ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    School < โ ร ง เ รี ย น เ ฮี้ ย น >

    ลำดับตอนที่ #15 : ชั้นที่ 14 ร้ อ ง ข อ < R e q u E sT > (1)

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 51


                    ไม่มีคนเม้นเลยออกแนว เคือง!! เคืองเล็กน้อย
                    ใครมาอ่านก็ขอเสียงหน่อยจิครับ วิจารหรืออะไรก็ได้ทั้งนั้นอะ
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
                   
    ดวงจันทร์เคลื่อนตัวออกจากมวลเมฆอีกครั้ง สายลมพัดผ่านทำเอาต้นไม้ไหวเอน กิ่งไม้เสียดสีกันเกิดเป็นเสียงดังชวนขนลุก ความโดดเดียว ความเสียใจ ความอาฆาต ความรู้สึกนี้มันส่งผ่านมาถึงตัวเรา เด็กสาวลืมตาขึ้นช้าๆ เธอมองไปยังเด็กหนุ่มที่กำลังเก็บหนังสือใส่กระเป๋าก่อนจะยืนขึ้น

     

    แล้วเราต้องทำยังไงศิลป์ยื่นมือไปทางชัญ เด็กสาวจับมือแล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วมองไปรอบๆ

    เราคงต้องหาห้องนั้นให้เจอก่อน

    ห้อง? ห้องที่ใช้คำพิธีใช่มั้ย ชัญพยักหน้า หมายความว่าเราจะต้องไปดูทุกห้อง แบบนั้นหรอ ! ” ศิลป์พูดต่อ

    คงไม่ถึงแย่ขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าอยู่ในตึกนี้แล้วก็ไม่ใช่ห้องน้ำเด็กสาวหันมาส่งยิ้มให้ถึงจะเป็นรอยยิ้มที่เศร้าแต่คงเป็นกำลังใจอย่างดี ศิลป์ยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง งั้นเราก็ไปหามันกันเถอะ ไอ้ห้องที่ว่านั่น

     

                    เด็กหนุ่มเริ่มขยับขาอีกครั้ง เขาเดินตรงเข้าไปหาบานประตูที่ถูกย้อมด้วยโลหิต ประตูเหล็กถูกเปิดออก เสียงแอ๊ดดังยาวในความเงียบ เด็กหนุ่มก้าวผ่านประตูเข้าไปในความมืด แสงไฟสว่างขึ้น ชัญเปิดไฟฉายอีกกระบอก แสงสว่างขึ้นได้เพียงชั่วครู่แล้วค่อยๆดับลง เธอเขย่าไฟฉายเบาๆ ถ่านหมด!!

     

                    ศิลป์ ถ่านหมดชัญเอื้อมมือไปสะกิดตัวเขาเบาๆ เด็กหนุ่มปลดเป้ลงแล้วค้นของในเป้ เขาหยิบถ่านไฟฉายขึ้นมาแล้วทำท่าจะส่งมันไปให้ เด็กสาวยิ้มเล็กๆแล้วยื่นไฟฉายมาให้ศิลป์แทน ดูท่าเธอคงจะไม่ถนัดเรื่องแบบนี้เท่าไร ไฟฉายถูกเปิด .........

     

                    โรงเรียนมันน่ากลัวจริงๆ แค่โรงเรียนธรรมดาก็เกิดพอ แล้วนี่..โรงเรียนร้าง ใยแมงมุมเต็มเพดาน ส่องไฟขึ้นไปทีไรก็หลอนทุกที เด็กหนุ่มลดไฟไปที่พื้นด้านล่าง แม้เป็นพื้นปูนแต่โครงด้านในก็ทำจากไม้ซะส่วนใหญ่ ถึงจะเป็นตึกเรียนแค่ห้าชั้น แต่โครงทำจากไม้แบบนี้ไม่ค่อยแข็งแรงเลย จะว่าไปก็มีแต่ชั้นบนนี่น่าที่เห็นตัวไม้ หรือว่าเพราะพึ่งสังเกตกันนะ

     

                    แกร๊บ!!

                    เด็กหนุ่มก้าวลงบนบันไดขั้นสุดท้าย เสียงไม้แบบนี้ท่าทางจวนเจียนจะพังแล้วสินะ เขาผ่อนน้ำหนักตัวแล้วเปลี่ยนไปเหยียบที่ขอบบันไดแทน

     

                    ชัญ ระวังนะบันไดขั้นนั้นมันจะพัง เด็กสาวชะงักแล้วชักเท้ากลับไปยืนบนบันไดขึ้นเดิม เธอค่อยๆวางเท้าเบาๆที่ขอบบันไดก่อนจะก้าวลงไปที่ขั้นต่อไป

     

                    แกร๊บ!!

                    เสียงดังขึ้น ..... แต่มันไม่ได้ดังมาจากบันไดขั้นนี้ !! กระแสลมพัดผ่านช่องประตูด้านบน เสียงหวีดหวิดเหมือนคนกำลังผิวปากเป็นท่วงทำนองที่โหยหวน

     

                    ปัง!!

                    ประตูเคลื่อนที่เข้าหากันก่อนจะกระแทกอย่างแรง เสียงกรีดร้องด้วยความจ็บปวดดังขึ้นจากด้านหลังประตู ไฟฉายหลุดมือชัญหล่นลงบนพื้นแล้วกลิ้งไปบนทางเดิน แสงไฟส่องไปตามทางที่ไฟฉายเคลื่อนผ่าน มันกระแทกกับขอบประตูห้องที่แง้มอยู่แล้วค่อยๆดับลง

     

                    เด็กสาวยืนนิ่ง ความเย็นแผ่ซ่านไปถึงไขสันหลัง ขนทุกเส้นลุกชันแบบไม่ทันตั้งตัว เสียงหวีดร้องยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่ว ชัญหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูกแต่ก็ไม่ทำให้กลิ่นจางลงแต่น้อย แสงสลัวจากด้านนอกพอที่จะเห็นสีหน้าของชัญที่กำลังตกใจ เสียงหวีดร้องค่อยหายไป แต่กลิ่นเลือดกลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

                   

                    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

                    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

                    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

                    บางอย่างจากด้านนอกกระหน่ำทุบประตูเหล็กอย่างแรง บานประตูสั่นไหว เสียงโหยหวน เสียงครวญคราง เสียงร้องขอความช่วยเหลือเกิดขึ้นมั่วซั่วจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง ชัญก้าวถอยห่างจากประตูจนไปชนกับขอบระเบียง เศษปูนร่วงกราวลงบนพื้น เสียงต่างๆเงียบลงพร้อมกับกลิ่นคาวที่ค่อยๆจางลงเหลือแต่ความเงียบอีกครั้ง

     

                    ศิลป์ยืนนิ่งอยู่บนทางเดินในขณะที่ชัญกำลังตกใจสุดขีด เสียงคนพูดพึมพำดังแว่วมาตามความมืด มันเป็นภาษาแปลกๆฟังดูคล้ายบทสวดมากกว่าจะเป็นการพูดธรรมดา ร่างกายของศิลป์หยุดชะงัก ไฟฉายในมือตกลงบนพื้นแล้วกลิ้งตรงไปที่ชัญ เด็กสาวก้มลงมองแล้วค่อยๆย่อตัวหยิบมันขึ้นมา

     

    ไฟดับลง!! .... แสงจากดวงจันทร์ไม่เพียงพอที่จะทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวได้มากนัก เด็กสาวเอามือตบปลายกระบอกเบาๆ ไฟฉายสว่างอีกครั้ง ....... เสียงต่างๆเงียบลง เด็กหนุ่มยังยืนอยู่กับที่ ไฟฉายถูกกวัดแกว่งไปรอบๆ เด็กหนุ่มขยับตัวแล้วเดินมาที่ชัญก่อนจะเอามือจับแขนเธอไว้

     

    ชัญ! อย่าส่องไฟมั่วๆ มันมองเราอยู่ รู้สึกมั้ย! “ เด็กสาวค่อยๆลดไฟฉายลงก่อนจะปิดสวิตช์ไฟฉาย ความมืดเข้าครอบคลุมอีกครั้ง บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไป ชัญเอามือทั้งสองมากอดอกพลางใช้ผ่ามือถูที่ต้นแขนให้เกิดความอุ่น แต่ก็คงช่วยได้ไม่มาก อากาศตอนกลางคืนในเวลาปกติก็ค่อนข้างเย็นอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ในที่แบบนี้มันยิ่งเย็นเป็นเท่าตัว

     

    อึดอัด!! รู้สึกได้ถึงสายตานับไม่ท้วนที่กำลังมองมา น่าจะมากกว่าห้า .... ไม่สิเยอะกว่านั้น!! เด็กสาวสูดหายใจเต็มปอดแล้วค่อยๆผ่อนลมออกทีละน้อย ท่าทางชัญจะลดความเครียดที่มีอยู่ลงได้มากแล้ว สีหน้าของเธอดีขึ้นแต่ยังคงตกใจอยู่ไม่น้อย สายตานับสิบที่จ้องมอง ...... แววตาที่เลื่อนลอย แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงอาฆาต .... เหมือนพวกเขาต้องการอะไรบางอย่าง แต่อะไรล่ะที่เขาต้องการ!!

     

    สายลมที่โกรธเกรี้ยวพัดผ่านตัวตึก ศิลป์ยกมือขึ้นมาบังดวงตาเพื่อไม่ให้ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายเข้าไปทำให้เกิดอาการเคือง ....... ไม่รู้สึกว่าถูกมองอีกแล้ว ชัญเปิดสวิตช์ไฟฉาย แสงไฟสว่างวาบในความมืด ฝุ่นที่พื้นจับตัวกันเป็นตัวอักษรพอมองเห็น ช่ ..... เด็กสาวส่องไฟไปที่ตัวอักษรเพื่อให้มองเห็นชัดขึ้น ตัวหนังสือหวัดๆเป็นข้อความสั้นๆ ...........

     

    ช่วยด้วย!! ” ชัญอ่านข้อความที่เขียนบนพื้น เด็กหนุ่มเดินไปหยิบไฟฉายที่เธอทำตกก่อนจะเดินเข้าไปแล้วเปิดไฟฉายอีกครั้ง

    ข่วยอะไร!!

    เราก็ไม่รู้...แต่รู้อย่างเดียวคือ พวกนี้ไม่ได้จะมาทำร้ายเรา

    ถือว่าเป็นข่าวดีมั้ยเนี่ยชัญ

    เราต้องช่วยพวกเขานะศิลป์ เด็กสาวจับแขนเขาแล้วเขย่าเบาๆ เด็กหนุ่มพยักหน้า

    ถึงจะบอกให้ช่วยก็เหอะ แต่จะช่วยจากอะไรละ ??

     

    นั่นสิถึงจะให้ช่วย แต่จะให้ช่วยจากอะไรละ? คนที่ตายไปแล้วยังต้องให้คนเป็นอย่างเราช่วย มันจะมีซักกี่เรื่องเชียวนะ เป็นวิญญาณน่าจะไปไหนมาไหนแล้วทำอะไรได้สะดวกกว่าคนธรรมดานี่น่า แล้วสิ่งที่วิญญาณทำไม่ได้มีอะไรมั่งละ .... ปรากฏตัวตอนกลางวัน !! ตัดทิ้งไปได้เลยถึงแม้จะปรากฏตัวกลางวันไม่ได้ก็ยังมากลางคืนได้นี่น่า ..... เข้าวัด !! ถึงแม้โรงเรียนจะอยู่ใกล้วัด แต่จะเข้าไปเพื่ออะไร .......ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ทำไม่ได้ แต่ถูกจำกัดไม่ให้ทำล่ะ !!

     

    ปลดปล่อย!! ชัญพูดขึ้น

    ปลดปล่อย?? ปลดปล่อยอะไรศิลป์ตีสีหน้าสงสัยแล้วหันกลับไปถาม

    วิญญาณน่าจะทำอะไรได้สะดวกกว่าพวกเราจริงมั้ย แต่ถ้าพวกนั้นไม่สามารถทำได้ละชัญมองไปที่ตัวหนังสือแล้วหันกลับไปมองหน้าศิลป์ ถูกจำกัดให้อยู่ที่นี่ ถูกจำกัดให้ทนทุกข์กับภาพความทรงจำในอดีตเธอพูดต่อ

    แบบเมื่อกี้ใช่มั้ยเด็กสาวพยักหน้าเบาๆ

                    แต่ว่า ..... ศิลป์พูดขึ้นอีกครั้ง จะปลดปล่อยยังไง

                    อาจจะเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้นก็ได้ หนังสือที่สามารถกักขังวิญญาณได้ !!

                    งั้นเราเริ่มกันเถอะ

     

                    ไฟฉายทั้งสองกระบอกถูกใช้งานอีกครั้ง แสงไฟส่องไปมาในความมืดพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังเป็นจังหวะ ประตูค่อยๆอ้าออกตามแรงผลัก เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปด้านใน มันเป็นแค่ห้องสี่เหลี่ยมโล่งๆ ไม่มีโต๊ะเรียนอยู่ในห้องแม้แต่น้อย กระดานดำหน้าห้องยังหลงเหลือรอยชอล์กอยู่เล็กน้อย ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ซ้ายสุดของตึก ชัญเดินเข้ามาในห้องแล้วส่ายหัว เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

                    ตกลงเราต้องดูทุกห้องจริงๆใช่มั้ย

                    จนกว่าจะเจอนั่นแหละศิลป์

                    เวลาจะพอมั้ยเนี่ย

     

                    ศิลป์ยกนาฬิกาขึ้นมาแล้วเอาไฟฉายส่องไปที่มัน เกือบเที่ยงคืนแล้ว ยังเหลือเวลาเยอะพอสมควร ถ้าสำรวจทุกห้องในเวลาที่มีตอนนี้ ก็น่าจะทันแต่ว่า...มันมีพวกนั้นอยู่นะสิ ถ้าเป็นไปได้ ขออย่าเจอพวกนั้นเลย เด็กหนุ่มถอยออกมาจากห้องแล้วค่อยๆเดินออกไป ชัญเดินตามออกแล้วก่อนปิดประตูห้องแล้ววิ่งตามไป

     

    ประตูห้องข้างๆถูกล๊อค ศิลป์ดึงประตูอย่างแรงเพื่อพยายามจะเปิดมันแต่ก็ไม่เป็นผล โซ่ที่คล้องประตูอยู่มันใหญ่เกินกว่าที่แรงของเขาจะทำให้ขาดได้ ประตูเปิดแง้มได้เล็กน้อย เด็กหนุ่มแนบใบหน้ากับช่องประตู .... มองลอดเข้าไป ..... สบตากับดวงตาสีแดงกล่ำ แววตาจ้องเขม็ง ศิลป์สะดุ้งเฮือกแล้วก้าวถอยออกมาจากบานประตู

     

    ปัง!!

    บานประตูหลุดกระเด็นกระแทกกับพนังปูนเสียงดัง เศษปูนร่วงกราวลงบนพื้อนเบื้องล่าง ร่างที่ซ่อนอยู่ภายในห้องค่อยๆคลืบคลานออกมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×