ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Can I BE...ขอฉันเป็น[ํYaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : Can I BE...[3]

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 57





    Can I Be…

     

     

    ตอนนี้เขาไม่รู้จะทำยังไงดี เปรมถูกสายตาคมกริบของคนตรงหน้าจับจ้องอยู่ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจะยิ้มแห้งๆกลับไปยังครูวาวที่ยิ้มมุมปากแถมทำเสียงหึ ในลำคอ ยิ่งทำให้เขารู้สึกตัวเล็กลงไปอีกทั้งๆที่เขาสูงกว่าเป็นคืบ คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองนาฬิกาก็ใส่อยู่ที่ข้อมือขวา ทำไม่ไม่รู้จักดูว่าเวลานี้เวลาเรียน และคาบต่อไปของห้องนี้เป็นของครูวาว

     

    “ไงนายเปรม ไม่ไปเรียนหรือ”

     

    ครูวาวขยับเข้ามาอีกก้าวทำให้เปรมต้องถอยหลังไปอีกก้าวตอนนี้เขาไม่รู้จะพูดยังไงนอกจาก เอ่อ... ครั้นมองไปทางเพื่อนรักทั้งหลายที่นั่งมองเพื่อขอความช่วยเหลือก็เจอแต่หน้าตาสะใจของแซนด์ การหลบสายตาของทาม กับเสียงหัวเราะอย่างดังของพวกเพื่อนๆที่เหลือ

     

    “สงสัยนายเปรมอยากเรียนเคมีของสายวิทย์คณิต”

     

    “อ่า...ผม...”

     

    “เพื่อนๆหาที่นั่งให้นายเปรมหน่อยค่ะ เร็ว”

     

    สิ้นคำ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของเขาก็ไปยกเอาเก้าอีกสีฟ้าที่ไอ้เป้มันจิ๊กมาจากโรงอาหารด้วยเหตุผลที่ว่าสะดวกในการนั่งรอบห้องมาให้เขาโดยทันที เป้ยกมาไว้ที่ว่างระหว่างโต๊ะข้างโย่ แถมโย่ยังตบเก้าอี้ให้เขาเข้าไปนั่งอีก เขาตัดสินใจหันกลับไปหาครูวาว พร้อมหาเหตุผลที่จะออกจากห้องนี้ให้ได้

     

    “เอ่อ...ผมไม่มีทั้งสมุดทั้งดินสอเลยครับครู”

     

    “เฮ้ยกูมี ยืมกูได้”

     

    ไม่ใช่เสียงของเพื่อนกลุ่มเขาเลยแต่อย่างใด แต่เป็นเสียงของเพื่อนห้องหนึ่งที่เห็นเขามาห้องนี้บ่อยแถมยังคุยกันราวกับอยู่ห้องเดียวกันมานาน ครูวาวยิ้มเย็นแถมผายมืออย่างงดงามให้เขาไปนั่งที่ที่เพื่อนห้องหนึ่งจัดไว้ต้อนรับแต่โดยดี เขาเดินไปรับกระดาเอสี่จากคนที่อยู่หน้าห้องแล้วเอาดินสอปากกาจากอีกคนที่นั่งข้างหน้าต่างอย่างเสียไม่ได้

     

    “กูเคยบอกมึงละใช่มั้ยให้เข้าห้องเรียนให้ตรงเวลา”

     

    “.....”

     

    ไอ้แซนด์โน้มตัวอ้อมหลังโยโย่มาเยาะเย้ยเขา ใช้คำว่าเยาะเย้ยน่ะถูกละ ทั้งน้ำเสียงทั้งสีหน้านี้เอาไปเลยเต็มร้อยความกวนตีน เขาส่ายหัวปลงๆจนโย่หัวเราะน้อยๆเอามือมาตบบ่าผมเชิงให้กำลังใจ

     

    “ไม่เป็นไร เปรมไม่เข้าใจ โย่สอนเอง”

     

    มันไม่ใช่ประเด็นอ่ะครับโย่....

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    “แล้วคาร์บอนที่ต่อกันเป็นวงแบบนี้มี........”

     

    เสียงครูวาวที่สอนไปเรื่อยๆพร้อมหันมาหาเขาเป็นครั้งเป็นคราว หน้าของครูดูสะใจมากที่ทำให้เขาต้องมานั่งจ๋องอยู่ตรงนี้ ไม่ฟังก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าถ้าเขาเริ่มไม่มีสมาธิครูก็จะส่งสายตามา ทำให้เขาต้องฟัง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ดีว่าบทนี้สายศิลป์ก็เรียนแต่ไม่ได้ลึกมากเท่านี้

     

    “แล้วที่มีโอเอชแบบนี้เรียกว่า ว่าอะไรนายโย่!

     

    โยโย่สะดุ้งสุดใจเมื่อครูวาวอยู่ๆก็เรียกชื่อ เปรมเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ ทั้งที่แซนด์เป็นคนแกล้งก่อนแล้วโย่กำลังจะเอาคืนแต่ครูวาวดันเห็นจนได้ตอนกำลังจะลงมือทำให้ต้องหันหน้ากลับมานั่งหลังตรงมองหน้าครูวาวแบบงงๆ ว่าเมื่อกี้ครูถามว่าอะไร

     

    “ครับๆ?”

     

    “ถามว่าไอ้วงนี้ที่ชี้เนี้ยะมันคือ?”

     

    “อ่า....”

     

    คงยังงงๆอยู่ก็แหงหล่ะเมื่อกี้ไม่ได้ฟังเลยนิ คงจะรู้หรอก เขาลอบขำเงียบๆแต่ไม่ทันไรก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาอีกเหมือนกันเมื่อครูวาวเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเขา

     

    “นายเปรมว่าไง คือ??”

     

    “อ่า...แอลกอฮอลกับอีเทอร์...ใช่มั้ย...ครับ”

     

    “ถูก ดูไว้นายโย่ ดูนายเปรมไว้ ตอบได้จนหน้าหมั่นไส้เลยเนี้ยะ”

     

    เขายิ้มแห้งๆกลับไปให้ครู โยโย่แกล้งทำหน้ายู่ใส่เขาแต่ก็ตบมือให้ที่เขาตอบได้ ดีว่าเมื่อกี้ฟังไม่งั้นจมนรกไปด้วยกันหมดเนี้ยะ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วครูก็สอนไปเขาก็นั่งเรียนไปดูแซนด์กับโย่แกล้งกันไปจนครูวาวปล่อยเขากลับห้อง เพื่อนในห้องก็ถามกันใหญ่เลยว่าหายไปไหนมา พอเขาบอกไม่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า เออ สมควรแล้ว

     

    เขาแม่ง...วันหลังจะปรับนาฬิกาให้มันไวขึ้นสักห้านาที

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    “พี่เปรมว่าไงคะ”

     

    “หา...อืม ก็ดีนะ”

     

    มิ้นทำหน้าไม่พอใจเมื่อเขาตอบคำถามแบบขอไปที เขาคิดอะไรไปเรื่อยอยู่ก็ไม่รู้เมื่อก็ เลยทำให้น้องไม่พอใจสักเท่าไหร่เขาแต่พอได้สติแล้วก็เลยนึกออกว่าน้องเขาถามว่าสองอันนี้อันไหนสวยกันกัน ทำให้ไอ้ที่ตอบไปก่อนหน้านั้นแสดงออกถึงความไม่สนใจเลย

     

    “พี่เปรมไม่อยากมาก็ไม่ต้องมาก็ได้นะ”

     

    “เปล่าพี่แค่เหม่อ”

     

    “เหม่อเพราะไม่อยากมานั้นแหละ บอกสิวันหลังอ่ะ”

     

    มิ้นวางของแล้วเดินฉับๆออกจากตรงนั้นเดี๋ยวนั้นเลย ทำให้เขาต้องรีบเดินตามอย่างช่วยไม่ได้ อะไรวะ เหม่อนิดเดียวเองนะ เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้บ่อยมากแค่ไม่ใส่ใจหรือสนใจสักวินาที มิ้นต์ก็จะเริ่มไม่พอใจแล้วก็หงุดหงิด เขาพยามจะคิดเหมือนอย่างที่เป้บอกว่าว่าน้องเป็นวันนั้นของเดือน แต่มันคงไม่ทุกวันใช่มั้ยล่ะ

     

    “มิ้น เดี๋ยวสิ คุยกันก่อน”

     

    “ไม่คุย ก็ถ้าเพื่อเปรมจะไม่สนใจเค้าก็เลิกไปเลย”

     

    “ใจเย็นสิมิ้น พี่ผิดเองพี่ขอโทษ”

     

    “ไม่เอาแล้วมินต์จะกลับ”

     

    มินต์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเดินห่างจากเขาไปเรื่อยๆ แล้วทำไมเขาไม่ตามน่ะหรอ ก็เพราะเขารู้สึกว่าถ้าตามไปแล้วมันก็ไม่ได้มีประโยชน์ไปมากกว่ายืนงงอยู่ตรงนี้น่ะแหละ เฮ้อ...เหนื่อย เขาควรจะทำยังไงให้น้องเขาพอใจ คิดได้ก็ทิ้งตัวลงนั่งตรงม้านั่งแถวนั้น ทำไมยังไม่กลับน่ะหรอ ก็เพราะไอ้ตั๋วหนังที่อยู่ในมือนี้ยังไง ซื้อมาไม่ดูก็เสียดาย คิดแล้วก็ตลก ไปดูหนังรักคอมมาดี้คนเดียว อนาตตัวเองแท้

     

    “อ่าว...มานั่งเป็นหมาหงอยไรตรงนี้”

     

    เขาเงยหน้าขึ้นไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย โยโย่ยืนยิ้มอย่างสดใสให้เขาอยู่ เล่นเอาความทุกข์ใจเมื่อกี้หายไปเกือบหมด เขายิ้มตอบก่อนตบที่ว่างข้างๆให้มานั่งด้วยกันซึ่งร่างโปร่งนั่นก็ทำตามอย่างว่าง่าย

     

    “น้องมินต์เพิ่งทิ้งกลับไปเมื่อกี้”

     

    “ห๊า เลิกกันแล้วหรอ เมื่อกี้ด้วย”

     

    “ยัง เปรมหมายถึงงอนกลับบ้าน”

     

    “อ่อๆ พูดเคลียร์ๆสิ โย่ยิ่งซื่อๆอยู่”

     

    “รู้ตัวซะด้วย”

     

    “ง่ะ”

     

    เขายิ้มบางให้กับคนข้างๆที่แสร้งทำปากรูปสระอิ ก่อนหันไปตักไอติมที่ซื้อมากินต่อ เอ...ทำไมมาคนเดียวอ่ะ ไอ้พวกนั้นไปไหน ทำไมไม่มาด้วยกัน ทิ้งโยโย่มาคนเดียวได้ไงเนี้ยะ

     

    “มาคนเดียวหรอ คนอื่นอ่ะ”

     

    “โย่มาแวะซื้อของที่ท๊อปให้แม่แล้วค่อยกลับบ้าน”

     

    “แล้วซื้อยัง”

     

    “ก็เห็นสักถุงมั้ยล่ะ อ่ะล้อเล่น อย่ามองงั้นดิ”

     

    เขาหัวเราะน้อยๆก่อนยื่นมือไปลูบหัวร่างโปร่งข้างๆอย่างเคยชิน ซึ่งโย่ก็ตอบรับโดยการเอาหัวถูกับมือเขาน้อยๆ มันเป็นการกระทำที่น่ารักมากทำเอาเขายิ้มกว้าง โย่ก็ยิ้มตอบพร้อมกับตักเอาไอติมมาจ่อที่ปากเขาก็งับแบบไม่ต้องคิดอะไร เราคุยกันไปกันมา กินไอติมที่โย่ป้อนมาตลอดซักพักเขาก็คิดได้ว่า มีหนังต้องดู...ใช่มีหนังต้องดู

     

    “โย่ ดูหนังมั้ย”

     

    “ห๊ะ”

     

    “ตอนแรกเปรมจะมาดูกับมิ้นต์ แต่ก็นะ งอนกลับไปแล้ว ก็เลย...”

     

    “ใช่ซี่ โย่มันตัวสำรอง ว่าแต่เรื่องไรอ่ะ หนังฟรี ดูก็ได้”

     

    “นี่ไง...”

     

    เขายื่นบัตรให้โย่ดู พอมือบางนั้นรับไปแล้วก็ทำหน้าเบ้ พร้อมส่งสายตาประมาณว่าเอาจริงดิ

     

    “นี่...ใครเขาไปดูหนังรักแบบนี้กับเพื่อนกันบ้างวะครับ”

     

    “จะดูมั้ยล่ะครับ ไม่ดูก็จะทิ้งละนะ”

     

    “เฮ้ยๆ โธ่ๆ เสียดายออก ไปดิไป อีกสิบนาทีเข้าโรงนิป่ะๆ เลี้ยงป๊อบคอนด้วยดิ”

     

    “กินไอติมแล้วยังจะเอาป๊อบคอนอีก เอาไปเก็บไว้ไหนหมด”

     

    “ก็เปรมแย่งกินนิ”

     

    “โย่เอามายัดปากเปรมเอง”

     

    โยโย่ทำหน้ายู่ใส่เขาก่อนลุกขึ้นพรวดจากเก้าอี้ ร่างโปร่งนั้นยืนมือมาฉุดเขาให้ลุกจากที่นั่ง แล้วหยิบกระเป๋าให้เขา มันเป็นคนทำอะไรคล่องแคล่วว่องไวนะ แต่หัวช้าเรื่องความรู้สึกนี้แหละ ข้อด้อยของมัน เราเดินกันไปถึงโรงหนังโย่เดินเข้าไปก่อนบอกจะไปซื้อป๊อบคอนที่ขายข้างในรวดเข้าห้องน้ำ พี่พนักงานเห็นชื่อหนังแล้วส่งยิ้มแปลกมากให้เขาซึ่งเขารู้ดีว่ามันคืออะไรแต่จะให้ปฏิเสธมันก็ไม่ใช่ธุระอะไร ก็ปล่อยไปแบบนั้น ดูเหมือนคนที่เดินนำลิ้วไปจะไม่รู้ซะแล้วว่าโดนเข้าใจผิดน่ะ

     

    “เปรม ในโรงไม่ต้องเผลอจับมือโย่นะเตือนไว้ก่อน เผื่ออินจัด ฮ่าๆ”

     

    “อ่า...”

     

    เขามองตามคนที่เดินเข้าไปในโรงจนลับ แล้วหันกลับมารับหางบัตรที่พี่พนักงานที่ยิ่งยิ้มกว้างมากกว่าเดิม...เอ่อ...เขาอยากบอกพี่มากว่าไม่ใช่แบบนั้นจริงๆให้ตาย โย่ก็ชงไม่เป็นเวลาเลย

     

     

    ชงบ่อยอร่อยแบบนี้...

     

    เปิดแฟรนไชน์เลยมั้ย....

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×