คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Can I BE...[2]
Can I be…
“หู...ขนาดพวกกูไม่อยู่ห้องมึงยังมานั่งรอนะ”
“คิดถึงพวกมึงไง”
“เหอะ ไอ้แซนด์ เพื่อนรักมึงคิดถึงมึงแน่ะ”
“เออ"
คำตอบกลับง่ายๆไร้เยื่อใย บวกหน้าเซ็งๆของไอ้แซนด์มันทำเอาเปรมขำ ไอ้เป้เรียกเขาเป็นเพื่อนรักไอ้แซนด์เพราะเขาอยู่กับแซนด์มาตั้งแต่สมัยอนุบาล จริงๆ ขนาดว่าย้ายโรงเรียนแล้วยังย้ายมาอยู่ด้วยกัน ที่จริงไม่ใช้มีแค่มันหรอกที่เขาอยู่ด้วยตั้งแต่อนุบาล โยโย่ก็อีกคน เป็นเพื่อนกันไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
“เฮ้ย โย่ ก็เพื่อนรักแซนด์นะ”
“หรอ จำไม่ได้ว่ะ”
โยโย่โวยวายออกมาหลังแซนด์ทำหน้าตายแถมยังเมินมันอีก นึกๆแล้วก็ขำ เขา แซดน์ โยโย่ เป็นเพื่อนกันมาสิบปีก็จริงแต่มีครั้งนึงที่เป้มันถามแซนด์ว่าพวกเขารู้จักกันมานานหรือยัง แซนด์มันก็บอกว่า
‘เออกูกับเปรมอ่ะตั้งแต่อนุบาล แล้วก็รู้สึกว่ามีอีกคนเหมือนกันแต่แม่งจำไม่ได้ เลือนลางมาก’
แล้วไอ้คนที่แซนด์จำไม่ได้ก็คือโยโย่นั้นแหละ ไม่รู้ว่ามันแกล้งโย่หรือมันจำไม่ได้จริงๆ แต่มันฮามากเมื่อตอนที่โยโย่พยายามบอกว่าไอ้คนที่แซนด์ลืมน่ะ คือตัวเอง พยามยกเหตุการณ์ขึ้นมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งแซนด์แม่งก็ไม่ได้ใส่ใจตามแบบฉบับมัน ผิดกับผมที่จำได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับพวกมันโดยเฉพาะ โยโย่...
“โย่ เมื่อวานเป็นไงบ้าง”
“เรื่องไร”
“ที่น้องเขามาขอคุยอ่ะ”
“อ่อ...ก็ไม่มีอะไร ก็ขอคบ”
“.....”
ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงได้เงียบไป...มันให้ความรู้สึกเหมือนหยุดหายใจไปพักหนึ่งเมื่อได้ยินประโยคนั้น มันคือ? เขาเงียบไปพักใหญ่ก่อนจ้องตาร่างโปร่งตรงหน้า เขาค่อยๆเอ่ยคำซึ่งไม่รู้จะรู้สึกอึดอัดทำไมแค่ถามแค่นี้
“แล้ว...โย่ว่าไง”
“โย่...บอกว่า จะคิดดู”
“....โย่อยากคบกับน้องเขาหรอ”
“ก็ไม่อ่ะ แต่กลัวน้องเขาเสียใจ”
และก็เป็นแบบนี้ทุกที โย่เป็นพวกเห็นใจคนอื่นเขาไปทั่ว คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าของตัวเองจนบางครั้งทำเขาหงุดหงิด แต่ตอนนี้เขาหงุดหงิดมากกว่าเดิมไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะการพูดแบบนั้นมันจะทำให้น้องเขาคิดเข้าข้างตัวเองและอาจจะโมเมไปว่าโย่ตกลงคบจริงซึ่ง...เขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“โย่น่าจะบอกเขาไปนะว่าไม่”
“สงสารน้องเขาว่ะ กลัวปฏิเสษไปแล้วเขาจะเสียใจ”
“บอกไปเถอะ”
“แต่...”
“เปรมว่าบอกน้องเขาไปเหอะว่า โย่ไม่ได้ชอบ!”
เงียบ เงียบกันหมด ที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียงหรอกนะ แต่อยู่ๆมันก็หงุดหงิด ไม่รู้จริงๆเพราะอะไรแต่ในใจบอกไม่ชอบเลยที่โย่ยังห่วงเขาอีกทั้งๆที่เป็นใครก็ไม่รู้ มัน...มัน ไม่ชอบ ไอ้เป้ที่นั่งเขียนๆอะไรอยู่ไม่รู้ถึงกับทำดินสอหักตอนเขาขึ้นเสียงมองมาทางเขาแบบ งงๆ ซ้ำไอ้แซนด์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็มองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ ที่อึ้งสุดคงเป็นคนตรงหน้าที่มองหน้าเขาตาปริบๆ อ้าปากคล้ายจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หยุดไป เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าทำหน้าแบบไหนอยู่ เลยตัดสินใจเดินออกจากห้องไปเลย
“เปรม! เดี๋ยว!”
เป้มองตามสองคนนั้นกึ่งเกินกึ่งวิ่งออกไป ทามที่เพิ่งเดินสวนเข้าห้องมาก็พะยักพะเยิดไปที่สองคนนั้นประมาณถามไอ้เป้ว่าเกิดไรขึ้น
“กูอยู่ในเหตุการณ์ กูยังงงเลยครับคุณทาม”
“กูคบมาตั้งนาน กูไม่เคยเห็นมันขึ้นเสียงดังมาก่อนเลยให้ตาย”
แซนด์เอ่ยขึ้นลอยๆ ด้วยหน้าตาเฉยชาของมันไปแต่เป้แอบเห็นความเป็นห่วงเพื่อนสองคนที่เดินตามกันออกห้องไปอย่างกับ
“ฮะๆ อย่างกับคนเป็นแฟนกันทะเลาะกัน”
“ตรงประเด็นมากครับทาม”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เปรม เดี๋ยวอะไรเนี้ยะ”
โยโย่รีบเดินตามเพื่อนเขาที่จู่ๆก็ขึ้นเสียงใส่ แถมยังเดินหนีออกมาอีก ร่างโปร่งต้องรีบเร่งฝีเท้าตามคนตรงหน้าไปเพราะเหมือนจะเดินเร็วขึ้นหรือตัวเขาเองขาสั้นก็ไม่รู้ เขาเอื้อมมือหมายจะไปจับแขนคนตรงหน้าแต่มันพอดีกับเปรมหันกลับมาหาเขาที่ตั้งตัวไม่ทันกับการหยุดแบบกระทันหันเลยชนเข้ากับอกมันอย่างจัง
“อูยยยย แบรกก็บอกสิ”
เขาลูบหัวตัวเองปอยๆ ขณะชอนตาขึ้นมองเปรมที่จ้องเขาด้วยสายตาสำนึกผิด อ่า...ปรับอารมณ์ไม่ทันคุณเพื่อนเลยว่ะ เอาจริงๆนะ ตอนออกจากห้องมาก็นึกว่าโกรธเขา แต่ตอนนี้ยังมันทำสายตาสำนึกผิดอีก เรื่องเรียนน่ะยังพอได้แต่เรื่องพวกนี้เขาตามไม่ค่อยทันเท่าไหร่
“เปรมเป็นไร”
“.....”
เปรมไม่พูดอะไร นอกจากมองหน้าเขาแล้วขมวดคิ้วอยู่อย่างนั้นจนเพื่อนๆที่อยู่แถวนั้นเริ่มมอง เอ่อ...เขาควรจะทำยังไงครับ เขาหันซ้ายหันขวาก่อนจะดันเปรมให้นั่งกับระเบียงข้างๆ พอมันนั่งได้ปุ๊บ เปรมก็ดึงเขาที่ยืนอยู่ไปกอดเอวหลวมๆเอาหน้าซุกกับหน้าท้องเขา โยโย่ไม่รู้จะทำไงนอกจากกอดตอบ ลูบหัวมันเบาๆคล้ายปลอบ
“เปรมรู้สึกงี่เง่าว่ะ ที่ขึ้นเสียงเมื่อกี้นี้อ่ะ”
“เอ้ย ไม่เป็นไร โย่ไม่คิดมาก”
“ตกใจป่ะ”
“อือ...ก็ เปรมไม่เคยขึ้นเสียงใส่น่ะ เหอะๆ”
“ขอโทษนะ”
“.....”
เขาปล่อยเวลาให้ผ่านไป ให้คนตัวโตกอดเขาจนกว่าจะพอใจ เอาเถอะอย่างน้อยเขาก็รู้แล้วล่ะว่ามันไม่ได้โกรธเขา แล้วเรื่องที่มันขึ้นเสียงเขาก็ไม่ได้คิดติดใจอะไรมากแค่...ไม่เข้าใจ
“โย่”
“ครับ”
“บอกน้องเขาไปนะ”
“...ได้ ถ้าเปรมสบายใจ”
“ขอบคุณครับ”
เขายิ้มให้กับอาการอ้อนนิดๆของคนตัวโตกว่า แม้ว่ามันจะชอบมาวนเวียนอยู่รอบตัวเขา แต่น้อยนักที่มันจะเรียกร้องบางอย่างจากเขา นานๆทีจริงๆ เขาทิ้งให้เปรมกอดอยู่อย่างนั้นจนกว่ามันจะพอใจ อันที่จริงจะเรียกว่าจนกว่ามันจะพอใจไม่ได้เมื่อครูกิ๊บยืนท้าวสะเอวชี้นิ้วมาทางพวกผมก่อนส่งเสียงแหลมปรี๊ดกระแทกประสาทหูมา
“นี่ จะเรียนมั้ย กอดกันอยู่ได้ เดี๋ยวแม่เช่าโรงแรมให้เลยนี่!”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ทาม! พาสมาทางกู๊”
“รับนะมึง เฮ้ยไรวะ”
เสียงโวยวายของสองเกลอดังขึ้น เมื่อลูกบาสที่ควรไปอยู่ที่มือไอ้เป้ดันมาอยู่ในมือโยโย่ได้ มันไม่ได้สูงไปกว่าทามเลยแต่มันเป็นคนที่โดดได้สูงมาก พอโย่ได้บอลก็พาสไปให้เปรมที่ยืนรออีกฝั่งกระโดดเชดแป้นไปอย่างสวยงามเรียกเสียง เฮและเสียงกรี๊ดจากข้างสนาม
“อร๊ายยยยยย พี่โย่พี่เปรมเก่งจุงเบยค่า”
แซนด์แสร้งทำเสียงเล็กเสียงน้อย กรี๊ดชมเขากับโย่หน้านิ่งแต่โคตรกวนตีน ส่วนสาวๆในกลุ่มที่ควรกรี๊ด ก็นั่งก้มหน้าก้มตากินยำที่ซื้อมากันอย่างเอร็ดอร่อย ทำอย่างมากก็แค่เงยหน้ามาตบมือสองสามแปะแค่นั้นกับคำชมอีกนิดหน่อยแบบขอไปที
“เก่งงงงงง”
“ไม่ต้องชมครับ ผมรู้ครับผม ผมแม่งโคตรเก่งเลย”
“ไม่ใช่มึงเป้”
“เออ”
เราหยุดเล่นกันพักเหนื่อยที่จริงก็เล่นกันมานานแล้วแค่นี้พอก่อนวันนี้ ปายเพื่อนสาวกวักมือเรียกให้พวกเขาไปร่วมวงจก?ยำที่ซื้อมาอีกถ้วย มีหรือที่พวกผมจะปฏิเสษ
“เปรมช่วงนี้กูเห็นมึงมาหาพวกกูบ่อยจังนะ น้องล่ะ”
“เขามีเรียนพิเศษกับเพื่อนน่ะ ไม่ทุกวันหรอก แต่เขาไม่ได้โทรหากูนิก็เลยไม่ไป”
“เออดี ไม่ต้องโทร รำคาญ”
เสียงแหลมของฝ้ายสาวร่างเล็กเจ้าแม่แฟชั่นดังขึ้น อ่า...คนนี้ก็เป็นอีกโจทย์ที่โดน มิ้นต์แฟนเขาจิกตาใส่เหมือนกัน ที่จริงก็จิกครบแล้วนะผู้หญิงในกลุ่มผมเนี้ยะ ขนาดแม่พระอย่างฝนยังโดนเลย นี่รึเปล่าที่เรียกว่างี่เง่าไม่เข้าเรื่อง เรากินไปคุยไปได้สักพักเปรมก็หันไปเห็นน้องที่มาคุยกับโย่เมื่อวานยืนแอบอยู่ตรงหลังเสา ตอนแรกก็กะจะบอกแต่คิดไปคิดมาแล้วไม่เอาละ ไม่รู้ว่าที่เขาพูดเอาแต่ใจไปตอนพักนั้นมันจะทำให้เขาจริงรึเปล่า
“เฮ้ยๆ โย่ น้องคนนั้นอ่ะ หลังเสา”
“หา อ๋อ อื้อ เดี๋ยวมานะ”
เปรมหันขวับไปทางแซนด์ที่ชี้ไปทางเสาต้นนั้นพลางส่งสายตาไม่พอใจนิดๆ แต่ตัวการก็แค่ส่งสายตากลับมาแบบไม่สื่ออารมณ์ใดๆทั้งสิ้น หรือมันสนับสนุนให้คบวะ ยิ่งคิดเขายิ่งทำหน้ายุ่ง
“อย่าคิดว่ากูสนับสนุนนะ กูแค่อยากให้เรื่องมันจบ”
“???”
เขาทำหน้างงจนโง่ในสายตามันมั้งมันเลยทำท่าสายหัวระอา แล้วกลับไปจก?ยำต่อ แต่ทุกคนก็ไม่ได้มีสมาธิอยู่กับยำตรงหน้าเท่าไหร่ คอยเหลือบดูสองคนนั้นมากกว่า ก็มีทั้งเป็นห่วงแบบเขา และอยากเสือกแบบไอ้เป้ สองคนนั้นคุยกันไม่นาน เขาไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นไม่เห็นหน้าน้องเขาเพราะยืนหันหลังให้อยู่ เห็นแต่หน้าโยโย่ที่ระบายยิ้มอ่อนโยนให้น้องเขาตลอดเวลา
ไม่นานนักมันก็เดินแยกกับน้องไป ซึ่งไม่รู้ทำไมเขาต้องรู้สึกใจเต้น ตื่นเต้นที่อยากจะรู้ว่ามันคุยอะไรกัน ซึ่งไม่ต้องรอให้เขาเป็นคนถามหรอก ไอ้เป้จัดเอง
“ไงๆๆๆๆๆ ว่าไง คบไม่คบ”
“ไม่คบ”
“หูย เว้นให้ตื่นเต้นหน่อยดิ พอ หมดรมณ์”
ทันทีที่ได้ยิ้นเขารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกไปมากนอกจากลอบยิ้มบางๆคนเดียว แต่ก็ไม่ได้พ้นสายตาของไอ้แซนด์ได้เลย มันส่งยิ้มมุมปากให้เขาก่อนหันไปคุยกับพวกเพื่อนสาวๆต่อ
“เปรม”
“ครับ?”
“สบายใจยัง”
“อือ...ที่จริงโย่ไม่ต้องฝืนก็ได้นะ”
“ไม่ฝืนเลย ก็อย่างเปรมว่านั้นแหละ เราควรชัดเจนเดี๋ยวเขามโนเองแล้วจะแย่”
โย่ยิ้มกว้างให้ จนเขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้ผมสีอ่อนนั้นอย่างเอ็นดู โย่ก็ดูจะชอบยกมือขึ้นมาจับที่มือเขาพร้อมโยกซ้ายโยกขวา
“ว่าก็ว่าเหอะ เปรมหึงโย่ใช่มั้ยล่ะ แต่เปรมก็ต้องเขาใจนะว่า โย่อ่ะ ฮอททททท”
“เออ จ้า พ่อหนุ่มฮอท”
“ฮ่าๆ ไม่ต้องห่วงนะว่าถ้าโย่มีแฟนแล้ว จะไม่มีที่ให้เปรม”
“???”
“เพราะที่ของเปรมอ่ะ เป็นที่พิเศษที่ไม่ใครมาแทนได้ จะบอกให้”
รอยยิ้มกว้างของโย่ทำเอาหัวใจเขากระตุกไปวูบนึก ไม่รู้ว่าประโยคนั้นมีความนัยแฝงหรือโย่พูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรมากแต่มันก็ทำให้เขายิ้มตอบพร้อมยกมีไปดึงแก้มอย่างหมั่นเขี้ยวจนโย่ร้องอ๊ากแบบเวอร์ๆนั้นแหละเขาถึงจะปล่อย เขาลอบมองโย่ที่เริ่มหันกลับไปคุยกับกลุ่มเพื่อนๆอย่างออกรสในฐานะนักพูดประจำกลุ่ม เขาแทบไม่ได้ฟังหรอกว่าพูดอะไรกัน เพราะในหัวมีแต่ประโยคที่โย่พูด
ที่พิเศษเหรอ...
แสดงว่าเขาก็ตั้งเป็นคนพิเศษน่ะสิ ใช่มั้ย...
+++++++++++++++++
อยากบอกนายเปรมว่า อย่ามโน =w=
ความคิดเห็น