คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Can I BE...[3]
Can I Be…
ตอนนี้เขาไม่รู้จะทำยังไงดี เปรมถูกสายตาคมกริบของคนตรงหน้าจับจ้องอยู่ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจะยิ้มแห้งๆกลับไปยังครูวาวที่ยิ้มมุมปากแถมทำเสียงหึ ในลำคอ ยิ่งทำให้เขารู้สึกตัวเล็กลงไปอีกทั้งๆที่เขาสูงกว่าเป็นคืบ คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองนาฬิกาก็ใส่อยู่ที่ข้อมือขวา ทำไม่ไม่รู้จักดูว่าเวลานี้เวลาเรียน และคาบต่อไปของห้องนี้เป็นของครูวาว
“ไงนายเปรม ไม่ไปเรียนหรือ”
ครูวาวขยับเข้ามาอีกก้าวทำให้เปรมต้องถอยหลังไปอีกก้าวตอนนี้เขาไม่รู้จะพูดยังไงนอกจาก เอ่อ... ครั้นมองไปทางเพื่อนรักทั้งหลายที่นั่งมองเพื่อขอความช่วยเหลือก็เจอแต่หน้าตาสะใจของแซนด์ การหลบสายตาของทาม กับเสียงหัวเราะอย่างดังของพวกเพื่อนๆที่เหลือ
“สงสัยนายเปรมอยากเรียนเคมีของสายวิทย์คณิต”
“อ่า...ผม...”
“เพื่อนๆหาที่นั่งให้นายเปรมหน่อยค่ะ เร็ว”
สิ้นคำ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของเขาก็ไปยกเอาเก้าอีกสีฟ้าที่ไอ้เป้มันจิ๊กมาจากโรงอาหารด้วยเหตุผลที่ว่าสะดวกในการนั่งรอบห้องมาให้เขาโดยทันที เป้ยกมาไว้ที่ว่างระหว่างโต๊ะข้างโย่ แถมโย่ยังตบเก้าอี้ให้เขาเข้าไปนั่งอีก เขาตัดสินใจหันกลับไปหาครูวาว พร้อมหาเหตุผลที่จะออกจากห้องนี้ให้ได้
“เอ่อ...ผมไม่มีทั้งสมุดทั้งดินสอเลยครับครู”
“เฮ้ยกูมี ยืมกูได้”
ไม่ใช่เสียงของเพื่อนกลุ่มเขาเลยแต่อย่างใด แต่เป็นเสียงของเพื่อนห้องหนึ่งที่เห็นเขามาห้องนี้บ่อยแถมยังคุยกันราวกับอยู่ห้องเดียวกันมานาน ครูวาวยิ้มเย็นแถมผายมืออย่างงดงามให้เขาไปนั่งที่ที่เพื่อนห้องหนึ่งจัดไว้ต้อนรับแต่โดยดี เขาเดินไปรับกระดาเอสี่จากคนที่อยู่หน้าห้องแล้วเอาดินสอปากกาจากอีกคนที่นั่งข้างหน้าต่างอย่างเสียไม่ได้
“กูเคยบอกมึงละใช่มั้ยให้เข้าห้องเรียนให้ตรงเวลา”
“.....”
ไอ้แซนด์โน้มตัวอ้อมหลังโยโย่มาเยาะเย้ยเขา ใช้คำว่าเยาะเย้ยน่ะถูกละ ทั้งน้ำเสียงทั้งสีหน้านี้เอาไปเลยเต็มร้อยความกวนตีน เขาส่ายหัวปลงๆจนโย่หัวเราะน้อยๆเอามือมาตบบ่าผมเชิงให้กำลังใจ
“ไม่เป็นไร เปรมไม่เข้าใจ โย่สอนเอง”
มันไม่ใช่ประเด็นอ่ะครับโย่....
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“แล้วคาร์บอนที่ต่อกันเป็นวงแบบนี้มี........”
เสียงครูวาวที่สอนไปเรื่อยๆพร้อมหันมาหาเขาเป็นครั้งเป็นคราว หน้าของครูดูสะใจมากที่ทำให้เขาต้องมานั่งจ๋องอยู่ตรงนี้ ไม่ฟังก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าถ้าเขาเริ่มไม่มีสมาธิครูก็จะส่งสายตามา ทำให้เขาต้องฟัง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ดีว่าบทนี้สายศิลป์ก็เรียนแต่ไม่ได้ลึกมากเท่านี้
“แล้วที่มีโอเอชแบบนี้เรียกว่า ว่าอะไรนายโย่!”
โยโย่สะดุ้งสุดใจเมื่อครูวาวอยู่ๆก็เรียกชื่อ เปรมเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ ทั้งที่แซนด์เป็นคนแกล้งก่อนแล้วโย่กำลังจะเอาคืนแต่ครูวาวดันเห็นจนได้ตอนกำลังจะลงมือทำให้ต้องหันหน้ากลับมานั่งหลังตรงมองหน้าครูวาวแบบงงๆ ว่าเมื่อกี้ครูถามว่าอะไร
“ครับๆ?”
“ถามว่าไอ้วงนี้ที่ชี้เนี้ยะมันคือ?”
“อ่า....”
คงยังงงๆอยู่ก็แหงหล่ะเมื่อกี้ไม่ได้ฟังเลยนิ คงจะรู้หรอก เขาลอบขำเงียบๆแต่ไม่ทันไรก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาอีกเหมือนกันเมื่อครูวาวเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเขา
“นายเปรมว่าไง คือ??”
“อ่า...แอลกอฮอลกับอีเทอร์...ใช่มั้ย...ครับ”
“ถูก ดูไว้นายโย่ ดูนายเปรมไว้ ตอบได้จนหน้าหมั่นไส้เลยเนี้ยะ”
เขายิ้มแห้งๆกลับไปให้ครู โยโย่แกล้งทำหน้ายู่ใส่เขาแต่ก็ตบมือให้ที่เขาตอบได้ ดีว่าเมื่อกี้ฟังไม่งั้นจมนรกไปด้วยกันหมดเนี้ยะ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วครูก็สอนไปเขาก็นั่งเรียนไปดูแซนด์กับโย่แกล้งกันไปจนครูวาวปล่อยเขากลับห้อง เพื่อนในห้องก็ถามกันใหญ่เลยว่าหายไปไหนมา พอเขาบอกไม่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า เออ สมควรแล้ว
เขาแม่ง...วันหลังจะปรับนาฬิกาให้มันไวขึ้นสักห้านาที
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“พี่เปรมว่าไงคะ”
“หา...อืม ก็ดีนะ”
มิ้นทำหน้าไม่พอใจเมื่อเขาตอบคำถามแบบขอไปที เขาคิดอะไรไปเรื่อยอยู่ก็ไม่รู้เมื่อก็ เลยทำให้น้องไม่พอใจสักเท่าไหร่เขาแต่พอได้สติแล้วก็เลยนึกออกว่าน้องเขาถามว่าสองอันนี้อันไหนสวยกันกัน ทำให้ไอ้ที่ตอบไปก่อนหน้านั้นแสดงออกถึงความไม่สนใจเลย
“พี่เปรมไม่อยากมาก็ไม่ต้องมาก็ได้นะ”
“เปล่าพี่แค่เหม่อ”
“เหม่อเพราะไม่อยากมานั้นแหละ บอกสิวันหลังอ่ะ”
มิ้นวางของแล้วเดินฉับๆออกจากตรงนั้นเดี๋ยวนั้นเลย ทำให้เขาต้องรีบเดินตามอย่างช่วยไม่ได้ อะไรวะ เหม่อนิดเดียวเองนะ เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้บ่อยมากแค่ไม่ใส่ใจหรือสนใจสักวินาที มิ้นต์ก็จะเริ่มไม่พอใจแล้วก็หงุดหงิด เขาพยามจะคิดเหมือนอย่างที่เป้บอกว่าว่าน้องเป็นวันนั้นของเดือน แต่มันคงไม่ทุกวันใช่มั้ยล่ะ
“มิ้น เดี๋ยวสิ คุยกันก่อน”
“ไม่คุย ก็ถ้าเพื่อเปรมจะไม่สนใจเค้าก็เลิกไปเลย”
“ใจเย็นสิมิ้น พี่ผิดเองพี่ขอโทษ”
“ไม่เอาแล้วมินต์จะกลับ”
มินต์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเดินห่างจากเขาไปเรื่อยๆ แล้วทำไมเขาไม่ตามน่ะหรอ ก็เพราะเขารู้สึกว่าถ้าตามไปแล้วมันก็ไม่ได้มีประโยชน์ไปมากกว่ายืนงงอยู่ตรงนี้น่ะแหละ เฮ้อ...เหนื่อย เขาควรจะทำยังไงให้น้องเขาพอใจ คิดได้ก็ทิ้งตัวลงนั่งตรงม้านั่งแถวนั้น ทำไมยังไม่กลับน่ะหรอ ก็เพราะไอ้ตั๋วหนังที่อยู่ในมือนี้ยังไง ซื้อมาไม่ดูก็เสียดาย คิดแล้วก็ตลก ไปดูหนังรักคอมมาดี้คนเดียว อนาตตัวเองแท้
“อ่าว...มานั่งเป็นหมาหงอยไรตรงนี้”
เขาเงยหน้าขึ้นไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย โยโย่ยืนยิ้มอย่างสดใสให้เขาอยู่ เล่นเอาความทุกข์ใจเมื่อกี้หายไปเกือบหมด เขายิ้มตอบก่อนตบที่ว่างข้างๆให้มานั่งด้วยกันซึ่งร่างโปร่งนั่นก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“น้องมินต์เพิ่งทิ้งกลับไปเมื่อกี้”
“ห๊า เลิกกันแล้วหรอ เมื่อกี้ด้วย”
“ยัง เปรมหมายถึงงอนกลับบ้าน”
“อ่อๆ พูดเคลียร์ๆสิ โย่ยิ่งซื่อๆอยู่”
“รู้ตัวซะด้วย”
“ง่ะ”
เขายิ้มบางให้กับคนข้างๆที่แสร้งทำปากรูปสระอิ ก่อนหันไปตักไอติมที่ซื้อมากินต่อ เอ...ทำไมมาคนเดียวอ่ะ ไอ้พวกนั้นไปไหน ทำไมไม่มาด้วยกัน ทิ้งโยโย่มาคนเดียวได้ไงเนี้ยะ
“มาคนเดียวหรอ คนอื่นอ่ะ”
“โย่มาแวะซื้อของที่ท๊อปให้แม่แล้วค่อยกลับบ้าน”
“แล้วซื้อยัง”
“ก็เห็นสักถุงมั้ยล่ะ อ่ะล้อเล่น อย่ามองงั้นดิ”
เขาหัวเราะน้อยๆก่อนยื่นมือไปลูบหัวร่างโปร่งข้างๆอย่างเคยชิน ซึ่งโย่ก็ตอบรับโดยการเอาหัวถูกับมือเขาน้อยๆ มันเป็นการกระทำที่น่ารักมากทำเอาเขายิ้มกว้าง โย่ก็ยิ้มตอบพร้อมกับตักเอาไอติมมาจ่อที่ปากเขาก็งับแบบไม่ต้องคิดอะไร เราคุยกันไปกันมา กินไอติมที่โย่ป้อนมาตลอดซักพักเขาก็คิดได้ว่า มีหนังต้องดู...ใช่มีหนังต้องดู
“โย่ ดูหนังมั้ย”
“ห๊ะ”
“ตอนแรกเปรมจะมาดูกับมิ้นต์ แต่ก็นะ งอนกลับไปแล้ว ก็เลย...”
“ใช่ซี่ โย่มันตัวสำรอง ว่าแต่เรื่องไรอ่ะ หนังฟรี ดูก็ได้”
“นี่ไง...”
เขายื่นบัตรให้โย่ดู พอมือบางนั้นรับไปแล้วก็ทำหน้าเบ้ พร้อมส่งสายตาประมาณว่าเอาจริงดิ
“นี่...ใครเขาไปดูหนังรักแบบนี้กับเพื่อนกันบ้างวะครับ”
“จะดูมั้ยล่ะครับ ไม่ดูก็จะทิ้งละนะ”
“เฮ้ยๆ โธ่ๆ เสียดายออก ไปดิไป อีกสิบนาทีเข้าโรงนิป่ะๆ เลี้ยงป๊อบคอนด้วยดิ”
“กินไอติมแล้วยังจะเอาป๊อบคอนอีก เอาไปเก็บไว้ไหนหมด”
“ก็เปรมแย่งกินนิ”
“โย่เอามายัดปากเปรมเอง”
โยโย่ทำหน้ายู่ใส่เขาก่อนลุกขึ้นพรวดจากเก้าอี้ ร่างโปร่งนั้นยืนมือมาฉุดเขาให้ลุกจากที่นั่ง แล้วหยิบกระเป๋าให้เขา มันเป็นคนทำอะไรคล่องแคล่วว่องไวนะ แต่หัวช้าเรื่องความรู้สึกนี้แหละ ข้อด้อยของมัน เราเดินกันไปถึงโรงหนังโย่เดินเข้าไปก่อนบอกจะไปซื้อป๊อบคอนที่ขายข้างในรวดเข้าห้องน้ำ พี่พนักงานเห็นชื่อหนังแล้วส่งยิ้มแปลกมากให้เขาซึ่งเขารู้ดีว่ามันคืออะไรแต่จะให้ปฏิเสธมันก็ไม่ใช่ธุระอะไร ก็ปล่อยไปแบบนั้น ดูเหมือนคนที่เดินนำลิ้วไปจะไม่รู้ซะแล้วว่าโดนเข้าใจผิดน่ะ
“เปรม ในโรงไม่ต้องเผลอจับมือโย่นะเตือนไว้ก่อน เผื่ออินจัด ฮ่าๆ”
“อ่า...”
เขามองตามคนที่เดินเข้าไปในโรงจนลับ แล้วหันกลับมารับหางบัตรที่พี่พนักงานที่ยิ่งยิ้มกว้างมากกว่าเดิม...เอ่อ...เขาอยากบอกพี่มากว่าไม่ใช่แบบนั้นจริงๆให้ตาย โย่ก็ชงไม่เป็นเวลาเลย
ชงบ่อยอร่อยแบบนี้...
เปิดแฟรนไชน์เลยมั้ย....
ความคิดเห็น