ดวงใจของพ่อ
ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขหาได้ง่ายจากพ่อแม่ของเราเท่านั้น นอกนั้นหายาก การเสียสละคนที่รักด้วยเหตุผลใดก็ตามถือว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญที่สุด แต่ก็ยังมีคนทำ เพราะจิตใจที่งดงามของพวกเขา
ผู้เข้าชมรวม
84
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
"ลองฟังดูซิครับ "
วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ
"ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม"
เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
"ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน
พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์ กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน" วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน
Sent from my iPad
ผลงานอื่นๆ ของ คนเหลือขอ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ คนเหลือขอ
ความคิดเห็น