ตอนที่ 2 : ไดอารี่บทที่ 1: เด็กชายผู้ถูกทอดทิ้ง [100%]
"เสียใจด้วยนะครับ เด็กคนนี้ไม่มีอัตลักษณ์"
เป็นคำพูดที่เสียบแทงเข้ามาทะลุถึงหัวใจของมิโดริยะ อิซึคุ วันที่เขาอายุครบสี่ขวบแม่พาเขามาตรวจอัตลักษณ์แต่ว่าคำตอบที่ได้กลับมานั้นทำให้ดวงหน้าของเด็กน้อยซีดลง ความฝันที่อยากจะเป็นฮีโร่ที่คอยช่วยเหลือผู้คนด้วยรอยยิ้มอย่างออลไมค์ต้องพังลง
แม่ของเขาเอาแต่พร่ำบอกขอโทษซ้ำไปซ้ำมา หยาดน้ำตาของแม่ที่เสียมาให้เขา มิโดริยะไม่อยากเห็นมันเลย คงเป็นเพราะเขาที่ทำให้แม่ร้องไห้
'ไม่ใช่ความผิดของแม่หรอกครับ ผมเองต่างหากที่ผิดเอง...ผิดที่เกิดมาไร้อัตลักษณ์แบบนี้'
.
.
.
.
.
.
.
เวลาล่วงเลยมาหลายปีมิโดริยะยังคงไม่เคยคิดที่จะล้มเลิกความฝัน เพราะไม่มีเหมือนคนอื่นเขาเลยต้องพยายามมากกว่าคนอื่น ถึงแม้จะถูกเเบ่งแยกหรือเหยียดหยามเขาก็ไม่สน
"วันนี้เราจะมาเรียนทฤษฎีของแรงกันนะ" อาจารย์เริ่มขีดเขียนบนกระดานดำไปมา มิโดริยะจดตามอย่างตั้งใจ วันนี้คงเป็นอีกวันที่ต้องเผชิญ
หลังเลิกคาบเรียนภาคเช้าพักเที่ยงก็มาถึง มิโดริยะปรายตามองเพื่อนร่วมชั้นที่ทยอยกันเดินออกไปนอกห้อง สายตาสะดุดกับคนผมสีฟางที่ชี้ฟูดูยุ่งเหยิง
"คัตจัง...." เสียงแผ่วเบาลอดผ่านริมฝีปากของเด็กหนุ่ม นานแค่ไหนแล้วที่เขายังคอยเฝ้ามองและเดินตามหลังคัตสึกิเสมอแม้ว่าเขาจะไม่หันมามองก็ตาม รอยยิ้มแห้งๆปรากฎบนใบหน้าของคนผมเขียวยุ่งเหยิง
ไม่ว่าจะพยายามเดินตามเท่าไหร่ คัตจังก็ไม่เคยหันหลังมามองเค้าเลย
------------
มิโดริยะเหม่อมองคนผมสีฟางด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งชื่นชม และหวาดกลัวเช่นกัน วันนี้ก็คงเป็นอีกวันที่คนไร้ค่าอย่างเค้าต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไป
"เห้ย! ไอ้ไร้ค่าแกพอจะมีเงินให้ฉันยืมป่าววะ" คำพูดหยาบคายจากปากเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนที่ล้อมมิโดริยะอยู่ทำให้เขาพลันหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อนที่จะค่อยๆปรายตามองพวกเขา
"เอ่อ..ค..คือ..ม..ไม่มีครับ" เสียงเบาๆ แต่หวาดหวั่น มิโดริยะตัวสั่นวันนี้เขาจะโดนอะไรอีกกันแน่ เพราะมิโดริยะไม่ค่อยจะสู้คนเท่าไรนัก จึงตกเป็นเป้าของการโดนแกล้งเสมอมาครั้งนี้เองก็เช่นกัน ไม่มีใครสนใจอะไรเลยทุกคนต่างเดินออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อย่ามาแหล! เห้ยเอากระเป๋ามันมาดิ๊!!" กระเป๋าเป้สีเหลืองใบโตถูกกระชากออกมาจากเจ้าของ มิโดริยะเสียหลักล้มลงบนพื้นก่อนที่ ของในกระเป๋าจะถูกเททิ้งลงมาอย่างไม่ใยดี
"ในนี้ไม่มี งั้นค้นตัวมันต่อเลยจับ ไว้!"
"อ...อย่านะ...ผมขอล่ะ!!"กระเป๋าสตางค์ใบหนึ่งถูกดึงออกมาจากเสื้อ มิโดริยะหน้าซีด นั่นมันค่าอาหารกลางวันของเขาถ้าไม่มีเขาก็ไม่ได้กินข้าวนะสิ อีกอย่างนั่นมันเงินที่คุณแม่อุตส่าเหนื่อยยากหามันมาให้เขานะ
"น้อยชิบ นี่มันพอแค่ค่าข้าวตอนเที่ยงนี่ แต่ยังไงฉันก็ขอรับไว้ก่อนนะ ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะของทั้งสองดังระงม มิโดริยะนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนพื้น นี่เขาทำอะไรไม่ได้จริงๆหรอ?
คำเยาะเย้ยถากถางมากมายออกมาจากเพื่อนร่วมชั้นทั้งสองคน มิโดริยะได้แต่ก้มหัวยอมรับคำถากถางเหล่านั้น
"นี่ๆ ฉันจะบอกวิธีหาเงินดีๆให้แม่แกนะ ลองให้แม่แกไปขายตัวดูสิเผื่อจะมีเงินให้แกมาโรงเรียนมากกว่านี้ ฮ่าๆๆๆ" มิโดริยะเลือดขึ้นหน้ากับคำพูดที่ดูถูกแม่ของเขา เขายอมโดนดูถูกโดนกระทำอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่แม่ของเขา!!
ผัวะ!
หมัดหลุนๆของมิโดริยะชกเข้ากลางใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างจัง
"นี่แกทำบ้าอะไรของแกห๊ะ!" อีกฝ่ายโมโหจัดก่อนที่จะให้เพื่อนอีกคนล็อคตัวมิโดริยะไว้
ผัวะ!
"แกกล้าดียังไงถึงมาต่อยฉัน หึย! เวรเอ้ย!"
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!!
เขาชกมาที่มิโดริยะอย่างไม่ยั้งมือและมีท่าทีว่าจะไม่เลิกราง่ายๆ
"อ่อก!!" มิโดริยะสำลักออกมาก่อนที่จะโดนต่อยไม่ยั้งอีกครั้ง
'เจ็บมันเจ็บเหลือเกิน พอสักทีเถอะไม่เอาแล้ว'
มิโดริยะได้แต่กู่ร้องในใจ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคนผมสีฟางที่เดินผ่านมา สายตาของเขาเหลือบมองมิโดริยะก่อนที่จะเดินจากไปราวกับว่าไม่มีอะไร
ทำไมกันนะ? ทำไมต้องเป็นเขาที่ต้องต้องมาเจออะไรแบบนี้? พอเถอะ พอสักที!!!
เเรงดันอากาศมหาศาลพุ่งเข้าใส่เพื่อนร่วมห้องทั้งสองที่กำลังซ้อมมิโดริยะอยู่เขาอย่างจังจนกระอักก้อนเลือดคำโตออกมา มิโดริยะเบิกตากว้างนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาทรุดลงกับพื้นอย่างสั่นเทา นี่เขาทำอะไรลงไปกันแน่?
-------------
"นี่! เป็นอะไรกัน?!" สีหน้าของเด็กหนุ่มซีดลง มือเอื้อมไปหวังจะเขย่าพวกเขาให้ได้สติ แต่กลับกลายเป็นเพียงปลายนิ้วสัมผัสเพื่อนร่วมชั้นทั้งสองก็หายไปต่อหน้าต่อตาทันที
"กรี๊ดด!!" มิโดริยะหน้าซีดลงกว่าเดิมเมื่อเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆเริ่มทยอยกลับมา คนที่เห็นเหตุการณ์ก็เริ่มวิ่งไปบอกอาจารย์
เมื่ออาจารย์ที่ทราบเรื่องนี้ ก็รีบมาที่ห้องทันที และพบกลุ่มคนที่กำลังมุงดูอยู่หน้าห้องอย่างมากมาย
"เห้ย! อาจารย์มาแล้วหลีกทางสิ" เมื่อแหวกฝูงชนเข้าไปก็พบเพียงมิโดริยะที่นั่งหน้าซีดอยู่บนพื้น
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?" ทุกคนต่างโพล่งคำถามมากมายใส่มิโดริยะ
"ม..มิโดริยะ! มันทำให้ชุนตะ กับอิจิหายไป!! ป..ปีศาจ!!!" เด็กสาวผู้เห็นเหตุการณ์เริ่มเล่าอย่างหวาดผวาราวกับกังวลว่ามิโดริยะจะเข้ามาทำกับตนแบบเดียวกับที่ทำกับเพื่อนของเธอ
"ผ..ผม..มะได้ทำนะ..." เสียงเบาๆลอดผ่านริมฝีปากอันสั่นเทาของมิโดริยะ เขาสับสน นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น? ไม่เข้าใจสับสนไปหมด
"จะยังไงก็ช่าง มิโดริยะเธอต้องมาพบครูเดี๋ยวนี้" คำขาดจากปากอาจารย์เริ่มทำให้มิโดริยะหวั่นใจแต่ก็เดินตามไปแต่โดยดี เมื่อมาถึงที่หมายอาจารย์ก็ให้มิโดริยะนั่งรอ ก่อนที่จะกดโทรศัพท์เรียกผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายมา
ไม่นานนักผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายก็มาถึง ทั้งพ่อแม่ของชุนตะและอิจิ และมิโดริยะ อินโกะ แม่ของมิโดริยะด้วยเช่นกัน
"แก!! แกทำอะไรลูกฉัน!!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของอีกฝ่ายทำให้มิโดริยะตัวงอ ทั้งๆที่พึ่งทำแผลมาแท้ๆ ใบหน้าของมิโดริยะแทบมองไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะมันเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด แม่ที่เห็นสภาพของเขาที่หน้าเต็มไปด้วยผ้าก๊อชทำแผลแบบนั้น ยิ่งทำให้มิโดริยะกลัวมากยิ่งขึ้น
เมื่อพูดทำความเข้าใจหรือจะเรียกว่าทะเลาะวิวาทดี? เพราะอีกฝ่ายเอาแต่ต่อว่าแม่ของเขา ชักอยากทำให้พวกมันหายไปสะแล้วสิ แต่ก็กลัว กลัวว่าแม่จะรังเกียจเขา ข้อตกลงคือให้มิโดริยะทำให้ลูกๆของพวกเขากลับมาให้ได้ไม่งั้นพวก้ขาจะแจ้งจับมิโดริยะ
"ออกมาเถอะนะ!" มิโดริยะพยายามทำให้พวกเขาออกมาสักเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"นี่แก!! รีบๆเอาลูกฉันคืนมาได้แล้ว!" ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังจะตบแม่ของเขา มิโดริยะทนไม่ไหวจนเผลอจ้องพวกเขาเขม้งด้วยความรู้สึกที่อยากเอาคืนอยู่เต็มอก
วูบ!
แรงดันอากาศมหาศาลพุ่งเข้าใส่ท้องอีกฝ่ายอย่างจัง เป็นอีกครั้งที่มิโดริยะทำเรื่องแบบนี้โดยไม่รู้ตัวอีกครั้งคราวนี้ดูไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ จึงทำให้แค่อีกฝ่ายล้มลงอย่างแรงเท่านั้น
"นี่แก!!"
"มิโดริยะ! หยุดนะ!" อาจารย์เข้ามาจับตัวมิโดริยะไว้ก่อนที่เขาจะได้ลงมือทำอะไรไปมากกว่านี้
"นี่อิซึคุ..ลูกอย่างให้เขากลับมาจริงๆใช่มั้ย?" แม่ของเขาถามพลางเข้ามากอดมิโดริยะไว้
"ผ...ผม..."
"ไม่เป็นไร...ลูกพูดมันออกมาให้แม่ฟังเถอะ"
"ม...ไม่!!! ผมไม่อยากให้พวกมันกลับมา! มันดูถูกแม่!!" มิโดริยะส่งเสียงร้องออกมาพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด
-------------
มิโดริยะเขากำลังสับสน ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดีอย่างน้อยแม่ของเขาก็คอยปลอบเขาอยู่ข้างๆ ทำให้ความกดดันในตัวมิโดริยะลดน้อยลงมากกว่าเดิม เขาคิดว่าทั้งสองคนนั้นก็เคยเป็นเพื่อนของเขามาก่อนอย่างน้อยเขาก็ควรตอบแทนช่วงเวลาสั้นๆที่เราเคยเป็นเพื่อนกัน มิโดริยะคิดได้ดังนั้นจิตใจของเขาก็สงบลง พลางตั้งสามธิเรียกพวกเขากลับมา
วูบ!
ฉับพลันร่างของเพื่อนร่วมชั้นทั้งสองก็ปรากฎตัวออกมา พ่อแม่ของพวกเขารีบโผเข้ากอดลูกของตัวเองแน่นราวกับว่าพวกเขาจะหายไปจากอ้อมอกอีก หลังจบเรื่องราวทั้งหมดทั้งสองคนก็ไม่เคยเข้ามาใกล้มิโดริยะอีกเลยรวมถึงคนอื่นๆด้วย พอคาบบ่ายเริ่มเรียนอาจารย์ก็แจกใบสอบถามว่าจะเรียนไหนต่อ มิโดริยะลังเล เขาไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรดี? ระหว่างความฝันครั้งวัยเยาว์ และความเป็นจริงที่ตอกย้ำ
เมื่อเขียนเสร็จแล้วทุกคนก็ส่งให้อาจารย์ มิโดริยะเข้าสู่ห้วงภวังค์อย่างสมบูรณ์ ประสาทสัมผัสทั้งห้าราวกับถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ นัยน์ตาสีมรกตเริ่มฉายแววว่างเปล่า ราวกับร่างกายร่วงหล่นลงมาจากขอบหุบเหว สัมผัสความว่างเปล่าแล่นวาบไปทั่วร่างกาย สมองพลันโล่งขาวไร้ความคิดอย่างน่าปะหลาด
"_____เด!!!"
"เห้ย! ไอ้เดกุ!!!"
ปัง!!
เสียงระเบิดดังก้องทั่วโสตประสาทเสียงนี้ทำให้มิโดริยะหลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะเงยหน้ามองคนผมสีฟางที่ดูอารมณ์เสียอย่างมาก นี่เขาทำอะไรผิดไปรึเปล่า?
"เหอะ!" บาคุโกวเบือนหน้าหนีก่อนที่จะเดินออกไป
มิโดริยะสับสนเมื่อตอนที่เขาไม่ รู้สึกตัวคัตจังพูดอะไร??
มิโดริยะยังภะวงกับเรื่องนี้มากเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเขาก็เดินทางกลับบ้านตามปกติ เขาเดินมาเรื่อยๆอย่างเหม่อลอยำพยายามคิดทบทวนว่าคัตสึกิพูดอะไรกับเขา ด้วยความไม่ระวังตัวมิโดริยะจึงโดนโคลนสีเขียวเหนียวหนืดที่น่าขยะแขยงจับตัวเอาไว้ โคลนเหล่านั้นเริ่มรัดร่างกายเขาแน่นขึ้น แม้กระทั่งใบหน้ายังไม่มีช่องว่างที่จะให้หายใจ
"อื้อ!!!!!!!!!" มิโดริยะเริ่มดิ้นรนแต่ไม่ว่าจะพยายามดิ้นสักเท่าไหร่ ก็ไม่อาจทำให้เขาหลุดออกจากเจ้าโคลนเหนียวหนืดนี่ สติเริ่มเลือนลาง ไม่รู้ว่าทำไมดวงตาของเขาถึงหนักอึ้งถึงเพียงนี้ ก่อนที่สติทั้งหมดจะดับลงในภาพอันพร่ามัวเขาเห็นใครบางคน.......
---------
"โทษทีนะหนุ่มน้อยแต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก" คำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของคนที่เขาศรัทธาอย่างออลไมค์ ทำให้มิโดริยะทรุดลงกับพื้นมองร่างอันผอมแห้งของคนตรงหน้าที่เดินจากไปอย่างไม่เหลียวหลังมา มิโดริยะแค่อยากเป็นฮีโร่อย่างเขา แต่กลับกลายเป็นคนที่เขาศรัทธาและยกย่องมาทั้งชีวิตเป็นคนทำลายมันลงเพียงคำพูดเพียงประโยคเดียว
มิโดริยะเดินลงมาจากตึกอย่างเศร้าใจและสิ้นหวัง แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้าของยิ่งตอกย้ำความอ่อนแอของตนเองเข้าไป ร่างของมารดาที่รักนอนจมกองเลือดอยู่ข้างหน้าเขา ผู้คนรอบข้างตื่นตระหนกไม่มีใครที่เรียกรถฉุกเฉินพวกเขาต่างบอกว่าเดี๋ยวฮีโร่ก็มา ไม่....ไม่เลยฮีโร่ในเขตนี้กำลังวุ่นวายกับเหตุที่วิลเลินโคลนจับตัวนักเรียนไว้ และนั่นยิ่งทำให้มิโดริยะตระหนักได้ว่า
ฮีโร่ที่เขารู้จักไม่มีอีกแล้ว...
End
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รรออยู่น้า