คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ชั้นที่ 10 ป ร ะ ตู ข อ ง โ ร ง ยิ ม ส์ < T h E - D o o R - o F - G Y M >
ร่างของเด็กสาวทรุดอยู่บนพื้นปูน ตัวเธอสั่นเครือราวกับกำลังตื่นกลัวอย่างมาก ศิลป์วิ่งเข้าไปประคองให้เธอลุกขึ้นยืนช้าๆ “ เธอ ... เจออะไร?? ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเบาๆ
“ ผะ..ผู้หญิงคนนั้น......คะ.....เค้า......มะ......มองมา ดวงตาของเธอมัน.....” ดวงตา...เห็นแม้กระทั้งตา ใกล้ขนาดนั้นเลยหรอ แล้วทำไมชัญถึงไม่เป็นอะไรละ เธอต้องการอะไรกันแน่!! ศิลป์กุมมือชัญเบาๆ ร่างกายของเธอค่อยๆหยุดสั่น ความห่วงใยที่มากมายของศิลป์คงจะส่งไปถึงตัวเธอล่ะมั้ง
“ อย่างที่คิด ที่นี่ต้องมีอะไรแน่ๆ ” ศิลป์เดินไปยังประตูเหล็กแล้วก้มลงมองลอดเข้าไปอีกครั้งเขากวาดสายตาอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มมองเห็นประตูซึ่งมันอยู่ที่เดิม เขาพยายามมองให้มั่นใจแต่จู่ๆประตูเหล็กก็เลื่อนลงมาอย่างแรง เสียงประตูกระแทกกับพื้นดังก้องไปทั่วโรงยิมอันว่างเปล่า .... ชัญกุมมือศิลป์อย่างแน่นถนัด คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวอีกแล้ว เด็กหนุ่มพาชัญเดินไปยังมุมอาคารอีกครั้ง ชัญส่องไฟไปยังพนังซึ่งตอนนี้มันถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยนาๆพันธุ์ ....
แสงสว่างสะท้อนออกมาจากต้นไม้ที่พนังเพียงน้อยนิด เด็กสาวเอื้อมมือไปแหวกต้นไม้ออกเล็กน้อย.... ลูกบิดประตู....ไม่แปลกเลยที่จะมองไม่เห็นมันในเวลาแบบนี้ ศิลป์พยายามดึงต้นไม้พวกนั้นออกจากบานประตู ในเวลาไม่นานประตูนั้นก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า บานประตูที่ทำจากไม้ขนาดไม่ใหญ่มากนัก สภาพของมันโทรมเต็มที่ ข้างในคงผุหมดแล้ว เพราะไม่ได้ใช้งานมันมานานมาก ศิลป์เอื้อมมือไปเปิดประตูเบาๆ อย่างที่คิด...มันล๊อก!!
“ ชัญ...กุญแจ “ ชัญยื่นกุญแจให้ศิลป์ทันที
“ 1 ใน 3 น่าจะเป็นกุญแจของที่นี่ละ ” เขาพูดพร้อมกับพยายามใส่ลูกกุญแจลงไปเพื่อเปิดประตู เอาดอกที่เล็กก่อนแล้วกัน ..... ลูกกุญแจถูกใส่เข้าไปในลูกบิด เด็กหนุ่มออกแรงบิดเบาๆ มันติด ดอกที่รูปร่างแปลกๆนี่คงไม่ใช่แน่ๆ ลูกกุญแจดอกที่สามถูกใส่เข้าไปอีกครั้ง
แก๊ก !!
ลูกบิดประตูบิดตามแรงที่เขาบิดลูกกุญแจ
“ สำเร็จ !! ” ประตูเปิดแง้มออกเล็กน้อยก่อนที่จะถูกดึงอย่างแรง ไม้เลื้อยที่ปกคลุมบานประตูอยู่หล่นลงมากระทบกับพื้นทรายแห้งๆ สนิมที่อยู่ตรงบานพับทำให้ประตูเปิดออกได้ไม่มากนัก ถ้าเปิดมากกว่านี้ประตูคงจะหลุดออกมาเป็นแน่ ศิลป์ดึงมือชัญก้าวผ่านช่องประตูไปด้านใน ... ภายในนั้นมีห้องเก็บของหลายห้องอยู่ด้านตรงข้ามกับประตูเหล็ก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสนามบาส ห้องที่อยู่ใกล้ประตูเหล็กที่สุดคงจะเป็นห้องน้ำ ... เด็กหนุ่มก้าวเท้าไปบนพื้นไม้ที่ผุพังอย่างระวัง ทุกก้าวที่เขาเดินผ่านปรากฏรอยเท้าขึ้นจางๆ .... ฝุ่นบนพื้นอาจจะมีประโยชน์สำหรับตอนนี้
“ ชัญเดินถามรอยเท้าเข้ามานะ ” ศิลป์ส่องไฟไปที่พื้นเพื่อให้ชัญสามารถมองเห็นรอยเท้าที่เขาเดินก่อนหน้า เธอค่อยๆเดินไปอย่างระวังสายตาของเธอจ้องมองแต่รอยเท้าบนพื้นไม้เท่านั้น เธอกำลังใช้สมาธิกลับการเดินตามเด็กหนุ่มมากไป..... จนไม่รู้สึกถึงบางอย่าง อากาศเย็นลงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ต่างจากอากาศในตอนกลางคืนมากนัก
ศิลป์เดินมาหยุดอยู่กลางโรงยิม จุดที่เขาเห็น...เธอคนนั้น เด็กหนุ่มส่องไฟไปรอบๆตัว ... รอยเท้าหนึ่งคู่อยู่กลางโรงยิม เขาส่องไฟไปรอบๆ แต่กลับไม่พบ..รอยเท้าอื่นที่นอกเหนือจากนั้น ที่นี่ต้องมีอะไรแน่ๆ ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
แสงไฟจากไฟฉายของชัญเคลื่อนที่เข้ามาใกล้จนทำให้ศิลป์ต้องละสายตาจากรอยเท้านั่นแล้วมองไปยังต้นแสง เงาลางปรากฏขึ้นด้านหลังของตัวชัญก่อนที่จะสลายไปกับความมืด .... เด็กหนุ่มขยี้ตาเบาๆแล้วหันกลับไปมองอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ศิลป์หยุดรอจนกระทั่งชัญเข้ามาใกล้ก่อนที่จะใช้ไฟฉายในมือส่องไปที่รอยเท้านั้นอีกครั้ง แต่ทว่ามันหายไป...จุดที่เคยมีรอยเท้ากลับมีเพียงแค่ฝุ่นบางๆปกคลุมพื้นอยู่เท่านั้น
ปัง!!
เสียงดังขึ้นอย่างกระทันหัน ประตูที่เข้ามาปิดกระแทกอย่างแรง แสงสว่างจากดวงจันทร์ถูกเฆมบดบังไปจนหมด แสงไฟสองดวงส่องไปมาในความมืดราวกับว่าค่ำคืนนี้เป็นคืนเดือนมืดทั้งเลยวันเพ็ญมาแค่วันเดียว เด็กหนุ่มคว้าตัวชัญเข้ามาในอ้อมแขน มือของเธอเย็นเฉียบเธอคงจะตกใจมากกว่าที่จะกลัว ประตูนั่นปิดแรงมากจนรู้สึกเหมือนพื้นสั่นสะเทือนไปหมด
กลุ่มเฆมค่อยๆเคลื่อนตัวช้าๆ แสงจันทร์เริ่มสาดส่องเข้ามาในโรงยิมอีกครั้ง ประตูเหล็กสั่นไหวตามแรงลมจนเกิดเสียงเบาๆ
“ ........อือ........” เสียงครางดังขึ้นแผ่วๆ ท่ามกลางประตูเหล็กที่กำลังสั่นไหว “ อื่อ .... ” เสียงนั่นดังขึ้นอีกครั้ง แต่มันกลับถูกเสียงเสียดสีของประตูเหล็กกลบไปจนหมด “ อือ.... ” คราวนี้มันดังพอที่จะทำให้พวกเขาได้ยินลางๆ
แกร๊บ..! …..แกร๊บ... ครืด!!!
บางอย่างกำลังเคลื่อนที่เข้ามา เสียงเหมือนคนกำลังเดินบนพื้นไม้ที่ผุพังแล้วลากอะไรมาด้วย มันดังขึ้นเรื่อยๆ แสงจันทร์ที่สาดส่องมาทางหน้าต่างบานใหญ่บนพนังทำให้มองเห็นรูปลักษณ์ของสิ่งที่กำลังเข้ามาใกล้ .... แต่มันไม่ใช่ผู้หญิงและที่สำคัญมันไม่ได้เดิน
ชัญกรีดร้องเมื่อเห็นสภาพอันหน้าสยดสยอง ช่วงเอวลงไปของมันขาดสบั้น เครื่องในที่ไหลออกมาอยู่ด้านนอกลากไปกับพื้นทำให้เลือดสีแดงสดไหลลากเป็นทางยาวตามที่มันผ่าน เสียงเนื้อขูดกับพื้นไม้ที่ผุพังฟังแล้วชวนขนลุก ดูๆไปมันเหมือนซากศพดีๆนีเอง สิ่งนั้นมันเข้ามาใกล้จนกระทั่งเด็กหนุ่มมองเห็นอย่างถนัดตา ...... มันค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆ .......
ใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเลือด .... ดวงตาจ้องเขม็งมายังเด็กหนุ่มที่กำลังตื่นกลัว มันแสยะยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะฉีกยิ้มและหัวเราะเบาๆ ชัญเกาะแขนเด็กหนุ่มอย่างแน่นถนัด ดวงตาของเธอมิอาจละสายตาจากมันได้ ตอนนี้สติเธอคงจะเลือนลางแต่ก็ยังพยายามประคองไว้อย่างเต็มที่ ร่างนั้นยื่นแขนออกมาก่อนที่จะกระแทกลงไปบนพื้นไม้ เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงกระแทกดังอย่างกระทันหัน
“ เธอ.....ต้องตายย!! “ มันพูดพึมพำ “ ฆ่า.....ฆ่า ” คำพูดของมันทำให้ชัญตัวสั่น ร่างนั้นค่อยๆเคลื่อนที่อีกครั้ง ศิลป์กระชากมือชัญจนเธอเซเล็กน้อยก่อนที่จะวิ่งไปยังประตูที่เข้ามา
ตึง!!
ศิลป์ทุบประตูอย่างแรง
ตึง .... ตึง ....
ตึง!!
ศิลป์พยายามออกแรงให้มากขึ้นแต่มันก็ไร้ผล สิ่งนั้นกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ทีละน้อยอย่างใจเย็น เด็กหนุ่มหันหน้าไปมองมันก่อนที่จะหันกลับมาทางประตูแล้วเริ่มทุบประตูอีกครั้งคราวนี้ชัญลุกขึ้นมาช่วยอีกแรง แต่มันไม่มีประโชยน์ ศิลป์หันหน้ากลับไปมันอีกครั้ง แต่มัน ....หายไป ศิลป์เอาตัวกระแทกประตูอย่างแรงแต่มันก็แค่สั่นเบาๆ
“ ฆ่า ..... ” เสียงแหบแห้งดังขึ้นพร้อมกับร่างของมันที่อยู่ด้านหลังแค่เอื้อมมือ มันยื่นมือออกมาคว้าข้อเท้าของชัญไว้ได้ ของเหลวสีแดงไหลเยิ้มออกมาจากผ่ามือของมัน ขาของชัญชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด
“ กรี๊ดดดด!! ” ชัญกรีดร้องพร้อมๆกับสบัดขาอย่างแรง แต่มันกลับจับขาเธอแน่นกว่าเดิม ศิลป์จับแขนชัญแล้วพยายามดึงเธอให้หลุดจากมัน เด็กหนุ่มเตะใบหน้ามันอย่างแรง หัวของมันหมุนกลับไปด้านหลัง ร่างนั้นปล่อยมือจากชัญแล้วพยายามบิดหัวกลับ พร้อมๆกับที่ศิลป์ดึงตัวชัญออกมาแล้ววิ่งไปทางประตูเหล็ก
“ ทำยังไงดี ... ทำยังไง ” ศิลป์พูดพึมพำกับตัวเองพลางหันหน้าไปมาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
แกร๊บ . . ครืด!! . . ครืด!! ครืด!!
มันกำลังเคลื่อนที่เข้ามา เด็กหนุ่มเปิดไฟฉายแล้วส่องไปรอบๆ บนพื้นของโรงยิมล้วนว่างเปล่า เสียงมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่เด็กหนุ่มกลับตัวมันไม่เจอ “ ตายยย!! ” เสียงแหบแห้งในลำคอดังเบาๆ ชัญหันหน้าไปมาอย่างลนลาน ร่างกายของเธอเริ่มสั่น แสงจากดวงจันทร์ส่องผ่านกระจกลงมากระทบกับพื้นเบื้องล่างของโรงยิมปรากฏเป็นเงาคนลางๆขึ้นแต่เงานั้นกลับมีแค่ครึ่ง... ศิลป์หันขวับไปทางกระจกอย่างเร็ว ร่างนั้นเกาะอยู่กับพนังแน่น มันแสยะยิ้มท่างกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อมันค่อยๆเคลื่อนที่เข้ามาราวกับว่ามันกำลังคลานอยู่บนพื้น
“ ศิลป์ ” ชัญพูดเบาๆพลางเขย่าตัวเด็กหนุ่มทันทีที่เธอมองขึ้นไปยังกระจกนั้น มือของเธอสัมผัสกับร่างกายของเขา เย็นเฉียบ!! ศิลป์ดึงมือชัญวิ่งไปทางประตูไม้ที่อยู่ตรงข้ามกับกระจกนั่นอีกครั้ง คราวนี้เข้าวิ่งเอาไหล่กระแทกประตูอย่างแรง
โครม...!!
บานประตูหลุดกระเด็นตามแรงกระแทก ศิลป์ล้มลงกับพื้นพร้อมๆกับชัญ ศิลป์ลุกขึ้นแล้วพยุงชัญยืนก่อนที่จะวิ่งไปยังประตูใหญ่ แต่มันถูกล๊อค.....
“ หนีไปก็ไม่พ้น ” เสียงแผ่วๆของมันดังออกมาจากโรงยิมก่อนที่มันจะยื่นมือผ่านช่องประตูออกมา ..….” ครืดด!! ” พื้นทรายที่ขรุขระกลับไม่เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนที่ของมันแม้แน่น้อยแต่มันกลับเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก
“ ต้องซ่อนแล้ว !! ”ศิลป์มองไปรอบๆ ในขณะที่สิ่งนั้นกำลังเคลื่อนที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว “ เอาวะ เอาไงเอากัน ” เด็กหนุ่มดึงชัญวิ่งไปยังอาคารเรียนที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า
ครืด ...
ครืด ... ครืด ...
ครืด ...ครืด….ครืด!!
สิ่งนั้นยังตามมาอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มวิ่งไปบนพื้นทรายโดยที่มันคลานตามมาติดๆ ชัญเริ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ เป้บนหลังของเธอเป็นตัวถ่วงขั้นดี ความเหนื่อยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะก้าวขาวิ่งไม่ไหวแล้ว......
ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างมันตามทันแน่ๆ ศิลป์พยายามใช้ความคิดทั้งๆที่กำลังวิ่งอย่าสุดแรง พวกเขาวิ่งผ่านกองไม้เก่าๆที่ตั้งพิงกำแพง เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปปัดกองไม้นั้นจะล้มระเนระนาด แล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนตัวตึกทันที ........... เสียงของมันเงียบลง มันหยุดตามมา!! เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็หารู้ไม่ว่าพวกเขาเข้ามายังที่ๆอาจจะไม่มีสิทธิ์ได้กลับออกไปเสียแล้ว............
ความคิดเห็น