คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ชั้นที่ 13 น า ง ส า ว อ ม ร รั ต น์ < M I s S. A m o R n R a T h >
ทำไม...ทำไม!! มันเป็นคำถามที่อยู่ในหัวของฉันมาตลอด ฉันเป็นคนพิเศษกว่าคนอื่น?? ใครๆก็บอกฉันแบบนี้ ไอ้การที่มองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นนะหรอที่เค้าเรียกว่าพิเศษ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันขอเป็นคนธรรมดาดีกว่า..........
ภูติผี...สัมภเวสี....วิญญาณ ฉันเห็นมันมาจนชินแล้วล่ะ เริ่มแรกก็แค่เห็นลางๆ แต่พอโตขึ้นก็กลับเห็นชัดขึ้นทุกที แต่ก็ใช่จะมองเห็นทุกตนหรอกนะ ถ้าบางตนไม่อยากที่จะปรากฏกายฉันก็มองไม่เห็นหรอก จะมองเห็นก็พวกที่ร่อนไปร่อนมาแบบไม่มีจุดหมายซะมากกว่า พวกนั้นเอาแต่ลอยไปลอยมา ตนไหนตายดีก็หน้าตาดีหน่อย ตนไหนตายไม่ดีก็มาแบบเละๆ ยิ่งพวกที่ตายเพราะอุบัติเหตุนะไม่ต้องพูดถึง ตัวลอยไปทางขาเดินไปทางยังมีเลย
ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าญาติฉันมีเซนต์พวกนี้กันทุกคนมั้ง ครอบครัวไม่สิเรียกแบบนี้คงไม่ได้เพราะฉันก็ไม่เคยมี พ่อกับแม่ตายไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก ชีวิตตั้งแต่จำความได้ก็มาอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จะมีก็แต่ลุงกับป้ามาเยี่ยมเป็นครั้งคราว พวกเขาก็เล่าเรื่องพ่อกับแม่ให้ฟังเยอะเหมือนกัน รู้สึกว่าจะถูกฆ่าตายด้วยอะไรซักอย่าง ลุงกับป้าฐานะไม่ค่อยดี แค่เลี้ยงกันเองสองคนยังแทบลากเลือด จะเอาฉันไปอยู่ด้วยยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ จะว่าไปอยู่ที่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันก็พอมีเพื่อนแต่ก็ได้แค่นั้น
พอโตขึ้นเริ่มมองเห็นพวกนั้นมากขึ้นเพื่อนๆก็เริ่มพากันรังเกลียด แค่เห็นสิ่งที่พวกเขาไม่เห็นเนี่ยนะต้องทำกันถึงขนาดนี้ แม้กระทั่งพี่เลี้ยงยังเป็นไปกับเขาด้วย ต้องอยู่ตัวคนเดียวเพื่อนก็ไม่มีจะพยายามพูดกับพวกที่วันๆเอาแต่ลอยไปลอยมาก็ไม่ไหวกลัวว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องอีก สุดท้ายฉันก็ต้องย้ายออกมาจากสร้างเลี้ยงเด็กกำพร้ามาอยู่กับลุงตั้งแต่ตอนขึ้นป.ห้า
ฉันพยายามปรับตัวให้เข้ากับสังคมภายนอก แต่พอเห็นพวกวิญญาณผีตายโหงมันก็อดกลัวไม่ได้ มาแต่ละตนไม่ค่อยจะครบสามสิบสองเท่าไร หัวขาดมั่ง ตาทะลักมั่ง ตับไตใส้พุงไม่เคยอยู่ที่เดิมเลย แล้วบางตนนี่สุดแสนจะเฮี้ยน ชอบไปซุ่มอยู่แถวที่ร้างๆมืดๆแล้วหลอกคนเดินผ่านไปมา สนุกเขาละ ไอ้เราก็พยายามเตือนคนเดินผ่านให้เดินไปทางอื่นก็มีแต่คนหัวเราะหาว่าเราบ้าซะอีก...แล้วเป็นไงหัวโกร๋นแทบทุกราย
พอขึ้นม.หนึ่งลุงกับป้าก็จากไปด้วยอุบัติเหตุ ฉันก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรปกติก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด ลุงกับป้าทำงานหนักตื่นแต่เช้ากลับมาก็ค่ำแล้วไม่ค่อยได้เจอกันหรอก แต่ยังไงท่านทั้งสองก็มีพระคุณมากมายจริงๆ ขนาดตายไปแล้วยังแวะกลับมาบอกเลขสองตัวอีกซะด้วย แต่สภาพก็ดูไม่ค่อยได้หรอกนะ คอนี่หมุนได้รอบเลย เนื้อตัวมีแต่รอยเลือด แขนซ้ายก็หายไป พอถามถึงป้าก็บอกว่าป้าชิงไปสวรรค์ก่อนแล้วลุงบอกลุกจะตามไปเหมือนกัน สวรรค์หรอมันเป็นที่แบบไหนกันนะ
บ้านเก่าๆของลุงก็เป็นแค่บ้านไม้ธรรมดา ก็ใช่สิฉันมันเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดจนๆนี่น่า จะไปเรียนแต่ละทีก็ต้องพึ่งรถสองแถวที่มีวันละรอบเท่านั้น เงินตอนนี้ก็มีแค่เงินเลขท้ายสองตัวที่ลุงให้มาเท่านั้น ไปโรงเรียนวันๆก็หน้าเบื่อ ถึงแม้จะเรียนดีแค่ไหนก็ไม่มีคนคบอยู่ดี เพื่อนในห้องไม่ค่อยมีใครสนใจฉันหรอก ฉันมันเป็นตัวซวยก็เพราะชอบไปอยู่ในที่ๆเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยๆ จนมีคนบอกว่าฉันไปอยู่ที่ไหนต้องมีเรื่องได้ทุกทีสิน่า มันผิดที่ฉันงั้นหรอที่จะพยายามเตือนคนอื่น ก็พวกผีตายโหงที่ต้องหาตัวตายตัวแทนน่ะ บังคนข้ามถนนมั้งละ ผลักคนให้พลัดตกตึกบ้างละ แต่ก็ชั่งเหอะคนที่ไม่ฟังคำเตือนของคนอื่นตายๆไปซะได้ก็ดี
อยู่ๆบ้านไม้ของลุงก็พังขึ้นมา พื้นบ้านทรุดตัวลงเป็นหลุมใหญ่พอดูทีเดียว รู้มั้ยในหลุมนั้นฉันเจออะไร เงิน!! เงินฝังอยู่ตั้งมากมาย ลุงกับป้าน่าจะเอามาฝังเอาไว้ตามประสาคนแก่ เท่าที่ดูแล้วค่อยข้างเยอะเลยนะเนี่ย ชีวิตอาจจะสบายขึ้นมาบ้างก็ได้แฮะเรา
ขึ้นม.สองรู้สึกจะดีขึ้น เพื่อนๆเริ่มชินกับฉันบ้างแล้ว ก็พอมีคนมาคุยด้วยเป็นครั้งคราว แต่ชั่งป่ะไรคุยไม่คุยก็เหมือนกันนะแหละ ช่วงนี้ฉันก็พยายามจะสื่อสารกับวิญญาณต่างๆ แต่ก็ต้องเลือกหน่อย ถ้าไปพูดกับกับวิญญาณที่มีแรงอาฆาตเยอะๆอาจจะถูกฆ่าได้ ก็เกือบโดนหลายครั้งอยู่เหมือนกัน เวลาจะพูดอะไรก็ต้องคอยระวังคนรอบข้างอีกด้วยไม่งั้นเขาจะหาว่าเราบ้าอีก
ที่ส่วนการเรียนก็ไม่ต้องพูดถึงทำยังไงก็ไม่ได้ตกไปจากเดิมเลย จะว่าเก่งหรอก็คงไม่ใช่เพราะฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านหนังสือ ไม่ใช่ไปออกไปวิ่งเล่นเหมือนคนอื่นๆนี่น่า เคยมีคนชวนไปเล่นเหมือนกัน แต่สังหรฉันตอนนั้นมันบอกว่าจะมีอันตรายก็เลยไม่ไปด้วย สุดท้ายพวกนั้นก็จมน้ำตายทั้งๆน้ำยังสูงไม่ถึงอกเลย คงเพราะพวกผีพรายใต้น้ำดึงขาไว้ละมั้ง ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีใครมาชวนอีกเลย คงจะกลัวตายล่ะนะ
ตอนนี้บ้านไม้ที่เคยอยู่ก็สร้างใหม่เป็นบ้านปูนแล้ว รู้สึกแข็งแรงดีเหมือนกัน พอฝนมาน้ำก็ไม่ค่อยรั่วไม่ต้องไปคอยหาอะไรลองน้ำฝนแล้วด้วย เงินก็ยังเหลืออีกตั้งเยอะคงจะใช้ได้จนเรียนจบนะแหละ มันเป็นสมบัติของลุงหรือเปล่าน้า แต่ถ้าเป็นเงินของลุงทำไมลุงไม่เอาไปใช้ละ หรือว่าเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้ คงไม่ใช่หรอกหน้าพ่อฉันยังจำไมได้เลย ไม่มีเหตุผลที่เขาจะทิ้งเงินที่มากมายขนาดนี้ให้ ถ้ายิ่งถูกฆ่าตายด้วยแล้วไม่น่าจะฝังเงินเอาไว้แบบนี้ หรือว่า...พวกเขาจะรู้ล่วงหน้า!! ตอนนี้ฉันชักสงสัยซะแล้วสิ
พออยู่ม.สามได้ไม่ทันไรก็มีเรื่องอีกแล้ว ตอนนั้นแถวบ้านฉันมีรถทัวป์ประสบอุบัติเหตุ คนตายหลายศพเหมือนกัน ตกกลางคืนทีไรออกมาร้องโหยหวนเหมือนนักร้องประสานเสียงทุกที น่ารำคาญชะมัด ต้องให้ไปพูดไม่รู้กี่รอบกว่าจะยอมไปที่ชอบที่ชอบ สภาพแต่ละคนก็ดูไม่ได้เลยสงสัยรถจะคว่ำหลายตลบ หน้านี่แทบไม่เป็นทรงเลย แต่ยังดีที่พวกนี้ไม่ชอบไปหลอกหลอนชาวบ้าน ไม่งั้นพวกนั้นต้องคิดว่าฉันเป็นคนทำแน่ๆ เพราะดันไปมีคนเห็นตอนที่ฉันกำลังคุยกับพวกนั้นซะได้ ไม่กี่ชั่วโมงก็รู้กันทั้งหมู่บ้าน ฉันเลยถูกเกลียดมากกว่าเดิมเสียอีก
เวลาไปเรียนก็น่าเบื่อ เพื่อนก็ไม่มีแต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าลุงขอให้เรียนจนจบม.หกฉันก็คงไม่มานั่งเรียนแบบนี้หรอก ขนาดครูยังไม่ค่อยสนใจอะไรฉันเลย คงจะกลัวฉันกันมากแหละ
แต่พอขึ้นม.สี่ชีวิตฉันก็ดีขึ้น ฉันเริ่มจะอยู่แบบคนธรรมดาได้แล้ว พวกวิญญาณฉันก็ทำเหมือนมองไม่เห็น เวลาเจอพวกผีตายโหงก็ทำเป็นเฉยๆ แต่ว่าสังหรฉันก็ยังแม่นเหมือนเดิม เพื่อนก็เริ่มเข้ามาคุยบ่อยขึ้น คงเพราะฉันเคยช่วยชีวิตคนไว้หลายคนเหมือนกัน คงเห็นฉันเป็นแค่หมอดูละมั้ง เวลาจะทำอะไรกันชอบมาขอคำปรึกษา แต่เวลามีสังหรก็ไม่เคยพลาดเลยนะ
ตอนม.ห้าฉันก็ต้องย้ายไปอีกห้องนึง เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่มันก็ทำให้ฉันได้เจอเพื่อนใหม่ จะเรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทก็ได้ถึงแม้พวกนั้นจะเป็นผู้ชายก็เหอะ แต่ก็สุภาพมากเลย ดีใจจริงๆที่ได้มาอยู่ห้องนี้ พวกนั้นชอบฟังเรื่องผีที่ฉันเล่าให้ฟังซะด้วย โดยเฉพาะน้ำ น้ำเป็นคนหน้าตาดี สุภาพที่สุด เวลาฉันมีอะไรทุกใจเขาก็คอยปลอบเสมอ ฉันว่าฉันอาจจะชอบเขาไปแล้วก็ได้ ส่วนเต้กับนาจถึงหน้าตาจะไม่ดีเท่าน้ำ แต่ก็เป็นคนดีมากๆเลยทีเดียว คอยช่วยเหลืฉันตลอดเลย เวลาโดนแกล้งก็คอยปกป้องเสมอ ฉันรักเพื่อนพวกนี้จัง
ปีนี้ก็อยู่ม.หกแล้ว ชีวิตก็มีความสุขดี มีเพื่อนมากขึ้นนิดหน่อย วันพรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดฉันแล้ว จะได้อายุครบสิบแปดสักที นี่คงเป็นการเขียนบันทึกครั้งแรก และอาจเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ ฉันสังหรไม่ดีเลย แต่เอาเถอะรีบนอนดีกว่าจะได้ไปเรียนพรุ่งนี้
22/02/31
21.35 น.
........................................................................................................................................
อากาศดีจังวันนี้ รถสองแถวมาแล้ว ฉันเดินขึ้นไปนั่งบนรถ รถค่อยๆเคลื่อนออกไป ถนนก็ไม่ค่อยเรียบเท่าไร
“ อ้าว!! ” เสียงน้ำพูดขึ้นแล้วชะเง้ออกมามอง ฉันส่งยิ้มไปให้ อยู่บนรถคนเยอะๆแบบนี้คุยไม่ค่อยถนัด รอถึงโรงเรียนก่อนดีกว่าแล้วค่อยคุย ถนนมันขรุดขระจริงๆ ตัวรถกระเทือนไปหมด ฉันมองเห็นศาลเจ้าแม่ตะเคียนที่อยู่ริมถนน หญิงสาวผมยาวไสวสวมชุดไทยโบกมือให้ฉันอีกแล้ว เธอคงอยากจะขอบคุณที่ฉันช่วยบอกคนให้ไปสร้างศาลให้เธอละมั้ง
ถึงโรงเรียนซักที ฉันเดินลงมาจากรถสองแถวแล้วหยุดยืนรออยู่หลังรถ น้ำเดินออกมาแล้ว ฉันวิ่งเข้าไปสะกิดตัวเขาแล้วยิ้มให้
“ มาเช้าจังนะน้ำ ”
“ เวลาปกติของเราแหละ แต่เธอไม่เห็นเอง ” น้ำเอามือลูบผมให้เป็นทรง เขาดึงมือฉันเดินไปที่โรงอาหารแล้ววางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ฉันนั่งลงแล้วบอกให้น้ำนั่งด้วย
เพล๊ง!!
เสียงจานแตก ฉันหันหน้าไปที่ต้นเสียง ภารโรงบุญกำลังทำท่าร้อนรนที่ทำจานแตก แต่ไม่ใช่เขาละมั้งที่เป็นต้นเหตุ ฉันเห็นวิญญาณเด็กอยู่ใกล้ๆตัวเขาด้วย โดนแกล้งแน่ๆ วิญญาณเด็กคนนี้อยู่มาก่อนที่ฉันจะมาเรียนที่นี่ซะอีก อายุคงราวๆ100กว่าปีแล้วมั้ง ตรงนั้นเคยเป็นแม่น้ำมาก่อน แต่ก็แห้งขอดจนถมมาสร้างโรงเรียนนี่แหละ ฉันเคยไปคุยกับเด็กคนนั้นอยู่เหมือนกัน เห็นว่าจมน้ำตายมานานแล้วแต่ทำไมไม่ยอมไปเกิดก็ไม่รู้
“ มนต์ ” น้ำสะกิดตัวฉันเบาๆ “ เย็นนี้ไม่ต้องรีบกลับนะ ” เขาพูดต่อ
“ ทำไมละ?? ” ฉันทำสีหน้าสงสัย
“ เดี๋ยวก็รู้เอง ” เขายิ้มให้ฉัน วันนี้เป็นวันเกิดเราคงจะมีอะไรมาทำให้ประหลาดใจแน่ๆ
เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ นาจกับเต้นั่นเอง แต่ทำไม่สีหน้านาจไม่ค่อยดีเลยละ ทั้งคู่เดินมานั่งลงข้างๆฉัน นาจถอนหายใจเบาๆ
“ เป็นอะไรหรือเปล่า ” ฉันเอามือไปโบกแถวใบหน้าของนาจ เขานั่งเท้าคางแล้วถอนหายใจอีกครั้ง
“ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้นี่มันอกหัก ” เต้อธิบายแล้วยิ้ม
เสียงอาจารย์ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าจะต้องไปเข้าแถวแล้ว เพลงชาติกำลังจะขึ้น พวกเราลุกไปที่สนามหญ้าแล้วจัดแถวเรียงตามความสูง ฉันอยู่เกือบหลังสุดเลย ขนาดสูงแค่ร้อยหกสิบแปดเองนะเนี่ย เพลงชาติจบลงพวกเราเดินขึ้นเรียนตามปกติ อยากให้ถึงเย็นนี้เร็วๆจังอยากรู้ว่าน้ำจะทำอะไรให้เราประหลาดใจนะ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ วันนี้ฉันไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าที่ควร มัวแต่คิดว่าตอนเย็นจะมีอะไรกัน ดูเหมือนเพื่อนๆทั้งห้องก็รู้ ฉันชักตื่นเต้นแล้วสิ
คาบเรียนสุดท้ายผ่านไปฉันยังต้องทำเวรกับน้ำอีก ฉันรีบกวาดห้องแบบลวกๆ อยากให้มันเสร็จเร็วๆ แต่พออยากให้เร็วทีไรมันต้องช้าทุกที อยู่ดีๆก็เริ่มปวดหัวขึ้นมานิดๆ แต่ไม่เป็นไรรีบทำให้เสร็จดีกว่า
“ มนต์ เป็นไรหรือเปล่า ” น้ำคงสังเกตเห็นสีหน้าของฉันแน่ๆ
“ ไม่มีอะไรหรอก แต่ทำไมวันนี้คนอื่นเขาไม่ยอมทำเวรกันนะ ”
“ ก็คงไปเตรียมตัวละมั้ง ”
“ เตรียมตัวหรอ ” ฉันเอ่ยถาม
“ เดี๋ยวไปถึงก็รุ้เอง ”
คำพูดของน้ำยิ่งทำให้ฉันตื่นเต้นเข้าไปอีก มีอะไรนะ หรือว่าจะจัดงานวันเกิดให้เรา ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยมีใครมาจัดงานให้เลย ฉันดีใจจนเนื้อเต้น อยากจะไปเห็นซะเดี๋ยวนี้เลย อาการปวดหัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ฉันต้องเอามือเท้าโต๊ะเอาไว้ อยู่ดีๆมันก็จี๊ดขึ้นมาในสมอง ตัวฉันเซไปพิงกับกระดานดำ
“ คงไม่ไหวแล้วสินะ มนต์ ” น้ำเดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือมาจับไหล่เอาไว้
“ ไม่เป็นไรหรอกน้ำ ” ฉันส่ายหัว
“ จะไม่เป็นไรได้ไง เพราะเธอถูกพวกเราจับได้แล้ว ”
“ เธอพูดเรื่องอะไร ”
“ ชั้นยอมทนเป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งปีนึง ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีค่าพอที่จะให้ชั้นเป็นเพื่อนซักนิด ”
“ ธะ...เธอพูดเรื่องอะไร ” หัวของฉันมันปวดตุ๊บๆ มันเกิดอะไรกันแน่เนี่ย
เจ็บ....!! ฉันก้มไปมองที่ท้อง น้ำชกฉัน ร่างกายไม่มีแรงแม้แต่จะยืน ฉันไม่สามารถฝืนให้ยืนได้อีกแล้ว ตัวฉันทรุดลงกับพื้น ความรู้สึกเจ็บหายไป ตามองไม่เห็น อะไรกัน !!
“ ชั้นจะบอกเธอให้เอาบุญ ” น้ำกระซิบข้างหู “ พวกฉันคือคนที่ศรัทษาลัทธิมืด เธอคือเครื่องมือที่ทำให้เราถูกยอมรับจากพวกชั้นสูงไงล่ะ ” ฉันกลอกตาไปมาแต่ก็มองไม่เห็น ทุกอย่างมีแต่ความมืด ร่างของฉันถูกยกขึ้น จะพาฉันไปไหน!!
“ ทำไมนานจังวะน้ำ ” นั่นมันเสียงนาจนี่น่า
“ กว่าจะจับได้ก็นานอยู่ ” เสียงน้ำดังขึ้นข้างๆตัว
“ คงจะเริ่มพิธีได้แล้วละมั้ง ”
พิธี!...พิธีอะไร?! นี่มัน...นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ที่ผ่านมาทั้งหมดมันคืออะไร เสแสร้งงั้นหรอ? เสียงรอบตัวค่อยๆหายไปจากการรับรู้ ความรู้สึกหลายๆอย่างยังเหลืออยู่ ทั้งความเจ็บปวดทางร่างกายหรือแม้กระทั่ง...ใจ พวกมันวางฉันลงบนพื้น ทำไม...ทำไมถึงมองได้อะไรไม่เห็นเลย!! ทำไมกัน?! คำว่าเพื่อนที่ผ่านมามันไม่มีความหมายเลยงั้นหรอ... ฉันเกลียด...เกลียด...เกลียดคำว่าเพื่อน!!
ของเย็นๆที่มาถูกหน้าท้อง นั่นมันอะไร….. เจ็บ!! หยุด!! หยุดเดี๋ยวนี้ ความรู้สึกแบบนี้ เลือด...เลือดไหลออกมาแล้ว ทรมาน!! พอ..พอซักที ความเจ็บมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ชั้นจะฆ่าพวกแก ถึงจะตายชั้นก็ต้องฆ่าแกให้ได้!!!! ..................................................
ความคิดเห็น