ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #18 : Destinesia (18) ความสามารถพิเศษ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.71K
      719
      29 เม.ย. 61

    Destinesia (18) ความสามารถพิเศษ


    การสอบผ่านไปได้ด้วยดี เหตุการณ์ทุกอย่างแทบจะอยู่ภายใต้เงามืดของปราสาทฮอกวอตส์ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว..


    เฮอร์ไมโอนี่ยังคงสนุกกับการทำข้อสอบที่อธิบายแต่ละข้อออกมาได้อย่างละเอียด จนรอนยิ่งเครียดกับคำตอบของข้อนั้นที่เธออธิบาย .. เขายิ้มแห้งเมื่อทั้งคู่ถามถึงการทำข้อสอบ .. เขาเพียงบอกว่าเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งทั้งคู่ต่างบ่นทันที ที่เขาทำเป็นไม่เก่งอีกแล้ว ..


    เขาแค่ไม่ทำตัวเด่นภายในห้อง ใช่ว่าเขาจะสอบไม่ได้คะแนนดีดีสักหน่อยนิ ..


    เขาบอกทั้งคู่ให้ตรงไปกระท่อมของแฮกริดก่อนเลย โดยอ้างว่าอยากจะไปหาศาตราจารย์มักกอนนากัลเรื่องเรียนนิดหน่อย ตอนแรกเฮอร์ไมโอนี่บอกจะมาด้วย แต่เขาก็ยกมังกรน้อยของแฮกริดมาอ้าง ว่าเขายังคงเสียใจกับเรื่องมังกรอยู่ สองคนที่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบตรงดิ่งไปทันที

    ต้องไม่ลืมว่าเป็นสองคนที่ทำให้เรื่องมังกรของเขาเกือบจะความแตก จนต้องส่งมันไปโรมาเนีย..


    แฮรี่ก็ไม่อยากจะใช้วิธีที่เล่นกับความรู้สึกคนอื่นแบบนี้ แต่เขาก็ไม่อยากให้ทั้งคู่ผละออกจากกระท่อมมาเพื่อตามหาเขาเร็วนัก .. เขาต้องรีบเคลียร์เรื่องศิลาอาถรรพ์ให้เสร็จเรียบร้อย และไม่ควรมีใครต้องเจ็บตัวอีกนอกจากเขา …


    แฮรี่หยิบนกหวีดที่เขาประดิษฐ์ขึ้น ก่อนจะเป่าเป็นเสียงที่แหลมสูงชั่วขณะหนึ่ง … ไม่ถึงนาที .. เฮ็ดวิกกระพือปีกเข้ามาในสายตา และก็มีหลายคนที่เห็นนกฮูกสีขาวสะอาดตา บางคนก็ไม่ใส่ใจ บางคนก็สงสัย เฮ็ดวิกโผบินเข้ามาหาเขาที่ยื่นแขนรับนกฮูกหิมะของตัวเอง


    มันกระพือปีกทักทายเขาอย่างเคย แต่ต่างที่เขาต้องการคนช่วยสังเกตการณ์… เขาไม่อยากพาใครมาเดือดร้อนทั้งนั้น ก็เหมือนเป็นทิฐิของเขานั้นแหละ .. ที่ไม่กล้าให้ใครช่วยเลย และเขาอยากได้สิ่งที่เป็นจุดสนใจน้อยที่สุด?


    เขาดูเหมือนว่าหลอกลวงเพื่อนตัวเอง .. แต่ถ้าถามว่า ระหว่างเขาหาเรื่องใส่ตัวคนเดียว กับลากเพื่อนคนสำคัญของเขาที่ตอนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขึ้นไปเขตหวงห้ามชั้นสาม


    เขาเลือกที่จะไปคนเดียวเสียดีกว่า ..


    “ฝากด้วยนะ เฮ็ดวิก ถ้าเขามาเมื่อไหร่ ก็บินกลับได้เลย ระวังตัวด้วยละ” เขาคล้องสร้อยเส้นหนึ่งเข้ากับคอของเฮ็ดวิก กรูร้องคลอเคลียกับใบหน้าเขาก่อนจะบินไปทางเขตหวงห้าม.. ถ้าสร้อยออกนอกระยะมันจะขาดการเชื่อมพลังเวทย์กับเขา และเขาจะรู้ได้ในทันที ..


    เขาจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเสียก่อน ..และเขาก็ไม่รู้เหตุการณ์จะเปลี่ยนอีกรึเปล่า ..


    เฮ้ออออ คืนนี้คงเป็นค่ำคืนที่ยาวนาน..




    เบื้องหน้ากระจกบานใหญ่ สะท้อนภาพของศาตราจารย์ป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ที่ยืนรอคอยผู้มาเยือนอย่างใจจดใจจ่อ .. ใครกันนะที่จะผ่านการป้องกันมาได้ นอกจากเขา .. ศาตราจารย์ในฮอกวอตส์มีรหัสลับเพื่อจะผ่านพื้นที่มาได้โดยไม่จำเป็นต้องทำตามปริศนา..


    เสียงอึกทึกที่เกิดขึ้น ต้องเป็นนอกเหนือจากคนพวกนั้น …


    รอบด้านปิดตาย..กลางห้องหนึ่งคนหนึ่งกระจกหันหลังให้กับผู้มาใหม่ ..


    เด็กชายร่างเล็กหยุดเดินที่กลางบันได นิ่งสงบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบเฉย ไม่ตื่นตระหนก .. ไม่ตกใจและแปลกใจ .. ราวกับเป็นเหตุการณ์ที่คาดเดาไว้อยู่ก่อนแล้ว…


    แฮรี่ก็เริ่มจะคิดว่า … ถ้าเขาไม่เข้ามาที่นี้ ยังไงอีกฝ่ายก็น่าจะไม่มีทางได้ศิลาอยู่แล้ว แต่เขามีธุระต้องคุยกับสิ่งที่อยู่บนหัวอีกฝ่ายมากกว่า …


    ควีเวลล์หันมาเห็นแฮรี่กลับฉายแววทั้งตื่นเต้น ชื่นชมและประหลาดใจ ต่างจากเด็กชายอย่างชัดเจน .. แฮรี่สบตาอีกฝ่ายด้วบสภาพที่ดูดี เหมือนไม่ได้ฝ่าด่านด้านนอกนั้นมา .. จะเป็นไปได้หรอ ที่เด็กตัวเล็กแบบนี้ ก็สามารถเข้ามาถึงที่นี้ได้


    แต่คงใช้คำพูดแบบนั้นไม่ได้กับ เด็กชายผู้รอดชีวิต


    “น่าแปลกใจที่เป็นเธอที่เข้ามาที่นี้ .. และเธอทำตัวไม่เหมือนเด็กเลยสักนิด” เสียงของอีกฝ่ายไม่ได้ติดอ่างเช่นเดิม แสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงให้ได้เห็น “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี้..”


    คำถามของอีกฝ่ายต้องการคำตอบ และคงเป็นคำถามของใครบางคนที่อยู่บนหัวเขามากกว่า … แฮรี่ไม่ตอบ แต่กลับก้าวลงมาใกล้อีกฝ่ายเรื่อยๆโดยคาดเดาความคิดของเด็กชายไม่ได้ …


    แม้จะระวังตัว เด็กชายก็ยังคงเดินเข้าไปหากระจกอย่างไม่หวั่นเกรงอีกฝ่าย เขามองกระจกด้วยสายตาที่แฝงความเจ็บปวดเมื่อนึกถึงภาพที่เห็น แต่ก็ปิดบังอีกฝ่ายได้อย่างดี .. ควีเวลล์บ่นเกี่ยวกับกระจกตรงหน้า ไม่ได้สนใจแฮรี่ที่เป็นแค่เด็กเลยด้วยซ้ำ


    หึ แฮรี่ก็อยากจะแค่นเสียงหัวเราะให้กับอีกฝ่ายนัก .. หลายครั้งที่มีคนดูถูกเขาเพราะคาใจในความสามารถ .. เหมือนกลับต้องการทดสอบสิ่งที่เรียกว่า เด็กในคำทำนาย ทั้งที่เขาไม่เคยยินดีรับมันเลย


    “ศิลาอาถรรพ์ .. ถ้าดื่มแล้วเป็นอมตะจริง .. ป่านนี้คงมีหลายคนที่ไม่ตายจากคำสาปของมัน” แฮรี่เอ่ยขึ้นแต่กลับเรียกความสนใจของอีกสองคนภายในห้องได้ .. น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงคำดูถูก สร้างความสนใจให้คนภายใต้ผ้าปิดบัง


    แฮรี่ไม่ได้เสียใจที่ตัวเองได้ศิลามาอยู่ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง แต่กลับเสียใจที่ไม่ได้เห็นภาพเดิมอีก … น่าขำนักที่เขากลับเป็นคนที่หลงงมงายกับความฝันของตัวเอง..


    เด็กชายยังอยู่ในสายตาของอีกฝ่ายเสมอ .. ควีเวลล์ยังเร่งร้อนถามแฮรี่แม้จะได้เพียงเสียงลมหายใจตอบกลับมา .. เมื่อทุกอย่างเงียบลง เสียงที่เอ่ยต่อมากลับฟังดูน่าขนลุก แหบแห้งราวกับคนใกล้ตาย


    “ให้ข้าคุยกับเขา” ควีเวลล์นิ่งลง ไม่อาจขัดคำสั่งนายเหนือหัวของตัวเองในตอนนี้ ผ้าพันศีรษะค่อยๆถูกปล่อยลง เผยใบหน้าเหี่ยวย่นไม่น่าดูราวกับอสูรสะท้อนกลับมา สบตาเด็กชายผ่านกระจกเห็นได้ชายที่นิ่งสงบไร้ความตื่นกลัวและตกใจ


    “คุณใช้เวลานานมาก กว่าจะปรากฏตัวเบื้องหน้าผม โวลเดอมอร์” เป็นเด็กชายเอ่ยทักทายอีกฝ่ายก่อน … ในที่สุด ภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพที่เขาอยากเห็น เด็กชายไม่ละสายตาไปจากมันเลย ทั้งทีคนข้างกายก็น่ากลัวกว่า เป็นอสูรที่ไม่พอใจกับท่าทีของเด็กชาย


    ไร้ความหวาดกลัว ไม่มีซึ่งความสนใจ..


    “นี้คงเป็นครั้งแรกที่เราพบกัน และขอชื่นชม เธอมีความสามารถมากที่สามารถมาถึงที่นี้ได้ และดูท่าว่าเธอจะเก่งกว่าที่ฉันคาดเดาไว้ ดัมเบิลดอร์คงจะจัดการอะไรหลายอย่างเพื่อเธอโดยเฉพาะ”


    หึ แฮรี่พ่นลมหายใจออกมาเสียงดัง ถ้านั้นคือการจัดการจริง การพาเขาไปอยู่ภายใต้การคุ้มครองดูแลแลกกับการเป็นเอลฟ์รับใช้แบบที่มัลฟอยบอกจริง .. เขาก็ขอบคุณมากเลย เพราะเป็นเขาเองที่ตะบี้ตะบันออกนอกเส้นทางที่อีกฝ่ายวางไว้ให้ จนเขาไม่ต้องอยู่ภายใต้คำทำนายบ้าๆนั้น ..


    “คุณมักจะชอบหยอกล้อคนอื่นซะเหลือเกินนะ .. ที่ผมมาที่นี้ไม่ใช่ต้องการจะคุยเรื่องคนอื่นสักหน่อย” แฮรี่หันกลับมาสนใจอีกฝ่ายได้สักที หลังจากพอใจกับภาพตรงหน้าแล้ว เขาเหลือเพียงความสุขที่ได้คิดถึงคนในภาพเท่านั้น ..


    มีหลายอย่างที่เขาต้องทำและต้องก้าวเดิน..


    “โอ้ มันไม่ใช่เรื่องคนอื่นหรอก แฮรี่ เป็นเรื่องของเรา และเรื่องของเธอ ฉันก็อยากจะอยู่ฟังมันมากกว่านี้นะ แต่คงจะหมดเวลาต้องพูดกันเสียแล้ว”


    “นั้นสินะ” แฮรี่พยักหน้าหันมาเผชิญหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว ..


    ครั้งหนึ่ง เขาเคยสังหารคนตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว .. แม้ตอนนั้นเขาจะคิดว่ามันสมควรแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ในเมื่อเขารู้ทุกอย่าง ชีวิตหนึ่งชีวิต และทุกชีวิตมีค่าให้อยู่ต่อ .. เขาเริ่มใหม่จากจุดเริ่มต้นได้ เขาก็อยากแก้ไขได้เช่นกัน


    เปาะ!


    เสียงดีดนิ้วในครั้งนี้ไม่ได้มาจากตัวศาตราจารย์ แต่กลับมาจากเด็กชายตรงหน้าที่เพียงดีดนิ้วครั้งเดียว ร่างของเขาก็ค้างอยู่กับที่ ร่างกายไม่อาจคุมได้ดั่งใจ ได้แค่กระตุกไปมาเท่านั้น


    “อย่างที่คุณบอก หมดเวลาสำหรับบทสนทนาซะแล้ว” ไม่ว่าจะพยายามขยับตัวยังไง ทุกส่วนของร่างกายก็ยังอยู่กับที่ แฮรี่หยิบศิลาออกมาเล่นด้ยมือเดียวเรียกสายตาอาฆาตจากอสูรได้เป็นอย่างดี


    แต่สำหรับเด็กชาย .. เขาก็ชินกับสายตาแบบนั้นแล้ว แต่ยอมรับเลยว่า มันเข้ากับใบหน้าอีกฝ่ายเกินไปหน่อย .. เพิ่มหูยาวจมูกยาวหน่อยนี้ … ก็อบลินเลยนะ เฮ้อออ สงสัยเขาจะจินตนาการดีเกินไป


    “อย่าขยับเลยครับ .. ผมมั่นใจว่า ถ้าสภาพผมไม่เด็กแบบนี้ อย่างว่าแต่ขยับตัวเลย แค่จะพูด คุณก็ทำไม่ได้” แฮรี่ไม่ได้ตั้งใจพูดข่ม .. แต่เพราะสภาพร่างกายแบบเด็กๆทำให้เขาไม่เต็มที่เท่าไหร่ ไม่รวมถึงร่างกายที่ขาดสารอาหารด้วยแล้ว แบบนี้ถือว่าเต็มที่แล้ว


    “มันบอกให้เธอปกป้องศิลาเพราะความถูกต้องที่พวกมันต้องการหรอ? อย่าโง่ไปหน่อยเลย แฮรี่ ทำไมคนมีความสามารถเช่นเธอ ต้องยอมทำอะไรเมื่อคนเหล่านั้นด้วย .. โลกเวทยมนต์มันเล็กเกินไปสำหรับเธอ  ” เมื่อไม่มีอะไรจะทำได้ คงมีแค่ข้อเสมอและใส่ความเพื่อตอกย้ำความจริงให้เด็กชายร่วมมือ


    “เธออยากได้อะไรดีละ .. ทรัพย์สิน? ชื่อเสียง? อำนาจ? ไม่มีหรอกคนที่จะมีแต่ความดี หรือ คนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย .. ทุกอย่างอยู่ที่อำนาจ คนที่อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด .. เราจะได้สิ่งที่วิเศษสุดไม่มีผู้ใดได้ครอบครอง”


    ทอมในเวลานี้ก็ยังคงมีเพียงคำว่าอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุด และแฮรี่จำเป็นต้องแสดงให้อีกฝ่ายเห็น ว่าเขาเหนือกว่า แฮรี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า อำนาจที่คนอื่นหวาดกลัวจะมีไปเพื่ออะไร .. แต่ก็นะ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่มีมันแล้ว ทำอะไรได้ยากขึ้น


    ถ้าเขาบอกไม่ชอบอำนาจที่อีกฝ่ายกล่าว เขาก็โกหกตัวเอง แต่การได้มาซึ่งอำนาจต้องไม่ใช่การข่มขู่หลอกลวงคนอื่นอย่างที่ทอมเคยทำ


    “ที่จริงผมก็อยากทำนะ .. แต่คนที่ไม่รู้อะไรกับคำสาปของศิลาอาถรรพ์ จะมาขอความร่วมมือจากผมเนี่ยนะ .. เฮ้ออออ” แฮรี่แสร้งถอนหายใจยาว พลางเอ่ยสิ่งที่เป็ฯประเด็นสนใจก่อนหน้านี้ “คุณไม่รู้หรอ ศิลาอาถรรพ์จะหลอมรวมกับวิญญาณของผู้ใช้ สำหรับเศษเสี้ยววิญญาณอย่างคุณ ก็เป็นได้เพียงยารักษาบาดแผลเท่านั้นแหละ”


    “ทฤษฎีที่เธอว่ามาก็น่าสนใจ ถ้าเธอว่าแบบนั้น แล้วทำไมถึงไม่มีคนรู้เรื่องนี้ละ?”


    “ที่ผมหมายถึง คือต้องใช้วิญญาณของผู้ใช้เป็นส่วนผสมต่างหาก คนที่คิดจะผสมมันเป็นยาเล่นๆน่ะ ก็ตายเพราะเกิดผลต่อต้านไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ..” เด็กชายว่าอย่างใส่อารมณ์ .. เหมือนกลับพูดเรื่องตลกให้ฟัง .. เด็กชายปรายตามองดูอีกฝ่ายที่แกล้งถามเขา จนแฮรี่เก็บมันลงกระเป๋าไป..


    เอาละ .. ที่เหลือก็..


    “ผมก็อยากดูความพยายามของคุณสักหน่อย .. เอ๋ เอาไงดีน่าา ออ! ใช่เลย คุณสู้กับผมที่นี้ แล้วก็เผลอหลุดออกจากร่างของควีเวลล์ไปเพื่อหลบดัมเบิลดอร์ .. จนหนีไปถึงป่าอัลบาเนียเพื่อรอผู้เสพความตายช่วยเหลือ”


    แฮรี่พูดเองเออเองเสร็จสรรพยังไม่ทันให้อีกฝ่ายเอ่ยปาก .. แสงสีขาวจากคาถาตรงเข้าที่หน้าของอีกฝ่ายทันที พร้อมเสียงส่งท้าย…


    “ผมจะรอคุณเมื่อถึงเวลา..”


    ควันสีดำลอยพุงออกจากร่างของควีเวลล์ และร่างของศาตราจารย์ป้องกันตัวก็ล้มลงหมดสติไป .. แฮรี่มองควันสีดำ หยุดนิ่งเหมือนชั่งใจ รอยยิ้มบางของแฮรี่เผยขึ้นอย่างใจเย็น โบกมือลาอีกฝ่าย จนควันดำยอมลอยหายไปทางออก ..


    .. แฮรี่มองร่างที่ล้มลง ร่ายคาถาลบความทรงจำบางส่วนที่เขาเข้ามา .. ก่อนจะใส่ความทรงจำในอดีตไว้ให้ แค่เปลี่ยนจากร่างนั้นยุ่ยเป็นผุยผง ก็เหลือเพียงหมดสติไปเท่านั้น


    ศิลาสีแดงในมือของแฮรี่ถูกยกขึ้นมาดู .. และ…


    เพล้ง!


    หินสีแดงใสถูกปาตกลงข้างตัวของแฮรี่ราวกับเศษหิน .. เหมือนมันไม่มีค่าอะไรเลยเมื่ออยู่ในมือของเด็กชายที่เหมือนกับตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แฮรี่ไม่เคยสนใจในความเป็นอมตะ และในเมื่อมันเป็นปัญหานัก ก็ทำลายมันทิ้งเลยก็หมดเรื่อง .. นั้นเป็นสิ่งที่ทอมเคยสอนเขาเองนะ


    ออ.. เรื่องเมื่อกี้ ..


    เขาโกหกนะ หึหึ


    แฮรี่หันมองเศษซากศิลาอีกครั้ง และพยักหน้ากับตัวเอง


          อืม .. ต้องทำลายไม่ให้เหลือแม้แต่เศษซากให้รวมเลยจะดีกว่า..


    เปรี้ยง!!




    ไม่มีหรอกว่า อมตงอมตะอะไร

    น้องเขาแต่งเรื่องขึ้นมา ฮ่าาาาาๆๆๆๆๆๆๆๆ

    มีครบไม่ครบก็เหมือนเดิมนั้นแหละ

    ต้องถามน้องว่า ค่าแสดงใหญ่แบบนี้ เท่าไหร่กัน


    แค่หาเรื่องให้ทอมต้องยอมไปเก็บวิญญาณตัวเองกลับมา

    และตัวเขาก็นั่งเฉยๆ รอทอมมีสติครบโดยไม่ทำอะไรเลย

    ไม่แน่ น้องนี้แหละจะเป็นคนช่วยรวมวิญญาณกลับมาเอง


    ทอมจะเชื่อไม่เชื่ออีกเรื่อง แต่ทอมก็คงอยากได้ของตัวเองกลับมา

    และพอเห็นความสามารถน้องแล้ว ก็มีหวั่นเหมือนกันนะ



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ


    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×