Arcane vision ตอนที่ 2 และ 3 - นิยาย Arcane vision ตอนที่ 2 และ 3 : Dek-D.com - Writer
×

    Arcane vision ตอนที่ 2 และ 3

    โดย Thagonxxx

    ผู้เข้าชมรวม

    15

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    15

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน : 0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 พ.ค. 58 / 00:00 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่ 2 ปลุกปั่น

    ฟีโก้และบารน์เดินทางผ่านซากร้านค้าพบแม่ลูกร้านขนมปังที่เขาเคยซื้อกินบ่อยๆพวกเขาช่วยเหลือพากันไปต่อจนถึงสุสาน  พวกเขาประหลาดใจมันต่างจากทีเขาคิดสุสานกลายสภาพเป็นค่ายผู้อพยพมีเต็นพยาบาลคนเจ็บมากมายทหารยามที่พ่ายแพ้นั่งเอามือกุมแผลแต่ดวงตาของพวกเขายังลุกโชนด้วยความแค้นที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้และมันกลายเป็นความฮึกเหิมทันทีเมื่อมีเสียงแตรศึกดังลั่นมาจากถนนทางเข้าหมู่บ้านทิศใต้มันเป็นเสียงที่พวกเขารู้จักดีแตรแห่งอีลีนอร์ทัพม้าเคลื่อนที่เร็วจากตัวเมืองลงมาช่วยพวกเขาแล้ว

    อัศวินบนหลังม้าราว200กว่าคนส่วนใหญ่สวมชุดเกราะถักจากหนังสีน้ำตาลเทาและถือหอกบางคนจะสวมเกราะเหล็กสีทองแดงหม่นถือทวน มีคนหนึ่งสวมเกราะสีเงินเงาวับผมทองหน้าตาดูแค่ผ่านตาก็รู้ว้เป็นชนชั้นสูงและเครื่องแบบที่ใส่เป็นเครื่องแบบแม่ทัพของเมืองนี้เขามองไปทางเหล่ากองรักษาการของเมืองที่กำลังบาดเจ็บและบางส่วนก็ยังพอจับอาวุธรบได้เขาเริ่มพูดโดยเสียงอันก้องแฝงด้วยความห้าวหาญในน้ำเสียงพร้อมชูดาบสีเงินเงาขึ้นฟ้า

    ฟราน : พี่น้องชาวเบอร์ม็อกทั้งหลายข้ามีนามว่าฟราน แลนเนอร์ รองแม่ทัพอีลีนอร์

    ข้ารู้ว่าพวกท่านกำลังเจ็บแค้นและเสียขวัญจากเสียงกลองของพวกวอร์ซองเรามานี้เพื่อช่วยท่านทวงบ้านเกิดกลับคืนมาไม่ใช่ว่าพวกท่านเป็นชาวเบอร์ม็อกที่เป็นผู้ถือธง ใต้อานัติแห่งแคว้นเราแต่ข้าเห็นพวกท่านสเมือนพี่น้องที่โดนคนอื่นทำร้าย

    วันนี้เราจะสร้างตำนานเราจะสร้างเรื่องเล่าเรื่องเล่าที่ยิ่งใหญ่ให้ลูกหลานเราฟังก่อนนอนว่าพวกเราถูกทำร้ายสาหัสปานใดและลุกขึ้นกลับมาสู้อย่างห้าวหาญแค่ไหน

    วันนี้คือวันที่ยิ่งใหญ่วันที่พวกเราจะจดจำไปตราบนานเท่านานเพื่อเบอร์ม็อกเพื่อโลกอันเท่าเทียมของเรา พวกเราใครที่จับดาบแห่งความกล้าไหวก็จงลุกขึ้นมาสร้างตำนานความกล้ากับพวกเราอีกครั้ง เคลื่อนพล!”

    เฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮเฮ

    เสียงตะโกนอย่างหึกเหิมสลับกับเสียงลุกขึ้นจับอาวุธของกองรักษาการซึ่งบางคนยังบาดเจ็บแต่ใจสู้ลุกมาสุนทรพจน์ของฟรานทำให้กองทหารม้าเคลื่อนที่เร็วของเขามีพลเดินเท้าที่เป็นกองรักษาการ 80 กว่าคน และชาวบ้านอีก 200 กว่าคนมาเพิ่ม

    ฟีโก้ : เราต้องไปเตือนหัวหน้ากองรักษาการเรื่องเฆฆในหมู่บ้านลุงพอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ตรงไหน

    บารน์ : ฉันเลิกยุ่งกับพวกที่จับอาวุธที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้กล้ามานานแล้วไม่รู้หรอก

    ภรรยาร้านขนมปัง : ฉันรู้หาตัวเขาไม่ยากหรอกถ้ายังไม่ตายนะเป็นชายผิวดำคนเดียวในหมู่บ้านนี้ที่หัวล้านเขาชื่ออดาเมอัส

    ฟีโก้และบารน์ตัดสินใจแยกกับแม่ลูกร้านขนมปังพวกเขาออกค้นหาชายที่ชื่ออดาเมอัสไม่นานก็เจออดาเมอัสที่โรงม้ากำลังสวมอานม้าให้มาสีดำของเขา

    ฟีโก้ : คุณคงจะเป็นอดาเมอัสใช่ไหมครับ

    อดาเมอัส : นายเป็นใคร ?ทำไมถึงรู้จักฉัน ?

    ฟีโก้ : ผมชื่อฟีโก้ ฟีโก้รีเจี่ยน ผมมาเพื่อจะเตือนเรื่องเกี่ยวกับการเคลื่อนทัพ

    อดาเมอัส : นายมีอะไรจะบอกฉันฟีโก้

    ฟีโก้ : จะมีการใช้อาวุธทำลายล้างสูงตรงเส้นทางเดินทัพในครั้งนี้ผมขอให้คุณซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาการณ์ช่วยออกคำสั่งชะรอการเคลื่อนทัพครั้งนี้หน่อยเฆฆนั้นจะยิงบางอย่างออกมาแน่และผมเชื่อว่าคุณคงจะเห็นมันตอนทีพวกศัตรูบุกเข้ามา

    อดาเมอัส : นายเป็นใครกันแน่ ? จะให้ชั้นไว้ใจนายได้ยังไงกัน

    ฟีโก้ : ผมเป็นนักเวทย์ฝึกหัดของโรงเรียนอัลเลวิชผมไม่แตกฉานด้านเวทย์มนต์เหมือนพวกอาจารย์แต่ผมเห็นการหมุนวนของกระแสพลังเวทย์ที่แผ่ออกมามันไม่ใช่เรื่องดีแน่

    อดาเมอัสนั่งคิดอยู่ซักพักลูกน้องของเขาก็โผล่มาบอกว่าฟราน จัดทัพประสมสำเร็จแล้วและขอให้เขาออกมานำทัพหน้าให้กับกองทัพของอีลีนอร์เขาตอบรับคำขอของลูกน้องทันทีและหยิบดาบกับโล่ของเข้าขึ้นมาฟีโก้เห็นว่าสถาณะการแย่ลงจึงรอให้พวกลูกน้องของอดาเมอัสออกไปและเริ่มพูดอีกครั้ง

    ฟีโก้ : ขอร้องละครับแค่นี้เรายังสูญเสียไม่พออีกหรือฟีโก้คาดขั้น

    อดาเมอัส :ไม่มีอะไรจะน่าเสียใจไปกว่าการสูญเสียความรักในชาติและบ้านเกิดอีกแล้วพวกเราถูกรุกรานในบ้านเราในแผนดินที่ปู่ย่าตาย้ายสละเลือดเนื้อปกป้องเราจะรอไม่ได้แม้นาทีเดียวฟีโก้นายจะร่วมกับพวกเราไหม ?

    ฟีโก้ :ได้ครับแต่ขอให้คุณฟังผมช่วยออกคำสั่งการชะลอการเดินทัพครั้งนี้ด้วยครับมันอันตรายเกินไปที่จะไปเจอเมฆนั้นในเวลานี้

    อดาเมอัส : ฉันทำไม่ได้ฟีโก้ทุกคนกำลังโกรธแค้นและด้วยบทบาทของฉันฟีโก้ฉันทำไม่ได้และเหตุผลของนายไม่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้ชั้นเชื่อฉันว่านั้นก็แค่เมฆฝนประจำฤดูเท่านั้นเอาละฉันถามกลับบ้างนายต้องการอะไรกันแน่?

    ฟ๊โก้ : คุณไม่ไว้ใจผมสินะ

    อดาเมอัส : เว้นเสียแต่ว่านายทำให้ฉันเชื่อใจ.....

    ฟีโก้ : ยังไง ?

    อดาเมอัส : ดูจากคำพูดของท่านชายฟรานฉันคิดว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการเคลื่อนพลคลั้งนี้ถ้าไม่นับผลงานครั้งนี้ฉันเห็นว่าฟรานและตระกูลแลนเนอร์ของเขาไม่เคยทำประโยชน์ให้แก่ชาวเบอร์ม็อกและหมู่บ้านที่ถือธงของแคว้นอีลีนอร์ซักเท่าไหร่ทุกครั้งที่ทำก็เพื่อเมืองอีลีนอร์และตระกูลของพวกเขาเท่านั้นสิ่งที่        อีลีนอร์มอบให้เราเทียบกันไม่ได้เลยกับสิ่งที่เขาเอาไปจากเรา

    ฟีโก้ : คุณต้องการให้ผมทำอะไร?

    อดาเมอัส : การชะลอทัพทหารม้าของฟรานและทหารของฉันที่กำลังโกรธแค้นจำเป็นต้องมีผู้ก่อความไม่สงบตรงสะพาน  ฟรานคงใช้สะพานนั้นข้ามไปยังเส้นทางไปท่าเรือแน่

    บารน์ :สรุปก็คือให้เราทำลายสะพานที่อยู่ใกล้ๆนี้สินะ

    อดาเมอัส :ถ้านายหักหลังพวกเราหรือทำอะไรตุกติกละก็ฉันจะถือว่านายเป็นศัตรู

     ฟีโก้ : ไว้ใจผมได้เลย


    ตอนที่ 3

    march of war

    10นาทีก่อนการเคลื่อนทัพกอบกู้เบอร์ม็อกของฟราน 

    บารน์ : ไว้ใจผมได้เลย ! นายบ้าไปแล้วเหรอ ! นายอาจจะได้เป็นศัตรูกับคนแคว้นนี้ทั้งแคว้นเลยนะคิดดูให้ดีก่อนเถอะ

    ฟีโก้ :ผมคิดดูแล้วนี้เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้วผมมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เลือกที่จะหนีไม่ได้เหมือนคนอื่นเอาไว้สิ้นสุดเรื่องนี้แล้วผมจะบอก

    เนื่องจากมีเวลาจำกัดฟีโก้และบารน์ตัดสินใจแยกกันทำภารกิจของตนโดยฟีโก้จะเข้าไปคุยกับฟรานโดยตรงเพื่อถ่วงเวลาส่วนบารน์ก็จะวิ่งล่วงหน้าไปที่สะพานแล้วเผาสะพานทิ้ง

    ฟีโก้:คุณคงจะเป็นฟราน์แลนเนอร์ ใช่ไหม

    ฟราน์งุนงงเล็กน้อยที่จู่ๆก็มีคนแปลกหน้ามาถามตนหัวหน้าหน่วยทะลวงฟันลูกน้องเขาก็งุนงงเช่นกัน

    ฟราน :ขอโทษนะไม่ทราบว่านายคือใคร

    ฟีโก้ : ผมชื่อฟีโก้ ฟีโก้รีเจี่ยน ผมมีเรื่องสำคัญมาบอกคุณ

    ฟราน : ว่ามา

    ฟีโก้  : อยากให้คุณชะลอการเดินทัพในครั้งนี้ศัตรูของคุณเตรียมการจู่โจมด้วยอาวุธร้ายแรงสังเกตได้จากท้องฟ้าด้านหน้า

    ฟรานหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่าคำพูดของฟีโก้ขาดความน่าเชื่อถือ    เฆมบนท้องฟ้าเป็นแค่เฆฆฝนประจำฤดูท่านั้นพร้อมสั่งทหารให้จับตัวฐานเป็นผู้ต้องสงสัย     ฟีโก้ได้ประกาศฐานะของตนว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนอัลเลวิชพวกทหารว่าเขาโกหกแต่อดาเมอัสออกมายื่นยันตัวตนว่าเขาเป็นนักเรียนของอัลเลวิชจริงซึ่งเขาจะได้รับสิทธิคุ้มครองและได้รับการพิจารณาโทษจากสภาเมจเท่านั้นแต่ถึงกระนั้นเขาต้องถูกควบคุมตัวที่แคมป์ไปก่อน

    ฟีโก้ถูกขังในสุสานใต้ดินประจำหมู่บ้านมียาม2คนเฝ้าอยู่มีสีหน้าตื่นกลัวเล็กน้อยคงจะกลัวสภาพรอบๆในสุสานใต้ดิน

    ยาม1 : ทำไมเราต้องมาเฝ้าไอ่เด็กนักเวทย์ฝึกหัดนี่แทนที่จะออกไปตายอย่างกล้าหาญสร้างตำนานให้ลูกหลานฟัง

    ยาม 2 : อย่าบนนักเลยน่าชั้นก็ไม่ถูกใจนักหรอกกับการมาอยู่ในที่ชวนขนลุกแบบนี้

    ยาม 1 : แกกลัวละสิท่าจริงสินะในนี้มีเรื่องเล่าถึงผีอัศวินหัวขาดอยู่นี่นา

    ยาม 2 :ไอ่บ้าคนยิ่งกลัวๆอยู่อย่าสร้างบรรยากาศสิวะ

    ขณะที่ทั้ง2กำลังคุยกันร่างของอัศวินที่สวมฮูดพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วยามคนแรกรีบตวัดดาบฟันไปที่ฮูดแต่เหมือนจั่วลมทั้งๆที่ฟันไปที่หัวแน่นอนทำให้ยามร้องแหกปากลั่นสุสาน  อัศวินไร้หัว ! ผีหลอก ผั้ว ! กำปั้นเหล็กของอัศวินไร้หัวกระแทกคางอย่างจังจนยามคนแรกสลบ

    ยามคนที่2ยกดาบกับโล่ขึ้นตั้งท่าพร้อมรบแต่อัศวินไร้หัวยกนิ้วชี้แล้วทำทำเสียงชู่วให้เงียบเสียงยามคนที่2เริ่มชะงักเพราะเสียงที่ได้ยินมันคุ้นหู

    อัศวินไร้หัวถอดฮูดออกเป็นอดาเมอัสนั้นเอง

    ยาม2 : หัวหน้าทำไมมาช่วยไอ่เด็กนี่ครับยาม2ถามอดาเมอัส

    อดาเมอัส : เขาอยู่ในแผนการของเราเรื่องลายละเอียดเอาไว้คุยกันที่หลัง

    เขาใช้ลูกกุญแจปลดกำไลที่ใช้สำหรับควบคุมตัวนักเวทย์ไขออกแล้วเริ่มอธิบายแผนการขั้นต่อไปให้ฟีโก้ฟัง

    2นาทีให้หลังฟีโก้เดินลงไปในสุสานใต้ดินที่ลึกลงไปตามที่อดาเมอัสบอกชั้นวางโลงศพที่ตั้งเรียงรายแถวละ2ชั้นแม้จะดูแล้วน่าขนลุกแต่ฟีโก้ก็เห็นว่ามันได้รับการดูแลอยู่บ่อยครั้งเลยทีเดียวฟีโก้เดินไปยังจุดที่ลึกสุดของสุสานก็จริงแต่ปลายทางนั้นก็มีบันใดวนนำเขาไปสู่พื้นดินใกล้ๆสะพานตามที่อดาเมอัสบอกแต่เกิดเหตุประหลาดบางอย่าง

    คริสตันสีแดงที่เขาขโมยมาจากโรงเรียนเริ่มสั่นในกระเป๋ากางเกงของเขาจากนั้นเหมือนกับเขาขยับตัวไม่ได้เล็กน้อยเขาเดินไปอีก2ก้าวแล้วก็ล้มแล้วลงอาเจียนเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเขาหลังจากคายของเก่าจนหมดเขายืนพิงผนังอยู่พักหนึ่งแล้วเริ่มเดินต่อร่างกายของฟีโก้หนักอึ่งเกินกว่าที่ควรจะเป็นเขารู้สึกได้บางเวลาหายใจเข้าก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทิ่มหน้าอกแต่เขาก็ฝืนเดินต่อไปเพราะรู้ว่าถ้าน็อกลงตรงนี้คงจะไม่มีใครมาช่วยแน่ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงจุดที่ควรจะมีบันใดวนแต่กลับมีประตูเหล็กแทนเขาหลงทางรึเป็นไปไม่ได้สุสานนี้ค่อนข้างแคบและตรงตลอดทางเลี้ยวก็มีเหมือนกันแต่มันตันและมีแต่โลงศพจัดออกมาคล้ายห้องเล็กๆ

    จู่ๆเขาเกิดความรู้สึกประหลาดกับประตูคล้ายๆว่าจะถูกห่อหุ้มด้วยเวทย์มนต์เขาจึงใช้พลังพิเศษที่ตาของเขากลายเป็นแสงสีฟ้ามันทำให้เผยให้เห็นโครงสร้างเวทย์มนต์ที่ล้อมประตูเขาไม่เคยเห็นโครงสร้างเวทย์มนต์แบบนี้มาก่อนมันไม่ซับซ่อนแต่แค่ไม่รู้จักมีอักษรเวทย์อยู่ในโครงสร้างของประตูเขาตัดสินใจประตูเขาเดินเข้าไปจับกลอนประตู....มันล็อกสนิทแต่เขาปล่อยมือจากกลอนประตูไม่ได้สมองของเขาสั่งการมือให้ปล่อยแต่เหมือนมือมันไม่ฟังคำสั่งของเขาแม้แต่น้อย

     

    ใครกันรบกวนเวลานอนของข้า !”

    เสียงชวนขนลุกลอดผ่านบานประตูเหล็กออกมา

    ฟีโก้พยายามถอนมือออกแต่ก็ยังนิ่งทั้งที่กระตุกมือสุดแรง

    เปล่าประโยชน์ถ้ายังไม่ตอบคำถามข้า เสียงพูดต่อ

    ฟีโก้รู้สึกได้ว่าไม่ควรโกหกจึงพูดความจริง

    ผมชื่อฟีโก้รีเจี่ยน เป็นจอมเวทย์ฝึกหัดของโรงเรียนอัลเรวิช แค่จะหาทางออกจากสุสานนี้เท่านั้น

    โกหก! จอมเวทย์ฝึกหัดไม่มีทางมาถึงที่นี่ได้แน่บอกความจริงไม่งั้นชีวิตเจ้าจักหาไม่

    ฟีโก้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างในร่างกายถูกดูดออกไปเหมือนมีลำแสงสีขาวจากมือของเขาที่บางเบาถูกดูดผ่านลอดช่องประตูเข้าไปเขาเริ่มหมดแรงร่างกายที่หนักอึ่งอยู่แล้วหนักอึ่งเข้าไปอีกเขาต้องหาทางทำอะไรซักอย่างเขาหยิบเอามือล้วงกระเป๋าพยายามจะหยิบยันต์เวทย์แต่นึกขึ้นได้ว่าโดนยึดไปหมดเขารีดเร้นพลังเวทย์ที่ฝ่ามือกระแทกที่กลอนประตูการดูดกลืนชะงักไปพริบตาหนึ่งเขาพยายามจะดึงมือจากกลอนประตูแต่ก็ยังไม่ขยับเหมือนเดิมแล้วบานประตูก็เปิดออกกระทันหันดูดฟีโก้เข้าไปในห้อง

     ฟีโก้ลุกขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในลานกว้างของโรงเรียนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีโรงเรียนที่เขาเพิ่งถูกไล่ออกแต่รู้สึกว่าบรรยากาศต่างออกไปแถมส่วนด้านข้างของโรงเรียนที่เป็นแปลงเพาะปลูกของชมรมพืชวิเศษที่เคยเป็นซากปราสาทกลับมีป้อมตรวจการขึ้นมาแทนจะพอจะจำได้ว่าป็นโรงเรียนคือหอคอยของโรงเรียนที่เป็นห้องของผู้อำนวยการกับโบสถ์เก่า

    ฟีโก้ตะลึงงงกับฉากที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่แปปเดียวก็ได้ยินเสียงควบม้าจากทางด้านหลังฟีโก้รีบหันควับไปดูแต่ก็ไม่มีอะไรเสียงควบม้ายังดังทั้งด้านหลังด้านข้างของฟีโก้บางจังหวะของเสียงเหมือนควบม้าแทบจะประชิดตัวชวนหลอนโสตประสาตเป็นอย่างยิ่งแต่ทุกครั้งที่หันกลับไปก็ไม่เห็นมีอะไร

    ฟีโก้ตัดสินใจวิ่งไปที่หอคอยเพราะเป็นสถานที่คุ้นที่สุดในโรงเรียนที่บรรยากาศเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ห้องต่างๆในอาคารเรียนแทนที่จะมีชั้นหนังสือกับหีบใส่อุปกรณ์การสอนและโต้ะเรียนกลับไม่เห็นเห็นแต่ชั้นวางอาวุธเป้าซ้อมยิงธนูและหุ่นไม้สำหรับแขวนชุดเกราะแทนและมีหีบที่มีสัญลักษณ์กองทัพประเทศไททาเนียตั้งอยู่บ้างประปลายเขาเริ่มสำรวจรอบๆพักหนึ่งก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นโรงเรียนอัลเรวิชแน่นอนเขาเจอรูปปั้นอาเรอาเทพธิดาผู้สร้างโลกด้วยก้อนหิน ไฟ และเลือดของตนแขนของรูปปั้นที่ปกติจะยื่นชูมาหาผู้มองกลับหักด้วนกับตำแหน่งทีตั้งๆอยู่ข้างๆโบถ์ที่ตั้งใกล้บ่อน้ำยิ่งทำให้เขาแน่ใจว่าใช้โรงเรียนที่เพิ่งจะไล่เขาออกมาแน่ๆ

     เสียงควบม้าดังขึ้นอีกและเขาก็หับกลับไปอีกแต่คราวนี้ปรากฏร่างของต้นเสียงเป็นอัศวินสวมชุดเกราะขี่ม้าเพียงแต่ว่าไม่มีหัวเท่านั้นเอง

    ฟีโก้ตกใจสุดขีดรีบวิ่งหนีเข้าไปในโบถ์ด้านข้างรูปปั้นพยายามเปิดประตูแต่มันล็อกเขายิงเวทย์มนต์ใส่กลอนประตูแต่มันก็ไม่พังเขารู้สึกว่าพลังเวทย์ของเขาอ่อนลงไปมากตั้งแต่มาอยู่ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้

    เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ชุดเกราะเริ่มถามทั้งๆที่ไม่มีหัว

    ฟีโก้ :ผมไม่รู้ มันงงไปหมดข้าไม่รู้จริงๆ

    อัศวินไร้หัว : คนพลัดหลงรึแต่ช่วงเวลานี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ยังไม่ถึงคราสนี้นาเจ้าเป็นใครกันแน่ทำไมถึงหลงเข้ามาในนี้ได้ตอบมาดีๆนะเจ้าหนุ่มถ้าไม่อยากตาย

    ฟีโก้ : ผมไม่รู้จริงๆผมเดินอยู่ในสุสานใต้ดินจู่ๆก็มึนหัวแล้วก็มาเจอประตูบานนี้

    อัศวินไร้หัว :  ยังไงก็ไม่น่าไว้ใจอยู่ดีตายซะเจ้าหนู

    อัศวินไร้หัวเริ่มควบม้าพุ่งใส่ฟีโก้ฟีโก้พยายามใช้กำแพงแสงแต่งผลของเวย์ไม่แสดงออกมากลายเป็นการเสียจังหวะอย่างใหญ่หลวง

    กีบเท้าม้าชูเหนือหัวฟีโก้กำลังจะกระทืบลงมาขยี้กะโหลก ฟีโก้กลิ้งตัวหลบแล้วรีบวิ่งไปหลังโบถ์โชคเข้าข้างฟีโก้ด้านหลังโบถ์มีเสาหินเรียงรายมากมายไม่ต่างจากโรงเรียนที่เขาคุ้นเคยอัศวินไร้หัวควบมาวนไปมาอยู่รอบนอกเสาหลายต้นจากนั้นก็เริ่มยิงลูกกระสุนวิญญาณจากฝามือที่เป็นเกราะมือสีดำเงางามฟีโก้กระโดดลูกวิญาณหลบไปมาตามเสาหินฟีโก้ยิงลูกกระสุนเวทย์สวนโดนเสื้อเกราะของนักรบไร้หัวแต่ไม่สะดุ้งสะเทือนจะมีก็แค่รอยหมองจางๆเท่านั้น

    อัศวินไร้หัว :  น่ารำคาญจริงเจ้าแคสเตอร์ตัวน้อยนี่

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น