ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter ] Destinesia (Yaoi/BL) **ตัดจบ/ไม่แต่งต่อ/มีบทสรุปเรื่องที่เหลือ

    ลำดับตอนที่ #4 : Destinesia (4) ยินดีต้อนรับกลับบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 61


    Destinesia (4) ยินดีต้อนรับกลับบ้าน


    ความรู้สึกของการใส่ชุดนักเรียนฮอกวอตส์อีกครั้ง …

    เขารู้สึกว่า... ตัวเขาแก่อะ…


    คือเขาต้องรู้สึกยังไงกัน ..เรียนจบจนทำงานมาหลายปีแล้วนะ .. ทุกคนลองคิดว่า อายุยี่สิบกว่าจะสามสิบแล้วเนี่ย ต้องกลับมาใส่ชุดสมัยอายุสิบกว่าปี…  เหมือนเอาชุดเด็กมาใส่ผู้ใหญ่สวมนั้นแหละ …


    คุณชายหัวซีดดูจะภูมิอกภูมิใจที่ได้ใส่ชุดเป็นครั้งแรก อวดโฉมของตัวเองให้กับสมุนทั้งสองคนจนเขาอับอายแทน.. ไม่ว่าจะกลอกตาหรือส่งสายตาบอกอีกสักกี่ครั้ง พ่อคุณชายก็ไม่คิดจะละอายซะบ้างเลย …


    “หึ ฉันดูดีก็บอกมาเถอะ ทำหน้าเหมือนกินตัวทากเลยนะ” เดรโกไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อย .. ไอความเก่งกาจในการอ่านสีหน้าคนของมัลฟอย มันหายไปไหนกันเนี่ย … ดูท่าว่าความหลงตัวเองของมัลฟอยจะยังคงมากกว่า


    “มันก็แค่ชุดน่า มัลฟอย นายจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ทุกคนก็ใส่เหมือนๆกันหมด” เขาส่ายหน้าพลางผลักหมอนี้ให้พ้นทาง โดยอนาคตเด็กบ้านงูก็เดินตามหลังเขามาเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่า ทำเสียเวลามามากแล้ว


    “มันไม่ใช่แค่ชุด! พอตเตอร์ นายไปซุกหัวอยู่ที่ไหนมา … มันคือเครื่องยืนยันว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของฮอกวอตส์ เราเป็นพ่อมด!” อีกฝ่ายดูจะหัวเสียมาก ถึงแทบจะตวาดไล่หลังเขา ก่อนจะเดินมาพูดอยู่ข้างหู ..


    แฮรี่ชะงักไปกับคำพูดธรรมดาๆของเดรโก …


    เขาเกือบลืมความรู้สึกแรกที่รู้จักโลกเวทยมนต์ไปซะแล้ว..


    เขาจำได้ลางๆว่า เขาตื่นเต้นกับการนึกถึงสถานที่ที่ชื่อว่าฮอกวอตส์มากกว่า .. มันจะยิ่งใหญ่แค่ไหน สิ่งที่เรียกว่า เวทยมนต์ คืออะไร … จะมีม้ามีปีก หรือ ปลาหมึกลอยได้ อย่างที่เคยเห็นในโทรทัศน์รึเปล่า …


    นั้นก็คือความคิดแบบเด็กๆ..  และพอผ่านวันเวลา เขาก็แทบจะลืมความรู้สึกครั้งแรกที่ได้สัมผัสโลกเวทยมนต์ซะแล้ว ….


    ชุดนักเรียนของตัวเองครั้งแรก


    ไม้กายสิทธิ์ของตัวเองด้ามแรก ..


    สัตว์เลี้ยงตัวแรก …


    และ..


    .. เพื่อนคนแรก ..


    ความเป็นผู้ใหญ่มันทำให้เขาหลงลืมอะไรที่มันสำคัญๆ และเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำในอดีตที่เลือนลางไปซะสนิท .. เหมือนก็เป็นโชคดีที่เขาได้กลับมาย้อนวันวานอีกครั้ง .. แม้จะอยู่ข้างคู่แข่งคนสำคัญก็ตาม


    “รู้แล้วน่า ฉันจะบอกให้ก็ได้ ฉันซุกหัวอยู่ห้องใต้บันไดในบ้าน พอใจรึยัง?” แฮรี่ประชดด้วยความจริง


    “นายกวนประสาทฉัน? อย่ามาโกหกหน่อยเลย ใครมันจะปฎิบัติกับพ่อคนดังแบบนาย ราวกับเอลฟ์รับใช้แบบนั้น” เดรโกยังคงไม่เชื่อคำพูดสุดโต่งของเขาเท่าไหร่ ทั้งทีเขาพูดความจริงแท้ๆ ดูท่าว่ามัลฟอยตรงหน้าเขาก็คงต้องปรับปรุงตัวอีกเยอะ …


    “ปิดเทอมฉันพานายไปดูก็ได้ ถ้านายไม่กลัวพวกมักเกิ้ลนะ” เขาส่ายหน้าอีกครั้งเชิงเหนื่อยใจ แต่อย่างมัลฟอย คงอยากพิสูจน์คำโกหกเขาให้เห็นกับตาตัวเอง ..


    “ได้! นายคิดว่าฉันไม่กล้า!? แค่พวกมักเกิ้ล ทำไมฉันจะต้องกลัว” ในเมื่อรับคำท้า ที่เขาไม่ได้ท้าไปแล้ว เดรโกก็ฮึดฮัดเหมือนเด็กโดนรังแก เขาจะจำขึ้นใจเลยว่า พอตเตอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่กวนประสาท..


    จะมีไอบ้าหน้าไหน กล้ามาท้าเขาต่อหน้าแบบนี้!?


    แฮกริดเป็นฝ่ายนำขบวนนักเรียน เขาอยู่เกือบท้ายแถว เดินตามนักเรียนปีหนึ่งไปยังริมทะเลสาบที่ไม่เคยเปลี่ยน …


    ปราสาทฮอกวอตส์ท่ามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน แสงไฟภายในตัวปราสาทสร้างความพิศวง ดึงดูดให้ทุกคนสนใจ และมันไม่เคยเปลี่ยนไปจากความทรงจำของเขาเลย …


    “มันสวยงามมากเลยใช่มั้ยละ..”


    “ฉันไม่เคยลืมวันแรกที่ฉันเดินเข้าประตูไป”


    คำพูดลอยๆของซีเรียสผุดขึ้นภายในความคิดของเขา ..  ใช่ มันสวยมาก … เรื่องราวต่างๆเกือบครึ่งชีวิตที่น่าจดจำ ทั้งหมดอยู่ภายในปราสาทฮอกวอตส์ .. ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องเรียน เรื่องความสัมพันธ์ .. ครึ่งต่อครึ่ง ทุกอย่างเกิดที่นี้..


    ไม่เหมือนในความทรงจำที่พี่เขามอบให้…


    ปราสาทฮอกวอตส์ที่ลุกไหม้และควันโขมง ส่องแสงสีแดงปะทุท่วมปราสาท … ภาพของหอคอยที่ถูกทำลายจนทะลุเห็นภายใน ราวกับมันจะพังทลายลงมาได้เสียงแค่แรงสั่นสะเทือน ..


    ครั้งแรกที่เห็น มันช่างน่าใจหาย … เขาได้แต่พร่ำบอกตัวเอง ว่าเขาโชคดีเหลือเกิน ที่ไม่ต้องเห็นภาพแบบนั้นต่อหน้าต่อตา .. ฮอกวอตส์ที่เขารัก ยังคงอยู่อย่างปลอดภัยในยุคสมัยของเขา ..


    เรือลำเล็กรอรับผู้โดยสารที่จะก้าวเข้าสู่ฮอกวอตส์เป็นครั้งแรก …


    เนื่องด้วยจำนวนคนที่พอดีกับขนาดเรือ .. เขาและกลุ่มของมัลฟอยเลยก้าวลงเรือลำเดียวกัน แครบและกอยส์ยังคงไม่ตัวใหญ่มากถึงขนาดทำให้เรือจมกลางทะเลสาบหรอกมั้ง?


    “ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลยเดรโก หิวชะมัด ไม่รู้พิธีคัดสรรจะเสียเวลานานรึเปล่า” วินเซนต์ แครบ ที่ขนาดตัวก็บ่งบอกความสามารถในการกิน เอ่ยปากขึ้น พลางมองไปที่ฮอกวอตส์อย่างคาดหวัง..


    “ฉันก็บอกให้แกกินขนมรองท้องไปก่อน แกก็ไม่ฟัง ” เดรโกมองสมุนตัวอ้วนด้วยสายตาดูหมิ่น นอกจากเรื่องกินแล้ว พวกนี้ก็ไม่เคยนึกถึงเรื่องอื่นหรอก … “หัดดูพอตเตอร์คนดังซะบ้าง ผอมแห้งขนาดนั้น ยังไม่บ่นสักคำ ”


    แฮรี่สะดุ้งเหมือนถูกพาดพิง ไอหมอนี้ก็ช่างสรรหา ดึงคนอื่นให้มีเรื่องด้วยนะ … ความสามารถพิเศษชัดๆ


    “ฉันไม่บ่น ไม่ใช่ฉันไม่หิว มัลฟอย ..  พวกนายก็ทนหน่อย หลังพิธีคัดสรร ก็กินได้อย่างจุใจเลยละ” เขาเถียงเดรโกเสร็จ ก็หันไปให้กำลังใจสองคน ที่พอได้ยินคำพูดเขา ก็แทบเก็บสีหน้าดีใจไม่อยู่


    ตัวเรือค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่ฮอกวอตส์อย่างเชื่องช้า แสงไฟจากหัวเรือแต่ละลำ ส่องแสงสว่างเป็นเครื่องนำทาง …


    “นายดูรู้ดีจังนะ .. ทำอย่างกลับเคยมาแล้ว” ไอเสียงจับผิดนั้น ทำเอาเขาสะดุ้งอีกแล้ว เขายิ้มแห้งๆกับตัวเอง จะมาสงสัยอะไรเรื่องนี้เนี่ย .. จะให้บอกยังไง ว่าเขาอยู่ที่นี้มาตั้งเจ็ดปีแล้ว ..


    “ก็แค่ได้ยินมา .. แค่เดินผ่านๆ คนก็พูดกันเยอะแยะไป..”


    “ออหรอ .. ” เขาหัวเราะกลบเกลือน เกาหัวตัวเองอย่างเก้อเขิน จนเดรโกดึงสายตากลับไป..


    จะว่าไป.. หมอนี้รู้รึยังเนี่ย ว่ากำลังนั่งอยู่กับกริฟฟินดอร์เนี่ย … ถ้าพ่อหมอนี้รู้ คงสติแตกก่อนแน่..


    “แล้วนายคิดว่าจะได้อยู่บ้านไหน พอตเตอร์… ต้องบอกเลยนะว่า มัลฟอยอย่างฉันอยู่สลิธีรินมาทุกรุ่น .. เอาชื่อมัลฟอยเป็นประกันได้เลย” อีกฝ่ายยืดอกอย่างสมภาคภูมิ ในที่สุดเรื่องที่เขาคิด ก็มาถึง


    “แล้วถ้าฉันไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับนายละ” เขาลองหยั่งเชิง.. ถ้าหมอนี้ไม่เลิกยิ้มน่าหมั่นไส้ เขาจะถีบมันลงทะเลสาบแล้วนะ..


    มันมีคำถามหนึ่งที่ติดอยู่ในใจเขามาสักพักแล้ว …


    ถ้าเกิดว่า ตอนนั้นเขายอมจับมือกับมัลฟอยจริง.. อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น อีกฝ่ายบอกว่า จะช่วยเขาได้ แต่การคัดสรรมันบังคับให้เขาไปอยู่สลิธีรินไม่ได้ … หมายถึง ถ้าตามความเป็นจริงแล้วนะ


    เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่า อย่างมัลฟอยที่ไม่เคยปล่อยมือที่เคยจับ ถ้าไม่หักหลังพวกเขาเสียก่อน .. จะแก้ไขกับสถานการณ์ของเขายังไง .. เขาค่อนข้างมั่นใจว่า อย่างมัลฟอยพูดทำไหนคำนั้น และไม่เคยผิดคำพูด ..


    แต่จะพลิกคำพูดให้เพี้ยนไปรึเปล่า นั้นก็อีกเรื่อง…


    “แล้วไง? หรือนายจะเรียกร้องความสนใจ จะเลือกบ้านด้วยตัวเอง”


    ก็บ้าแล้ว …


    “ก็เปล่า .. ก็แค่ .. นายจะรังเกียจรึเปล่า ที่มีเพื่อนต่างบ้าน ” เขาถามเสียงเบาดูปฎิกิริยาคนตรงหน้า แต่คำตอบที่ได้ ก็เล่นเอาเขาอยากเอาหัวจุ่มน้ำให้รู้แล้วรู้รอด..


    “รังเกียจ..” ไม่มีความลังเลในการตัดสินใจตอบแม้แต่นิด .. ไอจอมเย่อหยิ่งแห่งสลิธีรินเอ๊ยยย! “แต่นั้นมันก็อยู่ที่การกระทำของนายด้วย ว่าจะทำให้ฉันเกลียดนายขนาดไหน” ประโยคต่อมา ทำเขางุนงงไม่น้อย แฮรี่เอียงคอสงสัย ท่าทีเป็นธรรมชาติบวกกับใบหน้าหวาน ทำเอาเดรโกไอค่อกแค่กกับตัวเอง..


    “ถึงนายจะอยู่บ้านอื่น ฉันก็ช่วยนายได้ .. แต่ถ้านายหาเรื่องใส่ตัว ฉันก็ไม่รับรู้ด้วย..”


    “งั้นถ้าฉันอยู่กริฟฟินดอร์ละ นายจะทำยังไง” ในที่สุด คำถามที่เขาอยากถาม ก็ได้ถามสักที … เขาเฝ้ารอคำตอบด้วยความคาดหวังและสนใจ .. ดวงตาสีมรกตไหววูบกับแสงไฟ เหมือนกับอัญมณีเม็ดงาม ทำเอาคนตรงข้ามละสายตาไปจากแฮรี่ไม่ได้


    จากที่คิดจะกวนประสาทคนตัวเล็กเล่นๆ แต่พอคำว่ากริฟฟินดอร์ออกจากปากอีกฝ่าย ก็ทำเอาเดรโกนิ่งงันไปได้เหมือนกัน … สัมผัสความจริงจังไม่ได้ล้อเล่นจากแฮรี่ ก็ไม่คิดจะเล่นอีก .. ดูท่าว่า คนตรงหน้าเขา ก็ดูจะเข้าใจความขัดแย้งของสองบ้านไม่น้อย


    “ทำอย่างกับพ่อแม่นาย ไม่กริฟฟินดอร์ พอตเตอร์ .. ” คำแรกที่ออกจากปากคือคำด่าว่าไม่รู้จักคิดก่อนถาม .. แต่แฮรี่ก็ยังปิดปากเงียบ รออย่างตั้งใจ เพราะไม่ได้คำตอบที่ตรงคำถาม…


    เดรโกเลิกคิ้วกอดอกกับตัวเองด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ แต่ก็ตัดสินใจบางอย่างกับตัวเองได้แล้ว ..


    “มัลฟอยเราจับมือใครไม่เคยปล่อย .. ถ้านายอยู่กริฟฟินดอร์ ฉันจะช่วยนายออกจากพวกหัวขี้เลื้อยพวกนั้นเอง” .. เหมือนจะโดนด่าซ้ำสอง .. กริฟฟินดอร์มาหนึ่งสมัยอย่างแฮรี่แทบกัดลิ้นตัวเอง .. โดนด่าว่าเป็นพวกไม่รู้จักคิดทีนึง หัวขี้เลื้อยอีกทีนึง


    มัลฟอยเนี่ยมัน ..


    “นายจะช่วยฉันยังไง .. ฉันคงสั่งหมวกคัดสรรให้คัดตัวเองไปอยู่สลิธีรินตามที่ใจตัวเองต้องการไม่ได้หรอกนะ นายก็พูดเอง..” เขาแอบหลอกด่ากลับเล็กน้อย โดยอีกฝ่ายก็ไม่ทันนึกทัน


    “หึ มัลฟอยสักอย่าง.. เอาชื่อมัลฟอยเป็นประกัน จะไม่มีใครรังแกนายได้อีก นอกจากฉัน”


    “เหอะ ให้จริงอย่างที่นายพูดละกัน เห็นปากดีตลอด..  ” เหอะ ที่ไหนได้ ก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรนั้นแหละ


    “พูดให้มันดี .. ปากนายก็พอๆกัน .. ”


    เขาไม่ลืมหรอกนะว่า ก็มีแค่มัลฟอยนั้นแหละ ที่รังแกและกลั่นแกล้งเขามาตั้งแต่ปีหนึ่ง ..


    ชื่อเสียงเด็กชายผู้รอดชีวิตของเขามันไม่มีผลกับความหน้าทนของมัลฟอย..


    และเหมือนแฮรี่จะฟังข้ามไปอย่าง..


    เพราะเดรโกก็บอกอยู่แล้ว ว่าจะไม่ให้ใครรังแกร่างเล็ก นอกจากตัวเขาเอง…


    เสียงสนทนาจบลงพร้อมกับนักเรียนที่ก้าวลงจากเรือ


    สู่ปราสาทหลังใหญ่น่าหวั่นเกรง..


    ดวงตาสีมรกตเฉยแววยินดีพร้อมรอยยิ้มที่กว้างขึ้น…


    ฮฮกวอตส์…


    ‘กลับมาแล้วครับ’





    เพิ่มคะแนนเดรโกไปอีกหนึ่งคะแนน

    สเนปจะได้ฉากเรียกคะแนนที่ห้องปรุงยาเช่นเดิม..

    ไม่ต้องใจร้อนไป … แฮรี่ตอนนี้ได้ผู้พิทักษ์หนึ่งคน


    ไม่เหมือนเพื่อน ก็เหมือนเพื่อน …

    เป็นคำเรียกที่ไม่มีสถานะเท่าไหร่

    แต่ทำไงได้ พี่เดรเราสนใจน้องแฮร์

    จนรับปากอะไรต่ออะไรไปแล้ว



    PS. เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อเป็นฟิค เพราะฉะนั้นเนื้อหาอาจจะมีการอ้างอิง

    ที่ไม่ตรงกับเนื้อหาฉบับภาพยนตร์และในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์

    ชี้แจ้งมานะที่นี้ ขอบคุณค่ะ

    Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×