คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๑ ราตรีนี้ไม่ได้เจ้า ไม่เลิกรา
ตอนที่ ๑ : ราตรีนี้ไม่ได้เจ้า ไม่เลิกรา
ฟางฟางสาวร่างเล็ก นางแบบสาวชาวไทยวัยยี่สิบสองปี ด้วยใบหน้าที่สวยหวานเต็มไปด้วยความยั่วยวนดึงดูดใจแก่ผู้พบเห็น เธอมีรูปร่างที่ไม่ผอมบางจนเกินไป ทำให้เธอเป็นที่จับตามองของคนทั้งในและนอกวงการ แถมยังไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ในเมืองไทยเท่านั้น ในต่างประเทศเธอเองก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปไม่น้อยเลยทีเดียว และในตอนนี้เธอก็ได้มาเดินแบบให้กับห้องเสื้อที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองจีน
ชุดที่เธอจะต้องสวมในงานเดินแบบวันนี้เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเธอไม่น้อยเช่นกัน จะมีสักกี่คนในสมัยนี้ที่ได้ลองใส่ ‘ชุดนางโลมชั้นสูง’ เดินเฉิดฉายให้ตากล้องจับภาพกัน
ในตอนนี้เธอสวมชุดสีแดงสดที่ช่วยขับผิวของเธอให้น่าสัมผัสเดินกรีดกรายด้วยท่วงทีและรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เธอเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ชมไม่น้อยเลยทีเดียว
ทันใดนั้น! วงจรไฟฟ้าภายในงานก็เกิดความขัดข้องขึ้น ทำให้บริเวณโดยรอดเต็มไปด้วยความมืดมิดและเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของผู้คนในงาน
นางแบบสาวยังคงตั้งสติไว้ได้เป็นอย่างดี เธอไม่ตกใจเหมือนกับคนอื่นๆ เวลาผ่านไปได้ไม่นานนัก เธอก็ล้มหมดสติไป ก่อนที่ร่างของเธอจะค่อยๆ โปร่งแสงและจางหายไปในที่สุด!!
เมื่อร่างของนางแบบสาวหายไปแล้ว ภายในห้องนั้นก็ไม่ได้มืดมิดอีกต่อไป ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ ทุกคนภายในงานกลับมาสนใจงานเดินแบบอีกครั้ง
ไม่มีใครจำนางแบบชื่อดังที่มีชื่อว่า ฟางฟาง ได้อีกต่อไป คล้ายกับว่านางแบบคนนั้น ไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
ภายในหอนางโลมชื่อดังอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง วันนี้เป็นวันที่ซ้อใหญ่แห่งหอนางโลมจะคัดสรรหญิงสาวบริสุทธิ์มาให้ลูกค้าประมูลราคา ยิ่งหญิงสาวคนนั้นมีความงดงามมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำเงินให้นางมากเท่านั้น
ในขณะที่ซ้อใหญ่กำลังคัดเลือกหญิงสาวที่ได้รับการอบรมในทางทฤษฎีมาอย่างเต็มที่แล้ว ก็มีนางโลมคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“อาซ้อคะ ๆ”
“มีอะไร ไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังเลือกเด็กๆ อยู่น่ะ!” ซ้อใหญ่ตวาดใส่อย่างอารมณ์เสียที่มีคนมาขัดจังหวะ
“ข้าขอโทษค่ะ แต่ว่ามีใครก็ไม่รู้มานอนอยู่ที่ห้องของข้า ปลุกอย่างไรก็ไม่ยอมตื่น ข้าเรียกเพื่อนๆ มาช่วยกันแล้วแต่นางก็ไม่ยอมตื่น ซ้อใหญ่จะช่วยไปดูหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยขอร้องด้วยความหวาดกลัวต่อสายตาที่จ้องเขม็งหมายจะลงโทษนาง
“หึ นำไป!”
ภายในห้องแคบๆ ที่ไม่มีการตกแต่งอะไรเป็นพิเศษ สายตาของซ้อใหญ่ก็ไปสะดุดเข้ากับร่างบอบบางที่นอนคว่ำหน้าไม่ได้สติอยู่บนพื้นห้อง
“นี่แม่นาง” ซ้อใหญ่ก้มลงเอามือไปพลักหญิงสาวเบาๆ แต่นางก็ยังคงนอนนิ่งอยู่เช่นเดิม
“ทำยังไงดีคะซ้อ อีกประเดี่ยวลูกค้าของข้าก็จะมาแล้ว” หญิงสาวพูดขึ้นมาอย่างร้อนรน
“เจ้านี่โง่จริงเชียว ก็ให้พวกผู้ชายพานางไปไว้ที่อื่นสิ เอาไปโยนไว้นอกร้านเลยก็ได้” นางหมายจะทำอย่างที่พูดจริงๆ เวลาเป็นเงินเป็นทองจะมัวมาพิรี้พิไรเสียเวลากับคนแปลกหน้าไปทำไม
“แต่ว่า ...” หญิงสาวยังไม่ทันได้พูดอะไรจบ ก็ถูกสายตาของเจ้ใหญ่อุดคำพูดไปเสียก่อน ถึงนางจะสงสารสตรีแปลกหน้านางนี้ แต่นางคงจะต้องเลือกที่จะช่วยตัวเองก่อน
“ไปเรียกพวกผู้ชายมาได้แล้ว”
ในขณะที่หญิงสาวเจ้าของห้องออกไปตามพวกผู้ชายมาช่วยกันพาสตรีแปลกหน้านางนี้ออกไปให้พ้นๆ จากห้อง ซ้อใหญ่ก็ดันไปสะดุดตาเข้ากับใบหน้าที่งามแปลกตาของนางเข้าเสียก่อน
นางเดินเข้าไปใกล้พลิกตัวสตรีแปลกหน้าให้นอนหงาย ก่อนจะเริ่มสำรวจรูปร่างหน้าตา ที่งดงามแปลกตา ตั้งแต่นางได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ ยังไม่เคยเห็นนางโลมคนไหนสวยหยาดฟ้ามาดินเช่นสตรีตรงหน้านี้มาก่อน แม้แต่คุณหนูตระกูลใหญ่ทั้งหลายที่ว่างามนักหนา ก็จะดูหน้าตาจืดชืดไปในทันทีหากได้มาเปรียบเทียบกับแม่นางผู้นี้
เห็นทีวันนี้สวรรค์จะเมตตานางเป็นพิเศษ ส่งหญิงงามมาสร้างกำไรให้กับหอนางโลมของนาง ... รวยเละแน่คราวนี้
“ซ้อใหญ่ ข้าตามพวกผู้ชายมะ ... งะ งามเหลือเกิน” ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยคนางก็ไปสะดุดตากับใบหน้าสวยแปลกตา ที่ไม่ว่าใครก็ต้องหลงใหลและพากันชื่นชมของสตรีแปลกหน้านางนี้เสียก่อน
“เจ้าว่า ... นางคนนี้คืนแรกจะได้เท่าไร” ซ้อใหญ่ดวงตาเป็นประกายเมื่อคิดถึงกำไรที่จะได้มาฟรีๆ ในคืนนี้
“ข้าคิดว่า ค่าตัวทั้งปีของข้า ยังไม่ได้ครึ่งของนางคนนี้เลยซ้อใหญ่”
หญิงสาวเจ้าของห้องแม้จะไม่ได้เป็นนางโลมที่มีชื่อที่สุดในหอแห่งนี้ แต่นางก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีความงามเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว ดังนั้นรายได้ของนางจึงไม่ใช่น้อย ถ้าหากเป็นสตรีนางนี้ล่ะก็ นางเชื่อว่าอีกไม่นานสตรีนางนี้จะต้องเป็นนางโลมที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเสียยิ่งกว่าใครๆ เป็นแน่
“ถ้าเช่นนั้นเราจะช้ากันอยู่ทำไม พานางไปแต่งตัวเร็วเข้า”
“แต่ซ้อคะ ข้าคิดว่านางก็แต่งตัวสวยอยู่แล้วนะ อีกอย่างนางก็ยังไม่ได้สติ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือคะ”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ซ้อใหญ่ก็เห็นด้วยกับหญิงสาวเจ้าของห้อง ใบหน้าของสตรีนางนี้ถูกปรุงแต่งอย่างดี คงไม่มีประโยชน์อะไรหากจะนำนางไปแต่งตัวใหม่ เผลอๆ แต่งออกมาแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะงดงามสู้ของเดิมได้หรือไม่
ใบหน้าหวานสวยแปลกตา ถูกสายสายตาของทั้งชายหญิงนับร้อยจับจ้องอย่างหื่นกระหาย ผู้คนในบริเวณนั้นต่างยื้อแย่งเสนอราคา เพื่อที่จะเป็นเจ้าของสาวงามผู้โชคร้ายในค่ำคืนนี้
หญิงสาวที่ถูกมองว่าเป็นสินค้าหันมองรอบกายด้วยความตื่นตระหนก สภาพภายในบริเวณนั้นมีสีสันสดใส การแต่งกายของผู้คนดูแปลกตา ผู้หญิงหน้าตาสะสวยใส่ชุดแสนวาบหวิวนั่งคลอเคลียกับผู้ชายอย่างเปิดเผย ตรงทางเข้าจะมีโคมสีแดงห้อยอยู่อย่างเป็นระเบียบพร้อมกับมีผู้หญิงคอยยืนต้อนรับ
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะสำรวจบริเวณรอบข้างเสร็จ ก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเรียกร้องความสนใจจากเธอเสียก่อน
“อาซ้อ คืนนี้ให้นางบริการข้าก็แล้วกัน”
“อุ้ยตายแล้ว แขกประจำของหอเราถึงกับเรียกตัวเด็กใหม่อย่างเจ้าเชียวนะ ... ดูแลคุณชายให้ดีๆ ล่ะ อย่าให้เสียชื่อข้าได้” สตรีวัยกลางคนพูดเสียงสูงอย่างมีจริต ก่อนที่จะดึงแขนของสาวให้เดินตามผู้ชายคนนั้นไป
นี่มันอะไรกัน บริการ? เด็กใหม่? ดูแลคุณชาย? เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หรือว่าจะเป็นความฝันงั้นเหรอ
เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงหยิกแขนตัวเองอย่างแรง ก่อนที่จะสะดุ้งสุดตัวเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับ ดวงตากลมโตมีน้ำตาฉาบไว้บางๆ เพราะความเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ และความสับสนกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“เอาล่ะแม่นาง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเรียกใช้บริการเด็กใหม่ ข้าจะสอนเจ้าเองในทุกๆ เรื่อง ไม่ต้องกลัวนะ” ชายคนนั้นพูดขึ้นมา เมื่อได้อยู่กับหญิงสาวเพียงสองคน
“เดี๋ยวนะคุณ ... ปล่อยฉันก่อนสิ!” หญิงสาวพยายามดีดดิ้นเมื่อผู้ชายคนนั้นดึงเธอไปนั่งบนตักของเขา
“อะไรกัน หน้าตาของข้าไม่หล่อเหลาหรอกรึ” เขาถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
‘หล่อสิ หล่อมาก หล่อขั้นเทพ ... แต่ขอเถอะ เวลานี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ช่วยเอามือปลาหมึกแม่น้ำโขงของนายออกไปจากขาฉันทีได้ไหม!! แม่จ๋า!! ช่วยฟางด้วย’
หญิงสาวได้แต่ร้องอ้อนวอนอยู่เพียงในใจเท่านั้น ในตอนนี้ถึงจะขอร้องอ้อนวอนใครให้มาช่วยก็คงจะไม่ทันการเสียแล้ว ในเมื่อตอนนี้มือไม้ของชายหนุ่มเริ่มที่สอดเข้าใต้กระโปรงของเธอแล้วค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาช้าเพื่อต้องการที่จะเร้าอารมณ์สตรีตรงหน้า
โธ่โว้ย! นี่เป็นใครแรกที่ฉันรู้สึกเกลียดชุดที่ตัวเองต้องใส่เดินแบบ
“เอามือออกไปนะไอ้คนบ้า”
โครม!!
ฟางฟางไม่ได้พูดแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เธอลุกขึ้นแล้วพลักร่างสูงตกลงไปจากเก้าอี้ด้วยพลังทั้งหมดที่อดีตแชมป์นักมวยเยาวชนสมัครเล่นคนหนึ่งพึงมี
ด้วยความที่เจ้าของร่างสูงไม่คิดว่าสตรีเอวบางร่างเล็กหน้าตาสะสวยคนนี้ จะมีเรี่ยวแรงมหาศาลไม่ต่างจากพวกทหารชั้นแนวหน้าหลายๆคน ที่เขาเคยฝึกฝนมา ทำให้แม่ทัพตระกูลหยางอย่างเขารู้สึกที่จะเสียหน้าเล็กน้อยเสียมิได้ ที่ประมาทนางเกินไป บางทีเขาอาจจะลองเปลี่ยนความคิดบ้าง ผู้หญิงบางคนอาจจะชอบวิธีการแสดงความเขินอายแบบรุนแรงจนเกินไป เช่นนางผู้นี้ก็เป็นได้
“เจ้าช่างเขินอายได้น่าประทับใจข้ายิ่งนัก” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างไม่เต็มเสียงนัก เพราะยังไม่หายจุกจากแรงพลักของนาง ‘ให้ตายเถอะ นี่ข้าตกเก้าอี้ หรือตกจากหลังม้ากันแน่นะ แต่ไม่เป็นไร นางงามล้ำเช่นนั้น เขาโกรธไม่ลงจริงๆ’
“นายคิดได้ยังไงว่าฉันเขินอาย ฉันรังเกียจ ได้ยินไหมว่า รังเกียจ”
หญิงสาวตะกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าผู้ชายหน้าหนาตรงหน้า หาได้สะทกสะท้านกับคำว่ารังเกียจ ที่เธอจงใจว่าให้เขาแต่อย่างใด
“แม่นาง แค่เจ้าทำตัวนิ่งๆ ข้าก็แทบที่จะกักเก็บความหลงใหลที่มีต่อเจ้าไม่ได้อยู่แล้ว แต่นี่เจ้าเล่นทำท่าทางน่าเอ็นดูแบบนั้น ข้าขอบอกเจ้าตรงๆ แบบไม่มีเขินอายเลยนะ ว่า...”
ฟางฟางมองหน้าชายตรงหน้าที่ค่อนข้างจะดูหื่นจิตพิลึกอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจ ว่าเขาต้องการจะบอกอะไรเธอกันแน่
“ว่าอะไร?”
“ราตรีนี้ไม่ได้เจ้า ไม่เลิกรา”
เมื่อเขาพูดจบ ร่างสูงก็กระโจนเข้าใส่ร่างบางอย่างรวดเร็ว เขาจะประมาทนางไม่ได้เป็นอันขาด ในสนามรบ ประมาทก็คือตาย แต่ในสนามรัก ประมาทก็คืออด!!
+++++++++++++++++++++++++++++++
มาแล้วตอนแรกของเรา
เป็นไงกันบ้าง มีสาระดีเยี่ยมหรือเปล่าคะทุกท่าน ><’’
ปล. อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้าาา
ความคิดเห็น