ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ##....ตื้อนัก รักซะให้เข็ด....##

    ลำดับตอนที่ #1 : @@@...วันแรกของการเรียนกับครอบครัวแสนวุ่นวาย...@@@

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 48


        “นี่แพรว เมื่อไหร่ลูกจะตื่น หา.....” เสียงที่ดูโหดๆ แต่แฝงไปด้วยความเอ็นดู นั่นคือเสียงของพ่อฉันเองแหล่ะ พ่อจะมาปลุกฉันทุกๆเช้าอย่างนี้แหล่ะ แต่....นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย

        

                    “พ่อขา นี่มันกี่โมงแล้วเหรอ” วันนี้วันเปิดเทอมวันแรกของฉันนี่นา กี่โมงแล้วเนี่ย

        

                    “หึหึ ตอนนี้เหรอ เพิ่งจะ7โมง15เองลูก นอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวพ่อไปส่งเจ้าพลับกับไอพุกก่อน” อืม งั้นก็นอนต่อได้อ่ะสิ เพิ่งจา 7 โมง 15 เองนี่...... เฮ้ย 7 โมง 15 สายแล้วอ่ะดิ ฉันไม่ฟังเสียงใครอีกต่อไป ได้แต่ตะโกนบอกให้พ่อรอก่อน แล้วรีบอาบน้ำ แต่งตัว หวีผม แล้วก็วิ่งลงมาจากชั้นบน

        

                     “เอ้า เดินลงมาดีๆก็ได้แพรว เดี๋ยวบ้านก็พังเอาหรอกลูก” นั่นคือเสียงที่บ่งบอกว่ามีอายุค่อนข้างมากแล้ว แม่ฉันเองแหล่ะ ฉันสำรวจไปรอบๆ พบว่าแม่กำลังจัดอาหารเช้าให้ทุกคนในครอบครัวอยู่ พลับน้องชายของฉันที่อายุน้อยกว่าฉันแค่ 2 ปี กำลังนั่งเล่นกับเจ้าปุกปุย สุนัขของฉันเองแหล่ะ ส่วนพี่พุกพี่ชายของฉันที่อายุห่างจากฉัน 2 ปี กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาใกล้ๆโต๊ะอาหาร และคนสุดท้าย...............พ่อนั่นเอง กำลังนั่งอยู่ข้างๆพี่พุก พ่อกำลังนั่งหัวเราะอย่างหยุดไม่อยู่จนต้องเอามือกุมท้องตัวเองเอาไว้ ส่วนสาเหตุที่พ่อหัวเราะน่ะเหรอ ฉันไม่รู้หรอก แต่ที่ฉันรู้นั้นคือ ฉันกำลังจะไปโรงเรียนสาย

        

                     “พ่อทำไมมานั่งหัวเราะอยู่ตรงนี้ล่ะคะ นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย แพรวกำลังจะไปโรงเรียนสายนะ” นั่นน่ะสิ ทำไมไม่เตรียมตัวไปโรงเรียนเนี่ย แล้วทำไมทุกดูสบายใจอย่างนี้ล่ะ นี่มันสายแล้วนะ

        

                     “ฮะฮะ สายอะไรลูก หึหึ ดูนาฬิกาสิ หึหึ นี่มันเพิ่งจะ 6 โมงครึ่งเองนะ จะรีบไปไหน ฮึฮึ” หา... 6 โมงครึ่ง ฉันหันไปดูนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของฉัน 6 โมงครึ่งจริงๆด้วย นี่ก็หมายความว่า.... ฉันหันไปมองดูบุคคลที่กำลังนั่งหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย

        

                     “นี่พ่อหลอกแพรวเหรอคะ!” ฉันมองหน้าของพ่อที่คนอื่นดูว่าโหด น่ากลัว และดุมาก แต่จริงๆแล้วก็...... อย่างที่เห็นนี่แหล่ะ

        

                     “พ่อไม่ได้หลอกนี่ลูก ก็แค่อยากให้หนูไปโรงเรียนทันกับเค้าซักที หึหึ” พ่อยังหัวเราะน้อยๆ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเก่า

        

                     “ไม่เอาน่ายัยแพรว พ่อเค้าก็แค่อยากจะให้เธอไปโรงเรียนแต่เช้าจริงๆหนิ” นั่นคือเสียงของพี่พุก แหม เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจริงเลย

        

                    “ใช่ๆ พี่แพรว ผมจะได้ไปโรงเรียนเช้าๆไง” และอีกหนึ่งคะแนนเสียง ส่งผลให้พ่อชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ไป เหอะๆ ม่ายช่ายๆ นั่นก็คือคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของน้องพลับสุดที่รัก แต่รักไม่สุดของฉันเองแหล่ะ เข้าข้างกันจริงเลย

        

                    “เอ้าๆ มัวแต่เถียงกันอยู่นั่นแหล่ะ อาหารเสร็จแล้วจ้ะ ทานกันได้แล้ว” แม่จัดอาหารเสร็จแล้ว แล้วทุกคนก็กำลังจะเคลื่อนย้ายตัวเองไปที่โต๊ะอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นที่สำหรับพูดคุยกันในครอบครัวของฉันเลยล่ะ

        

                    และทุกคนก็ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย  อ้อ ฉันลืมบอกไป

        

                    ฉัน แพรว แพรวพรรณ รัตนสุภาพร อายุ 16 ปีค่ะ เรียนอยู่ม.4 ปีนี้ฉันเพิ่งย้ายมาเรียนที่เดียวกับพี่พุกและน้องพลับ ด้วยเหตุที่ว่า พ่อขี้เกียจไปส่งหลายๆที่ หุหุ ล้อเล่น แม่กลัวว่าฉันจะต้องกลับคนเดียวหรอก

        

                    พ่อ อนุสรณ์ รัตนสุภาพร อายุ 47 ปี ทำงานเป็นคุณหมอ พ่อจะเป็นนายแพทย์ที่เก่งมากคนนึงเลยล่ะ จึงไม่แปลกที่จะเห็นพ่ออยู่ในทีวีบ่อยๆ พ่อดูจะเป็นคนที่เงียบขรึมเมื่ออยู่ที่ทำงาน แต่เมื่อกลับมาบ้าน จะเป็นแบบว่า... เหอะๆ อย่างที่ผู้อ่านได้เห็นกันล่ะ

        

                    แม่ พัชรภา รัตนสุภาพร อายุ 45 ปี แม่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน คอยดูแลทุกๆคนในครอบครัว แม่เป็นคนที่ใจดีมากคนนึง มีน้ำใจ ท่านจะคอยสั่งสอนลูกๆทุกคนให้อยู่ในกฎระเบียบ แต่ก็ไม่เคร่งครัดเกินไป เพราะเหตุนี้ เวลาฉันมีอะไรที่ไม่สบายใจ ฉันก็จะมาปรึกษาแม่ตลอด

        

                    พี่พุก อัฐพล รัตนสุภาพร อายุ 18 ปี อยู่ม.6 พี่เป็นคนที่เก่งมากๆ แล้วก็เป็นคนที่ใจดีมากด้วย ถึงแม้พี่จะกวนประสาทฉันเป็นบางเวลาก็เหอะ  จากการที่พี่พุกเป็นคนที่เรียนเก่ง นิสัยดี บวกหน้าตาที่สาวเห็นเป็นต้องละลาย ก็เลยไม่แปลกที่พี่จะเป็นคนที่ป็อปมากเมื่ออยู่ที่โรงเรียน และอีกอย่างนึงที่ครอบครัวฉันภูมิใจมากที่สุดคือ พี่พุกได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนล่ะ แต่อีกอย่างนึงที่ฉันภูมิใจในตัวพี่มากที่สุดน่ะเหรอ ก็ตอนนี้พี่ยังไม่มีแฟนไงล่ะ หุหุ เพราะฉันกลัวจะมีใครมาแย่งความรักที่พี่มีให้ฉันไปน่ะสิ ฉันจึงบอกพี่ว่า ถ้าพี่มีแฟนฉันจะไม่คุยกับพี่อีกเลย ฉันเป็นคนที่พูดจริงทำจริง พี่เลยไม่กล้ามีแฟนตั้งแต่นั้นมา อิอิ

        

                    น้องพลับ อัครพล รัตนสุภาพร อายุ 14 ปี อยู่ม.2 พลับเป็นน้องที่ดีคนนึง เป็นคนเรียนเก่ง นิสัยเป็นเลิศเลยล่ะ หน้าตาน่ะ ก็ไม่ต้องพูดอีกแหล่ะ ดีทุกๆอย่าง ทำให้ในวันวาเลนไทน์นั้นพ่อต้องเอารถมารับเลย เพราะเอาของกลับบ้านมาไม่หมด เหอะๆ แล้วก็เหมือนกรรมตามทัน พลับจะหวงฉันมากพอๆกับที่ฉันหวงพี่พุกเลย

        

                    ฉัน พี่พุก และพลับขึ้นรถหมดแล้ว พ่อจึงขับรถพาพวกเราไปส่งที่โรงเรียน ตลอดทาง พ่อจะชวนคุยตลอด เพื่อให้บรรยากาศไม่น่าเบื่อ และเมื่อใกล้จะถึงโรงเรียน พี่พุกก็พูดกับฉันว่า

        

                   “แพรว เดี๋ยวพี่ไปส่งให้ที่ห้องเรียนนะ เธอจะได้รู้จักห้อง” ฉันพยักหน้ารับ และยิ้มน้อยๆ

        

                   “ไม่เอาพี่พุก ผมไปดีกว่า พี่เป็นประธานฯ มีงานเยอะ” จะเป็นเสียงใครไม่ได้นอกจากพลับ ฉันล่ะเบื่อจริงๆเลย เวลาที่สองคนนี้เถียงกัน

        

                    เมื่อรถจอดลงที่หน้าโรงเรียนของฉัน ฉันจึงไหว้พ่อและถือกระเป๋าลงจากรถอย่างรวดเร็ว เพราะเบื่อสองคนนั้นทะเลาะกัน ฉันเดินเข้าโรงเรียน และก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์

        

                    “ฮัลโหล ต้าร์เหรอ แกอยู่ไหนอ่ะ”คนที่ฉันโทรไปก็คือเพื่อนสนิทของฉันเอง แต่ตั้งแต่ประถมแล้ว ตอนม.1 เราก็เรียนคนละโรงเรียน แต่ตอนนี้อยู่โรงเรียนเดียวกันแล้ว

        

                    “แพรวหรอ เราอยู่ตรงบอร์ดที่เค้าคัดห้องอ่ะ แกอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวจะได้บอกทางให้” อืม แล้วฉันอยู่ไหนเนี่ย เหอะๆ

        

                    “อือๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปหา”

        

                    “อือ งั้นแค่นี้นะ”

        

                    เฮ้อ แล้วฉันจะไปยังไงล่ะเนี่ย แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเรียกชื่อฉันอยู่ ฉันจึงหันไป เห็นพี่พุกกำลังเดินมาทางฉันอยู่

        

                    “มาอยู่ตรงนี้เอง หาซะแทบแย่ จะไปที่บอร์ดใช่ป้ะ เดี๋ยวพี่พาไป” แล้วพี่พุกก็เอากระเป๋าจากมือฉันไปถือ แล้วมืออีกข้างก็จับมือฉันจูงไปตามทาง อย่างกับเป็นเจ้าปุกปุยเลย

    ระหว่างทางเดิน ฉันรู้สึกได้ว่ามีสายตาอำมหิตจ้องมาที่ฉันเป็นร้อยคู่เลย หุหุ สงสัยจะอิจฉาที่ฉันได้จับมือพี่พุกล่ะสิ พี่จับมือฉันแน่นไม่ยอมปล่อย เอ้อ ฉันลืมเลย พี่พุกบอกว่า ที่โรงเรียนไม่มีใครรู้ว่าพี่พุกเป็นพี่ของพลับ ฉันจึงคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างนึง เลยกระซิบบอกพี่พุก

        

                    “นี่ๆ พี่พุกๆ พี่อย่าบอกนะว่าแพรวเป็นน้องพี่ แล้วก็เป็นพี่ของพลับอ่ะ นะนะ” ฉันเห็นพี่พุกขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก็พยักหน้ารับ

        

                     แล้วเราก็เดินฝ่าสายตาอำมหิตมาที่บอร์ดจนได้ พี่พุกบอกให้ฉันรออยู่ห่างจากบอร์ดพอสมควร และพี่พุกก็เดินไปที่บอร์ดโดยบอกว่าจะไปดูให้

        

                     “แพรวๆ เราอยู่นี่” ฉันได้ยินเสียงเรียกจึงหันไป

        

                     “อ้าวยัยต้าร์ เฮ้อ กว่าจะเจอกัน” ฉันยิ้มเมื่อเจอเพื่อนสนิทของฉัน

        

                     “แกอยู่ห้องไรอ่ะ เราอยู่ห้อง 2 แหล่ะ เสียดายว่ะ น่าจะได้อยู่ห้อง 1 เฮ้อๆๆๆๆ” ต้าร์บ่นอย่างเสียดาย

        

                     “เราไม่ไม่รู้เหมือนกันว่ะ พี่พุกกำลังไปดูให้อยู่” แล้วพี่พุกก็เดินมา

        

                    “แพรว เธอได้อยู่ห้อง 2 เก่งมาก” พี่พุกพูดพร้อมกับยิ้มอย่างดีใจ

        

                    “ขอบคุณค่ะ”

        

                    “งั้นพี่ไปแล้วนะ มีเพื่อนแล้วใช่ป้ะ” ฉันพยักหน้า แล้วพี่พุกก็เดินไป

        

                    แล้วเสียงออดก็ดังขึ้น ฉันเดินไปเข้าแถวพร้อมกับต้าร์ เมื่อเคารพธงชาติเสร็จ แล้วผ.อ.ก็ขึ้นมาพูดต้อนรับนักเรียนใหม่ที่เข้ามาปีนี้ และพี่พุกก็ขึ้นไปพูดด้วย มีเสียงกรี๊ดดังขึ้นเล็กน้อย และก็มีบางสายตาจ้องมาที่ฉัน ต้าร์ก็พ้อถึงพี่พุกใหญ่เลย เมื่อเสร็จอาจารย์ก็ปล่อยขึ้นห้องเรียน



                    ในห้องเรียน อาจารย์ให้ฉันออกมาแนะนำตัว ฉันก็พุดอย่างเก้ๆกังๆ เพราะฉันเป็นคนขี้อาย

        

                    “เอ่อ... ส สวัสดีจ้ะ ฉะ ฉันชื่อแพรวพรรณค่ะ เรียกว่าแพรวก็ได้นะ” หลังจากพูดเสร็จมีเสียงปรบมือดังขึ้นเล็กน้อย ที่ฉันเห็นจะเป็นผู้ชาย ส่วนผู้หญิงน่ะเหรอ เหอะๆ จ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ฉันเดินกลับมานั่งที่ ฉันได้นั่งอยู่ข้างๆกับต้าร์

        

                    เมื่อเรียนเสร็จคาบเช้า ฉันจึงชวนต้าร์และปอนด์แฟนของต้าร์ไปกินข้าว เมื่อกำลังเดินออกมา ฉันได้ยินเสียง และมีคนรุมอยู่หน้าห้องพอประมาณ ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง เมื่อเดินไปถึงความสงสัยจึงไม่มีอีกแล้ว เมื่อฉันเห็นพลับกำลังถูกคนรุมอยู่ เหอะๆ เนื้อหอมกันจริงๆ

        

                    “แพรวๆ ทางนี้” พลับไม่ชอบเรียกฉันว่าพี่ จึงเรียกแพรวมาตลอด ฉันเดินไปหาพลับ ก็ได้เห็นสายตาอำมหิตอีกแล้ว เหอะๆ มาเรียนวันแรกของฉัน ฉันเห็นพลับกำลังทำท่าหงุดหงิด และกำลังปัดมือของผู้หญิงทั้งหลายออกจากตัว

        

                    “โอ๊ย อะไรกันวะ แพรว เร็วๆหน่อยดิ” พลับบอกกับฉันประโยคหลัง ฉันจึงเดินไปหาพลับ

        

                    “มีไรเหรอ” ตอนนี้ต้าร์ไปแล้ว ฉันต้องไปกินข้าวคนเดียวใช่มั้ยเนี่ย เฮ้อ

        

                    “ปะ ไปกินข้าวกัน อุตส่าห์รอตั้งนานแน่ะ เค้าเมื่อยขาเลยเห็นมั้ยเนี่ย” พลับพูดและฝ่าวงล้อมออกมา จูงหรือถ้าสำหรับฉันก็เรียกว่าลากมือฉัน เดินลงบันไดไป

        

                    เมื่อถึงโรงอาหาร พลับก็หาโต๊ะให้ และให้ฉันนั่งรออยู่ที่โต๊ะ สักพักพลับก้อเดินมาพร้อมกับข้าวจานนึง เมื่อถึงโต๊ะก็วางไว้ข้างหน้าฉัน

        

                    “อะ แพรวกินเร็วดิ มองหน้าทำไมเหรอ มีไรติดอ่ะ” พลับทำหน้าตาเลิกลัก ฉันจึงหัวเราะออกมา

        

                    “เปล่าๆ ไม่มีไร พลับไม่กินเหรอ”

        

                    “ไม่อ่ะ แพรวกินเหอะ เค้าไม่หิว” ฉันไม่ยอมให้น้องฉันอดข้าวกลางวันหรอกน่า ฉันจึงรีบกินไปก่อนครึ่งจาน แล้วก็ส่งให้พลับ

        

                    “แพรวให้เค้าทำไมอ่า เค้าไม่หิวนะ” พลับดันจานออกห่างจากตัว    



                    “ไม่ได้ๆ กินเลย หรือจะให้พี่ป้อน” ฉันพูดเล่นๆ ลองเชิงดู

        

                    “จริงเหรอ กินก็ได้ อ่ะๆ อ้า” นั่นพูดเล่น มันดันเอาจิงซะงั้นเลย พลับทำถ้าอ้าปาก ฉันจึงจำใจต้องป้อนไป ไม่งั้นมันไม่ยอมกินแน่ๆ

        

                    เมื่อทานข้าวเสร็จ พลับก็เดินมาส่งฉันที่ห้องเรียน แล้วก็เดินไป ฉันกลับไปนั่งที่โต๊ะข้างๆต้าร์ แล้วก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เพราะง่วงมาก สักพักก็มีมือๆนึงมาสะกิดฉัน ฉันจึงลุกขึ้นนั่ง เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งน่าจะรุ่นเดียวกับฉัน ฉันมองด้วยความสงสัย

        

                    “นี่เธอ เธอรู้มั้ยว่าพี่พุกน่ะ เค้าไม่ยอมมีแฟนหรอก ไม่ต้องไปยั่วเค้าหรอกนะยะ”

        

                    “ทำไมเหรอ”

        “แหม ไม่รู้จริงๆด้วย ฉันจะบอกให้นะ พี่พุกน่ะโดนน้องเค้าไม่ไห้มีแฟนย่ะ เค้าก็รักน้องเค้ามากด้วย” แหม ไม่รู้จักฤทธิ์แพรวพรรณซะแล้ว หาเรื่องใครไม่หา มาหาแพรวพรรณ หึหึ แต่ฉันสัญญากับคนคนนั้นไว้ว่า ฉันจะไม่ทำนิสัยอย่าง.....อีก ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ตาม หึ แต่ขอลองใช้ฝีปากดูก่อนละกัน

        

                    “ทำไมเหรอ แล้วไงล่ะ รักน้องแล้วทำไม” หึหึ ให้รู้ซะบ้างว่านางเอกอย่างฉันก็เป็นนางร้ายได้เหมือนกัน ร้ายมากด้วย

        

                    “แหม หน้าหนาอย่างเดียวไม่พอเหรอยะ ยังเอาหน้าโง่มาอีก แต่คนหน้าสวยอย่างฉันนะ จะใจบุญตอบให้ก็ได้ พี่พุกน่ะรักน้องเค้ามาก มากกว่าเธอ เพราะฉะนั้นพี่พุกเค้าต้องเชื่อน้องเค้ามากกว่าเธอ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพี่พุกถึงไม่ยอมมีแฟน รู้ไว้ซะด้วยนะยะ” แหม มาเป็นชุดเลยนะยะ แต่ขี้เกียจเถียงกะมันแล้ว น่าเบื่อจะตาย แถมต้องมาเถียงกับคนปากมากน่ะ สุดยอดของความเซ็งเลย

        

                   “ย่ะ” ฉันตอบมันเองแหล่ะ

        

                   ฉันเห็นมันทำท่าจะพูดต่ออีก แต่โชคช่วย เสียงออดดันดังซะก่อน แล้วอาจารย์ก็เดินเข้าห้องมา มันจึงเดินหนีไปนั่งที่โต๊ะ และหันมามองฉันด้วยสายตาที่อ่านว่า แกกับฉันจะต้องเห็นดีกัน





                                 //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////



                                      ถ้าสนุกก็ช่วยกันโพสหรือให้คะแนนกันหน่อยนะค้า เรื่องนี้เราแต่งเป็นเรื่องแรกเลยอ่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×