คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ ๔ สาวใช้คนใหม่
ตอนที่ ๔ : สาวใช้คนใหม่
“ท่านพี่ใครรึ”
แทบจะในทันทีที่ฟางฟางได้เหยียบย้ำเข้ามาในจวนของแม่ทัพหยาง ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกระโดดข้ามกำแพงเข้ามาในจวน ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาชายหนุ่มผู้ที่พาเธอเข้ามาในที่แห่งนี้
“น้องห้าทำไมเจ้าถึงยังไม่นอน” แม่ทัพหยางเอ่ยถามน้องชายด้วยความสงสัย
เด็กหนุ่มผู้ถูกถามยิ้มละไม ก่อนจะตอบด้วยท่าทางที่ไม่ส่อแววพิรุธใดๆ ว่า
“ข้าไปเรียนดนตรีมานิดหน่อยน่ะ” แท้ที่จริงแล้ว เขาก็เพิ่งจะกลับมาจากหอนางโลมอันดับหนึ่งเมื่อสักครู่นี่เอง
“เรียนเพิ่งเลิกนี่นะ? แล้วอาจารย์หวังที่มาสอนเจ้าที่จวนล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามน้องชาย ก่อนจะส่งสายตาบอกเป็นนัยว่า ‘รู้ทัน’ ไปให้น้องชายของเขา
“ท่านพี่ ให้ข้ามีพ่อคนเดียวก็พอ ... ว่าแต่แม่นางท่านนี้?” เด็กหนุ่มชายตามองฟางฟาง ทำทีว่าไม่สนใจเท่าไรนัก แค่ถามพอเป็นพิธีเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าเขาเห็นนางตั้งแต่ ตอนที่พี่ชายของเขาเรียกใช้บริการนาง ในหอนางโลมเมื่อสักครู่ใหญ่ๆ
เมื่อถูกน้องชายถามเขาเองก็ไม่รู้จะบอกว่านางคือใคร แม้แต่ชื่อของนาง เขาเองก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่ก่อนที่เขาจะตอบ เขาก็ก้าวไปหลบอยู่ข้างหลังนายทหารคนหนึ่งทันที เผื่อจะช่วยทำให้นางไม่สามารถทำอันตรายใดๆ กับเขาได้
“สาวใช้คนใหม่น่ะ”
หลังจากที่ชายหนุ่มตรงหน้าตอบว่านางคือสาวใช้คนใหม่ ดวงตากลมโตก็ตวัดจ้องหน้าคนพูดทันที ไอสังหารพวยพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ทันทีนางจะได้ทำอะไรกับชายหนุ่มตรงหน้า ก็มีสตรีนางหนึ่งเข้ามาร่วมวงเข้าเสียก่อน
“ทหารพวกนี้เข้ามาทำไมกัน” สตรีวัยกลางคนท่าทางใจดีเอ่ยถามขึ้น
“ท่านแม่” สองพี่น้องตระกูลหยางก้มหัวคำนับ แล้วก็เดินเข้าไปเกาะแขนท่านแม่ของตนคนละข้าง ก่อนจะยิ้มประจบอย่างเอาใจ
ฟางฟางมองสองพี่น้องตรงหน้าด้วยความสะอิดสะเอียน ผู้ชายพวกนี้จริตแพรวพราวน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
“ซุนกวนบอกแม่มาสิ” ผู้เป็นแม่หันไปถามลูกคนโต
หยางซุนกวนยิ้มเห่ยๆ ให้ก่อนที่จะเริ่มปั้นน้ำเป็นตัว บิดเบียนความจริงเล็กน้อย
“ท่านแม่ก็รู้ว่าข้าเพิ่งกลับมาจากด่านนอกเมือง เมื่อตอนเย็นๆ ข้ากำลังจะตรงกลับจวนมาหาท่านแม่ด้วยความคิดถึง ก็ดันเกิดเจอพวกโจรจะมาทำร้ายแม่นางผู้นี้เข้าเสียก่อน ด้วยความที่ข้าจดจำคำสอนของท่านเป็นอย่างดี จึงได้เข้าไปช่วยเหลือนาง แต่นางช่างน่าสงสารนัก นางเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อมาตามหาแม่ที่พลัดพรากกันมาตั้งแต่นางยังเป็นทารก แต่ไม่ว่าจะพาอย่างไรก็ไม่เจอ ชีวิตนางช่างน่าสงสารนัก ... ข้าจึงตัดสินใจ ชวนนางมาทำงานที่จวนของเรา”
หลังจากที่ชายหนุ่มบิดเบียนความจริงเล็กน้อย เสร็จไปแล้ว ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างมีความคิดแตกต่างกันออกไป
ผู้เป็นแม่ ‘ลูกคนนี้ไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลยจริงๆ’
เหล่าทหาร ‘ท่านแม่ทัพหยางซุนกวนช่างมีไหวพริบเป็นเลิศ’
น้องชาย ‘เมื่อกี้ท่านพี่ไปหอนางโลมมาไม่ใช่รึ? ไม่ได้รีบตรงกลับจวนเสียหน่อย’
ฟางฟาง ‘ปลาไหลตัวพ่อ!!’
“เอาล่ะๆ แม่ไม่อยากจะขัดน้ำใจของเจ้า รับนางมาเพิ่มอีกคนจะเป็นไรไป” ผู้เป็นแม่ส่งยิ้มให้ฟางฟางอย่างเอ็นดู แต่เธอทำได้เพียงส่งยิ้มที่แห้งแล้งกลับไปให้เท่านั้น
ในตอนนี้เธอจะเงียบไว้ก่อน รอสถานการณ์มันผ่านช่วงเลวร้ายไป เธอจึงจะหาหนทางต่อไป อย่างน้อยคืนนี้เธอจะได้ไม่ต้องไปนอนที่กลางถนนอย่างน่าอดสู แค่นั้นก็เพียงพอ
“ว่าแต่แม่นางท่านนี้ชื่อว่าอะไรรึท่านพี่” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“ข้าเองก็ยังไม่ทันได้ถามนางน่ะ พอดีว่ามัวแต่ยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่” เขาไม่มีอารมณ์จะไปถามชื่อนางหรอก สตรีที่เขาเคยผ่านมานั้น เขาล้วนแต่จำชื่อพวกนางเหล่านั้นไม่ได้ ใครเล่าจะคิดว่าสงครามระหว่างนางกับเขา จะยังไม่จบง่ายๆ เช่นนี้
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าชื่ออะไรล่ะ สาวน้อย” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้น
ฟางฟางไม่ค่อยจะพอใจเท่าไรนัก ที่เธอถูกเรียกว่าสาวน้อย ใครจะไปชอบกัน เธออายุยี่สิบกว่าแล้วนะ
“ชื่อฟางฟางค่ะ”
“หน้าตาก็สะสวย ดีแล้วล่ะที่มาอยู่ด้วยกันที่นี่ ข้างนอกน่ะอันตรายไม่เหมาะกับสตรีเช่นเจ้าหรอก”
หยางฮูหยินคงไม่รู้ตัวเลยว่า แท้จริงแล้วบุตรชายคนที่สามของนาง หรือก็คือ แม่ทัพหยางซุนกวนนั่นเอง ที่อันตรายยิ่งกว่าใครทั้งหมด!!
“พวกเจ้าไปกันได้แล้ว” เป็นท่านแม่ทัพที่บอกกับเหล่าทหาร
“ขอรับท่านแม่ทัพ”
“ส่วนเจ้า ตามข้ามา” ชายหนุ่มหันไปพูดกับฟางฟางด้วยท่าทางองอาจดูน่าไว้ใจ
ท่าทางของเขาอาจสามารถหลอกให้คนอื่นเชื่อได้มานักต่อนัก แต่สำหรับฟางฟางแล้ว แม้เธอจะได้เจอกับเขาเป็นวันแรก แต่เธอไม่เชื่อในท่าทางที่เขาแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย
“เอาล่ะ พวกเราก็ไปพักผ่อนกันเถอะ ให้ซุนกวนจัดการเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน”
แม้ในเวลาเช่นนี้ ไม่สมควรที่จะให้ชายหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่นางเองก็เชื่อใจบุตรชายของตนเองไม่น้อย เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่บุตรชายคนที่สามของนางจะนำเรื่องเสื่อมเสียมาสู่ตระกูลหยางที่มีชื่อเสียงมานาน
“ท่านพี่ แม่นางคนนี้ข้าขอ” บุตรชายคนที่ห้าของตระกูลหยาง เมื่อเห็นว่าแม่ของตนเดินออกไปไกลแล้ว จึงเข้าไปกระซิปที่ข้างหูของพี่ชายตนเองเบาๆ
โป๊ก!!
ผู้เป็นพี่ชายจัดการเขกศรีษะของน้องชายคนเล็กสุดของจวนไปอย่างแรง เขารู้ดีว่าน้องชายของเขาคนนี้ เพียงแต่พูดออกมาเพียงเพราะต้องการจะหยอกเล่นกับเขาเท่านั้น แต่เขาไม่พอใจ! เขายังไม่ได้ เรื่องอะไรจะปล่อยนางไปให้คนอื่น ถึงแม้ว่าคนนั้นจะเป็นน้องชายของเขาเองก็เถอะ
“ข้าเจ็บนะ!” เด็กชายโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เขาอายุได้สิบห้าปีแล้วถึงแม้จะเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันก็เถอะ ทำไมพี่สามถึงชอบทำอย่างกับว่าเขายังเด็กนักนะ
“เจ็บสิดี คราวหลังจะได้ไม่กล้าทำอีก” ชายหนุ่มต่อว่าให้น้องชายอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนที่จะไล่ตัวเกะกะออกไปให้พ้นๆ
เมื่อบุตรชายคนที่ห้าของตระกูลหยางกลับไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เขากับสาวใช้คนใหม่ผู้มีนามว่าฟางฟางเพียงเท่านั้น เขาก้าวเท้าอย่างไม่เร่งรีบพานางไปยังห้องพัก ก่อนจะลอบสังเกตุสีหน้าของนางผ่านหางตา
ฟางฟางมองสิ่งที่อยู่รอบกายด้วยความตกตะลึง ในเมืองจีนถึงแม้จะเคยเห็นบ้านที่สร้างให้มีรูปทรงที่เหมือนสมัยโบราณอยู่หลายหลัง แต่หลังนี้เป็นหลังที่ใหญ่ที่สุด และยังมีสภาพที่สมบูรณ์ใหม่เอี่ยม คงความเป็นเอกลักษณ์ของจีนโบราณไว้อย่างเต็มเปี่ยม ... แม้จะทางเดินก็ยังต้องถือตะเกียงคอยให้ความสว่าง = =
‘น่าอยู่ก็จริง แต่ไม่สะดวกเอาเสียเลย’
“คิดอะไรอยู่รึ” เขาอดถามไม่ได้ เมื่อเห็นว่านางทำหน้าตา เดี๋ยวก็ตกตะลึง เดี๋ยวก็ผิดหวัง ช่างเดาใจไม่ถูกเสียจริง
“นายไม่ต้องมายุ่ง” หญิงสาวว่าให้อย่างอารมณ์เสีย ปกติแล้วเธอไม่ใช่คนแบบนี้ แต่พอเจอเขามันรู้สึก ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากได้ยินเสียง ไม่อยากรับรู้เรื่องของเขา
“ยังไม่แก่เสียหน่อย ทำไมถึงอารมณ์แปรปรวณเช่นนี้” ชายหนุ่มพึมพำกับตนเองเบาๆ เกรงว่าหากนางได้ยินเข้าล่ะก็ ปากเขาอาจจะได้รอยแผลมาสักรอยสองรอยให้พอให้นอนหลับสบาย
“ว่าอะไรนะ?”
“ปะ เปล่า!”
ชายหนุ่มหันกลับไปมองนางอีกครั้ง ก่อนจะส่ายหัวกับความคิดที่ไม่เข้าท่าของตนเอง สงสัยสติเขาไม่ค่อยจะดี ที่เผลอคิดไปว่าได้นางมาเป็นภรรยาจะต้องมีแต่ผู้คนอิจฉาเขาเป็นแน่ แต่ตอนนี้เห็นทีจะต้องเปลี่ยนความคิด ถึงจะมีผู้คนมาอิจฉาเขา แต่เขาไม่ขอเสี่ยงตบแต่งกับนางเด็ดขาด ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เหมือนนางรู้ทันไปเสียทุกเรื่อง
เมื่อมาถึงยังห้องพักของนางที่ค่อนข้างจะอยู่ห่างจากจวนใหญ่เล็กน้อย เขาก็ได้ฝากนางไว้กับหัวหน้าพ่อบ้านให้จัดการเป็นธุระแทน ก่อนจะไปก็ลืมที่จะกวนอารมณ์นางเช่นเคย
“ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้าน่ะ”
“อะไร” ‘อีตานี่ จะมาไม้ไหนอีก?’
“ก็แค่เป็นเรื่องที่ต่อจากเหตุการณ์ที่เกิดในหอนางโลมก็เท่านั้นเอง”
“ลีลา ชักช้า เสียเวลา!” ฟางฟางพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด วันนี้เธอเหนื่อยพอแล้ว ยังไม่พร้อมเปิดศึกอะไรกับเขาตอนนี้
“ถึงแม้ราตรีนี้เจ้าจะรอด แต่ราตรีอื่นๆ เจ้าจะไม่ดวงดีเช่นคราวนี้แน่” ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงข่มขู่ แต่ใบหน้ายิ้มแย้มสดใส
“ฉันก็มีเรื่องอยากจะบอกนายเหมือนกันนะ”
“อะไร?”
“ถึงแม้คืนนี้นายจะรอด แต่คืนอื่นนายตายแน่!!”
พูดจบฟางฟางก็เดินหนีไปทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอึ้งอยู่กับที่ต่อไป
‘คอยดูเถอะ คนอย่างแม่ทัพหยาง ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้!’ ถึงแม้จะคิดเช่นนั้น แต่ในใจลึกๆ แล้ว เขาเองก็แอบหวาดผวากับคำขู่ของนางเล็กน้อย นางใช่สตรีที่สวยแต่รูปเสียเมื่อไหร่กัน แรงของนางเยอะยิ่งกว่าม้าศึกเสียอีก!
++++++++++++++++++++++++++++++++
บอกว่าจะมาอัพให้ตั้งแต่วันจันทร์ แต่ทำไมมาโผล่วันพฤหัสได้นะ?
ไม่ว่ากันนะจ๊ะคุณผู้อ่าน อ่านทีละนิด ทีละน้อยพอทำให้จิตใจชื่นบานเนอะ
*ต้องขอโทษด้วย ที่คำผิดมีเยอะ อาจจะทำให้ท่านเสียอารมณ์ไปนิดนึง
ความคิดเห็น