์ฟที่โต๊ะ
โกโก้หวานน้อยของร่างเล็กยกขึ้นดื่ม อืมไม่มีน้ำตาลจริงๆ ขมจ๋น
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“มันขมอ่ะ” จินยองเลื่อนแก้วไปข้างหน้า
ไม่น่าสั่งหวานน้อยเลยไม่คิดว่าจะขมจนขึ้นคอขนาดนี้ อิมแจบอมยกมือขอสั่งเครื่องดื่มมาใหม่โดยเลือกชาพีชให้คนตัวเล็กได้ดื่มและเค้กช็อกโกแลต
ระหว่างที่จินยองกำลังทานเค้กกับน้ำที่สั่งไปไม่ทันได้สังเกตส่ายตาเจ้าเล่ห์ของคนบางคนที่ส่งซิกบางอย่างไปให้เพื่อนของตัวเอง
มาร์คจึงพูดขึ้นทำให้จินยองเงยหน้าจากการทานเค้ก
“เอ่อ จินยองจะว่าพี่หรือเปล่าถ้าพี่ขอให้คืนนี้แบมมาค้างกับพี่”
ร่างบางของเพื่อนตัวเองฟาดแขนแฟนหนุ่มของตัวเองขึ้นมา
ทำไมจะไม่รู้ว่าสองคนนี้คิดอะไรนัดแนะกันมาดีเชียวนะ
“ได้สิครับ
เชิญตามสบายเพราะใครบางคนก็บ่นคิดถึงพี่ตั้งแต่อยู่ไทเปแล้วด้วย”
“ไอ้...” แบมแบมมองหน้าคาดโทษกะจะปฏิเสธแต่เพื่อนดันเผาเขาแบบนี้ ได้จ้า
แบมแบมจัดให้
“คุณอิมนอนไหนละครับ
ได้พักกับพี่มาร์คหรือเปล่า”
“อ่า นั่นสิ
ผมพักกับมาร์คนี่นา งั้นคืนนี้ผมก็คงต้องขอฝากตัวนอนที่ห้องคุณก็แล้วกัน” แบมแบมส่งสายตาชัยชนะส่งมาให้
เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเพื่อนที่รู้ว่าคืนนี้ต้องนอนกับคุณอิม
“ห้ะ”
“เป็นอันว่าตกลงนะ”
เดี๋ยว
เขาคิดว่าคุณอิมกับคุณมาร์คจะแยกห้องกันนอนซะอีกแบบนี้มันไม่ใช่แล้วโว้ย
จินยองหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรักแต่แบมแบมยิ้มเยาะหนึ่งที
เป็นอันว่าเพื่อนตัวดีเอาคืนเขาเข้าแล้วสินะ
เหมือนตอนไปจองห้องพักที่นี่เต็มไปเรียบร้อย เอาวะ
นอนก็นอนแค่นอนเท่านั้นแหละไม่มีทางที่เขาจะได้เคลมเขาอีกครั้ง ไม่มีทาง
ความคิดเห็น