ดวงใจของพ่อ - นิยาย ดวงใจของพ่อ : Dek-D.com - Writer
×

    ดวงใจของพ่อ

    ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขหาได้ง่ายจากพ่อแม่ของเราเท่านั้น นอกนั้นหายาก การเสียสละคนที่รักด้วยเหตุผลใดก็ตามถือว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญที่สุด แต่ก็ยังมีคนทำ เพราะจิตใจที่งดงามของพวกเขา

    ผู้เข้าชมรวม

    84

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    84

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  1 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  29 มิ.ย. 67 / 19:33 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
           วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

             พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

           ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                 ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
            วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

              พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

            ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad
           วศิน ชายสูงวัย เส้นผมสีดอกเลายืนนิ่งอยู่หน้าเด็กหนุ่มแปลกหน้ารุ่นลูก  เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาออก เปิดให้เห็นรอยแผลผ่าตัดยาวตลอดกลางอก เขายื่นอุปกรณ์ฟังหัวใจของแพทย์ให้วศิน
    "ลองฟังดูซิครับ  "  
    วศินรับอุปกรณ์มาใส่หูอย่างลังเล  เขามองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่อย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มวางปลายหูฟังแนบที่อกด้านซ้าย  น้ำตาของวศินค่อยๆเอ่อท้นไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ วศินยืนนิ่งตั้งใจฟังเสียงหัวใจอยู่ครู่ใหญ่ แววตาที่มองเด็กหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พลางเอ่ยปากด้วยเสียงอันสั่นเครือ 
    "ฉัน..ฉันขอกอดเธอได้ไหม" 
    เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับ เขาโอบตัววศินเขามากอดเสียเอง  วศินค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเด็กหนุ่มแน่น พร้อมกับสะอื้นฮัก  เสียงที่เปล่งออกมาจากปากวศินเบา แหบแห้งจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์  
    "ยัยหนูของพ่อ....พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน"
    ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ เสียงหัวใจดวงนั้นเป็นเสียงหัวใจของลูกสาวสุดที่รักคนเดียวของวศิน  

             พิมพ์ชนกเป็นชื่อของเธอ เด็กสาวแรกรุ่นนักศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี แก้วตาดวงใจของวศิน เธอเสียชีวิตลงเมื่อสามเดือนก่อน  แม่ของพิมพ์ชนกก็ได้จากไปกว่าสิบปีแล้วด้วยโรคมะเร็งตับ  พ่อลูกคู่นี้จึงต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากคนที่พวกเขารักมากที่สุดตั้งแต่เด็กสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  

           ทุกปีในวันพ่อ พิมพ์ชนกจะนำพวงมาลัยมากราบ กอดและหอมพ่อ  วันพ่อปีนี้ วศินไม่ได้กอดลูกสาว แต่ได้กอดเด็กหนุ่มที่มีหัวใจของลูกสาวสุดที่รักของเขาเต้นอยู่ภายใน  เขาเป็นผู้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพิมพ์ชนก หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางกลับบ้าน รถที่เธอขับถูกรถกระบะที่สวนข้ามเลนมาชนแบบประสานงา  คนขับรถกระบะมึนเมาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ส่วนพิมพ์ชนกบาดเจ็บสาหัสหมดสติ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว แต่ก็ยังมีภาวะสมองบวมมากจนไปกดก้านสมอง  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสมองตายหลังจากเกิดอุบัติเหตุสิบวัน พิมพ์ชนกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ในวันที่วศินทราบข่าว ใจของเขาแหลกสลาย  เขาเคยเสียภรรยาไปเมื่อสิบปีก่อน  ตอนนี้เขากำลังจะเสียลูกสาวสุดที่รักคนเดียวไปอีกคน  ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยกอดเคยหอมแก้ม คนที่พูดจาเล่นสนุก เล่าเรื่องให้เขาหัวเราะ เขาจะอยู่ต่ออย่างไร และเพื่อใคร  วศินอยู่ในสภาพของคนที่ไร้จิตวิญญาณ มีแต่ความหม่นหมองทุกข์ทรมานใจ เขามาเยี่ยมลูกสาวที่ห้องไอซียูทุกวันโดยไม่พูดกับใครเลย  มีแต่เสียงสะอื้นในอกกับน้ำตา เขาไม่คิดจะปล่อยมือของเขาจากลูกสาวคนนี้ตลอดไป จนเมื่อแพทย์เจ้าของไข้ที่รับผิดชอบรับรู้ถึงสถานการณ์และได้ใช้เวลาพูดอธิบายถึงสาเหตุและพยากรณ์โรคแก่เขาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดวศินก็เข้าใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวนอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เช่นนี้ตลอดไป และได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของเธอเพื่อต่อชีวิตคนอีกหลายชีวิต  วศินกลับมีความหวังที่จะเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของพิมพ์ชนกโลดแล่นอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกับเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปสมทบกับลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคู่ชีวิตที่รอเขาอยู่ณแดนสุขาวดี

                 ในวันนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ  วศินเหมือนได้กอดลูกอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแนะนำตัวเองว่าเขาชื่อกานต์  กานต์กราบลงที่กลางอกของวศิน  พร้อมกับมอบพวงมาลัยให้ "ผมจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของลูกคุณพ่อ  ผมขอเรียกคุณพ่อนะครับ ขอผมเป็นลูกคุณพ่ออีกคน"  วศินพยักหน้ารับ น้ำตาไหลร่วงพรูลงมาอีก และครั้งนี้เขาดึงตัวกานต์เข้ามากอด  "นอกจากผมแล้ว อยากให้คุณพ่อพบกับลูกคุณพ่ออีกสามคน" กานต์พูดพลางเปิดประตูห้อง  มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเข็นรถเข็นผู้ป่วยซึ่งมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ชนกนั่งอยู่ เข้ามาในห้อง คนทั้งสามแนะนำตนเอง  โดยเด็กสาวที่นั่งรถเข็นได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับ  ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตคนละหนึ่งข้าง  ทุกคนก้มกราบและมอบพวงมาลัยวันพ่อให้แก่วศิน  ชีวิตทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าวศินขณะนี้มีเลือดเนื้อของลูกสาวของเขาอยู่ด้วย  วศินยืนนิ่งใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมน้ำตา วันนี้เขาได้ลูกกลับคืนมาสี่คน  หนึ่งชีวิตที่เขารักที่สุด ชีวิตที่ควรจะมีอนาคตสดใสต้องจากไปเพราะคนเมาเหล้าบัดซบคนหนึ่งที่พูดว่าเขาดื่มไปนิดหน่อยและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่มีอีกสี่ชีวิตที่ได้โอกาสใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพกว่าเดิมเพราะจิตใจอันงดงามและความเมตตาของวศิน ชายชราอย่างวศินผู้เคยโดดเดี่ยว มีภรรยาและลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงในใจ ต่อแต่นี้ไปเขาจะมีลูกมาดูแลเยี่ยมเยียนเขาถึงสี่คน


    Sent from my iPad

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น