ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #7 : Destinesia (7) คาบเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 61


    Destinesia (7) คาบเรียน


    ฮอกวอตส์ยังคงเหมือนเดิม นักเรียนต่างพากันพูดถึงเรื่องของเขาไม่เปลี่ยน แค่เขาทำผิดเล็กๆน้อยๆ ก็เหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ของใครหลายคน ทุกคาบเรียนยังคงน่าสนใจเสมอ ยกเว้นกับวิชาประวัติศาสตร์เวทยมนต์ที่น่าปวดหัว


    และคาบแรกของวิชาแปลงร่างก็มาถึง..


    “เฮ้! รอน ตื่นเถอะ ไม่งั้นเราจะไปสายนะ” แฮรี่ปลุกเพื่อนร่วมห้องที่นอนน้ำลายยืดอยู่บนเตียงด้วยสภาพดูไม่ได้เท่าไหร่ … เพื่อนเขากลืนน้ำลายพะงาบๆ คงบ่นที่มีคนปลุกนั้นแหละ


    แฮรี่เกาหัวเรียบของตัวเองอย่างครุ่นคิด เขาควรผลักเพื่อนใหม่เขาลงจากเตียงไปนอนกองกับพื้น เหมือนเมื่อวันก่อน หรือควรปล่อยไปเพื่อรับฟังเสียงบ่นของเพื่อนตัวเอง และไปนอนต่อ


    ก็นะ ครั้งแรกที่เราไปสาย ก็เพราะเขาไม่กล้าปลุกเพื่อนใหม่ของตัวเอง ผลสุดท้ายจบลงด้วยการที่พวกเขาหลงทางและโดนพวกผีในปราสาทแกล้งบอกทางผิด ..และเราก็ไปสาย เขาเลยต้องได้รับเสียงบ่นว่าไม่ยอมปลุกเพื่อนไปตามปริยาย..


    ‘ถ้าทำผิดแล้วไม่โดนจับได้ ถือว่าไม่ผิด’


    และคติประจำใจของแฮรี่ก็ไม่เปลี่ยน .. เขาเดินวนรอบเตียงเพื่อนเพื่อหาวิธีปลุกที่แนบเนียนที่สุด และเพื่อนเขาไม่ลุกมาด่าเขา ..  และ ปิ๊ง! ความคิดของเด็กชายพอตเตอร์ก็สว่างขึ้น .. แฮรี่ยิ้มบางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่คนนอนหลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย..


    รอน วีสลี่ย์ที่นอนฝันหวานกินไก่อย่างเอร็ดอร่อย แต่แล้ว..


    ซ่าาาาาา


    “เหวอๆๆๆ ฝนตกๆ” อยู่ๆน้ำจากที่ไหนก็ไม่อยู่สาดซ่าลงที่เด็กชายหัวแดงจนเขาสะดุ้งตื่น ลมวูบใหญ่พัดผ่านหน้า เรียกสติของรอนกลับมา .. เขาจับร่างกายตัวเอง ไม่มีแม้แต่น้ำสักหยด หรือความเปียกชื้นแม้แต่น้อย


    รอนได้แต่มึนงงพลิกผ้าห่มตัวเอง ก่อนจะเห็นแฮรี่ที่ยืดเท้าเอวอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้ากลั้นยิ้ม ..


    “ตื่นแล้วหรอ ไปได้แล้ว ไม่งั้นพายไก่ของนายจะหมดเอานะ” แฮรี่ยิ้มร่า แม้ตัวเองจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนสนิททำหน้าเอ๋ออยู่บนเตียง..


    รอนพยักหน้ามึนๆ แต่ก็ยอมลุกออกจากเตียงเพราะคำขู่ของแฮรี่ เด็กชายผมดำส่ายหน้า ก่อนจะเดินตามเพื่อนตัวเองไป


    รอบนี้เขามาทันศาตราจารย์มักกอนนากัลกำลังก้าวเข้าห้องพอดี .. แฮรี่ทักทายหล่อนเล็กน้อย แม้จะได้รับสีหน้าราบเรียบ แต่ก็ดูเมตตาเอ็นดูเมื่อเห็นดวงตาใสซื่อของแฮรี่ที่คุ้นเคย..


    “สวัสดีครับ ศาตราจารย์ .. เช้านี้พวกผมเกือบตื่นสายมาไม่ทันคาบเรียนของคุณแน่ะ” แฮรี่ยิ้มหวานเอาใจสตรีสูงวัย ได้รับสายตาแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบกลับเขาอย่างดี


    “โอ้ งั้นหมายความว่า ฉันโชคดี ที่พวกเธอมาคาบเรียนของฉันได้ตรงเวลาสินะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ แต่ก็ติดจะขบขันให้กับคำพูดของเขา


    “พวกผมเป็นเด็กขยันฮะ ศาตราจารย์ ” แต่สีหน้าของศาตราจารย์ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ ต้องไม่ลืมว่าวีรกรรมของพวกพ่อของเด็กชาย ก็มักจะปากหวานและประจบคนไปทั่วแบบนี้เนี่ยแหละ


    “แต่อาจจะดีกว่า ถ้าพวกเธอเข้าห้องเรียนได้แล้ว พวกเธอคงไม่ใช่คนแรกที่มาถึงห้องเรียนหรอกนะ” ศาตราจารย์เปิดประตูห้องเรียนเข้าไป โดยได้รับเสียงหัวเราะของสองกริฟฟินดอร์ตามหลังมา …


    ถึงศาตราจารย์เธอจะเข้มงวดแค่ไหน แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เย็นชากับเด็กที่มาทันได้ตรงเวลาคาบเรียนของเธอ.. และถ้าไม่แก้ตัวเพื่อหนีความผิด เธอก็จะลดหย่อนโทษให้กึ่งหนึ่ง .. แต่ก็ไม่ค่อยทำบ่อยๆนะ


    แฮรี่อยากลองทำตัวเหมือนพี่สาวเขาดูบ้าง เขาอยากลองทำตัวเป็นคนไม่เก่ง แต่ก็ไม่โง่


    คาบวิชาศาสตร์มืด ควีเวลล์ที่มีวิญญาณพ่อบุญธรรมเขาติดหัว ก็ยังคงเล่าเรื่องการผจญภัยต่างๆ ไม่ว่าจะหนีพวกผีดูดเลือด และพวกซอมบี้ ที่ชีวิตนี้เขาก็ยังไม่เคยเห็น ..


    แฮกริดยังคงเชิญชวนเขาไปนั่งดื่มชาที่กระท่อมของเขา .. รอนแทบฟันหัก เมื่อเขาเตือนอีกฝ่ายไม่ทันเกี่ยวกับการกินคุกกี้ของแฮกริด และเฮอร์ไมโอนี่ก็ดูจะชื่นชอบสัตว์วิเศษที่แฮกริดเล่าอย่างเคย..


    “โอ๊ยๆ แฮรี่ ทำไมนายไม่เตือนฉันก่อน … นี้มันก้อนหินชัดๆ ..” รอนแทบจะโยนคุกกี้สีดำของแฮกริดทิ้งเมื่อในอดีต ยังดีที่เขาห้ามปราบรอนไว้อย่างทุกครั้ง


    “ที่จริงก็อร่อยนะ แต่ควรจะทำให้นุ่มก่อน ไม่งั้นฟันนายอาจจะหักได้ ”


    “ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นสักหน่อย!”


    แย่จังแฮะ ตอนนี้เขาแทบจะคิดอะไรไม่ออก เขาควรจะทำยังไงกับเศษเสี้ยววิญญาณของทอมดีเนี่ย ..


    แย่ละสิ อีกไม่นานเขาก็จะไปเอาศิลาอาถรรพ์เพื่อชุบชีวิตตัวเองแล้ว…


    จากที่เขาเคยได้ยินมา เพราะการแย่งร่าง? หมายถึงวิญญาณของตัวเองออกมา เลยทำให้กระบวนการทางความคิดของทอมไม่สมบูรณ์ และกลายเป็นว่าทุกอย่างมันแย่และแย่ลงเรื่อยๆ จนออกนอกเส้นทางที่ควรจะเป็น .. ทั้งที่มันควรเป็นแค่การทะเลาะกันภายในกระทรวงเท่านั้น …


    กลายเป็น สงครามซะแบบนั้น…


    ตอนนี้เขาเคลื่อนไหวอะไรก็ไม่สะดวก .. ผ้าคลุมล่องหนเขาก็ยังไม่ได้ จะไปขอความเห็นใครก็ยิ่งแล้วใหญ่.. เขาแทบจะตัวคนเดียวเลยด้วยซ้ำ…


    เขาควรบอกดัมเบิลดอร์รึเปล่า.. แต่ถ้าเขาเอ่ยปากบอกอะไรไป มันก็สร้างความสงสัยนะสิ .. เขาทำได้แค่เดินไปตามเส้นทางแบบนี้นะหรอ?


    “ว่าไง พ่อพอตเตอร์คนดัง .. ดูดีขึ้นกว่าแต่เก่านิ สงสัยบ้านนายจะไม่มีจะกินจริงๆ” เสียงดังขึ้นเบื้องหน้าพร้อมคำเสียดสี ไม่ว่าเขาจะรู้จักอีกฝ่ายก่อนยังไง ดูท่าว่านิสัยมันก็ไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ..


    “อย่ามาหาเรื่องแฮรี่นะ .. นายอิจฉารึไงที่แฮรี่กินดีอยู่ดี” เอ้า นี้ก็อีกคน ดันไปเพิ่มโทสะมัลฟอยซะได้ และถ้าเขาเดาไม่ผิด..


    “ฉันไม่ได้ถามความเห็นแก ไอพวกทรยศ สงสัยวีสลี่ย์คงจะไม่ได้สอนมารยาท ถึงมาพูดแทรกคนอื่น .. ” นั้นไง เขาคิดอะไรผิดที่ไหน พวกนี้เจอกันต้องทะเลาะกันทุกที …


    เอาแล้วไง แล้วเขาจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดีเนี่ย .. เขาข้างใคร ก็จะโดนอีกคนเกลียดขี้หน้าอยู่ดี ..


    “ฉันดูแลตัวเองได้ ขอบใจ และจะดีมากถ้านายจะเลิกเรียกฉันแบบนั้น ” เขาก็บอกอยู่แล้วว่าเขาไม่ชอบ เลิกพูดว่าเขาเป็นคนดังสักทีเถอะ …


    เดรโกเลิกคิ้ว แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่า แฮรี่ไม่ชอบเรื่องชื่อเสียงเท่าไหร่ และอีกฝ่ายก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย .. น้ำเสียงแฮรี่ไม่ได้โกรธ แต่ก็ไม่ได้สนิทด้วย คุณชายสลิธีรินที่ขนาบด้วยสองสมุน เลยต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่นิดหน่อย ..


    “เห็นมั้ย วีสลี่ย์ พอตเตอร์ยังซาบซึ้งในความหวังดีของฉัน หึ .. มีแต่แกนั้นแหละที่คิดจะหาเรื่องคนอื่นเขาไปทั่ว .. ไปเถอะ พวกเรียกร้องความสนใจ น่ารำคาญ” เดรโกเดินผ่านพวกเขาไป ยิ้มหยันให้รอนเป็นการกระตุ้นความโกรธ ..


    รอนหัวฟัดหัวเหวี่ยงพาลไปทั่ว จนแฮรี่ต้องแต่ห้ามปราม เดินไปตามทางก็เอาแต่สรรยายความน่าหมั่นไส้ของมัลฟอยออกมาเป็นฉาก แต่ก็ดันเถียงมัลฟอยไม่ชนะสักที..


    คาบวิชาปรุงยาที่เขารอคอยมาที่สุดก็มาถึง… ห้องเรียนเต็มไปด้วยหม้อปรุงยาที่วางเรียงกันอยู่บนโต๊ะ .. ไม่มีใครกล้ามาสายกับคาบวิชาของศาตราจารย์ปรุงยาหน้านิ่งสักเท่าไหร่ เพราะได้ยินกิตติมศักดิ์ของสเนปดี ..


    เขาบอกตามตรงว่า เขาจำสิ่งที่สเนปพูดในคาบเรียนแรกไม่ได้ .. ก็ใครมันจะไปจำคำพูดประโยคยาวๆและดูถูกของสเนปได้ละ … ที่เขาจำได้มีเพียงใบหน้าเย็นชาและท่าทีไม่แยแสของอีกฝ่ายเท่านั้นแหละ


    เขานึกสงสัยมาทั้งชีวิต ว่าสิ่งที่เซเวอร์รัสตั้งใจจะบอกกับเขาในวันนั้น มันคืออะไรกันนะ ..


    เขาจดจำได้เพียงคำถามสุดท้ายเท่านั้น .. แต่นั้นก็ไม่ได้ตอบทุกอย่างที่เขาต้องการ...


    ดวงตาดำขลับที่คมกริบของอีกฝ่ายที่มองเขา มันลึกลับราวกับหลุมมืดที่ไร้ปลายทาง ที่มักจะมองผ่านเขาเสมอ .. เขายังจำได้ไม่มีวันลืม แม้ใบหน้าของอีกฝ่ายจะเลือนลางในความทรงจำเขาเต็มที่..


    ถึงพวกเขาจะติดต่อกันเสมอ แต่ก็เป็นเพียงแค่ทางจดหมายผ่านรอยยิ้มเท่านั้น …


    อ่า… ทำไมนะ .. ทำไม เขาอยากจะอยู่ฟังคำพูดดูถูก เหยียดหยามที่มักจะจับผิดและตำหนิเขาอยู่เสมอ .. แต่บางครั้งมันกลับเต็มไปด้วยคำเตือนที่แฝงมา  คำพูดเย็นชาไม่สนใจและตอกย้ำ ให้เขาย้ำเตือนตัวเองได้ทุกครั้ง ..


    สายตาชิงชังที่มักจะเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกของเขาเสมอ .. มันช่างขัดแย้งและน่าเกรงขามไปในตัว ทุกอย่างกลับลงตัวอยู่ในตัวของชายชุดดำคนนี้ …


    บางครั้งแผ่นหลังกว้างที่หันหลับให้เขา กลับดูเดี่ยวดายจนน่าใจหาย … เขาไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายสูญเสีย .. แม้จะเคยรับรู้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ .. อีกฝ่ายกลับเลือกยืนหยัดเพื่อเขามาตลอด


    นั้นคือสิ่งที่เขารับรู้..


    แก๊ง! ปึง!




    สเนปจะมาแล้ววววว

    คือที่จริงตอนนี้ยาวถึงตอนหน้า

    แต่มันดันยาวไป เลยตัดให้ป๋าโดยเฉพาะเลย

    แต่งไปจะร้องไห้ทุกที

    เจอเรื่องของสเนปทีไร จะร้องให้ได้เลย.. ;_;


    เผื่อเรือป๋าเราจะแล่นบ้าง...



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×