ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลี่เหม่ยจูสตรีผู้ทรนง

    ลำดับตอนที่ #9 : ข้าวใหม่ปลามัน (rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 31.67K
      1.14K
      20 พ.ย. 62

    พิธีแต่งงานแบบจีน
    เครดิตภาพ: Woman.mthai

    ข้าวใหม่ปลามัน


    แสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านหน้าต่างภายในห้องหอปลุกให้เจ้าสาวหมาดๆ รู้สึกตัวตื่น ขนตาหนาขยับและเปิดเปลือกตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงจ้า ดวงตาหวานกลมโตมองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคยพลางครุ่นคิดที่นี่มิใช่เรือนอิงฮวาของนาง ใช่แล้วเมื่อวานนางแต่งงานแล้วและที่นี่ต้องเป็นเรือนหออย่างแน่นอน

    มือเล็กวาดสัมผัสกับพื้นเตียงที่ว่างและเย็นเฉียบบ่งบอกว่าผู้เป็นสามีของนางคงมิได้กลับมานอนที่เรือนหออย่างที่คิด แต่ทว่าเมื่อล้มตัวลงนอนอีกครั้งกลับได้กลิ่นหอมจางๆ จากหมอน แต่ลี่เหม่ยจูไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะยอมมานอนที่เรือนหอกับนางจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาและบิดตัวก่อนจะลุกขึ้น

    "ฮูหยินตื่นแล้วหรือเจ้าคะ...เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะหลับสบายดีหรือไม่" ซือซือเตรียมน้ำอุ่นและยื่นผ้าชุบน้ำบิดหมาดเพื่อให้เจ้านายใช้เช็ดใบหน้าด้วยความคล่องแคล่ว วันนี้คุณหนูของนางต้องทำหน้าที่ฮูหยินวันแรก จะต้องจัดระเบียบบ้านเรือนใหม่ตามธรรมเนียม

    "ฮูหยินหรือ ซือซือเจ้าช่างเอ่ยไม่เข้าหูแต่เช้าเลยนะ...แล้วเมื่อคืนเขาไม่ได้มาที่นี่ใช่หรอไม่"นางเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ

    เขา?” สาวใช้ตัวน้อยมองหน้าผู้เป็นนายอย่างงุนงงก่อนจะคิดได้ในสิ่งที่ผู้เป็นนายหมายถึง “เอ่อ...น่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ เพราะข้านั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูทั้งคืนก็ไม่เห็นมีผู้ใดผ่านมาเจ้าค่ะ”

    เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้วลี่เหม่ยจูพยักหน้าพอใจและโล่งใจในคราวเดียวกันจากนั้นก็ยื่นผ้าคืนให้สาวใช้

    เพียงข้ามวันนางกลายเป็นฮูหยินของแม่ทัพไปเสียแล้วหรือ หากไม่ใช่เพราะท่านผู้นั้นขอมามีหรือนางจะยอม...เสียงเอ่ยย้ำของซือซือทำให้นางรู้สึกว่าอดีตไม่สามารถย้อนคืนกลับได้แล้ว

    "ฮูหยิน รีบเปลี่ยนชุดเถิดเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพรอท่านอยู่ที่ห้องรับรองนานแล้วเจ้าค่ะ" ซือซือรีบเอ่ยเมื่อนึกขึ้นได้ ใบหน้างามง้ำลงทันที นางอุตส่าห์คิดว่าอีกฝ่ายคงหลบหน้ามิโผล่มาให้พบเจออย่างแน่นอนแต่ไฉนถึงโผล่มาไวกว่าที่คิดกัน

    เฉินหย่งหมิงนั่งจิบน้ำชาที่ห้องรับรองภายในเรือนพันดาราของผู้เป็นฮูหยินพระราชทาน อยู่ดีๆ เขากลับรู้สึกขนลุกเย็นเฉียบอย่างไม่ทราบสาเหตุ ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ ปรากฏสตรีร่างเล็กบาง ใบหน้าเล็กเรียวเนียนใสอมชมพูสุขภาพดีไร้การแต่งแต้มดูอ่อนเยาว์ คิ้วดกดำโก่งเรียวรับกับดวงตากลมโตกระจ่างใส จมูกโด่งรั้นเชิดพองามบ่งบอกว่าเจ้าตัวดื้อรั้นเพียงใด ริมฝีปากอิ่มสีแดงดั่งอิงเถา อาภรณ์สีม่วงเข้มสลับม่วงอ่อนขับผิวขาวเนียนของนางให้ขาวเนียนกระจ่าง เสียงปิ่นผีเสื้อบนศีรษะกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊งเป็นจังหวะเมื่อยามก้าวเดินเขาเผลอตะลึงจ้องมองใบหน้างามที่ผสมกันอย่างลงตัวและกระแอมในลำคอเมื่อได้ยินคำทักทายที่ไม่รื่นหูเท่าใด

     

    "ภรรยาคำนับท่านสามีเจ้าค่ะ" เสียงหวานดัดเสียงให้เล็กแหลมจนอีกฝ่ายตากระตุกยิกๆ นางอุตส่าห์ฝึกเรียกอยู่นานเชียวนะและยังพยายามเลียนเสียงสตรีที่อยู่หอนางโลมเลยมาทีเดียว เมื่อพวกนางทำเสียงเช่นนี้เหล่าบุรษต่างก็พออกพอใจ

    "ที่นี่มีเพียงข้ากับเจ้า...อย่าเสแสร้ง!" เสียงห้าวเย็นชาเอ่ยขึ้น แววตาของเขาเหยียดหยันจ้องมองนางประหนึ่งสตรีโคมเขียวแต่มีหรือนางจะสะทกสะท้านคิดเช่นนั้นได้ก็ดีจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับนางริมฝีปากเล็กกดลงเป็นรอยยิ้ม

    เมื่อครู่หากนางไม่ตาฝาดไป ดวงตาสีเข้มมีแววประหลาดใจก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว แต่เพราะสาเหตุใดนั้นนางไม่สน

    "โธ่...ก็ท่านสามีมาพบข้าถึงเรือนแต่เช้าเช่นนี้ย่อมต้องมีเรื่องสำคัญ แต่ท่านคงมิได้มาเพราะคิดถึงข้าใช่หรือไม่" ลี่เหม่ยจูแสร้งเขินอายและบิดตัวไปมาดวงตากลมโตกะพริบถี่เลียนแบบนางโลมมาอย่างไม่ขาดตก จอมเสแสร้งคงไม่มีคำไหนเหมาะสมกับนางอีกแล้ว ขนาดตัวนางพูดเองยังขนลุกเลย

    ข้าไม่ได้มีเวลาว่างเพื่อมาชมเจ้าเล่นงิ้ว" คำพูดเย็นชาที่เปล่งออกมามิได้ส่งผลใดๆ กับคนฟังแม้แต่น้อยนางไม่ได้สะดุ้งตกใจ หรือร้องไห้เสียใจ ตรงกันข้ามใบหน้างามยังคงระบายยิ้มทั่วใบหน้าราวกับไม่รู้สึกรู้สา

    "ข้าไม่ล้อท่านเล่นแล้ว...ท่านสามีจะพูดสิ่งใด เชิญพูดมาได้เลยข้ารอฟังอยู่เจ้าค่ะ" ลี่เหม่ยจูทำให้อีกฝ่ายกำลังหมดความอดทนได้แล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก และรู้สึกถึงชัยชนะที่หอมหวาน นางต้องการให้เขาไม่อยากอยู่ใกล้นาง ให้ลืมนางไปเลยยิ่งดี

     

    "ข้ามีข้อตกลง และมีหน้าที่มอบหมายให้เจ้าต้องกระทำภายในจวน" อ่า....นั่นสินะเป็นภรรยาต้องมีหน้าที่ดูแลบ้านเรือนให้สามี ถึงแม้นางต้องมานั่งเป็นภรรยาที่เขาไม่ต้องการแต่นางก็จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดเลยทีเดียว

    "ท่านต้องการสิ่งใด ข้าพร้อมรับฟังเจ้าค่ะและข้าเองก็มีข้อตกลงเช่นกัน" ลี่เหม่ยจูยิ้มหวานหยาดเยิ้มส่งไปให้แต่รอยยิ้มนั้นส่งไปไม่ถึงดวงตาของนางแม้แต่น้อยซือซือลอบมองนายสาวที่ทำท่าทางแปลกประหลาด พูดจาหวานหยดย้อยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก็รู้สึกขนอ่อนลุกชันทั้งตัวและอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้

     

    ด้านนอกเรือน....

    ตู้ฟ่านฉี องครักษ์คนสนิทของแม่ทัพใหญ่ และบรรดาองครักษ์อีกสี่นายยืนก้มหน้า พลางใช้มือลูบแขนที่ขนลุกชัน พวกเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ย่อมต้องได้ยินเสียงเล็กแหลมของนายหญิง ถึงแม้ตนยังมิเคยได้พบหน้าแต่สัญชาตญาณที่เตือนมาควรระวังไว้ก่อนย่อมดีกับชีวิตน้อยๆ

    "ข้ามีอนุอีกสองนาง เจ้าต้องคอยดูแลพวกนางอย่าให้ก่อความวุ่นวายใดๆ " ลี่เหม่ยจูหรี่ตามอง ดูแลงั้นหรือช่างเป็นงานที่หนักเสียจริง ในหัวพลางนั่งดีดลูกคิดคำนวณเบี้ยเลี้ยงตำแหน่งภรรยาเอกในใจว่าคุ้มค่ากับหน้าที่อันหนักหน่วงนี้หรือไม่

    "ตกลง...ข้าจะเก็บกวาดบ้านเรือนบ้านเล็กบ้านน้อยของท่านให้เรียบร้อยไม่ให้ท่านต้องเป็นกังวลอย่างแน่นอน" ลี่เหม่ยจูจงใจเน้นคำว่าบ้านเล็กบ้านน้อยนางเข้าใจความหมายของเขาดี เฮอะ!! เขาคงกลัวว่านางจะไปรังแกอนุของเขาสินะ

    "อีกไม่นานเจินเออร์จะแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรอง เจ้าต้องดูแลความเรียบร้อยและจัดเตรียมทุกอย่าง...เพราะนั่นก็คือหน้าที่ของเจ้า" พอพูดถึงหญิงคนรักเสียงเย็นเฉียบเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนต่างจากก่อนหน้าที่พูดกับนางลิบลับ

     ลี่เหม่ยจูแอบกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย หน้ากากงิ้วที่นางสร้างขึ้นมาใกล้พังลงเต็มที เจ้าหน้าตายมาที่นี่เพื่อมาสั่งให้นางดูแลบรรดาเมียๆ และหญิงคนรักเท่านั้น นางจะเรียกค่าเหนื่อยให้หมดตัวเลยเชียวนี่นางจะต้องเตรียมสินสมรสให้สามีแต่งฮูหยินรองเข้าบ้านอีกหรือ ซ้ำฮูหยินรองที่ว่านั้นคือน้องสาวต่างมารดาของนางอีกด้วย ช่างเป็นบุรุษที่มักมากเหลือเกินไม่หวั่นแม้คำติฉินอย่างนั้นหรือ

    "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นฮูหยินที่ใจกว้าง" เขาคิดว่านางใจคับแคบถึงเพียงนั้นหรือนางมิได้รักใคร่หึงหวงเขาจนต้องริษยารังแกบรรดาเมียๆ หากเกรงว่านางจะอิจฉาลี่เหม่ยเจินนั้นคงรอให้ฟ้าถล่มร้อยปีร้อยชาติเถิด นางไม่มานั่งหึงหวงให้เสียเวลาเช่นนั้นแน่เพราะยังมีสิ่งอื่นที่สำคัญรอนางอยู่ ขอเพียงอีกฝ่ายอย่ามาหาเรื่องนางก่อนก็แล้วกัน

    "ข้ามิใช่คนใจคอคับแคบ อีกอย่างท่านคงจะลืมไปว่าข้านั้นมิได้พิศวาสหรือต้องการแย่งชิงหัวใจของท่านกับบรรดาสตรีพวกนั้น!" ลี่เหม่ยจูหมดอารมณ์ที่จะเล่นงิ้วต่อแล้ว ตอนนี้นางโมโหมากถึงมากที่สุด

     

    "หึหึ นี่สินะ...คือตัวตนของเจ้า ข้ารออยู่นานเชียวว่าเมื่อไหร่คนที่มีความอดทนน้อยอย่างเจ้าจะถอดหน้ากากงิ้วถอดออก" เขาพอจะมองออกว่านางนั้นแสร้งเล่นละครทำตัวอ่อนหวานแต่ซึ่งนางช่างเล่นได้ไม่เนียนขัดกับแววตาที่เกลียดชังเขาราวจะกินเลือดกินเนื้อเช่นนั้นเขาเห็นแววตาของนางที่พยายามปิดอย่างไรก็ไม่มิด ที่เขามั่นใจเช่นนั้นเพราะงานแต่งที่ผ่านมาเขาได้เห็นความอดทนอันน้อยนิดของนางจนหมดสิ้นแล้ว

    "ข้าจะทำหน้าที่ของข้าอย่างดีที่สุดมิรังแกคนรักของท่านแน่นอน" ลี่เหม่ยรีบยิ้มเยาะจ้องมองสายตาคมกริบของเขาอย่างไม่เกรงกลัว

    "ข้าให้สิทธิ์เจ้าในการดูแลจวนแม่ทัพในฐานะฮูหยิน ครอบครองทุกอย่างที่เจ้าปรารถนา...ยกเว้นตัวและหัวใจข้า" เฉินหย่งหมิงจ้องกลับด้วยสายตาที่เย็นชา จริงจัง ไม่ได้มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อยเพราะเขาหมายความอย่างที่พูดจริงๆ

    "ในเมื่อท่านยกจวนให้ข้าดูแลแล้วท่านเองก็ห้ามยื่นมือเข้ามาก้าวก่าย และข้อตกลงของข้าก็คือห้ามท่านเข้ามาในห้องของข้าเท่านั้น ตกลงตามนี้นะเจ้าคะ" ลี่เหม่ยจูตอบกลับทันที นางรีบบอกข้อตกลงของนางให้เขารับรู้แม้นางกับเขาร่วมคำนับฟ้าดินแล้ว แต่นางจะไม่ให้เขาได้แตะต้องตัวนางเป็นอันขาด

    ข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการ"

    "ก็ดี" วันเเรกของการแต่งงาน นางช่างน่าปวดหัวเสียจริงลี่เหม่ยจูมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปจนลับสายตา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×