ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    School < โ ร ง เ รี ย น เ ฮี้ ย น >

    ลำดับตอนที่ #3 : ชั้นที่ 3 เ ริ่ ม ! ! < T o S t A r T ! ! >

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 51


     " อ๊ากกกก!! "

    เสียงกรีดร้องดังขึ้น ศิลป์ยื่นหัวออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนๆของเขาหายไป!!ทิ้งไว้แต่ข้าวของและกระเป๋าสีดำเกลื่อนไปทั่วพื้นปูน เขาออกวิ่งไปตามทางเดิน มันยาวเหลือเกิน มันผ่านมากี่ห้องแล้ว...นี่มันยังไม่ถึงอีกหรือไง เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่งด้วยความล้าพลางเอามือกุมขมับ

     

    นั่นมันเสียงใคร เกิดอะไรขึ้น??

    คำถามมากมายหลั่งไหลออกมาจากในหัว เขาเอามือลงเพื่อจะพยุงตัวขึ้นยืนแต่กลับ....ไปถูกบางสิ่ง หนังสือ มันตกอยู่ใกล้มือเขา เด็กหนุ่มค่อยๆหยิบหนังสือขึ้นมา คงมีใครเอาออกมาแล้วไม่ได้เก็บแน่ๆ ศิลป์เปิดหนังสือทีละหน้าอย่างบรรจง ทุกๆหน้าล้วนว่างเปล่าไม่มีแม้แต่รอยขูดขีดเลยแม้แน่น้อย ที่สำคัญ...มันทำด้วยหนังทั้งเล่ม มันเป็นเล่มเดียวกับในความฝันหรือเปล่า..........

     

                    “  หนังสืออะไรกันแน่ ศิลป์เปิดหนังสือไปเรื่อยๆ ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาลืมเรื่องที่ต้องทำไปหมดสิ้น

     

                    " ศิลป์ .... ศิลป์ " เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อได้ยินเรียกอันตื่นตระหนกของชัญ มือข้างที่จับหนังสือพลาดดึงหน้านึงของหนังสือออกมาหนังสือก่อนที่จะใส่มัน กลับลงไปอย่างลวกๆ

     

                    " มะ....มีอะไรหรอชัญ " เขาพูดขึ้นพร้อมกับหันหน้าไปทางชัญที่กำลังวิ่งเข้ามาใกล้

     

                    " อั้ม..... "

                    " อั้ม หรือว่า... " ศิลป์นึกขึ้นได้ ถึงสิ่งที่เขาต้องทำ

                    " ไม่รู้ อยู่ดีๆก็....

                    " เฮ้ย!! แล้วมันอยู่ไหน " ชัญเอื้อมมือมาจับแขนศิลป์ก่อนที่จะลากเขาลงบันไดที่อยู่หน้าห้องพักอาจารย์ ซึ่งไปจุดที่ไฟดวงสุดท้ายเปิดอยู่ เสียงฝีเท้าดังท่ามกลางความมืดอย่างต่อเนื่อง บันไดเก่าลงทุกครั้งที่พวกเขาก้าวไปอีกขึ้นหนึ่ง บนพื้นมีใยแมงมุมและฝุ่นเกาะอยู่แต็มไปหมด รอยแตกปรากฏขึ้นในตำแหน่งที่เป็นขอบบันได  ศิลป์หยุดยืนอยู่ระหว่างชั้นห้าและหก กระจกที่ขุ่นมัวเบื้องหน้าสะท้อนภาพทุ่งหญ้าอย่างลืนลาง มันควรจะเป็นพื้นปูนแต่มันกลับ.....

     

                    " ชัญ เธอ..... " ศิลป์พูดเบาๆ ภาพทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิมราวกับเวทย์มนต์

                    " ฮ่ะ .. อะไร "

                    เปล่า...

     

                    ภาพหลอน !! เขาคิดก่อนที่ชัญจะกระชากแขนเพื่อออกวิ่งอีกครั้ง ความมืดทำให้เขาจิตนาการต่างๆนาๆ ขนลุกชัน.....หัวใจเต้นแรง.....สายลมเย็นแผ่วเบา....ความหวาดกลัว เสียงหมาหอนดังขึ้น.......... แล้วเงียบลงอย่างรวดเร็ว มันจะเป็นภาพหลอนจริงๆนะหรอ เด็กหนุ่มมองไปเบื้องหน้าที่มีแสงสว่าง

                   

                    “ ศิลป์ ชัญหยุดวิ่งแล้วค่อยๆเดินลงบันไดทีละก้าวจนกระทั่งถึงบันไดขั้นสุดท้าย นี่มันชั้นสาม ร่างของอั้มนอนนิ่งอยู่บนตักของเด็กสาวผิวสีแทน เธอก้มหน้ามองดูร่างอันไร้สติของอั้ม ใบหน้าซีดเผือกแต่มีรอยยิ้มเล็ก..ยิ้มแบบมีความสุขเสียด้วย ศิลป์จับไหล่ทั้งสองข้าง อุณหภูมิในร่างกายต่ำมากจนรู้สึกได้ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ เด็กหนุ่มเขย่าร่างที่แน่นิ่งอย่างแรง ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง

                   

                    “ เกิดอะไรขึ้น ...  ศิลป์หันหน้าไปมองฟ้าก่อนจะยิงคำถามออกมา

                    เราไม่รู้ อยู่ดีๆก็.. ฟ้าเงยหน้า เธอพยายามจะบอกทั้งๆที่เสียงของเธอแทบไม่เหลือ

                    กรี๊ด ..... !!! ” เสียงกรีดร้องดังขึ้นก่อนที่เด็กสาวจะพูดต่อ ฟ้าสะดุ้งน้ำตาเอ่อออกมาจากดวงตาของเธอ เสียงนั่นมัน ... ขวัญ

                   

                    เค !! ” ศิลป์ตะโกนเรียกชายร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างฟ้า เขาพยักหน้าเบาๆแล้วรีบลุกวิ่งตามศิลป์ เสียงนั่นดังมาจากสุดทางเดิน มันเป็นห้องพยาบาล พวกเขาวิ่งผ่านห้องคอมพิวเตอร์สามห้อง นั่นไง ... ขวัญยืนอยู่หน้าห้องพยาบาล ศิลป์ถอนหายใจเบาๆ เพราะคิดว่าคงเจอพวกแมลงสาบหรือไม่ก็....

     

    แต่มันไม่เป็นแบบนั้น .....

    ร่างของเธอทรุดลงไปกองกับพื้นเหมือนไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะยืน ดวงตาของศิลป์เบิกโพลง เควิ่งเข้าไปหาขวัญที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เขาเอาแขนสอดไปใต้คอและหัวเข่าแล้วยกตัวขวัญขึ้นอย่างไม่ยากเย็น ศิลป์ได้แต่ยืนมอง ภาพที่ขวัญล้มลงยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เสียงเรียกดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มหลุดออกจาภวังค์ ร่างของขวัญถูงวางลงข้างๆอั้มอย่างเบามือ

     

                   “ เกิดอะไรวะ เด็กหนุ่มสวมแว่นกรอบสีขาวตะโกนถาม เมื่อเห็นเคกำลังวางร่างของขวัญหลังจากที่เขาก้าวขึ้นบันไดมาเมื่อครู่

                    “ เหมือนอั้ม .... ไม่มีผิด เคนั่งลงข้างๆฟ้า สายตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างของเพื่อนๆอย่างห่วงใย

                    “ เราว่าไปตามอาจารย์ที่เข้าเวรมาดูดีมั้ย ชัญเสนอความคิด

                    “ เดี๋ยวเราไปเอง ศิลป์พูดพร้อมลุกขึ้นยืน

                    เราไปด้วย

                    ชัญอยู่นี่ล่ะ อยู่กับเพื่อนๆ

                    “ ไม่ ถ้าศิลป์เกิดเป็นแบบนั้นมาอีกคนแล้วเธอจะทำไง ศิลป์อึ้งไปพักหนึ่ง ก็ได้ งั้นตามมา

     

                    “ ศิลป์ ประตูมันประตูข้างล่างมันปิด ต้องลงลิฟต์แล้วปีนหน้าต่างเอา ลิฟต์ข้างหลังเรามันเสีย ต้องไปลงลิฟต์อีกฟากนึงของตึก อยู่ตรงไหนรู้ใช่มั้ย ? ” เด็กหนุ่มสวมแว่นบอกถึงวิธีที่เขาตามอั้มเข้ามา หลังจากที่ลงไปสำรวจดูข้างล่างแล้ว

     

                    อืม ขอบใจนะต้าร์ ศิลป์พยักหน้าเบาๆแล้วยื่นมือไปทางชัญ เธอจับมือก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นช้าๆ

                    ศิลป์ หนังสืออะไรน่ะ ชัญพูดขึ้นก่อนจะเดินขึ้นบันไดพลางชี้มายังหนังสือที่ถืออยู่ เขาหยิบมันมาตั้งแต่อยู่ขั้นแปดแต่เกิดเรื่องขึ้นทำให้ลืมไปซะสนิท

                    “ ก็แค่หนังสือธรรมดาน่ะ อย่าสนใจเลยรีบไปดีกว่า

                    ไปเหอะ เขาพูดต่อ

     

    ชัญพยักหน้าแล้วเดินตามขึ้นบันไดไป....แค่ก้าวแรกเท่านั้นสภาพบันไดกลับ เก่าลง และในทุกๆครั้งที่พวกเขาก้าวขึ้นไปภาพที่บันไดเก่าลงมันดูชัดขึ้น เด็กหนุ่มหันหน้ากลับมองไปชัญ เธอยิ้ม ?? เธอไม่เห็นมันหรือว่าเธอไม่ได้สังเกตกันแน่ แต่ทำไมศิลป์กลับเห็นเหมือนมันเป็นของจริง......

     

    แล้วมันเป็นของจริงหรือเปล่า มันคือที่ไหน ?? สถานที่นั้น ศิลป์เดินคิดไปเรื่อยๆ เขายังคงเห็นภาพที่ทุกสิ่งเก่าจวนจะพัง แต่ก็ทำได้แค่ภาวณาให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นแค่ความฝัน.....

     

    ความฝัน!?

    เขาฉุดคิด....มันเหมือนในฝันตั้งแต่เริ่ม ทำไม ทำไมล่ะ คำถามมากมายที่หาคำตอบไม่ได้เกิดขึ้นในสมอง  หัวปวดตุ๊บๆ เหมือนกับมันจะระเบิดออกมาไม่มีผิด เขาเอามือกุมขมับแล้วเดินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

     

                    ศิลป์ !! เป็นอะไรน่ะ ชัญวิ่งขึ้นมาประคองตัวศิลป์

                    “ ไม่เป็นไรน่ะ ... แค่เครียดมากเกินไป มันตรงข้ามกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง อาการปวดหัวทวีความรุนแรงขึ้นแต่ก็ต้องฝืนทำเหมือนไม่มีอะไร ก็แค่....ไม่อยากให้ชัญต้องเป็นห่วงไปมากกว่านี้

                    ไหวมั้ย พักก่อนก็ได้นะ

                    “ ไปต่อเหอะ ไม่อยากช้า

     

                    ชัญค่อยๆพยุงศิลป์เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆจนมาถึงชั้นแปด ชัญหยุดพักหน้าห้องพักอาจารย์หมวดวิทย์ ศิลป์ล้มตัวลงนอนพลางเอามือก่ายหน้าผากแล้วหลับตา ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นทุกอย่างเหตุการณ์บ้านั่นมันเริ่มจากห้องนี้ ทันทีที่เขาเริ่มคิดอาการปวดหัวก็กลับมาอีกครั้ง

     

                    โอ๊ย!! ความเจ็บปวดแล่นเข้าไปในสมอง รู้สึกได้เลยว่ามันเจ็บจี๊ด ชัญเขยิบตัวเข้ามาใกล้ๆศิลป์แล้วค่อยๆพยุงตัวของศิลป์ขึ้นมานอนบนตักของเธออย่างเบามือ

     

                    ศิลป์ พักก่อนก็ได้นะ

                    “ อย่าเลย

                    “ อ๊ะ!! ชัญอุทานเมื่อศิลป์ยกตัวขึ้นแต่กลับทรุดลงอีกครั้ง

                    สงสัยต้องพักจริงๆแฮะ..

                   

                    ค่ำคืนนี้ช่างยาวนาน....เวลาผ่านไปไม่นานเด็กหนุ่มลืมตาขึ้นอีกครั้ง อาการปวดหัวหายเป็นปลิดทิ้ง

     

                    อ้าว !! ตื่นแล้วหรอ

                    “ นี่เรานอนนานแค่ไหนแล้ว

                    ประมาณ 20 นาที

                    “ 20 นาที!!

                    จ๊ะ … ”

     

    ผ่านไปแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น แต่กลับรู้สึกสดชื่นเหมือนได้นอนมาทั้งคืน ทำไมกัน ไปกับเถอะ ศิลป์ค่อยๆยกตัวเองขึ้นโดยมีชัญพยุงอยู่ก่อนที่จะเดินไปบนทางเดินอย่างช้าๆ เขาเดินผ่านห้องกระจกใสขนาดใหญ่ แสงจันทร์ทำให้พอมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในค่อนข้างชัด คอมพิวเตอร์ตั้งเรียงรายกันอยู่ภายในอย่างมากมาย

     

    คอมฯเยอะจัง

    แน่ล่ะชัญห้องมัลติมีเดียนี่

    ไม่ค่อยได้ผ่านห้องนี้เลยเนอะ

    อืมก็ไม่มีเรียนศิลปะตั้งแต่ม.4แล้วนิ ”  

     

    ชัญหยุดกึ๊ก มือที่จับตัวของศิลป์ค่อยๆกดแน่นขึ้นจนรู้สึกเจ็บ มือของเธอเย็นและสั่น น้ำตาเอ่อออกมาจากนัตน์ตาสีดำสนิทของเธอ

     

    ศะ.ศิลป์ ได้ยินไหม ?? ชัญกระซิบถามเขาทั้งน้ำตา เสียงบางอย่างลอยมาตามลม มันค่อนข้างเบาขนาดแค่เสียงเดินยังจะกลบเสียงพวกนี้จนหมด ศิลป์พยายามฟังอย่างตั้งใจ ดูเหมือนมันเป็นเสียงเครื่องดนตรี ..........

    ชัญ ไม่ต้องกลัวหรอก ศิลป์ทำหน้าสบายๆแล้วหันไปบอกชัญ ดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้

    นั่นเสียงระนาด ห้องข้างๆก็เป็นห้องดนดรีไทย เด็กหนุ่มอธิบายแต่ดูเหมือนชัญจะยังไม่เข้าใจ เคยได้ยินคำว่าครอบครูมั้ย เขาพูดต่อ เด็กสาวพยักหน้าเบาๆ

                    “ นั่นล่ะ สรุปง่ายๆพวกท่านน่ะ ไม่ทำอะไรเราหรอก ท่านเป็นครู แล้วเราก็ไม่ได้ไปลบหลู่อะไรท่านด้วย ศิลป์ยกมือไหว้ชัญรีบทำตามเสียงต่างๆที่ได้ยินค่อยๆเงียบลง ศิลป์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้ชัญแล้วค่อยๆพาเธอเดินไปยังลิฟต์ที่อยู่ตรงข้ามห้องดนตรีไทย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×