ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[ Violet ]]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 (ครึ่งแรก)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 49


     เวทมนตร์อยู่ทุกหนทุกแห่งเสมอ...

    1…

    "ใครบอกว่าเรียนวิชาโทภาคโลกมนุษยศาสตร์ง่ายข้าจะไปจับมันมาเผาทั้งเป็น คอยดู!!!" เสียงใสๆโวยลั่นอย่างหัวเสียที่สุดขณะหยุดรถเต่าสีขาวเก่าๆของตัวลงอย่างกระแทกกระทั้น

    "ข้าว่าเจ้าควรจะโทษความป้ำเป๋อของตัวเองมากกว่ารึเปล่า ไวโอเล็ต?" เสียงห้าวๆที่มีแววประชดประชันปนเบื่อหน่ายของผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆคนพูดดังขึ้น ส่งผลให้นัยน์ตากลมโตสีม่วงสดของไวโอเล็ตหันมาจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

    "ข้าเนี่ยนะป้ำเป๋อ? ใครกันที่เผลอพูดภาษาคนกับเพื่อนของข้าจนเขาวิ่งพรวดออกไปจากบ้านห๊ะชิกเก้น?!"

    คนที่ว่าเธอป้ำเป๋อ หรือจะพูดให้ถูกอีกที...แมวสีดำสนิทที่บังอาจมาว่าเจ้านายตัวเองฉอดๆจ้องกลับมาอย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกัน

    "ก็เพื่อนเจ้าคนนั้นมาดึงหางข้า ข้าไม่เสกให้กลายเป็นหนูก็บุญเท่าไหร่แล้ว! มันเป็นเพราะเจ้าต่างหากที่พาเขามาที่บ้าน ต่อให้เขาไม่เจอข้าเขาก็ต้องเจอไม้กวาดกับตำราเวทย์หนาเตอะที่เจ้าวางแปะอยู่บนโต๊ะกินข้าวอยู่ดี!"

    ไวโอเล็ตอ้าปาก หากก็เถียงไม่ออกเพราะมันก็จริงอย่างที่เจ้าแมวสุดแสบของเธอพูด หญิงสาวเลยได้แต่ยกนิ้วขึ้นชี้หน้ามันก่อนจะลงจากรถไปอย่างโมโหสุดขีดพร้อมกับมีเสียงเมี้ยวเมี้ยวของมันร้องตามหลังมาอย่างกวนประสาทที่สุด

    ไวโอเล็ตยืนมองบ้านที่เธอจอดรถไว้ข้างหน้าอย่างเหนื่อยใจกับสภาพบ้านชั้นเดียวที่เห็น ถึงแม้สถาปัตยกรรมจะอ่อนช้อยสวยงามและพื้นที่ค่อนข้างกว้าง หากแต่มันก็เก่าโทรมและสกปรกได้ใจ ต้นหญ้าขึ้นรกจนแทบจะสูงท่วมหัว

    "น่าสาปนายหน้าให้กลายเป็นแมลงสาบจริงๆ!" เธอพึมพำด้วยความฉุนเฉียว สะบัดผมดำยาวที่ทิ้งตัวคลุมทั้งแผ่นหลังให้พ้นไปจากใบหน้าอย่างรำคาญ

    "ก็ใครกันที่เค้าจะพามาดูแต่ก็ไม่ยอมมาดูน่ะ?!" เสียงกวนประสาทดังอยู่ที่ข้างๆขา หญิงสาวหันไปจ้องเจ้าแมวปากเสียตาเขียวปัด

    "อยากเป็นแมลงสาบแทนก่อนใช่มั้ย?!" แมวสีดำสะบัดหางแทนการยักไหล่ก่อนจะเดินหายเข้าไปในในพงหญ้าตรงหน้า ไวโอเล็ตส่งค้อนตามหลังมันไป ก่อนจะกลับมามองดูบ้านแล้วถอนใจ

    "เอาเถอะ! บ้านที่ถูกที่สุดจะเอาอะไรนักหนา!" หญิงสาวพึมพำปลอบใจตัวเองขณะที่หัวสมองหมุนเร็วจี๋คำนวณตัวเลข

    ถ้าเรียกบริษัทเวทมนตร์มาเคลียจะดีมั้ยนะ? คงถูกกว่าเรียกมนุษย์มาชัวร์ๆแล้วก็เร็วกว่าด้วย แต่ว่า...นัยน์ตาสีม่วงสดใสกวาดมองบริเวณข้างเคียง

    จะมีมนุษย์มาเห็นเข้ารึเปล่า?

    ฟากตรงข้ามกับบ้านเป็นกึ่งทุ่งกึ่งป่าเพราะเป็นเขตชานเมือง โอเคคงไม่มีอะไร สองข้างของบ้านนี้ก็ร้างพอๆกับบ้านของเธอ แต่ถัดจากนั้นน่ะสิ...มีมนุษย์หมดเลย แถมถนนหน้าบ้านยังเป็นถนนใหญ่ซะด้วย

    ไวโอเล็ตถอนหายใจเฮือกแล้วยกมือกุมหัว ทำไมอะไรๆมันช่างวุ่นวายนักนะ! เธอคิดผิดจริงๆที่มาเลือกวิชานี้ ตอนแรกก็คิดว่ามันจะง่าย แค่ลองมาทดลองอาศัยอยู่บนโลกลองเรียนกับมนุษย์แค่ปีเดียวก็ผ่านแล้ว แต่นี่ที่ไหนได้!

    แค่สองเดือนแรก นี่ก็เป็นครั้งที่ห้าแล้วนะที่เธอต้องย้ายบ้าน!

    เรียกว่าอยู่ได้ไม่กี่สัปดาห์ก็ย้าย ย้ายแล้วย้ายอีกจนเธอจะหมดตัวอยู่รอมร่อ! ทำไมการปกปิดมนุษย์ไม่ให้รู้ว่าเธอเป็นแม่มดนี่มันช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกินไม่เธอก็ชิกเก้นจะต้องทำให้ความลับรั่วไหลทุกทีไป

    นี่จิตพิสัยของเธอจะยังหลงเหลืออยู่บ้างมั้ยนี่?!

    "จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย ท่านเจ้านาย?!" เสียงประชดประชันของเจ้าแมวตัวป่วนลอยมาจากพงหญ้า แมวที่เธอเชื่อว่าจะต้องถูกสาปในอีกไม่นานนี้

    "รู้แล้วล่ะน่า เร่งอย่างงี้จะมาช่วยข้าทำความสะอาดบ้านรึไง?!" แทบทันทีที่พูดจบเธอก็นึกถึงสีหน้ากวนโอ๊ยของมันได้อย่างชัดเจนพร้อมกับคำตอบของเจ้าแมวสีดำ

    "ไม่! นั่นมันหน้าที่เจ้าไม่ใช่หน้าที่ข้า! หน้าที่ของข้าน่ะก็แค่..."

    "ช่วยดูแลความประพฤติของแม่มดพ่อมดวัยรุ่นในตระกูลมาร์จิลล่าที่ออกมานอกโลกเวทมนตร์ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางพร้อมทั้งช่วยเหลือเมื่อถึงคราวจำเป็น เชอะ! ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะทำอะไรสักอย่าง วันๆไม่จับหนูเล่นก็ไปจีบแมวสาวๆตัวอื่นอยู่แค่นั้น!"

    "ข้าไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระกับเจ้าหรอกนะ จะเข้าบ้านหรือเจ้าจะยืนอยู่อย่างนั้นจนมืด!"

    "โธ่! เจ้าเถียงข้าไม่ออกล่ะสิว่ามันจริงน่ะ!" หญิงสาวตะโกนใส่พงหญ้าที่เธอแน่ใจว่ามีเจ้าแมวดำจากโลกเวทมนตร์นั่งอยู่ในนั้นและก็ได้ยินแค่เสียงสบถในลำคอดังกลับมา เธอยิ้มพอใจที่

    ชิกเก้นเถียงไม่ออกก่อนจะยอมเงียบเดินไปคว้ากระเป๋าใบโตจากท้ายรถแล้วเดินฝ่าพงหญ้าเข้าไปถึงตัวบ้าน


           กุญแจทองเหลืองสลักลวดลายดูโบราณจนหญิงสาวนึกสงสัยว่าไม่คิดจะเปลี่ยนเลยหรือไงถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ก่อนเธอจะสอดมันเข้าไปในรูกุญแจ

    กริ๊ก! แอดด..ด

    ประตูไม้สีขาวบานใหญ่ส่งเสียงครางยาวเมื่อเธอขยับดึงมันให้เปิดออก เกือบจะในทันทีหญิงสาวก็ผงะถอยไปข้างหลัง

    นัยน์ตาสีม่วงสดเบิกกว้างอย่างตกใจบวกประหลาดใจ ไม่ใช่เพราะความอบอ้าวหรืออับทึบของภายในบ้าน

    แต่กลิ่นนั่น! กลิ่นไอของเวทมนตร์ที่รุนแรงจากในตัวบ้านต่างหาก!

    "เวลาถอยหัดดูตาม้าตาเรือซะบ้างสิ!"  เสียงเจ้าแมวดำดังขึ้น หญิงสาวค่อยตั้งสติได้หันไปค้อนร่างสีดำที่เดินมานั่งข้างๆตัว

    "ใครจะไปเห็นล่ะตัวแค่นี้! นี่...เจ้าไม่ได้กลิ่นบ้างหรือไง?" ประโยคหลังเธอย่อตัวลงไปถามคู่สนทนา นัยน์ตาสีเหลืองของมันมองตอบ

                    "ก็ได้กลิ่นเหมือนที่เจ้าได้น่ะแหละ" น้ำเสียงของมันฟังดูไม่เดือดไม่ร้อน

                    "เจ้าว่ามันไม่ดูแปลกๆไปหน่อยหรอ?" เสียงใสเอ่ยถาม มีแววแหยงๆเล็กน้อย ชิกเก้นส่ายหัวด้วยท่าทางรำคาญเจ้านายที่มันเห็นว่า "ออกนอกลู่นอกทาง" ที่สุดในตระกูล ถึงขั้นเข้าพงหญ้าข้างทางทีเดียวละ

                    "อย่างมากก็เป็นคนใช้เวทย์ด้วยกัน เจ้าเป็นแม่มดจะไปกลัวพวกเดียวกันทำไมเล่า?!"

                    "ก็ถ้าเป็นพวกมนต์ดำข้ารับมือไม่ไหวหรอกนะ" เจ้าหล่อนบอก ถึงไม่ใช่ศัตรูแต่ใครจะไปอยากเจอพวกที่เกือบจะเป็นปีศาจไปแล้วอย่างนั้นล่ะ

                    "เอาไว้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไป! เข้าบ้าน!" พูดพลางเจ้าแมวดำก็เอาหัวดุนไวโอเล็ตให้ก้าวเข้าไปข้างใน

                    หญิงสาวพึมพำเวทย์จุดไฟ ไฟเวทมนตร์สีฟ้าให้แสงสว่างดูคล้ายๆหนังสยองขวัญ เธอเดินเข้าไปตามทางแคบๆที่นำไปสู่ห้องนั่งเล่น นู่น! สวิทช์ไฟอยู่สุดผนังทางเดินหน้าห้องโถงแน่ะ! ใครเป็นคนคิดกันเนี่ย?!

                    เธอกดเปิด

                    แชะ! 

                    ทั้งบ้านยังคงมืดสนิท

                    "โอ้ย! บ้านผีสิงรึไงเนี่ย!" เสียงใสโวยท่ามกลางแสงสีฟ้าสลัวๆ ถึงเป็นแม่มดก็ใช่ว่าจะไม่กลัวผีหรอกนะ นี่มันก็มืดแล้วด้วย! มีที่ไหน คนขายรับปากเธอดิบดีว่ามีน้ำมีไฟพร้อมอยู่ แต่ไฟดันไม่ติด?!

                    "อย่าโวยวายได้มั้ยเล่า! หนวกหู!" เจ้าชิกเก้นบังอาจมาตวาดเธอ "ลองปิดแล้วเปิดใหม่ซิ!"

                    ไวโอเล็ตทำตามอย่างเสียไม่ได้

                    ฟึ่บ!

                    ไฟทั้งบ้านสว่างโร่ขึ้นพร้อมกัน หญิงสาวถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก

                    "ก็แค่ไฟอาจจะไม่ได้เปิดนานเลยไม่ติดทันทีแค่เนี้ยมาโวยวาย!" แมวสีดำที่นั่งมองอยู่บ่นเสียงขึ้นจมูกแล้วเดินสะบัดหางไปนอนบนโซฟากลางห้องนั่งเล่น ไวโอเล็ตส่งค้อนให้เจ้าตัวแสบก่อนหันมองรอบๆ

                    กลิ่นเวทมนตร์แรงจริงๆ ต้องมีอะไรแปลกๆซะอย่าง มิน่า บ้านนี้ถึงขายถูกนัก!

                    สภาพห้องนั่งเล่นนั้นมีเพดานสูงเหมือนยุคโบราณ จริงๆเพดานก็ยกสูงทั้งบ้านนั่นล่ะแต่พอเป็นห้องนั่งเล่นเลยทำให้ดูโปร่งไม่อึดอัด ทั้งห้องไม่ทาสีจึงคงสีเนื้อไม้สีน้ำตาลแก่เอาไว้ มีโซฟาชุดสีน้ำเข้มที่ดูฝุ่นหนาเตอะตั้งอยู่กลางห้อง ทางขวามือเป็นโต๊ะไม้ตัวใหญ่กับเก้าอี้สองตัว ถัดจากนั้นตรงข้างฝามีรูปภาพขนาดใหญ่สูงกว่าตัวเธอที่มีผ้าคลุมอยู่ ทางซ้ายมือของห้องมีประตูหนึ่งบานและมีภาพวาดอีกหนึ่งภาพ ส่วนผนังทางด้านหลังโซฟามีประตูสองบาน

                    "เอาละ! เริ่มจากตรงไหนก่อนดี?!" หญิงสาวพึมพำ ล้วงกุญแจพวงใหญ่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงอีกข้างหนึ่ง

                    "มันเรื่องของเจ้า ข้าจะนอน!" เสียงเจ้าแมวแม่มดดังมาจากโซฟา ไวโอเล็ตค้อนขวับ

                    "ข้าไม่ได้ถามเจ้าซะหน่อย ถามตัวเองน่ะถามตัวเองเข้าใจมั้ย?!"

                    "เชอะ!" เสียงตอบลอยมาแล้วชิกเก้นก็หลับตาลง ทำไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยให้หญิงสาวสำรวจบ้านเอาเอง

                    ไวโอเล็ตตรงไปที่ประตูซ้ายมือก่อนเป็นอันดับแรก แม่มดสาวไขกุญแจไปก็จามไปด้วยฝุ่นที่จับเขลอะอยู่ทั่วบ้าน

                    ฮัดเช่ย! แกร๊ก! เสียงจามสลับกับเสียงเปิดกุญแจทำให้เจ้าแมวดำบนโซฟาลืมนัยน์ตาสีเหลืองมองอย่างหน่ายๆ ก่อนนัยน์ตาคู่นั้นจะเลื่อนไปมองภาพวาดขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังด้านตรงข้ามกับไวโอเล็ต มันได้ยินเสียงที่แม่มดสาวไม่ได้ยิน บทสนทนาที่ดังมาเพียงแผ่วเบาราวกับมาจากที่ไกลแสนไกลเบื้องหลังภาพเขียน

                    อย่าเอาใครเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลยท่านพี่..ข้าไม่อยากให้เหตุการณ์หนักหนาไปมากกว่านี้

                    แต่นางเป็นผู้ใช้เวทย์ บางทีนางอาจจะช่วยได้ อย่างไรก็ตาม...เจ้าไม่ต้องห่วง ถ้านางไม่เต็มใจจะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับนางทั้งสิ้น...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×