ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END ทัณฑ์รัก ในเพลิงแค้น (BNIOR)

    ลำดับตอนที่ #2 : รีไรท์ : การแก้แค้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้น (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 64


          ตอนที่ ๑ 

    การแก้แค้นที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น


     


     

                  

                    พระพาย หรือปราณนต์ เด็กกำพร้าที่มีเพียงแค่พี่ชายฝาแฝด ซึ่งแฝดคนพี่คือ อาโป หรือธารธารา ทั้งสองคนใช้ชีวิตตามลำพังตั้งแต่พ่อและแม่ของพวกเขาทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนพวกเขาอายุเพียงแค่ 12 ปี ทำให้สองพี่น้องต้องอยู่กันตามลำพัง 

                โดยนิสัยของพวกเขาจะแตกต่างกันด้วยสิ้นเชิงพระพายเป็นเด็กน่ารัก เชื่อฟังว่าง่ายและมีแต่ผู้ใหญ่รักและเอ็นดู ส่วนแฝดคนพี่เป็นคนที่ทะเยอทะยาน เอาแต่ใจ ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยเงินประกันอุบัติเหตุจากพ่อกับแม่จนตอนนี้เงินค่อย ๆ หมดลงเพราะความฟุ่มเฟือยของพี่ชายฝาแฝดทำให้พระพายต้องออกไปหางานทำเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ตัวเอง 

                    พอทั้งคู่อายุได้ 18 ปี ได้รับทุนการศึกษาที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศโดยใช้ทุนเรียนดีและเรียนฟรีจนจบปีการศึกษาอีกด้วย

                    พระพายและอาโปเป็นฝ่าแฝดที่หน้าเหมือนกันก็จริง แต่บุคลิกจะแตกต่างกัน แฝดพี่มักจะมีคนรู้จักมากกว่าเนื่องจากเป็นคนดังและมีคนรู้จักมากหน้าหลายตา อาโปนั้นเป็นถึงเดือนคณะบริหารธุรกิจ ส่วนเขาก็แค่พระพายคนเฉิ่มกับแว่นหนาเตอะไม่มีอะไรโดดเด่นเท่าอาโปเลยสักนิด

                             พระพายในชุดนักศึกษาถูกระเบียบกำลังเดินขึ้นไปเรียนวิชาศึกษาทั่วไปโดยมีเพื่อนสนิทอย่างตรัยภูมิ ที่เขาแอบชอบมาตั้งปีหนึ่งจนถึงตอนนี้มาเรียนเป็นเพื่อน แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะตรัยคบกับพี่ชายฝาแฝดของเขา

              ”พระพายจ๋า อาโปไปไหน ทำไมพี่ชายนายไม่มาเรียน” ตรัยภูมิถามเพื่อนสนิทอย่างเขา

              ”พี่โป เอ่อ ไม่สบายหน่ะ” พระพายโกหก

              พระพายรู้มาตลอดว่าอาโปไม่ได้มีเพียงไตรภูมิเพียงคนเดียว พี่ชายของเขานอกใจมาตลอดมีเพียงแค่เขาที่รับรู้เพราะอาโปชอบพามาค้างที่บ้านไม่ซ้ำหน้า แม้เตือนเท่าไหร่อาโปยิ่งด่าทอว่าเขาที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง

              ”งั้นวันนี้ตรัยก็นั่งเรียนกับพระพายนะสิ งั้นขึ้นเรียนกันเถอะ” ตรัยพูดเสร็จก็เอาแขนหนาคล้องคอลากเพื่อนตัวเล็กของเขาปลิวเข้าไปในห้องที่เรียน

                 ในช่วงหลังจากเลิกเรียนพระพายก็ไปทำงานพิเศษที่ร้านอาหารของป้าที่รู้จัก เป็นร้านอาหารต่างชาติซึ่งเขาเอ็นดูพระพายเหมือนเป็นลูกเป็นหลานอีกคน เมื่อถึงร้านพระพายตรงดิ่งไปทางด้านหลังเพื่อเตรียมเปลี่ยนชุดพนักงานเสิร์ฟ มาทำหน้าที่ของตัวเอง

                    ระหว่างที่พระพายกำลังเช็ดจานก็มีรุ่นพี่ที่ทำงานเดินมากระซิบข้างๆ

                    “วันนี้ลูกค้าคนเดิมมาอีกแล้วนะคะน้องพระพาย” เพื่อนที่ทำงานสะกิดแล้วชี้ไปที่ร่างของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งมักจะมาทานอาหารที่นี่เกือบทุกเย็นเลยก็ว่าได้

                    พระพายไม่ได้สนใจนัก เขาทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จก็เดินไปเสิร์ฟอาหารให้โต๊ะอื่นๆ ต่อ

            เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงกว่าจะเก็บร้านเสร็จ ร่างเล็กดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือก็ชี้เลขหนึ่ง เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าเนื่องจากวันนี้มีการเลี้ยงรองรับลูกค้าทำให้พระพายต้องคอยดูแลแทน ซึ่งเป็นนักธุรกิจจากอเมริกา มาร์ค ธนาคินทร์ ธรรมาอภิรักษ์ ซึ่งมักจะมาประชุมที่ร้านบ่อยๆไม่รู้ติดใจในรสชาติอาหารหรือติดใจเด็กเสิร์ฟอย่างพระพายกันแน่ 

                    พอทำความสะอาดอะไรเรียบร้อยพระพายที่กำลังเตรียมตัวจะกลับบ้านร่างสูงของมาร์คเดินมาขวางไว้ พระพายแอบตกใจนิดหน่อย ก่อนจะชวนเขากลับด้วยเนื่องจากเป็นเวลาที่ดึกพอสมควร มาร์คกลัวว่าเด็กหนุ่มจะเป็นอันตราย

                 ”พระพายครับ กลับกับพี่เถอะ มันดึกแล้ว พี่เป็นห่วง” ร่างสูงยิ้มรอยยิ้มโชว์เขี้ยวเล็กๆของมาร์คที่มักจะยิ้มแบบอบอุ่นให้พระพายเสมอ

                ”ไม่เป็นไรครับคุณมาร์ค เดี๋ยวพระพายกลับเอง” พระพายปฏิเสธเพราะเกรงใจ เพราะมากคือลูกค้าจะกลับด้วยก็แปลกๆ แต่พอมาร์คทำหน้าเหมือนงอนเขา พระพายจึงยอมที่จะกลับด้วย 

                     “กลับด้วยก็ได้ครับ”

    ร่างสูงยิ้มดีใจอย่างปิดไม่มิด

                        รถคันหรูขับเข้ามายังหมู่บ้านจัดสรรก่อนจะลัดเลาะไปตามตรอกซอยจนมาหยุดที่หน้าประตูรั้วสีฟ้าสีสดใส พระพายยกมือไหว้ขอบคุณที่มาส่งตนเอง

                        ”ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” พระพายแต้มยิ้มให้กับมาร์ค

                        "ครับ ฝันดีนะครับ" มาร์คบอกลาพระพายด้วยสีหน้าที่ปิดไม่มิดว่าตนรู้สึกดีกับร่างเล็กกับตรงหน้าแค่ไหน

                        หลังจากที่รถคันหรูขับออกจากรั้วไป พระพายเดินเข้าไปในบ้านเห็นพี่ชายฝาแฝดของตนกำลังจูบนัวกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น

    บัดสี บัดเถลิงที่สุด

                        พระพายสุดจะทนเบี่ยงหน้าไปทางอื่นตรงเพื่อขึ้นบันไดเพื่อกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง แต่อาโปที่สังเกตว่าน้องกลับมาแล้ว จึงผละออกจากชายหนุ่มแปลกหน้าที่ตนหิ้วมาจากผับ 

                 “ขอขึ้นไปข้างบนแป๊บหนึ่งนะครับ คุณรอแป๊บหนึ่งนะ”

                
    อาโปเดินกรีดกรายขึ้นมาบนชั้นสองเพื่อหวังจะมา

                   ”ไม่ยักจะรู้ว่ามีรถหรูมาส่งแกด้วย พระพาย อ้อ ฉันมีความดีสำหรับแกมาบอกฉันเลิกกับตรัยภูมิแล้วนะ ฉันรู้ว่าแกน่ะชอบตรัย เอาเป็นว่าฉันยกให้แกก็แล้วกัน” อาโปแสยะยิ้มให้กับน้องชายของตน 

                    เขาไม่ชอบน้องชายตัวเองที่มีแต่คนเอ็นดู รักแต่น้องชายของเขา ตอนแรกที่เขาเข้าหาตรัยภูมิเพราะว่าพระพายมันชอบยังไงหละ การที่แย่งของน้องมามันทำให้เขามีความสุข ตอนแรกเหมือนตรัยก็มีความรู้สึกให้กับพระพายแต่เพราะเขาอ่อยให้นิดหน่อยก็หลงเขาจนหัวปักหัวปำ

     โง่..

                   ”พี่รู้...” พี่ก็ยังทำร้ายจิตใจของเขา

                   ”รู้สิ แกมันน้องฉันนี่ ฝากดูแลของเหลือเดนจากฉันด้วยแล้วกัน” อาโปพูดจาแสนร้ายกาจให้กับน้องชายฝาแฝดที่เขาเกลียดแสนเกลียด

                   พระพายหลังจากที่รู้ว่าพี่ชายฝาแฝดของตนหักอกคนอย่างตรัยภูมิ เขากระหน่ำโทรหาร่างสูงด้วยความเป็นห่วงแต่ไม่มีคนรับสาย พระพายรู้สึกเป็นห่วงอย่างมากเป็นเวลา 1 อาทิตย์ที่ตรัยภูมิหายไป จนสอบวันสุดท้ายก็ไร้เงาเพื่อนสนิทของตน  หลังจากสอบเสร็จพระพายจึงโทรไปลางานและนั่งแท็กซี่มาหาเพื่อนที่หอพัก 

                     เขาเคาะประตูหลายครั้งแต่ไร้เสียงตอบรับจากคนในห้อง พระพายรู้สึกใจสั่นแปลกๆ เขาพยายามกดโทรศัพท์หาตรัยภูมิตอนนี้ขึ้นเป็นฝากข้อความ  

    หายไปไหนกันแน่ 

    ทำไมไม่รับโทรศัพท์ของเขาเลย

                    พระพายเคาะประตูจนถอดใจ ร่างเล็กเดินออกจากหอพักไปโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสายตาหนึ่งมองด้วยความเกลียดชังอยู่ไกลๆ    

                   ติณฑ์หลังจากที่จัดงานศพของน้องชายเสร็จสิ้นเขาก็มาเตรียมเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของน้องชายที่หอพักซอมซ่อ แต่เหมือนเป็นโชคดีของเขาที่พบกับตัวปัญหาที่ทำให้น้องชายของเขาคิดสั้น ร่างสูงมองดูผู้ชายตัวเล็กที่เคาะประตูห้องน้องชายของตน

                   ”ถึงเวลาที่กูจะเอาคืนแทนน้องชายแล้วนะ มึงจะได้รู้รสของความทรมานเจียนตาย" สายตาที่เคียดแค้นส่งผ่านมายังร่างบาง แวบแรกที่ติณฑ์เห็นหน้าร่างบางยอมรับว่าชอบ น้องเขาก็คงหลงมันด้วยเช่นกันไม่งั้นคงไม่ฆ่าตัวตาย ร่างสูงยิ้มเหยียดเมื่อร่างเล็กเดินผ่านตนเองไป ติณฑ์ตัดสินใจเลื่อนการเก็บของไปและเข้าไปยังบริษัท 

                   ”ลมอะไรหอบมึงมาถึงที่นี่” จุลจักรเอ่ยถามเพื่อนของตนที่ร้อยวันพันปีที่มันจะมาบริษัทเขาทีหนึ่งส่วนมากจะคุยกันทางโทรศัพท์หรือนัดเจอกันมากกว่า

                   ”กูขอให้มึงช่วยสืบคนนี้ให้กูหน่อย" ร่างสูงหยิบรูปออกจากกระเป๋ากางเกงและยื่นให้กับเพื่อน

                   ”สวยวะ เดี๋ยวกูจัดการให้ว่าแต่ใครวะ? "

                   ”คนที่ทำให้น้องชายกูตาย...” จุลจักรถึงกับหุบปากตัวเองทันที เขาจะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูและโทรไปคุยอะไรสักอย่างกับคนของตัวเองและได้ข้อมูลกลับมาภายในไม่กี่ชั่วโมง 

                   ภาพที่ส่งมาล้วนเป็นภาพที่ผู้ชายหน้าหวานในรูปควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ติณฑ์รู้สึกโกรธและเกลียดผู้ชายในรูปคนนี้ไม่น้อย แปลว่าที่ผ่านมาผู้ชายคนนี้ไม่เคยซื่อสัตย์ต่อน้องชายเขาเลยสักนิด แววตาของเขาวาวโรจน์ที่บ่งบอกว่าอยากฆ่า ถ้ามันอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ เขาคงไม่รีรอ บีบคอแล้วทำให้มันตายตามน้องชายของเขาไปให้สาสม

                        ”กูกลับก่อนนะ ขอบคุณมึงมาก” ร่างสูงเดินออกจากห้องของเพื่อนไปที่รถ 

                    ตอนนี้การแก้แค้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ร่างสูงกดโทรศัพท์หาคนที่เกาะส่วนตัวของตัวเองให้จัดเตรียมสถานที่ที่เป็นนรกให้กับมัน...

     

                        พระพายกลับมาถึงบ้านหลังจากที่กลับมาจากหอพักของตรัยภูมิ เห็นพี่ชายฝาแฝดของตนถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่กำลังจะไปที่ไหนสักที่ ในมือนั้นถือพาสปอร์ตแน่น ร่างเล็กรีบเดินไปหาพี่ชายของตนพร้อมแย่งกระเป๋าในมือกระชากกันไปมาพระพายไม่ยอมให้พี่ชายเอาสมุดบัญชีไป

    ถ้าจะไปก็ต้องไปตัวเปล่า

                        ”จะไปไหน พี่โปจะไปไหน” พระพายถามพี่ชายของตน          

                        ”ไปให้พ้นจากที่นี่ยังไงล่ะ" อาโปถือกระเป๋าแน่น พระพายยื้อแย่งจนกระเป๋าพบกับสมุดบัญชีตกลงมา เป็นบัญชีเงินก้อนสุดท้ายประกันอุบัติเหตุของพ่อกับแม่เขา

                        ”จะเอาเงินก้อนสุดท้ายของเราไปไหนพี่โป ไม่เอานะ” พระพายแย่งสมุดบัญชีพี่ชายก่อนจะโดนผลักจนตัวเองไปกระแทกกับโต๊ะกินข้าว อาโปเดินถือกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านไปทันที เงินที่เขาจะใช้ไว้จ่ายยามจำเป็นจนตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ร่างเล็กรู้สึกสงสารโชคชะตาเส็งเครงของตัวเอง

                        ”ฮึก ฮือ " ร่างเล็กกอดเข่าร้องไห้

                             ร่างเล็กสะบัดจากน้องชายหลุดก็มุ่งไปยังสนามบินทันที อาโปตัดสินใจไปใช้ชีวิตใหม่กับคนใหม่และทิ้งน้องชายฝาแฝดกับแฟนน่าโง่เอาไว้ข้างหลังด้วยความเห็นแก่ตัว

                        เป็นเวลาเกือบ 3 วันที่เขาไม่สามารถติดต่ออาโปได้ ร่างบางรู้สึกเป็นห่วงแต่ทำอะไรไม่ได้แม้กระทั่งเขาก็ยังติดต่อตรัยภูมิไม่ได้   พระพายไปทำงานที่ร้านอาหารเหมือนเดิมแต่วันนี้ป้าที่ร้านขอตนเองไปซื้อของมาให้โดนให้ที่อยู่ของร้านมาให้โดยพระพายนั่งแท็กซี่เพื่อไปซื้อ

                     ”ไปที่นี่ครับ” ร่างบางยืนเศษกระดาษที่อยู่ร้านให้กับคนขับแท็กซี่

                    “ครับ”

                             ติณฑ์สวมรอยเป็นคนขับแท็กซี่ เขาขยับหมวกที่บังใบหน้าและสวมผ้าปิดปาก ร่างสูงเหยียบคันเร่งเพื่อเดินทาง...ไปสู่นรกของจริง

                     ติณฑ์เร่งแอร์ก่อนจะนำขวดยามาจ่อตรงใต้แอร์ สักพักร่างบางในรถก็ผล็อยหลับไป เขานำรถแท็กซี่มาสลับกับรถตัวเองก่อนจะออกเดินทางไปยังทะเลใต้ซึ่งเป็นเกาะของเขาเอง

                    ร่างสูงจ้องไปที่ร่างบางที่เขาอุ้มมาไว้ที่เบาะและมัดมือมัดเท้าไว้ กว่าจะฟื้นก็คงถึงเกาะนรกของเขาแล้ว ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มอันแสนน่ากลัว....

    ถึงเวลาลงนรกแล้ว

    อาโป.


     


     


     

                                  


     


     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×