คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 01 - Dream Jail
Worldless Tales Series
Heart of the Golden Lion
Chapter 01 - Dream Jail
เมืองอุตสาหกรรมบนผืนทะเลทราย แหล่งขุมทรัพย์น้ำมัน อัญมณี และเทคโนโลยีอันก้าวหน้า สิ่งเหล่านี้คือคำนิยามของเมืองจักรกลเรเซฟินอันเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนมากมายหลายชนชั้นต่างเผ่าพันธุ์ให้หลั่งไหลเข้ามาอาศัยและฝากความหวังไว้ โดยเฉพาะมนุษย์ ก็อบลิน โนม และคนแคระ
อาภรณ์สีงาปกคลุมทั่วร่างอย่างมิดชิดช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดดเจิดจ้าไปได้บ้าง แต่ถึงกระนั้นผิวที่บอบบางของเด็กหนุ่มผู้ทรงเวทย์แห่งกองทหารรับจ้างอิสระเรเซฟินก็ยังต้องระคายเคืองอยู่ไม่น้อย เขาดึงฮู้ดลงมาเพียงพอให้เงาทอดลงมาบังตาสีฟ้าเพื่อมองทางข้างหน้าได้สะดวก เขี่ยผมบลอนด์ออกเล็กน้อย ก่อนจะก้าวมาหยุดหน้าสถานที่แห่งหนึ่ง
สถาบันพัฒนาเทคโนโลยี เรเซฟิน
เขาผลักบานประตูกระจกแล้วเดินเข้าไปข้างในอย่างไม่รอช้า ภาพในสายตาคือโลหะกองพะเนิน มีทั้งที่ยังคงเป็นซากไร้ค่าและที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา รวมไปถึงที่เสร็จสมบูรณ์แบบแล้วถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ก็อบลินและคนแคระยืนเถียงกันหน้าดำหน้าแดง โนมยืนอ่านแปลนหน้าดำคร่ำเครียด มนุษย์ทะเลทรายผิวคล้ำนั่งรับประทานอาหารเที่ยง แสงไฟจากหลอดสังเคราะห์ส่องลงมาอย่างทั่วถึง พัดลมติดตั้งบนเพดาน และความวุ่นวายที่เห็นได้เสมอ
เด็กหนุ่มเลิกฮู้ดลง ใบหน้าสะคราญปรากฏออกมาพร้อมกับผิวขาวที่ดูแปลกตาในเขตทะเลทราย ดวงตาสีน้ำทะเลคมเข้มสุกใสฉายแววมาดมั่น เขาชินแล้วกับการตกเป็นเป้าสายตาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับที่ใดๆในเรเซฟิน ทุกคนในเมืองรู้จักและชื่นชมเขาในฐานะที่เป็นผู้ได้รับเลือกให้เข้ารับตำแหน่งราชสีห์ทองคำแห่งใจที่พระราชาแห่งอาทรันเดลประทานให้ แต่ถึงกระนั้นความโดดเด่นสะดุดตาของชาร์นิค ไชน์ฮาร์ทก็ห้ามไม่ให้ชาวเมืองเรเซฟินจ้องมองเขาไม่ได้
ชาร์นิครู้ตัวดี สีผิวและสีตาของเขาเป็นของแปลก โดยเฉพาะสำหรับชาวทะเลทรายที่มีผิวคล้ำและตาสีทอง อันที่จริงถึงแม้จะไม่ใช่ชาวทะเลทรายโดยกำเนิด แต่หากได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนี้สีผิวก็จะคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัดภายใต้แสงแดดแรงจ้า แต่ไม่ใช่สำหรับเขา ว่าที่ราชสีห์ทองคำแห่งใจผู้นี้ผิวไม่เคยเปลี่ยนสีแม้แต่น้อยตั้งแต่เล็กจนโตทั้งๆที่ใช้ชีวิตแบบชาวทะเลทรายมาสิบเจ็ดปี
คงเพราะพ่อของเขาเป็นชาวหิมะจากประเทศอเลสตาเรียกระมัง อย่างน้อยในสูติบัตรของเขาก็บอกเอาไว้แบบนั้นแหละ
" ท่านชาร์นิค หวัดดีขะรับ "
เด็กหนุ่มผิวขาวหันตามเสียงทัก เขาต้องไล่สายตาลงต่ำถึงจะรู้เจ้าของเสียงเป็นใคร
กล็อค หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์ประจำแหล่งพัฒนาเทคโนโลยีเรเซฟินมาพร้อมกับเสียงเจือยแจ้ว ขนาดร่างกายที่สูงเพียงช่วงเอวของเด็กหนุ่ม จมูกที่ยาวงุ้ม คางที่ยืดลงมาต่ำ และผิวสีใบไม้บ่งบอกให้รู้ว่าเขาเป็นก็อบลิน อย่างไรก็ดี กล็อคเป็นก็อบลินที่ประหลาด เขานอบน้อมจนดูไม่เหมือนกับคนในเผ่าพันธุ์เดียวกันทั่วไป
" หวัดดีกล็อค ผมมาตามหาริค "
" ท่านริควิดเพิ่งตะออกไปเมื่อกรู๊นี้เองขะรับ สงกะสัยท่านสองคนตะคลาดกัน "
" อือ " ชาร์นิคขานรับ " แปลกจัง ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกันครับ "
" ท่านชาร์นิคขะรับ "
ว่าที่ราชสีห์ทองคำแห่งใจหันกลับตามเสียงเรียก
" ท่านก็ได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่งสิงโตทองใช่ม้าขะรับ? "
" ครับ "
" ยินดีด้วยขะรับ "
เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยิ้มตอบ
" ท่านริควิดเองก็ด้วย ใช่ม้าขะรับ "
" ครับ ริคจะเข้ารับตำแหน่งราชสีห์ทองคำแห่งเขี้ยวด้วยฝีมือหอกมัน ที่ผมมาตามนี่ก็จะชวนมันไปจัดกระเป๋ากัน จะได้ไม่ยุ่งทีหลัง "
" เหรอขะรับ " สีหน้าของหัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์เปลี่ยนไป " เฮ่อ กระผมล่ะเสียดาย ท่านริควิดเก่งงานวิดวะมาก เข้าขั้นอัจฉะอิ๊ยะ ท่านริควิดเอาดีด้านนี้ก็ท่าตะรุ่ง แต่ก็อย่างว่า ท่านริควิดคงชอบงานด้านนี้แค่เป็นงานอดิเรก ท่านคงชอบหอกมาก "
ชาร์นิคตอบบทสนทนาด้วยความเงียบ อันที่จริงคงต้องเรียกว่าไม่รู้จะตอบยังไงเสียมากกว่า
" ฝากบอกท่านริควิดด้วยว่ากลับมาเยี่ยมเยียนกันบ้าง นะขะรับ "
" ผมจะบอกให้ แล้วไม่ต้องห่วง มันมาที่นี่ก่อนไปอยู่แล้ว นะครับ "
ก็อบลินพยักหน้า ขอบคุณเด็กหนุ่ม ก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ
ประตูถูกเปิดออก ฮู้ดถูกดึงลงปิดหน้า เด็กหนุ่มผิวขาวก้าวออกมารับแสงแดดเจิดจ้าภายนอกอีกครั้ง พร้อมๆกับความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในห้วงอารมณ์
ริค
แกไม่ได้ชอบวิชาหอกนักหรอก... ใช่มั้ย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข็มกลัดราชสีห์ทองคำแห่งเขี้ยวถูกชูขึ้น ดวงตาสีม่วงจ้องมองมันมาได้พักหนึ่งแล้ว
เด็กหนุ่มผิวสีแทนทอดตัวนอนอยู่บนเตียง เรือนผมสีดำฟูชี้ไปมาอย่างไม่เป็นระเบียบ ราวกับว่ามันกำลังแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสับสนในจิตใจเจ้าของ เขาเหนื่อยล้ากับหลายๆสิ่งในชีวิต นึกถึงทางเดินที่เขาเลือกไม่ได้ กังวลกับปัญหาที่ไม่รู้จะปรึกษาใคร และทรมานกับอดีตที่ไม่อาจลืมเลือน
ริควิด เรมินัส หัวหน้ากองอัศวินรับจ้างอิสระเรเซฟิน ผู้กำราบกองโจรมาทั่วทุกมุมทะเลทราย ทุกครั้งที่ลงหอกต้องมีศัตรูล้มตาย ว่องไวดุจพายุคลั่ง เยือกเย็นสงบนิ่งยิ่งกว่าสุนัขป่า เป็นความภาคภูมิใจของชาวเมืองเรเซฟิน ชื่อเสียงเรียงนามโด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน และในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาสเข้ารับตำแหน่งราชสีห์ทองคำ ตำแหน่งที่ผู้ทรงวิชารุ่นเยาว์หลากหลายแขนงปรารถนา
คงไม่มีใครรู้เลยว่าเขาไม่ได้ประสงค์จะเดินทางนี้เท่าไรนัก
หัวหน้ากองอัศวินหลับตาลง แล้วเผลอตัวนึกถึงเรื่องที่เขาไม่อาจลบมันออกไปจากจิตใต้สำนึกได้เสียที
ภาพเมื่อครั้งอดีตค่อยๆปรากฏขึ้น กลิ่นคาวเลือด เสียงกรีดร้อง ความโกลาหล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉุดเขาให้ดำดิ่งลงสู่ห้วงนรกในจิตใจ
อะไรบางอย่างในนั้น ที่เขานึกไม่ออก...
" วันๆไม่มีอะไรทำเรอะไง ถึงได้มานอนหลับอุตุ "
เสียงใสๆคุ้นเคยดังขึ้นข้างหู เด็กหนุ่มผมน้ำตาลสะบัดหน้าไปมองต้นเสียง ก่อนจะดีดตัวขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง แล้วเกาหัวแกรกๆ
" อืม "
" จัดกระเป๋าเสร็จแล้วเหรอ? " ชาร์นิคซัก
" ยัง "
" แล้วสัมภาระสำหรับภารกิจส่งท้ายพรุ่งนี้ล่ะ? "
" ยัง "
ผู้ทรงเวทย์แห่งเรเซฟินรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมห้องของเขา ริคไม่ใช่คนผัดวันประกันพรุ่ง อันที่จริงหมอนี่ออกจะเจ้าระเบียบและเคร่งกฏเกณฑ์ และมักจะเตรียมตัวล่วงหน้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะการจัดประเป๋า ถ้าเป็นตามปกติมันต้องทำเสร็จตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้ว
" แกเป็นอะไร ริค " ชาร์นิคตัดสินใจลองเจาะลงไปลึกๆดูสักครั้ง " มีอะไรที่ต้องเก็บไว้กังวลคนเดียวรึไง "
ริควิดมองตาสีครามของคู่สนทนา เขารู้ดีว่าชาร์มองทะลุจิตใจผู้คนได้บ่อยๆ รวมทั้งตัวเขาเอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าเขาควรจะปรึกษาเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น แม้แต่กับเพื่อนสนิทที่สุดอย่างหมอนี่
"ไม่มีอะไร "
ว่าที่ราชสีห์แห่งใจรู้ความหมายของคำตอบนั้นดี ริคมีอะไรในใจแน่นอน แต่มันคงจะเป็นเรื่องที่ให้เขารู้ไม่ได้ หรืออาจเป็นเรื่องที่ไม่รู้เสียจะดีกว่า และการจะล้วงลงไปลึกกว่านี้ก็คงจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาเป็นแน่ รังแต่จะนำความเจ็บออกมาให้ริค หรืออาจจะรังมาสู่ตัวเองด้วย ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเป็นการรับคำ แล้วสลัดความน้อยใจทิ้งไปพร้อมๆกับการบิดขี้เกียจ
" เอ้าๆ จัดกระเป๋าๆ "
ชาร์นิคเปิดตู้เสื้อผ้า ในขณะที่ริควิดเหวี่ยงตัวลงมาจากเตียง ว่าที่ราชสีห์ทองคำแห่งใจจัดกระเป๋าไปพลางชวนอีกฝ่ายคุยไปพลาง จนตะวันตกดิน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตำแหน่งราชสีห์ทองคำมีความหมายมากขนาดไหนสำหรับเขากันหรือ?
ชาร์นิคคิดว่ามันไม่ได้มีค่าเลิศเลอเท่าไรนัก หรืออันที่จริงคงต้องตอบว่าไม่ทราบ
แค่เป็นตำแหน่งที่หลายๆคนถวิลหา แต่คนที่วันๆไม่ทำอะไรอย่างเขากำลังจะได้มันมาไว้ในครอบครองอย่างง่ายๆ ตีลังกาคิดยังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่มีคุณค่ามากมายนัก ในเมื่อมันเป็นตำแหน่งที่เขาไม่ได้ทุ่มเทอะไรลงไปเพื่อจะได้รับมันมาเลย
ก็ตลกดี
สุดยอดพรสวรรค์ทางมนตราที่เขาได้รับติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ความสามารถในการควบคุมกระแสมาน่าได้ดังใจนึก และความคุ้นเคยอย่างประหลาดในบทเรียนคาถาต่างๆที่ไม่ว่าจับธาตุใดก็ปลดปล่อยได้คล่องแคล่วไปหมด เพียงไม่นานก็ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับสุดยอดตำแหน่งของผู้ทรงเวทย์รุ่นเยาว์ อย่างกับว่าเทพเจ้าประทานพลังนี้มาให้แก่เขายังไงยังงั้น
อย่างไรก็ตาม เขาอยากรับตำแหน่งนี้ อย่างน้อยมันคงกำหนดเป้าหมายในชีวิตให้กับคนที่ไม่มีหลักแหล่งอย่างเขาได้บ้าง ถึงเขาจะมีพลัง แต่เขายังไม่เคยมีอำนาจ และนี่คงเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้รับมัน ไม่แน่ บางทีเขาอาจจะได้ใช้พลังนี้ทำอะไรสักอย่างเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกซักวัน
ดวงตากลมโตสีน้ำทะเลสะท้อนแสงจันทร์ครึ่งเสี้ยว ดวงดาราอยู่บนฟ้ามากมาย เรเซฟินเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่ถึงกระนั้นยามราตรีมันก็มืดสนิทลงได้เพราะชาวเมืองต่างเหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน เขาเห็นดาวตกพุ่งไปมาลิบๆ กลิ่นแอลกอฮอล์บางๆในคอช่วยให้ใจสงบ เขาเหวี่ยงขารับลมไปมา มือสองข้างยึดขอบระเบียงที่นั่งไว้ด้วยความชำนาญ ผิวปากบทเพลงที่เขาจำได้ลางๆในสมัยเด็กถึงแม้จะนึกตัวโน้ตไม่ออกแล้วก็ตาม
" เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก "
เสียงเข้มๆแว่วมาจากข้างหลัง ชาร์นิครู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใครโดยไม่ต้องหันกลับไปมอง
" ระดับนี้แล้ว ตกลงไปก็ไม่ตาย "
ริควิดถอนหายใจ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นขวดเหล้าข้างกายฝ่ายตรงข้าม
หมดไปครึ่งขวด...
" ก็... ไม่แน่มั้ง "
" หา? "
" เปล่า " เด็กหนุ่มผมน้ำตาลโละเรื่องออกจากหัว เขาลืมไปว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้คอทองแดงขนาดไหน เป็นข้อเท็จจริงที่ดูไม่เข้ากับหน้ามันเลยแท้ๆ
" 'โทษนะริค เสียงลมมันแรงจนปลุกนายเหรอ? "
" เปล่า ฉันตื่นของฉันเอง นอนไม่หลับ "
มือขาวๆสะท้อนแสงจันทร์ฉวยแก้วกับขวดที่ขอบระเบียงไปไว้ในครอบครอง ชาร์นิคผสมเหล้ากับโซดาจนได้ที่ ก่อนจะยื่นให้หัวหน้าอัศวินเรเซฟิน
" งั้นก็มาดื่มด้วยกัน " เด็กหนุ่มผมบลอนด์กล่าวชวนแกมบังคับ " แด่ตำแหน่งที่ได้มาแบบงงๆ "
ริครับเครื่องดื่ม ชนแก้วกับขวดในมืออีกฝ่าย แล้วยกขึ้นกระดกรวดเดียวหมด สัดส่วนการผสมที่ชวนมึนหัวของชาร์เริ่มจะทำให้เขารู้สึกตัวรุมๆ
" ฉันรู้แล้วว่าจะเอาตำแหน่งราชสีห์ทองคำไปใช้ยังไงดี " จอมเวทย์แห่งเรเซฟินเกริ่นนำพลางเหวี่ยงตัวลงมายืนที่พื้น เท้าข้อศอกกับขอบระเบียง แหงนหน้ามองฟ้า " ฉันอยากรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อแม่เลย เพราะเมืองนี้มันไม่มีอะไรพอจะเป็นข้อมูลได้ เมื่อได้ตำแหน่งมาแล้วก็จะมีชื่อเสียง คงจะใช้มันสืบเรื่องได้ไม่ยาก แกว่ามั้ย? "
ริควิดขานรับเบาๆ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกตลกเมื่อเห็นไอ้คนตรงหน้าพล่ามเรื่องจุดหมายในชีวิต คงเพราะมันไม่เคยกำหนดเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยกระมัง
" แล้วแกล่ะ? "
คำถามที่ถูกยื่นทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงชะงักไปครู่หนึ่ง
ดวงตานี้อีกแล้ว
ดวงตาคาดคั้นของชาร์นิค ไชน์ฮาร์ท แม้คำพูด รอยยิ้ม และท่าทางจะดูเหมือนชวนคุยเล่นๆไปงั้น แต่ริควิด เรมินัสรู้ดีว่าดวงตานั้นหมายถึงอาการคาดหวังคำตอบอย่างแรงกล้าของเพื่อนร่วมห้อง ที่ผ่านๆมาเขาปฏิเสธดวงตานี้ไม่ได้สักที แต่ช่วงนี้ไม่รู้ว่ากี่หนแล้วที่เขาพยายามหลบเลี่ยงมัน
" ก็ไม่รู้สิ "
เขาเลือกที่จะหนีอีกครั้ง แน่นอนว่ามันทำให้เขารู้สึกผิด สีหน้าและท่าทางของชาร์ยังไม่เปลี่ยนไป แต่แววตานั้นต่างจากเดิมแล้ว
" เหรอ "
ชาร์นิคขานรับ เขาหลบหน้ากลับไปมองจันทร์เพื่อปกปิดสายตาที่เริ่มจะฉายแววน้อยเนื้อต่ำใจ ยกเหล้าขึ้นดื่มจนหยดสุดท้าย แล้วก้าวเท้าไวๆเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง หันหน้าเข้าหากำแพง ดึงผ้ามาห่ม
" ฉันจะนอนแล้วนะ เริ่มเมาแล้ว ฝากเก็บขวดกับแก้วด้วย "
" อืม "
ริควิดปิดไฟ เก็บของตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนจะลงนอนบ้าง
ชาร์
ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้...
ถึงจะเป็นแกก็เถอะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ว่างเปล่า
มืดดำ
ใต้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างไม่มีพื้นดินให้เขาย่างเหยียบ มันคงไว้ซึ่งความมืดยิ่งใหญ่ไร้จุดสิ้นสุด
" พ่อ... พ่อ... "
ภาพเด็กคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าและท่าทางนั้นดูช่างคุ้นตา
ริควิดพยายามหลับตา หยิกแขน และทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างเพื่อเรียกตัวเองออกจากความฝัน เขาเบื่อที่จะเห็นภาพตัวเองในอดีตซ้ำไปซ้ำมาเต็มกลืนแล้ว
" ฆ่ามันให้หมด พวกเราไม่ผิด ฆ่าให้หมดอย่าให้เหลือ! "
สีดำสนิทของโลกอันอ้างว้างถูกสีอื่นแทรกเข้าแทนที่ทีละน้อย ภาพเหตุการณ์ถูกสลับตัดไปตัดมาอย่างไม่เรียงลำดับก่อนหลัง ใบหน้าของผู้คนดูเลือนลาง ไม่ว่าอะไรในมิตินี้ก็ดูจะไม่คมชัดไปเสียหมด นอกจากกลิ่นคาวเลือดที่โชยมาแตะจมูกอยู่ทุกวินาที
เจ็บปวด
" หนีไปริค... หนี! ไป! ไป! "
" แม่... "
" เจอแล้ว ไอ้เด็กนี่ลูกมันนี่หว่า เฮ้ย! "
เด็กหนุ่มผมน้ำตาลเข้มกัดฟันแน่น เขาไม่ได้ยกมือขึ้นป้องหูถึงแม้จะไม่อยากได้ยินบทสนทนานี้เพียงใดก็ตาม เพราะเขารู้ว่าถึงจะพยายามบ่ายเบี่ยงมันเท่าไรก็ไม่เป็นผล นี่เป็นความฝันครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่ทราบได้
" ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ตลกว่ะ ไอ้เปี้ยก "
ภาพถูกแทรกแซงไปมา
" ความผิดทั้งหมดเกิดขึ้นจาก ราซารัส เรมินัส... "
" เรามีรางวัลให้ผู้ที่จับเป็น หรือจับตาย หรือชี้เบาะแส... "
พอเถอะ...
" แม่ไม่ไหวแล้วลูก...
พอได้แล้ว
" มันหายไปไหนวะ!? "
พอ...
" เจอแล้วโว้ย "
" ใครก็ได้... ช่วยด้วย... "
" ช่วยด้วย... "
" ใครก็ได้... ช่วยด้วย... "
" ใครก็ได้... "
" ใครก็ได้... "
" ใครก็ได้... "
" ใคร... "
พั่บ
ภาพเบื้องหน้าคือห้องที่เขาเห็นอยู่ทุกวัน เสียงไก่ขันและนกร้องดังมาเป็นระยะ ผ้าห่มที่คลุมร่างทำให้รู้สึกร้อน แสงแดดทอผ่านหน้าต่างลงมาที่พื้นห้อง เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยังหลับอยู่ที่เตียงข้างๆชิดมุมห้อง
ลำพังเพียงเวลาไม่อาจลบเลือนเรื่องบางเรื่องออกจากจิตใจได้หมด
ริควิดใช้ท่อนแขนปาดเหงื่อที่ไหลออกมาท่วมตัว สูดหายใจลึกๆเพื่อชะลออัตราการเต้นของหัวใจ
เมื่อไหร่ เขาจะตื่นจากฝัน...
ความคิดเห็น