คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชั้นที่ 1 จุ ด เ ริ่ ม ต้ น . . . < S t a r T i n g P o I n T . . . >
ท้องนภายามรัตติกาลอันแสนยาวนาน ดวงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญทอแสงสีนวลอ่อนไปทั่วผืนนภานั้น รัตติกาลนี้ไม่เหมือนรัตติกาลอื่นๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นที่ ................
ดวงตาคู่หนึ่งถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ร่างกายที่เคยแน่นิ่งเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวมาเป็นเวลานาน ร่างนั้นค่อยๆลุกขึ้นเดินไปยังเบื้องหน้าที่มีแสงจันทร์สาดส่องมาทางช่องประตูเพียงเล็กน้อยก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าประตูที่ถูกปิดสนิทแล้วเอื้อมมือไปกดสวิตไฟข้างๆอย่างคุ้นเคย
แป๊ะ...!!
หลอดไฟบนเพดานกะพริบสองสามครั้งก่อนที่จะสว่างขึ้น โต๊ะเรียนยาวสีขาวตั้งเรียงรายอยู่กลางห้องสี่เหลี่ยมอย่างเป็นระเบียบ ใต้โต๊ะทุกตัวจะมีเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินวางอยู่มากมาย โต๊ะไม้สีน้ำตาลเก่าๆของอาจารย์ถูกจัดให้อยู่ใกล้กระดานไวท์บอร์ดสีขาวซึ่งมีรอยปากกาไวท์บอร์ดขีดเขียนอยู่ลางๆ ถังขยะสีดำสนิทที่ภายในมีขยะมากมายจนล้นออกมาวางอยู่ติดกับชั้นสารเคมีซึ่งมีสารเคมีวางไว้เบียดเสียดกันแทบทุกชั้นถูกจัดวางอยู่ทางด้านหลังห้อง อ่างล้างมือที่ถูกปูด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาดตาอยู่ใต้หน้าต่างเก่าๆ มันถูกเปิดแง้มไว้เล็กน้อย ห้องเรียนที่นี่แทบทุกห้องจะมีโครงสร้างเหมือนกันคือจะมีประตูหน้าและประตูหลัง ประตูจะอยู่ตรงข้ามกับหน้าต่าง ยกเว้นห้องน้ำและห้องตรงสุดตัวตึกติดบันไดเท่านั้นเพราะมันมีเพียงประตูเดียว
ตาที่เคยชินกับความมืดเมื่อได้รับแสงสว่างอย่างฉับพลันทำให้พล่ามัว เด็กหนุ่มอายุราวๆสิบแปด สวมชุดนักเรียนสีขาว กะพริบตาถี่ๆพลางเอามือขยี้ตาเป็นพักๆ ภาพที่อยู่เบื้องหน้า ค่อยๆชัดขึ้นทีละน้อย
แกร๊ก !!
ประตูแง้มออกช้าๆ เด็กหนุ่มก้าวเท้าผ่านประตูออกมาหยุดยืนอยู่บนทางเดินชั้นแปด เขามองไปตามทางเดินที่ดูเหมือนจะยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด มีเพียงแสงสว่างจากแสงจันทร์อ่อนๆดวงนี้ที่ทำให้พอมองเห็นสิ่งต่างๆได้แต่ ก็เลือนลางเต็มที เด็กหนุ่มครุ่นคิดพลางเอามือทั้งสองขึ้นมากุมศีรษะบ่งบอกถึงอาการปวดหัวอย่างรุนแรง
“ นี่เรา มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน ” เสียงแผ่วๆเล็ดลอดออกมาจากปาก ขาทั้งสองเริ่มขยับและก้าวไปเบื้องหน้าอย่างช้าๆ “ ตุ๊บ..!! ” เสียงฝีเท้าดังป็นจังหวะท่ามกลางความเงียบสงบ ความงัวเงียทำให้เด็กหนุ่มไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติ ประตูที่ปิดสนิทบานแล้วบานเล่าผ่านหน้าไปด้วยความเร็วที่พอๆกับการเดิน ร่างกายของเขาหยุดกึก ดวงตาเบิกโพลงจับจ้องไปยังตัวอักษรขนาดใหญ่ด้านบนของบานประตูที่เปิดอยู่ ห้องน้ำ!!?
“ เห้ย!! …. ห้องน้ำมันต้องติดกับห้องเคมีแล้วทำไม.... “ เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดออกมาบริเวณใบหน้าพลางหันหน้าไปมาเผื่อว่าจะเจอคำตอบ สายลมเย็นแผ่วเบาพัดผ่านมากระทบกับร่างของเขาอย่างจังพร้อมๆกับเสียงหมาหอนที่ดังระงมไปทั่วบริเวณ บางสิ่งกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ สิ่งนั้นเคลื่อนที่มาจากด้านหน้า มีบางอย่างเคลื่อนไหวในความมืดแต่มันกลับหายไปพร้อมกับเสียงหมาหอนหยุดลงทันทีเมื่อเด็กหนุ่มหันไปมอง ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง มันจะต้องมีอะไรแน่ๆ ร่างที่หยุดนิ่งเริ่มขยับอีกครั้งก่อนจะเคลื่อนที่เข้าไปภายในห้องเบื้องหน้า
เด็กหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือแล้วมองไปยังกระจกเงาด้านบนที่สะท้อนภาพตัวเองลางๆออกมา ความมืดทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดนัก ภาพห้องน้ำเรียงรายอยู่มากมายสะท้อนออกมาจากกระจกเงาขุ่นมัวซึ่งมีตัวของของเขายืนอยู่หน้าห้องน้ำห้องแรก เด็กหนุ่มควานหาสวิตไฟข้างๆกระจกนั้น “ แป๊ะ!! “ ไฟห้องน้ำกะพริบถี่ๆก่อนที่จะสว่างขึ้น ทำให้ทุกอย่างชันเจนขึ้นมากทีเดียว
“ หนาวแฮะ “ เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อยก่อนที่จะเอื้อมมือไปบิดก๊อกน้ำเบื้องหน้า
เอี๊ยด !!
เสียงบิดก๊อกดังมาก.....คงเพราะที่นี่มันเงียบจนวังเวง
ซู่…..!!
น้ำมากมายไหลออกมาจากก๊อกลงไปกระทบกับอ่างล้างมืออย่างรุนแรง จู่ๆน้ำสีแดงข้นไหลทะลักออกมาชะโลมอ่างล้างมือจนกลายเป็นสีเลือด!! เด็กหนุ่มดึงมือออกจากก๊อกก่อนจะใช้มือทั้งสองขยี้ตาตัวเองเบาๆ มือทั้งสองค่อยๆออกห่างจากใบหน้าที่ซีดเซียวก่อนจะลืมตาขึ้นมองไปยังสายน้ำที่ไหลรินอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เห็นกลับกลายเป็นน้ำที่ใสสะอาดเท่านั้น.......
“ ตะ..ตาฝาดมั้ง “ เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้มที่มุมปากแต่ก็ไม่สามารถปกปิดความกลัวที่กำลังเพิ่มขึ้น ขาทั้งสองเริ่มทำงานอีกครั้ง เสียงฝีเท้าสะท้อนอยู่ในห้องน้ำตามจังหวะที่ก้าวขา
ซู่ .......
เสียงน้ำไหลดังขึ้น ....... เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวพลางชะงักขาที่จะก้าวออกจากห้องน้ำนั้นแล้วหยุดยืนนิ่งราวกับถูกสะกด
เอี๊ยด!
เสียงบิดก๊อกน้ำดังขึ้นพร้อมกับเสียงน้ำไหลที่หายไป
เกิดอะไรขึ้น..คงเป็นคำถามที่ไม่มีทางตอบได้ แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้ไม่ใช่มีแค่เขาอยู่คนเดียวเสียแล้ว เสียงเปิดก๊อกดังพร้อมกับเสียงน้ำที่ไหลทะลักลงมาอีกครั้ง เหงื่อที่ไหลออกมาจากทุกรูขุมขนทำให้ชุดนักเรียนเริ่มชื้น อากาศรอบตัวเย็นลงอย่างรู้สึกได้ เสียงหมาหอนดังระงมขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของเขาสั่นเทา ส่วนต่างๆไร้เรียวแรง หัวใจเต้นตูมตามราวกับจะหลุดออกมาภายนอก เด็กหนุ่มพยายามรวบรวมสติที่กระเจิงไปคนละทิศทางกลับมา เสียงน้ำไหลหยุดลงไปแล้ว เสียงเปิดปิดก๊อกน้ำก็เงียบลงตามไปด้วย ความเงียบเริ่มเข้าครอบคลุมอีกครั้ง
สายลมแผ่วๆลอยมาปะทะกับโคนขาของเด็กหนุ่มเข้าอย่างจัง …… อุ่น!!..บรรยากาศโดยรอบเย็นระเยือก ไม่มีทางที่จะมีสายลมอุ่นๆจะพัดมาโดนตัวเราได้นอกเสียจาก..... สีหน้าของเด็กหนุ่มแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
“ ฮือ....!! “ เสียงประหลาดดังขึ้นด้านหลัง เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวก่อนจะพยายามยกขาขึ้นแต่มันสายเกินไป มีบางสิ่งรั้งขาของเขาไว้ ความตกใจกับความกลัวทำเขาตัดสินใจวิ่งทั้งๆที่สิ่งนั้นยังรั้งขาของเขาอยู่ เด็กหนุ่มวิ่งไปบนทางเดินที่มีแสงจันทร์สลัวๆ เหมือนสวรรค์แกล้งเส้นทางที่เขาวิ่งมากลับเป็นห้องเคมีที่เปิดไฟค้างไว้
อย่างน้อยอยู่ในนี้คงปลอดภัยกว่า...
เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินตัวเดิม รองเท้าถูกถอดออกตามด้วยถุงเท้าข้างที่ถูกรั้งไว้เมื่อครู่ ของเหลวสีแดงเข้มติดอยู่ที่ถุงเท้า เด็กหนุ่มก้มลงไปเก็บเศษกระดาษใต้โต๊ะมาเขี่ยสิ่งที่ติดอยู่นั้น แต่มันหนียวเกินกว่าที่เศษกระดาษบางๆจะทำให้มันหลุดออก เขาจำใจที่ต้องใช้มือเขี่ยของเหลวนั้นออกไป กลิ่นสาบรุนแรงลอยมาเตะจมูกอย่างจัง รู้สึกเหมือนศพเน่าๆเป็นร้อยอยู่ข้างหน้า เด็กหนุ่มทำหน้าแหยะๆก่อนเดินไปยังอ่างล้างมือทันทีแล้วเอื้อมมือไปเปิดน้ำ น้ำมากมายไหลทะลักออกมากระทบกับอ่างจนกระจายไปทั่ว สายน้ำเย็นผ่านมืออย่างต่อเนื่อง สายตาเหลือบออกไปนอกหน้าต่าง
“ เฮ้ย!! มันเกิดอะไรขึ้นวะ “ เด็กหนุ่มหลุดปากพูดออกมาเสียงดังหลังจากที่แสดงอาการตกใจเมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า อาคารที่กำลังก่อสร้างกลับกลายเป็นทุ่งนาเขียวขจีกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาในชั่วพริบตา เก้าอี้พลาสติกสีถูกขยับให้พอเหมาะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง “ จะทำยังไงดี ที่นี่มันที่ไหน ” เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วค่อยๆเดินไปยังประตูหน้าห้องอย่างหวั่นๆ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเดินออกไปยังระเบียงอีกครั้งหลังจากยืนอยู่หน้าห้องราวห้านาทีแล้วค่อยๆ ก้าวเท้าไปยังเบื้องหน้าอย่างช้าๆ
แหมะ !!
เสียงหยดน้ำหยดลงมากระทบของแข็งดังเป็นจังหวะ กลิ่นสาบลอยมาตามสายลมเอื่อยๆ บางอย่างมันใกล้เข้ามา กลิ่นสาบเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นพร้อมกับเสียงที่ค่อยๆเคลื่อนที่มาใกล้ เด็กหนุ่มรีบพนมมือหลับตาแล้วท่องบทสวดมนต์อย่างไม่เป็นภาษา เหงื่อไหลออกมาอีกครั้งภายใต้บรรยากาศหยาวเย็นจนไปถึงขั้วหัวใจ
กลิ่นเริ่มจางหายไปตามสายลมที่พัดเอื่อยๆ เสียงนั้นก็เงียบหายไป เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นทีละข้างเมื่อรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างสาดส่องทะลุผ่านหนังตาไปกระทบกับนัยน์ตาอย่างจัง เขาค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากที่มันควรจะเป็นห้องเคมีที่เขายืนอยู่เมื่อครู่กลับกลาย เป็นห้องพักอาจารย์หมวดวิทยาศาสตร์ซึ่งอยู่ห่างจากห้องเคมีถึงสามห้อง
เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่รอช้าแล้วค่อยๆสำรวจห้องพักอาจารย์อย่างละเอียด ห้องสี่เหลี่ยม ที่มีโต๊ะอาจารย์ตั้งอยู่ชิดพนังด้านข้าง แล้วแบ่งครึ่งห้องด้วยฉากกั้น เพื่อไม่ให้นักเรียนที่มาค้นคว้าเพิ่มเติมรบกวนอาจารย์ที่กำลังทำงานอยู่ เครื่องคอมพิวเตอร์สามเครื่องตั้งอยู่ด้านมุมห้องด้านหนึ่งที่ติดประตูหลัง ตรงกลางระหว่างประตูหน้าและประตูหลังเป็นที่ว่างที่มีโทรทัศน์วางอยู่บน ชั้นวางที่ข้างล่างนั้นมีเครื่องเล่นวีดีโอ วีซีดี และแผ่นซีดีกระจายเกลื่อนกลาดไปหมด ด้านที่หน้าจอโทรทัศน์หันไปนั้นมีชั้นหนังสือสองชั้นซึ่งแต่ละชั้นบรรจุหนังสืออยู่เต็ม
ลิ้นชักถูกเปิดออกทีละโต๊ะอย่างเบามือ ภายในลิ้นชักโต๊ะที่ควรจะมีสิ่งของต่างๆของอาจารย์แต่ทุกชั้นมันกลับ... ว่างเปล่า เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปยังชั้นวางหนังสือที่อยู่ไม่ไกลนัก เขามองดูชั้นอย่างละเอียดก่อนที่จะสะดุดตากับชั้นหนังสืออันหนึ่ง มันดูเก่า....เก่า มากเกินกว่าที่มันควรจะเป็นทั้งๆที่ชั้นสองชั้นนี้ซื้อมาพร้อมกันไม่มีทาง ที่ชั้นอันใดอันหนึ่งจะเก่ากว่าอีกอันหนึ่งมากขนาดนี้ สายตาของเขาค่อยๆมองสำรวจทุกชั้นของชั้นหนังสือนั้นอย่างใจเย็นพลางคิดสิ่ง ต่างๆมากมายอยู่ในสมอง
สายตาของชายผู้นั้นหยุดมองหนังสือเล่มหนึ่งอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบมันออกมาอย่างเบามือ หนังสือนี้ทำด้วยหนัง....ทุกหน้าล้วนแต่เป็นหนัง มันเป็นหนังของอะไรทำไมมันเนียนขนาดนี้แม้กระทั่งรอยเย็บก็ยังไม่มี บนหน้าปกของมันถูกฝุ่นจับอยู่มากมาย เขาค่อยเป่าฝุ่นออก มันฟุ้งกระจายไปทั่วเด็กหนุ่มไอเบาๆ ตัวหนังสือสีแดงค่อยๆปรากฏขึ้น หนังสือ.................... ส่วนที่เหลือจางลงไปมากแสงสว่างในตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถอ่านมันได้อย่างถนัด
แกรกกกกก........
เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงประหลาดดังอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงที่เหมือนการขูดขีดอะไรบางอย่างดังมาจากทางด้านหลัง
แกรกก....แกรก
แกรก....แกรกก
เสียงดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แล้วมันยังดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมันกำลังเคลื่อนที่เข้ามา...
แกรก แกรก
เขาหน้าซีดลงเมื่อมีไออุ่นลอยมาปะทะต้นคออย่างจัง เด็กหนุ่มหันหน้ากลับไปมองทันทีแต่ว่า..เขาไม่เห็นอะไรนอกเสียจาก.......
ความคิดเห็น