ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลี่เหม่ยจูสตรีผู้ทรนง

    ลำดับตอนที่ #6 : ข้อต่อรอง (rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 30.44K
      1.1K
      20 พ.ย. 62

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดอกบัวจีนวาดสวยๆ

    เครดิตรูปภาพ: prntree


    ข้อต่อรอง


    "พี่ใหญ่ ข้าขอคุยกับท่านได้หรือไม่" ลี่เหม่ยเจินเดินมาขวางทางผู้เป็นพี่สาวเอาไว้อย่างเสียมารยาท ถึงแม้นางจะไม่อยากแม้แต่จะพบหน้าของอีกฝ่าย หากแต่เพื่อให้สิ่งที่วางไว้สำเร็จแม้ต้องฝืนอยู่บ้างก็ต้องทำ

    นางต้องการให้ลี่เหม่ยจูรับรู้ว่านางกับท่านแม่ทัพรักกันมากและท่านแม่ทัพเองได้สัญญาว่าจะแต่งนางเป็นฮูหยินเอกอยู่ก่อนแล้ว แต่เป็นเพราะราชโองการบ้าบอนั่นจึงทำให้ด้ายแดงของนางและท่านแม่ทัพต้องถูกตัดขาด เพราะราชโองการนั่นทำให้บุรุษที่นางหมายปองจำใจแต่งกับนาง!มิใช่เขาเต็มใจ แต่วันนี้นางจะมาบอกให้อีกฝ่ายทำใจว่าอย่างไรเสียชะตาวาสนาของนางและท่านแม่ทัพย่อมไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

     

    "น้องรองมีธุระใดก็รีบพูดมาเถิด...ซือเออร์ ไปจัดเตรียมน้ำชา และขนม เจ้าด้วยเสี่ยวเซียว" ลี่เหม่ยจูเอ่ยถามอย่างใจเย็น ทั้งยังหันไปสั่งสาวใช้ของตนและสาวของน้องสาวให้ไปยกของว่ามา พอพูดจบยังพบว่าแม่น้องสาวยังไม่ยอมปริปากจึงเดินนำไปยังศาลาริมน้ำ ส่วนอีกฝ่ายก็รีบเดินตามหลังนางและนั่งลงตรงข้ามนางทันที ผ่านไปอีกพักใหญ่ สตรีตรงหน้ายังไม่ยอมเอ่ยปากสักทีจนนางเริ่มหงุดหงิดจึงกัดฟันถามออกไปอีกครั้ง หากไม่ยอมพูดในสิ่งที่ทำให้ต้องเอาตัวมาขวางทางนางเมื่อครู่คงได้เห็นดีกันแน่นอน

     

    “เหม่ยเจินเจ้ามีสิ่งใดอยากพูดคุยก็รีบพูดมา ข้ามิได้ว่างนั่งรอเจ้าได้ทั้งวัน....ถ้าหากยังนึกสิ่งที่จะพูดยังไม่ออกข้าก็จะขอตัวกลับเรือนก่อน หากเข้าคิดออกเมื่อใดค่อยให้คนไปตามข้าดีหรือไม่” ลี่เหม่ยจูเอ่ยประชด ทันทีที่นางพูดจบใบหน้างามเปื้อนน้ำตานั้นก็เงยขึ้นพร้อมทั้งแววตาที่มองจ้องมาที่นางราวกับว่าถูกนางรังแกให้เจ็บช้ำน้ำใจหนักหนา

    "เอาล่ะ...ตรงนี้มีแค่ข้ากับเจ้าสองคนไม่มีผู้อื่นเจ้าเลิกเล่นงิ้วเถิด" ลี่เหม่ยจูเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างหมดความอดทน เพราะอีกฝ่ายกลับเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดจาบีบน้ำตาให้ไหลอย่างเสแสร้งเห็นแล้วรำคาญสายตายิ่ง

    "ข้าขอพูดตรงๆ มิอ้อมค้อมเลยนะเจ้าคะ....” รออยู่ครึ่งเค่อมือเรียวก็ยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มทันที แต่ปลายจมูกยังรื้นแดงดูน่าสงสาร ใบหน้างามที่เคยหมองเศร้าเมื่อครู่ถูกเชิดขึ้นอย่างถือดี ริมฝีปากที่ประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ตลอดเวลาหายไปกลายเป็นรอยยิ้มที่เย้ยหยันแทนที่แท้เมื่อครู่ก็เพียงหยั่งเชิงความอดทนของนางเท่านั้น

    “พี่ใหญ่โปรดตั้งใจฟังนะเจ้าคะ...ข้ากับท่านแม่ทัพเรารักกันเจ้าค่ะ” ลี่เหม่ยเจินพูดเสร็จก็ลอบสังเกตท่าทีของพี่สาว หวังให้อีกฝ่ายตกใจ เสียใจ หรือแสดงสีหน้าผิดหวังให้เห็นบ้าง แต่นี่กระไรอีกฝ่ายดูไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ได้ยินสักนิด บนใบหน้างามมีเพียงความเรียบนิ่งทั้งยังเฉยชาอีกด้วย

    “แล้วอย่างไร” คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นคำถาม

    “...และท่านแม่ทัพให้สัญญากับข้าแล้วว่าจะแต่งข้าเป็นฮูหยินเอกเพียงคนเดียว"

    "อ้อ...เรื่องนั้นเองหรือข้ารู้แล้ว" ลี่เหม่ยจูยกไหล่อย่างไม่ใส่ใจ นางพอจะเดาได้อยู่แล้วลี่เหม่ยเจินจงใจบอกความสัมพันธ์ของตนกับแม่ทัพเพียงเพราะอยากให้นางเสียใจและทุกข์ใจอย่างแน่นอน เป็นเช่นนี้แล้วใยนางจึงต้องให้อีกฝ่ายได้ตามที่ต้องการเล่า

    พี่ใหญ่รู้แล้วอย่างนั้นหรือ...แล้วเหตุใด" ดวงตาดอกท้อเบิกกว้างอย่างตกใจและรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติลี่เหม่ยเจินคิดในใจว่าพี่สาวตัวดีของนางรู้ได้อย่างไรกัน แต่หากรู้แล้วไยอีกฝ่ายยังทำหน้าราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่เดือดร้อนกังวลใจ หรือแท้จริงแล้วเป็นเพราะนางหน้าด้านอยากได้ท่านแม่ทัพอยู่ก่อนแล้วพอดีได้รับพระราชโองการเลยได้ใจ เฮอะ! อย่าหวังเลย อย่างไรเสียความจริงแล้วท่านแม่ทัพก็รักนางต่างหากมิใช่มัน หึ!

    ...ในเมื่อพี่ใหญ่ทราบอยู่แล้วท่านควรเอ่ยปฏิเสธไปไม่ใช่ตอบรับเช่นนี้...ท่านไม่กลัวถูกติฉินนินทาว่าแย่งคนรักของน้องสาวหรือเจ้าคะ" ลี่เหม่ยเจินขบเขี้ยว และเปล่งเสียงรอดไรฟันออกมา นางแทบควบคุมมือที่จะเข้าไปกระชากร่างพี่สาวต่างมารดาไว้ไม่ไหว นางมีสิทธิ์อะไรที่จะแย่งคนรักของนางไป ฮ่องเต้ก็เช่นเดียวกันคิดว่าทรงบังคับชะตาชีวิตผู้คนได้หรือ อย่างไรเสียนางก็มิยอมแพ้เด็ดขาดสักวันนางจะต้องอยู่เหนืออำนาจฮ่องเต้ให้ได้...

    "สิ่งที่เจ้ากล่าวถึงนั้นเป็นราชโองการจากฝ่าบาทที่ศักดิ์สิทธิ์ แม้กระทั่งท่านพ่อที่เป็นถึงอัครเสนาบดียังมิสามารถขัดได้ แล้วตัวข้าเป็นผู้ใดจะบังอาจขัดราชโองการ หากเจ้ายังมีความคิดอยู่บ้างคงต้องคิดให้ถี่ถ้วนและไม่เอ่ยออกมาเช่นนี้" ลี่เหม่ยจูพูดอย่างเหลืออดทุกสิ่งที่นางพยายามเก็บไว้ระเบิดออกมา

    "ถึงอย่างไรท่านควรรู้เอาไว้ว่าท่านแม่ทัพก็รักข้าเพียงผู้เดียว...เขาไม่มีทางรักท่าน เข้าไม่มีทางยอมรับฮูหยินที่เขาไม่ได้เลือกเองแน่" ลี่เหม่ยเจินเอ่ยอย่างร้ายกาจอย่างไรเสียหากอีกฝ่ายไม่ยอมถอยก็ขอให้นางได้พูดอีกฝ่ายเจ็บใจบ้างก็ยังดีอย่างน้อยนางก็ระบายความแน่นอัดในอกออกไป

    " เหม่ยเจินเอ๋ย....หากเขารักเจ้าหนักหนาเช่นที่เจ้าพรรณนามาเหตุใดเล่าบุรุษคู่ยวนยางของเจ้าจึงมิยอมออกหน้ามาพูดคุยเรื่องเจ้ากับท่านพ่ออย่างบุรุษชาตินักรบจะได้ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แอบไปพลอดรักในที่ลับตาผู้คนและฝ่าบาทเองก็คงจะมิต้องประทานสมรสให้ข้าเป็นแน่"  ลี่เหม่ยเจินชะงัก อ้าปาค้างหุบอ้าไปมา หัวของนางตอนนี้ราวกับถูกฟาดด้วยของแข็ง สิ่งที่พี่สาวต่างมารดาพูดมาเมื่อครู่ทำให้นางพูดแทบไม่ออกและเจ็บแสบไปทั้งใจ แต่กระนั้นสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก็ใช่ว่าจะไม่เป็นความจริง แต่ความจริงนั้นนางไม่อยากที่จะยอมรับมันแม้แต่น้อย

    "อย่างไรก็ตามแต่ข้าจะแต่งเข้าเป็นฮูหยินรองให้เขาอยู่ดี" ลี่เหม่ยเจินพูดขึ้นอย่างถือดี ใบหน้างามเชิดตามอย่างน่าหมั่นไส้ ริมฝีปากคลี่ยิ้มหวานอย่างเสแสร้ง นางเก็บใบหน้าที่ตกใจเมื่อครู่อย่างมิดชิด พยายามแสดงออกมาว่าอย่างไรเสียนางก็เหนือกว่าลี่เหม่ยจูอยู่ดี เพราะนางนั้นคือสตรีที่เฉินหย่งหมิงรักและถนอม

    "..." ลี่เหม่ยจูเองนึกไม่ถึงว่าลี่เหม่ยเจินอยากจะเอาชนะนางจนถึงขั้นยอมแต่งเข้ามาเป็นรองของนาง คิดไม่ถึงว่าการอยากจะเอาชนะของน้องสาวต่างมารดากำลังจะทำให้ตระกูลลี่ของบิดาดำลังจะมัวหมอง

     

    "ข้าลาเจ้าค่ะ เจี่ยเจี่ย อ๊ะ! ข้าเองก็จะพยายามเรียกให้คุ้นปากเจ้าค่ะ พอถึงเวลาจะได้ไม่เคอะเขิน" ลี่เหม่ยเจินส่งยิ้มมาให้นาง โดยที่รอยยิ้มหวานนั้นส่งไปไม่ถึงนัยน์ดอกท้อแม้แต่น้อย

    ณ เวลาเดียวกันภายในจวนหลังใหญ่โอ่อ่า ร่างเล็กบอบบางไอโขลกจนตัวงออยู่หลายครั้ง มือเล็กกำลังเกาะเท้าของผู้เป็นบิดาเอาไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มี

    ท่านพ่อข้าสัญญา ข้าจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน ท่านต้องการสิ่งใดข้าล้วนไม่อิดออด เพียงให้ข้าได้แต่งกับเขาเป็นฮูหยินของเขาแม้แต่อนุข้าก็มิเกี่ยง" เสียงสะอื้นปานจะขาดใจถูกเปล่งออกมาขาดเป็นห้วงๆ สตรีร่างเล็กพยายามฝืนพูดทั้งยังเจ็บแน่นที่หน้าอกใกล้จะหายใจไม่ออกเต็มที

    "ดี ดี เจ้าอย่าลืมคำพูดของเจ้า มิเช่นนั้นเจ้าก็มิต่างอะไรกับมารดาของเจ้า" เจ้าของเสียงทุ้มทรงอำนาจพูดพร้อมสะบัดขา เดินออกไปทิ้งให้อีกฝ่ายร้องไห้ปานจะขาดใจ พอลับตาแล้ว มือบางยกขึ้นปาดน้ำตานัยน์ตาแดงก่ำเพ่งมองผู้ที่เดินจากไปด้วยสายตาที่รังเกียจและชิงชังมือเล็กทุบเข้าที่หน้าอกอยู่หลายครั้งเพื่อดิ้นรนหาอากาศหายใจ

    ภายในห้องที่ตกแต่งเรียบง่าย แต่สิ่งของทุกชิ้นล้ำค่าบ่งบอกถึงฐานะอันสูงส่งเจ้าของห้อง บุรุษรูปร่างองอาจสวมชุดสีน้ำเงินเข้มดิ้นเงินปักลวดลายมังกรห้าเล็บน่าเกรงขาม กำลังใช้พระหัตถ์ลูบคางแผ่วเบาบ่งบอกว่ากำลังใช้กำลังคิดไม่ตกถัดไปเบื้องหน้านั้นมีชายหนุ่มชุดดำใบหน้าคมชื้นเหงื่อนั่งคุกเข่าก้มหน้า ริมฝีปากของเข้าเม้มแน่นราวกำลังอดกลั้นโทสะ

     

    "ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดจึงอยากเเต่งคุณหนูลี่เหม่ยเจินเข้าเป็นฮูหยินรอง ในเมื่อข้าได้มอบสมรสให้เจ้ากับลี่เหม่ยจูแล้ว รึเจ้าริเป็นหนุ่มเจ้าสำราญชอบสะสมหญิงงามไว้ในจวน ได้พี่สาวแล้วยังต้องการน้องสาวอีก...แต่ก็ไม่แปลกเพราะบุตรีตระกูลนั้นล้วนงดงามทุกนาง"

    ประโยคหลังที่เจ้าเหนือหัวตรัสออกมาทำเอาแม่ทัพของแคว้นถึงกับเป็นใบ้พูดไม่ออก เหตุใดโอรสสวรรค์ถึงมีความคิดที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เขาไม่ได้ต้องการแต่งกับผู้ใดทั้งสิ้น ทุกอย่างล้วนแต่มีข้อจำเป็น และการได้สมรสกับคุณหนูใหญ่ตระกูลลี่นั้นก็ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่เขากำลังคิดและอยู่นอกเหนือการควบคุมทั้งสิ้น

    "กราบทูลฝ่าบาท เป็นพระองค์ที่ทรงพระกรุณาส่งเข้านางเข้าจวนกระหม่อม...หากแต่กระหม่อมมิได้พึงใจนาง" สายตาเย็นชาเงยหน้ามองเบื้องบนอย่างไม่กลัวเกรง แม้อนุสองนางที่ยังหายใจอยู่ที่จวนของเขา ก็เพราะพระกรุณาของฮ่องเต้ ตอนนี้ในจวนของเขาจึงวุ่นวายยิ่งนักแทบมิเป็นอันทำสิ่งใด พวกนางเยื้อแย่งความโปรดปรานมิว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ทุกอย่างดูวุ่นวายรับมือยากยิ่งกว่าสมรภูมิรบ ต่อให้ข้าศึกล้อมหน้าล้อมหลังยังไม่ยากเย็นเท่ากับการรับมือกับสตรีเลย

    อ้อ...เป็นข้าเองรึ อ่า...นั่นสินะข้าลืมไปได้อย่างไร" เสียงพระสรวลดังขึ้นอย่างพอพระทัย เมื่อได้เห็นสีหน้าที่โกรธเคืองของสหาย

    กระหม่อมปรารถนาเเต่งลี่เหม่ยเจินเข้าเป็นฮูหยินรองภายหลังสมรสกับคุณหนูใหญ่ตระกูลลี่ผู้นั้นพะย่ะค่ะ”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×