ลุงสุเทพ (เจื้อก ) (Legence uncle)
เขาเดินผ่านไปผ่านไปผ่านมา บริเวณตลาดนัด ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย รูปร่างสูงโปร่งสีผิวแทน เดินกระหย่องกระแหย่ง
พร้อมกับปากพึมพำเหมือนบ่นอะไรอยู่ตลอดเวลา ใครในหมู่บ้านต่างก็เรียกเขาว่า “ไอ้เจื้อก” ชื่อนี้ห่างหายไปในความทรงจำของฉัน แต่อยู่ดี ๆวันนี้ก็มีผู้รื้อฟื้นมันขึ้นมา ไม่ใช่ใครที่ไหนปู่และย่าของฉันเอง
“ฉันยังจำได้ เคยจ้างมันมาขนไม้ขนได้ไม่ถึงครึ่ง เบิกค่าจ้างก่อนแล้วมันก็หายไป “ เสียงย่าเอื้อนเอ่ย
จากนั้นเสียงปู่ก็หัวเราะขึ้น และก็ได้ยินเสียงแค่เบาบางลง ไม่ใช่เพราะคุยกันเบาลงหรอกแต่เป็นฉันที่ออกมาจากโซนที่จะได้ยินเสียงนั้นเอง มันทำให้ฉันนึกถึงวีรกรรมของ ไอ้เจื้อก สุเทพ ถ้านับตามอายุอานามฉันควรเรียกแกว่า ลุงสุเทพ ถ้าแกปกติแบบคนทั่วไป และแกก้ไม่ชอบให้ใครเรียกว่า ไอ้เจื้อกด้วย แกจะแสดงทีท่าโกรธถึงกับจะท้าชกต่อยเลย
ใครก็รู้ว่าแกไม่ค่อยเต็มบาท หรือเขาเรียกกันว่าบ้านั่นแหละ แต่ก็มีอีกหลายคนที่บอกว่าแกกแกล้งบ้า เพื่อผลประโยชน์อะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะมีงานบวช งานศพ งานวัด เป็นต้องเห็นแกทุกงาน การเดินทางของแกก็ด้วยลำแข้งแกนั่นแหละ
เดินไปเดินมา หยิบของกินตามอารมณ์แล้วก็หัวเราะเริงร่า ไม่ว่าของใครก็ตามแกพร้อมจะหยิบเสมอ ถ้าไม่มีคนห้ามปราม
แม้แต่ของที่ตกพื้น เลอะเทอะ สกปรกก็เอาเข้าปากเคี้ยว ตุ้ย ๆ เหมือนกับว่ามันอาหารอันโอชะ
วีรกรรมของเจื้อกส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องอาหารการกิน ใครจ้างยกนู่นยกนี่ และกับเศษเงินเล็กน้อย ห้าบาทสิบบาทยี่สิบบาทหรือจะเป็นบุหรี่แบ่งขาย เหล้าสุราใส่ขวดเอ็มก็เป็นอันดีงาม เดินไปก่นด่าไปตลอดทั้งเส้นทาง สักพักก็เอาบุหรี่ขึ้นมาดูดบุหรี่เป็นมวนบ้าง ม้วนใบจากบ้าง ขอให้มีดูดเถอะเจื้อกไม่เลือกทั้งนั้น
ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ใครๆก็ชอบแกล้งเขา หลอกกินนู่นกินนี่ ใช้งานเล็กน้อย แม้แกจะบ้าจริงหรือบ้างปลอมแต่แกไม่เป็นพาเป็นภัยกับใคร ยกเว้นเรื่องของกินต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะวันไหนมีตลาดนัด แม่ค้าพ่อค้าต้องระวังเป็นพิเศษ เผลอปั๊ป
เข้าปาก เคี้ยว ตุ้ย ๆ แล้วก้หัวร่อชอบใจตามสไตล์ของเจื้อก ถึงเจื้อกจะมีเงินที่ได้เพียงเล็กน้อยจากการรับจ้างไปเรื่อย
แต่เงินทั้งหมดก็ถูกเอาไปลงเอาเหล้าและบุหรี่
ห๊ะ จริงปะเนี่ย ! สุเทพเนี่ยนะ (ฉันเรียกสุเทพเวลาพูดกับคนอื่น) ใครจะไปเชื่อเห็นแกบ้าบอ เงินก็ไม่มีเดินไปเดินมา ขโมยข้าวปลาไปเรื่อย แกเป็นลุกเจ้าของตลาดนัด มันยากจะเชื่อที่หูได้ยิน ฉันจำไม่ได้ว่าแกเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเลยไหม
แต่รู้ว่าตั้งแต่ฉันเกิดมาลืมตาดูโลกแกก็เป็นแบบนี้แล้ว บางทีที่หมู่บ้านนี้เงียบเหงาไปเพราะไม่มีเจื้อกอยู่อีกแล้ว
เหตุเกิดที่ร้านขายอาหารตำสั่ง ตรงกันข้ามกับตลาดนัด ฉันชอบไปเล่นอยู่แถวนั้นเป็นประจำ เสาร์-อาทิตย์ รีบตื่นตอนแต่เช้า ดูการ์ตูน ดูละครจักรๆวงษ์ๆ เสร็จก็รีบฉวยจักรยานปั่นไปยังร้านขายอาหารตามสั่งเพราะเป็นบ้านของเพื่อน
วันนั้นไม่รู้อะไรมันดลใจ ให้ทำอะไรพิเรทร์ – เจื้อกเดินไปเดินมาตามปกติ แล้วก็มาหยุดที่ร้านขายอาหาตามสั่ง ด้วยนิสัยเห็นอะไรก็ก็หยิบเข้าปาก ไม่ว่ามันจะสกปรกขนาดไหน ขวดน้ำที่มีน้ำแกก็ยกกระดกหน้าตาเฉย แล้วก็หัวร่อตามเคย
บางทีที่แกบ่นจลลอดทางแกอาจไม่ได้บ้าก็เป็นได้ อาจจะเป็นเพราะฤทธิสุราก็ได้ เพราะแกกระดกอยู่เนือง ๆ ยากที่จะบอกว่าบ้าหรือเมา แต่คนส่วนใหญ่ก็ก็หยึดหลักที่ว่า “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา”
แกเหลือบไปเห็นเอ็มร้อยที่วางไว้ข้างเสา ข้างในมีน้ำอยู่ในนั้นด้วยนิสัยของแกไม่ผิดเพี้ยน แกเดินเข้ามาแล้วก็กระดก ไป อึก อึก สองอึกอย่างใหญ่ สักพักน้ำในปากก็พุ่งปรี๊ดเป็นน้ำออกมา เสียงหัวเราะดังลั่นบริเวณ หลังจากฉันเฉลยว่า
“น้ำในขวดเอ็มนั้น มันเป็นเยี่ยว “ ฉันไม่รู้ว่ามีใครบอกให้ฉันทำหรือไม่ หรือว่าฉันตั้งใจแค่ฉี่เล่น หรือจะตั้งใจแกล้งเจื้อก รู้แต่ว่าตอนนั้นมันสร้างความหัวเราะร่า ให้คนทั่วร้านอาหารตามสั่ง แม้ฉันยังเป็นเด็กแต่ฉันก็รู้สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป อย่างน้อยเขาก็อายุมากกว่าฉัน อย่างน้อยเขาก็เป็นคน แม้เขาจะเป็นคนบ้าหรือจะเป็นคนแกล้งบ้าก็ตามที หลังจากแม่รู้เรื่อง
แม่ก็อบรมเล็กน้อยว่าอย่าทำแบบนั้นอีก เขาแก่กว่าเรานะ
มันก็น่าแปลกที่คนเราชอบแกล้งคนที่อ่อนแอกว่า ฉันไม่ได้มากล่าวโทษใครหลอก ฉันก็เป็นคนแบบนั้น ยิ่งตอนเป็นเด็กแม้ฉันจะไม่อยากแกล้งในใจลึกๆ แต่เวลามีคนเข้าไปแกล้งเรื่อย ๆ มันก็อดไม่ได้ที่จะทำ แม้จะไม่อยากก็ตาม ไม่รู้เป็นการทำให้สังคมยอมรับหรือป่าว ตอนนี้ฉันกล้าพุดได้เต็มปากว่าอิทธิพลของสังคม ค่านิยมต่าง ๆ ใครจะยอมรับไม่ยอมรับ
ฉันไม่ได้เอามันมาใส่ใจให้ปวดกะบาลอีกแล้ว แม้จะมีใครมาก่นด่าว่าฉันทำบ้าอะไร จบมาทำไมไม่หางาน (งานในแบบที่สังคมว่ามันดี) คนที่เรียนจบมาย่อมรู้กันดีว่างานที่ดีที่ว่า มันดีจริงหรือป่าว! เอาเป็นว่าหลายคนอิจฉาชีวิตของฉันแล้วกัน
ต่อให้จะมีคนมาว่ากล่าว นินทรา ก่นด่าอะไรก็แล้วแต่ ฉันก็จะเดินต่อไป หัวเราะร่า (เหมือนใครที่ฉันได้เอ่ยไป)
หลายปีแล้วที่ไม่ได้ยินชื่อนี้ เจื้อก ฉันไม่รู้หรอกว่ามันมีความหมายว่าอะไร แต่ฉันขอแปลมันว่า หัวเราะต่อไป