คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เด็กของมิสเตอร์อิม (100%)
CHAPTER 02
เด็กของมิสเตอร์อิม
เวลาผ่านไปหลายวันในการกินเที่ยวตลอดที่อยู่แวนคูเวอร์จนถึงเวลาที่กลับ
จินยองเก็บของตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อเตรียมตัวในการเดินทางกลับเกาหลีใต้ในไฟล์ทเช้านี้
ร่างบางแต่งตัวด้วยเครื่องพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั่งแท็กซี่มายังสนามบินและตรงไปยังเครื่องเพื่อเตรียมการบริการอิม
แจบอมเจ้านายของเขา ไม่นานนักร่างสูงของอิม แจบอมปรากฎยังรันเวย์ของสนามบิน
จินยองยืนต้อนรับอยู่ตรงปากประตูของเครื่องบิน
ระหว่างที่ร่างหนาเดินผ่านนิ้วก้อยของแจบอมเกี่ยวที่มือของเขาพร้อมกระตุกริมฝีปากยิ้มแล้วเดินไปยังที่นั่ง
กัปตันประกาศว่าเครื่องกำลังจะเทคออฟขึ้นสู่น่านฟ้าและอยู่ในระดับเดียวกัน
จินยองเดินไปยังห้องเตรียมอาหารลากแกลเลย์ที่มีอาหารและไมโครเวฟอยู่ด้านใน
“ขอนุญาตเสิร์ฟอาหารนะครับ”
จินยองเปิดตรงช่องนำอาหารกล่องนำมาอุ่นยกมาวางไว้ให้ที่นั่งตรงหน้าของอิม
แจบอม
“มีบริการป้อนหรือเปล่า”
น้ำเสียงขอร้องของคนตรงหน้าเอาจินยองหันขวับทันที
ก่อนจะพ่นลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ลูกตื๊อของเจ้าของสายการบินที่เอาแต่ใจคนนี้
“คงไม่เหมาะสมครับ
ขอตัวก่อนนะครับถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเรียกผมได้ทันที”
เกือบข้ามวันตอนนี้เครื่องบินกำลังแลนดิ้งสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ
อินขอน จนกระทั่งเครื่องจอดสู่ผืนดินรันเวย์ จินยองเปิดประตูเครื่องและเดินเช็คความเรียบร้อยแต่กระทั่งเดินผ่านที่นั่งของร่างหนาที่นอนหลับอยู่
ร่างบางปลุกร่างสูงที่กำลังนอนสบาย
“คุณอิมครับ
คุณอิม แจบอม” ไม่มีปฏิกิริยาจากการตอบสนอง
จินยองจึงเขย่าตัวก็แล้วมีเพียงแค่แรงขยับของร่างสูงคลายความเมื่อยล้าเท่านั้น
“คุณอะ
อื้อออ” ร่างเล็กถูกคนตัวโตทาบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง
ให้ตายเขาเสียเปรียบอิมแจบอมทุกครั้งเลยหรือไง
ริมฝีปากบดขยี้ลงกลีบปากบางแผ่วเบาภายในเสี้ยววินาทีร่างสูงค่อยๆ
ถอนริมฝีปากออกจากร่างบางอย่างเชื่องช้า
ฉ่า
ไม่ใช้เสียงน้ำที่ถูกน้ำมันที่ร้อนแต่เป็นเสียงใบหน้าที่ขึ้นสีจนร้อนฉ่าขึ้นมา
จินยองยู่ปากด้วยความไม่พอใจก่อนคนตัวโตที่เอาเปรียบได้จะยกยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฉันชอบกินปากนายมากกว่าอาหารบนเครื่องนะ”
และเขาก็ปลดสายเบลท์ออกจากตัวก่อนจะเดินลงไปจากเครื่องทิ้งร่างไร้วิญญาณของปาร์คจินยองที่ยืนทื่ออยู่บนเครื่อง
..................................................
ร่างบางในชุดพนักงานต้อนรับเดินลงจากแท็กซี่เพื่อที่จะขึ้นไปที่คอนโดของตัวเองหลักจากจ่ายเงินเสร็จขาเรียวยาวก้าวไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็วตอนนี้เขาต้องการที่จะพักผ่อนเมื่อลิฟต์หยุดชั้นที่ต้องการร่างบางค้นคีย์การ์ดในกระเป๋าและทาบมันลงแผ่นแม่เล็กของบานประตูเปิดเข้าไป
เขาลากกระเป๋าเข้าไปเก็บไว้ในห้องก่อนจะค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าเตรียมที่จะไปอาบน้ำ
หยิบชุดคลุมอาบน้ำและเดินไปเปิดน้ำในอ่างเพื่อที่จะแช่ตัวให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย
ร่างบางปลดชุดคลุมแขนไว้บนราวและหย่อนกายลงนอนในอ่างกลิ่นบับเบิ้ลทำให้ร่างบางรู้สึกดีก่อนจะเปิดเพลงในการอาบ
จินยองมักทำบ่อยๆ
ขณะที่กำลังหลับตาใบหน้าของใครบางคนกลับโผล่เข้ามาในหัวทำให้ร่างบางรู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที
“คุณอิมนะคุณอิม
ทำไมยังมาโผล่ในความคิดเขาอยู่ได้” ร่างบางพูดกับตัวเองในใจตั้งแต่ไปต่างประเทศครั้งนี้เป็นอะไรที่คนอย่างปาร์คจินยองเปลืองตัวมากที่สุด
มือเรียวกดโทรศัพท์และจัดการบล็อกเบอร์ของอิมแจบอมเพราะคงคิดว่าคงได้เจอกันยากเพราะเขาก็ต้องบินตลอด
ร่างบางลุกออกจากอ่างอาบน้ำเดินไปเปลี่ยนชุดนอนเพื่อที่จะได้นอนพักผ่อนจากการเดินทางเป็นเวลานาน
แจบอมเดินทางกลับเข้ามาในบ้านรถยนต์คันหรูเทียบจอดตรงหน้าบ้านร่างสูงเดินลงไปก็มีแม่บ้านมายกกระเป๋าดินทางของเขาเองขึ้นไปเก็บไว้ในห้อง
ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องรับแขกเห็นลูกสาวของตัวเองกำลังนั่งเล่นตุ๊กตาบาร์บี้
เด็กน้อยกำลังหวีผมให้ตุ๊กตาอิมแจบอมยิ้มให้กับลูกสาวของเขา ร่างสูงค่อยๆ
เดินเข้าไปหาลูกสาว สาวน้อยเมื่อเห็นป๊ะป๋าของตัวเองก็โผเข้ากอดด้วยความคิดถึง
“ป๊ะป๋ากลับมาแล้ว
น้องคิดถึ๊ง คิดถึงคุณป๊ะป๋ามากๆ” เด็กหญิงยิ้มแป้นพร้อมอ้อนคุณพ่อเหมือนทุกครั้งที่ทำเมื่ออิมแจบอมอยู่ด้วย
“น้องดื้อกับป้ามินไหมคะลูก”
“ไม่ดื้อ
น้องไม่ดื้อเลย ใช่มั๊ยคะ คุณบาร์บี้” เด็กน้อยถามตุ๊กตาบาร์บี้ในมือ
แจบอมยิ้มเอ็นดูอดฟัดแก้มนิ่มของยัยลูกสาวของเขาไม่ได้
เมี๊ยวววว
แมวตัวน้อยเดินเข้ามาในห้องรับแขกเข้ามาคลอเคลียที่ขาของอิมแจบอมเพื่ออ้อนหลังจากที่ไม่ได้เจอมาหลายวัน
แมวน้อยก้าวขึ้นมาบนตักของเจ้านายหนุ่มก่อนจะนั่งจุมปุกที่ตักแกร่งและหลับตาพริ้มด้วยท่าทางน่าเอ็นดู
“นี่เจ้าฮียู
อย่ามาอ้อนป๊ะป๊าของเค้านะ” แมวตัวสีเทาขนปุกปุยลืมตาดูเฮนาครู่นึงก็หลับตาเมินคำของเด็กน้อย
มือเล็กดีดหน้าผากแมวเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้
“แล้ว
ฮานึล กับ อิซึลล่ะ” แจบอมถามหาแมวตัวอ้วนอีกสองตัวที่เขาเลี้ยงมาเกือบ
3 ปี เพราะลูกสาวอยากได้เขาจึงซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบลูกสาวตอนอายุ 3 ขวบ
“นั่นไงคะ
นอนขี้เกียจอยู่นั่นไง ฮานึล เมี๊ยวๆ” อิม
เฮนาชี้ไปที่แมวสีส้มกำลังนอนโชว์พุงอยู่หลังตู้โชว์ที่ประจำของฮานึลที่วันดีคืนดีก็ใช้เท้าเขี่ยของทั้งหมดลงกับพื้นทำให้แจบอมหัวเสียไปหลายวันแต่ก็ไม่คิดที่จะปล่อยมันแค่ดุนิดหน่อยมันก็จะไม่ทำและหลังจากวันนั้นมันก็ทำเหมือนเดิม
ชีวิตคือการวนลูปซ้ำๆ
แมวอ้วนสีส้มได้ยินเสียงคนเรียกก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจและกระโดดลงมาเดินข้างล่างมาหาเด็กน้อยที่เรียกมัน
ก่อนจะนอนตีพุงให้เด็กน้อยลูบมันได้ตามใจชอบ
สักพักแมวอ้วนอีกตัวก็เดินนวยนาดเข้ามาอ้อนต้อนรับคุณพ่อของพวกมัน
‘ม้าววว’
แมวอ้วนทั้งสามตัวอยู่ร่ายล้อมคุณพ่อจนแจบอมอดยิ้มไม่ได้
ลูกสาวเขาก็นั่งอยู่ข้างๆ
ด้วยความหมั่นไส้แมวทั้งสามตัวแต่เด็กน้อยก็ยอมให้มันซุกตักอุ่นของคุณป๊า
เฮนาหันไปเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ในมือต่อ
แจบอมจึงค่อยวางแมวบนโซฟาอย่างแผ่วเบาและขอตัวไปนอนพักข้างบนหลังจากที่กลับมาเหนื่อยๆ
ขณะที่กำลังเดินขึ้นไปข้างบนก็มีเจ้าแมวตัวสีเทาเดินตามเขาขึ้นมาข้างบนด้วยตัวที่นอนบนตักเขานั่นแหละ
แจบอมอุ้มฮียูขึ้นมาอุ้มแนบอกพาเข้าไปในห้องนอนของเขาเอง
เขาวางมันลงเดินไปหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
เมื่อออกมาฮียูนั่งรอเขาตาแป๋วจะว่าไปฮียูก็เหมือนกับจินยองเหมือนกัน
แต่ถ้าร่างบางอ้อนเขาเหมือนฮียูก็คงดี
แจบอมเดินไปอุ้มแมวขึ้นมาไว้บนเตียงและกอดมันจนหลับไปในที่สุด
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ร่างสูงงัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อมองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังเป็นเวลาเกือบเย็นและใกล้เวลากินอาหารของบ้านเขา
ร่างสูงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปล้างหน้าเพื่อเพิ่มความสดชื่น
หันไปมองแมวสีเทาที่นอนม้วนอยู่ในที่นอนไม่ยอมตื่นแจบอมจึงไม่ปลุกมันและออกจากห้องนอนลงไปข้างล่างร่างสูงเดินเข้าไปยังห้องโถงสำหรับไว้ทานข้าวแม่บ้านกำลังเตรียมตักข้าวใส่จานให้กับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย
อิมแจบอมเอ่ยทักทายพ่อกับแม่และทิ้งตัวลงนั่งข้างลูกสาวแม่บ้านถือโถข้าวมาตักข้าวใส่จานให้เขาก่อนทุกคนจะเริ่มลงมือทานอาหารค่ำ
วันนี้ยัยหนูนั้นยิ้มกว่าทุกครั้งที่ป๊ะป๋านั้นกินข้าวด้วย
“ปะป๊าขา
คืนนี้สอนการบ้านน้องหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ”
ยัยหนูยิ้มดีใจมื้ออาหารมื้อนั่นกลายเป็นว่าเฮนานั้นกินจุสุดแล้ว
…………………………………………………….
เสียงมือถือปลุกคนตัวเล็กที่นอนอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาในเวลาหนึ่งทุ่มตรงของวันนี้
ร่างบางงัวเงียขึ้นมาหยิบมือถือขึ้นมารับพร้อมกรอกเสียงลงปลายสายด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยที่มากวนเวลาการนอนของตัวเอง
“ฮัลโหล
มีไร”
(มึงอยู่ไหน คืนนี้ออกมั๊ยฮะ)
“ที่ไหน”
(ร้านเดิม สี่ทุ่มเจอกัน)
หลังจากวางสายปาร์คจินยองลุกออกจากเตียงด้วยอาการงัวเงีย
นาฬิกาบอกเวลาตอนนี้หนึ่งทุ่มกว่าเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด
ร่างบางลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งก่อนจะออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อคลุมเดินไปที่หน้าตู้เสื้อผ้าหยิบกล่องที่ถูกส่งมาจากเว็บขายของเมื่อหลายสองอาทิตย์ที่แล้วยังไม่ได้แกะป้ายหรือใดๆ
ทั้งสิ้น ร่างบางค่อยๆ บรรจงแกะกล่องและหยิบเสื้อแจ็คเก็ตหนัง Sheriff
Stand-Collar Leather ของแบรนด์ BANKS BOYD ออกมาจากกล่องมาแขวนรอไว้และหันไปหยิบเสื้อยืดคอวี
กางเกงยีนแบรนด์ดัง
มาแขวนรอไว้ก่อนที่จินยองจะเดินไปแต่งหน้าที่โต๊ะเครื่องแป้งไลน์ในมือถือดังขึ้นมาทำให้ร่างบางหยิบขึ้นมากลอกตาให้กับเพื่อนของตัวเองที่นัดก่อนเวลาและเร่งจนร่างบางแต่งหน้าเสร็จก็ไปแต่งตัวเพื่อที่จะเตรียมตัวออกล่าในค่ำคืนนี้
กลีบปากสีชมพูยกยิ้มให้กับตัวเองในกระจกก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากคอนโดไปเรียกแท็กซี่
ไปยังผับค่ำคืนนี้
แท็กซี่จอดบริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในย่านฮงแดก่อนร่างบางจะยื่นเงินให้แก่แท็กซี่และเดินเข้าไปข้างในเห็นแบมแบมและยองแจกำลังนั่งอยู่กับใครบางคนที่คุ้นกันเป็นอย่างดี
มาร์ค ต้วน และ แจ็คสัน หวัง หนุ่มนักบินจากจีนและอเมริกา
จินยองเดินเข้าไปส่งสายตาล้อเลียนคนที่กลืนน้ำลายตัวเองที่ว่าจะไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ
อันนี้คืออะไรหลังจากกลับจากญี่ปุ่นกันมา
แบมแบมค้อนใส่เพื่อนทีหนึ่งเพราะเขินเมื่อจินยองทำสายตาล้อเลียน
“สวัสดีครับคุณมาร์ค
คุณแจ็คสัน” จินยองยิ้มทักทายคนตรงหน้าทั้งสองคนที่กำลังกอดเอวเพื่อนของเขาอยู่
“หวัดดีครับน้องจินยอง”
แจ็คสันและมาร์คเอ่ยทักทายตอบ จินยองยิ้มบางๆ
เดินไปที่บาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มปล่อยให้เพื่อนนัวเนียกับผู้ชายของพวกมันไป
จินยองสั่งเครื่องดื่มเสร็จก็กลับมาที่โต๊ะ
“เดี๋ยวเพื่อนพวกพี่จะมา
พวกน้องคงไม่อึดอัดใช่มั๊ย” มาร์คถามความสะดวกใจของพวกเราทั้งสามคน
ยองแจและแบมแบมไม่ว่าอะไรแล้วเขาจะว่าอะไรละ คนเยอะๆ ก็คงดีเหมือนกัน
จินยองส่ายหัวแทนคำตอบมาร์คกับแจ็คสันจะยิ้มบางๆ
สักพักเครื่องดื่มที่ร่างบางสั่งก็ถูกนำมาวางเสิร์ฟที่โต๊ะเป็นเครื่องดื่มที่ดีกรีแรงที่สุด
ทันทีที่วางเสิร์ฟแบมแบมและยองแจตั้งท่าจะด่าเขาทันทีแต่ทว่าด่าไม่ทันเพราะเครื่องดื่มแก้วนั้นได้ถูกร่างบางกลืนลงคอมันลงทั้งหมด
จินยองเบ้หน้าเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับแอลกอฮอล์ที่แรงจนฉุดแค่แก้วเดียวใบหน้าก็แดงซ่านจนเห็นได้ชัด
“ถ้าเมากลับเองนะ
กูไม่แบก” ยองแจว่าให้เขา แค่แก้วเดียวใคระไปเมาวะ แต่ตอนนี้ก็กรึ่มๆ
เหล้าแรงชิบเลย
“ถ้าพวกมึงไม่ไปส่งมีใครอีกหลายคนอยากไปส่งกูคืนนี้นะ”
จินยองกระตุกยิ้มเป็นแมวยั่ว
ทำเอามาร์คกับแจ็คลอบกลืนน้ำลายเพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของรุ่นน้องสจ๊วตทุกทีจะนิ่งๆ
แต่ตอนนี้กลายเป็นแม่เสือร้ายไปแล้ว
“ออกล่าแล้วสินะมึง”
แบมแบมได้แต่ส่ายหัว
ทุกทีกลุ่มของพวกเขามาที่นี่มักจะแข่งกันว่าคืนนี้ใครได้เบอร์หนุ่มๆ
ที่นี่เยอะที่สุดชนะและคนที่แพ้คนนั้นต้องเลี้ยงเหล้าแต่วันนี้เล่นไม่ได้เมื่อเพื่อนทั้งสองตัวของเขาดันพาคนคุมมาด้วย
จินยองจึงต้องออกล่าคนเดียวในค่ำคืนนี้ บุคลิกของจินยองมี2บุคลิก บุคลิกตอนเมาและตอนปกติ
ตอนเมาเขาก็แค่ยั่วนิดๆ หน่อยๆ เพื่อสีสันของชีวิต
รถยนต์ Mercedes benz
Maybach exelero ขับเข้ามาจอดในที่จอดรถ VIP ของผับ
ร่างสูงสวมชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินและกางเกงยีนสีเข้มเดินเข้าไปภายในผับมองหาเพื่อนของเขาแต่แล้วก็ต้องกระตุกยิ้มเมื่อเจอแผ่นหลังร่างบางที่คุ้นตา
คู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันสินะ
ร่างสูงเดินเข้าไปทักทายหนุ่มหน้าสวยทั้งสามและเพื่อนของเขาแต่ก็ต้องตลกหน้าของเพื่อนๆ
จินยองเมื่อเห็นหน้าเขา
“คะ
คุณอิม เอ่อ สวัสดีครับ” แบมแบมได้แต่คิดในใจว่าเพื่อนของมาร์คและแจ็คสันที่แท้คือเจ้านายของพวกเขาเองงั้นหรอ
“สวัสดีครับ”
แจบอมเอ่ยทักทาย เขาไม่ได้ถืออะไรออกจะติดดินด้วยซ้ำ
แจบอมมองทั้งสองคนของเพื่อนเดาว่าคงไม่รู้ว่าไอ้พวกนี้ไม่ได้เป็นแค่นักบินอย่างเดียวแน่ๆ
แจบอมปรายตาไปที่ร่างบางที่กำลังชูแก้วให้กับโต๊ะข้างๆ
ตอนนี้จินยองถอดแจ็คเก็ตออกเหลือเพียงชุดสีขาวบางที่เห็นแผงอกขาวที่น่าทำรอยอย่างยิ่ง
“จินยองเพื่อนคุณมาร์คมาแล้ว
งดแรด” แบมแบมเดินมากระซิบที่หูของจินยอง ก่อนหน้าเล็กๆ
จะหงึออกมาด้วยความไม่พอใจ มาแล้วไงอ่ะทำไมต้องทักทาย
“สะ...คุณอิม!!”
ร่างบางเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าของอิมแจบอมที่กระตุกยิ้มให้เขา
ให้ตายเถอะจะเจออะไรกันหนักหนาวะ แล้วเรื่องอะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ละวะ
แจบอมถือวิสาสะเดินเข้ามาคล้องเอวบางทันทีท่ามกลางความตะลึงของสองหนุ่มที่ไม่คิดว่าคนอย่างอิมแจบอมจะจู่โจมเพื่อนเขาขนาดนี้
จินยองดิ้นในอ้อมแขนแกร่งแต่ถูกจับไว้แน่นจนต้องจำใจยอม
“คุณปล่อยผมได้ไหม
มันอึดอัด” จินยองกดเสียงต่ำขู่ฟ่อๆ เป็นแมวในแขนแกร่ง
แต่แขนแกร่งยังคงวางไว้ที่เอวบางอย่างเดิมแต่ขยับหนีเมื่อไหร่แขนแกร่งยึดร่างบางไว้กับที่เป็นเกาะป้องกันไม่ให้ไอ้พวกนั้นมายุ่งกับของของเขา
เสียงเพลงในผับยิ่งดึกยิ่งดังสนั่นหนุ่มๆ
สาวๆ ต่างเคลื่อนย้ายร่างกายในค่ำคืน
จินยองกินเครื่องดื่มในมือให้หมดก่อนจะหันไปหาเพื่อนของตัวเองร่างบางถึงกับหันหน้าหนีด้วยความเขินเมื่อเพื่อนทั้งสองคนของตัวเองกำลังนัวเนียอยู่กับคู่
เหมือนอิมแจบอมจะสังเกตเห็นใบหน้าเล็กนั่นขึ้นสีระเรื่อเป็นมะเขือเทศสุก ร่างบางจึงอ้อมแอ้มขอตัวไปเข้าห้องน้ำพร้อมแกะแขนแกร่งที่เกาะเป็นปลิงแจบอมยอมปล่อยร่างบางไปง่ายๆ
ก่อนจะมองไปที่เพื่อนทั้งสอง
นัวเนียขนาดนี้
พาไปคอนโดพวกมึงเลยก็ได้..
ร่างสูงนั่งรอจินยองที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเป็นเวลานานก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วง
เลยตัดสินใจเดินไปดูที่ห้องน้ำชายเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องรู้สึกความร้อนในกายมันกำลังจะระเบิดเมื่อร่างบางที่เขาคุ้นตากำลังนัวเนียกับผู้ชายคนหนึ่ง
อิมแจบอมกระชากผู้ชายคนนั้นให้ออกห่างคนของเขาผู้ชายคนนั้นดูโมโหเล็กน้อยจึงเดินเข้ามาที่จะต่อยแต่ดันพลาดเมื่อแจบอมหลบทัน
จนมันล้มไปกับพื้นแจบอมจึงใช้เท้ากดไปที่หน้าอกของมันและขู่จนมันกลัวและยอมรามือไปง่ายๆ
เมื่อไอ้เวรนั่นไปแล้วก็ถึงเวลาจัดการคนของเขา ร่างกายของจินยองดูสั่นแปลกๆ
สีหน้าที่กำลังอึดอัดอยู่ภายใต้กางเกงของร่างบางทำให้แจบอมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงโทรไปหาแจ็คสันขอตัวกลับก่อนและจะพาจินยองกลับด้วยโดยบอกให้เพื่อนๆ
ของร่างบางไม่ต้องห่วง
แจบอมใช้เสื้อแจ็คเก็ตของร่างบางคุมกายและพาร่างบางเดินไปที่รถที่จอดอยู่ขับกลับบ้านของเขาแทน
“อึก ผมร้อน” มือบางเริ่มปัดป่ายร่างกายของตัวเอง
กางเกงที่เริ่มคับตึงตรงส่วนนั้นมันเริ่มพองตัวขึ้น
แจบอมพยายามเร่งแอร์และขับรถพาร่างบางไปที่บ้านของตัวเองทันทีเพราะมันใกล้ที่สุดถ้าไปคอนโดเขากลัวว่าจะไม่ไหว
ตัวเขาเองนี่แหละที่จะไม่ไหวเมื่อจินยองยั่วเขาขึ้นมา
จินยองถอดเสื้อแจ็คเก็ตทิ้งไว้ข้างหลัง
กายเหงื่อที่ชุ่มอยู่เต็มแผ่นหลัง
ตอนนี้ร่างกายของร่างบางต้องการที่จะปลดปล่อยออกมาแกนเนื้อมันกำลังรัดตึงเขาจนปวดไปหมด
แจบอมเร่งความเร็วไปถึงบ้านของเขาให้เร็วที่สุด
เมื่อจอดรถเสร็จก็แบกร่างบางไปในห้องนอนของตัวเองโชคดีที่แม่บ้านนอนกันหมดแล้ว
อิมแจบอมจัดการล็อคประตูห้องและวางร่างบางไว้บนเตียง
“คุณ
ผมไม่ไหวมันปวดไปหมด อ๊ะ” กางเกงยีนมียี่ห้อมีรอยเปรอะน้ำตรงเป้ากางเกงจนเป็นวงกว้าง
“นายแน่ใจว่าจะให้ฉันช่วย”
แจบอมถาม
ตอนนี้ของเขาเองก็เริ่มคับตึงเมื่อเห็นใบหน้าหวานที่กำลังทำหน้าเซ็กซี่ใส่เขา
เสื้อขาวบางตอนนี้โผล่ให้เห็นเม็ดทับทิมสีชมพู
“เช้ามาจะมาว่าให้ฉันไม่ได้นะจินยอง”
CUT
เสียงเครื่องปรับอากาศในห้องนอนยังคงทำงาน
ร่างบางที่นอนอยู่บนอกหนาด้วยความอ่อนเพลีย
เสียงนาฬิกาปลุกที่จินยองมักจะตั้งปลุกไว้ร่างบางควานหาโทรศัพท์แต่ไม่เจอแต่พอขยับตัวความปวดร้าวตั้งแต่ช่วงเอวลงไปทำให้จินยองครางออกมาร่างบางพยายามลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ห้องใครสักคนหนึ่ง
เสียงกรนเบาๆ ทำให้เขาต้องหันไปหาที่มาของเสียง ข้างกายมีใบหน้าอันคุ้นเคยนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ
เขาด้วยมือหนาเกาะเกี่ยวอยู่ที่เอวขอดกิ่วของเขานั่นเอง
สภาพร่างกายของเขาก็พอจะรู้ว่าเมื่อคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“อ๊ะ
เจ็บชะมัด” จินยองค่อยๆ คลานไปที่เสื้อผ้ากองอยู่
ในเมื่อขาไม่มีเรี่ยวแรงก็ต้องคลานแทน
จินยองหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาเพื่อที่จะสวมใส่แต่ตัวเองกับลอยหวืดอยู่ในอ้อมแขนแกร่งร่างบางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
แจบอมพาเขาไปที่เตียงเหมือนเดิม เมื่อถูกวางลงบนเตียงตามเดิมร่างบางรีบสอดตัวเองเข้าใต้ผ้าห่มทันที
แจบอมอมยิ้มเล็กน้อยส่วนร่างบางก็ไม่ยอมมองหน้าเขาสักนิด
ตื่นตอนไหนเนี่ย
ฮือ...
“ปิดทำไมในเมื่อเห็นหมดแล้ว”
ร่างบางหน้าแดงซ่านด้วยความอาย
ร่างบางเม้มริมฝีปากตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกและตอนนี้ร่างหนาของอิมแจบอมกำลังรัดตัวเขาอยู่
จมูกยังคงซุกไซร้ที่ลำคอขาว
กลิ่นพีทที่เขาชอบมันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแต่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวของจินยองเอง
ร่างสูงยังคงสาละวนอยู่กับลำคอเขา
“ปล่อยได้แล้วครับ
ผมจะไปอาบน้ำ”
“อย่าเพิ่งสิ
ไว้อาบอีกรอบหลังจาก...” แจบอมเว้นวรรคจนร่างบางหน้าขึ้นสี
ก่อนจะแหวใส่ร่างสูงด้วยความโมโห
“นี่คุณ
หยุดทะลึ่งกับผมเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่คุณสิครับ
เรียกพี่ว่าพี่แจบอม” แจบอมยังคงวอแวกับตัวเขาไม่เลิกจู่ๆ
ร่างบางก็ถูกผลักลงนอนราบกับเตียงอีกครั้ง
ร่างบางรีบดันคนตัวโตออกแต่เห็นทีท่าจะยากเมื่อดูท่าแล้วมันต้องมีอีกครั้ง
แจบอมยกยิ้มจ้องเรือนร่างและเอวคอดกิ่วของร่างบางแต่คงเป็นโชคดีของเขาให้รอดเงื้อมมือจากคนแก่หื่นกามได้เมื่อแม่บ้านขึ้นมาเคาะประตูเรียกพวกเขาทั้งสองให้ลงไปทานข้าวที่โต๊ะอาหาร
จินยองผลักร่างหนาออกจากตัวเองให้พ้นและรีบลุกออกไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วจนลืมเจ็บ
เสียงปิดประตูห้องน้ำเสียงดังทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงหัวเราะในลำคอ ท่าทางเขินอายและโมโหกลบเกลื่อนของจินยอง
น่ารัก
เขามีแต่คำนี้ให้
จินยองเดินลงมาทานอาหารกันข้างล่างโดยที่อิมแจบอมนั่นเดินลงมาก่อนแล้ว
เขาใส่ฮู้ดสีเทาตัวโคร่งและกางเกงพละของแจบอมเพราะเจ้าของชุดบอกให้ใส่ ส่วนเสื้อผ้าเดิมนั้นแม่บ้านกำลังนำไปซักและตากให้กว่าจะแห้งก็คงตอนเย็น
ทันทีที่ลงไปทุกคนต่างมองไปที่ร่างบางที่กำลังเดินลงมาจากข้างบนห้องพร้อมค้อมหัวทำความเคารพจนร่างบางเริ่มเกร็ง
เสียงหัวเราะคิกคักและเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งมาทางเขาทำให้จินยองและเด็กน้อยไม่ทันระวังกันทั้งคู่เด็กน้อยชนเขาจนล้มแต่ก็ไม่ลืมที่จะขอโทษเพราะตัวเองเป็นคนผิดที่เดินชน
“น้องขอโทษนะคะ
คะ...คุณม้า” เด็กน้อยมองหน้าจินยองตาแป๋วก่อนจะยิ้มตาหยีออกมาและโผเข้ากอดที่เอวของตัวเอง
ปาร์ค จินยอง
งงเล็กน้อยเมื่อเด็กน้อยตรงหน้าเรียกเขาว่า คุณม้า ซึ่งหมายถึงแม่..
เอ่อ...
“เอ่อ...หนูชื่ออะไรครับ”
จินยองแกะมือเล็กที่กอดเอวเขาแน่นก่อนร่างบางจะนั่งยองๆ
เพื่อถามเด็กน้อยหน้าตาน่ารัก
“อิม เฮนาค่ะ
ลูกสาวของป๊ะป๋าอิม แจบอม” เด็กน้อยพูดจาฉะฉาน ฟังชัด
ก่อนมือเล็กจะจูงมือจินยองให้ไปที่โต๊ะอาหารที่มีชายหญิงมีอายุนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
จินยองจากตอนแรกผ่อนคลายก็รู้สึกเกร็งขึ้นมา
ทว่าอิมแจบอมจับมือบางให้เดินไปที่ห้องอาหาร คุณหญิงอิม ซอนเย เห็นหน้าจินยองครั้งแรกก็ต้องเอามือกุมที่ปากด้วยความตกใจ
เหมือน ยุน เฮรา ราวกับฝาแฝด
จินยองทำความเคารพคผู้ใหญ่ทั้งสองคน
คุณหญิงอิมเพียงแค่พยักหน้าตอบรับส่วนคุณผู้ชายของบ้านก็เพียงแค่ยิ้มและหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ
ทำไมความรู้สึกเหมือนมาพบพ่อแม่แฟนครั้งแรกยังไงก็ไม่รู้
แม่บ้านค่อยยกโถข้าวต้มขึ้นมาและเตรียมที่จะตักใส่ถ้วยเจ้านายก่อนจะขอตัวออกไปดูแลส่วนอื่นๆ
ในบ้าน
จินยองรู้สึกเกร็งอยู่มากจนไม่กล้าทำอะไรเลยสักนิดจนหนูน้อยจากที่นั่งข้างคุณย่าก็เดินอ้อมมานั่งข้างๆ
เขาพร้อมจับมือจินยองเอาไว้
“ม้า
ไม่หิวหรอคะ” เฮนาชี้ไปที่ถ้วยข้าวต้มที่กำลังร้อนๆ
จินยองไม่เข้าใจทำเด็กน้อยตรงหน้าถึงเรียกเขาว่าหม่าม้า ทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชาย
“ทำไมหนูถึงเรียก
ฉันว่าหม่าม้าละ”
“ก็หม่าม้าคือ
หม่าม้าของหนูยังไงละ”
“แต่...”
จินยองกำลังจะขัด การที่เขาเป็นผู้ชายแต่ถูกเรียกหม่าม้ามันรู้สึกจั๊กกะจี้นะสิ
“ทานข้าวเถอะ
เดี๋ยวข้าวจะเย็นชืดไปหมด” คุณหญิงอิมพูดขึ้น
ทุกคนจึงตักข้าวต้มทานกันผ่านมือเช้าไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจจินยองไม่กล้าสบตาต่อคนตรงหน้าเลยสักนิดมาดนางพญาและสายตาเรียวคมที่จ้องมองมาที่เขาทำเอาร่างบางเกร็งจนปวดตัวไปหมด
หลังจากที่ทานอาหารเช้ากันเสร็จคุณหญิงก็ให้เฮนาออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบนโต๊ะอาหารที่ถูกแม่บ้านจัดการนำอาหารออกไปมีเพียงเขา
แจบอม พ่อและแม่ของอิมแจบอมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าว
สีหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสองจริงจังจนจินยองเริ่มมีความรู้สึกเกร็งกว่าเดิม
มือบางเริ่มชื้นเหงื่ออีกครั้งเมื่อคุณหญิงพู่งสายตามาทางเขา
“เธอเป็นอะไรกับลูกชายฉัน”
คำถามของคุณหญิงทำเอาจินยองตอบไม่ถูกเพราะเขากับคุณอิมไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น
จะบอกว่าเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องก็ไม่ได้ ลูกน้องที่ไหนมานอนค้างอ้างแรมกับเจ้านายเล่า
“...”
“เอ้าตอบสิ
เงียบทำไมละ”
“ปะ...เป็น”
เป็นไรดีวะ
ร่างบางกัดปากพร้อมขบคิดในหัวสมองของตัวเองว่าจะตอบให้ผู้ใหญ่ทั้งสองตรงหน้านั้นพอใจอย่างไรดี
จนคุณหญิงเอ่ยถามคำถามเดิมขึ้นมาอีกครั้ง
“เป็นคนของผม
ผมกำลังคบกับเขาอยู่” อิมแจบอมตอบแทนเขา คุณหญิงยกยิ้มพอใจในคำตอบใจจริงไม่ได้อยากได้คำตอบจากคนตรงหน้าหรอกแต่อยากได้คำตอบจากลูกชายหล่อนแค่นั้นเอง
ว่าแต่ลูกชายเขานี่ก็คบเด็กเสียจริงเพิ่งยี่สิบสองยี่สิบสามเด็กจบใหม่
ลูกเขาเลี้ยงต้อยหรือไงเนี่ย คุณหญิงคิดกับตัวเองพร้อมพินิจใบหน้าของคนตรงหน้าภาพซ้อนของลูกสะใภ้คนโปรดของตัวเองก็ลอยเข้ามา
หวังว่าลูกชายเขาคงไม่ได้เลือกน้องเข้ามาเป็นตัวแทนของใครก็แล้วกัน
“งั้นเหรอ
ชื่ออะไรนะเราน่ะ ไม่ต้องเกร็งได้ไหม ฉันไม่ใช่ยักษ์ใช่มารซะหน่อย” คุณหญิงอดดุไม่ได้ที่เห็นคนของลูกชายดูเกร็งเมื่อนั่งต่อหน้าเธอ เธอไม่ใช่ยักษ์ใช่มารจะได้ใจร้ายต่อคนของลูกในเมื่อลูกชายรักใครเขาก็รักด้วย
“เอ่อ
ขอโทษครับ ผมชื่อปาร์ค จินยองครับคุณหญิง”
“เรียกฉันว่าแม่”
“หะ...ครับ
คุณยะ เอ่อ คุณแม่” จินยองได้แต่ยิ้มแห้งให้กับคนเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลอิม
คุณหญิงยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าหลุยส์ที่วางไม่ไกลจากที่นั่งออกไปจากห้องโดยพูดทิ้งท้าย
“ตอนเย็นก็อยู่ทานข้าวเย็นก่อน
ดูเหมือนว่าหลานฉันจะชอบเธอนะ จินยอง ถ้ากลับก่อนละน่าดู” คุณหญิงขู่แบบทีเล่นทีจริง
จินยองเพียงส่งยิ้มเกรงใจไปให้เท่านั้นเอง
อิมแจบอมได้แต่ส่ายหัวให้คนเป็นแม่ที่ชอบสั่งนู่นสั่งนี่ จินยองพยักหน้าตอบรับ
คุณหญิงคิดในใจนี่เขาโหดกับว่าที่ลูกสะใภ้ไปหรือเปล่าแต่มันคือมาดของเธอหวังว่าเด็กน้อยคงไม่คิดเคืองโกรธ
หลังจากที่คุณหญิงและคุณผู้ชายของตระกูลอิมนั่งรถออกจากบ้าน
ในห้องนั้นมีเพียงแค่เขาและแจบอมเท่านั้น
ร่างบางปากคว่ำทันทีเมื่อคิดว่าทำไมคุณอิมถึงตอบแบบนั้นกับแม่ของตัวเองแบบนั้น
แจบอมเริ่มรู้สึกถึงเมฆดำขมุกขมัวอยู่บนหัวตัวเองรางๆ
จึงขยับเก้าอี้เข้าไปหาเมียเด็กมาดๆ ของตัวเอง
“ทำไมคุณถึงตอบแม่ของคุณแบบนั้นไปครับ
อีกอย่างเราก็ไม่ได้คบกันสักหน่อย โคตรโมเมเลยคุณ”
“งั้นคบกัน”
อิมแจบอมกุมมือบาง จินยองเบิกตาอะไรมันจะง่ายขนาดนั้นวะ ใครจะไปคบ
ไม่คบโว้ย
จินยองเถียงตัวเองในใจร่างบางพยายามแกะมือปลาหมึกของอิมแจบอมที่พยายามจะเอาเปรียบเขาตลอด
น่าโมโห
ถ้าไม่กลัวตกงานตอนนี้เล็บของตัวเองคงไล่ข่วนหน้าของอิมแจบอมจนเป็นรอยไปเรียบร้อย
“ไม่คบครับ
ผมจะกลับบ้านไม่ต้องไปส่ง” จินยองลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกไปยังนอกบ้าน
ไม่สิไม่เรียกบ้านเรียกวังเลยมั้ง
ตอนที่เดินผ่านส่วนไหนมีแม่บ้านค่อยก้มหัวทำความเคารพเขาตลอดทางเดิน
แจบอมไม่มีเวลามากนักเพราะต้องเข้าไปที่ทำงาน
ร่างสูงเดินไปรั้งข้อมือบางเอาไว้ไม่ยอมให้ไปภาพซ้อนของใครบางคนกำลังทับซ้อนอยู่
“ไม่ให้ไป
ไม่เอา ไม่ให้ไปไหนแล้ว” จินยองไม่เข้าใจในความหมายของอิมแจบอมพูดว่ามันหมายถึงอะไรแต่ก็พยายามที่จะดิ้นออกจากอ้อมแขนแกร่ง
จินยอง เอะ
ใจกับประโยคนั้นแต่ยอมรับว่าตัวเองนั้นหวั่นไหวไม่น้อยเช่นกัน
อีกทางด้านหนึ่งตรงทางเดินอิมเฮนาที่กำลังไล่จับอิซึลแมวพันธุ์สก๊อตติสโฟล์ดเพื่อที่จะจับอาบน้ำเพราะแมวตัวดีดันไปตกโคลนที่ไหนไม่รู้มามีแต่รอยเปื้อนเต็มบ้านไปหมด
เมื่อเดินเข้าไปเห็นคุณป๊ะป๋าและว่าที่คุณหม่าม้าของตัวเองร่างเล็กใช้มือเล็กปิดตาทำท่าเขินอาย
“ว้าย
น้องขอโทษที่มาขัดจังหวะค่ะ มานี่เดี๋ยวนี้นะ อิซึล ย่าห์!!” เด็กน้อยวิ่งตามแมวไปทางประตูหลังบ้านภายในบ้านมีแต่รอยเท้าของแมวเต็มไปหมด
ผู้ใหญ่สองคนต้องเปลี่ยนจากการง้องอนไปช่วยลูกสาวตัวเล็กจับแมวแทน
แม่บ้านทั้งหมดไล่ต้อนจับเจ้าอิซึลแมวดื้อที่วิ่งวุ่นไปหมดรอบมัน
สุดท้ายจินยองเป็นคนอุ้มมันได้จนเจ้าแมวตัวอ้วนได้มันสงบในมือบางเสื้อฮู้ดราคาแพงมีแต่โคลนของแมวเต็มไปหมด
จินยองจึงอาสาเป็นคนอาบน้ำให้แมวเองโดยที่มีอิม เฮนาเป็นลูกมือในการช่วยจับเจ้าแมวอ้วนให้อยู่นิ่งๆ
อิม แจบอมที่ยืนมองอยู่หน้าประตูร่างสูงอมยิ้มบางๆ
เมื่อเห็นจินยองและเฮนาลูกสาวของเขาเข้ากันได้ดี อิมเฮนาไม่ค่อยโอเคกับสาวๆ
ของพ่อตัวเองเวลาที่หล่อนมาตามที่บ้านเพียงเพราะเขาเทเธอ
อิมเฮนาไม่ชอบผู้หญิงพวกนั้นแต่กลับเข้ากลับจินยองได้ดีเพียงเพิ่งเจอกันครั้งแรก
ร่างสูงมองจินยองที่โดนแมวนั้นสะบัดตัวใส่จนเปียกไปหมด สองคนหัวเราะคิกคัก
เหมือนแม่ลูกกันยังไงยังงั้น
จินยองอยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยโดยเป็นเสื้อผ้าเดิมของตัวเองที่ใส่ตอนเมื่อคืน
ร่างบางจำได้ว่าอิมแจบอมบอกว่ามันเสียแต่ไหงเสื้อเขาถึงแห้งทัน
ร่างบางหันขวับไปที่อิมแจบอมทันที
แต่ไม่ทันได้ถามอะไรหนูน้อยก็เดินมาหาจินยองในชุดกระโปรงสีชมพูเดินมาหาเขาและอิมแจบอม
“คุณม้าจะกลับแล้วหรอคะ”
เด็กน้อยช้อนตาถามคนมีอายุมากกว่าตัวเอง
“ครับ
จะกลับแล้ว ไว้พี่...เอ่อ ม้ามาหาใหม่เนาะ” จินยองรู้สึกกระดากปากยังไงก็ไม่รู้
เพราะไม่ได้เป็นอะไรกับพ่อของเด็กน้อย (ถึงจะโดนโมเมขอเป็นแฟนก็เถอะ) แต่กลับเรียกเขาว่าหม่าม้า
แต่อิมเฮนาเป็นเด็กน่ารัก เขาจึงยอมให้เรียก อิมแจบอมยิ้มหน้าบานเมื่อคนข้างๆ
ยอมให้ลูกสาวของตัวเองเรียกว่าหม่าม้า
ร่างบางนั่งแท็กซี่ไปที่สถานีขนส่งหลังจากซื้อตั๋วโดยสารเสร็จก็ขึ้นไปนั่งเขาต้องต่อรถสองเที่ยวคือปูซานและจินเฮ
เขาต่อรถไปลงแถวหน้าหมู่บ้านโดยอาศัยติดรถคนรู้จักเข้าไป
จินยองหยุดอยู่ตรงบ้านหลังใหญ่ที่ปลูกพืชผักสวนครัวตรงบริเวณรอบรอบ
มือบางผลักประตูรั้วเข้าไปเห็นแม่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ที่แปลงผักกาด
จินยองค่อยๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังของผู้เป็นแม่
“จ๊ะเอ๋”
ปาร์คมินคยองถึงกับสะดุ้งใช้สายฉีดฉีดใส่คนที่ทำเธอตกใจ
“แม่
จินยองเอง มันหนาว” มินคยองลดสายฉีดมองดีๆ
พบว่าเป็นลูกชายของตัวเองมันน่าตีจริงๆ อายุยี่สิบกว่าชอบเล่นอะไรเป็นเด็กๆ จินยองตัวเปียกซกมินคยองจึงไล่ลูกชายไปอาบน้ำ
จินยองทักทายคุณปาร์คจินซองพ่อของตัวเองที่กำลังนั่งเอกเขนกอยู่ตรงโซฟาอ่านหนังสือพิมพ์และจิบชาในยามบ่ายแก่ๆ
จินยองจึงขอตัวไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนที่คุณมินคยองจะใช้สายยางพันคอเขาแทนถ้ายังลีลา
ใช้เวลาในการอาบน้ำประมาณ
10 นาทีจินยองอยู่ในชุดเสื้อยืดย้วยๆ และกางเกงบอลคีบแตะเดินมานั่งข้างๆ
พ่อของตัวเอง ร่างบางหยิบรีโมตเลื่อนเปลี่ยนช่องก่อนจะโดนเอ็ดเสียงดัง
“จะเปลี่ยนทำไม
ข้าดูอยู่เอ็งก็เห็น” จินยองทำตาปริบๆ
เพราะสิ่งที่เห็นคือพ่อไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์อยู่เหรอ หรือพ่อเขามีตาอยู่หลังมือหรืออะไร
จินยองได้แต่ถอนหายใจให้กับอารมณ์คนแก่
“น้า
พ่อน้า จินยองขอดูอย่างอื่นนานหนูมาทีอ่ะ” จินยองยื่นปากใส่คุณพ่อให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู
จินซองใช้นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือบีบปากลูกชายด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะยื่นรีโมตให้กับจินยองก่อนจะลุกไปทำอย่างอื่นเพราะได้ยินเสียงเมียเรียกให้ไปพรวนดินแปลงคะน้าหลังบ้าน
บ้านของจินยองมีทั้งหมด
5 คน มีพ่อแม่และพี่สาวน้องสาว 2 คน
ครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนักส่วนมากจะใช้ชีวิตแบบพออยู่พอกินถึงแม้เขาจะมีรายได้เยอะแต่พ่อกับแม่แทบจะไม่ได้ใช้เงินเขาเลยด้วยซ้ำ
ส่วนมากพวกเขาสองคนจะนำผักที่ปลูกไว้ไปขายในตลาดมากกว่าถึงแม้ว่าลูกทั้งสามจะห้ามแต่ก็ไม่ฟังอยู่ดี
ผ่านเลยไปจนถึงช่วงเย็นปาร์ค ซูยองและปาร์ค จียอน
ก็กลับจากที่ทำงานและมหาวิทยาลัยมาเห็นน้องชายพี่ชายของตัวเองก็เดินเข้ามากอดกันแน่นด้วยความคิดถึงเพราะนานๆ
ทีจะเจอกันหนหนึ่ง
“อ่ะๆ
มัวแต่กอดกันอยู่นั่นมาช่วยทำกับข้าวเร็วๆ สองคนนั้น” คุณแม่เคาะกระทะเรียกจนสามพี่น้องหัวเราะเพราะคุณแม่คงงอนที่ลูกชายไม่มากอดตัวเองบ้าง
จินยองเดินมาเกาะเอวมินคยองเหมือนเด็กน้อยยื่นหน้าไปข้างๆ
ดูว่าแม่กำลังทำอะไรให้กิน ร่างบางยิ้มแก้มกลมเมื่ออาหารวันนี้มีแต่ของโปรดของเขาทั้งนั้น
ระหว่างทานข้าวก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระเรื่องทั่วๆ
ไปจนกระทั่งวนมาเรื่องของเขา
จินยองที่กำลังตักข้าวต้องชะงักเมื่อแม่และพ่อถามเรื่องแฟนของตัวเอง
เพราะอายุอานามก็มากเขาก็อยากอุ้มหลานสักคนแต่ไม่ว่าลูกคนไหนก็ไม่ยอมมีให้
ซูยองยิ่งแล้วใหญ่บ้างาน
ส่วนคนเล็กก็ตัดไปเพราะยังเรียนอยู่ผลก็ต้องตกมาที่คนกลางอย่างจินยอง
“เมื่อไหร่จะพาแฟนมาหาแม่กับพ่อสักที”
“เขาไม่ว่างน่ะแม่”
จินยองบอกไปแบบนั้นทั้งที่เลิกกันไปตั้งนานแล้วมั้งกับคนเก่าแต่เขาไม่อยากบอกว่าโสดเพราะแม่ชอบพาไปจับคู่กับลูกบ้านอื่น
จินยองไม่ค่อยชอบจึงจำเป็นต้องโกหกว่ามีแฟนทั้งที่จริงๆ แล้วนั้นโสด
“ตลอดเลยนะเราน่ะ”
“ไปหวังกับพี่ซูยองนู่น”
จินยองโบ้ยไปให้พี่สาวทันที
“ไม่”
“เฮ้ออออ
ทานข้าวต่อๆ”
จินยองหลังจากทานข้าวเสร็จก็ขอไปปั่นจักรยานรอบๆ
นี้ ร่างบางจูงจักรยานสีน้ำเงินออกมาปั่นเล่นยามค่ำคืนมีเพียงแสงไฟตรงไฟกริ่งที่พอจะเป็นแสงสว่างในการนำทาง
เพราะเป็นชนบททำให้คนแถวนี้จะนอนไวกันจินยองปั่นจักรยานตามทางไปเรื่อยๆ
จนมาหยุดที่ลำธารแห่งหนึ่งครั้งหนึ่งสมัยเป็นเด็กเขามักจะมานั่งเล่นที่นี่
จินยองจอดรถจักรยานไว้ตรงต้นไม้และเดินมาตรงลำธารเพื่อแช่ขาในตอนกลางคืนถ้ามีเบียร์เย็นมันก็คงจะดีเหมือนกัน
“อ๊ะ”
จู่ๆ
ก็มีกระป๋องน้ำอัดลมอยู่ข้างแก้มจินยองหันขวับไปหาคนที่ยื่นกระป๋องมาให้ก่อนจะเบิกตาด้วยความตกใจ
เมื่อพบเขาคนนั้นที่นี่ เด็กน้อยในวันนี้กลายเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อและฮ็อตมากๆ
“ฮยอนจิน
นายกลับมาจากอังกฤษเมื่อไหร่” ฮยอนจินทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
ร่างสูงยิ้มให้เป็นที่ประจำของพวกเขาทั้งสองคนตอนเป็นเด็กๆ
ที่มักจะแอบพากันมาเล่นที่นี่
จินยองเผลอมองใบหน้านั้นนานเพราะเด็กน้อยในวันนั้นกลายเป็นหนุ่มหล่อในวันนี้สงสัยสาวคงติดกันตรึม
“กลับมาอาทิตย์ที่แล้ว
ไปทำงานอยู่โซลเป็นไงมั่ง” ความจริงฮยอนจินอยากถามว่ามีแฟนหรือยังต่างหากเขาแอบชอบจินยองมาตั้งแต่มัธยมจนถึงตอนนี้ก็ยังชอบอยู่
เขาเคยบอกให้รู้แต่จินยองไม่ยอมรับเพราะตอนนั้นเขายังเด็กแต่ตอนนี้เขาโตแล้วสามารถดูแลคนตรงหน้าได้แล้ว
“ก็ดีนะ
ที่ทำงานก็บินไปต่างประเทศบ่อยๆ สนุกดี”
“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น...หมายถึงว่ามีแฟนหรือยัง”
ฮยอนจินจ้องนัยน์ตาหวานบอกความนัยที่แอบแฝงมาตลอดหลายปี
จินยองใช่ว่าจะไม่รู้ว่ารุ่นน้องตรงหน้านั้นคิดอะไรกับเขา
“อื่อ
ไม่มีหรอกเลิกกันไปนานแล้ว”
“งั้นหรอ
ถ้าผมจะบอกพี่ว่าผมยังชอบพี่อยู่”
“ดึกแล้วพี่ว่า
กลับกันเถอะ” จินยองแสร้งทำดูเวลาในมือถือเป็นเวลาเกือบสามทุ่ม
ร่างบางทำท่าที่จะลุกแต่ทว่ามือหนาของเด็กหนุ่มจับไว้พร้อมโน้มใบหน้าเข้ามาฉกริมฝีปากของตัวเองไป
จินยองทำหน้าตื่นพยายามที่จะผลักเด็กหนุ่มออกไปแต่ทว่าฮยอนจินล็อคใบหน้าเขาไว้
เขาค่อยๆ ถอนจูบออกช้าๆ
“ทำบ้าอะไรของนายวะ”
จินยองโกรธมากๆ
ร่างบางผลักอกคนตรงหน้าก่อนจะเดินไปเอาจักรยานโดยไม่สนใจอีกเขาโกรธ
จินยองนึกนี่ไม่ใช่ที่เขาถูกขโมยจูบครั้งแรกถึงจะเป็นคนละคนแต่กับอิมแจบอมเขาทั้งโกรธและเขินแต่กลับฮยอนจินเขากลับไม่มีความเขินใดๆ
ทั้งสิ้นคงเป็นเพราะว่าเห็นกันตั้งแต่เด็กๆ หรือเปล่า
‘ไอ่เด็กแก่แดดเอ๊ย’
จินยองสบถพลางใช่มืออีกข้างถูริมฝีปากตัวเองจนแดงเถือกไปหมด
ร่างบางปั่นจักรยานมาถึงบ้านก็นำรถไปจอดไว้ตรงโรงรถ
เมื่อเดินเข้าไปในบ้านมินคยองก็เอ่ยทักลูกชายที่เพิ่งกลับมาจนป่านนี้แต่จินยองรีบเดินเข้าไปในห้องตัวเอง
คนเป็นแม่ไม่เข้าใจอาการของลูกชายจึงไม่ได้ตามตอแยอะไรมากนัก
กะจะเรียกมาทานขนมแต่ไม่ทันลูกชายตัวดีก็หายเขาไปในห้อง
จินยองเดินเข้าไปในห้องนอนเขาไม่เข้าใจว่าทำไมฮยอนจินถึงเลือกที่ทำแบบนั้น
ตอนนี้กลายเป็นว่าเขารู้สึกตัวเองเริ่มมองหน้าน้องชายในวัยเด็กของเขาเองไม่เหมือนเดิมแล้วละ
จินยองฆ่าเวลาด้วยการเปิดเกมในมือถือเล่นจนกระทั่งเสียงวิดิโอคอลดังขึ้น
ชื่อที่ขึ้นเรียกหน้าจอทำให้จินยองคิดหนักว่าจะตัดสินใจรับหรือตัดสายดี
นี่ขนาดกลับบ้านยังไม่ถึงวันยังขนาดนี้ถ้าเป็นแฟนจะขนาดไหนวะ
แต่ถึงยังไงก็ไม่เป็นจะครองตัวโสดแบบนี้แหละ
จินยองตัดสินใจกดรับภาพหน้าจอขึ้นเป็นเด็กหญิงชุดนอนลายเจ้าหญิงกำลังยิ้มแฉ่งให้เขา
(หม่าม้า ถึงบ้านหรือยังคะ)
“ถึงแล้วครับ
น้องทำอะไรอยู่ครับ”
(กำลังเล่นกับฮียูอยู่ค่า)
เด็กน้อยชูแมวตัวเล็กสีเทาขนปุยโชว์หน้าเฟสทาม
เรียกรอยยิ้มให้กับจินยองเป็นอย่างมากถ้ามีลูกเขาก็อยากมีลูกสาวแบบเฮรา
ทำไมน่ารักแบบนี้ละลูก
“หรอครับ
แล้วเฮนากินข้าวกับอะไรวันนี้”
(คุณแม่บ้านกับคุณนมทำพาสต้ากุ้งชีสให้หนูทาน
อร๊อยอร่อย ไว้คุณม้ามาที่บ้านเฮนาจะให้คุณแม่บ้านทำให้ทานนะคะ)
กำลังจะคุยเพลินเสียงอิมแจบอมก็แทรกเข้ามาในหน้าจอ
(ไปนอนได้แล้วครับเด็กดี)
แต่มีเด็กน้อยงอแงไม่ยอมไปนอน
(งื้อคุณป๊าบอกหนูต้องนอนแล้ว
ฝันดีนะคะ) เด็กน้อยโบกมือภาพที่เห็นคือเด็กน้อยยื่นโทรศัพท์ให้ผู้เป็นพ่อ
ตอนนี้เป็นภาพเฟสทามน์ระหว่างเขาและอิมแจบอม ร่างสูงยกยิ้มตาเป็นขีดใส่หน้าจอ
“โทรมามีอะไรครับ”
(คิดถึงมั้ง
แต่นี่ไม่ใช่คอนโดคุณหรือเปล่า)
แสนรู้นัก
“ผมกลับบ้านน่ะ
มาพักผ่อน ผมง่วงแล้วอ่ะแค่นี้นะครับ” จินยองจะชิงวางแต่ร่างสูงตะโกนเข้ามาว่าไม่ยอมให้วาง
(คอลทิ้งไว้ไม่ได้หรอ..ผมอยากตื่นมาแล้วเจอคุณนะ)
“ไม่ต้องมายิ้มเจ้าเล่ห์เลย
ผมวางละนะ”
(ถ้าคุณวางผมหักเงินเดือนคุณ)
“นี่!!!”
จินยองแหวใส่ทันที
นี่เขาคิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะข่มเหงลูกน้องยังไงก็ได้หรอ เออ
ยอมก็ได้คอลทั้งคืนก็คอลจินยองหน้าง้ำงอวางโทรศัพท์ไว้บนหมอนอีกฟากแถมยังเอาหมอนใบเล็กๆ
ปิดหน้าจอเพราะหมั่นไส้อิมแจบอมล้วนๆ
ฉากคัทเปลี่ยนเด้อ...ไปอ่านได้
Twitter: Ggifift_96
ความคิดเห็น