คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #89 : Destinesia (89) เพื่อเห็นตัวเองได้ชัดขึ้น
Destinesia (89) เพื่อเห็นตัวเองได้ชัดขึ้น
เขาไม่รู้ว่าผลักอีกฝ่ายออกห่างจากตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ และจำไม่ได้ด้วยว่าเขาทำหน้ายังไงในตอนนั้น … จำได้แค่ว่า เขาผลักหมอนั่นแล้ววิ่งหนีออกมาทันทีโดยไม่คิดจะหันกลับไปขอโทษอีกฝ่าย ..
อีกฝ่ายไม่ได้วิ่งตามมาเมื่อรั้งเขาแต่อย่างใด .. และเขาไม่รู้ว่าเดรโกจะทำหน้าแบบไหน ภายในหัวของแฮรี่ตั้งคำถามต่างๆมากมายว่าทำไม .. ตั้งแต่เมื่อไหร่ และเพราะอะไร…
เขายอมรับว่า เขาอาจจะโง่เรื่องอย่างว่า .. พวกเรื่องรักๆใคร่ๆ ไม่ว่าจะระหว่างชายหญิง หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันเองก็ตาม.. แต่ต่อให้เขาจะโง่แค่ไหน แฮรี่คงไม่คิดว่า ตัวเองจะต้องทำหน้างุนงงตั้งคำถามตั้งแต่ตอนนั้น .. …
การจูบ. มันชัดเจนโดยไม่ต้องขอคำอธิบาย…
การกระทำที่ไม่ควรจะทำกับใครที่ไหนแบบนั้น ..
“.... เดรโกเนี่ยนะ ชอบผม...” เขาพึมพำลูบคางตัวเองอย่างคนคิดไม่ตก คนที่เคยทะเลาะกันมาตลอดอย่างพวกเขา … หาอะไรมาชอบกันนะ ..
เขาไม่คิดว่าตัวเองจะมีข้อดีอะไรที่ให้อีกฝ่ายชอบหรอกนะ …
หมอนั่นชอบชื่อเสียงก็ใช่อยู่ แต่คงไม่ได้ชอบที่ตัวบุคคล.. เดรโกที่เขารู้จักคงไม่ใช่คนที่จะคิดใช้ชื่อเสียงเขาเพื่อเพิ่มชื่อให้ตัวเองหรอกนะ .. ทั้งที่มันก็ไม่มีอะไรมาตลอดแท้ๆ แล้วมันเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนกัน …
“หัดฉลาด”
ฉึก! … แฮรี่แทบสะอึกจากคำถากถางสั้นๆของเจ้าของห้อง … เขาไม่ถึงกลับสติแตกแล้วลืมเรื่องอื่นง่ายๆ พอโตขึ้น มันก็มีเรื่องหลายๆเรื่องที่ต้องแยกออกจากกันให้ได้ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว แม้ส่วนใหญ่ เขาจะใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินก็ตาม
สเนปหรี่ตาจับผิดเด็กเหม่อลอยบางคนที่นั่งหน้าสลอนอยู่ในห้องตัวเอง .. คนที่น่าจะตามติดเด็กชายอย่างลูกทูนหัวเขาดันหายไปไหนก็ไม่รู้ แต่ดูจากสภาพเด็กนี่แล้ว .. คงมีเรื่องอะไรมาสักอย่างเป็นแน่…
แต่เขาไม่ใช่คนที่ชอบเรื่องยุ่งยาก … เชื่อเลยว่าหากเขาถามไป นอกจากเด็กนี่จะกล้าถามกลับแล้ว มันจะต้องพาความปวดหัวมาให้เขาด้วยเป็นแน่ .. และเขาจะไม่เป็นคนเอ่ยปากถามเด็ดขาด
เจ้าเด็กจอมยุ่ง..
.แฮรี่กัดปากตัวเองอย่างไม่เข้าใจ..
เขารักพ่อทูนหัวเขาอย่างซีเรียส มีความสนุกและตลกอยู่ในตัว
เขายกย่องพ่อบุญธรรมอย่างทอม มีความเก่งกาจและเด็ดขาดในสายเลือด
แฮรี่ไม่อยากนับรวมพี่สาวบุญธรรม อย่างน้อยมันก็เป็นความรักแบบพี่น้อง .. ตัวเขามั่นใจยิ่งกว่าใครดี .. และไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนสวยและเก่งได้เท่าพี่เขาอีกแล้ว ..
เพราะงั้นในอดีตเขา ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรัก นอกจากความรักในครอบครัว.. ยิ่งพอคิดว่า หากเซเวอร์รัสไม่มีแม้แต่ท่าทีตกใจในสิ่งที่เขาพูด อีกฝ่ายก็คงรู้อยู่ก่อนแล้ว … แปลว่ามีแค่เขาที่ไมเคยเข้าใจความรู้สึกเดรโกจริงๆเลย ..
“ผมไม่เข้าใจ … เดรโกก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว .. มันแตกต่างจากในตอนแรกตรงไหน”
“ตรงที่เธอโง่ พอตเตอร์” สเนปแค่นเสียงสวนความคิดเด็กชายทันควัน มองร่างอีกฝ่ายที่นั่งกัดปากอยู่กลางห้อง … ภาพตรงหน้าดูยังไงก็เป็นแค่เด็ก ยิ่งโตสมองยิ่งหดเล็กลง..
แฮรี่หน้านิ่งงันโคลงหัวให้ตัวเอง …. เขาโง่แค่ไหนในสายตาเซเวอร์รัสกัน ..
เขาต้องยอมรับว่าตัวเองโง่ต่อหน้าร่างสูงใช่มั้ย?
“ครับๆ ผมผิดเองแหละ” ทำไมเขารู้สึกว่า ยิ่งอยู่นาน สมองเขายิ่งถดถอยลง…
ร่างเล็กถอนหายใจแผ่ว ไม่ได้คิดจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายฟังแต่อย่างใด และเจ้าของห้องก็ไม่มีความคิดอยากรับรู้เรื่องราวตรงหน้าด้วย … เรื่องของเด็กก็ให้ไปเคลียร์กันเองซะ เขาไม่มีหน้าที่ต้องไปจัดการ …
แฮรี่ก็พอจะเดานิสัยอีกฝ่ายออกอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ทุกเรื่องจะนับเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมดสำหรับร่างสูงอย่างไม่ต้องเดา…
“รู้ตัวแล้ว ก็หัดทำตัวให้มันมีหัวคิดบ้าง ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตอบคำถามไร้สาระได้ตลอดเวลาหรอกนะ”
“แต่คุณก็ตอบผมทุกครั้งไม่ใช่หรอฮะ..”
.. แฮรี่ลืมไม่ลงหรอกว่า อีกฝ่ายชอบใช้คำพูดทำร้ายจิตใจเขาแค่ไหน … เพราะแปลว่า ทุกครั้งอีกฝ่ายใส่ใจรับฟังเรื่องราวของเขาจนจบทุกประโยค .. และมันจะจบลงด้วย…
“จนกว่า จะเลิกตั้งคำถามโง่ๆ ทั้งที่จริงๆแล้ว รู้ตัวดีว่าควรทำยังไง”
แฮรี่รู้ดีว่าที่อีกฝ่ายหมายถึงคืออะไร … เขารู้แก่ใจดีว่า นิสัยอย่างเขาไม่ชอบอะไรให้มันซับซ้อนค้างคาอยู่แบบนี้ แต่บางทีเรื่องบางเรื่องมันยังไม่ถึงจุดลงตัวที่จะพูดอะไรขึ้นมาได้ …
และเดรโกไม่ได้บังคับเขาให้เข้าใจเรื่องที่อีกฝ่ายจะสื่อ อีกฝ่ายรู้จักนิสัยเขาดีราวกับเพื่อนสนิท ที่ตอนนี้คิดไม่ซื่อ … หมอนั่นรู้ดีว่า ถ้าเขายังตัดสินไม่ได้ว่า เขาควรจะวางอีกคนไว้ตรงไหน .. เขาจะไม่มีทางเขาไปปรับความเข้าใจเป็นแน่…
“ผมรู้ .. ”
บางที พวกเขาทั้งคู่ กำลังถอยห่างจากกัน .. เพื่อยอมรับและเข้าใจความจริงบางอย่าง .. ยอมรับรู้ว่าทุกอย่างต่อจากนี้ มันจะไม่มีทางเหมือนเดิม…
เขาไม่ได้ไม่ชอบ และก็ไม่ได้เกลียดเดรโก … กับอีกฝ่ายเป็นมากกว่าเพื่อน แต่ก็ไม่เคยเกินเพื่อนมาตลอด .. จนมาถึงวันนี้ เขารู้ว่ามันมาถึงเวลา ที่จะต้องปรับความเข้าใจกันทั้งหมดเสียที…
“แล้วผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วครับ ช่วยอย่าโยนของขวัญผมไปไว้มุมห้องแบบนั้นได้มั้ย … ”
สเนปแค่นเสียงขึ้นจมูกพร้อมเบือนหน้าหนีใบหน้าบึ้งตึงของเด็กตรงหน้าที่เปลี่ยนอารมณ์และเรื่องไวยิ่งกว่าอะไรดี .. แฮรี่แทบช้ำใจทุกครั้ง ที่ร่างสูงมักรับ(โยน)ของขวัญทุกเทศกาลของเขาไปกองรวมไว้มุมห้อง .. แทบจะมีของนับชิ้นได้เลยที่อีกฝ่ายจะจำใจหยิบขึ้นมาใช้…
“ของไร้สาระแบบนั้น ใครจะใช้กัน.. เลิกพูดมากแล้วกลับไปได้แล้ว”
ไอพวกของจิปาถะยิบย่อยที่ส่วนใหญ่เขาก็มีอยู่เต็มห้องอยู่แล้ว .. พวกถุงมือหมวกผ้าพวกนั้น .. มันเกะกะเวลาทำงานจะตายไป .. ให้ตายเขาก็ไม่หยิบมันมาใช้ให้เจ้าเด็กนี้ยิ้มหน้าตายเป็นแน่
“แต่คุณก็ยอมใส่เสื้อที่ผมซื้อมาให้ไม่ใช่หรอ?”
สเนปนิ่งไปเล็กน้อย หลักฐานมันก็เต็มตาอีกฝ่ายอยู่ … ถึงไม่ได้แสดงท่าทีดีใจออกนอกหน้า แต่ดวงตาคู่นั้นมันก็ไม่ได้ปิงปังความรู้สึกที่ถูกส่งมาให้เขาหรอกนะ ... แต่เวลาเอ่ยปาก มันก็ไม่อยากจะชมเจ้าเด็กนี่เลย ให้ตายสิ ..
และก็เป็นอย่างเคย ... พอร่างสูงเอ่ยปากเท่านั้นแหละ .. ความรู้สึกอื่นที่เข้ามาแทนที่…
“เป็นอย่างเดียวที่ดูมีประโยชน์ที่สุดในกองของไร้สาระพวกนั้น”
อารมณ์หดหู่เมื่อครู่นี้แทบปลิวหายไปเพราะคำถากถางจากอีกฝ่าย ผสมกับความน้อยใจให้ร่างสูง ซึ่งรับรู้แต่ก็ปล่อยผ่าน .. เขาก็ไม่ใช่เด็กๆจะมาตอแยให้อีกฝ่ายใช้ของที่เขาให้สักหน่อย.. แต่ทำไงได้ ..
“ผมควรจะซื้อเสื้อให้คุณทุกปี” แต่นอกจากชุดสีดำ อีกฝ่ายจะยอมใส่ชุดอะไรได้อีก
“ไร้หัวคิด … สิ้นเปลือง”
“งั้นคุณอยากได้อะไรล่ะ ไม่ยอมบอกผม แล้วผมจะรู้ได้ยังไง”
แม้ทุกคำด่าแต่ละคำของอีกฝ่าย ไม่ได้ทำให้แฮรี่เลิกความคิดที่จะหาของขวัญมาให้.. แฮรี่เก็บกองของขวัญของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ปากก็โต้ตอบอีกฝ่ายอย่างเป็นธรรมชาติแทบจะไม่หันไปมองหน้าเจ้าของห้องที่มองเขาตาไม่กระพริบ ...
อา หรือเขาปรุงยามาให้อีกฝ่ายดีรึเปล่าน่า… หรือเขาควรขอพิษเฮกเตอร์สักสองสามหยด .. พิษจากบาสิลิกซ์คงเป็นของล้ำค่าแน่เลย.. ไม่สิ หากเขาปรุงยาได้เลย แล้วเอามาให้เซเวอร์รัส สักวัน เขาอาจจะได้รับคำชมที่หลุดออกมาอีกก็ได้ ...
แฮรี่ผงกหัวไปมากับความคิดของตัวเอง กับสเนปที่คาดเดาสีหน้าเด็กชายจอมหาเรื่องออก..
“เลิกหาเรื่องใส่ตัวเอง” สเนปส่งสายตาคาดโทษล่วงหน้า..
“เรื่องของคุณ ผมเต็มใจทำให้.. ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย”
“..........”
เขาหมายความว่า …
ช่วยเลิกหาเรื่องใส่ตัวเอง ให้เขาเป็นห่วงสักที
มันจะเป็นอะไรที่ดีมาก…
ซึ่งเจ้าเด็กนี่ คงไม่มีวันเข้าใจ...
อย่างที่บอก น้องเขาไม่ใช่สายมานั่งโวยวาย??
น้องโตพอที่ควรจะเว้นระยะห่าง
เพื่อกลับมาถามตัวเองให้ชัดเจนกว่าเดิม
เราอยากให้เห็นว่า ต่างคนต่างให้เวลา
ไม่ใช่เอะอะก็เข้ามาถาม เขามาคาดคั้นเอาคำตอบ
พี่เดรเราอาจจะใจร้อน แต่ความอดทนสูง
น้องเขาอาจจะใจเย็น แต่เป็นพวกคิดมากค่ะ
ให้เวลาพวกน้องเขาเข้าใจตัวเองกันก่อนเนอะ
PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง
ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์
ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น