คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #95 : Destinesia (95) แยกไปกลับคืน
Destinesia (95) แยกไปกลับคืน
การสอบไม่ใช่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่าการประลองที่กำลังมาถึง ตัวแทนอย่างพวกเขาไม่มีสิทธิที่จะบ่นกับการสอบที่กระชันชิดและภารกิจสุดท้ายที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
มันคือบทสรุปตัดสินใจชัยชนะของการประลองเวทไตรภาคี..
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับการได้พบเจอครอบครัววีสลีย์ทั้งครอบครัวก่อนที่จะได้เข้าสนามแข่งการประลองเวทครั้งที่สุดท้าย .. ศาตราจารย์มักกอนนากัลอนุญาติให้ครอบครัววีสลีย์เข้ามาให้กำลังใจ แทนครอบครัวเดอร์สลีย์
แน่นอนว่า คงไม่มีทางที่จะยินยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาหรอก ..
ดวงตาสีมรกตเก็บความดีใจไว้ไม่มิดจนทุกคนที่เห็นก็อดยิ้มตามไม่ได้ .. เด็กชายก็ยังคงเป็นเพียงเด็กชาย ที่โหยหาครอบครัวยิ่งกว่าใคร
“สู้ๆ แฮรี่ นายไม่แพ้คนอื่นอยู่แล้ว” สองแฝดตบปุๆเข้าที่หลังเขาจนแทบล้ม เขายิ้มตอบตามปกติ หันไปขอกำลังใจจากคุณนายมอลลี่ที่ก็ไม่ยอมแพ้ โอบกอดเด็กชายไว้ในอ้อมแขนอย่างเอ็นดู..
“ขอบคุณทุกคนมากนะฮะ”
“พวกเราทำเพื่อนายได้อยู่แล้ว” แฮรี่หัวเราะให้กับภาพตรงหน้า ..
ดูไปแล้วก็เหมือนครอบครัวสุขสันต์ เด็กชายตัวเล็กดูว่าง่ายเหลือเกินในสายตาคนรอบข้าง ..
แต่กับสเนปที่เพิ่งจะดุด่าเด็กชายไปเมื่อวันก่อน .. ก็ได้แต่กลอกตามองภาพสุขสันต์ตรงหน้าอย่างระอา .. เขาสาบานได้ว่าจะไม่ยอมโดนใบหน้าหวานส่งสายตาใสไม่ซื่อ?มาให้ จนเขาหลงกลอีกแน่ ..
ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นเด็กดี ว่าง่ายหัวอ่อน.. พออยู่กับเขา ทำไมถึงชอบเรียกร้องนู่นนี่ หัวดื้อหัวแข็งนอกจากชอบเถียงคำไม่ตกฟาก ยังชอบหาเรื่องใส่ตัวไม่หยุด…ถึงตอนนี้ เขาก็ยังสงสัยอยู่ ว่าอันไหนเด็กชายแสร้งทำกันแน่ ..
เพราะทำได้เนียนกริบ ไม่มีผิดเพี้ยนเลยสักนิด ..
เนียนจนเขาลืมวันแรกที่เด็กชายทำหน้านิ่งเข้าห้องเขา เพื่อแค่จะมาทำแผลให้เขา ..
เสียงเชียร์จากรอบอัฒจรรย์ไม่ได้สร้างความประหม่าให้แก่ตัวแทนที่อายุน้อยที่สุด ใบหน้าขาวสะอาดมีเพียงความสดใสเฉกเช่นเดิม รอยยิ้มบางคลี่ออกให้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ราวกับชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะมาทำอะไรเขาได้อีกแล้ว
สายตาของเด็กชายหรี่ลงจนแทบไม่มีใครสังเกต สำรวจรอบด้าน และคาดเดาความเป็นไปของเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น .. แรงวางลงที่ไหล่เบาๆ เรียกความตื่นตัวเขาได้เป็นอย่างดี ..
ใบหน้าแก่ชราของศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์ดูนิ่งสงบแฝงความอ่อนโยน เขาเก็บความคิดไว้ในใจ อันที่จริง เขาควรมีโอกาสได้คุยกับดัมเบิลดอร์หลายๆครั้ง แต่เขาเลือกที่จะทำเป็นไม่รับรู้อะไร ประมาณว่าไม่คิดมาก ..
และดัมเบิลดอร์ก็ไม่คาดหวังว่าเขาจะต้องรู้อะไรเพิ่ม ..
ระหว่างพวกเขาไร้คำพูด มีเพียงเสียงดนตรีบรรเลงเปิดงานเพิ่มสีสันให้กับการประลองแห่งนี้ทวีความตื่นเต้นขึ้น .. แน่นอนว่า ..
เขาไม่พูด ไม่ใช่เขาไม่คิดอะไรเสียหน่อย …
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มของเด็กชายจะแปลกตรงไหนในสายตารอบตัว . เพียงแต่ในแววตาสว่างกลับไร้คลื่นอารมณ์ผิดกับที่แสดงออก …
‘เด็กบ้านั่น .. ’
สเนปมองไปทางเด็กชายพอตเตอร์ที่กำลังเกาะกลุ่มเพื่อฟังคำเตือนของดัมเบิ้ลดอร์อยู่กลางสนาม ทุกคนพร้อมใจกันเงียบเพื่อเงี่ยหูฟังคำพูดของอาจารย์ใหญ่ น่าเสียดายที่เสียงของชายชราเบาเกินกว่าคนอื่นจะได้ยิน
ดวงตาสีดำหดเล็กลงอย่างมุ่งหมาย เหมือนภาพบางอย่างมันผุดขึ้นมาในความคิด
เป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอาซะเลย ..
และเรื่องที่เจ้าเด็กจอมยุ่งบอกไว้ …
ก็ไม่เคยเป็นเรื่องดีเช่นกัน …
“เตรียมตัวให้พร้อม!!”
เฮ้!!!!
เหมือนประสาทสัมผัสของเขามันจะรับรู้การจับจ้องมาของคนด้านหลังได้ …
เขาเอี่ยวตัวไปมองเจ้าของสายตาที่จ้อมเขม็งสองสามคู่ แม้จะอยู่ห่างไกลๆ แต่แค่มองสีหน้าของพวกเขา กลับสามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
เดรโกนั่งหน้านิ่วบูดบึ้งเต็มที่ ถึงจะไม่ชอบใจที่เขามีเรื่องปิดบังบ่อยๆ แต่เจ้าตัวก็ยอมปล่อยผ่านคอยระวังอยู่ด้านหลัง ต้องบอกว่าทำอะไรไม่ได้มากกว่า
เพราะพวกเขาเข้าใจเขาดีที่สุด หากเขาเลือกที่จะไม่พูด..ก็ไม่มีใครจะง้างปากเขาพูดได้
ถึงไม่ชอบใจยังไง ก็ต้องยอมเขาใช่มั้ยล่ะ หึหึ..
เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาให้กำลังใจ พร้อมกับรอนที่ตะโกนแทบเสียงแหบ เชียร์เขาสุดเสียง ในมือถือป้ายผ้าชื่อเขาเด่นสง่าจนน่าอาย … พร้อมเพื่อนในบ้านที่พร้อมใจเอาธงกริฟฟินดอร์ที่ใช้ในการแข่งควิดดิชมาใช้อีก …
มันอดไม่ได้ที่จะตื้นตันในใจ ..
แฮรี่ส่งสายตาสุดท้ายไปให้กับร่างสูงในชุดดำที่มุมสนาม ..
ดวงตาสีเขียวส่งสายตาวิบวับจนอีกคนเบือนหน้าหนี เพียงแค่ว่า … คนที่ไม่คิดจะแยแสอะไรทั้งสิ้น กลับจ้องเขม็งมาที่เขาจนเขารับรู้ได้ และยังยอมสบตาก่อนจะหนีหน้า ..
หากสเนปไม่คิดสนใจ ก็คงไม่หันหน้าหนีเขาหรอก …
แฮรี่ได้แต่คิดในใจ ..เก็บรอยยิ้มและกำลังใจของทุกคนไว้ เพื่อเผชิญหน้ากับเรื่องราวทั้งหมดตรงหน้า…
มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในอนาคต..
ณ นอกของหมู่บ้านลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน..
ร่างหนึ่งย่างก้าวเข้าไปในความมืด อย่างเชื่องช้า ไม่เร่งรีบ … บ้านหลังหนึ่งที่กลายเป็นซากปรักหักพังจากความเก่าแก่ยาวนาน ดูทรุดโทรมและไม่น่าดู
แต่ที่ที่ ไร้อารยธรรมแห่งนี้ .. กลับซ่อนสิ่งสำคัญเอาไว้..
ร่างสูงโปร่งราวกับวิญญาณ ส่องสว่างในความมืด ..
เจ้าตัวเดินตามทางความทรงจำในอดีต สู่ที่ซ่อนวัตถุศาสตร์มืด .. ความมืดที่ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ กลับให้ความรู้สึกเรียกหาอย่างน่าประหลาด .. เรียกร้องหาเจ้าของภายในเงาดำสีทมิฬ
เหมือนความมืดที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน .. เรียกร้องหากันอย่างบ้าคลั่ง … มันเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ทำให้ผู้พบเห็นหลงใหล และลุ่มหลงไปกับความหวังชั่ววูบที่มาพร้อมค่าตอบแทน …
มือโปร่งก้มลงสู่ซากปรักหักพัก .. เศษฝุ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณได้ในการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย …
คำสาปแช่งแสนร้ายกาจที่ปกปิดไว้ภายใต้ความปรารถนา .. กลับไร้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าของของมันเอง .. แหวนเก่าๆสีดำถูกหยิบขึ้น เมื่อได้สัมผัสความเย็นบนโลหะเหล็ก .. เวทมนตร์และจิตวิญญาณราวกับแสดงความยินดีที่มาบรรจบกัน
ลมวูบหนึ่งพัดผ่านตัวแหวน จากเก่าจับฝุ่น กลับเปล่งประกายเงางามดั่งเดิมที่ซ่อนอยู่ เฉกเช่นที่ซ่อนคำสาปร้ายในรูปโฉมไร้พิษสง ..
ร่างโปร่งส่งกระแสเวทมนตร์ผ่านมัน ยินดี และยอมรับ ..
รอยยิ้มเผยออกอย่างพิศวง .. ทับไปในเงา .. นอกจากเสียงลมอันน่าหดหู่รอบนอก ไม่ได้ทำให้ผู้มาเยือนไหวติง …ที่อยู่อาศัยที่ไม่อาจเรียกว่าบ้าน .. และในเวลานี้ ก็จะเป็นสถานที่สำคัญสำหรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น..
‘ทุกอย่างพร้อมแล้ว ..’
เวลาของเขาใกล้จะหมด .. นั่นคือสิ่งที่เขารับรู้ ..
หากเพราะเวลาเหลือไม่มากแล้ว เขาเลยต้องทำทุกอย่างอย่างฉับพลัน .. ไม่อาจหลบเลี่ยงรั้งรอได้อีกแล้ว … ตัวเขาไม่เคยมีผู้ช่วยมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่ร่างในวัยสิบเจ็ด ก็ทำทุกอย่างด้วยตัวเองจนมาถึงตอนนี้
แค่จะย้อนกลับ .. ทำทุกอย่างให้กลับสู่จุดเดิม ..
ทำไมเขาจะทำคนเดียวไม่ได้ ..
แม้มันจะไม่คุ้มเสี่ยงไปบ้าง ทางเลือกอื่นมี แต่ให้ผลลัพท์ไม่น่าพอใจ .. สำหรับเขา ความสูญเสียเพียงเล็กน้อย ก็นับพามาซึ่งความผิดพลาดอันใหญ่หลวงได้ .. เพราะตัวตนของตัวเอง ไม่สามารถคาดหวังอะไรได้
เขาเลยต้องจัดการทุกอย่าง … ด้วยตัวเอง
ซี่…
เสียงขู่ฟ่อของสัตว์ร้ายระยะเสียงกระซิบ .. เงาในความมืดเคลื่อนไปตามพื้นไม้เก่า แสงภายนอกเผยร่างขนาดใหญ่ของอสรพิษจ้องมองมาจากในความมืด สายตาที่ไม่กระพริบเหมือนจับจ้องเหยื่อไม่ให้หนี ..
“นากินี .. ไม่ต้องกังวล อีกไม่นานก็จบ”
“ทำแบบนี้จะดีหรือ นายท่าน หากเขารู้..”
“ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็รู้ เพียงแต่เขาไม่สามารถกำจัดเราได้เท่านั้นเอง แค่ตอนนี้ ...” เสียงทุ้มพยายามผ่อนความกังวลของสัตว์เลี้ยงขี้สงสัยของตัวเองลง
และใช่ … ไม่ใช่ตอนนี้ แต่ในอนาคตก็คงไม่แย่ … หากวิญญาณของตัวเองเป็นปฎิปักษ์รกสายตาให้รำคาญใจ … สิ่งที่เขาก็ทำก็แค่ กำจัดทิ้งก็สิ้นเรื่อง .. สร้างก็ก็ทำลายได้ … มันเป็นเรื่องปกติในสามัญสำนึกของเขาอยู่แล้ว
เพราะหากไม่ระแวงแล้ว … ตัวเขาจะทำฮอร์ครักซ์เพิ่มอีกชิ้นต่อหน้าเขาทำไม ..
มันก็แค่คำเตือนและคำขู่ …
แต่เขาไม่ได้เกรงกลัวตัวเองเสียหน่อย …
“มาเถอะ นากินี … หากไม่เริ่มพิธีตอนนี้ ..พวกเขาจะสงสัย ” น้ำเสียงแข็งกร้าวย้ำให้ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ..
เมื่อมองใบหน้านิ่งเงียบของร่างตรงหน้า ร่างที่มีรอยยิ้มบางเบาประดับใบหน้าเสมอ ตอนนี้ราบเรียบจนน่าใจหาย … เหลือเพียงร่างโปร่งที่เบาบาง แต่ไม่แสดงความอ่อนแอ..
นากินีมีความลังเล .. ตอนนี้เจ้าหล่อนก็เหมือนสัตว์เลี้ยงของคนสองคน เพียงแต่ .. คนหนึ่งแตกต่างจากเดิมไปมากโข ส่วนอีกคนก็ไม่ชินตาจับต้องไม่ได้ ..
แต่หากมันเป็นประสงค์ของอีกฝ่าย . ภายใต้ผู้พูดตรงหน้าแล้ว ..
เธอไม่ปฏิเสธความคิดของนายตัวเอง
ร่างอสรพิษเลื้อยล้อมรอบร่างโปร่งใสที่ใกล้จะจางหาย .. ร่างโปร่งเผยยิ้มพอใจให้กับการตัดสินใจที่รับรู้อยู่แล้ว .. ก่อนริมฝีปากจะเริ่มพึมพำเป็นภาษาที่ศึกษามาเป็นอย่างดี..
เวทมนตร์สุดท้ายถูกกระตุ้น .. ของในมือส่องสว่างวูบไหวไปมา ฮอร์ครักซ์แสนสำคัญกรีดร้อง ทั้งที่ไม่มีกายเนื้อ ..แต่ความเจ็บปวดทรมาณภายในจิตวิญญาณเหมือนมันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ..
คือของจริงที่สัมผัสได้..
หากเพราะเข้าใจ .. ยิ่งจิตวิญญาณมากแค่ไหน ความเจ็บปวดรวดร้าวก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น …คือความทรมาณที่ตอกย้ำความผิดพลาดของตัวเอง ..
มันถูกฉีกกระชากลึกถึงวิญญาณไร้สสาร..
มันเหมือนครั้งแรกที่เขาสร้างฮอร์ครักษ์ .. เสียงกรีดร้องของวิญญาณเด็กสาวที่เขาใช้เป็นเครื่องสังเวยในการสร้างมัน .. ร่ำร้องเป็นนาทีแม้จะขาดใจตายไปแล้ว .. เขาไม่รู้สึกรู้สาถึงความเจ็บปวดทรมาณตรงนั้น .. และไม่คิดจะรับรู้จนถึงวันนี้
เพียงแค่ความเจ็บปวดและเสียงกรีดร้องตรงนั้น…
กลับคืนมาที่เขาแล้ว …
ร่างกายที่ไม่อาจสัมผัสได้ กลับรวดร้าวไปทั้งตัว เหมือนมีบางอย่างปะทุอยู่ข้างใน คอที่ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำ กลับแห้งผากแสบร้อน .. ดวงตาระบมหลับแน่น เจ็บจนเหมือนมันจะหลุดออกมาทั้งดวง ..
ร่างวิญญาณยกมือกุมที่อกตัวเองราวกับมันจะแตกออกมา .. อยากจะกดย้ำลึกให้ถึงภายใน ให้ความเจ็บปวดมันไปรวมที่ตรงนั้น …
เขาจะไม่เป็นเศษวิญญาณที่กำลังจะตาย .. ไม่มีวันยอมรับร่างน่าเกลียดน่ากลัวที่สาหัญเกินจะเยียวยา .. สภาพที่ไม่ใช่ทั้งวิญญาณไม่ใช่ทั้งมนุษย์ .. เปราะสลาย แม้แต่ดูแลตัวเองยังไม่ได้ ..
ความเจ็บปวดเพียงเท่านี้…
เขายอมรับ …
และเสียงกรีดร้องดังจากความว่างเปล่าจนน่าขนลุก ..
ราวกับฉีกกระชากทุกอย่างให้เป็นชิ้นๆ
ถ้าบรรยายว่ามีไส้มีพุง เลือดไหลย้อย
คงกลายเป็นนิยายสยองขวัญไม่ต้องสงสัย
ปู่ทอมเขาก็ต้องหาทางของตัวเอง
เริ่มเองก็ต้องจบเอง ช่วยตัวเอง?
ด้านน้องจะเป็นยังไงต้องไปชมต่อ
แต่แน่นอนว่า มีดราม่าและหักมุม มั้ง?
PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง
ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์
ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น