คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 (ครึ่งหลัง)
ไวโอเล็ตยิ้มนิดๆเมื่อเห็นภาพด้านหลังประตู นี่สินะห้องนอนของเธอ มันเป็นห้องนอนทรงกลมที่ถึงแม้จะฝุ่นเขลอะและทรุดโทรมตามคาด แต่เตียงสี่เสาที่ตั้งอยู่กลางห้องในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ทำให้เธอชอบไม่น้อย เตียงที่มีม่านลูกไม้บางเบาสีขาว(ซึ่งตอนนี้เป็นสีเทาๆ)คลี่คลุมสี่ด้านดูราวกับเตียงเจ้าหญิงในนิทานที่เธอเคยอ่านตอนเด็กๆ หญิงสาวอดใจไม่ไหวกระโดดตุบลงไปกลางเตียง
ตุบ! ฮัดเช่ย!
ฝุ่นฟุ้งขึ้นมาจากเตียงจนทำให้เธอรู้ว่าคิดผิด ไวโอเล็ตสะบัดหัวไปมาก่อนจะกระเถิบลงจากเตียง รอจนฝุ่นจางแล้วจึงมองสำรวจต่อ มีหน้าต่างบานหนึ่งอยู่ตรงข้ามกับประตูพอดิบพอดี มองเห็นพระจันทร์ที่ใกล้จะเต็มดวงลอยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางฟ้า ทางผนังด้านขวามือมีภาพเขียนแขวนอยู่ หญิงสาวขมวดคิ้วมอง นึกสงสัยว่าเจ้าของคนเก่าจะชอบอะไรนักหนาถึงแขวนภาพไว้ซะทั่วบ้านอย่างนี้
ไวโอเล็ตเดินไปที่ภาพเขียน ดึงผ้าคลุมออก
ภาพทุ่งดอกไม้สีฟ้าในคืนพระจันทร์เต็มดวงดูงดงามแม้สีจะซีดเล็กน้อย หากที่ทำให้เธอจ้องมันเขม็งคือไอเวทมนตร์ที่แผ่ซ่านออกมาจากภาพนั้น
อะไรนักหนานะ! หญิงสาวถอนใจก่อนจะเอื้อมมือไปแตะภาพ
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...เธอเคาะรอบกรอบก็แล้ว หมุนภาพก็แล้ว ก็ไม่มีอะไร หญิงสาวทำหน้ายุ่งก่อนจะตัดสินใจออกแรงดึงภาพนั้น
“เจ้าทำอะไรน่ะ?!” เสียงเจ้าแมวดำดังขึ้น ไวโอเล็ตปล่อยมือจากภาพแล้วตวัดสายตามอง
“เพิ่งคิดได้รึไงว่าควรมาตรวจสอบความปลอดภัยของข้าน่ะ?! นี่ถ้าข้าเป็นอะไรไปท่านพ่อคงสาปเจ้าให้กลายเป็นไส้เดือนแน่ๆ!”
“ก็มาแล้วนี่ไงเล่า!” เจ้าแมวจากโลกเวทมนตร์ตอบเสียงสะบัดก่อนกระโดดขึ้นไปเกาะบนไหล่ของหญิงสาว
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“เจ้าไม่ได้กลิ่นรึไง? กลิ่นเวทมนตร์มันออกมาจากภาพนี้นะ! ข้าจะลองดึงมันออกมา”
“ไหนทีแรกกลัวนักกลัวหนาไง? ตอนนี้ทำเป็นกล้าเชียวนะ ไม่กลัวโดนคำสาปรึไง?” เจ้าตัวบนบ่าของคนพูดแขวะใส่ นัยน์ตากลมโตคู่นั้นตวัดค้อน
“ดีมั้ยล่ะ? โดนสาปเป็นคู่น่ะ? ไม่เคยมีใครโดนมาก่อนเลยนะ!”
ชิกเก้นส่งเสียงเชอะในลำคอก่อนจะหันไปจ้องภาพ
“กลิ่นแรงดี แต่ข้าว่านะ เจ้าคงต้องดึงหมดบ้านเลยล่ะ”
“ห๊ะ?” คราวนี้คนฟังทำหน้าเหรอหันมามอง เจ้าแมวดำถอนใจเฮือก
“กลิ่นเวทมนตร์ที่มันลอยอยยู่ทั่วบ้านเนี่ย มันมาจากภาพเขียนทั้งหมดนี่ไงล่ะ!”
ไวโอเล็ตมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะยักไหล่
“งั้นข้าดึงล่ะนะ” เมื่อเจ้าชิกเก้นผงกหัวเธอจึงออกแรงดึงภาพนั้น
กริ๊ก!
เสียงเหมือนกลไกบางอย่างถูกปลดออก ภาพเขียนหลุดติดมือของแม่มดสาวออกมามีควันสีเทาพวยพุ่งออกมาจากช่องด้านหลังนั้น
ด้านหลังของภาพเขียนเป็นช่องว่าง ช่องว่างสี่เหลี่ยมสีดำที่ไม่อาจมองเห็นอะไรภายในได้
“อะไรกันเนี่ย?” ไวโอเล็ตพึมพำ “หรือว่าเป็น...ประตู?”
“หน้าต่างล่ะมั้งน่ะ” เจ้าแมวที่อยู่บนบ่าของเธอตอบ
ไวโอเล็ตตวัดสายตาค้อน ก่อนจะทำหน้านึกได้
“อ่ะ...ถ้างั้น” หญิงสาวหันมายิ้มหวานจนน่าขนลุกให้แมวสีดำ และก่อนที่เจ้าแมวตัวแสบจะทันตั้งตัวเธอก็อุ้มมันโยนตุ้บลงไปในช่องนั้น
“ลงไปเซอร์เวย์ทางก่อนนะ เดี๋ยวข้าตามไป”
“เฮ่ย!!!” ชิกเก้นร้องเสียงหลงก่อนเสียงของมันจะค่อยๆเบาลง เบาลงแล้วก็เงียบหาย แม่มดสาวเดินไปชะโงกดูก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสะใจทั้งที่เคยได้รับการสั่งสอนมานักหนาว่าเป็นผู้หญิงควรหัวเราะแต่พองาม
“555 สมน้ำหน้าเจ้าแมวปากเสีย รออยู่ตรงนั้นก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวข้าสำรวจหมดบ้านแล้วค่อยตามเจ้าไป” ขาดคำร่างบางก็เดินพลิ้วออกจากห้องนอนไปเสียดื้อๆตามด้วยการปิดประตูและล็อคกุญแจ
ไวโอเล็ตกะว่า “เดี๋ยว” ของเธอคงจะกินเวลาทั้งคืน
ถัดจากประตูห้องนอน หญิงสาวก็พบกันภาพเขียนอีกหนึ่งภาพ เธอดึงผ้าคลุมออกก็พบว่าเป็นรูปของหญิงสาวคนหนึ่ง
“ใครกันล่ะเนี่ย?” แม่มดสาวเลิกคิ้วอย่างสงสัย นัยน์ตาสีม่วงสดตอนนี้ไม่มีแววหวาดกลัวเลย มันเป็นประกายเหมือนเด็กเห็นของเล่นชิ้นใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
บ้านนี้มีอะไร “สนุกๆ” ให้เล่นเยอะดี เธอชอบ!
ภาพเขียนนั้นเป็นรูปของหญิงสาวแบบครึ่งตัว หากซีกหน้าหนึ่งของเธอกลับซ่อนอยู่ในเงามืดสลัวเห็นแต่เพียงดวงหน้าอีกซีกหนึ่งที่ก็ดูเลือนรางไม่น้อย หากยังพอมองเห็นนัยน์ตาดำขลับกลมโตที่หวานซึ้งซึ่งมีแววเศร้าสร้อยสะท้อนอยู่เต็มสองตา หญิงสาวในภาพมีเส้นผมดำหยักศกเคลียบ่า ดวงหน้ารูปหัวใจดูอ่อนหวานและบอบบางด้วยจมูกนิดและริมฝีปากบางสีกุหลาบที่คลี่ยิ้มจางๆ ยิ่งดูไวโอเล็ตก็ยิ่งรู้สึกราวกับว่าเธอคนนั้นส่งรอยยิ้มแสนเศร้ามาให้เธอ
“ใครวาดกันนะ เศร้าเป็นบ้าเลย” หญิงสาวพึมพำ ขณะมองอย่างชั่งใจ
“ขอโทษนะ ขอดูหน่อยแล้วกันว่าข้างหลังท่านเป็นอะไร” เสียงใสเอ่ยแผ่วเบากับสตรีในภาพ ก่อนจะยกมือไปจับภาพนั้น
วูบ!
ไอเวทมนตร์แผ่ซ่านออกมาจนแม่มดสาวรีบชักมือกลับแทบไม่ทัน ไวโอเล็ตถอยกลับมาตั้งหลัก ก่อนจะก้าวเข้าไปใหม่
คราวนี้หญิงสาวหลับหูหลับตาดึงจนภาพหลุดออกมาในที่สุด
“อ๊ะ! อะไรเนี่ย?!” นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ
“ประตูอีกแล้วหรอเนี่ย?!” แปลกมากที่มีประตูมิติถึงสองบานภายในบ้านหลังเดียว ตั้งแต่อยู่มาเธอไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย
และเธอก็ต้องแปลกใจมากกว่านั้นที่เจ้าชิกเก้นกระโดดออกมาจากช่องสีดำตรงหน้า
“อ้าว! ไอ้ประตูสองบานนี่มันเชื่อมกันหรอ?” เสียงใสอุทานอย่างงงๆ เจ้าแมวดำค้อนขวับให้เจ้านายนิสัยเสียที่จับมันโยนสุ่มสี่สุ่มห้าลงไปในประตูมิติก่อนจะเดินไปงับขาเรียวเข้าทีหนึ่งเป็นการแก้แค้น
“โอ๊ย! เจ้ามางับข้าทำไมเนี่ย!” เจ้านายสาวตัวแสบร้องหน้าตาใสซื่อราวกับไม่ได้ทำอะไร ชิกเก้นหันมาตวาดแหว
“ตอบแทนที่เจ้าโยนข้าลงไปในไอ้ประตูเฮงซวยบานนั้นไงล่ะ นี่ถ้าข้าไม่ได้กลับออกมานะท่านพ่อเจ้าเล่นงานเจ้าแน่โทษฐานประทุษร้ายแมวแม่มดประจำตระกูล”
“หมั่นไส้! รู้งี้ไม่น่าเปิดเลย น่าปล่อยให้เจ้าอยู่ในนั้นไปทั้งคืน!” เสียงใสโวยอย่างฉุนๆ เจ้าแมวดำยักคิ้วให้อย่างกวนอารมณ์
“น่าเสียดายที่ข้าไม่เป็นอะไร แถมไปเจอของน่าสนใจหลังประตูด้วย..ย” มันลากเสียงเรียกความอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาวก่อนจะลอยหน้าลอยตาเดินจากไป
“เดี๋ยวสิ! เจ้าไปเจออะไรมาน่ะ! บอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!” ไวโอเล็ตวิ่งตามเจ้าแมวดำที่วิ่งกลับไปนอนที่โซฟาเหมือนเดิม
“ข้าง่วงแล้ว นอนดีกว่า ราตรีสวัสดิ์นะไวโอเล็ต” มันบอกเสียงยานคางก่อนอ้าปากหาวแล้วทิ้งตัวนอนอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจแม่มดที่ทรุดนั่งลงเกาะขอบโซฟามองมัน
“โธ่! ชิกเก้น! อย่าเพิ่งหลับเซ่! ตื่นขึ้นมาคุยกับข้าเดี๋ยวนี้นะ!” ไวโอเล็ตแทบจะจับมันเขย่าแต่ชิกเก้นก็ไม่แม้แต่จะลืมตา เธอก็เลยได้แต่ค้อนมัน
“เชอะ! เจ้าไม่บอก ข้าลงไปดูเองก็ได้!” ยังไม่ทันจะหันหลังเสียงเจ้าแมวดำก็ดังขึ้นซะก่อน
“ไม่ต้องเลย! ไปปิดประตูมิติซะ! แล้วพรุ่งนี้เจ้าค่อยลงไปดูเดี๋ยวไปทำเรื่องยุ่งเข้า หลังประตูนั่นไม่ใช่ที่เล่นของเด็ก”
“เอ๊ะ!” แม่มดสาวหันมาแหว ยกมือท้าวสะเอวหน้าตาเอาเรื่องที่มันบังอาจหาว่าเธอเป็นเด็ก แต่เจ้าชิกเก้นยกหางขึ้นโบกไปมา
“อย่ายุ่งกับภาพเขียนอีก เจ้าไปไขอีกสองห้องแล้วก็ไปอาบน้ำนอนซะ พรุ่งนี้ค่อยมารื้อต่อ”
“ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย?” ไวโอเล็ตถามหน้าตาหาเรื่องสุดขีดก่อนจะหันเดินตรงไปที่ภาพเขียนซึ่งยังเปิดอยู่ แต่เสียงหน่ายๆของแมวจากโลกเวทมนตร์ก็หยุดฝีเท้าของเธอได้
“ถ้าเจ้าไม่อยากให้โลกมนุษย์กับโลกเวทมนตร์วุ่นวายจนเจ้าเรียนไม่จบต้องถูกเรียกกลับก็ไปปิดประตูแล้วนอนซะ ไม่เชื่อก็ตามใจ!”
หญิงสาวขมุบขมิบปากบ่นแต่ก็ยอมทำตามที่ชิกเก้นบอก อย่างน้อยๆเธอก็ยังอยากเรียนจบอยู่ เมื่อปิดประตูมิติแล้วไวโอเล็ตก็เดินไปไขประตูอีกสองบานที่อยู่ด้านหลังโซฟาซึ่งด้านหลังประตูนั้นคือห้องครัวกับห้องอาบน้ำ แม่มดสาวชำเลืองมองเจ้าแมวที่หลับไม่สนใจสิ่งรอบตัวแล้วเดินไปคุ้ยหาชุดนอนจากกระเป๋าสัมภาระที่หิ้วเข้ามาก่อนจะเดินเข้าห้องอาบน้ำไป
ครู่ใหญ่ไวโอเล็ตก็ออกมาในชุดเสื้อยืดสีซีดตัวโคร่งกับกางเกงขายาวตัวหลวม หญิงสาวเช็ดผมดำยาวที่เพิ่งสระเสร็จไปมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็คุ้ยหาขนมขึ้นมากินจากกระเป๋าใบเดิม เธอตัดสินใจแล้วว่าจะนอนมันตรงโซฟานี่แหละเนื่องจากเป็นบริเวณที่ดูดีที่สุดในบ้าน ดังนั้นเมื่อกินเสร็จแม่มดสาวก็ล้มตัวลงนอนอยู่ตรงหน้าโซฟาที่มีเจ้าแมวดำเหยียดยาวอยู่บนนั้นอย่างสบายอารมณ์นั่นเอง
ในขณะใกล้เคลิ้มหลับ หูของเธอก็ได้ยินเสียงสนทนาจากที่ไหนซักที่ดังมาแผ่วๆราวสายลมบางเบาพัดผ่าน
อีกไม่นานนางจะพบพวกเรา ข้าเชื่อว่านางจะช่วยแก้ไขเรื่องราวได้...
แต่นางยังเด็กนัก...วู่วามและใจร้อนเกินไป ข้าไม่อยากให้นางเป็นเหมือนอาริเซีย
ท่านพี่
ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องของโชคชะตา ข้าเชื่อว่านางทำใด้แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนางเอง...
เสียงใครน่ะ?! ผีรึเปล่า?! หญิงสาวพึมพำกับตัวเองหากก็ง่วงเกินกว่าจะลุกขึ้นมาดู เมื่อเสียงนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็วทำให้ไม่นานเธอก็หมดความสนใจและเข้าสู่นิทรารมย์ในที่สุด
ความคิดเห็น