ปากกันใจไม่ตรงกัน
ความรักเป็นไง
ผู้เข้าชมรวม
133
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หยดน้ำใสๆที่เกาะอยู่พราวพร่างบนกลีบกุหลาบสีแดงสด ส่องประกายล้อแสงจากดวงไฟด้านบนดูระยิบระยับ...ขวดโหลเดินไปเปิดโคมไฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะเดินกลับมาปิดไฟกลางของห้อง หญิงสาวเดินมานั่งลงที่โต๊ะ กวาดสายตาไปรอบๆห้อง...แสงสลัวลงมากทีเดียวเมื่อเปิดแต่โคมไฟอันนี้ เธอมองแจกันกุหลาบที่อยู่บนโต๊ะ ขวดโหลเพิ่งจะซื้อกุหลาบมาในวันนี้เอง... กุหลาบแดงเจ็ดดอก ที่เธอเลือกออกมาจากกุหลาบจำนวนไม่มากนักของร้านขายดอกไม้ในยามที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว...ภาพของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินมาอย่างรีบเร่งยังติดอยู่ในความคิดของเธอ เขาเดินตรงมาที่ร้านขายดอกไม้ที่เธอยืนอยู่ มองหากุหลาบสีแดง ก่อนจะหยิบขึ้นมาแล้วส่งให้คนขาย ดอกหนึ่ง ขวดโหลยิ้มนิดๆ...ก็คิดดูสิ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจมองใครเลยด้วยซ้ำ เขาคงรีบ...หยิบกุหลาบที่คิดว่าดูดีที่สุดไป ทั้งที่ขวดโหลเองก็ถืออยู่ตั้งเจ็ดดอก... นึกแปลกใจ...หลังจากที่เขาคนนั้นเดินจากไปแล้วพร้อมกับกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ห่อกุหลาบแดงไว้ตัวเธอเองยังพยายามมองหากุหลาบดอกที่เธอว่าสวยอยู่นาน แล้วผู้ชายคนนั้น ตาแหลมคมขนาดไหนกันนะ...ถึงเลือกได้รวดเร็วขนาดนั้น คงจะเอาไปฝากคนพิเศษสักคนละมั้ง ขวดโหลหัวเราะเบาๆกับตัวเอง... แล้วเธอล่ะ...ซื้อกุหลาบแดงมาทำไมตั้งเจ็ดดอก... มองแจกันสีน้ำตาลใบใสขนาดย่อม สำหรับคนอื่นก็ไม่รู้สินะว่าถ้าพวกเขาจะหากุหลาบสีแดงเจ็ดดอกไปเพื่ออะไรกัน แต่ถ้าถามตัวขวดโหลเองในตอนนี้...เธอคงตอบได้ว่า กุหลาบแดงเจ็ดดอกนี้ เอาไว้เพื่อ รอคอย...ใครคนนั้น... แปลกดีนะ...เวลาที่เราต้องการที่จะพบหรือพูดคุยกับใครบางคนมากๆ...เพียงแค่ในช่วงเวลาสั้นๆหรือเพียงแค่ไม่กี่วัน...ก็สามารถที่จะรู้สึกเหมือนกับว่านานเป็นสัปดาห์แม้กระทั่งนานเป็นเดือนได้ ขวดโหลมองด้านขวาสุดของโต๊ะหนังสือ กรอบรูปสีฟ้าและรูปผู้ชายผิวขาวที่กำลังยิ้มกว้างจนดวงตาภายใต้กรอบแว่นนั้นหยีลง...หญิงสาวยิ้มนิดๆ พูดกับรูปนั้นเบาๆ...คิดถึง... นานมาแล้ว...นับตั้งแต่วันที่ขวดโหลได้รู้จักกับอินทร์โดยบังเอิญ ในเหตุการณ์ที่แสนคุ้นเคย ความรีบเร่งที่เกิดขึ้นในตอนเช้าของวันจันทร์ที่แสนยุ่งเหยิง...งานเยอะอะไรขนาดนี้ วันหยุดสุดสัปดาห์ไม่เคยทำให้ คนทำงานรู้สึกสบายใจมากขึ้นในวันเปิดงานวันแรกเลย เหมือนกับว่าวันเวลาแห่งความสุขและการพักผ่อนช่างจากไปเร็วราวกับติดปีก และความปรารถนาสั้นๆต่อมาก็คือ...ขอให้หมดสัปดาห์ในการทำงานนี้เร็วๆด้วยเถอะ ขวดโหลรวบรวมเอกสารที่ต้องการฉบับสำเนาทั้งหมดไปถ่ายเอกสาร...และด้วยความรีบเร่งอีกนั่นแหละ หลังจากที่ได้สำเนาตามที่ต้องการแล้ว ขวดโหลรีบจ้ำอย่างรวดเร็ว...นึกถึงงานที่ยังกองรออยู่บนโต๊ะ...อุ๊ย! แรงที่ปะทะเข้ามาถึงจะไม่แรงมากนักแต่ก็ส่งผลกระจายกว้างไกลกระดาษหลายสิบแผ่นปลิวว่อนลงกับพื้น “ขอโทษค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอโทษคนถูกชนก่อนจะก้มลงเก็บกระดาษบนพื้น ได้ยินเสียงพูดว่า... ”ช่างเถอะ” ขึ้นมาเบาๆ พ้อมกับที่เจ้าของเสียงก้าวเท้าห่างออกไป ...ซุ่มซ่ามเองแท้ๆ เลยต้องมาเสียเวลาเก็บกระดาษพวกนี้อีก... ขวดโหลถอนหายใจ บ่นพึมพำกับตัวเอง...แต่แล้วก็ต้องสะดุดสายตาอยู่ที่รองเท้าหนังสีดำคู่หนึ่งที่ก้าวเข้ามาใกล้ เงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าของชายหนุ่มที่ไม่คุ้นเคยยิ้มให้ เขาย่อตัวลงมาแล้วบอกกับเธอ... “ให้ผมช่วยนะครับ” ขวดโหลพนักหน้าให้อย่างงงๆ อดคิดไม่ได้ ...อย่างกับในละครที่มีพระเอกมาช่วย... พนักงานคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆเหลือบมองนิดๆเมื่อเห็นชายหญิงคู่หนึ่งก้มลงเก็บกระดาษที่ตก ...มีคนช่วยแล้วนี่... คิดอย่างรวดเร็วก่อนจะหันกลับไปทำงานของตัวเอง หลังจากที่รับกระดาษจากชายหนุ่มผู้มีน้ำใจแล้ว ขวดโหลมองหน้าแว่นๆนั้น ...แปลก... สมัยนี้จะหาคนที่เต็มใจจะช่วยอะไรคนอื่นยากแล้ว เพราะส่วนมาก...ก็จะคิดแต่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองกันทั้งนั้น แล้วคนตรงหน้านี่ใครกัน หญิงสาวมองด้วยความแปลกใจไม่หาย...ไม่ได้เป็นคนชนและไม่ได้เป็นคนถูกชนด้วยซ้ำ ชายหนุ่มยิ้มนิดๆเมื่อเห็นเธอจ้องเขาด้วยสายตาแปลกๆ...ขวดโหลคงเพิ่งรู้สึกตัว เธอกล่าวขอบคุณเขาพร้อมกับยิ้มตอบ... ...จะไปบึ้งใส่ก็ใช่ที่ เขายังอุตส่าห์ช่วยเราด้วย... คิดในใจ ชายหนุ่มผู้มีน้ำใจบอกไม่เป็นไรก่อนจะ ขอตัวจากไป ...สายตานะสายตา จะดีอะไรขนาดนี้... ขวดโหลบ่นพึม ก็ตัวเองน่ะสิ ยังเหลือบไปเห็นป้ายชื่อพนักงานของเขาอีกนะ ทำให้ได้รู้ว่าคนที่เพิ่งเดินหายไปมีชื่อว่า...อินทร์ การเริ่มต้นช่างง่ายและแสนสั้น หลังจากวันนั้น...ขวดโหลและอินทร์ได้พบเจอกันอีกหลายต่อหลายครั้ง แล้วความสนิทสนมก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว... หญิงสาวได้รู้ว่าคนที่เธอพบคนนี้เป็นคนที่อารมณ์ดีมากทีเดียว อินทร์ยิ้มเก่ง เขาเป็นมิตรกับทุกคนและมีน้ำใจดีอย่างที่ตัวขวดโหลเองเคยได้เจอมาแล้ว... หกวันก่อนหน้านี้...ก่อนที่ขวดโหลจะซื้อกุหลาบแดงมา...เธอหยิบรูปของอินทร์มาถือไว้แล้วมองกุหลาบแดงเจ็ดดอกสลับกัน... คงจะต้องมีบ้าง...ที่ในบางครั้งบางเวลา คนเราอาจจะพูดอะไรที่ไม่ตรงกับความรู้สึกออกไปแล้วหลายๆครั้งที่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นมันทำให้เกิดความเสียใจ... เมื่อหกวันก่อนหน้านี้พูดถึงความรัก และถามขวดโหลถึงความรู้สึกของเธอผ่านทางอีเมล์ ไม่รู้สินะ...แต่พอขวดโหลอ่านจบ คำตอบของเธอก็ถูกส่งกลับไปหาคนถามทันที จะว่าแปลกก็คงไม่ได้ เพราะอินทร์เคยบอกรักขวดโหลแล้ว อินทร์ก็คงเหมือนขวดโหลละมั้ง...เป็นคนที่ชอบพูดอะไรตรงๆให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่าจะได้ไม่ค้างคาใจ... คำตอบของขวดโหลคือขอเป็นเพื่อนแบบนี้ไปก่อน...ขวดโหลบอกกับตัวเองว่าเธอต้องการเวลามากกว่านี้ หญิงสาวบอกได้ว่าอินทร์เป็นคนน่ารักและนิสัยดี แต่สำหรับผู้หญิงอย่างขวดโหล...คำว่ารัก มีค่ามากกว่าที่จะยกมาใช้ได้ง่ายๆ แต่พอถึงเวลา...เธอก็หวังว่าคนที่จะได้รับคำนี้ไปจากเธอจะเป็นคนแรก...คนสุดท้ายและเป็นคนที่เธอรักมากที่สุด... ฉะนั้นคำตอบของขวดโหล เพื่อน...จึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนและสั้นที่สุด ความคิดของขวดโหลในตอนนั้น...บอกกับเธอว่า เธอคงจะต้องเสียเพื่อนที่รู้ใจไปในเร็วๆนี้แล้วละมั้ง คำว่าเพื่อนจากเธอ...อาจจะมากพอที่จะทำลายคำว่ารักของอินทร์ไปได้ หลายคนเคยบอกกับเธอเอาไว้ว่า... ...มิตรภาพสามารถแปรเปลี่ยนเป็นความรักได้ แต่ความรักไม่สามารถกลับคืนเป็นมิตรภาพได้...ขวดโหลเองก็ไม่ค่อยแน่ใจกับประโยคนี้นัก แต่ไม่นานเธออาจจะได้พิสูจน์มันด้วยตัวเธอเองก็เป็นได้... ตั้งแต่วันที่ขวดโหลให้คำตอบกลับไปนั้น ในวันต่อๆมา ก็ไม่มีอีเมล์ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีจดหมาย...ไม่มีอะไรเลย ขวดโหลอดที่จะยอมรับไม่ได้ว่า...คิดถึง คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะ...ที่จะคิดถึงเพื่อนคนหนึ่ง ขวดโหลบอกกับตัวเอง... ...ไม่ได้คุยกับอินทร์มาหลายวันแล้ว... ขวดโหลถอนหายใจเบาๆ... หญิงสาวลูบกลีบกุหลาบอย่างเบามือ เจ็ดวันแล้วตั้งแต่ที่ซื้อกุหลาบมา... ขวดโหลมองในแจกัน...กุหลาบเจ็ดดอกสำหรับการรอคอยเจ็ดวันกำลังร่วงโรย... วันเจ็ดวันเท่ากับจำนวนดอกกุหลาบ...ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เธอก็แค่หวังว่าจำนวนดอกกุหลาบนี้จะเท่ากับวันที่เธอต้องรอคอย...รอคอยโดยที่ไม่ได้นับวันก่อนที่เธอจะซื้อกุหลาบมาเสียอีก เผื่อว่าวันใดวันหนึ่งในเจ็ดวันนี้อินทร์จะติดต่อมา...แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เธอหวัง ...พรุ่งนี้คงต้องไปซื้อเพิ่มอีกละมั้ง... ขวดโหลคิดในใจ ภาพรอยยิ้มบนใบหน้าใสๆผุดขึ้นมาตรงหน้า น่าแปลกเหลือเกิน...ทั้งที่ทำงานที่เดียวกันแท้ๆแต่เธอก็ไม่เห็นเสี้ยวหน้านั้นในระยะเวลาที่ขาดการติดต่อกันอย่างนี้เลย คงจะจบแล้วสินะ... บางทีระยะเวลาเกือบแปดเดือนที่รู้จักกันคงจะน้อยเกินไปจริงๆ เธอถึงไม่เข้าใจความคิดของเขาเอาเสียเลย กุหลาบแดงเจ็ดดอกที่ถูกจัดให้อยู่ต่างระดับกัน ด้านที่ถูกแสงไฟส่อง...ออกสีแดงคล้ำ ส่วนอีกด้านดูมืดเกือบดำ ขวดโหลมองนับดาวเท่าที่หน้าต่างบานใกล้ๆจะจัดกรอบฟากฟ้าไว้ให้เห็น...พลางรู้สึกว่า เป็นการยากเหลือเกินที่จะข่มตาให้หลับได้ในยามที่ชื่อของอินทร์ผุดขึ้นในหัวตลอดเวลาอย่างนี้... ...ลุกก็ได้ เปิดคอมดีกว่า ยังไงพรุ่งนี้ก็หยุดอีกวัน ขอนอนดึกหน่อยละกันนะ... ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ถ้าไม่แคร์อินทร์...ทำไมต้องเก็บเรื่องของเขามาคิดอยู่ตลอด ขวดโหลไม่วายถามคำถามตัวเอง...คำถามที่เธอไม่กล้าตอบ ก็เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ...เสียงแหลมๆดังขึ้นบอกว่ากำลังเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่......ทำไมต้องคิดถึงอินทร์... หญิงสาวส่งสายตาค้อนคนในรูปที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ เช็คเมล์ดีกว่า...เผื่ออินทร์จะส่งมา ขวดโหลหวังนิดๆ เปิดไล่หาชื่อของคนคุ้นเคย จากเมล์ใหม่ที่ส่งเข้ามาเกือบห้าสิบกว่าเมล์ ดูจนหมดแล้ว...แต่ก็ไม่มีของอินทร์เลยแม้แต่เมล์เดียว... ขวดโหลเหม่อมองหน้าจออยู่นานจนมันเปลี่ยนเป็นรูปดอกไม้สีชมพูที่ค่อยๆร่วงลงจากด้านบนแล้วหายไปที่ขอบล่าง บนพื้นหลังสีดำที่เน้นให้ดอกไม้สีชมพูดูสวยเด่น... เป็นเพื่อนจริงๆเหรอ...แค่เพื่อนเท่านั้นใช่มั้ย ขวดโหลคิดกลับไปกลับมา...ใช่...เพื่อนกัน หญิงสาวคิดอย่างชั่งใจ แม้พอจะรับรู้ความคิดถึงและห่วงใยเล็กๆได้ในความรู้สึก แต่เธอก็ตัดสินใจ...เป็นเพื่อนกันดีที่สุดแล้ว... ...เช็คเมล์อีกครั้ง...ทั้งๆที่เพิ่งจะเปิดไปเมื่อสักครู่นี้และรู้ดีว่าคงไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นมาหรอก แค่เปิดดูเล่นๆเท่านั้น แต่แล้ว...ชื่อของคนที่รอคอยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า นั่งนิ่งด้วยความแปลกใจ ก่อนจะรีบเปิดเข้าไปดูอย่างรวดเร็ว... ใช่เขาจริงๆด้วย คนที่รอคอยมาราวกับนานแสนนาน ข้อความจากชายหนุ่มเป็นของขวัญ ล้ำค่ามากในเวลานี้ กวาดสายตาลงมาเรื่อยๆจนถึงบรรทัดสุดท้าย...บรรทัดสุดท้ายที่ทำให้ลืมช่วงเวลาแห่งการรอคอยที่แสนโหดร้ายไปจนหมดสิ้น กับประโยคที่ว่า...ผมจะรอคุณตลอดไป...คนดี... ขวดโหลจรดปลายปากกาค้างอยู่บนกระดาษแผ่นขาว ข้อความเหล่านี้ก็แค่พรั่งพรูออกมาจากความคิดของเธอชั่วครู่เท่านั้น... หญิงสาวหยิบกระดาษลายมือตัวเองขึ้นมาอ่านซ้ำ ก่อนจะหัวเราะขึ้น... ...เข้าข้างตัวเองมากไปแล้ว... เธอคิดในใจ แต่มือก็ยังไม่วาย...เปิดเข้าไปเช็คเมล์อีกครั้งจนได้ ด้วยความหวังในใจลึกๆว่ามันจะเป็นไปตามความคิดที่ถูกถ่ายทอดลงมาบนกระดาษตรงหน้า...หน้าจอปรากฏขึ้นทีละส่วนอย่างช้าๆ ลูกโลกที่มุมบนของจอหยุดหมุนบ่งบอกถึงสถานะของการทำงานบนหน้าจอนั้นเสร็จสิ้นแล้ว... ...และไม่ต่างอะไรจากเมื่อครู่นี้ สิ่งที่ขวดโหลได้เห็นมีเพียงความว่างเปล่า...เท่านั้นเอง กุหลาบเจ็ดดอกคอพับคออ่อนกันหมดแล้ว กลีบสวยๆที่เคยเป็นสีแดงสดเปลี่ยนเป็นสีดำ รูปถ่ายของอินทร์ถูกย้ายมาวางใกล้กับแจกันกุหลาบแห้งๆ... ขวดโหลทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ที่ทำงานก็ไม่ได้กว้างขวางขนาดปราสาทราชวัง...ทำไมถึงไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยนะ ขวดโหลเพิ่งได้รู้เดี๋ยวนี้เองว่าการรอคอยมันสามารถกัดกร่อนจิตใจได้ขนาดไหน...ความคิดถึงและกระวนกระวายอย่างที่ไม่เคยได้รู้สึกมาก่อนกำลังเกิดขึ้นในใจของเธอ ผ่านมาอีกหลายวันแล้ว...ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม อดคิดไม่ได้ว่าเขาคนนั้นคงลืมเธอไปแล้ว ลืมมิตรภาพที่เคยมี...คงจะจริงละมั้งที่ว่าความรักไม่สามารถแปรเปลี่ยนกลับมาให้เป็นมิตรภาพได้... อดไม่ได้ที่จะบอกกับตัวเองว่าคิดถึงเขามากขนาดไหน วันเวลาดีๆย้อนกลับเข้ามาในความคิด... แต่...มันคงสายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขอะไรให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ...ขวดโหลไม่โทษอินทร์หรอกนะ...ที่มาถามถึงความรู้สึกของขวดโหลน่ะ ขวดโหลเข้าใจดี เราสองคนเหมือนกันในหลายๆเรื่อง รวมทั้งเรื่องนี้...ถ้าเป็นขวดโหล ขวดโหลก็คงถามเหมือนอินทร์นั่นแหละ แต่คำตอบว่าเป็นเพื่อน...คงไม่ใช่คำตอบที่อินทร์ต้องการ ขวดโหลขอโทษ...ขอโทษที่ยังให้อินทร์ไม่ได้ หวังว่าอินทร์จะได้เจอคนดีๆ...ดีที่สุดสำหรับอินทร์นะ... หญิงสาวพับกระดาษแล้วใส่ลงในซองจดหมายสีฟ้าอย่างบรรจง จดหมายที่ไม่ได้จ่าหน้าซอง... ถูกเก็บลงในลิ้นชักที่โต๊ะหนังสือ ขวดโหลแค่ทดแทนความรู้สึกของเธอลงในกระดาษเท่านั้น ไม่ส่งจดหมายและไม่กล้าพอที่จะโทรไปคุยด้วย ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าสิ่งที่เธอคิดว่าควรจะคิดนั้นมันขัดกับใจของตัวเอง แต่เธอก็ได้เลือกมันไปแล้วและเวลา...ไม่มีทางเดินทางย้อนกลับมาเพื่อแก้ไขความผิดให้ใคร... ข่าวการย้ายสาขาของอินทร์มาถึงหูของหญิงสาวในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ขวดโหลตกใจและไม่รู้จะทำอย่างไรกับความรู้สึกที่ยังค้างคาใจอยู่ แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคนที่ขวดโหลเฝ้ารอยื่นคำตอบมา ให้เธอ สวัสดีครับ ขวดโหล... หวังว่าคุณคงสบายดีนะครับ... ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อไปหาอีกเลย หลังจากเมล์ล่าสุดนั้น คงต้องบอกว่าผมรู้สึกผิดมากกว่าที่ไปถามคุณ...ผมเข้าใจว่ามันคงเร็วเกินไปจนวันนี้...คงจะถึงเวลาแล้วที่ผมจะได้บอกทุกสิ่งทุกอย่างกับคุณ อย่างแรก...ผมขอโทษที่ไม่ได้ตอบเมล์คุณ คุณคงรู้เรื่องที่ผมจะต้องย้ายไปประจำอีกสาขาหนึ่งแล้ว ช่วงที่ผ่านมาก็ยุ่งตลอด ไม่ได้ตอบเมล์ของคุณ ขอโทษจริงๆนะครับ...ขวดโหล...ผมจำได้ดีทุกเรื่องราวระหว่างเราและผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ คำว่าเพื่อนจากคุณ...ไม่ได้ทำให้ความรักของผมลดลงไปเลย แม้มันอาจจะดูเหมือนเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นก็ตาม ผมขอบอกว่า...ผมรักคุณนะครับ ขวดโหล รักและจะรอคุณเสมอ...ตลอดไป อินทร์ หยาดน้ำใสๆไหลรินออกมาจากตาเป็นทาง ขวดโหลยกมือขึ้นปาดน้ำตาเบาๆ...อินทร์...คนดี ขอโทษที่ขวดโหลไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยยอมรับความรู้สึกของตัวเอง จนวันที่อินทร์ต้องไปอยู่ตั้งไกล วันพรุ่งนี้นะอินทร์...วันพรุ่งนี้ ขวดโหลเหลือบมองนาฬิกา หน้าปัดยังคงเบลอพร่าเมื่อมองผ่านม่านน้ำตาที่ยังคงคลออยู่ น้ำตากับความรู้สึกที่เก็บมานาน... ดึกมากแล้ว... พรุ่งนี้นะ ขวดโหลจะโทรไปหาอินทร์ จะบอกอินทร์ว่าขวดโหลรู้สึกยังไง...ดถึงอินทร์มากนะ...ไม่นานหรอก รอนะ คนดี... หญิงสาวหยิบรูปถ่ายบนโต๊ะมาถือไว้ในมือ เธอจ้องมองเข้าไปในรูปนั้น คิดถึงสิ่งดีๆที่อินทร์มีให้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอและตลอดเวลาที่รู้จักกัน ขวดโหลล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปพร้อมกับรอยน้ำตา... แสงจากโคมไฟอันเดิม ทอแสงอ่อนๆแผ่ไปรอบห้อง...ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ความเหน็บหนาวอ้างว้างค่อยๆ ลอดออกไปทางหน้าต่างอย่างช้าๆ... กุหลาบแดงเจ็ดดอกที่ดูหมดแรงและเหนื่อยล้าแล้วกับการรอคอยที่ผ่านมา เหมือนจะย้ำเตือนให้นึกถึงวันแรกในแจกันใบนี้ กลีบสีแดงสดกับหยาดน้ำที่เปล่งประกายล้อแสงไฟ...ดอกกุหลาบแดงเจ็ดดอก...สำหรับการรอคอยเจ็ดวัน แต่ถึงจะนานกว่านั้น ก็ต้องมีสักวันที่การรอคอยสิ้นสุดลงเสียที... |
ผลงานอื่นๆ ของ สายรุ้งค้างฟ้า ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สายรุ้งค้างฟ้า
ความคิดเห็น