ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #25 : Destinesia (25) ชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.92K
      682
      5 พ.ค. 61

    Destinesia (25) ชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่


    ไม่ต้องพูดถึงเรื่องในตรอกไดแอกอน .. ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่อยู่กับครอบครัววีสลีย์ที่ชอบจะพูดชื่อเขาเสียงดังด้วยแล้ว .. ศาตราจารย์จอมโป้ปดก็สังเกตเห็นเขาราวกับมีแม่เหล็กดูดมา


    มัลฟอยทั้งสองหัวดูจะชื่นชอบมากในการถากถางเขาที่ได้รับชื่อเสียง แม้จะมีสายตาล้อเลียนจากเดรโกที่ดูจะรู้ว่าเขาอึดอัดใจแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมเลิกหาเรื่องเขานั้นแหละ…


    ‘แผลเธอเป็นตำนาน เช่นเดียวกับพ่อมดคนที่ทำให้มันเกิดขึ้น’ พ่อคุณชายยังคงเหมือนเดิม ในฐานะที่คนมากมายมองเขาอยู่ จำต้องแสดงละครต่ออย่างเสียไม่ได้..


    ‘และถ้าผมปราบเขาลงได้ ผมก็จะเป็นยิ่งกว่าตำนวน’ เป็นคำพูดที่ดูจะโอ้อวดในสายตาคนอื่น ลูเซียสหน้านิ่งไม่ติด คิ้วที่กระตุกขึ้นกับคำบอกเล่าสั้นของแฮรี่ ดูท่าว่าเขาจะประเมินแฮรี่ พอตเตอร์ต่ำเกินไป ..


    และเด็กชายก็กวนประสาทอย่างที่เดรโกเล่าไว้จริงๆ


    สถานีรถไฟคิงส์ครอสในวินาทีฉุกละหุกเต็มที เพราะครอบครัววีสลีย์มาสายจนใกล้ถึงเวลาที่รถไฟสายด่วนฮอกวอตส์จะออกขบวนแล้ว วีสลีย์แต่ละคนวิ่งเข็นรถใส่หีบของหายวับไปในกำแพงตรงชานชาลาตามลำดับ


    พี่น้องหัวแดงไม่มีปัญหาในการผ่านตรงชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่


    แต่คงไม่ใช่กับ .. แฮรี่ พอตเตอร์


    “ไปก่อนเลยรอน”. เพื่อตัดปัญหาในการขับแองเกลียคันเก่าของลุงอาเธอร์ .. แฮรี่เลยให้รอนไปก่อนเลย เพื่อนผมแดงพยักหน้าอย่างไม่คิดอะไรมาก  และก็เป็นไปตามคาด .. กำแพงปล่อยให้รอนทะลุผ่านไปได้อย่างง่ายดาย .. เพียงแต่..


    ปึก… ก็ตามคาดอีก .. รถเข็นของแฮรี่ชนกำแพงอย่างไม่ต้องสงสัย .. เฮ็ดวิกกระพือปีกตกใจที่ชนเข้ากับกำแพงจนกรงโยก.. แฮรี่จ่อรถเข็นชนไว้กับชานชาลาแบบนั้น ตัวเขาพิงกับรถเข็นเพื่อรอคอยเวลา..


    อย่างน้อยถ้าครอบครัววีสลีย์ไม่เห็นเขา ก็น่าจะให้หนึ่งในคนใดคนหนึ่งไปแจ้งข่าวกับฮอกวอตส์ว่า เขาคงตกชานชาลาอยู่ที่สถานีรถไฟนั้นแหละ.. อย่างที่เขาบอกว่า ..ไม่มีทางที่ศาตราจารย์ในฮอกวอตส์ จะทิ้งเขาไว้นอกโลกเวทยมนต์แน่นอน …


    สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว แฮรี่นั่งกร่อยบนสัมภาระของตัวเอง .. และเขาคงเป็นภาระไม่น้อยกับคนที่เดินหน้าตาบึ้งตึงมารับเขา.. ร่างสูงในชุดดำหน้าตาบอกบุญไม่รับ ยิ่งหน้าดำคล้ำเครียดเข้าไปอีก เมื่อเห็นร่างเด็กชายนั่งสบายอกสบายใจอยู่หน้าทางเข้าออกชานชาลา..


    แฮรี่ยิ้มบางมองผู้มาใหม่ ..มีความอึดอัดเกิดขึ้นกับรอบตัวพวกเขา สเนปยืนหน้านิ่งมองเด็กชาย แฮรี่ก็นั่งนิ่งมองสเนป .. ก่อนที่แฮรี่จะเป็นฝ่ายขยับตัวก่อน .. ร่างเล็กเดินตรงเข้ามาหาร่างสูงที่ยืนอยู่โดยไม่พูดอะไร เพราะเขาก็ไม่อะไรแก้ตัว และคนตรงหน้าคงไม่เชื่อเรื่องที่เขาเล่าแน่ๆ…


    “เราจะเดินทางกลับฮอกวอตส์ที่ตรอกไดแอกอน .. ส่วนของพวกนั้นจะถูกส่งตามไปทีหลัง.” สเนปไม่พูดอะไรมาก เพียงบอกจุดหมายใหม่โดยแฮรี่ก็พยักหน้าแต่โดยดี .. สเนปคงจะผ่านทางตรอกไดแอกอนมาเช่นกัน ..


    “คุณไม่ถามอะไรผมหน่อยหรอ?” แฮรี่ก็ได้แต่สงสัยท่าทีแปลกไปของสเนป เพียงแต่ยังไม่รู้ว่า แปลกไปเพราะอะไร เพราะคำพูดเขาครั้งก่อนหรอ? สเนปไม่น่าจะเก็บคำพูดเข้ามาใส่ใจขนาดนั้น


    สเนปไม่พูดอะไร พลางเดินนำเด็กชายไป .. ร่างของเด็กชายดูจะเบาแทบปลิวอย่างที่เดรโกบอก.. ค่อนข้างไม่อยากจะเชื่อว่า ครอบครัวของพี่สาวลิลี่จะดูแลเด็กชายแบบนั้น . สเนปอยากจะไปให้เห็นกับตา แต่ก็กลัวความจริงที่จะได้รับ …


    เพราะเขาไม่เคยถามพอตเตอร์เลย .. เด็กชายไม่มีท่าทีอมทุกข์เพราะการดูแลจากญาติตัวเองเลยแม้แต่น้อย .. แค่มองฝ่ายนอก ก็แค่คิดว่าเด็กชายโตช้าไปสักหน่อย ไม่เคยคิดว่าจะมีอะไรมากกว่านั้น …


    แม้อยากจะถาม .. แต่เขาจะถามเนื่องจากสาเหตุอะไรละ …


    แฮรี่มองตามหลังเซเวอร์รัสอย่างครุ่นคิด อีกฝ่ายก็ยังคงอ่านยากเช่นเดิม แม้เขาจะอายุสมองมากขึ้น … ร่างสูงยังคงบรรยากาศเยือกเย็นอย่างสลิธีรินไว้ได้ไม่มีเปลี่ยน.. เขาจะหาวิธีไหนมองผ่านหน้ากากแบบนั้นได้มั้งนะ …


    “คุณจะไม่ถามผมจริงๆหรอ? คุณมีสิทธิจะถามผมได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว คุณเป็นศาตราจารย์นิครับ .. ” แต่อยู่ที่ว่า เด็กชายอยากจะตอบรึเปล่า ก็อีกเรื่องหนึ่ง..


    “ทำไมเธอถึงไม่ขึ้นรถไฟ พี่น้องวีสลีย์โวยวายแทบจะลั่นฮอกวอตส์ เพราะหาตัวเธอไม่เจอ..” สเนปยอมเปิดปาก แต่ก็โทษแฮรี่ว่าเป็นสาเหตุของความวุ่นวายที่ครอบครัวหัวแดงทำขึ้น ทั้งที่จะมาด้วยกันแท้ๆ


    “พอผมเข็นรถเข้าชานชาลา ผมกลับไม่ทะลุเข้าไปนะฮะ .. คงมีคนไม่อยากให้ผมกลับไปฮอกวอตส์อยู่กับญาติพี่น้องผมละมั้ง” แฮรี่เอ่ยพร้อมทำท่านึกคิด .. ใครๆก็อยากให้พอตเตอร์มาฮอกวอตส์อยู่แล้ว น่าแปลกใจที่เด็กชายคิดได้แบบนั้น ..


    “ญาติเธอ...” สเนปคำพูดสะดุด แฮรี่ที่กำลังมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาที่คุ้นเคย จนสเนปกลืนคำพูดกลับไปอย่างไม่รู้ตัว “ยังดีที่เธอพอจะมีความนึกคิด ไม่เหมือนพ่อเธอ .. เพราะเขาคงไม่รออยู่เฉยๆเป็นแน่” ก็วกกลับมาที่คำดูถูกเช่นเดิม จนแฮรี่อยากถอนหายใจอีกครั้ง…


    “ผมไม่รู้จักพ่อตัวเองหรอกครับ ..คุณก็รู้นิ  เกิดมาผมก็ไม่เคยจดจำหน้าพวกเขาได้ด้วยซ้ำ” คำพูดของแฮรี่ยังคงตอกย้ำสเนปเช่นเดิม .. ใบหน้านิ่งสงบแต่ในใจกลับสับสน .. คำพูดของเด็กชายนั้นถูก .. ไม่ว่าเขาจะพูดแค่ไหน เด็กชายก็ไม่มีวันเข้าใจ ว่าคนเช่นเจมส์ พอตเตอร์เป็นเช่นไร


    นอกจากความทรงจำของตัวสเนปเอง…


    “หึ พ่อเธอเป็นคนอวดเก่ง หยิ่งยโสโอหัง พ่อเธอไม่คำนึงถึงกฏระเบียบของโรงเรียน สร้างเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน .. ก็หวังว่าเธอจะไม่เป็นอย่างทีกล่าวออกมา” สเนปปรายตามอง เห็นรอยยิ้มสดใสเผยขึ้น เด็กชายก็ยังคงเป็นเด็ก ที่ยังอยากฟังเรื่องราวเก่าๆของพ่อแม่ตัวเอง ที่ตัวเองไม่เคยรับฟัง


    “แล้วแม่ผมละฮะ คุณรู้จักเธอมั้ย .. เธอสวยรึเปล่า แล้วผมมีอะไรเหมือนบ้าง” แฮรี่ที่เห็นสเนปเริ่มเปิดใจโดยตัดเพียงภาพภายนอกออก .. เขาไม่ใช่เจมส์ พอตเตอร์ แม้จะเหมือน แต่ไม่มีวันเหมือน..


    เซเวอร์รัส ลดท่าทีลงเมื่อพูดถึงแม่ของเด็กชาย .. คนหนึ่งเขาเกลียดสุดหัวใจ แต่อีกคนเขาก็รักยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง … แม้จะโอบกอดเธอได้เพียงร่างไร้ลมหายใจของอีกฝ่ายเท่านั้น ..


    แต่อย่างร่างสูงน่ะหรือ จะพูดถึงแม่ของเด็กชายตรงๆ ..


    “ไม่เหมือนสักนิด โดยเฉพาะ..เธอ ชอบสร้างแต่ปัญหาและโต้เถียงศาตราจารย์ . และเธอก็ไม่ควรไร้มารยาทถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่นเขา พอตเตอร์” แฮรี่ก็กะไว้อยู่แล้ว ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางพูดถึงแม่เขาต่อหน้าเขาตรงๆเป็นแน่..


    พวกเขาเดินทางถึงตรอกไดแอกอนในเวลาไม่นาน .. ผู้คนน้อยลงแต่ก็ยังครึกครื้น ยังคงจับจ่ายใช้สอยของใช้ต่างๆ มีเพียงแฮรี่ที่เป็นชุดเด่นเป็นพิเศษ เพราะชุดฮอกวอตส์และรถเข็นบ่งบอกความเป็นนักเรียน..


    “รถเข็นและข้าวของต่างๆจะถูกนำไปฝากไว้ เย็นนี้จะมีเอลฟ์มาเอาให้ .. ทุกคนคงไม่ว่างเพื่อมาอยู่ดูแลเธอตลอดเวลา คงเข้าใจใช่มั้ย ” สเนปว่า แน่นอนว่าแฮรี่ก็ไม่ได้เถียงอีกฝ่าย เพราะตัวเองก็กำลังเป็นภาระให้คนตรงหน้าเสียเวลาเช่นกัน..


    พวกเขาเยี่ยมเยือนร้านขายไม้กายสิทธิ์ของคุณโอลิแวนเดอร์ เพื่อจะใช้เครือข่ายฟลู ไปใกล้กับฮอกวอตส์มาที่สุด เพราะคงจะดีเกินไป หากสเนปพาเขาหายตัวเขาฮอกวอตส์เลย ..


    “ผมคิดเสมอว่าคุณใจดีนะ ศาตราจารย์เซเวอร์รัส” อยู่ๆเด็กชายก็เอ่ยอะไรแปลกๆ และจะแปลกยิ่งไปอีก เพราะคำเรียกที่เด็กชายเรียก  


    “เลิกพูดอะไรไร้สาระ พอตเตอร์ รีบไปได้แล้ว ถ้าฉันไปถึง แล้วไม่เห็นหน้าเธอละก็ .. ฉันจะ....สั่งหักคะแนนเธอ” แฮรี่ไม่รู้จะยิ้มแบบไหน เพราะยิ้มจนแก้มปริ อะไรคือสั่งลงโทษเขาด้วยการหักคะแนนบ้าน .. แฮรี่ก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี ..


    ที่ต่อมาคือภายในร้านหัวหมูในฮอกส์มี้ด จากตรงนี้ แค่นิดเดียวก็ถึงฮอกวอตส์แล้ว .. เซเวอร์รัสตามมาในทันที เมื่อเห็นเด็กชายยืนยิ้มหน้าสลอน ก็อยากจะหักคะแนนให้มันสำนึกจริงๆ


    ทำตัวเป็นปัญหาให้คนอื่นเขาตามแก้ ยังจะมายิ้มอยู่ดี .. ไม่สำนึก..


    “ที่ผมบอกว่าคุณใจดี ก็มีหลายเหตุผลนะครับ ..” แฮรี่ว่าต่อเมื่อเดินออกจากร้านหัวหมูมา .. เขานึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ แม้จะผ่านมาไม่ถึงปี แต่ก็แสดงให้เห็นว่า สเนปคอยตามดูเขาอยู่ห่างๆ แม้จะไม่แสดงออก


    “......” อีกฝ่ายเงียบ แม้ตอนนี้จะเดินขนาบข้างเด็กชายก็ตาม..


    “ตอนที่แข่งควิดดิช คุณก็พยายามช่วยผมอย่างลับๆ ทั้งที่จะสั่งให้หยุดการแข่งได้ ” แฮรี่ยิ้มบางมองอีกคนด้วยสายตาคู่สวยที่น่าค้นหา .. มันเต็มไปด้วยความเข้าใจ ทั้งที่ไม่ควรจะรับรู้ .. สเนปเผลอจ้องมองเข้าไปในดวงตาเด็กชาย บางอย่างดึงความสนใจเขาจนไม่อาจถอนออกมาได้ ..


    “และในการแข่งครั้งต่อๆมา คุณที่ไม่เคยเป็นผู้ตัดสินเลยสักครั้ง กลับเลือกจะมาเป็นผู้ตัดสินซะได้ ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า มันไม่ใช่เพราะผม” เสียงหวานยังคงเอ่ยราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเขา มันคือความใส่ใจที่หาไม่ได้จากใครที่ไหน..


    ไม่โวยวายแบบรอน .. ไม่ครุ่นคิดอย่างเฮอร์ไมโอนี่ ไม่ตรงไปตรงมาเหมือนเดรโก.. แต่กลับเลือกที่จะปกปิดตัวเองจากเขาอย่างสิ้นเชิง..


    “และถ้าไม่ใช่คุณ ใครกันจะมาเจอผมที่ชั้นสามเร็วขนาดนั้น ” ถ้าคุณไม่ได้คอยระวังท่าทีผิดปกติของควีเวลล์อย่างไม่ไว้วางใจเลย ตั้งแต่เหตุการณ์โทรลล์ที่ห้องน้ำ


    ก็เป็นคุณเสมอ ที่เร็วยิ่งกว่าใครๆ..


    “ฉันก็เพิ่งรู้ว่า นอกจากอวดเก่งแล้ว เธอยังหลงตัวเองอีก ในฐานะที่ฉันต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของฮอกวอตส์ เรื่องพวกนั้นมันเป็นเรื่องที่ฉันต้องจัดการอยู่แล้ว” สเนปแก้ต่างอย่างชัดเจน แฮรี่แทบยู่หน้าอย่างน้อยใจ ทำไมสเนปจะต้องขัดเขาอีกแล้วเนี่ยยย..


    “ฮึ คุณก็แบบนี้ตลอดนั้นแหละ” แฮรี่ถึงกลับงอล เดินนำอีกฝ่ายไปด้านหน้า สเนปถอนหายใจต้องเดินตามร่างเล็กไปอย่างเสียไม่ได้ ตอนที่กำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ก็ต้องเก็บกลับไป เมื่อเห็นเด็กชายเริ่มก่อเรื่องอีกแล้ว..


    “ศาตราจารย์สเนป ผมขอเข้าไปซื้อขนมหน่อยจะได้มั้ย? พวกนั้นดูน่าอร่อยมากเลย” แฮรี่ว่าพลางส่งสายตาปริบๆให้อีกฝ่าย ไม่ได้เห็นใบหน้าตึงเครียดที่จางหายไป เหลือแค่ความรำคาญแทน ..


    สรุปเป็นเขาหรือเด็กนี้กันที่จริงจังมากเกินไป..


    เมื่อกี้เด็กนี้ก็แค่พูดไปเรื่อยเท่านั้นแหละ.. อีกฝ่ายก็ยังเป็นแค่เด็กจริงๆ..


    “เราไม่ได้มาเที่ยวกัน พอตเตอร์ อย่าลืมว่าเธอต้องกลับไปรับโทษที่มาโรงเรียนสายอีกนะ” สเนปจัดการลากแฮรี่เดินผ่านร้านขนมหวานที่เด็กชายจ้องจนน้ำลายแทบไหล .จนหน้าเด็กชายดูทุเรศขึ้นในความคิดสเนป


    แฮรี่หน้าจ๋อย แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม..


    “อ่า! ปากกาขนนก คุณช่วยซื้อปากกาอันใหม่ให้ผมหน่อย ด้ามเก่าผมหัวมันบิ่นจนหมึกเริ่มเขียนไม่ติดแล้ว” แฮรี่ยกมือชี้ร้านขายปากกาเป็นที่ต่อมา สเนปตากระตุก ทำไมเขาต้องซื้อให้เด็กนี้ด้วย?


    “มันเป็นเรื่องของเธอ นี้เพิ่งวันเปิดเรียน ทำไมเธอถึงไม่เตรียมตัวให้มันพร้อม”


    “ผมยังไม่เจออันที่ถูกใจเลย ” ถ้าได้จากคุณก็คงดี ..


    “แล้วทำไมถึงต้องขอให้ฉันซื้อให้ด้วย เธอไม่มีเงินติดตัวรึไง?”


    “ก็ผมอยากให้คุณซื้อให้ไง ” แฮรี่ว่าพลางยิ้มหวาน สเนปพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไปตกหลุมพลางดวงตาคู่สวยนั้นอีกแน่ ..

    ร่างสูงย้ำกับตัวเองว่าจะไม่มีทางฟังสิ่งที่เด็กชายบอก ตั้งแต่วันที่อีกฝ่ายบุกเข้าห้องเขาแล้ว..


    “แล้วเมื่อกี้เธอจะเอาเงินที่ไหนซื้อพวกขนมไร้สาระกัน ถ้ามีเงินแล้ว ก็ซื้อเองซะสิ” ในเมื่อมันเป็นแค่ปากกาขนนก สเนปก็ยังคงพอให้แฮรี่เอาแต่ใจได้ แต่มันแค่ครั้งนี้เท่านั้-.....


    “ก็เงินคุณไงฮะ ผมไม่ได้พกเงินติดตัวมาเลยสักเหรียญเลยนะ จะเอาที่ไหนไปซื้อ ผมถึงบอกให้คุณซื้อให้ผมหน่อย.” แฮรี่ว่าแบบนั้น รอยยิ้มยังไม่หมดไปจากหน้า บอกอีกนัยหนึ่งคือ .. ผมอยากให้คุณซื้อให้ผมทุกอย่างเลย


    เด็กนี้คิดจะใช้เงินเขาซื้อขนม…


    พรึ่บ..


    “เหวอออ ศาตราจารย์สเนป! อ่าา อะโธ่ ร้านปากกาเลยไปนู้นแล้ว ” ไม่ทันให้แฮรี่ได้เดินต่อ เด็กชายถูกคว้าคอเสื้อลอยจากพื้น สเนปเก็บสีหน้าแม้ร่างเด็กชายจะเบาจนเขาไม่รู้สึกหนักเลย .. แต่ก็ต้องหิ้วแฮรี่กลับฮอกวอตส์ ก่อนที่จะต้องฟังเขาบ่นอีก..


    “ เราไม่ได้มาเที่ยวเล่น และเงินของฉันก็มีค่ามากกว่าจะเอาไปซื้อของไร้สาระให้เธอ พอตเตอร์” สเนปเหมือนหิ้วคอแมวที่เริ่มพยศ แฮรี่จับคอเสื้อตัวเอง แม้จะส่งสายตาน่าสงสารไปให้ร่างสูง ที่ตอนนี้ไม่เหวี่ยงเขาทิ้งข้างทางก็ดีแค่ไหนแล้ว..


    “แต่ปากกาผม...”


    “ไม่มีแต่ ไม่ว่าเธอจะพูดยังไง เธอจะไม่ได้อะไรทั้งนั้น” สเนปยื่นคำขาด จนแฮรี่เริ่มตีหน้าเศร้าเรียกร้องความเห็นใจ..


    “แต่ผมหิว…..” แฮรี่ครางพลางทำหน้าเศร้า..


    “..........ไม่” สเนปหรี่ตารู้ทัน.. เด็กชายควรบ่นนานแล้ว และหิวก็ควรจะกินอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ใช่ขนม...


    สเนปไม่หยุดเดิน พลางก้าวจ้ำไปที่ทางออกอย่างรวดเร็ว..


    สุดท้ายแฮรี่ก็โดนแบก? ขึ้นเรือกลับฮอกวอตส์มือเปล่า..





    น้องแฮร์คงบ่นว่า เกือบแล้วเชียว  ไม่น่าบ่นเอาขนมเลย

    ป๋าเขากลับไม่ใจอ่อนซะก่อน ไม่งั้นละก็..

    ดวงตาใสซื่อ?ของน้อง ใช้บ่อยๆก็ไม่เนียนนะ5555


    ตอนแรกสเนปเกือบจะยอมเปิดใจละ

    เห็นน้องเปลี่ยนอารมณ์ง่าย สเนปถึงกลับเคืองเลย

    อิอิ เราแต่งบทคนแก่ไม่เก่ง ก็ได้แค่เนี่ยแหละ


    ลงเรือสลิธีรินต่อไปซะ วะฮะฮ่าๆๆๆ



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×