ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #37 : Destinesia (37) น้ำยาสรรพรส

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.16K
      527
      31 พ.ค. 61

    Destinesia (37) น้ำยาสรรพรส


    “ถ้าเราใจเต้นกับคนที่เขาเป็นห่วงเรา มันคือเรื่องปกติรึเปล่า ทอม”


    ‘....’


    สมุดทอมเงียบไปเกือบนาที หรือทอมคิดว่ามันแปลกประหลาดหรอ? แฮรี่เริ่มไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่ในเรื่องของความรู้สึก เมื่อก่อนถ้าเขาสงสัยอะไร เขาอาจจะถามอีกฝ่ายไปตรงๆ แต่พอผ่านมา สักระยะ ก็จะพยายามเก็บข้อมูลด้วยตัวเองก่อน แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็จะหาที่ปรึกษา


    เฮอร์ไมโอนี่ก็เป็นที่ปรึกษาที่ดี และตอนเช้าถ้าเขายังหาคำตอบที่ถูกใจ?ตัวเองไม่ได้ เขาก็จะถามเพื่อนสาวเขาแน่นอน ..


    ‘มันเป็นเรื่องปกติ แต่เขาสำคัญแค่ไหนกันละ’คำถามทอมทิ้งไว้แบบนั้น เรื่องปกติหรอ.. อาจจะใช่ เซเวอร์รัสห่วงเขาก็เรื่องปกติที่เป็นมาตลอดอยู่แล้ว แต่เป็นเขาเองมากกว่า ที่ดันรู้สึกแปลกๆไปเสียเอง ยังดีที่เขาไม่คิดเองเออเอง ไม่ถามเซเวอร์รัสตรงๆให้อีกฝ่ายลำบากใจ


    สำคัญแค่ไหน ..


    จะว่าไปเขาก็ไม่เคยคิดถึงร่างสูงอย่างละเอียดเท่าไหร่ อยู่กับอีกฝ่ายมา ก็เพราะเรื่องทอมมาตลอด ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับทอมที่เขาสงสัย เซเวอร์รัสในฐานะคนใกล้ชิดทอม มักจะรู้ก่อนเป็นคนแรกๆ


    เขาที่ดันถือสถานะลูกบุญธรรมจอมมาร เซเวอร์รัสก็อดไม่ได้ที่จะต้องตามใจเขา บอกกล่าวเขาเรื่องที่เขาอยากรู้ และมีเรื่องแม่ที่เขาก็สงสัย จนเขาส่งจดหมาย และมาหาอีกฝ่ายเป็นความเคยชินซะมากกว่า


    นอกจากนั่งทำงาน นั่งปรุงยา เขาก็ไม่เห็นว่าสเนปจะสนใจอะไรเขาขนาดนั้น พูดถึงเรื่องอันตรายและความเป็นห่วง ก็ลดน้อยลงเหลือแค่ต่อว่าเขา เรื่องการหาเรื่องเจ็บตัวและทะเลาะกับมัลฟอยมากกว่า …


    กลายเป็นว่า… เขารู้จักเซเวอร์รัสแค่ผิวเผินเองแค่นั้นหรอ….


    เพราะว่าเขาไม่เคยถามหรือเพราะไม่เคยคิดถึงเรื่องอีกฝ่ายมากเหมือนตอนนี้รึเปล่า..


    ‘เรื่องของความรู้สึก มักจะเกิดขึ้นตอนที่เราไม่ทันตั้งตัว แม้ว่าเราจะต้องการหรือไม่ต้องการ’


    ทอมยังคงพูดอะไรที่ยังเข้าใจยากเหมือนเดิม ถ้าเกิดขึ้นตอนเราต้องการก็คือเรารู้สึกตัวไม่ใช่หรอ .. แต่ถ้าไม่ต้องการก็คือฝืนตัวเองรึเปล่า? เขาไม่ค่อยเข้าใจเลย…  หรือเขาอาจจะเข้าใจผิด .. เรื่องความรู้สึกมันเข้าใจยากแบบนี้เองหรอ..


    ‘เหมือนที่ฉันไม่อยากรู้สึก แต่ฉันกลับต้องการเธอมากขึ้น’


    “.....” ครับ ทอม.. ตอนนี้ผมไม่ต้องการปรึกษาคุณแล้ว แต่ก็อยากปรึกษาคุณอยู่ … สรุปผมคิดมากเกินไป หรือเพราะคุณรุกผมมากเกินไปกัน ..

    เขาไม่เข้าใจจริงๆนะ … หมายถึงไม่เข้าใจที่ผมพูดที่ทอมต้องการจะสื่อถึงเขาเนี่ยแหละ..


    เอาเป็นว่า ทอมคงจะหมายถึง มันคงเป็นอารมณ์เพียงชั่ววูบที่เกิดขึ้นมา แม้เราจะอยากรู้สึกหรือไม่ก็ตาม .. คงเป็นกระบวนการทางความคิดและความรู้สึกที่จะทำให้เขารู้สึกแปลกๆกับการกระทำแสนประหลาดของพวกเขาละมั้ง


    เขาคิดแบบนั้นก็แล้วกัน…


    เวลาและเหตุการณ์ยังคงผ่านไปเรื่อยๆตามเดิมของมันซะส่วนใหญ่ … พวกเขายังคงได้ดื่มน้ำยาสรรพรสปลอมตัวเข้าหอสลิธีรินอีกเช่นเคย .. แฮรี่อยากแนะนำว่า ให้แครบกอยส์ดึงความคิดขี้ระแวงของมัลฟอยมาใช้บ้าง ..


    ขนาดรอนเป็นคนร่ายคาถาเสกเค้กยานอนหลับให้สองคนนั้น ทั้งคู่ก็ยังหยิบไปกินอย่างไม่สงสัยอะไรแบบเดิม .. เขาว่าสองคนนี้ดูจะไม่เหมาะกับบ้านงูยังไงก็ไม่รู้ แต่คงได้ผลกระทบจากมัลฟอยมาแน่ๆ


    แล้วก็ .. เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังแปลงร่างเป็นครึ่งคนครึ่งแมวเหมือนเดิม …


    “นั่งลง” มัลฟอยยังเป็นคนมาพบพวกเขา ก่อนจะลากตัวพวกเขาสองคนกลับเข้าห้องนั่งเล่นสลิธีรินที่เขาไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ .. แม้ครั้งก่อนเขาจะเคยเข้ามาแล้ว แต่ก็ไม่ได้สำรวจทั่วๆ ห้องนั่งเล่นสลิธีรินแม้จะสีหม่นไปบ้าง แต่ก็ดูหรูหราไม่ต่างจากกริฟฟินดอร์…


    เขาต้องใช้หลายคำพูดเลยนะที่จะเบี่ยงประเด็น ไม่ให้รอนหงุดหงิดจนเผลอต่อยหน้ามัลฟอยไป ยิ่งปากร้ายแบบไอหัวซีดตรงหน้าด้วยแล้ว .. พอนึกถึงที่พ่อหมอนี้สอนที่หน้าสถานที่รถไฟด้วยแล้ว แฮรี่ก็ไม่ึกสงสัยว่า มัลฟอยได้ความปากมากจากใคร..


    “ฉันแปลกใจที่ เดลี่พรอเฟ็ต ไม่รายงานข่าวการทำร้ายร่างกายนักเรียนที่นี่ ฉันคิดว่าดัมเบิลดอร์วิ่งเต้นปิดข่าวน่าดูชม พ่อบอกเสมอว่าดัมเบิลดอร์เป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นที่นี่ " ถ้ามัลฟอยไม่อ้างพ่อสักวันคงยาก .. ไม่สิ เพราะยังโดนตามใจต่างหาก .. ถึงได้ออกมาเป็นสภาพแบบนี้..


    “พวกนักข่าวอาจจะกลัวว่าจะรายงานข่าวผิดก็ได้” เลยรอดูข่าวคราวของเรื่องก่อนไง .. ยังไม่มาเห็นด้วยตาตัวเอง ก็เอาไปเขียนข่าวไม่ถูกหรอกมั้ง .. แค่โดนสาปเป็นหิน คงนึกว่านักเรียนแกล้งกันมากกว่า..


    “แกดูพูดมีสาระนะ กอยส์ .. วันๆเอาแต่ถามนู้นถามนี้เหมือนไม่มีสมองเป็นของตัวเอง” เดรโกยังคงพร่ามต่อ .. แฮรี่ก็ชักอยากรู้แล้วว่า ปกติพวกนี้คุยอะไรกันในแต่ละวัน..


    “สงสัยก็ต้องถามไม่ใช่หรอ? ถ้าถามตอนนี้ก็โง่แค่ห้านาที แต่ถ้าไม่ถาม ก็โง่ไปอีกหลายๆวัน” แฮรี่ในร่างกอยส์ตอบ พลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เดรโกถึงกลับเบิกตาเลิกคิ้วเหมือนกับเพื่อนตรงหน้าไปกินอะไรผิดสำแดงของพวกกริฟฟินดอร์มารึเปล่า..


    รอนในร่างแครบถึงกับต้องสะกิดแฮรี่ให้เงียบเสียงลง เพราะเหมือนว่ามัลฟอยจะสงสัยในความพูดมากของแฮรี่ซะแล้ว ก่อนจะยืดอก มาเป็นคนตั้งคำถามเรื่องที่อยากรู้จริงๆสักที..


    “นายก็รู้ไม่ใช่หรอว่าใครเป็นคนทำทั้งหมด” รอนคงอยากให้มัลฟอยรับสารภาพต่อหน้าพวกเขาให้ได้ เดรโกหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างไม่สนภาพลักษณ์ เค่นเสียงลมหายใจดังหึให้กับความฉลาดน้อยของพวกตรงหน้า..


    ถ้าอย่างเดรโกรู้ ก็คงพร่ามบอกจนหมดเปลือกแล้ว .. แฮรี่ก็อยากจะบอกแบบนั้น…


    “ฉันก็บอกแล้วไง ว่าไม่มีทางเป็นเจ้าพอตเตอร์นั้น พวกแกยังคิดแบบนั้นกันอีก” แฮรี่ถึงกลับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงชื่อตัวเอง ชักสงสัยจริงๆแล้วว่า พวกแครบกอยส์ถามอะไรมัลฟอยกันแน่เนี่ย..


    “ถึงหมอนั้นจะเก่งยังไง จะชอบหาเรื่องยังไง แต่ก็ไม่น่าจะทำเรื่องให้มันใหญ่โตจนตัวเองเดือดร้อนหรอกน่า .. หมอนั้นขี้ขลาดจะตายไป”  ทุกอย่างเกือบจะดีแล้ว ถ้าไม่มีประโยคนี้ รอนดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขา แทบจะลุกขึ้นมองหน้าหาเรื่องคนตรงหน้า แต่ได้แฮรี่รั้งไว้ก่อน …


    “พ่อฉันเคยพูดว่า เมื่อห้าสิบปีมาแล้ว นับตั้งแต่ห้องนั้นถูกเปิด แต่ไม่ได้บอกว่าใคร .. บอกแค่ว่าถูกไล่ออก .. ”


    “นานขนาดนั้น คงไม่ใช่นักเรียนในฮอกวอตส์หรอกมั้ง” แฮรี่เอ่ยตัดบทก่อนมัลฟอยจะพูดยั่วโมโหสะกิดต่อมอะไรบางอย่างของรอน ..


    เดรโกทำหน้าเหมือนจะสาปแช่งในใจ แต่เมื่อเห็นท่าทีลุกลนผิดปกติของสองคนตรงหน้า ก็เลยต้องเอ่ยปากถามอย่างอดไม่ได้ … เขาว่าสองคนนี้มันแปลกๆ อีกคนหนึ่งพูดมากเกินไป อีกคนนิ่งเกินไป แต่ทำหน้าเหมือนโกรธใครมา..


    “.. พวกแกสองคนทำตัวแปลกๆ ปกติจะเอาแต่พูดเรื่องพอตเตอร์จนน่ารำคาญ .. หรือตะกี้ออกไปเจอพวกมันมารึไง” ตอนนี้ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสองคนสะดุ้งกับคำพูดมัลฟอย .. ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่า ความกำลังจะแตกในไม่ช้า ควรรีบหาเรื่องเผ่นให้ไวเลย..


    แล้วอย่าทำเหมือนรู้ดีขนาดนั้นได้มั้ย .. มัลฟอยจะเดาเก่งเกินไปแล้ว …


    กว่าจะหนีออกมาได้ เหมือนจะไม่ค่อยได้อะไรกลับไปเท่าไหร่ .. น้ำยาสรรพรสเริ่มหมดฤทธิ์ได้ตรงเวลาก่อนที่ความจะแตกแล้วโดนเค้นถาม ..


    “นายไปทำอะไรให้พวกนั้นไม่พอใจ แฮรี่ หมอนั้นเอาแต่พูดถึงนาย เหมือนสงสัยนายเลยนะ” ขนาดแค่เจอหน้ามัลฟอยไม่กี่นาที รอนถึงกลับจับผิดเขาได้เลยนะ ..


    ไม่รู้จะโทษมัลฟอยที่พูดบ่นเรื่องเขามากเกินไป หรือรอนที่จับผิดสังเกตเขาเร็วขนาดนี้…


    “แค่ทะเลาะกันบ่อยๆนั้นแหละ ไปกันเถอะ มีเรื่องต้องเล่าอีกเยอะ”


    เฮอร์ไมโอนี่ยังอยู่ในสภาพแมวเหมียวขนเต็มหน้าตาจนต้องเขาห้องพยาบาลจนได้ .. พอเป็นเกี่ยวกับเรื่องยาแก้อาการต่างๆ เขายกให้เป็นงานของมาดามพรอมพรีย์ก็แล้วกัน .. เขากลัวว่าถ้าเขาปรุงยาอะไร มันจะได้ผลตรงกันข้าม..


    ก็นะ .. ไม่รู้ว่าทำไม ตอนเขาจะปรุงยาช่วยคนอื่น มันกลับได้ยาแปลกๆแทน..


    เหมือนยาห้ามเลือดที่เขาจะปรุงคืนเซเวอร์รัส มันกลายเป็นยาเพิ่มเลือดซะได้ .. แต่ก็ยังโอเคที่พอจะแทนกันได้ .. เซเวอร์รัสไม่ให้รายงานเขาเพิ่มก็ดีแค่ไหนแล้ว …


    จนกระทั่ง …


    “เมอร์เทิลทำน้ำท่วมห้องอีกแล้วหรอเนี่ย?”




    ตอนนี้เราสร้างเพจเฟสแล้วนะ
    สนับสนุนคนอยากสร้างแฟนอาร์ต



    ใกล้จะลงห้องแห่งความลับแล้ว

    ยาวพอๆกับเรื่องหลักแน่เลย

    เราหาวิธีเดินหน้าความสัมพันธ์เป็นระยะ

    ทั้งป๋าทั้งปู่นั้นแหละ ..

    เรากำลังคิดว่า … ให้เรื่องนี้มันดราม่าดีมั้ย

    เอาแบบว่า .. ให้เป็นฝันร้ายของแฮรี่สักที

    จากที่โลกนู้นสวยงามไปแล้ว หึหึ



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×