คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ส่งงานคุณหนึ่ง : คิดถึงเสมอ
-------
สวัสดีค่ะคุณหนึ่ง
นี่ถือว่าเป็นนิยายแนวรักเรื่องแรกที่เทียร์ได้ลองวิจารณ์เลยค่ะ
สารภาพว่าไม่ค่อยได้อ่านนิยายแนวนี้สักเท่าไหร่ หากไม่ถูกใจยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
แต่เทียร์จะพยายามวิจารณ์อย่างสุดความสามารถค่ะ
-------
1.ชื่อเรื่อง
ชื่อเรื่องยังต้องบอกว่าเรียบเกินไปค่ะ
แต่บ่งบอกแนวของเรื่องได้อย่างชัดเจน และเทียร์สัมผัสได้ว่าคุณหนึ่งถ่ายทอดความเศร้าผ่านชื่อเรื่อง
เหมือนกับว่าตอนที่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาคุณหนึ่งอยู่ในโหมดเศร้าจริงๆ
(ถ้าเดาผิดขออภัยนะคะ)
2.เนื้อเรื่อง
เพราะเป็นนิยายรักที่เทียร์อ่านไม่กี่เรื่อง
และให้ความรู้สึกสนุกน่าติดตาม (หรือเพราะเทียร์ไม่ค่อยอ่านแนวนี้ด้วยรึเปล่า555)
จริงๆ มันสนุกมากๆ ค่ะ และในแต่ละบทก็ไม่เยอะจนเกินไป
เรียกได้ว่ากำลังพอดีคำ แถมยังมีการทิ้งความน่าติดตามในแต่ละตอนให้ได้ลุ้นกันอีก
เนื้อเรื่องไหลไปในทางเดียวกัน และดำเนินเรื่องไม่นอกทางค่ะ
แม้ว่าจะพอคาดเดาเนื้อเรื่องบทถัดๆ ไปได้ การที่คุณหนึ่งคงความน่าติดตามได้
ถือเป็นเรื่องยากอีกเรื่องสำหรับนักเขียนค่ะ แต่...! บางจุดยังคงทำให้นักอ่านงงได้
และมีสะดุดบ้าง เช่น
ฟ้า+น้ำ : จากที่คุณหนึ่งเขียนในบทที่2 เทียร์คิดอิมเมจทั้งสองไม่ออกเลยว่าเป็นเด็กม.4 เพราะว่าตอนที่ถามความต่างระหว่างฝาแฝดพี่น้อง ทั้งสองคนมองไม่เห็นความต่างของกันและกัน
หากเป็นเพศเดียวกันหรือในวัยเด็ก มันอาจเป็นไปได้ที่จะแยกกันไม่ค่อย
แต่เนื่องจากคนละเพศและอายุก็วัยหนุ่มสาวแล้วทั้งคู่
แน่นอนว่าลักษณะทางกายภาพมันต้องต่างจนเห็นชัดอยู่แล้ว
จึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเด็กม.ปลาย ที่จะไม่ได้เรียนรู้เรื่องสรีระค่ะ
และตอนที่ทั้งสองคนตอบพ่อว่าสนุกกับการเรียน เทียร์ว่าม.ปลายส่วนใหญ่แล้วคงบ่นเรื่องการบ้านมากกว่าตอบว่าสนุกแน่ๆ
// เทียร์ล่ะคนนึงขึ้นม.ปลายแล้วตายคากองการบ้านทุกวัน
(แต่ตอนนี้ผจญมรสุมงานมหาลัยมากกว่าค่ะ555)
บทที่4
ตอนแรกที่อ่านบทนี้ค่อนข้างงงมากค่ะ(อาจจะเป็นเทียร์คนเดียวก็ได้) งงขนาดต้องย้อนกลับไปดูตอนที่แล้วเลยค่ะว่า
อ้าว! สรุปใครรอดกันแน่ (ฮา) โดยเฉพาะภัทราที่ว่าลูกเสีย
แล้วน้ำยอมเปลี่ยนไปเป็นฟ้า บางคนอาจงงค่ะ(เทียร์ด้วยค่ะ)ลองเพิ่มเติมอะไรดู
เพื่อให้คนอ่านเข้าใจมากกว่านี้
และแล้วเทียร์ก็เพิ่งนึกได้ว่าลืมดูคำโปรย
"ความรู้สึกของผู้ถูกลืม มันเจ็บปวดและเศร้าแค่ไหนนะ
แล้วใครจะเป็นผู้เปิดประตูให้เธอก้าวเดินออกมาจากมุมที่ถูกลืม"
พูดตรงๆ นะคะ
จากคำโปรยถ้าเทียร์อ่านมันไม่น่าติดตามค่ะ และจะเลือกอ่านทีหลัง คำโปรยของเรื่องนี้ไม่ต่างจากนิยายรักทั่วๆ
ไป ประมาณว่าไม่มีจุดเด่นหรือจุดขายในเรื่อง ที่จะนำมาแสดงให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ
คุณหนึ่งอาจมองไม่ออกเทียร์ขอสมมติว่า นิยายเรื่องนี้เปรียบเสมือนเค้กก้อนหนึ่งที่คุณหนึ่งเป็นคนทำออกมาเพื่อวางแข่งขันกับผู้เข้าร่วมนับสิบ และมีแขกผู้มาร่วมงาน(นักอ่าน)หลายร้อยคน ให้เลือกตัดสินเค้กแต่ละชิ้น
สิ่งแรกที่ทุกคนดูคือ "หน้าตา" รูปลักษณ์ภายนอก
ซึ่งเค้กก้อนนี้ที่คุณหนึ่งทำ ไม่ได้ตบแต่งภายนอกให้น่าสนใจเหมือนชิ้นอื่นๆ
คนจึงได้แต่เดินผ่านไปมาและไม่กล้าเข้ามาชิม
ทั้งที่เนื้อในเค้กมันอร่อยกลมกล่อม แต่ถ้าคุณหนึ่งลองตบแต่งหน้าตาให้น่าทาน
ผู้คนก็ต้องเข้ามาชิมแน่นอนค่ะ ตัวคุณหนึ่งเองก็เขียนนิยายเรื่องนี้ได้สนุกมากและเนื้อในนิยายก็น่าติดตามด้วย
คุณหนึ่งอาจจะนำส่วนเด่นๆ ในนิยายมาเป็นคำโปรยได้
อย่างการนำเรื่องของฝาแฝดมากล่าวถึง การนำเรื่องของหมอคิดกับชลธิชามาเรียกความสนใจ
หรืออาจจะเป็นตัวหมอคิดกับน้ำ ยังได้เลยค่ะ ยังไงลองเก็บส่วนนี้ไปทำการบ้านเพิ่มเติมนะคะ
3.ตัวละคร:
เรื่องนี้จัดว่าการวางตัวละครค่อนข้างชัดเจนเรื่องหนึ่ง
ลักษณะนิสัยแต่ละคนมีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่ต่างกัน สามารถแยกให้ผู้อ่านทราบได้และซึมซับลักษณะนิสัยได้รวดเร็วค่ะ ดังนั้นเทียร์จะขอวิจารณ์ในส่วนนี้แค่
3 ตัวหลักนะคะ
คิดถึงเสมอ: หมอคิดนี่ต้นแบบชายในอุดมคติสาวๆ
เลยค่ะ รวมถึงเทียร์ด้วย(ฮา) จากบริบทที่คุณหนึ่งเน้น
และย้ำกับผู้อ่านคือคุณหมอเก่ง ฉลาด และหน้าตาดี(อันหลังไม่ค่อยกับที่จะพูดค่ะ)
สำหรับเทียร์บอกเลยค่ะหมอไม่ได้ฉลาดเลย จากบทที่4 ที่จะขอชลธิชาแต่งงาน
เทียร์ว่าการขอแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่นะ เพราะอย่างน้อยที่สุดเลย หมอคิดต้องแน่ใจแล้วว่าสามารถเข้ากับชลธิชาได้จริงๆ ถึงจะรักมากแค่ไหนถ้าเข้ากันไม่ได้แต่งงานกันไปก็จบค่ะ
แต่ในเรื่องแทบจะเรียกได้ว่าหมอคิดตามตื้อฝ่ายเดียวตลอด มันเลยขัดกับบุคลิกของคนฉลาดค่ะ
เห็นได้ชัดจากบทก่อนๆ ว่าสาวเจ้าไม่ชอบหมอคนนี้สักเท่าไหร่(ขนาดแม่ชลธิชาเองยังคอยดูถูกเลย)
และยังถูกดูหมิ่นมาตลอดเวลาที่คบกัน หากเป็นเรื่องจริงผู้ชายฉลาดอย่างหมอคิดคงไม่คบกับชลธิชาแน่นอน
ถึงท้ายที่สุดทั้งสองจะจบความสัมพันธ์ลง
ชลธิชา: ขอเทียร์ใช้คำว่ายโสนะคะ
มีเพื่อนนิสัยอย่างนี้เทียร์ตีให้ตายเลย(ฮา) บางครั้งนางก็ยโสกับแฟนจนเกินควร
แต่ขอชื่นชมที่คุณหนึ่งในการเขียนบทแตกจริงๆ ถือเป็นนิสัยที่คงเส้นคงวามากค่ะ แถมบทหลังๆ ยังเพิ่มดีกรีให้นางเป็นวายร้ายได้เต็มตัวมาก และตัวร้ายตัวนี้ดีที่ไม่วี้ดว้ายเหมือนหลายๆ
เรื่อง(บางเรื่องร้องเต้นเป็นนกกระเต็นเลยค่ะ555)
เทียร์ขอยกบทนางร้ายดีเด่นให้เพราะชอบนางค่ะ
น้ำ: หลังจาก 7
ปีผ่านไปเทียร์รับรู้ได้อย่างคือหมอหนุ่ม? สาวแตกค่ะ(ฮา)
จริงอยู่ว่ากริยาวาจาทำให้นิ่งและดูสมชาย แต่ต้องระวังค่ะบางบริบทมันยังสามารถทำให้คนรอบข้างจับได้ว่านางเป็นหญิงค่ะ แต่จากที่อ่านทั้งเรื่องเทียร์ชอบหมอฟ้าที่สุดนะ
นางน่ารักค่ะ ชอบ <3 (เอาหมอคิดเก็บไว้ก่อน// โดนคุณหนึ่งโบก)
4.ภาษาที่ใช้
การใช้ภาษาในเรื่องดูเรียบง่ายแต่บรรยายภาพชัดเจน
และไม่ยากต่อการเข้าใจค่ะ ไม่ค่อยปรากฏศัพท์สวยๆ หรือประโยคฟุ่มเฟือยสักเท่าไหร่
บางเรื่องเทียร์เคยอ่าน ชอบใช้คำให้ดูสวยแต่เข้าใจยาก(เกินความจำเป็น) แถมเขียนวนไปวนมาอีกต่างหาก
แต่เทียร์ว่าอันนี้เป็นปัญหากับคุณหนึ่ง(รึเปล่า)
คือเรื่องการใช้คำว่าที่ค่อนข้างบ่อย
อาจลองเปลี่ยนไปใช้คำเชื่อมอื่นดูนะคะ เช่น “คิดถึงเสมอรู้สึกว่าการที่ได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
และมีสายลมที่เรามักจะคิดว่ามันอ่อนโยน
มาปะทะใบหน้าด้วยแรงที่โหมกระหน่ำ...” จากย่อหน้าเดียวคุณหนึ่งใช้คำว่า
"ที่" สามครั้งจนเทียร์สังเกตและเผลอเลื่อนสายตาหาคำนี้ทันทีค่ะ
ลองปรับเปลี่ยนดูนะคะ เพราะจากประโยคนี้(รวมถึงประโยคอื่นๆ) บางช่วงสามารถละคำนี้ได้
อาจเขียนเป็น ***คิดถึงเสมอรู้สึกว่าการได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
และมีสายลมที่เรามักจะคิดว่ามันอ่อนโยน มาปะทะใบหน้าด้วยแรงโหมกระหน่ำ*** ประโยคอื่นๆ ก็มีค่ะ ลองอ่านทวนอีกสักรอบสองรอบนะคะ
"เวลาผ่านไปสักพักประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง คิดถึงเสมอเดินไปเดินมา กระสับกระส่าย ที่ศาลาทรงตะวันตกในสวนของบ้านวุฒิพงศ์...” ต้องการบอกว่าคิดถึงเสมอเดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่ายรึเปล่า?
ในบทที่2 สรรพนามแทนของชัยนที อันนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่คุณหนึ่งจะพิจารณาค่ะ
แต่ตามความคิดเทียร์ เด็กอายุ 16 (น่าจะได้นะคะ เพราะอยู่ม.4) ไม่น่าใช้เด็กชายค่ะ
น่าจะเป็นเด็กหนุ่มมากกว่า หากเป็นนิยายแฟนตาซีเทียร์จะไม่ติงเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่เนื่องจากเป็นนิยายรัก มักจะใช้มาตราฐานอายุกับสรรพนามเท่าๆ
กันค่ะ ยังไงก็ลองเก็บไปคิดดูนะคะ
คำผิดค่ะ (เน้นตัวสีเข้มคือคำที่ถูกนะคะ)
บทที่1:
พุด ---- ผุด
เร้าร่อน ---เร่าร้อน
น่ะค่ะ --- นะคะ
กระจอก กระจอก --- เนื่องจากเป็นคำซ้ำ
สามารถใช้ไม้ยมก (ๆ) แทนได้ค่ะ เพื่อไม่ให้ประโยคยาว
ขอเทียร์ติเรื่องหางเสียงหน่อย
เพราะจากที่สังเกตเขียนค่อนข้างผิดบ่อย เทียร์อ่านๆ อยู่บางครั้งสะดุดเลย บางประโยคเป็นประโยคบอกเล่าใช้
"คะ" เทียร์ถึงกับทวนกันอีกรอบเลย ที่เขียนผิดอาจมากจากการรีบพิมพ์ด้วย(เทียร์เข้าใจค่ะ
บางครั้งกำลังได้ฟีล แบบหืม...ต้องเป็นอย่างนี้นะ ต่อไปอย่างนี้
เลยเขียนติดลมจนบางครั้งไม่ทันสังเกต)
แต่ยังไงก็อย่าลืมตรวจเช็คคำผิดให้ดีๆ
ค่ะ เรื่องการใช้ "คะ"กับ"ค่ะ" เขียนอาจคล้ายกันแต่เขียนผิดชีวิตเปลี่ยนนะ
"ค่ะ" เป็นเสียงต่ำ ส่วนมากใช้เพื่อตอบรับหรือขานรับบางอย่าง เช่น
มาค่ะ, ทราบแล้วค่ะ, เข้าใจค่ะ
ส่วนคำว่า "คะ" (ค๊ะ) เป็นเสียงสูง
แสดงถวามไม่แน่ใจเสียส่วนมาก บางครั้งอาจรวมถึงการขอร้องด้วย เช่น อะไรนะคะ(อันนี้ถามเพื่อความแน่ใจ),
ช่วยหน่อยนะคะ(ขอร้อง) เป็นต้นค่ะ เช่นเดียวกับคำว่า นะ,น่ะ ละ,ล่ะ ยะ,ย่ะ
วะ,ว่ะ(บทอื่นๆ พบเจอได้ประปรายค่ะ)
และหลังเครื่องหมายอัญประกาศปิดข้อความ
(เครื่องหมายคำพูด) ไม่จำเป็นต้องเว้นวรรคนะคะ
ไม่งั้นมันจะกลายเป็นการเปิดข้อความต่อ
"นี่คิดเจอยันน้ำ...." --- ยัย/ยาย
บทที่2:
วุฒพงศ์ --- วุฒิพงศ์
ชลิชา --- ชลธิชา
เนี๊ยะ --- เนี่ย
บทที่5:
"ฉันก็เหมือนเดิมทั้งนั้นแหละ
แกต่างหากที่ทิ้งฉันไปตั้งห้าปี...." ตรงนี้ต้องเป็นเจ็ดปีรึเปล่าคะ
เทียร์นับตามที่บอกว่าลงไปชายแดนใต้เจ็ดปีจากก่อนหน้านี้
ชั่วครั้วชั่วคราว --- ชั่วครั้งชั่วคราว
บทที่6:
เพราะนั้น --- เพราะนั่น
คลาคล่ำ --- คราคร่ำ
เนี๊ยะ --- เนี่ย
อ้าป้าง --- อ้าปาก
บทที่7:
ทำเสียงเข้าลอดไรฟัน --- รอด
ดูแลที่นี้ --- ที่นี่
5.สรุป:
เรื่องคิดถึงเสมอ
จัดเป็นนิยายรักโทนอบอุ่น และเศร้าในคราวเดียวกัน ไม่ได้เน้นความรักที่หวือหวา
แต่ให้ความอบอุ่นกับผู้อ่านได้มาก เนื้อเรื่องเองก็เรื่อยๆ แต่กลับทิ้งความน่าติดตามและน่าสนใจในแต่ละตอนได้เป็นอย่างดี
มีการจัดแบ่งตัวละครและองค์ประกอบในเรื่องที่ค่อนข้างสมบูรณ์อีกเรื่องหนึ่ง
ภาษาที่ใช้เองก็ถือว่าเป็นคำเรียบๆ อ่านเข้าใจง่าย
ไม่ค่อยมีประโยคฟุ่มเฟือย เรื่องคำฺผิดส่วนใหญ่ที่พบเจอ เป็นคำลงท้ายเสียงเป็นส่วนมาก
(พวก ค่ะ,คะ ฯ) ลองตรวจทานในส่วนตรงนี้ดูค่ะ
===============================
ความคิดเห็น