คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ชั้นที่ 7 ค ว า ม ลั บ ? ? < S e C r e T ? ?>
เสียงหัวเราะของมันยังคงดังก้องในความเงียบ เด็กสาวใช้มือทั้งสองอุดหู น้ำตาค่อยๆไหลลงอาบแก้มก่อนที่จะหยดลงไปยังพื้น ร่างนั้นค่อยๆเคลื่อนที่เข้ามาอย่างช้าๆ ร่างกายของเด็กหนุ่มยืนนิ่ง เขาถูกสะกดด้วยภาพที่น่าสะอิดสะเอียน เด็กนั่นยกแขนซ้ายที่อยู่ในมือขึ้นมาก่อนที่จะใช้ฟันฉีกเศษหนังที่โคนแขนแล้วก่อนจะเคี้ยวเบาๆ ..... มันเงยหน้าขึ้นมาแล้วแสยะยิ้ม
“ กรี๊ดดดดด!!~~~ ” ชัญกรีดร้องทั้งน้ำตา เธอทำท่าจะวิ่งขึ้นบันได
“ ชัญ! “ เด็กหนุ่มคว้าข้อมือเธอไว้ได้ทัน
“ ถ้าเราแยกกัน แล้วมันตามเธอไปจะเป็นยังไง ” เด็กสาวร้องไห้...เธอกอดเด็กหนุ่มแน่นถนัด เสียงเท้าดังขึ้นที่บันได มัน..ตามมา ศิลป์ดึงแขนชัญก่อนที่จะวิ่งไปบนระเบียงอีก ห้องเรียนมามายเรียงรายอยู่เบื้องหน้า ทุกห้องมันถูกล็อคด้วยแม่กุญแจ จะทำไงดี...ไม่มีที่ซ่อนแน่ๆ บานประตูห้องเรียนเปิดแง้มอยู่ไม่มากแต่ก็เด็กหนุ่มก็ไม่มองข้ามมัน ศิลป์ดึงประตูออกแล้ววิ่งเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูอย่างแรง
“ ชัญ ” ศิลป์ชี้ไปที่หน้าต่างเธอพยักหน้าแล้ววิ่งไปปิดหน้าต่าง เขารีบล๊อคประตูหน้าและหลัง ก่อนที่จะค่อยๆถอยมานั่งที่มุมหลังห้อง
ตึง ... !!
บานประตูถูกกระแทกจนสั่นไหว
ตึง !!
มันกระแทกอีกครั้ง ด้วยความแรงที่มากกว่าเดิม
“ พี่ชาย .... ออกมาเหอะ มาเล่นกัน ” มันพูด ชัญนั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่ข้างๆศิลป์ เด็กสาวอุดหูทั้งสองข้าง ไม่อยากได้ยินอีกแล้วเสียง...เสียงแบบนี้ เสียงที่น่าสยดสยอง ศิลป์มองรอบๆที่มีแสงรำไรจากดวงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทางกระจกหน้าต่าง อะไรอยู่หน้าห้องน่ะ!!
“ ชัญ อยู่ในนี้ปลอดภัยแน่ ” ศิลป์จับมือชัญ
“ ทำไมล่ะ ” เธอเงยหน้าแล้วค่อยๆคลายมือที่อุดหูทั้งสองออกช้าๆ
“ ดูนั่น ” ศิลป์ชี้ไปที่หน้าห้อง .... พระพุทธรูปขนาดใหญ่ นี่มันห้องเรียนพระพุทธ..สาเหตุที่มันเข้ามาไม่ได้เพราะแบบนี้นี่เอง ชัญถอนหายใจเบาๆ เธอรู้สึกผ่อนคลาย มันยังอยู่ข้างนอกแน่ๆและที่สำคัญมันคงกำลังจะพังประตูเข้ามา เสียงเงียบลง .... เงียบไปนานมาก .... หรือว่ามันจะ ..................
นาฬิกาที่ติดอยู่บนพนังห้องเรียนด้านหน้า .... เกือบตีสองแล้ว เด็กหนุ่มเพ่งมองเพื่อให้เห็นเวลาอย่าชัดเจน เสียงเงียบลงนานมาก มันคง ....... ไม่อยู่แถวนี้แล้วล่ะมั้ง ศิลป์เขย่าตัวชัญเบาๆ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาก้มลงไปมองหน้าเด็กสาว ที่จริงเธอหลับไปตั้งแต่สามสิบนาทีที่แล้ว
“ หิวข้าวอ่าาา ” ชัญพูดเบาๆ ตื่นแล้วหรอ...ไม่สิยังงั้นก็ละเมอ?? ศิลป์อดขำไม่ได้ ก็แน่ล่ะก็หนีไอ้ตัวนั้นมาทั้งคืนเป็นใครก็หิวขนาดเรายังหิวเลยนับประสาอะไรกับผู้หญิงอย่างชัญ เด็กหนุ่มอุ้มชัญขึ้น ถึงเห็นตัวเล็กๆแต่ก็หนักไม่ใช่เล่นแฮะ ศิลป์ทำท่าเหมือนจะล้มแต่ก็ยังประคองตัวไว้ได้ เขาแง้มประตูห้องออกเล็กน้อย ด้านนอกมีแต่ความเงียบ มันคงไม่อยู่แล้วจริงๆน่ะแหละ
ศิลป์จ้ำอ้าวเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดค้างอยู่แล้วยื่นมือไปกดปุ่มปิดอย่างแรง ประตูสีเขียวเลื่อนเข้าหากันช้าๆพร้อมกับที่ศิลป์กดเลขหนึ่ง ชัญขยับตัวเล็กน้อยในอ้อมแขน ตัวลิฟต์สั่นเบาๆ ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออกอีกครั้ง เคยรู้สึกมั้ย ทำไมความสุขมันถึงได้สั้นนัก แต่ความเจ็บปวดมันยาวนานเหลือเกิน ไม่อยากให้ถึงเลย อยากหยุดเวลาไว้แบบนี้ ไม่อยากให้ถึงเลย เด็กหนุ่มเหลือบมองชัญ คงไม่มีอะไรจะบรรยายความร้สึกนี้ได้จริงๆ
ศิลป์วางร่างชัญลงกับพื้นแล้วเอาหลังเธอพิงกำแพงไว้ก่อนจะเขย่าตัวเธอเบาๆพลางเรียกชื่อ เด็กสาวลืมตาขึ้นแล้วหันหน้าไปมา “ มาอยู่ข้างล่างได้ยังไงอะ “ ชัญมองหน้าศิลป์
“ ก็... ” ศิลป์หลบตาที่จ้องมาของเธอแล้วพูดต่อ “ อุ้มลงมาไง ” ชัญทำหน้าแปลกใจ
“ อุ้ม?? ” เธอทวนคำตอบอีกครั้ง “ ก็ชัญน่ะหลับอยู่ในห้องพระพุทธ ก็เลยอุ้มลงมาไง ” ศิลป์อธิบายแล้วหันหน้ามายิ้มให้
“ ลานนี่กว้างก็ดีเนอะ ” จู่ๆเธอก็เปลี่ยนเรื่อง แต่มันจริงอย่างที่พูด เพราะชั้นหนึ่งจะเป็นลานขนาดใหญ่ในเวลาปกติจะมีนักเรียนลงมานั่งจับกลุ่มคุยเล่นกันมากมายเลยทำให้ดูเล็กลง แต่ตอนนี้แม้แต่ร่องรอยของสิ่งมีชีวิต
“ ลงตึกกันเหอะ ” ศิลป์เอื้อมมือไปจับมือแขนชัญ เธอพยายามดึงมือกลับ “ อะไร เมื่อกี้ยังอุ้มอยู่เลยนะ ” ศิลป์หันไปมองชัญจนทำให้เธอต้องปล่อยเลยตามเลย เด็กหนุ่มจูงมือชัญเดินผ่านสนามปูนสีเขียวตรงไปยังป้อมยามหน้าโรงเรียน ศิลป์มองขึ้นไปยังตัวอาคาร เงาลางๆปรากฏขึ้นบนตัวตึก เด็กคนนั้นยังคงวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานก่อนจะหันมาโบกมือแล้วแสยะยิ้ม
ไอ้เด็กนี่มันตื้อไม่เลิกเลยแฮะ เอาไว้จะทำบุญไปให้แล้วกัน เด็กหนุ่มคิดแล้วหันไปมองอีกครั้ง เงานั้นเลือนหายไปกับความมืด
“ อ้าวพวกเธอ!! ทำอะไรกันอยู่ ” แสงไฟถูกส่องมา ศิลป์ต้องปล่อยมือจากแขนชัญแล้วเอามือบังดวงตาเอาไว้
“ ก็ทำสแตนอะครับ พี่เห็นเพื่อนๆผมมั้ย ” ศิลป์ตอบกลับ ชายคนนั้นค่อยๆลดแสงไฟลงแล้วปิดมันอย่างเบามือ ก่อนจะเก็บไฟฉายไว้ด้านหลังข้างๆกับกระบองพลาสติก
“ อืม... กะพี่เข้าตอนตี 2 นะ พี่ไม่เห็นใครเลยป่านนี้คงจะไปหาอะไรกินกันแล้วมั้ง ” ชายคนนั้นตอบพลางเดินกับไปยังป้อมยามแล้วนั่งลงบนม้าหินหน้าป้อมยามนั้น
“ ชัญกลับก่อนบ้านเหอะ ไปก่อนนะพี่ ” ศิลป์หันไปบอกชัญก่อนจะกลับมาพูดกับชายคนนั้นอีกครั้ง
“ แต่... ” ชัญพูดออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจ
” อยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้ ” ศิลป์จับมือเธอแล้วเดินออกมาจากโรงเรียน
แต่ยังไงเราก็ต้องช่วยพวกมันให้ได้ แล้วจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรเด็ดขาด ... ชัญ ศิลป์กุมมือชัญแน่น
ศิลป์เรียกแท๊กซี่ที่หน้าโรงเรียนเพื่อจะไปส่งชัญที่บ้าน แต่เธอไม่ยอม เจอเรื่องหน้ากลัวขนาดนี้เป็นใครก็ไม่อยากกลับบ้านไปคนเดียวหรอก เขาเลยต้องพาชัญไปด้วย โชคดีที่พ่อแม่ไม่อยู่ แต่ถ้าจะขออนุญาติก็คงได้สบายเพราะชัญกับพี่สาวของศิลป์รู้จักกันแล้วเคยมานอนค้างกับพี่บ่อยๆ ส่วนชัญเป็นเด็กต่างจังหวัดมาเรียนกรุงเทพก็มาอยู่บ้านเช่ากับพี่ เธอเลยต้องโทรไปบอกพี่ของเธอระหว่างอยู่บนรถ พอมาถึงบ้านศิลป์ก็พาชัญไปที่ห้องพี่สาว
“ ชัญ ... ฝันดีนะ ” ศิลป์พูดพลางทำสีหน้าเหมือนจะไปต่างประเทศพร้อมโบกมือไปมา
“ ดูทำหน้าเข้า อย่างกับจะไปรบ ” ชัญโบกมือกลับ
ศิลป์เดินออกจาห้องพี่แล้วกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้น มันไม่มีเหตุผลเสียเลย อยู่โรงเรียนมา 6 ปี พึ่งจะเคยเห็นผีตัวเป็นๆก็วันนี้แหละ ศิลป์ค่อยๆหลับตาลง ขอให้เรื่องที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝัน เมื่อลืมตาขึ้นคงจะกลับเป็นเหมือนเดิม
ศิลป์ลืมตาขึ้นช้าๆแต่ก็ต้องลุกพรวดขึ้นมานั่งบนที่นอนเมื่อได้เห็นสภาพแวดล้อมเบื้องหน้า เขามองไปรอบๆอย่างเร็ว ทุกอย่างที่เห็นมัน...เป็นสีขาว ที่นี่ที่ไหน ? แล้วเรามาอยู่นี่ได้ไง ? ศิลป์คิดแล้วลุกขึ้นยืนบนพื้นที่เย็นราวกับน้ำแข็ง เด็กหนุ่มค่อยๆก้าวขาอย่าระมัดระวัง ทุ่งดอกไม้?? สีขาว!! ดวงจันทร์บนฝากฟ้าส่องแสงสีขาวนวล เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังเบาๆมาจากต้นไม้ใหญ่สีขาวเบื้องหน้า เด็กสาวผมยาว กำลังโล้ชิงช้า กระโปรงสีน้ำเงินโบกสะบัดตามแรงเหวี่ยงของชิงช้า เธอหันมามอง ชิงช้าค่อยๆช้าลงจนหยุดนิ่ง เด็กสาวก้าวลงมาจากชิงช้าอย่างระวัง
“ สวัสดีจ๊ะ “ เธอยิ้ม
“ ที่นี่ที่ไหน ” เด็กหนุ่มพูดด้วยความงุนงง
“ ความฝัน!! ” เธอตอบกลับทันควัน
“ แล้ว .... ”
“ กลับได้ซิ ” เธอพูดออกมาเหมือนที่ศิลป์กำลังจะถาม
“ ทำไมเธอถึงรู้ ”
“ ที่นี่ไม่มีความลับแก่กัน ”
แล้วทำไมเธอถึงรูปความคิดเรา .... แต่เรากลับไม่รู้ความคิดเธอซักนิด ไม่มีคำตอบออกมาจากริมฝีปากสีชมพูของเธอ เธอยืนอยู่บนพื้นแล้วค่อยๆเดินไปข้างหน้า ศิลป์มองตาม เด็กสาวผลักประตูรั้วบานใหญ่แล้วเดินเข้าไปด้านใน ศิลป์เดินตามเข้าไปด้านใน เครื่องเล่นมากมายอยู่ภายในรั้วนั้น มันเหมือนสวนสนุกขนาดใหญ่ที่ทุกอย่างล้วนเป็นสีขาว เงาบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในม้าหมุน....นั่นมันอั้ม ศิลป์เพ่งมองภายในม้าหมุน เพื่อนของเขาทุกคน.....ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วเล่นของแบบนี้มันสนุกมากขนาดนั้นเลยหรอ?? สีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขแบบนั้น...ทำไม??
“ เธอทำอะไรเพื่อนชั้น ”
“ ไม่เห็นหรือไง เขากำลังมีความสุข เธอก็ทำได้นะ แค่มาอยู่กับชั้น เพราะว่าเธอเหมือนกับชั้น ”
“ ไม่มีทาง !! ” ศิลป์ตะโกน น้ำตาไหลล้นออกมาจากดวงตาของเธอ เด็กสาวจ้องมาด้วงความอาฆาต น้ำตาที่ไหลกลับเปลี่ยนเป็นโลหิต เสื้อนักเรียนถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน เนื้อหนังบนใบหน้าค่อยๆเน่าเฟะ กลิ่นสาบตลบอบอวนไปทั่ว ร่างของเธอเคลื่อนตรงเข้ามา.....
“ ไม่นะ ไม่ ม่ายยยยยยยยยยยยย ” เด็กหนุ่มลุกพรวดขึ้นมานั่งบนที่นอน เหงื่อค่อยๆซึมออกมาจาใบหน้า ศิลป์หันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง 9 โมงชัญคงจะตื่นแล้ว เขาลุกไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ศิลป์เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผมที่เปียกโชก เขาเอาผ้าเช็ดตัวไปเช็ดผมเบาๆ แล้วเดินไปมารอบๆห้อง หนังสือวางอยู่บนที่นอน แต่ศิลป์ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเขาเป็นคนถือกลับมาเมื่อวาน ศิลป์ออกจากห้องแล้วเดินลงบันไดมานั่งบนโซฟาสีดำก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบ รีโมตข้างๆมาเปิดโทรทัศน์ ขณะที่ชัญกำลังเดินลงบันไดมาพอดี
“ ขณะนี้มีการพบร่างของนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบึงกุ่ม โดยทั้งหมดอยู่ในสภาพเดียวกัน “ ชายหนุ่มสวมแว่นตากำลังรายงานข่าว ดูท่าทางเขาจะตื่นเต้นไม่น้อย ศิลป์หยิบรีโมตขึ้นมาเร่งเสียงทีวีให้ดังขึ้นเล็กน้อย “ ร่างที่พบตอนนี้ยังระบยุจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ แต่คาดว่าจะมีมากกว่ายี่สิบคน อาการอยู่ในขั้นโคม่า ทางตำรวจได้ไปสอบถามข้อมูลจากยามซึ่งเป็นพยานสำคัญในคดีนี้ ได้ความว่ามีเด็กทั้งหมดยี่สิบหกคนมาเตรียมงานในวันกีฬาสีที่จะมีขึ้น ยามอีกคนให้การว่าไม่เห็นเด็กทั้งยี่สิบสี่คน แต่เห็นเด็กสองคนกลับบ้านในเวลาประมาณตีสองครึ่ง …………….. ” ศิลป์กดปิดโทรทัศน์ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันที เด็กสาวทำท่าจะเดินไปรับแต่ถูกศิลป์พูดขัดขึ้นมาก่อน
“ เดี๋ยว ชัญ ไม่ต้องรับ ”
“ ทำไมล่ะ เพื่อว่า.. ”
“ ถึงเราจะพูดยังไง ก็ไม่มีทางที่เค้าจะเชื่อเราหรอก ผีมันพิสูจน์ไม่ได้ ” ศิลป์มองหน้าชัญก่อนที่จะพูดอีกครั้ง “ เมื่อคืน ชั้น.... ” เธอทำหน้าประหลาดใจแต่ก็พยักหน้ากลับเบาๆเหมือนกับเธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กสาวขอตัวกลับเข้าห้องเพราะยังเพลียๆอยู่
ประตูห้องนอนถูกเปิดออก เด็กหนุ่มเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูเบาๆ ศิลป์ทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาดู หน้ากระดาษที่ถูกแทรกเข้าไปหลุดออกมาจากตัวหนังสือหล่นลงมาบนหน้าของศิลป์เด็กหนุ่มหยิบกระดาษออกจากใบหน้าแล้วค่อยๆบรรจงนับหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า
“ หนึ่ง.....สอง.....สาม.....สี่.....ห้า.....หก.....เจ็ด.....แปด “ หน้ากระดาษที่ขาดอยู่ตรงกับหน้าที่เก้า เด็กหนุ่มนับกระดาษที่เหลืออยู่แล้วพลิกไปมาสำรวจดูอย่างถี่ถ้วน
“ มียี่สิบห้าหน้าหรอ “ ศิลป์พยายามเรียบเรียงความคิดที่มีอยู่ในหัวทั้งหมด จับต้นชนปลายยังไม่ถูกเลยตอนนี้ ตอนแรกก็ฝันประหลาด... แล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับที่ฝัน หนังสือนี่อยู่ในห้องพักอาจารย์ เพื่อนๆก็หมดสติไปทีละคน อยู่ๆผีบ้านั้นก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วมาวิ่งไล่เราซะงั้น แล้วยังเมื่อคืนเธอคนนั้นเป็นใครกันแน่ คำพูดที่ว่าเหมือนกับชั้น เหมือนกันงั้นหรอเหมือนยังไงกันแน่ สุดท้ายเพื่อนทั้งยี่สิบสี่คนก็....ยี่สิบสี่!! หนังสือมันมียี่สิบห้าหน้า ขาดไปหนึ่ง ยี่สิบส........
ตุ๊บ!! .........
เสียงบางอย่างดังขึ้นภายในห้องที่มีเพียงศิลป์ หรือว่าไม่ใช่!!
ความคิดเห็น