ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    School < โ ร ง เ รี ย น เ ฮี้ ย น >

    ลำดับตอนที่ #1 : ชั้นที่ 1 จุ ด เ ริ่ ม ต้ น . . . < S t a r T i n g P o I n T . . . >

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 51


    ท้องนภายามรัตติกาลอันแสนยาวนาน ดวงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญทอแสงสีนวลอ่อนไปทั่วผืนนภานั้น รัตติกาลนี้ไม่เหมือนรัตติกาลอื่นๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นที่ ................

                   

                    ดวงตาคู่หนึ่งถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ร่างกายที่เคยแน่นิ่งเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวมาเป็นเวลานาน ร่างนั้นค่อยๆลุกขึ้นเดินไปยังเบื้องหน้าที่มีแสงจันทร์สาดส่องมาทางช่องประตูเพียงเล็กน้อยก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าประตูที่ถูกปิดสนิทแล้วเอื้อมมือไปกดสวิตไฟข้างๆอย่างคุ้นเคย

     

     แป๊ะ...!!

     หลอดไฟบนเพดานกะพริบสองสามครั้งก่อนที่จะสว่างขึ้น โต๊ะเรียนยาวสีขาวตั้งเรียงรายอยู่กลางห้องสี่เหลี่ยมอย่างเป็นระเบียบ ใต้โต๊ะทุกตัวจะมีเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินวางอยู่มากมาย  โต๊ะไม้สีน้ำตาลเก่าๆของอาจารย์ถูกจัดให้อยู่ใกล้กระดานไวท์บอร์ดสีขาวซึ่งมีรอยปากกาไวท์บอร์ดขีดเขียนอยู่ลางๆ ถังขยะสีดำสนิทที่ภายในมีขยะมากมายจนล้นออกมาวางอยู่ติดกับชั้นสารเคมีซึ่งมีสารเคมีวางไว้เบียดเสียดกันแทบทุกชั้นถูกจัดวางอยู่ทางด้านหลังห้อง อ่างล้างมือที่ถูกปูด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาดตาอยู่ใต้หน้าต่างเก่าๆ มันถูกเปิดแง้มไว้เล็กน้อย ห้องเรียนที่นี่แทบทุกห้องจะมีโครงสร้างเหมือนกันคือจะมีประตูหน้าและประตูหลัง ประตูจะอยู่ตรงข้ามกับหน้าต่าง ยกเว้นห้องน้ำและห้องตรงสุดตัวตึกติดบันไดเท่านั้นเพราะมันมีเพียงประตูเดียว

     

    ตาที่เคยชินกับความมืดเมื่อได้รับแสงสว่างอย่างฉับพลันทำให้พล่ามัว เด็กหนุ่มอายุราวๆสิบแปด สวมชุดนักเรียนสีขาว กะพริบตาถี่ๆพลางเอามือขยี้ตาเป็นพักๆ ภาพที่อยู่เบื้องหน้า ค่อยๆชัดขึ้นทีละน้อย

     

     แกร๊ก !!  

    ประตูแง้มออกช้าๆ เด็กหนุ่มก้าวเท้าผ่านประตูออกมาหยุดยืนอยู่บนทางเดินชั้นแปด เขามองไปตามทางเดินที่ดูเหมือนจะยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด มีเพียงแสงสว่างจากแสงจันทร์อ่อนๆดวงนี้ที่ทำให้พอมองเห็นสิ่งต่างๆได้แต่ ก็เลือนลางเต็มที  เด็กหนุ่มครุ่นคิดพลางเอามือทั้งสองขึ้นมากุมศีรษะบ่งบอกถึงอาการปวดหัวอย่างรุนแรง

     

    นี่เรา มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เสียงแผ่วๆเล็ดลอดออกมาจากปาก ขาทั้งสองเริ่มขยับและก้าวไปเบื้องหน้าอย่างช้าๆ ตุ๊บ..!! ” เสียงฝีเท้าดังป็นจังหวะท่ามกลางความเงียบสงบ ความงัวเงียทำให้เด็กหนุ่มไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติ ประตูที่ปิดสนิทบานแล้วบานเล่าผ่านหน้าไปด้วยความเร็วที่พอๆกับการเดิน ร่างกายของเขาหยุดกึก ดวงตาเบิกโพลงจับจ้องไปยังตัวอักษรขนาดใหญ่ด้านบนของบานประตูที่เปิดอยู่ ห้องน้ำ!!?

     

    เห้ย!! …. ห้องน้ำมันต้องติดกับห้องเคมีแล้วทำไม....  เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดออกมาบริเวณใบหน้าพลางหันหน้าไปมาเผื่อว่าจะเจอคำตอบ สายลมเย็นแผ่วเบาพัดผ่านมากระทบกับร่างของเขาอย่างจังพร้อมๆกับเสียงหมาหอนที่ดังระงมไปทั่วบริเวณ บางสิ่งกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ สิ่งนั้นเคลื่อนที่มาจากด้านหน้า มีบางอย่างเคลื่อนไหวในความมืดแต่มันกลับหายไปพร้อมกับเสียงหมาหอนหยุดลงทันทีเมื่อเด็กหนุ่มหันไปมอง ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง มันจะต้องมีอะไรแน่ๆ ร่างที่หยุดนิ่งเริ่มขยับอีกครั้งก่อนจะเคลื่อนที่เข้าไปภายในห้องเบื้องหน้า

     

     เด็กหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือแล้วมองไปยังกระจกเงาด้านบนที่สะท้อนภาพตัวเองลางๆออกมา ความมืดทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดนัก ภาพห้องน้ำเรียงรายอยู่มากมายสะท้อนออกมาจากกระจกเงาขุ่นมัวซึ่งมีตัวของของเขายืนอยู่หน้าห้องน้ำห้องแรก เด็กหนุ่มควานหาสวิตไฟข้างๆกระจกนั้น แป๊ะ!! “ ไฟห้องน้ำกะพริบถี่ๆก่อนที่จะสว่างขึ้น ทำให้ทุกอย่างชันเจนขึ้นมากทีเดียว

     

    หนาวแฮะ เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อยก่อนที่จะเอื้อมมือไปบิดก๊อกน้ำเบื้องหน้า

     

     เอี๊ยด !!  

    เสียงบิดก๊อกดังมาก.....คงเพราะที่นี่มันเงียบจนวังเวง  

     

    ซู่…..!!

    น้ำมากมายไหลออกมาจากก๊อกลงไปกระทบกับอ่างล้างมืออย่างรุนแรง จู่ๆน้ำสีแดงข้นไหลทะลักออกมาชะโลมอ่างล้างมือจนกลายเป็นสีเลือด!! เด็กหนุ่มดึงมือออกจากก๊อกก่อนจะใช้มือทั้งสองขยี้ตาตัวเองเบาๆ มือทั้งสองค่อยๆออกห่างจากใบหน้าที่ซีดเซียวก่อนจะลืมตาขึ้นมองไปยังสายน้ำที่ไหลรินอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เห็นกลับกลายเป็นน้ำที่ใสสะอาดเท่านั้น.......

     

    ตะ..ตาฝาดมั้ง เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้มที่มุมปากแต่ก็ไม่สามารถปกปิดความกลัวที่กำลังเพิ่มขึ้น ขาทั้งสองเริ่มทำงานอีกครั้ง เสียงฝีเท้าสะท้อนอยู่ในห้องน้ำตามจังหวะที่ก้าวขา

     

    ซู่ .......  

    เสียงน้ำไหลดังขึ้น ....... เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวพลางชะงักขาที่จะก้าวออกจากห้องน้ำนั้นแล้วหยุดยืนนิ่งราวกับถูกสะกด  

     

    เอี๊ยด!  

    เสียงบิดก๊อกน้ำดังขึ้นพร้อมกับเสียงน้ำไหลที่หายไป

     

    เกิดอะไรขึ้น..คงเป็นคำถามที่ไม่มีทางตอบได้ แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้ไม่ใช่มีแค่เขาอยู่คนเดียวเสียแล้ว เสียงเปิดก๊อกดังพร้อมกับเสียงน้ำที่ไหลทะลักลงมาอีกครั้ง เหงื่อที่ไหลออกมาจากทุกรูขุมขนทำให้ชุดนักเรียนเริ่มชื้น อากาศรอบตัวเย็นลงอย่างรู้สึกได้ เสียงหมาหอนดังระงมขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของเขาสั่นเทา ส่วนต่างๆไร้เรียวแรง หัวใจเต้นตูมตามราวกับจะหลุดออกมาภายนอก เด็กหนุ่มพยายามรวบรวมสติที่กระเจิงไปคนละทิศทางกลับมา เสียงน้ำไหลหยุดลงไปแล้ว เสียงเปิดปิดก๊อกน้ำก็เงียบลงตามไปด้วย ความเงียบเริ่มเข้าครอบคลุมอีกครั้ง

     

    สายลมแผ่วๆลอยมาปะทะกับโคนขาของเด็กหนุ่มเข้าอย่างจัง …… อุ่น!!..บรรยากาศโดยรอบเย็นระเยือก ไม่มีทางที่จะมีสายลมอุ่นๆจะพัดมาโดนตัวเราได้นอกเสียจาก..... สีหน้าของเด็กหนุ่มแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    ฮือ....!! “ เสียงประหลาดดังขึ้นด้านหลัง เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวก่อนจะพยายามยกขาขึ้นแต่มันสายเกินไป มีบางสิ่งรั้งขาของเขาไว้ ความตกใจกับความกลัวทำเขาตัดสินใจวิ่งทั้งๆที่สิ่งนั้นยังรั้งขาของเขาอยู่ เด็กหนุ่มวิ่งไปบนทางเดินที่มีแสงจันทร์สลัวๆ เหมือนสวรรค์แกล้งเส้นทางที่เขาวิ่งมากลับเป็นห้องเคมีที่เปิดไฟค้างไว้

                   

                    อย่างน้อยอยู่ในนี้คงปลอดภัยกว่า...

    เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินตัวเดิม รองเท้าถูกถอดออกตามด้วยถุงเท้าข้างที่ถูกรั้งไว้เมื่อครู่ ของเหลวสีแดงเข้มติดอยู่ที่ถุงเท้า เด็กหนุ่มก้มลงไปเก็บเศษกระดาษใต้โต๊ะมาเขี่ยสิ่งที่ติดอยู่นั้น แต่มันหนียวเกินกว่าที่เศษกระดาษบางๆจะทำให้มันหลุดออก เขาจำใจที่ต้องใช้มือเขี่ยของเหลวนั้นออกไป กลิ่นสาบรุนแรงลอยมาเตะจมูกอย่างจัง รู้สึกเหมือนศพเน่าๆเป็นร้อยอยู่ข้างหน้า เด็กหนุ่มทำหน้าแหยะๆก่อนเดินไปยังอ่างล้างมือทันทีแล้วเอื้อมมือไปเปิดน้ำ น้ำมากมายไหลทะลักออกมากระทบกับอ่างจนกระจายไปทั่ว สายน้ำเย็นผ่านมืออย่างต่อเนื่อง สายตาเหลือบออกไปนอกหน้าต่าง

     

                    เฮ้ย!! มันเกิดอะไรขึ้นวะ เด็กหนุ่มหลุดปากพูดออกมาเสียงดังหลังจากที่แสดงอาการตกใจเมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า อาคารที่กำลังก่อสร้างกลับกลายเป็นทุ่งนาเขียวขจีกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาในชั่วพริบตา เก้าอี้พลาสติกสีถูกขยับให้พอเหมาะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง จะทำยังไงดี ที่นี่มันที่ไหน เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วค่อยๆเดินไปยังประตูหน้าห้องอย่างหวั่นๆ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเดินออกไปยังระเบียงอีกครั้งหลังจากยืนอยู่หน้าห้องราวห้านาทีแล้วค่อยๆ ก้าวเท้าไปยังเบื้องหน้าอย่างช้าๆ

     

     แหมะ !!

    เสียงหยดน้ำหยดลงมากระทบของแข็งดังเป็นจังหวะ กลิ่นสาบลอยมาตามสายลมเอื่อยๆ บางอย่างมันใกล้เข้ามา กลิ่นสาบเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นพร้อมกับเสียงที่ค่อยๆเคลื่อนที่มาใกล้ เด็กหนุ่มรีบพนมมือหลับตาแล้วท่องบทสวดมนต์อย่างไม่เป็นภาษา เหงื่อไหลออกมาอีกครั้งภายใต้บรรยากาศหยาวเย็นจนไปถึงขั้วหัวใจ

     

    กลิ่นเริ่มจางหายไปตามสายลมที่พัดเอื่อยๆ เสียงนั้นก็เงียบหายไป เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นทีละข้างเมื่อรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างสาดส่องทะลุผ่านหนังตาไปกระทบกับนัยน์ตาอย่างจัง เขาค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ  ภาพเบื้องหน้าจากที่มันควรจะเป็นห้องเคมีที่เขายืนอยู่เมื่อครู่กลับกลาย เป็นห้องพักอาจารย์หมวดวิทยาศาสตร์ซึ่งอยู่ห่างจากห้องเคมีถึงสามห้อง

     

    เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่รอช้าแล้วค่อยๆสำรวจห้องพักอาจารย์อย่างละเอียด ห้องสี่เหลี่ยม ที่มีโต๊ะอาจารย์ตั้งอยู่ชิดพนังด้านข้าง แล้วแบ่งครึ่งห้องด้วยฉากกั้น เพื่อไม่ให้นักเรียนที่มาค้นคว้าเพิ่มเติมรบกวนอาจารย์ที่กำลังทำงานอยู่ เครื่องคอมพิวเตอร์สามเครื่องตั้งอยู่ด้านมุมห้องด้านหนึ่งที่ติดประตูหลัง ตรงกลางระหว่างประตูหน้าและประตูหลังเป็นที่ว่างที่มีโทรทัศน์วางอยู่บน ชั้นวางที่ข้างล่างนั้นมีเครื่องเล่นวีดีโอ วีซีดี และแผ่นซีดีกระจายเกลื่อนกลาดไปหมด  ด้านที่หน้าจอโทรทัศน์หันไปนั้นมีชั้นหนังสือสองชั้นซึ่งแต่ละชั้นบรรจุหนังสืออยู่เต็ม

     

    ลิ้นชักถูกเปิดออกทีละโต๊ะอย่างเบามือ ภายในลิ้นชักโต๊ะที่ควรจะมีสิ่งของต่างๆของอาจารย์แต่ทุกชั้นมันกลับ... ว่างเปล่า เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปยังชั้นวางหนังสือที่อยู่ไม่ไกลนัก เขามองดูชั้นอย่างละเอียดก่อนที่จะสะดุดตากับชั้นหนังสืออันหนึ่ง มันดูเก่า....เก่า มากเกินกว่าที่มันควรจะเป็นทั้งๆที่ชั้นสองชั้นนี้ซื้อมาพร้อมกันไม่มีทาง ที่ชั้นอันใดอันหนึ่งจะเก่ากว่าอีกอันหนึ่งมากขนาดนี้ สายตาของเขาค่อยๆมองสำรวจทุกชั้นของชั้นหนังสือนั้นอย่างใจเย็นพลางคิดสิ่ง ต่างๆมากมายอยู่ในสมอง

     

    สายตาของชายผู้นั้นหยุดมองหนังสือเล่มหนึ่งอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบมันออกมาอย่างเบามือ  หนังสือนี้ทำด้วยหนัง....ทุกหน้าล้วนแต่เป็นหนัง มันเป็นหนังของอะไรทำไมมันเนียนขนาดนี้แม้กระทั่งรอยเย็บก็ยังไม่มี บนหน้าปกของมันถูกฝุ่นจับอยู่มากมาย เขาค่อยเป่าฝุ่นออก มันฟุ้งกระจายไปทั่วเด็กหนุ่มไอเบาๆ ตัวหนังสือสีแดงค่อยๆปรากฏขึ้น   หนังสือ....................  ส่วนที่เหลือจางลงไปมากแสงสว่างในตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถอ่านมันได้อย่างถนัด

     

     แกรกกกกก........  

    เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงประหลาดดังอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงที่เหมือนการขูดขีดอะไรบางอย่างดังมาจากทางด้านหลัง

     

     แกรกก....แกรก  

     แกรก....แกรกก

     

     เสียงดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แล้วมันยังดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมันกำลังเคลื่อนที่เข้ามา...

     

     แกรก แกรก

     เขาหน้าซีดลงเมื่อมีไออุ่นลอยมาปะทะต้นคออย่างจัง เด็กหนุ่มหันหน้ากลับไปมองทันทีแต่ว่า..เขาไม่เห็นอะไรนอกเสียจาก.......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×