คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ ๓ แผนการร้าย
ตอนที่ ๓ : แผนการร้าย
หลังจากที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับสำนักข่ายปอประมุขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟางฟางก็เดินได้แต่เดินเร่ร่อนเพียงลำพัง ในยามนี้เป็นเวลาที่ผู้คนภายในเมืองต่างพักผ่อนหลังจากทำงานหนักกันมาทำวัน ทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ ... เธอไม่มี! ในตอนนี้เธอคงต้องย้ายไปเป็นคนของพรรคกระยาจกสินะ
“ล้าหลังจริงโว้ย ไฟฟ้าก็ไม่มีใช้” ฟางฟางเอะอะโวยวายไปตามทาง ในเมื่อที่แห่งนี้ไม่มีใครรู้จักเธอ แล้วยังจะรักษาภาพพจน์ไปอีกทำไม
หันไปทางซ้ายก็โคมไฟ หันไปทางขวาก็โคมไฟ ตู้โทรศัพท์สาธารณะก็ไม่มี แต่ถึงมีเธอก็ไม่มีเศษเหรียญ พูดได้ว่าชีวิตของเธอในตอนนี้ เป็นช่วงขาลงแบบสุดๆ
หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ อย่างไรจุดหมาย ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการที่สุดคือโทรศัพท์ หากมีใครสักคนอยู่แถวๆ นี้ ก็คงจะดีไม่น้อย
“ชะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที อะ อื้อออออออ~”
เสียงของผู้หญิงที่กรีดร้องขอความช่วยเหลือดังมากระทบหูของฟางฟางเข้าอย่างจัง เธอพยายามที่จะหันหลังกลับเพราะไม่อยากจะไปยุ่งกับเรื่องของใคร แค่ตัวเธอเองก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว
“ปล่อยคุณหนูนะ!”
คราวนี้เป็นเสียงของผู้หญิงอีกคนที่ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเธอจึงอดที่จะไปแอบมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
ภาพเหตุการณ์ที่เธอได้เห็นนั้น ก็คือ กลุ่มชายฉกรรจ์ใส่ชุดสีดำรัดกุม ปิดหน้าปิดตาประมาณห้าคนได้ กำลังจะล้อมผู้หญิงสองคนที่มีท่าทางหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เธอพยายามจะเงี่ยหูฟังเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายกำลังคุยกัน แต่ฟังอย่างไรก็ไม่ได้ใจความ จึงค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ ทีละนิดๆ จนในที่สุดเธอก็ยืนอยู่ห่างจากพวกนั้นประมาณยี่สิบก้าวเดินเท่านั่น!
สายตาที่พวกผู้ชายพวกนั้นมองมา ทำให้เธอขนลุกด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย ดูจากกระบี่ที่พวกมันถือนั้น ฟางฟางเข้าใจสถานการณ์ทันที ... มันคงไม่ปล่อยเธอให้ไปเริงร่าอยู่กลางถนนแน่ๆ
“ฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ไปก่อนล่ะ บัยบายนะ” ฟางฟางยิ้มและโบกมือลาอย่างน่ารักน่าชัง ก่อนที่จะค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกมาทีละนิด แต่ดูเหมือนว่า ความงามของเธอจะไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นมาได้เลย!!
ชายทั้งห้าคนสาวเท้าเข้ามาหาเธอด้วยความรวดเร็ว หญิงสาวจ้องมองการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างตกตะลึง
‘พวกมันเป็นแก๊งซามุไรป่วนเมืองหรือเปล่าเนี่ย ทำไมวันนี้ฉันจะต้องมาเจอเหตุการณ์เสี่ยงตายแบบนี้ด้วยนะ T^T’
“เฮ้ๆ หยุดก่อนสิ ฉันไปทำอะไรให้”
ถึงแม้เธอจะพยายามถ่วงเวลามากแค่ไหน แต่พวกมันก็ยังคงความแน่วแน่ที่จะฆ่าเธอให้ตายให้ได้ ดูเหมือนว่าการพูดดีๆ จะไม่ได้ผลสินะ!
แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร เสียงของหญิงสาวหนึ่งในสองคนนั้นก็ตะโกนเรียกขึ้น
“จะฆ่าก็ฆ่าข้าเสียเถอะ ทำไมจะต้องไปเสียเวลากับคนอื่นด้วย”
หญิงสาวคนดังกล่าวพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว แต่มองแว๊บเดียวก็รู้ ว่าตัวของผู้หญิงคนนั้นสั่นแค่ไหน ฟางฟางส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่หญิงสาวพูดขึ้นมาเมื่อกี้ แทนที่จะหาโอกาสหนี กลับเป็นฝ่ายเอาตัวเองเข้ามาล่อเสียอย่างนั้น
‘ไม่โง่ ทำไม่ได้นะเนี่ย = = ’ ฟางฟางคิดอย่างหงุดหงิดกับความโง่เขลาของอีกฝ่าย หากเป็นเธอมีหรือจะยืนเซ่อเป็นเป้านิ่ง ไม่มีทางเสียหรอก
หลังจากที่หญิงสาวคนเมื่อครู่พูดออกไปแล้ว พวกชายเหล่านั้นก็ตรงเข้ามาหาฟางฟางด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกมันถือคติว่า คนตายพูดไม่ได้ ถึงนางตรงหน้าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับงานของพวกมัน แต่ในเมื่อนางบังเอิญมาเห็นเข้า ก็ต้องกำจัด!
“ไอ้พวกบ้า ไปฆ่ายัยนั่นสิ มายุ่งอะไรกับฉัน!!!”
ฟางฟางในตอนนี้สติเริ่มเลื่อนลาง ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอรู้สึกโกรธทุกๆ อย่างที่ขวางหน้าเธอ โกรธทุกอย่างที่ทำให้ชีวิตเธอตกต่ำถึงเพียงนี้ เกือบจะได้ขายตัว แล้วตอนนี้ยังจะถูกฆ่าโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกงั้นเหรอ!!
หญิงสาววิ่งหนีพวกมันอย่างตื่นตระหนก แต่ไม่ว่าเธอจะเพิ่มความเร็วในการหนีมากขึ้นเท่าไร ก็ไม่อาจสลัดพวกมันทิ้งไปได้ จะให้เอาหมัดไปแลกกับของมีคม ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็ไม่คุ้มอย่างที่สุด
“ท่านหัวหน้า ความเร็วในการวิ่งของนาง ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นมาอย่างอดชื่นชมไม่ได้
“สงสัยนางคงจะวิ่งหนีพวกเมียหลวงของผู้ชายที่มักไปใช้บริการนางจนชินล่ะมั้ง” ผู้เป็นหัวหน้า ตอบกลับมาอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจเท่าไรนัก
จริงอยู่ที่นางอาจจะวิ่งเร็วกว่าคนอื่น แต่นางไม่มีวรยุทธ วิ่งแบบนั้น อีกไม่นานนางก็หมดแรงไปเอง ไม่เหมือนนักฆ่ามืออาชีพ เช่นพวกเขา ที่แทบจะไม่ได้ออกแรงอะไรเลยแม้แต่น้อย
“แฮ่กๆ ไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว ฉัน ... โมโหแล้วนะ!!!”
ความดังของเสียงที่หญิงสาวตะโกนออกมา ทำเอากลุ่มนักฆ่าที่ตามมาถึงกับหยุดชะงักไปในทันที! พวกมันมองหน้ากันอย่างตกใจ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดขึ้นมาว่า
“ใช่วิชาราชสีห์คำรามหรือไม่” น้ำเสียงของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“อย่าพูดอะไรบ้าๆ นางอายุเพียงเท่านี้ ไม่มีทางที่จะฝึกสำเร็จแน่ ข้าว่านางคงจะเริ่มฝึกเมื่อไม่นานมานี้” เสียงชายอีกคนพูดเสริมขึ้นมา
“พูดบ้าอะไรของพวกแก!!”
กลุ่มนักฆ่า ก้าวถอยหลังกันไปคนละก้าวสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว สตรีนางนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“ถึงแม้เจ้าจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่อย่างหวังเลย ว่าจะสามารถเอาชนะพวกเราได้” ชายคนหนึ่งพูดจาข่มขู่
แม้ตอนนี้เธอจะโมโหมาก แต่ก็ไม่มากพอที่จะฝืนใจเอาหมัดไปแลกกับคมกระบี่ของกลุ่มคนตรงหน้าได้อยู่ดี
‘ตำรวจแถวนี้หายหัวไปหมด รู้บ้างไหมว่าประชาชนต้องการความช่วยเหลือ’
“จัดการนางซะ!” คราวนี้เป็นตัวหัวหน้าที่ออกคำสั่ง
เมื่อได้รับคำสั่งจากหัวหน้า พวกมันทั้งสี่จึงวิ่งเข้ามาหลอมหญิงสาวไว้ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ช้าก่อนพ่อชุดดำทั้งหลาย”
น้ำเสียงที่คุ้นหู ทำให้ฟางฟางหันกลับไปมองแทบจะทันที เพีนงแค่ได้เห็นเจ้าของเสียงแค่นั้นแหล่ะ เธอถึงกับตกตะลึงนิ่งงั้น ลืมแม้กระทั่งว่าตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่พอเจอตัวอันตรายยิ่งกว่า เธอรู้สึกว่ากระบี่ที่เหล่านักฆ่าชี้มาทางเธอนั้น ดูไร้ค่าไปเสียถนัดตา
“หึ นึกว่าใครท่านแม่ทัพหยางผู้เก่งกาจนั่นเอง”
หัวหน้ากลุ่มนักฆ่าเป็นฝ่ายทักทายเสียก่อน เจ้าของชื่อยิ้มรับคำทักทายที่ดูคล้ายจะเย้ยหยันมากกว่าเยินยออย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ
“สายตาของเจ้า แหลมคมไม่เบา” ใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจ
“หึ ! อย่ามาขวางทางเสียดีกว่า นี่มันไม่ใช่สนามรบที่เจ้าจะต้องมายุ่ง”
“มิได้ๆ ... ก็เจ้าดันมายุ่งกับแม่นางคนนั้นเองนี่นา” เขาไม่พูดเปล่า แต่กลับเอาพัดในมือชี้มาที่ตัวของฟางฟาง เพราะเห็นว่า มีแม่นางอยู่ในสถานที่แห่งนี้ถึงสามคนด้วยกัน
“คราวก่อนเจ้าก็พูดแบบนี้” หัวหน้าของกลุ่มนักฆ่าพูดขึ้นมาด้วยความเหลืออด
“นั่นปากหรือนั่น!!” ชายหนุ่มผู้ถูกสบประมาท รู้สึกอับอายเล็กน้อย แต่มันก็เป็นจริงดังที่มันว่า คราวก่อนเขาก็พูดแบบนี้ -.,-
ฟางฟางแอบรู้สึกสมน้ำหน้าชายหนุ่มเล็กน้อย ที่ความชั่วถูกเปิดเผย ผู้ชายแบบนี้มันน่าจับถ่วงน้ำเสียจริง
“จะอย่างไรก็แล้วแต่ ปล่อยนางซะ”
ชายหนุ่มผู้ที่มีใบหน้าหล่อเหลาและจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องเสื่อมเสีย พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิมหลายเท่า
“คงยาก”
หัวหน้ากลุ่มนักฆ่าพูดจบก็พุ่งตรงเข้ามาหาฟางฟางด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายหนุ่มอีกคนขวางไว้เสียก่อน คนที่ขวางจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบุรุษผู้มาใหม่นั่นเอง
“คราวก่อนเจ้าโชคดี แต่คราวนี้ไม่รอดแน่”
ชายหนุ่มผู้เข้าขัดขวางหัวหน้ากลุ่มนักฆ่าพูดขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ชายผู้เป็นหัวหน้าคนนี้มีฝีมือสูงส่งพอๆ กับเขา หากประมาท มันอาจจะหนีรอดเหมือนคราวก่อนก็เป็นได้
“ทำเป็นพูดดีไปเถอะเจ้า”
“แม่นางถอยไป” ด้วยความหวังดี ชายหนึ่งจึงใช้มือดันให้หญิงสาวออกไปจากการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้นระหว่างเขากับหัวหน้ากลุ่มนักฆ่า แต่ดูเหมือนว่า ความหวังดีของเขาจะสร้างความโกรธเคืองให้นางเล็กน้อย
หมับ!!
ฝ่ามือที่ดันให้นางถอยหลังออกไป กลับไปแตะโดนหน้าอกของฟางฟางอย่างไม่ได้ตั้งใจ ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว ไม่ได้สนใจคู่ต่อสู้ตรงหน้าอีกต่อไป เพราะคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ที่เขาลืมตาดูโลกมา เห็นที่จะเป็นผู้ที่อยู่ด้านหลังของเขานั่นเอง และตอนนี้เขาก็ทำให้นางโกรธอย่างไม่น่าให้อภัย!!
“แกตาย ย๊ากกก!!”
ฟางฟางเมื่อตั้งสติได้ ก็กระโดดเข้าหาชายหนุ่มตรงหน้าทันที มือเรียวบางที่แสนน่าถนอมทั้งสองข้าง กำลังบีบลำคอของชายหนุ่มตรงหน้าด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ใบหน้าเนียนสายเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ ตัดกับสีของใบหน้าผู้ที่อยู่รายล้อม ที่ซีดลงเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัวสตรีตรงหน้า
เหล่านักฆ่าและตัวหัวหน้าของมันเอง ก้าวถอยหลังออกไปทีละน้อยด้วยความระมัดระวัง หากแม่นางผู้บ้าคลั่งคนนั้นรู้ตัวแล้วล่ะก็ พวกมันอาจจะพบเจอกับชะตากรรมเช่นเดียวกับท่านแม่ทัพหยางผู้นั้นก็เป็นได้
“อ๊อค มะ แม่นะ นา นาง” หญิงสาวยังคงออกแรงต่อไปอย่างมีมีทีท่าว่าจะลดแรงลง
“แม่นางได้โปรดใจเย็นก่อนเถอะ” เป็นหญิงสาวคนที่ยอมตายนั่นเอง
“แม่นางขอร้องเถอะเจ้าค่ะ” คราวนี้หญิงสาวอีกคนพูดขึ้น
พวกนางรวบรวมความกล้าในการหยุดยั้งพฤติกรรมอันน่ากลัวของหญิงสาวตรงหน้า แต่ดูเหมือนนางจะไม่สนใจคำห้ามปรามเลยแม้แต่น้อย นางยังคงตั้งหน้าตั้งตาเอาชีวิตของบุรุษผู้โชคร้ายคนนั้นต่อไปอย่างไม่ลดละ
“อ๊ากก ข้า จะ ตะ ตาย ยะ อยู่ ละ แล้ววววววววววว แอ๊ค อ๊อคคค” ชายหนุ่มผู้โชคร้ายพยายามที่จะดึงมือของหญิงสาวออก แต่ก็ไม่เป็นผล ‘โธ่ แม่ทัพอย่างข้าจะต้องตายอย่างไร้เกียรติเช่นนี้หรือนี่’
เหมือนสวรรค์เมตตาชายหนุ่มผู้โชคร้าย ทันใดนั้นกองกำลังทหารที่เดินตรวจความเรียบร้อยภายในเมืองผ่านมาพอดี จึงรีบเข้ามาช่วยเหลือชายหนุ่มผู้โชคร้ายทันที!
ทางด้านกลุ่มนักฆ่า เมื่อเห็นว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็พากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็จะจากไปพวกมันก็ก้มหัวไว้อาลัยให้แก่ภาพพจน์แม่ทัพผู้แข็งแกร่งเช่นแม่ทัพหยาง ที่ถูกทำลายอย่างบ่นปี้เพราะสตรีธรรมดาเพียงคนเดียว
ส่วนหญิงสาวทั้งสองก็ได้รับความคุ้มครองจากทหารพากลับยังที่พักของพวกนาง ... จะเหลือก็เพียงแต่ แม่ทัพหยางผู้รอดตายอย่างหวุดหวิด กับ ฟางฟางที่เกือบจะกลายเป็นฆาตกรสาว
“แค๊กๆ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ทำไมเจ้าถึงได้โหดเหี้ยมกับข้าแบบนี้นะ” เขารีบว่าให้นางทันทีเมื่อเห็นว่านางเริ่มได้สติ หากเขากล้าว่าให้นางยามโกรธล่ะก็ เกรงว่าเหล่าทหารพวกนี้ก็คงจะเอาไม่อยู่ และเขาก็คงจะได้ตายสมใจอยาก
“ก็นายทำฉันโกรธก่อนทำไมกันล่ะ”
ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอย่างตกตะลึง นอกจากนางจะไม่ยอมรับผิดแล้ว ยังจะทำหน้าตาสะสวยโยนความผิดมาให้เขาเต็มๆ อีก
“เอาล่ะๆ ข้ายอมแพ้” เขาพูดเสียงเหนื่อยหอบ ตอนนี้เรี่ยวแรงของเขามันหายไปหมดแล้ว!
“เหอะ!” เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว ฟางฟางจึงเดินออกมาโดยไม่สนใจใครอีกต่อไป แต่ทว่า ...
“เดี๋ยวก่อนแม่นาง เจ้าทำความผิดร้ายแรง ข้อหาทำร้ายร่างกายท่านแม่ทัพ” หญิงสาวหันไปมองหน้านายทหารคนดังกล่าวด้วยความตกใจ
“เจ้าไม่ต้องมากความ คุมตัวนางไปที่จวนของข้า ข้าจะพิจราณาโทษของนางเอง”
น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย ช่างขัดกับสายตาที่พราวระยับที่จ้องมองมายังหญิงสาวยิ่งนัก ฟางฟางที่ไม่ทันได้สังเกตดวงตาอันแพรวพราวของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้เธอไม่รู้เลย ว่ามันคือแผนการร้ายของชายเจ้าเล่ห์เช่นเขา
“ขอรับท่านแม่ทัพ” นายทหารคนดังกล่าว ทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย จะมีก็เพียงแต่สตรีเพียงหนึ่งเดียว ที่ยังคงดิ้นรนขัดขืนไปตลอดการเดินทาง
“ปล่อยนะ! ถ้าฉันโดนข้อหาทำร้ายร่างกาย ไอ้บ้านั้นก็ต้องโดนข้อหาอนาจารด้วย!!”
หญิงสาวได้แต่ตะโกนโหวกแหวกไปตามทางเท่านั้น และแน่นอน ทหารเหล่านั้นเชื่อว่า ท่านแม่ทัพหยางถูกทุกอย่าง!
++++++++++++++
จบไปอีกตอนแบบป่วงๆ
ไว้เจอกันใหม่วันจันทร์นะคะ
ปล. อย่าลืมเม้นๆ เป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า ^^
ความคิดเห็น