ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #56 : Destinesia (56) ขลาดเขลาต่อความกลัว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.3K
      432
      21 มิ.ย. 61

    Destinesia (56) ขลาดเขลาต่อความกลัว


    ฟู่!


    เสียงควันดังขึ้นกลางห้องเรียนปรุงยาที่นักเรียนกำลังขะมักเขม้นหน้าตาคร่ำเครียดปรุงยากันอยู่…


    และโชคก็เกิดขึ้นกับหมอของเด็กชายผู้รอดชีวิต ที่ดันไม่ทันระวังจนบางอย่างลอยลงมาในหม้อเป็นควันเขียวลอยปะทุ ดีกว่าแรงระเบิดเล็กน้อย .. แต่กลับเกิดกลิ่นเหม็นไปทั่วห้องซะงั้น ..


    น้ำยาหายไปในทันทีเพียงหนึ่งคาถาจากศาสตราจารย์ประจำวิชา.. และบทลงโทษตั้งแต่คาบเรียนแรก ก็ตกเป็นของเด็กชายผู้รอดชีวิตท่ามกลางความเห็นใจของเหล่าเพื่อนกริฟฟินดอร์..


    “กักบริเวณ คุณพอตเตอร์” พร้อมใบหน้าเย็นยะเยือกของอีกฝ่ายที่แฮรี่ได้แต่หัวเราะแห้งๆ ทั้งที่เป็นการทบทวนบทเรียนเก่า แต่เขากลับดันเผลอตัวเหม่อจนลืมสังเกตสลิธีรินร่วมห้องที่จ้องวางแผนแกล้งกริฟฟินดอร์อยู่.. และเหยื่อครั้งนี้ก็เป็นเขานั่นเอง…


    เป็นปีแห่งโชคลาภของเขาจริงๆ ..


    สำหรับคาบเรียนวิชาดูแลสัตว์ของแฮกริดเมื่อวาน .. ด้านเดรโกคนขี้อิจฉา ก็เอาตัวไปโดนบัคบีคข่วนเป็นแผลอีกจนได้ .. อาการไม่หนักหนาสาหัส แต่ก็แกล้งพันผ้าทั้งแขนราวกับแขนหัก .. คนเคยเป็นหมอเช่นเขา คงเหนื่อยใจกับคนป่วยช่างสำออย..


    ‘ขนาดแค่ฮิปโปกริฟฟ์เองนะ มัลฟอย .. กระจอกจัง’ นั่นคือคำด่าของแฮรี่ที่ไม่เหมือนคำด่า … เดรโกแทบจะลืมเรื่องที่แฮรี่เศร้าไปก่อนหน้านี้เพราะคำพูดร่างเล็ก .. ไอเสียงหวานๆล้อเลียนนั่นน่าหมั่นไส้เป็นบ้า ..

    ดูก็รู้ว่าพ่อพอตเตอร์คนดังตั้งใจแซวเขา!


    ไม่น่าไปตามกลับมาเลย ให้ตายเถอะ ..


    แฮรี่แม้จะคิดมากจริงเพราะคำพูดเดรโก แต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจนาน .. บางอย่างรู้แค่กับตัวเองก็พอแล้ว ถ้าไม่เป็นความจริงเขาก็ไม่ควรเต้นไปตามอีกฝ่าย ..


    ความจริงเป็นยังไงเขารู้ดี .. เขาจะไม่เอาอารมณ์มาใช้ตัดสิน..


    แม้จะหลุดไปหน่อยก็ตาม..


    แฮรี่ที่ช่วงเย็นไม่ว่างซะแล้ว กำลังรอคอยคาบเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดของรีมัสอยู่ .. ข่าวการมาถึงของซีเรียสเริ่มเข้าใกล้ฮอกวอตส์มาขึ้นเรื่อยๆ สร้างความกังวลให้กับนักเรียนบางส่วนไม่น้อย .. ไม่รวมแฮรี่ที่ก็คิดถึงการมาของซีเรียสด้วย …


    ท่าทางพ่อทูนหัวเขาจะเผชิญอะไรต่ออะไรมากว่าจะมาถึงนี้…


    แต่เหมือนว่า … เขาควรห่วงตัวเองก่อน ….


    เขา.. เริ่มเป็นกังวลซะแล้ว …


    คาบเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด …


    ตู้ขนาดใหญ่เท่าขนาดตัวคนวางเด่นกลางห้องเรียนที่ถูกยกโต๊ะออก .. มันขยับไปมาเหมือนบางอย่างพยายามจะออกมา .. ตู้เสื้อผ้าเอียงโยกไปมาจะล้มลงมาให้ได้ สร้างความสนใจกึ่งสงสัยให้กับนักเรียนในห้อง..


    “มันน่าประหลาดใจใช่มั้ย? มีใครอยากจะลองเดาดูมั้ย ว่ามีอะไรอยู่ในตู้นั่น..” เสียงของศาสตราจารย์คนใหม่ดังจากเบื้องหลัง แต่ไม่มีใครละสายตาออกจากตู้ เพราะกลัวว่ามันจะออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ …


    “มันคือบ็อกการ์ตใช่มั้ยครับ?”


    “ยอดเยี่ยมมาก คุณโทมัส” มีแรงสะดุ้งเป็นระยะทุกครั้งที่มันดังเรียกความสนใจ.. นักเรียนยืนอยู่ด้านหน้าวงเวทย์บางอย่างบนพื้น หนึ่งในคาบเรียนที่เปลี่ยนผู้สอนทุกปี จะมีอะไรน่าสนใจไปกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายนำเสนอ..


    “เอาล่ะ มีใครบอกได้บ้างว่าบ็อกการ์ตหน้าตาเป็นยังไง?”


    “ไม่มีใครรู้”


    “เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”เป็นเฮอร์ไมโอนี่ที่โผล่มาอย่างไม่มีเสียงเอ่ยขึ้นจนรอนขมวดคิ้วถาม แต่เธอไม่สนใจ ยังคงพูดต่อ


    “บ็อกการ์ตจะเปลี่ยนรูปร่างได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปอะไรก็ตามที่เรารู้สึกกลัวมาที่สุดและนั่นทำให้มัน..”


    “ดูน่ากลัวที่สุด ใช่ๆๆๆ” รีมัสบอกอย่างสบายๆเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ..


    ตึง! ครึ่ก!  บางคนก็เริ่มรู้แล้วว่าคาบเรียนนี้จะทำอะไร แต่ก็ยังมีอีกฝ่ายคนยังสงสัยอยู่.


    “โชคดีหน่อย ที่มีคาถาแสนงานบทหนึ่งใช้กำจัดบ็อกการ์ต” รีมัสเดินจนถึงหน้าตู้ มันยังขยับส่งเสียงไม่หยุดด้านหลังศาสตราจารย์ประจำคาบ ..


    รีมัสสอนคาถาง่ายๆอย่างคาถาริดดิคูรัส .. เป็นเพียงคาถาง่ายๆ ชนะความกลัวด้วยความสนุกและขบขัน .. พร้อมเสียงหัวเราะของทุกคน..


    แฮรี่แม้จะนึกภาพบ็อกการ์ตของตัวเองออก .. แต่ก็ไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน จะแตกต่างจากเดิมรึเปล่า.. เขาจะ… สามารถชนะความกลัวของตัวเองได้แค่เพียงเสียงหัวเราะได้มั้ย…


    นั่นคือสิ่งที่เขาต้องพิสูจน์…


    แฮรี่กังวลจนก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว .. ใบหน้าของเด็กชายก็ยังสงบไม่ได้แสดงท่าทีที่กลัวอะไรเลยสักนิด .. แม้แต่เพื่อนข้างตัวก็ยังไม่รู้ว่า แฮรี่จะกลัวอะไร …


    เนวิลล์ยังคงเป็นเซเวอร์รัสแบบเป๊ะทุกระเบียบนิ้วอย่างกับตัวจริง.. แน่นอนว่าเสียงหัวเราะดังขึ้นหลังจากร่างสูงถูกเปลี่ยนชุดเป็นสีเขียวแก่พร้อมหมวกใบใหญ่และกระเป๋าสีแดงสด ..


    คาบเรียนน่าสนใจขึ้นตั้งแต่เห็นว่ามันไม่เห็นอันตรายตรงไหน .. ใช่ว่าทุกคนจะหวาดกลัวเซเวอร์รัส .. และไม่ใช่ทุกคนที่จะกลัวแมงมุมแปดขาของรอน ..


    บางคนที่รู้ว่าตัวเองหวาดกลัวอะไร ต่างคิดถึงความกลัวที่ผิดแปลกไปจากทุกที ..


    ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะชนะความกลัวด้วยความสนุกและน่าหัวเราะ ..


    รอนที่กลัวแค่ไหน แม้ทำหน้าบูดเบี้ยวแต่ก็สามารถชี้ไม้กายสิทธิ์ของตัวเองจ่อไปหาสิ่งที่ตัวเองกลัวได้ .. ขนาดงูตัวใหญ่ก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็นกล่องตัวตลกที่ไร้รูปทรงเดิมได้เลย


    แฮรี่ที่ถึงจะหนียังไง ..  จะนานจนมือขาดๆที่เคลื่อนที่ไปมาของดีนโดนกับดักหนูงับไปไหนไม่ได้ หรือจะมัมมี่ของปาราวตีกลายเป็นกองผ้าเน่าๆกลางพื้นจนไม่มีความน่ากลัวยังไง …


    แฮรี่ก็หนีไม่พ้น…


    “คนต่อไป .. แฮรี่ ตาเธอแล้ว”


    “ฮะ .. ” แฮรี่ยิ้มเจื่อนเมื่อหนีไม่ได้แล้ว .. ทุกคนต่างให้ความสนใจบ็อกการ์ตของเด็กชายผู้รอดชีวิต สำหรับบางคน แฮรี่เหมือนคนที่สนุกสนานและมีรอยยิ้มเสมอ . ไม่เคยเกรงกลัว ไม่เคยตกใจกลัวอะไรเลย..


    เด็กชายก้าวเข้าหากองผ้าเหลืองยุ่ยไร้รูปร่าง… สูดหายใจยาวอย่างอัดอั้น .. มือที่กำไม้กายสิทธิ์แน่นตั้งท่าเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับบางอย่างที่เขาคุ้นเคย…


    กองผ้าแปรเปลี่ยนสีดำสกปรกขาดวิ่น.. คอยๆก่อตัวขึ้นช้าๆเป็นรูปร่างคนที่สวมฮู้ดสีดำปิดใบหน้าเหมือนผู้คุมวิญญาณตัวเล็กต่างแค่ผู้คุมวิญญาณตรงหน้าจะมีเนื้อมีหนังเฉกเช่นพวกเขา..


    แฮรี่หลับตาลงเหมือนขอบตาจะแดงขึ้นอย่างกลั้นไม่ได้ .. เด็กชายเม้มปากลดไม้ลงระดับหนึ่งต่อหน้าความกลัวภายในจิตใจของตัวเอง .. เสียงหัวเราะและพูดคุยเงียบลงที่ไร้ความน่ากลัวของบ็อกการ์ตตรงหน้า ..


    สายตาทุกคู่ตกที่ผู้คุมวิญญาณร่างคนที่น่าสงสัย …


    บ็อกการ์ตคือความกลัวที่ฝังลึกภายในจิตใจ …


    แต่หลายต่อหลายครั้ง .. มันก็ปรากฎในร่างของบุคคลที่เรารักเสมอ ..


    แฮรี่ก็เป็นอีกหนึ่งคน .. ที่เป็นเช่นนั้น ..


    ทุกคนเริ่มสงสัย ..


    ถ้าบ็อกการ์ตคือความกลัวจริง…


    แล้วการที่เห็นร่างเล็กของเด็กชายผู้รอดชีวิต ก้าวเข้าหาร่างของความกลัวเบื้องหน้า


    .มันหมายความว่ายังไงกัน…


    “พี่ฮะ”


    เสียงแรกที่เปล่งออกมาไม่ใช่คาถา . แต่เป็นคำเรียกขานอันแปลกประหลาด .. ทุกคำตอบมีคำถามมากขึ้น .. เบื้องหน้าคือบ็อกการ์ตในร่างคนเหมือนครั้งของเนวิลล์เป็นแน่…


    แต่บ็อกการ์ตของเด็กชาย ไม่มีใครรู้จัก …


    ร่างกลางห้องยกแขนขาวสว่างของตัวเองที่แฮรี่เห็นเด่นชัดในความทรงจำหลายต่อหลายครั้ง .. ปลดสิ่งปิดบังใบหน้าออกอย่างเบามืด … มันไม่ลอยไปมาเหมือนผู้คุมวิญญาณเช่นในอดีต .. เพราะเขาไม่ได้หวาดกลัวสิ่งที่ไร้ความรู้สึกเช่นนั้นอีกแล้ว..


    ใบหน้าของหญิงสาวเผยสู่สายตาของคนทั้งห้อง..


    นิยามของคำว่างดงามและสง่า .. ดูสูงค่าและน่าหลงใหล มีให้กับบุคคลที่ไม่ใช่คนตรงหน้า.. น่าประหลาดคือดวงตาสีอำพันที่ส่องสว่าง แต่กลับมีขีดกลางราวกับสัตว์นักล่า ..


    มีหวาดกลัวและน่าสนใจ… นักเรียนยังคงให้ความสนใจในตัวตนของบ็อกการ์ตของเด็กชายผู้รอดชีวิต.. ที่กำลังยื่นมือผ่านวงเวทย์อย่างไม่เกรงกลัว ..

    “อย่า แฮรี่.. บ็อกการ์ตจะมีความสามารถตามความกลัวของเธอ .. เขาอาจจะทำร้ายเธอได้ถ้าเธอหวาดกลัวเพียงแค่ชั่วอึดใจ..” รีมัสห้ามเด็กชายก่อนที่จะเป็นอย่างนั้น .. แต่เด็กชายกลับส่งรอยยิ้มสดใสที่มีบางอย่างแฝงอยู่เป็นคำตอบ ..


    เด็กชายส่ายหน้าจนผู้ใหญ่เพียงหนึ่งเดียวเข้าใจ .. ไม่ใช่เขาไม่รู้…


    “ผมรู้ฮะ .. แต่” สายตาของเด็กชายสั่นจนสัมผัสได้ .. มีทั้งความยินดี .. ทั้งความคาดหวัง ความมั่นใจ .. และแม้แต่ความเจ็บปวดแฝงอยู่ในดวงตาสีมรกตคู่สวยของเด็กชาย.  


    “มันไม่มีทางที่ผมจะกลัวเธอจะทำร้ายผมเลยแม้แต่น้อย” มันสั่นแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นและแน่วแน่ .. หันไปสบดวงตาสีสว่างที่ยิ้มแย้มให้ .. ดวงตาสีเขียวคลอใสส่งยิ้มกลับให้บ็อกการ์ตของตัวเอง ..


    ไม่เหมือนความกลัวแม้แต่น้อยในความคิดของทุกคนในห้อง ..


    หนึ่งคำเรียกขานก่อนหน้านี้ สะกิดใจหนึ่งคนที่เคยได้ยินมันมาก่อน .. ดวงตาสีซีดตกอยู่กับหญิงสาวกลางวงเวทย์ที่เขาก็ยังไม่เข้าใจ… จนร่างเล็กที่ขนาดพอๆกันยืนตรงหน้าเธออีกครั้ง …


    ความกลัวครั้งอดีตของเขา คือกลัวการถูกทรยศหักหลัง ..


    แต่ครั้งนี้มันเปลี่ยนไป .. จนตัวเขาก็ไม่แน่ใจตัวเองเช่นกัน …


    “พวกเราคิดถึงนาย แฮรี่ .. ทำไมนายไม่กลับมา ..” พวกเราคือมากกว่าหนึ่ง และมีเพียงแฮรี่ที่รับรู้ความหมาย .. ร่างเล็กเม้มปากอยากเอ่ยคำอธิบาย..


    เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ที่ที่เป็นคนละโลกเดิมที่เขาจากมา …


    ที่นี่ไม่มีเธอ … ไม่มีแม้แต่ร่างของบุคคลตรงหน้าให้ตามหา ..


    แต่ก็กลับไปไม่ได้...


    “ฉันไม่เคยห้ามนายไปไหน .. แต่ทุกครั้งนายกลับหนีหายไปโดยไม่ยอมบอก เจ็บตัวกลับมาทุกครั้ง .. ฉัน… เหนื่อยที่จะเป็นห่วงนายแล้ว แฮรี่..” ใบหน้างามเจ็บปวดจนเด็กชายเจ็บตาม.. ปากเล็กขยับพยายามเอ่ยตอบ..


    “ผมเปล่านะ คือผม...”


    “และฉันก็จะไม่รอนายอีกแล้ว .. ในเมื่อนายไปแล้ว … ก็ไปซะ ไม่ต้องกลับมาอีก .. ” น้ำเสียงหวานดึงขึ้นเหมือนถึงจุดสิ้นสุด.. ตะคอกใส่เด็กชายลั่นทั่วห้อง .. ทุกคนต่างได้ยิน .. แต่คนที่ได้ยินและสะเทือนใจที่สุด ไม่ใช่ใคร…


    ตัวของเขาเอง …


    “เดี๋ยว เลล่า.. อย่าเพิ่ง” แฮรี่ยื่นมือไปหาร่างของเธอ.. แต่แล้ว ….


    ร่างหญิงสาวที่มีสายตาว่างเปล่าเสียดแทงความรู้สึกของเด็กชายจนเจ็บหนึบไปทั้งตัว ..


    และ… ร่างนั้นก็สลายกลายเป็นกองขี้เถาในชั่วอึดใจ … มือของเขาคว้าไม่ได้เลยแม้แต่ชายผ้าคลุมที่เธอสวมใส่ .. ฝ่ามือปล่อยอากาศว่างเปล่า จนมือเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงอยู่แล้วตกลง เหมือนกับจิตใจที่วูบดิ่ง..


    แฮรี่ใจหายวาบ …. ก้าวถอยหลังอย่างลืมตัวด้วยสีหน้าซีดเผือด … เด็กชายไร้น้ำตา เหมือนทุกอย่างมันชาวาบไปทั้งตัว .. แม้แต่ความรู้สึกของเขา …


    เขารู้อยู่เต็มอก … รู้อยู่ทั้งความคิด ..


    ไม้กายสิทธิ์ที่ไม่กล้าแม้แต่จะชี้ใส่ตรงหน้า .. กลับชี้ไปที่กองฝุ่นสีขาว พยายามร่ายคาถาด้วยเสียงอดกลั้นบางอย่าง … คาถาที่ควรจะสร้างเสียงหัวเราะกลับนิ่งไม่ไหวติงกับอีแค่กองเศษฝุ่นขาวกับร่างที่เหมือนจะจากความทรงจำของแฮรี่ไปตลอดกาล...


    มันกลับไร้ผล ….


    “ผม … ผมทำไม่ได้ .. ศาสตราจารย์ ...ผมทำให้.. มันเป็นเรื่องตลกไม่ได้” เด็กชายลดไม้ลงราวกลับหมดแรง .. ส่งสายตาขอโทษศาสตราจารย์ประจำวิชาที่ตบบ่าเข้าใจเขา .. มองลูกชายของเพื่อนตัวเองที่ดูจะเจ็บปวดไปทั้งใจ..


    ไม่ใช่ทุกความกลัวจะสามารถเปลี่ยนได้ .. ถ้าความคิดและจิตใจของผู้ร่ายไม่มั่นคงพอ.. ถ้าขนาดใจของผู้ร่ายยังคิดว่ามันไม่น่าหัวเราะ .. ต่อให้พยายามแทบตายแค่ไหน มันก็ไร้ผล..


    “ผมขอโทษ ..แต่ คุณ จะว่าอะไรมั้ย.. ถ้าผมขอกลับก่อน” แฮรี่เอ่ยเสียงสั่นแม้สีหน้าจะราบเรียบ ไร้แม้แต่น้ำตา .. ฝ่ามือที่กำไม้แน่นอดกลั้นบางอย่าง .. ที่แม้แต่ตัวรีมัสเองก็ไม่อาจรับรู้..


    “ฉันเข้าใจ เธอไปเถอะ .. ฉันว่าเธออาจจะอยากอยู่คนเดียวสักพัก” รีมัสเอ่ยอนุญาติด้วยเสียงไม่เบาไม่ดัง .. เด็กชายพยักหน้า .. เดินออกจากห้องไปท่ามกลางสายตานักเรียนที่มีความสงสัยเต็มใบหน้า..


    ความกลัวของเขามันไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ .. เขาทำไม่ได้ … ทุกภาพของเธอกลับคือความเจ็บปวดของเขา … เขาไม่กล้าคิดให้แค่กองฝุ่นตรงหน้าหายไป .. แต่ก็ทำให้เธอกลับคืนมาเป็นร่างเดิมไม่ได้ ..


    เขามันน่าสมเพช!!


    คาบเรียนยังคงดำเนินต่อ .. แต่จบแค่แฮรี่ .. ศาสตราจารย์ลูปินก้าวเข้ามาพัดบ็อกการ์ตกลับเข้าตู้หันไปที่สีหน้ามีคำถามของทุกคน ..


    “พวกเธอคงสงสัย ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น ครูจะอธิบายให้ฟัง” รีมัสยืนหน้าห้อง .. ทุกคนส่งเสียงซุบซิบกับเหตุการณ์ดังกล่าว .. มีทั้งหัวเราะแฮรี่ มีทั้งเห็นใจแฮรี่ .. ไม่ว่าเด็กชายจะทำได้หรือไม่ได้ ทุกคนก็ต้องแสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว ..


    “เคยมีเพื่อนครูหลายคน.. ฝึกกับบ็อกการ์ตและก็ไม่สามารถใช้คาถานี้ลบความกลัวของตัวเองได้ พวกเธอรู้มั้ยว่าทำไม” นักเรียนส่ายหน้าเป็นส่วนใหญ่ .. อย่างน้อยก็มีหนึ่งความคิดที่สามารถนึกถึงความตลกขบขันในความกลัวของตัวเองออกได้ จะให้มันแปลงร่างเป็นของตลกๆก็ง่ายดายไป .. มันจะยากอะไรแค่นึกถึงของตลกๆสักอย่างหนึ่ง.


    “พวกเธออาจจะมีความคิดที่แปลกต่างและก็มีคำถาม .. งั้นครูตั้งคำถามง่ายๆ .. มีวิธีคิดยังไงให้รู้สึกว่าความตายเป็นเรื่องน่าหัวเราะ” คำถามง่ายๆที่ตอบยาก ..นักเรียนที่แอบดูถูกความคิดเมื่อกี้ในใจถึงกลับสะอึก.. แค่ประโยคนี้ก็เข้าใจได้แล้วว่า ความกลัวของแฮรี่คืออะไร..


    เข้าใจได้ด้วยสายตา… และความจริงที่เผยขึ้น..


    มันคือการจากลา .. คือความสูญเสีย ..


    ความกลัวต่อชีวิตคนสำคัญ…


    มันเป็นเรื่องน่าหัวเราะรึเปล่า .. ที่เห็นคนที่คุณรักตายต่อหน้า…


    มันน่าตลกรึเปล่า ถ้าต้องสูญเสียคนสำคัญโดยไม่อาจบอกลา..


    “ความกลัวอาจไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้แบบที่ทุกคนนึกถึง .. สถานที่เดียวที่ความกลัวสามารถอยู่ได้ คือความคิดของเราเอง .. มันคือผลิตผลที่เกิดจากจินตนาการ .. ทำให้เราตื่นกลัวสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน .. ไม่ใช่สิ่งที่เธอกลัวจะน่ากลัวเสมอไป .. หากมันเป็นแค่แมงมุมตัวเล็กเท่านิ้วก้อย .. เป็นแค่งูไม่มีพิษ หรือแม้แต่ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้.. แต่บางครั้ง เธอก็หวาดกลัวมันอยู่ดี..”


    คำกล่าวของรีมัสฝังลงไปในความคิดของนักเรียนให้ครุ่นคิดตาม.. ความกลัวแค่นั้นดูกลายเป็นของเด็กเล่นไปเลย เทียบกับความกลัวของเด็กชายผู้รอดชีวิต .. แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะความกลัวของตัวเองได้.. แต่ใช่ว่าทุกคนจะเข้มแข็งต่อหน้าความตายของคนสำคัญ..


    หลายคนคงกรีดร้อง .. หลายคนคงร้องไห้ ..


    เจ็บปวดแค่ไหน ถ้ามันคือความกลัวที่ฝังลึกอยู่ในความคิดของตัวเอง..


    พวกเขายังไม่ถึงจุดที่สามารถสัมผัสได้ ..


    “. ความกลัวเป็นเพียงตัวเลือก เกิดจากจิตใจของเราเองที่ปรุงแต่งขึ้นมาบอกตัวเอง .. บางครั้งถ้ามันเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มันจะน่ากลัวยังไง จริงมั้ย? ..  อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป … ความกลัวไม่ใช่สิ่งที่ผิด .. หากแต่เป็นเรื่องปกติของกระบวนการทางความคิด .. ” น้ำเสียงจริงจังย้ำเตือนถึงข้อเท็จจริงที่ควรคิดไว้ ..


    ถึงไม่ใช่ทุกความกลัวจะชนะได้เสมอไป ..


    “แต่สิ่งสำคัญคือ...”


    “เธอสามารถเอาชนะความกลัวของตัวเอง ด้วยตัวของเธอเอง ..


    รับรู้มัน และเผชิญหน้ากับมันซะ”


    แต่มีเพียงตัวของตัวเองที่เอาชนะมันได้…




    น้องเขามีช่วงที่ต้องอ่อนแอ และมันก็คือตอนนี้

    มีคนบอกว่า น้องอ่อนแอไปรึเปล่า

    เราบอกเลยว่า ไม่มีทางเป็นแบบนี้ตลอด

    หลังจากนี้เราบังคับน้องให้เข้มแข็งแน่ๆ

    อาจจะเด็ดขาดจนน่ากลัวและเลือดเย็นเลยก็ได้

    เรื่องนี้มีช่วงดราม่า บ่อยครั้งอยู่..

    ทั้งดราม่าชีวิตน้อง… และชีวิตคนอื่น


    =====================================


    ข้อคิดเล็กๆน้อยๆ …ผู้ใหญ่ความกลัวน่ากลัวกว่าเสมอ

    และยิ่งพอมันเพียงแค่รูปธรรม ก็ตาม ..

    ความคิดจะสั่งให้นึกถึงคนสำคัญที่สุด พร้อมความกลัว

    คงไม่มีใครจะอยากนึกถึงมันเลยแน่นอน …

    เราก็เคยคิดนะ .. ถ้าบ็อกการ์ตคือความตาย ..

    การที่จะเปลี่ยนความตายของตัวเองหรือคนอื่น

    เป็นเรื่องตลก มันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ..

    จะบอกว่า เลือดเย็นรึเปล่า ..หรือมันน่าสมเพชละ?


    คนแต่งก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน5555


    ปล. เราให้สองตอนติดเลย จะได้ไม่ขาดอารมณ์



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×