ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังลูกๆของเราทั้งหลาย >_<)/

    ลำดับตอนที่ #1 : Danganronpa Reminisce (SYOC)

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 61







    "ถ้าอยากรอดก็ต้องทำให้เต็มที่ นี่ไม่ใช่เกมมือถือที่ตายแล้วเกิดใหม่ได้"



    ชื่อ : ฮิมิสึโนะ อายะ

    เพศ : หญิง

    อายุ : 17

    น้ำหนัก : 57 กก.

    ส่วนสูง : 170 ซม.

    รูปร่างลักษณะ : ผิวขาว ผมยาวสีดำเงายาวประบ่า ดวงตาสีเขียว

    ชุดนักเรียนที่สวมใส่ : เสื้อแขนยาวสีเท่าอมฟ้า มีกระเป๋าให้สอดมือเข้าไปได้บริเวณหน้าท้อง ใส่เสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มยาวลงมาถึงต้นขา กางเกงยายาวสีดำ รองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม สวมหมวกแก๊ปสีดำตามรูป


    นิสัยโดยทั่วไป : เป็นคนร่าเริงแจ่มใส เป็นมิตร พูดมากแต่คุยด้วยง่าย กวนทีนแต่ไม่ค่อยเล่นมุก(เพราะเล่นทีไรแป้กทุกทีเลยขอไม่เล่นดีกว่า) มักพูดติดตลกซะมากกว่า ยิ้มแย้มตลอดเวลา ใจเย็น เข้มแข็ง อดทน แมนๆห้าวๆ ลุยๆ พร้อมในทุกสถานการณ์ มั่นใจตนเอง เชื่อมั่นว่าแผนของตนดีพอและจะทำได้สำเร็จแน่นอน สาววาย ชอบจิ้นชxช ไม่ไว้ในใครง่ายๆ เปิดใจรับใครเป็นเพื่อนสนิทจริงๆได้ง่ายแต่หากจะให้เปิดใจบอกความรู้สึกจริงๆในใจนั้นยากมาก เป็นคนที่เก็บความรู้สึกต่างๆไว้คนเดียว ถึงทุกข์ก็แสดงออกเป็นสุข ทำให้ไม่ค่อยมีใครคิดก่อนพูดกับเธอเท่าไหร่ คำบางคำที่พูดออกมาจึงกระทบจิตใจเธออย่างจังโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว เป็นคนที่แถและแหลเก่งพอๆกับโอมะเลยทีเดียว คำโกหกแต่ละคำของเธอเป็นธรรมชาติมาก เรียกได้ว่าเธอคือลูกศิษย์ของโอมะนั่นเอง(แต่ก็ไม่ได้ทำตัวชั่วร้ายแบบโอมะคุงนะ!)


    ข้อดี : เป็นคนมีอารมณ์ขัน ทำให้เวลาอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสนุก คุยด้วยแล้วลืมความเครียดที่มีไปเสียสนิท แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ห้าวๆ กล้าแสดงออก

    ข้อเสีย : มั่นใจในตนเองเกินไปจนไม่ฟังใคร หัวรั้นหน่อยๆ บางทีก็พูดจ้อรัวเร็วเสียจนฟังไม่ทัน

    ความสามารถ(อื่นๆนอกจากด้านที่เป็นสุดยอดนักเรียน) : เข้าใจความรู้สึกคนอื่น อ่านสีหน้าคนอื่นๆออก รู้ว่าควรทำอย่างไรกับความรู้สึกของคนอื่นๆ(ทั้งปลอบ ทำให้ขวัญผวา ทำให้โกรธ ทำให้ลงเอยในความรักกับใครอีกคน)


    สิ่งที่ทำไม่ได้/ไม่ถนัด : อยู่เฉยๆ (นางเป็นพวกอยู่ไม่สุขต้องหาอะไรทำตลอดเวลา มือไม้ไม่เคยอยู่นิ่งๆได้ แต่ไม่ใช่ว่านางจะเดินไปป่วนเขาไปทั่ว เพียงแต่ไม่สามารถนั่งนิ่งๆไม่ขยับได้ อาจจะต้องดีดนิ้ว กระทืบเท้าเบาๆ ฮัมเพลง เดาะลิ้น ฯลฯ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน)

    วิชาที่ชอบ/ถนัด : สังคม , ภาษาญี่ปุ่น , พละ 

    วิชาที่ไม่ชอบ/ไม่ถนัด : เคมี

    เป็นสุดยอดนักเรียนด้าน : แม่สื่อ


    วีรกรรมในอดีต(ทำไมถึงได้รับคัดเลือกให้เป็นสุดยอดนักเรียนทางด้านนั้น) : เป็นแม่สื่อเชื่อมความรักระหว่างใครหลายๆคน ตอนแรกเริ่มจากเป็นแม่สื่อให้เพื่อนและครูในโรงเรียน แล้วพัฒนามาเปิดเป็นบริษัทหาคู่ของตัวเองโดยได้รับการสนับสนุนจากพี่สาวตัวดี ชื่อบริษัทว่า 'Love for you' เธอจะหาคนที่คิดว่าเหมาะสมกับลูกค้าของเธอแล้วจัดการเชื่อมสัมพันธ์ให้ งานนี้ทำให้เธอมีชื่อเสียงและได้ค่าจ้างมากจนรวยมากในระดับหนึ่ง อีกทั้งเธอเคยเชื่อมความสัมพันธ์ให้ประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจจนเขาได้แต่งงานมีลูกแล้วอีกด้วย


    ประวัติตัวละคร : อายะเคยโดนหักอกจากหนุ่มที่เธอรักหมดใจ สาเหตุมาจากเขาเป็นเกย์และไม่สนใจผู้หญิง เธอรู้สึกเศร้าเอามากๆจนไม่กินไม่นอนไปเป็นอาทิตย์ เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องไม่ออกไปไหนจนใครต่อใครพากันเป็นห่วง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็ค่อยๆเยียวยาความเจ็บปวดทางใจของเธอได้และกลับมายิ้มแย้มอีกครั้ง อายะไม่อยากให้มีใครต้องเจอประสบการณ์แย่ๆแบบนี้เหมือนเธอ จึงตัดสินใจมาเป็นแม่สื่อสื่อรักให้คู่ที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้มีใครต้องมาเจ็บช้ำกับการโดนหักอกเหมือนเธออีก


    ครอบครัว : ครอบครัวของอายะเป็นครอบครัวเล็กๆ มีพี่สาวหนึ่งคนเรียนมหาลัยปี3 เป็นคนทุ่มเทกับทุกๆอย่าง และเป็นพี่ที่คอยให้คำปรึกษาอายะเวลาเธอมีปัญหา พี่ของเธอมีแฟนหนุ่มในคณะเดียวกันซึ่งคบกันมาได้2ปีแล้ว พ่อของเธอเป็นวิศกร ส่วนแม่เป็นครูสอนวิชาสังคมในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ไม่มีลุง ป้า น้า อา ส่วนปู่ย่าก็ตายไปหมดแล้ว ทั้งครอบครัวรักใคร่กลมเกลียวกันดีไม่มีปากมีเสียง


    สิ่งที่ชอบ : วาย , BL , โลก2Dทั้งหลาย (แนวแอคชั่น , เฮอร์เรอร์ , เอาชีวิตรอด , คอมเมดี้ , สะท้อนสังคม และดราม่า) , ของหวานทุกชนิด , ช่วงพักเบรคหลังทำงานหนัก , การกวนทีนคนรอบข้าง , รอยยิ้มของลูกค้าของเธอ 

    สิ่งที่ไม่ชอบ : คนที่ชอบเอาเรื่องในอดีตของคนอื่นมาพูด , คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น , สาววายที่จิ้นอย่างไร้ขอบเขตจนเข้าขั้นน่ารำคาญ , ปลาดิบ (กินทีไรท้องเสียทุกที)

    สิ่งที่กลัว : ความผิดพลาด , ต้องอยู่คนเดียวในสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบสุดๆ , กลัวว่าจะเผลอแสดงความทุกข์ออกไปให้ใครเห็น , งู

    สิ่งสำคัญในชีวิต : ชีวิตของเธอเอง , ความสุข , ของสะสม(พวกนิยายและโดจินมากมายเต็มบ้าน) , บริษัทของเธอ , ครอบครัว , หมวกแก๊ปสีดำที่มักใส่ประจำ มันเป็นสินค้าlimited จากงานมหกรรมหนังสือที่เสี่ยงโชคได้มา


    คำพูดของตัวละคร

    เมื่อมีความสุข : 


    "กรี๊ดดดดด!! พี่คะ…" (เช่น พี่คะหนูสอบติดแล้ว! พี่คะเขากอดกันค่ะ!! พี่คะโดจินออกใหม่ค่าาาา!!)


    "โอววววว! มันช่างมหัศจรรย์สุดยอดล้ำลึกจนต้องร้องโอ้มายก๊อต!"


    "... พูดไม่ออกเลยค่ะ คือแบบ มันสุขใจจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไม่รู้จะเรียบเรียงประโยคยังไงเลยอ่าาาา!"


    "ดีใจยิ่งกว่าไม่เกลือกาชาอีกโว้ยยยย!!"


    "เฮ้ย... มันดีย์อ่ะ!"


    "ฮ่าๆๆๆ มันต้องแบบนี้เซ่!!"


    "สาววายคนนี้กำลังเลือดหมดตัวค่ะ!! ขอเลือดกรุ๊ปYด่วน!!"


    เมื่ออยู่ในศาล :


    "มันก็เหมือนกับในนิยายแหละน่า คดีแบบนี้น่ะ...(บลาๆ อธิบายเท่าที่คิดได้)"


    "เฮ้ยๆๆๆๆ โน้ววววว ไม่ใช่แล้วค่ะคุณเพื่อนที่รัก มันผิดค่ะมันผิดมาก มันต้องได้รับการแก้ไข!!"


    "เอิ่ม... ก็รู้นะว่าสถานการณ์มันตรึงเครียด แต่เดธแอร์แบบนี้อายะไม่ปลื้มค่ะ..."


    "นี่พวกนายน่ะ! แทนที่จะเงียบแล้วคิดเรื่องต่างๆในหัวคนเดียวสู้พูดออกมาไม่ดีกว่าเหรอ? พวกนายคิดเรื่องอะไรปะติดปะต่อรูปคดีไปแค่ไหน ฉันไม่มีความสามารถในการอ่านใจนะจะได้เข้าใจเหมือนที่พวกนายเข้าใจน่ะ!! เห็นใจยัยโง่ตรงนี้หน่อยสิค้าาาา!!"


    "เพิ่งรู้ว่า(ชื่อคน)คิดอะไรแบบนี้เป็นด้วย!!"


    "ให้โอกาสพูดใหม่... เก็บประโยคเมื่อกี้ของนายไปเถอะ"


    "หยุดหาข้ออ้างถ้าไม่มีหลักฐาน! ฉันรู้ว่านายไม่อยากถูกหาว่าเป็นฆาตกร! แต่ยิ่งอ้างเท่าไหร่นายก็ยิ่งน่าสงสัยเท่านั้นแหละ!"


    "จะคิดว่าฉันเป็นฆาตกรก็ได้ มันไม่ผิดหรอก ในเมื่อฉันมันน่าสงสัยจริงๆ แต่โทษทีนะ พอดีฉันมีหลักฐานว่าฉันไม่ใช่ฆาตกรน่ะนะ"


    "เอิ่ม... ข้อสันนิฐานนั่นมันอะไร...?"


    "ปุจฉา...ทำไม(ประเด็นที่เธอกำลังสงสัย) วิสัจนา...หรือว่า(ข้อสันนิฐานของเธอ)"


    เมื่อเศร้า :


    "..." เงียบ ไม่แสดงอารมณ์ ไม่คุยกับใครแต่ไม่ร้องไห้ ถ้าเศร้ามากๆก็ขังตัวเองไว้ในห้องแต่ก็ยังคงระวังเรื่องฆาตกรอยู่ หากเศร้าเธอจะระวังตัวมากขึ้นอีกเท่าตัว เศร้าได้แต่ไม่อ่อนแอ เงียบเพียงเสี้ยววิแล้วก็ยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นยกเว้นหนักจริงๆถึงจะออกอาการเก็บตัวชัดเจน


    เมื่อโกรธ :


    "..." เงียบแล้วเดินจากไป ใช้สายตาบอกว่ากำลังโกรธ สงบสติอารมณ์ด้วยตนเองไม่พยายามมีปากเสียงใดๆ หรือถ้าจะพูดก็คงพูดแค่คำเดียวสั้นๆ เช่น "น่าเบื่อ" "รำคาญ" แล้วเดินจากไป


    แนะนำตัว :


    "คนนิจิวะ สวัสดี อันยอง ฮัลโหล หนีห่าว อ๊ะ! มันก็ความหมายเดียวกันนี่นะ... ฉันจะพูดไปทำไมเยอะแยะเนี่ย ฉันอายะ ฮิมิสึโนะ อายะ เรียกอายะจังก็ได้ แต่อยากให้เรียกอายะมากกว่า แต่ถ้าจะให้ดีเรียกฉันว่า 'อายะคุง' นะ!!  แล้วก็ขอเถอะอย่าเรียกกันด้วยนามสกุลเลย มันไม่ชินอ่า เป็นสุดยอดนักเรียนม.ปลายด้านแม่สื่อ ใครอยากได้คู่มาทางนี้จะได้ไม่เหงาในวันวาเลนไทน์ ฉันจะหาคนที่เหมาะสมให้พวกนายเอง! แต่รสนิยมฉันมันก็ค่อนข้างแปลกไม่เหมือนคนอื่นเขาน่ะนะ อ้อ! ลืมบอกไป สาววายนะค้าาาา!!"


    ดีใจ :


    "ดีใจกว่าโดวายคู่ที่ชอบออกก็นี่แหละค่าาาา!!"


    "อัยย่ะ!!"


    "นอนตายตาหลับแล้วโว้ยยยยยย!"


    "อ๊ากกกกกก! สุโค่ยยยย!! อเมซิ่งเจแปนสุดๆ!!"


    "กรี๊ดดดดด!! สาววายจิไม่ทน!" หากอยู่บนเตียงหรือโซฟานางจะแดดิ้นไปมา


    "กระซิก... ปลื้มปิ่มสุดๆเลยค่ะ" ทำท่าเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตา(ทั้งที่นางไม่ได้ร้องไห้)


    "ดีมากลูกแม่!" ชูนิ้วโป้ง


    "โอ๊ยยยย! แบบนี้เจ้ชอบบบบ" ป้องปากหัวเราะคิกคัก



    เสียใจ :


    "..." ไม่พูดอะไรทำหน้านิ่งๆ ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    "งั้นเหรอ..." พูดเสียงแผ่วเบาเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าคุยกับคนอื่น ก่อนจะทำตัวร่าเริงเหมือนไม่เป็นอะไร


    ประหลาดใจ :


    "ณ จุดนี้ อายะไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรจากอายะค่ะ..."


    "วอท!?"


    "เอาจริงเดะ!?"


    "เฮ้ย!"


    "Why are you do this to me!? Whyyyyyy!?"


    "ควักมือถือมาถ่ายรูปแปป..."


    "Jump scare ในหนังยังน่าตกใจน้อยกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้เลย!!"


    "ห๊ะ...?"


    "... คือตกใจจนกินจุดเลย..."


    โกรธ :


    "เสือก!!" พูดคำเดียวสั้นๆ น้ำเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดแล้วเธอก็เดินจากไป


    "..." ไม่พูดอะไรแต่มองด้วยสายตาอำมหิต หรือไม่ก็เดินหนีไปเลย


    "รำคาญ"


    ถ้าโกรธ อายะจะไม่พูดอะไรแต่ใช้สายตาสื่อความรู้สึกโกรธของเธอหรือไม่ก็จะเดินหนีหายไปโดยไม่มีปากเสียงกับใครทั้งนั้น เธอคิดว่าเธอควรสงบสติอารมณ์ด้วยตนเองดีกว่าระเบิดมันออกมา หากเธอจะพูดอะไรตอนโกรธจึงมักเป็นเพียงคำสั้นๆเพียงคำเดียวเท่านั้น โอกาสที่จะเห็นเธอระเบิดออกมามีน้อยๆมากๆ เรียกว่าไม่มีเลยดีกว่าเพราะเธอไม่เคยระเบิดความโกรธของเธอออกมาเลย แต่หากมีใครทำให้เธอระเบิดล่ะก็เธอจะพูดจ้อว่าสิ่งที่ทำมห้เธอโกรธโดยไม่ใช้คำหยาบแต่เจ็บมาก เช่น  "โรงเรียนคิโบกามิเนะนี่เลือกนักเรียนแค่จากความสามารถจริงๆสินะ เพราะนอกจากความสามารถพวกนั้นแล้ว ทั้งจิตใจ คำพูดหรือกรกระทำ มันต่ำยิ่งกว่าขอทานข้างถนนเสียอีก"


    เพราะงั้นเมื่อเธอโกรธสิ่งที่ควรทำคือปล่อยให้เธออยู่คนเดียวสักพักโดยไม่เข้าไปยุ่งกับเธอ แล้วเธอจะกลับมาเป็นปกติเอง แต่หากเข้าปยุ่งกับเธอมากๆเข้า(ถ้ายังไม่ระเบิด)ก็อาจพิการแขนขาหักสักเล็กน้อย อย่างน้อยๆก็ฟันหลุดแหละนะ...


    สิ่งที่ทำให้เธอโกรธมากจนถึงขึ้นระเบิดได้คือการพูดจี้จุดเรื่องรักแรกที่ถูกหักอกของเธอ นอกนั้นเธอมักจะออกอาการเฉยๆเสียมากกว่า


    ตอนพบศพ :


    "กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! ไม่นะ!! ทำไม!?" (สำหรับศพแรก)


    "ก...กรี๊ดดดดด!! ไม่นะ! อีกแล้วเหรอ!?" (ศพที่สอง)


    "อะ... อะ.. อึก!! ม...ไม่เอาแล้ว... ทำไมต้องฆ่ากันตลอดแบบนี้ล่ะ!?" เอามือปิดปากแล้วถอยหลังออกห่างจากศพก่อนจะเบือกหน้าหนี (ศพที่สาม)


    "เฮือก!!" เอามือปิดปากแล้วถอยหลังออกห่างจากศพ (ศพที่สี่)


    "อะ...!? รายที่ห้าแล้วสินะ..." หลับตาลง ส่ายหัวเบาๆ (ศพที่ห้า)


    "...เฮ้อ..." (ศพที่หก)


    "..." (ศพที่เจ็ดและศพต่อๆไป)


    "เฮ้ย! หยุดนะ! นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้วนะ!!" (การประหารแรก)


    "นี่มันไม่ใช่การประหารแต่มันคือการทรมานคนที่เคยทำผิดต่างหาก!!" (การประหารที่สอง)


    "อึก! พอทีเหอะ กับวิธีการแบบนี้..." ก้มหน้าลงหรือเบือนหน้าหนีจากการประหาร (การประหารที่สาม)


    "...ลาก่อนนะ" (การประหารที่สี่)


    "โมโนคุมะ ทำไมนายถึงต้องคิดวิธีการประหารแบบแปลกๆอย่างนี้ด้วยล่ะ? มันเปลืองค่าอุปกรณ์ต่างๆนะ แล้วการประหารของฉันจะเป็นยังไงเหรอ?" (การประหารที่ห้า)


    "สองศพ...ในคดีเดียวงั้นเหรอ!?" (สำหรับการพบศพสองศพในคดีเดียว)


    "...(ชื่อคน)..." ใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ พูดช้าๆเหมือนหายใจติดๆขัดๆ (สำหรับกรณีที่ศพเป็นคนที่เธอสนิทด้วย ใช้ได้ทั้งการพบศพที่ถูกฆ่าและการประหาร)



    คำถามสำหรับผู้ปกครอง

    -อยากให้ตัวละครนี้ได้บทไหน?(เหยื่อ ฆาตกร ผู้อยู่เบื้องกลัง ผู้รอดชีวิต)


    ได้หมดค่ะ (ขอแค่อย่าตายสองคดีแรกพอ...หรือถ้าอยากให้นางไปเร็วก็ได้ค่ะ...//ปาดน้ำตา)


    เหยื่อ : จะให้นางตายแบบไหนก็ได้ค่ะ จะทรมานยิ่งกว่าโดนประหารหรือตายสงบราวกับแค่นอนหลับไปก็ได้ค่ะ จะฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรมก็ได้ แต่ขอไม่เอาแบบเป็นอุบัติเหตุหรือถูกลูกหลง ขอเรื่องสำคัญเพียงอย่างเดียว ตอนตายเธอจะไม่ร้องไห้หรือแสดงความอ่อนแอออกมาเด็ดขาดนะคะ!  ส่วนฆาตกรจะเป็นใครก็ได้ฆ่าเธอด้วยเหตุผลอะไรก็ได้ค่ะ


    ฆาตกร : เธอจะไม่ฆ่าเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และจะไม่เสียใจภายหลังแน่ๆ ถึงคนที่เธอฆ่าจะเป็นหัวหน้าของกลุ่ม เป็นคนที่เธอแอบชอบ เป็นนักเรียนที่น่าสงสาร เธอจะไม่เสียใจ กลับกัน เธออาจจะหัวเราะคิกคักก็ได้ หรืออาจจะพูดประมาณนี้เมื่อถูกโหวต


    "ร้องไห้ทำไม? เสียใจทำไม? คนตายก็คือคนตาย จะคร่ำครวญร้องอยากให้เขากลับมาทำไม? ก็ฆ่าไปแล้วนี่ เขาตายไปแล้ว คนตายก็ไม่ต่างอะไรกับก้อนเนื้อมนุษย์ที่เย็นชืดรอวันเน่าเปื่อยนักหรอกนะ"


    การประหารของเธอจะเป็นอย่างไรก็ได้ ถ้าจะให้ดีอยากให้มีเรื่องราวเกี่ยวกับรักแรกที่ถูกปฎิเสธของเธอด้วย อยากให้เธอถูกทรมานทั้งทางกายและทางใจ ตายอย่างทรมานที่สุด แต่ห้ามให้นางร้องไห้หรือแสดงด้านอ่อนแอออกมา ให้เธอตายพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจของเธอ ตายไปพร้อมหน้ากากที่ยิ้มแย้มของเธอนั่นแหละ


    หรืออีกแบบหนึ่ง


    อยากให้เธอ "จงใจ" ให้ตนเองถูกประหาร เพื่อลองหาทางรอดจากลานประหารให้ได้(เหมือนที่นาเอกิรอดจากการประหาร) โดยอาจวางแผนร่วมกับใครสักคนให้แกล้งตาย เพื่อให้โมโนคุมะเข้าใจผิด(อารมณ์แบบศาลชั้นเรียนที่5 ใน V3 แต่เป็นแบบที่ไม่มีใครตาย ทุกคนคิดไปเองว่ามีคนตาย) หากหาทางรอดจากการประหารไม่ได้ค่อยให้เหยื่อที่ยังไม่ตายปรากฏตัวขึ้นมาและออกจากลานประหารไปได้(แบบฟุยุฮิโกะในภาค2) หรืออาจให้นางตายในการประหารนั้นก็ได้แล้วแต่ หรือจะสร้างคดีให้เหยื่อที่ควรจะแกล้งตายเกิดตายขึ้นมาจริงๆก็ได้ตามสะดวกเลยค่ะ


    ผู้อยู่เบื้องหลัง : อยากให้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่ไม่จำเป็นต้องจิต ไม่ได้ถูกหลอกใช้ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่จัดเกมนี้ขึ้นมาเพราะอยากจัด แต่ภายใต้คำว่า "อยาก" จะมีเหตุผลอีกมากที่ใครหลายคนยากที่จะเข้าใจและหากถูกเปิดโปงเธอจะยิ้มรับความจริงเหมือนที่ทำประจำและตายไปเพราะเธอยอมรับความตายนั้น โอบกอดความตายและปล่อยให้ลมหายใจสุดท้ายถูกตัดไป


    ผู้รอดชีวิต : ถ้ารอดก็ดีเลย แต่ไม่อยากให้นางเข้าร่วมมิไรคิคัง อยากให้นางปลอมตัวเป็นฝ่ายสิ้นหวังและคอยจัดการจากภายในโดยไม่พึ่งมิไรคิคังมากกว่า หากรอดอยากให้นางมีการพัฒนาด้านอารมณ์ ให้เธอแสดงอารมณ์จริงๆให้มากขึ้น เปิดใจง่ายขึ้นอีกสักนิดจะดีมาก ลดความมั่นใจที่เคยมีมากเกินไปลงมาเป็นพอดี เป็นการพัฒนาที่อาจค่อยเป็นค่อยไปแต่ส่งผลกับตัวเธอเมื่่อรอดออกมา หรืออาจมีเหตุกระทบจิตใจจนเธอเปลี่ยนไปอย่างกระทันหันก็ได้


    -ถ้าตัวละครมีคู่จะโอเคมั้ย? 


    จัดไปเลยค่ะ!! ได้หมดทั้งชายหญิงและหญิงหญิง นางไม่ใช่พวกโฮโมแต่ก็ไม่ได้รังเกียจ(แน่นอนก็นางเป็นสาววายนี่) หากเป็นคู่หญิงหญิงอยากให้นางเป็นฝ่ายรับมากกว่า(ปกตินางชอบป้วนเปี้ยนอยู่ในหมู่นักเรียนชายเพื่อจิ้นวายและสื่อรักระหว่างคู่ที่นางอวย โอกาสจะไปรุกผู้หญิงคนอื่นจึงค่อนข้างต่ำ) แต่หากเป็นคู่ชายหญิงนางได้ทั้งรุกและรับค่ะ ถ้ารุกนางก็จะรุกแบบเข้าไปคุยด้วยบ่อยๆจนฝ่ายชายหวั่นไหวไปเอง แต่ถ้ารับคงเป็นประเภทเคะซึนเกรียนกวนทีนตลอดไรงี้ค่ะ นางเป็นพวกไม่หวั่นต่อมุกเสี่ยวอ่ะนะ จะจีบนางก็อย่าพึ่งมุกเสี่ยวเลย เพราะคุณเธอน่ะเจ้าแม่มุกเสี่ยวเลยล่ะ แต่ละมุกที่นางคิดเด็ดๆทั้งน้านนนน



    -เพิ่มเติมจากผู้ปกครอง


    สาเหตุที่อายะเป็นสาววายเพราะคุณพี่สาวของเธอเป็นสาววาย มักเอานิยายวายและโดจินวาย(แบบไม่เรท)มาให้เธออ่านประจำ บวกกับที่โรงเรียนอายะมีเพื่อนที่เป็นสาววายมากกว่าครึ่ง สังคมที่เธอเจอทำให้เธอค่อยๆซึมซับมันมาและกลายเป็นสาววายทีละนิดๆ รู้สึกตัวอีกทีเธอก็กลายป็นสาววายเต็มตัวไปเสียแล้ว...


    อายะเป็นสาววายที่ไม่ใช่ติ่งวาย เธอแยกแยะออกว่าอะไรแซวได้อะไรไม่ควรเล่นด้วย เธอแยกออกว่าตรงไหนควรพอและตรงไหนคือเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่คนที่บ้าวายไปวันๆโดยไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร


    อายะมีรสนิยมที่ค่อนข้างจะต่างกับคนปกติ คูที่เธออวยมักเป็นคู่แรร์ที่ไม่มีใครอวยกันทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถหานิยายหรือโดจินคู่แบบที่ต้องการเสพได้ บ่อยครั้งที่เธอจะสื่อรักให้ลูกค้าผู้ชายของเธอกับผู้ชายกันเองเพื่อความฟินส่วนบุคคล แต่ถึงจะสื่อใครคู่ชายชายที่ดูไม่น่าจะเข้ากันได้ขนาดไหน สุดท้ายทั้งคู่ก็ลงเอยกันอยู่ดี เรียกได้ว่านอกจากลูกค้าจะได้คู่สมใจและได้รับค่าจ้างมากมายแล้ว อายะยังได้เสพวายคู่ที่ชอบไปในตัวอีกด้วย


    คู่แบบที่เธอชอบ คือคู่ที่คนที่มักเป็นเมะในสายตาของใครหลายๆคนเป็นเคะในสายตาของเธอ หากเป็นในนิยายหรือโดจิน เธอจะชอบคู่ที่เคะห้าวๆและโหด ส่วนเมะเป็นยันเดเระ หรือ เคะกวนเมะแบดบอย ชอบตัวละครเลวๆ เลวมากเลวให้มากที่สุด ยิ่งเลวเธอยิ่งชอบ ยิ่งเลวเธอยิ่งอวยให้เขาเป็นเคะ เนื่องจากนิสัยอย่างหนึ่งของเธอคือ อวยตัวละครที่ชอบที่สุดให้เป็นเคะ เธอชอบเสพแนวรักคอมเมดี้และดราม่าเป็นพิเศษ ไม่ค่อยถูกกับแนวแฟนตาซีเพราะเธอขี้เกียจนั่งจำพวกพลังพิเศษต่างๆนานาของปีศาจแต่ละตน ยิ่งโลกเวทมนตร์ยิ่งแล้วใหญ่ เห็นแล้วตาลายขอผ่านดีกว่า


    หากเป็นคู่ในชีวิตจริง อายะชอบแบบคู่รักแบบเพื่อน คุยกันเล่นกันแกล้งกันแบบเพื่อน เมะกวนเคะเกรียน ไม่มีใครยอมกัน หรืออาจเป็นเคะเย็นชาส่วนเมะกวนทีนก็ได้ แต่คู่ที่เธอไม่ชอบคือคู่ที่เคะใสซื่อ มันน่ารำคาญในสายตาเธอ


    อายะไม่ชอบอ่านNC อ่านได้แต่ไม่ชอบ ไม่ชอบเรื่องที่มันไวไฟแบบจูบกันตั้งแต่สามตอนแรกแบบนั้นเธอขอบายแน่ๆ ความรักมันต้องค่อยเป็นค่อยไปสิถึงจะถูก!!


    ถึงจะชอบวายแต่เธอโอเคกับชญ เธอโอเคหมดทั้งชช ชญ ญญ ขอแค่เป็นรูปแบบที่เธออวยก็พอ


    อายะไม่ใช่คนโง่และไม่ใช่คนฉลาดมากจนน่ากลัว เธอเป็นคนที่มีไหวพริบเสียมากกว่า เธอมักจะมอวโลกสองมุมเสมอ ทำทุกอย่างให้ตรงข้ามกับคนอื่น มองข้อเสียของสิ่งที่คนคิดว่าดี มองข้อดีของสิ่งที่คนคิดว่าแย่ ทำให้เธอเห็นมุมมองต่างๆเยอะกว่าคนทั่วไป


    อายะไม่กลัวและไม่เชื่อเรื่องผี แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันไร้สาระ ออกไปทางเฉยๆกับเรื่องนี้เสียมากกว่า



    เธอชอบให้คนอื่นเรียกว่า 'อายะคุง' เพราะที่โรงเรียนเก่าเธอเป็นเด็กสาวที่ห้าวๆลุยๆซะจนโดนเพื่อนล้อว่าเป็นผู้ชายปลอมตัวมา(แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โกรธหรือเสียใจอะไร เพราะนางก็นิสัยเหมือนผู้ชายจริงๆ) และมักโดนเรียกว่า "อายะคุง" บ่อยๆจนชินหู พอมีใครเรียกว่าอายะจังเธอจึงรู้สึกไม่พอใจแบบแปลกๆ กลายเป็นว่าชอบให้คนอื่นเรียกแบบเด็กผู้ชายไปเสียอย่างนั้น



    สาเหตุที่เธอไม่แสดงความรู้สึกยามเศร้าออกมา เพราะเธอไม่อยากให้ใครมาปลอบใจ ทุกครั้งที่เธอเผลอตัวร้องไห้หรือแสดงด้านอ่อนแอให้ใครเห็นมันทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอ ขี้แพ้ ขี้แย เธอพยายามทำตัวยิ้มแย้มเพื่อหลอกทุกคนรวมถึงตัวเธอเองว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งอดทน และร่าเริงในทุกสถานการณ์ เธอคิดว่าความรู้สึกต่างๆของเธอคือความรู้สึกของเธอ ไม่อยากให้ใครได้รับรู้ ปล่อยเธอเก็บมันไว้คนเดียวดีกว่า



    หลังจากถูกหักอกกับรักแรกของเธอ อายะไม่ได้มีอคติกับชายหนุ่มที่เป็นเกย์ เธอยอมรับเรื่องพวกนี้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่เธอรู้สึกว่าเธอทำพลาด เขาไม่ชอบผู้หญิงเรื่องแค่นี้เธอยังไม่รู้เลย มันทำให้เธอรู็สึกผิด รู้สึกว่าตนเองคิดไปเองว่ารู้จักเขาดีทั้งที่ไม่ได้รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเขา ภายหลังเมื่อเธอเป็นแม่สื่อที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายคู่เธอจึงรู้สึกเฟลกับรักแรกยิ่งกว่าเดิม เธอสร้างรักให้คนอื่นนับร้อยคู่ แต่เธอกลับสร้างให้ตัวเองไม่ได้ รักแรกของเธอคือความผิดพลาดที่สุดในชีวิต เธอไม่อยากให้ใครพูดถึงมันอีก มันทำให้เธอรู้สึกล้มเหลวในฐานะแม่สื่อที่สื่อความรักให้ตนเองไม่ได้ ปัจจุบันเธอไม่สนเรื่องความรักของตัวเธอเอง กลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเดิม กลัวว่ามันจะเป็นการตอกย้ำแผลในใจให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม เพราะงั้นเธอขอสื่อรักให้คนอื่น ส่วยตนเองก็โสดอยู่บนคานคนเดียวต่อไปนี่แหละดีแล้ว...




    -คำถามจากไรท์-


    คำถามเพิ่มเติม :


    ทำไมอายะถึงกลัวงู? : ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษหรอกค่ะ ก็กลัวมันฉกตายคาที่อะไรแบบนี้… ก็เหมือนเด็กที่กลัวผีนั่นแหละค่ะ

    ทำไมไม่อยากให้อยู่มิไรคิคัง : อันนี้เป็นความอคติส่วนตัวที่ไม่ค่อยถูกกับมิไรเท่าไหร่ เลยไม่อยากให้ลูกไปอยู่ในองค์กรมิไรคิคัง…(เหตุผลน่าตบมาก…)

    ทำไมไม่อยากให้แสดงความอ่อนแอก่อนตาย : สิ่งหนึ่งที่อายะทำมาตลอดคือการทำตัวเข้มแข็งและไม่แสดงความอ่อนแอของตนเองออกไปให้ใครเห็น คิดว่าถ้าเธอแสดงความอ่อนแอออกมาก่อนตายมันก็เหมือนว่าสิ่งที่เธอทำมาตลอดสูญเปล่าไปในวินาทีสุดท้าย

    ทำไมไม่อยากให้จิตหรือถูกหลอกใช้ : ที่ไม่อยากให้จิตเพราะรู้สึกว่าถ้าจิตแล้วมันจะไม่ใช่อายะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน… เซนส์มันบอกมา(เหตุผลน่าตบอีกแล้ว) ที่ไม่อยากให้ถูกหลอกใช้เพราะคิดว่าอายะเป็นคนมั่นใจในตัวเองมากพอที่จะไม่ถูกใครใช้ต่ออีกทีน่ะค่ะ


    คำถามพิเศษ :

    (ให้อายะตอบสินะคะ…)


    คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม : อืม… อา… ขอเวลาคิดแปปนึงแล้วกัน… ฉันว่าฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะ แต่เบนไม่ทางไม่เชื่อมากกว่า เพราะถ้าจะบอกว่าความรักมันเป็นอะไรที่ถูกพระเจ้ากำหนดมาแล้วฉันก็เป็นพวกไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริงด้วยสิ แต่ถ้าบอกว่าเป็นเพราะโชคชะตาที่พาคนสองคนมาพบกันอันนั้นก็พอเชื่อได้อยู่หรอก อีกอย่างที่สำคัญมากๆ ฉันคิดว่าถ้าใครสักคนพยายามเพื่อคนที่เขารักอย่างเต็มที่ ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อคนที่เขารัก แต่เขาต้องมาผิดหวังเพราะแค่ "พรหมลิขิตไม่ได้กำหนดให้เขาคู่กัน" เนี่ยมันดูไม่ใช่เรื่องอ่ะ หรือถ้าบอกว่าพรหมลิขิตมีจริง แสดงว่างานที่ฉันทำอยู่คือการขัดคำสั่งพระเจ้าใช่มั้ย? ฉันจับคู่ให้พวกเขาแล้วบังคับให้พวกเขาอยู่ด้วยกันเนี่ยขัดพรหมลิขิตสินะ? จริงๆพวกเขาควรจะได้คู่กับผู้หญิงสวยๆไม่ใช่คู่ชายชายที่ฉันจับคู่ให้งั้นสิ?


    ไปๆมาๆยิ่งพูดฉันว่ามันยิ่งไปทางไม่เชื่อมากกว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะเนี่ย ฮ่าๆ


    ลักษณะแบบไหนของคนสองคนถึงจะเรียกว่าเคมีเข้ากัน : มันก็แล้วแต่นะ ฉันว่ามนุษย์มันซับซ้อนกว่านั้น อย่างถ้าตอบว่าหนุ่มเย็นชากับสาวซึนเนี่ย… คำถามที่จะตามมาคือ เย็นชาแบบไหน? ซึนยังไง? แล้วมันก็จะมีคำถามตามมาอีกเช่น แล้วทำไมถึงเป็นคนเย็นชา? ซึนแค่ไหน? ตอนเจอกันครั้งแรกจะเป็นยังไง? ทั้งคู่ชอบผู้ชายหรือผู้หญิง? ใจอ่อนกับอะไร? และคำถามอีกเป็นพันๆคำถามที่จะหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด ดังนั้น ถ้าไม่เจอตัวจริงและรู้จักเขาอย่างละเอียดฉันก็ตอบไม่ได้หรอก


    คำว่าเย็นชาถึงจะต่างกันแค่คนหนึ่งเย็นชาแบบไม่คุยกับใครเลย ส่วนอีกคนเย็นชาแบบถามคำตอบคำ แค่นี้คู่ของสองคนนี้ก็นิสัยต่างกันมากแล้วล่ะ


    นิยามชีวิตรักที่ประสบความสำเร็จของคุณเป็นอย่างไร : โห! ถามยากนะเนี่ย! จะว่าไปฉันไม่ได้นึกถึงชีวิตรักของตัวเองมานานโขแล้วแฮะ คงจะเป็นคู่รักแนวเพื่อนล่ะมั้งนะ? ฉันว่าการที่อยู่กับเรื่องความรักมานานมันทำให้ฉันคิดว่าบางทีเพื่อนก็สำคัญกว่าคนที่ชอบ ความสัมพันธ์แบบเพื่อนบางครั้งก็ดีกว่าแบบคู่รัก ถ้าจะบอกว่าชีวิตรักที่ประสบความสำเร็จเป็นยังไง? ก็คงเป็นคู่หูคู่ฮาที่จดทะเบียนสมรสกันล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ


    สเปคผู้ชายหรือผู้หญิงในฝันของคุณมีลักษณะอย่างไร : ก็เหมือนข้อที่แล้วนั่นแหละ เพื่อนที่ดีที่สุดก็ถือเป็นแฟนในฝันแล้ว แต่กว่าจะหาคนที่เข้ากันได้จริงๆคงจะตายก่อนล่ะฮ่าๆ เพราะฉันมันเรื่องมากและอินดี้น่ะสิ ฉันไม่ชอบคนขี้อ้อน ไม่ชอบคนที่เอาใจฉันบ่อยๆ ไม่ชอบคนจู้จี้ ต้องเป็นคนที่เป็นกันเองและไม่เข้ามายุ่งกับชีวิตฉันมากไป เขาก็เป็นตัวเขา ฉันก็เป็นตัวฉัน เพราะถ้ามีแฟนแล้วต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไปฉันก็ไม่เอาหรอก แต่ก็ไม่ใข่ว่าแค่เปลี่ยนนิสัยนิดเดียวก็ไม่ได้หรอกนะ แต่แบบที่ต้องคอยเกรงใจกันตลอดหรือคอยเอาใจเขาเสมองี้ก็ไม่ไหวอ่ะ


    คิดว่าตัวเองจะได้สร้างครอบครัวแบบไหนหรือสุดท้ายจะเป็นโสดต่อไปตลอดชีวิต : เอ… สร้างครอบครัวเหรอ? ครอบครัวของฉันก็คือฉันกับโดวายที่รักนี่ไง!! ใช่! แค่ฉันก็พอแล้ว ขอแค่มีตัวเอง มีสิ่งที่ชอบ มีคู่วายให้เสพมันก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตของฉัน เหมือนข้อที่แล้วนั่นแหละถ้ามีแฟนแล้วต้องเปลี่ยนตัวเองก็อย่ามีเลย ในเมื่อถึงจะไม่มีแฟนเราก็ดูแลตัวเองได้นี่นา? ถ้าอยากได้โมเม้นท์ชวนจิกหมอนก็เสพจากลูกค้าชาย(ที่ฉันเอาไปจับคู่กับผู้ชายอีกที)เอาก็ฟินแล้ว เอาเถอะ! ยังไงคานนี่ก็สบายดีนะ! ได้มองคู่ที่ชิปจากด้านบน เสพห่างๆอย่างหื่นๆ ดีกว่าลงจากคานไปล้มลุกคุกคลานกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนแหละนะ!


    ชีวิตคนโสดน่ะดีที่สุดแล้ว!! ก็อยากจะพูดแบบนี้อยู่หรอกแต่มันขัดกับงานที่ตัวเองทำเนี่ยสิ ฮ่าฮ่าฮ่า






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×