คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทเริ่มต้น : นี่มันแค่เริ่มต้น
ผมเดินขึ้นโรงพักเป็นครั้งที่สามในรอบสี่วัน
“มาประกันตัวครับ” ผมเอ่ยหลังเดินเข้ามาถึงเคาท์เตอร์ที่มีคุณตำรวจนั่งอยู่สองถึงสามคน
“ชื่ออะไร?” คุณตำรวจถามหลังจากเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม
ก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆ
“แม่งเอ้ย ปล่อยกูสิวะ กูบอกว่ากูไม่ได้ทำอะไรผิดไง”
“มาประกันตัวคนนี้หรอ?” คุณตำรวจถามซ้ำอีกครั้ง ผมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้
“หลายคดีเกินไปแล้วนะ อายุเท่านี้เอง เป็นพี่ชายเขาเหรอ” คุณตำรวจบ่นเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้วเชิงคำถาม “ชื่อคุ้นๆนะ
จางฮยอนซึง เหมือนเมื่อสองสามวันนี้ก็เห็นชื่อนี้ ใช่มั้ย?”
ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่ส่งยิ้มเบาๆกลับไป คิดว่าผมอยากมาหรอที่นี่อะ ไม่ได้น่าพิสมัยเลย
“งั้นจ่า ไปปล่อยตัวนายยงจุนฮยองมา” คุณตำรวจหน้าเคาท์เตอร์สั่งผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
ตำรวจคนนั้นยิ้มรับก่อนจะเดินไปที่ห้องขังและหยิบกุญแจพวงใหญ่ออกมาไข
“แม่ง กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้ทำ จับกูมาทำเหี้-ไรเนี่ย”
เสียงไอ้ตัวดีโวยวายมาแต่ไกล
“เลิกปากเก่งสักทีเหอะนาย” จ่าคนที่ไปปล่อยตะโกนปรามตามหลังก่อนจะเดินมาขนาบข้าง
“หวังว่าพรุ่งนี้ฉันคงไม่เจอนายนะ”
“ถ้าไม่อยากเจอกูก็อย่าจับมั่วซั่วสิวะ” ยังคงอารมณ์เสียไม่เลิก
ป้าบ
“โอ๊ยแม่ง ตีทำไม” เด็กปากดีหันมาตะโกนใส่ผมด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดทันทีที่ฝ่ามือผมกระทบแขนของเขา
“ยังจะมาเสียงดังอีก
ไปได้แล้ว กลับบ้าน นายนี่มันน่ารำคาญจริงๆเลยนะ”
ผมต่อว่าเสียงดุแล้วลากแขนเสื้อเจ้าเด็กนักเรียนที่เอาแต่สร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้นไปขึ้นรถกลับบ้าน
ระหว่างทางเดินมารถก็ได้เดินนิ่งๆให้จับให้จูงหรอกนะ
เอาแต่ดิ้น เหมือนโมโหอะไรใครมา จริงๆแล้วคนที่เขาโมโหอาจจะเป็นผมก็ได้นะ
ใครจะไปรู้
โมโหเรื่องอะไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มองหน้าแล้วรู้สึกเหมือนพายุจะลง น่ากลัวชิ*หาย อายุ18จริงเหรอวะ ทำไมสายตาดุขนาดนี้
“ปล่อยผมนะเว้ย
สร้างปัญหาก็ไม่ต้องมายุ่งดิ มาประกันตัวทำไม” คนอารมณ์เสียเหมือนหมาบ้าสะบัดแขนออกจากการจับกุมของผม
แล้วยืนจ้องหน้านิ่งๆเหมือนเก็บงำความไม่พอใจเอาไว้
“นายอย่ามาทำตัวเหมือนหมาบ้านะจุนฮยอง
พี่ไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะ” ผมหันมาประจันหน้ากับตรงๆ
บอกเลยตอนนี้ผมก็เริ่มจะอารมณ์เสียเหมือนกัน แม่งมันไม่ตลกเลยนะ เสียเวลามาประกันตัวแล้วยังจะมางี่เง่าทำตัวแบบนี้อีก คิดว่านี่ตลกป่ะเนี่ย
“เออ
พี่แม่งก็ไม่ว่างตลอดแหละ ไม่มีใครเคยว่างพอจะมีเวลาให้ผมทั้งนั้น”
จุนฮยองทำเสียงประชดแล้วกำมือแน่นก่อนจะหันหลังให้ผม
ก่อนจะหันหลังไปผมเห็นแววตานั่น มันสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด ปกติไม่บ่อยหรอก ที่จุนฮยองจะแสดงอาการอ่อนไหวแบบนี้น่ะ
ก็จริงอย่างที่น้องว่านะ
ไม่มีใครมีเวลาให้น้องจริงๆ ทั้งพ่อ แล้วก็แม่ หรือแม้แต่ปู่ย่าตายายที่ควรจะว่างมานั่งอยู่บ้านให้ลูกหลานเลี้ยง
ยังไม่ว่างเลย มีแต่บ้านผมนี่แหละ ที่แม่เขาฝากให้เป็นธุระดูแลลูกชายเขาให้หน่อย
เห็นว่าจะไปสร้างบริษัทธุรกิจพันล้านหมื่นล้านในสิบประเทศบ้าบออะไรก็ไม่รู้
นี่มันจะบ้าเงินมากเกินไปแล้วนะ
“ขึ้นรถ” ผมตัดบททะเลาะระหว่างเราสองคนสั้นๆแล้วจับไหล่จุนฮยองให้หันมา ตอนแรกไอ้แสบก็ขืนตัวไว้ จนผมต้องดึงแขนเขาด้วยมือทั้งสองข้าง เขาถึงยอมหันมา
“อย่าเอาแต่ใจแบบนี้สิ”
ผมเอ่ยเบาๆแล้วใช้มือเล็กๆของผมคลายมือที่กำของเขาออก พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูก
ผมจะหะวร้อนตามน้องไม่ได้ เพราะมันจะยิ่งร้อนไปกันใหญ่ เอาจริงๆ ผมเคยเกือบดดนเขาต่อยด้วยนะ
ตอนนั้นประมาณสองปีที่แล้วมั้ง
“.....”
เจ้าตัวยุ่งยังคงไม่ตอบอะไร ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ได้แต่ยืนนิ่งๆอย่างนั้น
มองหน้าสบตาก็ไม่ได้ กลัว น่ากลัวมาก น่ากลัวกว่าพ่อผมอีกแน่ะ
“กลับบ้านมั้ย
ยังไง” ผมเอ่ยถามอีกครั้ง จุนฮยองที่ดูเหมือนจะอ่อนลงแล้ว
พยักหน้าหงึกหงักสองสามทีแล้วเปิดประตูรถขึ้นนั่งเงียบๆ โอเค...เหมือนจะปกติจริงๆแล้วไม่ปกติ
ดูก็รู้ ปกติจะนั่งข้างหน้าคอยมองทางมองถนนแล้วก็นั่งด่าพวกขับรถแย่ๆ
นี่กลับไปนั่งข้างหลังกอดเอพีชแน่นจนดูเป็นเด็กมุ้งมิ้ง
ต่างกับความจริงที่เราเพิ่งเดินออกมาจากสถานีตำรวจโดยสิ้นเชิง แต่เอาเถอะ
ยอมขึ้นมาด้วยขนาดนี้เดี๋ยวก็โอเคแล้วมั้ง
♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠♥♦♣♠
ฮาโหลววววววววววววววว เลามาแย้วววว ทำไมมีสองเม้นแค่ไม่มีใครเฟบเลยล่ะ เสียจายยยยยยยย จริงๆมันอาจจะดูเป็นเรือผีที่มีแต่คนเทนะ แต่เราไม่เทอ่ะ จะมีใครไปกะเลามะ โดดเดี่ยวละเกิลลล ฮึก
ตอนหน้าจะมาในเร็ววัน ถ้ามีลูกเรือมาเพิ่มนะ
ถ้าไม่มีลูกเรือนิยายเรื่องนี้ก็มีแม่งแค่ตอนเดียวนี่แหละ พอละ เหนื่อย 5555555555555555555
Facebook : teamthej.
twitter : iamamperage
ความคิดเห็น