คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : First Prologue : Blessed by the Moon
Worldless Tales Series
Heart of the Golden Lion
Prologue Chapter Blessed by the Moon
ฝนตก
ลูน่าแฟลร์ มูนเบลส บุตรีคนสุดท้ายที่ยังคงมีชีวิตอยู่ของราชวงศ์เอลฟ์จันทรา อุ้มชีวิตน้อยในอ้อมแขนวิ่งฝ่าละอองฝน ก้าวยาวๆเลี่ยงหลบรากไม้เบื้องล่าง ยิ่งเธอเร็วแค่ไหน หยดน้ำที่สาดเข้าใบหน้าก็ยังความเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น ธิดาจันทรากัดฟันลบเสียงครางในลำคอให้หมดสิ้น เพราะมันอาจไปกระทบเข้าหูของหน่วยไล่ล่าที่หมายคร่าชีวิตเธออยู่เบื้องหลัง
น้ำตาของธิดาเอลฟ์หยดลงต้องกับใบหน้าขาวนวลของบุตรในอ้อมกอด เธอระงับอาการสะอื้นเอาไว้ แล้วตั้งสมาธิให้ดีกับการวิ่ง ดวงจันทร์คืนนี้ปรากฏเต็มดวงเด่นชัด อำนวยให้มนตราสะกดเสียงและสมาธิทำงานได้อย่างเต็มอัตรา แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่มั่นใจว่าจะรอดชีวิตไปได้ถึงไหน เพราะจุดหมายปลายทางดูเลือนลางเหลือเกิน
เด็กคนนี้กำพร้าพ่อไปเสียแล้ว... ส่วนจะกำพร้าแม่ด้วยหรือไม่ ก็อยู่ที่ตัวเธอ
เขายังไม่มีชื่อ เธออยากตั้งชื่อมนุษย์ให้กับบุตรของเธอ เพราะพ่อของเด็กคนนี้เป็นมนุษย์ เธอตั้งใจจะช่วยกันคิดชื่อด้วยกัน แต่มาถึงตอนนี้มันสายเกินไปเสียแล้ว
อาดอส ดิลเกียร์... ทำไมท่านจากไปเร็วนัก...
โกลด์เวิร์น ธันเดอร์คลอว์ ผู้นำสายเลือดเอลฟ์ราชวงศ์ธันเดอร์คลอว์ ตระกูลที่มีความภักดีต่อราชวงศ์มูนเบลสของเธอมาช้านาน เป็นผู้ก่อกบฏโค่นอำนาจ ช่วงชิงชีวิตบิดามารดา ขุนนางทั้งหลายในราชวงศ์ ตราบจนทุกชีวิตในตระกูลจนหมดสิ้น แม้แต่สามีของเธอก็ตายไปท่ามกลางความชุลมุน เหลือเพียงแต่เธอเท่านั้นที่หลบหนีเงื้อมมือการสังหารหมู่มาได้ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่รู้หนทางเอาตัวรอดเอาเสียเลย วินาทีนี้ในหัวของธิดาจันทราขาวโพลนเพราะความเศร้าจากการสูญเสีย และยังเหนื่อยแทบขาดใจเนื่องจากวิ่งติดต่อกันมาทั้งคืนโดยมิได้หยุดพัก
อย่างน้อยเธอก็อยากให้ลูกของเธอเกิดและเติบโตอย่างมีความสุข แต่ความฝันนั้นคงเป็นไปไม่ได้แล้ว นับตั้งแต่เขากำเนิดมาอยู่ในราชวงศ์มูนเบลส เธอผิดหรือ... ผิดตั้งแต่แรกที่สืบเชื้อสายราชวงศ์นี้... ผิดตั้งแต่ที่เธอลากคนรักของเธอเข้ามาพัวพัน แล้วต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอดสู จะดีไหมถ้าเธอควรจะหยุดแค่นี้แล้วตายตามเขาไป
แต่เธออยากให้ลูกของเธอรอด...
“ อุ๊บ.. “
น้ำตาที่บดบังวิสัยทัศน์พาเอาปลายเท้าที่หยั่งพื้นเพียงเล็กน้อยให้สะดุดเข้ากับรากไม้ที่ชันตัวขึ้นสูงโดยมิทันได้ดู ร่างของธิดาจันทราไถลไปกับโคลนตม
เสียงของหน่วยไล่ล่าแว่วมาเบาๆจากเบื้องหลัง
เธอมาได้แค่นี้หรือ...
...แม่ขอโทษ... ลูกของแม่...
...
...
อาดอส...
...
...
...
จ๋อม
เสียงย่ำโคลนจากระยะเผาขนเรียกธิดาจันทราให้แหงนหน้ามองดูผู้มาเยือน เธอคาดว่านี่คงจะเป็นมัจจุราชจากกองไล่ล่าที่กำลังจะลงดาบเพื่อแยกคอกับบ่าเธอออกจากกัน
ไม่ใช่
“ ลูน่าแฟลร์ มูนเบลส “
เจ้าของเสียงเป็นบุรุษร่างใหญ่ในชุดคลุมสีดำ เงามืดใต้แสงจันทร์บดบังใบหน้าจนเธอเห็นไม่ถนัดตา เขาผู้นี้แต่งกายด้วยสีดำสนิทราวกับเงามืดทั่วตัว พันโซ่สีเทาดำไว้รอบขา และยังมีน้ำเสียงที่แหบ ทุ้มต่ำ และกังวาน ฟังดูน่าสยดสยองจนไม่น่าจะเป็นเสียงของเผ่าพันธุ์ใดๆบนผืนแผ่นดินเซลเนแทร์
หรือบางที... เขาอาจจะเป็นยมฑูตจากนรกมารับวิญญาณเธอกระมัง...
“ เจ้ายังตายไม่ได้ ลูน่าแฟลร์ เจ้าและบุตรของเจ้ายังตายไม่ได้ “
เสียงนั้นกึกก้อง เขย่าร่างอ่อนล้าของธิดาเอลฟ์ให้ตื่นจากความสิ้นหวัง เธอพยายามยันตัวขึ้นนั่ง แล้วจ้องมองคู่สนทนาแปลกประหลาดตรงหน้า แล้วก็ต้องสะดุดเข้ากับจุดหนึ่งบนร่างกายของบุรุษปริศนาที่คุ้นตาเหลือเกิน
แขนซ้ายของเขาไม่ใช่กายเนื้อ เป็นแขนโลหะที่ประกอบกันเป็นรูปร่าง แขนปลอม ดูเผินๆอาจเหมือนกำลังสวมเกราะแขน แต่ที่เธอมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ชุดเกราะแน่นอน ก็เพราะเธอมีเหตุผลของเธอ
อาดอสเองก็มีแขนแบบนี้...
“ โปรดวางใจข้า เพราะอย่างน้อย เจ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากตาย “
“ ท่านเป็นใคร “
“ ข้าคือดิอาร์ค สหายแห่งอาดอส ข้าเป็นที่สุดของหายนะ แต่หายนะไม่ได้นำพามาซึ่งแต่เพียงภัยพิบัติเท่านั้น “
มือขวาของบุรุษในชุดคลุมยกขึ้นสูง แล้วโคลนตมรอบตัวของลูน่าแฟลร์ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่ทำให้เอลฟ์สาวตกใจมากที่สุดเป็นอันดับแรก ก็คือสิ่งที่เธอสะดุดแล้วคิดว่าเป็นรากไม้นั้นผิดไป มันคือหางของสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ที่ใหญ่โตกว่ามนุษย์สองเท่า ใบหน้ายาว ใหญ่ และฟันแหลมคมรวมถึงลิ้นยาวของมันบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นกิ้งก่า แต่กลับยืนสองขาราวกับมนุษย์ถึงแม้ว่ากระดูกสันหลังจะค่อมกว่ามาก แขนยาวและทรงพลังด้วยกล้ามเนื้อใหญ่โต ในมือประคองไว้ด้วยหอกใหญ่น่าเกรงขาม และสวมชุดเกราะที่ดูเหมือนจะทำจากเกล็ดของสัตว์ชนิดอื่นอีกทีหนึ่ง
ลิซาร์ดแมน เผ่าสัตว์เลื้อยคลานที่วิวัฒนาการสูงสุดบนเซลเนแทร์
มนุษย์กิ้งก่าจำนวนมากเริ่มโผล่ขึ้นมาจากโคลน ในมือถืออาวุธพร้อมรบ บ้างหอก บ้างง้าว ดาบโล่ รวมทั้งพร้อมด้วยชุดเกราะรบเต็มอัตราศึก
“ จากนี้ให้เจ้ามุ่งหน้าไปทางตะวันตก วิ่งไปสุดฝีเท้าตราบเท่าที่แสงจันทร์ยังสาดส่อง ขอให้จันทรานำทางเจ้าไปพบจุดหมายปลายทาง ฝากบุตรของเจ้าให้เหล่ามนุษย์ดูแล เขาเป็นฮาล์ฟเอลฟ์ และจะไม่มีมนุษย์ผู้ใดล่วงรู้ว่าเขาเป็นรวมถึงตัวเขาเองจนกว่าจะถึงเวลาอันควร ส่วนตัวเจ้าให้หายลับไปกับเงาจันทร์ แล้วสักวันหนึ่ง เมื่อถึงเวลาอันควร ข้าจะพาเขากลับไปหาเจ้า เพื่อการหวนคืนแห่งราชวงศ์มูนเบลส “ ที่สุดของหายนะกล่าวเบาๆ ทว่าแต่ละถ้อยคำกลับชัดเจนราวกับว่ามันจะฝังลึกลงไปในความทรงจำ
ลูน่าแฟลร์พยักหน้า เธอจำใจต้องทำตามคำพูดของดิอาร์ค ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการพรากลูกไปจากเธอก็ตาม แต่อย่างน้อยลูกของเธอก็จะได้ใช้ชีวิต ส่วนเธอก็ยังคงมีชีวิตรอด แล้วถ้าสักวันหนึ่งที่ว่ามีจริง... เธอกับลูกก็คงจะได้พบพานกันอีก
ธิดาแห่งแสงจันทร์เริ่มออกวิ่งอีกครั้ง คราวนี้โดยมีจุดหมายที่แน่นอน ทิ้งการต่อสู้นองเลือดระหว่างมนุษย์กิ้งก่า ที่สุดของหายนะ และหน่วยไล่ล่าเอาไว้เบื้องหลัง
แม่รักลูกนะ...
ค่ำคืนนี้... ขอให้แสงจันทร์และดวงดาวนำทาง...
ความคิดเห็น