คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ ๒ เมื่อสงครามยังไม่จบ
ตอนที่ ๒ : เมื่อสงครามยังไม่จบ
เมื่อฟางฟางเห็นว่าคนตรงหน้าทำท่าจะกระโจนเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่ง(?) เธอเองก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย รีบหาทางหนีทีไล่อย่างเร่งด่วน แต่ดูเหมือนว่าจะเหลือแค่ทางหน้าต่างกับประตูเท่านั้น ซึ่งจะให้เธอกระโดดลงหน้าต่างเธอก็ขอไม่เสี่ยงสีดีกว่า
“อ๊ะ อ๊ะ แม่นางอย่าคิดหนีเชียว”
ชายหนุ่มตรงหน้า ชูนิ้วชี้ขึ้นหนึ่งข้างแล้วส่ายไปมา พร้อมกับทำหน้าไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าสาวน้อยตรงหน้าพยายามที่หาทางหนี
“หยุดทำหน้าตาอ้อนวอน ขอความเจ็บปวดจากฉันเดี๋ยวนี้นะ” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความโมโห แต่จะทำอะไรก็ไม่ได้ ในเมื่อตอนนี้เป้าหมายของชายหนุ่มตรงหน้า ไม่ใช่เธออีกต่อไป แต่คือประตูห้องนั่นเอง
เขาแง้มเปิดประตูออกไปเล็กน้อย ก่อนที่จะทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง!!
“ใครที่อยู่ข้างนอก ล็อคประตูห้องนี้หน่อย เสร็จธุระแล้วข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม”
ปัง!!
เขาปิดประตูอย่างแรง ก่อนที่จะกลับมายิ้มให้ฟางฟางแสดงถึงชัยชนะอันใหญ่หลวงที่เขาจะได้รับในคืนนี้
“-0-” หมดกันทางหนีของฉัน!
“คนสวย มามะ มาเป็นของพี่เสียดีๆ”
คำพูดของผู้ชายคนนี้อาจดูน่ากลัวสำหรับเธอ แต่การกระทำของเขาสิยิ่งร้าย หน้ากลัวยิ่งกว่า!!
บุรุษเพียงหนึ่งเดียวในห้อง เมื่อเห็นว่ามีเพียงแต่โต๊ะน้ำชาเท่านั้น ที่เป็นกำแพงขวางกั้นทางรักของเขาอยู่ เขาจึงไม่รอช้าที่จะกระโดดข้ามกำแพงนั้นไปด้วยความรวดเร็ว
ในตอนนี้สาวงามอยู่ห่างเขาเพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น ดูสิ นางจะหนีไปไหนรอด!
“เห้ย!”
ฟางฟางยังไม่หายตกตะลึงกับความรวดเร็วปานลิงลมของชายร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็ถูกเขารวบตัวไปอุ้มเสียก่อน แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของเขาหนีไม่พ้น เตียง!
“อย่าดิ้นสิ ข้ารู้ว่าเจ้าแรงเยอะ ขอบอกไว้ก่อน ข้าเองก็ไม่น้อยหน้าเจ้าหรอก”
คำพูดแฝงนัยของเขา ทำหน้าใบหน้าของเธออดที่จะร้อนผ่าว เพราะรู้สึกอับอายแทนเขาเสียมิได้ ผู้ชายอะไร ช่างไร้ยางอายที่สุด
“ถ้านายยังรักชีวิตอยู่ ก็วางฉันลงเดี๋ยวนี้!” เธอข่มขู่ด้วยท่าทางจริงจังมากขึ้น
“อ่ะ ข้าจะวางเจ้าลงเบาๆ นะ”
ชายหนุ่มปฏิบัติตามคำสั่งของเธออย่างไม่เกี่ยงงอน แต่มันคนละความหมายกับที่เธอต้องการให้เขาทำนี่สิ เธอต้องการให้เขาวางเธอลงที่ไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่บนเตียง!
เมื่อเห็นว่าสบโอกาสเหมาะเขาจึงรีบเป็นฝ่ายตามไปทาบทับสตรีตรงหน้าด้วยความเร็วดุจลูกศรพุ่งออกจากคันธนู
“นายไม่ได้ตายดีแน่” หญิงสาวเอ่ยอย่างเคียดแค้น ก่อนพลิกตัวเป็นฝ่ายทาบทับเขาไว้ แล้วพุ่งหมัดไปที่ใบหน้าหล่อๆ ด้วยความปิติยินดีอย่างแรง ... แต่น่าเสียดายที่เขาไหวตัวทัน เป็นฝ่ายกระโดดออกจากเตียงไปเสียก่อน
‘เห็นทีนางจะรีบมือยากกว่าที่ข้าคิด’ ชายหนุ่มประเมินสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะลงความเห็นสรุปกับตนเองว่า นางคงอยากที่จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
“แม่นางค่อยๆ พูดกันก็ได้ เห็นข้าแลดูจะทนมือทนเท้าเช่นนี้ ข้าเองก็มีหัวใจนะ” คำพูดน่าหมั่นไส้แล้ว คนพูดน่าหมั่นไส้ยิ่งกว่า
“ฉันพูดกับนาย แล้วนายฟังฉันไหม!!” เธอตวาดใส่เขาอย่างอารมณ์เสีย
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง อ้าปากค้างอย่างตกใจ เกิดมาเป็นแม่ทัพในชีวิตนี้ ไม่เคยโดนใครตวาดใส่นอกจากศตรู ยิ่งเป็นสตรีด้วยแล้ว ยิ่งไม่เคยเจอ นางช่าง ... ถูกใจเขาเป็นที่สุด!
ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกาย ยามจ้องมองของถูกใจตรงหน้า ในชีวิตนี้ไม่เคยที่จะหยอกล้อ(?) กับผู้หญิงเช่นนี้มาก่อน เพราะตลอดเวลาเมื่อที่ใดมีหญิงงามเขาก็มักจะชวนพวกนางลงสนามรบกันเสมอ แต่ในยามนี้เขากลับทำการเจรจาศึกก่อนออกรบอย่างนั้นรึ เล่าให้คนสนิทฟังร้อยทั้งร้อยก็ไม่มีใครเชื่อ!
“เอาล่ะ ข้ายินดีรับฟัง”
แม้ปากจะบอกว่ายินดีรับฟัง แต่สายตาของเขากลับจ้องแทะโลมนางอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์เมื่อครู่ ทำเอาสภาพเสื้อผ้าหน้าผมของฟางฟางยุ่งเหยิงไปหมด แต่ให้ตายเถอะ ไม่ว่าจะมองมุมไหน นางก็ช่างน่าหลงใหลเสียจริง
“ฉันไม่ได้เต็มใจมาเป็นเพื่อนคุยกับนาย เข้าใจหรือเปล่า ฉะ ...” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบเขาก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“เพื่อนนอนจ่ะแม่นาง -.,- ”
ฟางฟางจ้องมองใบหน้าที่เอ่ยคำพูดที่แสนจะน่าอายออกมาเมื่อครู่ด้วยความรู้สึกกระดากอายอย่างบอกไม่ถูก หน้าเขาหนาเกินทน เสียจริง
“หุบปากไปเลยนะ เอาเป็นว่าฉันไม่เต็มใจ และนายไม่มีสิทธิที่จะทำอะไรกับฉันทั้งสิ้น”
“พูดง่ายเกินไปหน่อยมั้งเจ้าน่ะ ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ ข้าเตรียมเงินทองมาเพื่อลงทุนกับสาวงามในค่ำคืนนี้ นั่นก็คือเจ้า เรื่องอะไรที่ข้าจะต้องกลับไปมือเปล่าด้วยล่ะ รู้ไหมหากไม่ใช่ข้าผู้ร่ำรวย และหล่อเหลาที่สุดในเมืองนี้ มีรึจะมีปัญญาจ่ายค่าตัวของเจ้า”
“นั่นมันเรื่องของนาย ไม่ใช่เรื่องของฉัน ... หลบไป! และบอกให้คนข้างนอก เปิดประตูให้เดี๋ยวนี้”
หญิงสาวพลักไหล่เขาเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปกอดอกรอให้เขาออกคำสั่งอยู่หน้าประตูห้อง ประตูเปิดเมื่อไหร่ เธอจะสวมวิญญาณนักวิ่งทำลายสถิติโลกให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ให้ความร่วมมือกับเธอเท่าไหร่นัก นอกจากจะไม่สั่งให้คนเปิดประตูให้แล้ว ยังจะกลับไปนั่งรินเหล้ายกขึ้นดื่มอย่างสบายใจเฉิบอีกต่างหาก
‘ได้ แล้วเราจะเห็นดีกัน’ เมื่อเธอเห็นว่าเรื่องนี้ตัดสินกันด้วยคำพูดไม่ได้ จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะใช้กำลังกับคนอย่างเขา
เพล้ง!!
หญิงสาวฉวยแก้วเหล้าที่อยู่ในมือของเขา เขว้งทิ้งอย่างแรง จากนั้นก็หญิงผลส้มที่อยูวางอยู่บนโต๊ะมายัดใส่ปากเขาอย่างแรง แล้วจึงพลักเขาลงพื้นด้วยท่าที่เขาคว่ำหน้าอยู่กับพื้น จากนั้นก็ล็อกแขนของเขาด้วยพลังทั้งหมดที่หญิงสาวมี
“ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้” เธอตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้นข้างใน ใครเป็นอะไร” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนกลับมา
“ช่วยด้วยค่ะ คุณชายคนนี้เขาหมดสติ เป็นอะไรไปก็ไม่รู้”
“อื้อ อ อ ~” ชายหนุ่มผู้ถูกกระทำพยายามจะคายผลส้มนั้นทิ้ง แต่ความพยายามของเขาก็ต้องเสียเปล่า เมื่อไม่สามารถทำได้ดังใจนึก แถมแขนทั้งสองข้างของเขาก็ถูกนางจับไว้เสียแน่น
ระบบแม่ทัพอย่างเขามีหรือ จะไม่สามารถทำอะไรสตรีเช่นนางได้ แต่ดูแล้วนางคงจะทุ่มพลังสุดตัวจริงๆ หากเขาขัดขืนนางแม่เพียงนิด นางอาจจะได้เจ็บตัวโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้
“ไหน คุณชายอยู่ที่ไหน”
และแล้วก็มีผู้โชคร้ายคนหนึ่งหลงกลแผนการง่ายๆ ของเธอ หญิงสาวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งออกไปทางประตูด้วยความเร็วสุดชีวิต หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเธอไม่สน เธอสนแต่เพียงว่า ต้องหนีให้พ้น
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะหนีออกไปพ้นประตูใหญ่ ก็มีผู้ชายมาขวางทางเธอถึงสามคน !!
‘เดี๋ยวนี้คนเราก็มีหมีควายเป็นไอดอลกันแล้วหรือ?’
“จับนางไว้ให้ได้” เป็นเสียงของผู้ชายที่เธอเพิ่งจะทำการยัดผลส้มจากปากไปนั้นเอง เขากระโดดลงมาจากชั้นสองด้วยความรวดเร็ว
‘คนสมัยนี้นอกจากจะมีไอดอลเป็นหมีควายแล้ว ยังบินได้กันอีกรึนี่’ ฟางฟางคิดอย่างตกใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งพบเจอ ถ้าตอนนี้เธอไม่ทำอะไรสักอย่าง เธอไม่รอดแน่
เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่รอช้า พร้อมลุยอย่างเต็มที่ เธอยินดีที่จะเจอพวกหมีควายสามตัวตรงหน้า มากกว่าไปเจอกับ เสือ สิงห์ กระทิง แรด อย่างไอ้คนบ้ากามด้านหลังเสียอีก!
หญิงสาวใช้สายตาประเมินคู่ต่อสู้ไม่นาน จากนั้นก็ยกแขนทั้งสองข้างตั้งการ์ดเตรียมพร้อม ก่อนที่จะวิ่งตรงไป ปล่อยหมัดซ้ายตรงโดนใบหน้าหมีควายตัวแรกอย่างจัง หมีควายตัวแรกด้วยความที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ล้มพับไปในทันที
“นี่เขาเรียกว่าชวาซัดหอก!”
เมื่อเห็นว่าสหายล้มไปในหมัดแรก อีกสองคนที่เหลือก็เริ่มที่จะระวังตัวมากยิ่งขึ้น แต่สายไปเสียแล้วที่ประมาทเธอตั้งแต่ต้น หญิงสาวตรงเข้าไปหาหมีควายตัวที่สองอย่างรวดเร็ว หมีควายตัวนั้นรีบส่งหมัดออกมาเสียก่อน ในยามนี้จะมัวเห็นว่านางตรงหน้าเป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอไม่ได้เสียแล้ว
หมัดของเจ้าหมีควายตัวที่สองพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่เร็วพอที่จะทำอันตรายใดๆ กับเธอได้ เธอยกเท้าซ้ายถีบท้องน้อยของมันอย่างแม่นยำ จนทำให้ร่างใหญ่ยักกระเด็นไปชนกับเสาขนาดใหญ่ ล้มตัวงอนอนครางโอดโอยอย่างน่าสมเพช
“เป็นไงล่ะ ท่ามอญยันหลักของฉัน เจ็บล่ะสิท่า”
“หน๋อย นางคนนี้” หมีควายตัวที่สามดูเหมือนว่าจะขาดสติไปแล้ว มันกระโจนเข้ามาหาเธออย่าไม่คิดชีวิต ... แบบนี้ก็ง่ายน่ะสิ?
“ระวัง!!” เสียงของผู้ชายจิตหื่นที่วิ่งเข้ามาใกล้จะถึงตัวเธอเต็มที่ ร้องตะโกนเตือนด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย
เธอไม่ได้สนใจเขาแต่อย่างใด กลับยืนรอหมีควายตัวที่สามอย่างใจเย็น เมื่อได้จังหวะ เธอจึงโน้มคอของมันลงมาสุดแรง พร้อมกับตีเข่าเข้าที่ท้องของมันอย่างเต็มรัก เจ้าหมีควายตัวสุดท้ายจุกจนลิ้นจุกปาก แม้แรงที่จะส่งเสียงครางบรรเทาความเจ็บก็ยังไม่มี
“และนี่เขาเรียกว่า หักคอเอราวัณ”
หญิงสาวกวาดตาดูเจ้าหมีควายทั้งสาม แล้วยิ้มอย่างพึงพอใจกับผลงานของตัวเอง แม้จะห่างหายจากวงการนักมวยมาหลายปี แต่ฝีมือก็ยังพอไปวัดไปวากับเขาได้บ้าง
เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่จะจากไป เธอก็เตรียมตัวออกวิ่งทันที แต่ติดตรงที่ถูกนายจิตหื่นเรียกตัวไว้เสียก่อน
“ช้าก่อนแม่นาง เจ้าเป็นคนจากสำนักไหนอย่างนั้นรึ?” เขาถามออกมาด้วยความสงสัย รู้เต็มอกว่านางกำลังจะหนีพ้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามนางเสียก่อน
“ค่ายปอประมุข” หญิงสาวตอบเบาๆ แต่กลับได้ยินกันไปทั่วทั้งบริเวณนั้น
“ทำไมข้าถึงไม่คุ้นเลยนะ” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ สำนักที่มีกระบวนท่าที่ร้ายกาจ ใช้เพียงหนึ่งกระบวนท่า ก็สามารถทำให้เวรยามของที่นี่ถึงกับเสียท่าให้อย่างง่ายดาย ไม่ธรรมดาจริงๆ สำนักค่ายปอประมุข
เขากำลังจะถามข้อข้องใจของที่ตั้งสำนักแห่งนี้ แต่นางก็หายลับไปเสียแล้ว ฝีมือไม่เลวจริงๆ ... เขาเชื่อว่า อีกไม่นานเขากับนางจะต้องได้เจอกันอีกครั้ง
‘รอข้าหน่อยนะแม่นางคนสวย สงครามของเรามันยังไม่จบ’
++++++++++++++++++++++++++++
จัดไปกับท่าแม่ไม้มวยไทย 3 ท่า
(ขอยืมค่ายเขามาสร้างสีสันให้กับนิยายหน่อยก็แล้วกัน)
ปล. เรื่องการใช้คำเรียกแม่เล้าว่า ซ้อใหญ่ เหมือนจะเคยอ่านเจอในซับหรือพากษย์ เรื่องอะไรนั้นก็ไม่ทราบได้ แต่ก็แอบสงสัยเหมือนกัน ว่าเขาเรียกแม่เล้ากันว่าอย่างไร ใครรู้ช่วยบอกทีนะคะ จะได้ไปแก้ไขให้เหมาะสมยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ความคิดเห็น