คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ข้าวใหม่ปลามัน (rewrite)
แสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านหน้าต่างภายในห้องหอปลุกให้เจ้าสาวหมาดๆ
รู้สึกตัวตื่น ขนตาหนาขยับและเปิดเปลือกตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงจ้า
ดวงตาหวานกลมโตมองไปรอบๆ
ห้องที่ไม่คุ้นเคยพลางครุ่นคิดที่นี่มิใช่เรือนอิงฮวาของนาง
ใช่แล้วเมื่อวานนางแต่งงานแล้วและที่นี่ต้องเป็นเรือนหออย่างแน่นอน
มือเล็กวาดสัมผัสกับพื้นเตียงที่ว่างและเย็นเฉียบบ่งบอกว่าผู้เป็นสามีของนางคงมิได้กลับมานอนที่เรือนหออย่างที่คิด
แต่ทว่าเมื่อล้มตัวลงนอนอีกครั้งกลับได้กลิ่นหอมจางๆ จากหมอน
แต่ลี่เหม่ยจูไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะยอมมานอนที่เรือนหอกับนางจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาและบิดตัวก่อนจะลุกขึ้น
"ฮูหยินตื่นแล้วหรือเจ้าคะ...เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะหลับสบายดีหรือไม่"
ซือซือเตรียมน้ำอุ่นและยื่นผ้าชุบน้ำบิดหมาดเพื่อให้เจ้านายใช้เช็ดใบหน้าด้วยความคล่องแคล่ว
วันนี้คุณหนูของนางต้องทำหน้าที่ฮูหยินวันแรก จะต้องจัดระเบียบบ้านเรือนใหม่ตามธรรมเนียม
"ฮูหยินหรือ ซือซือเจ้าช่างเอ่ยไม่เข้าหูแต่เช้าเลยนะ...แล้วเมื่อคืนเขาไม่ได้มาที่นี่ใช่หรอไม่"นางเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ
“เขา?”
สาวใช้ตัวน้อยมองหน้าผู้เป็นนายอย่างงุนงงก่อนจะคิดได้ในสิ่งที่ผู้เป็นนายหมายถึง
“เอ่อ...น่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ เพราะข้านั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูทั้งคืนก็ไม่เห็นมีผู้ใดผ่านมาเจ้าค่ะ”
“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว” ลี่เหม่ยจูพยักหน้าพอใจและโล่งใจในคราวเดียวกันจากนั้นก็ยื่นผ้าคืนให้สาวใช้
เพียงข้ามวันนางกลายเป็นฮูหยินของแม่ทัพไปเสียแล้วหรือ
หากไม่ใช่เพราะท่านผู้นั้นขอมามีหรือนางจะยอม...เสียงเอ่ยย้ำของซือซือทำให้นางรู้สึกว่าอดีตไม่สามารถย้อนคืนกลับได้แล้ว
"ฮูหยิน รีบเปลี่ยนชุดเถิดเจ้าค่ะ
ท่านแม่ทัพรอท่านอยู่ที่ห้องรับรองนานแล้วเจ้าค่ะ"
ซือซือรีบเอ่ยเมื่อนึกขึ้นได้ ใบหน้างามง้ำลงทันที
นางอุตส่าห์คิดว่าอีกฝ่ายคงหลบหน้ามิโผล่มาให้พบเจออย่างแน่นอนแต่ไฉนถึงโผล่มาไวกว่าที่คิดกัน
เฉินหย่งหมิงนั่งจิบน้ำชาที่ห้องรับรองภายในเรือนพันดาราของผู้เป็นฮูหยินพระราชทาน
อยู่ดีๆ เขากลับรู้สึกขนลุกเย็นเฉียบอย่างไม่ทราบสาเหตุ ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ
ปรากฏสตรีร่างเล็กบาง ใบหน้าเล็กเรียวเนียนใสอมชมพูสุขภาพดีไร้การแต่งแต้มดูอ่อนเยาว์
คิ้วดกดำโก่งเรียวรับกับดวงตากลมโตกระจ่างใส
จมูกโด่งรั้นเชิดพองามบ่งบอกว่าเจ้าตัวดื้อรั้นเพียงใด
ริมฝีปากอิ่มสีแดงดั่งอิงเถา อาภรณ์สีม่วงเข้มสลับม่วงอ่อนขับผิวขาวเนียนของนางให้ขาวเนียนกระจ่าง
เสียงปิ่นผีเสื้อบนศีรษะกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊งเป็นจังหวะเมื่อยามก้าวเดินเขาเผลอตะลึงจ้องมองใบหน้างามที่ผสมกันอย่างลงตัวและกระแอมในลำคอเมื่อได้ยินคำทักทายที่ไม่รื่นหูเท่าใด
"ภรรยาคำนับท่านสามีเจ้าค่ะ"
เสียงหวานดัดเสียงให้เล็กแหลมจนอีกฝ่ายตากระตุกยิกๆ
นางอุตส่าห์ฝึกเรียกอยู่นานเชียวนะและยังพยายามเลียนเสียงสตรีที่อยู่หอนางโลมเลยมาทีเดียว
เมื่อพวกนางทำเสียงเช่นนี้เหล่าบุรษต่างก็พออกพอใจ
"ที่นี่มีเพียงข้ากับเจ้า...อย่าเสแสร้ง!" เสียงห้าวเย็นชาเอ่ยขึ้น แววตาของเขาเหยียดหยันจ้องมองนางประหนึ่งสตรีโคมเขียวแต่มีหรือนางจะสะทกสะท้านคิดเช่นนั้นได้ก็ดีจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับนางริมฝีปากเล็กกดลงเป็นรอยยิ้ม
เมื่อครู่หากนางไม่ตาฝาดไป ดวงตาสีเข้มมีแววประหลาดใจก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
แต่เพราะสาเหตุใดนั้นนางไม่สน
"โธ่...ก็ท่านสามีมาพบข้าถึงเรือนแต่เช้าเช่นนี้ย่อมต้องมีเรื่องสำคัญ
แต่ท่านคงมิได้มาเพราะคิดถึงข้าใช่หรือไม่" ลี่เหม่ยจูแสร้งเขินอายและบิดตัวไปมาดวงตากลมโตกะพริบถี่เลียนแบบนางโลมมาอย่างไม่ขาดตก
จอมเสแสร้งคงไม่มีคำไหนเหมาะสมกับนางอีกแล้ว ขนาดตัวนางพูดเองยังขนลุกเลย
“ข้าไม่ได้มีเวลาว่างเพื่อมาชมเจ้าเล่นงิ้ว"
คำพูดเย็นชาที่เปล่งออกมามิได้ส่งผลใดๆ กับคนฟังแม้แต่น้อยนางไม่ได้สะดุ้งตกใจ
หรือร้องไห้เสียใจ
ตรงกันข้ามใบหน้างามยังคงระบายยิ้มทั่วใบหน้าราวกับไม่รู้สึกรู้สา
"ข้าไม่ล้อท่านเล่นแล้ว...ท่านสามีจะพูดสิ่งใด
เชิญพูดมาได้เลยข้ารอฟังอยู่เจ้าค่ะ"
ลี่เหม่ยจูทำให้อีกฝ่ายกำลังหมดความอดทนได้แล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก และรู้สึกถึงชัยชนะที่หอมหวาน
นางต้องการให้เขาไม่อยากอยู่ใกล้นาง ให้ลืมนางไปเลยยิ่งดี
"ข้ามีข้อตกลง และมีหน้าที่มอบหมายให้เจ้าต้องกระทำภายในจวน"
อ่า....นั่นสินะเป็นภรรยาต้องมีหน้าที่ดูแลบ้านเรือนให้สามี
ถึงแม้นางต้องมานั่งเป็นภรรยาที่เขาไม่ต้องการแต่นางก็จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดเลยทีเดียว
"ท่านต้องการสิ่งใด
ข้าพร้อมรับฟังเจ้าค่ะและข้าเองก็มีข้อตกลงเช่นกัน"
ลี่เหม่ยจูยิ้มหวานหยาดเยิ้มส่งไปให้แต่รอยยิ้มนั้นส่งไปไม่ถึงดวงตาของนางแม้แต่น้อยซือซือลอบมองนายสาวที่ทำท่าทางแปลกประหลาด
พูดจาหวานหยดย้อยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ก็รู้สึกขนอ่อนลุกชันทั้งตัวและอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้
ด้านนอกเรือน....
ตู้ฟ่านฉี
องครักษ์คนสนิทของแม่ทัพใหญ่ และบรรดาองครักษ์อีกสี่นายยืนก้มหน้า
พลางใช้มือลูบแขนที่ขนลุกชัน
พวกเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ย่อมต้องได้ยินเสียงเล็กแหลมของนายหญิง ถึงแม้ตนยังมิเคยได้พบหน้าแต่สัญชาตญาณที่เตือนมาควรระวังไว้ก่อนย่อมดีกับชีวิตน้อยๆ
"ข้ามีอนุอีกสองนาง
เจ้าต้องคอยดูแลพวกนางอย่าให้ก่อความวุ่นวายใดๆ " ลี่เหม่ยจูหรี่ตามอง ‘ดูแลงั้นหรือ’ ช่างเป็นงานที่หนักเสียจริง
ในหัวพลางนั่งดีดลูกคิดคำนวณเบี้ยเลี้ยงตำแหน่งภรรยาเอกในใจว่าคุ้มค่ากับหน้าที่อันหนักหน่วงนี้หรือไม่
"ตกลง...ข้าจะเก็บกวาดบ้านเรือนบ้านเล็กบ้านน้อยของท่านให้เรียบร้อยไม่ให้ท่านต้องเป็นกังวลอย่างแน่นอน"
ลี่เหม่ยจูจงใจเน้นคำว่าบ้านเล็กบ้านน้อยนางเข้าใจความหมายของเขาดี เฮอะ!! เขาคงกลัวว่านางจะไปรังแกอนุของเขาสินะ
"อีกไม่นานเจินเออร์จะแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรอง
เจ้าต้องดูแลความเรียบร้อยและจัดเตรียมทุกอย่าง...เพราะนั่นก็คือหน้าที่ของเจ้า"
พอพูดถึงหญิงคนรักเสียงเย็นเฉียบเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนต่างจากก่อนหน้าที่พูดกับนางลิบลับ
ลี่เหม่ยจูแอบกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย
หน้ากากงิ้วที่นางสร้างขึ้นมาใกล้พังลงเต็มที
เจ้าหน้าตายมาที่นี่เพื่อมาสั่งให้นางดูแลบรรดาเมียๆ และหญิงคนรักเท่านั้น
นางจะเรียกค่าเหนื่อยให้หมดตัวเลยเชียวนี่นางจะต้องเตรียมสินสมรสให้สามีแต่งฮูหยินรองเข้าบ้านอีกหรือ
ซ้ำฮูหยินรองที่ว่านั้นคือน้องสาวต่างมารดาของนางอีกด้วย
ช่างเป็นบุรุษที่มักมากเหลือเกินไม่หวั่นแม้คำติฉินอย่างนั้นหรือ
"ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นฮูหยินที่ใจกว้าง"
เขาคิดว่านางใจคับแคบถึงเพียงนั้นหรือนางมิได้รักใคร่หึงหวงเขาจนต้องริษยารังแกบรรดาเมียๆ
หากเกรงว่านางจะอิจฉาลี่เหม่ยเจินนั้นคงรอให้ฟ้าถล่มร้อยปีร้อยชาติเถิด
นางไม่มานั่งหึงหวงให้เสียเวลาเช่นนั้นแน่เพราะยังมีสิ่งอื่นที่สำคัญรอนางอยู่
ขอเพียงอีกฝ่ายอย่ามาหาเรื่องนางก่อนก็แล้วกัน
"ข้ามิใช่คนใจคอคับแคบ
อีกอย่างท่านคงจะลืมไปว่าข้านั้นมิได้พิศวาสหรือต้องการแย่งชิงหัวใจของท่านกับบรรดาสตรีพวกนั้น!" ลี่เหม่ยจูหมดอารมณ์ที่จะเล่นงิ้วต่อแล้ว
ตอนนี้นางโมโหมากถึงมากที่สุด
"หึหึ นี่สินะ...คือตัวตนของเจ้า
ข้ารออยู่นานเชียวว่าเมื่อไหร่คนที่มีความอดทนน้อยอย่างเจ้าจะถอดหน้ากากงิ้วถอดออก"
เขาพอจะมองออกว่านางนั้นแสร้งเล่นละครทำตัวอ่อนหวานแต่ซึ่งนางช่างเล่นได้ไม่เนียนขัดกับแววตาที่เกลียดชังเขาราวจะกินเลือดกินเนื้อเช่นนั้นเขาเห็นแววตาของนางที่พยายามปิดอย่างไรก็ไม่มิด
ที่เขามั่นใจเช่นนั้นเพราะงานแต่งที่ผ่านมาเขาได้เห็นความอดทนอันน้อยนิดของนางจนหมดสิ้นแล้ว
"ข้าจะทำหน้าที่ของข้าอย่างดีที่สุดมิรังแกคนรักของท่านแน่นอน"
ลี่เหม่ยรีบยิ้มเยาะจ้องมองสายตาคมกริบของเขาอย่างไม่เกรงกลัว
"ข้าให้สิทธิ์เจ้าในการดูแลจวนแม่ทัพในฐานะฮูหยิน
ครอบครองทุกอย่างที่เจ้าปรารถนา...ยกเว้นตัวและหัวใจข้า"
เฉินหย่งหมิงจ้องกลับด้วยสายตาที่เย็นชา จริงจัง
ไม่ได้มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อยเพราะเขาหมายความอย่างที่พูดจริงๆ
"ในเมื่อท่านยกจวนให้ข้าดูแลแล้วท่านเองก็ห้ามยื่นมือเข้ามาก้าวก่าย
และข้อตกลงของข้าก็คือห้ามท่านเข้ามาในห้องของข้าเท่านั้น
ตกลงตามนี้นะเจ้าคะ" ลี่เหม่ยจูตอบกลับทันที นางรีบบอกข้อตกลงของนางให้เขารับรู้แม้นางกับเขาร่วมคำนับฟ้าดินแล้ว
แต่นางจะไม่ให้เขาได้แตะต้องตัวนางเป็นอันขาด
“ข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการ"
"ก็ดี" วันเเรกของการแต่งงาน
นางช่างน่าปวดหัวเสียจริงลี่เหม่ยจูมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปจนลับสายตา
ความคิดเห็น