คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Wait a minute 9
Wait a minute….
ห้าโมงแล้ว ห้าโมง....ห้า....โมง อ๊ากกกกกกกกกกกก อีกสองชั่วโมงผมจะขึ้นเขียงแล้ว ตั้งแต่ขึ้นรถผมแทบจะไม่พูดเลยนั่งนิ่งเป็นหินอย่างเดียว เรย์ถามอะไรก็ตอบแค่ อืม ขนาดว่าเป็นคำถามต้องการคำตอบเป็นประโยคผมยังตอบแค่ อืม เลย เรย์มันคงเห็นว่าถามอะไรไปคงไม่ได้คำตอบมันเลยหยุดถาม เอ...ตอนนี้มันจะไปไหนเนี้ยะ ไม่ใช่ทางกลับบ้านนิ
“เรย์ ไปไหน”
“พูดได้??”
“เออ”
“ไปซื้อของ”
ยังมีอารมณ์อีกนะพ่อคุณ เออๆๆจะไปไหนก็ไป เราขับไปเรื่อยๆ จนไปเจอตลาดแถวหน้าม.xxxมันก็หาที่เจอรถ เอาเลมเบอร์จอดแถวนี้อะนะ ไม่เด่นเลยจริงๆ มันไล่ผมลงรถ ผมเดินตามมันออกไปอย่างเลื่อนลอย ซื้อของ ซื้ออะไรอ่ะ
“ซื้อไรอ่ะ”
“ซื้อของเตรียมรับศึก”
“ดูพูดเข้า”
“แล้วมันจริงเปล่าอะ”
เออจริง มันเดินตรงดึงไปที่ร้านชอปร้านหนึ่งที่ขายของแบบกุ๊กกิ้กน่ารักๆ รสนิยมนายหรอเนี้ยะ มันเดินเข้าไปถามพนักงานว่าเคสมือถือมีไหน ซื้อเคสมือถือ?
“มาๆๆเลือกๆ อันไหนดี”
“เอาไปทำไม”
“เคสคู่ไง เอาไปให่แม่ดู”
“ห๊า คิดไรอยู่เนี้ยะ”
“เออ มีของคู่กันหน่อยสิ จะได้เหมือนๆ”
โอยจะคู่อะไรอีก แค่เดือนกว่าที่ผ่านมาฉันก็ติดกับนายจนจะเป็นคู่กันอยู่แล้ว แล้วไหนจะที่ทำงานฉัน เขาก็เข้าใจว่าฉันเป็นแฟนกับนาย จะเอาคู่ที่ไหนอีกครับคุณชาย มันเห็นท่าว่าผมไม่อยากเลือกมันเลยหยิบสีที่มันคิดว่าโอเคมีให้ผมเลือกสามอัน ลายเหมือนกันแหละ แค่สีต่าง
“ฟ้า ดำ ขาว”
“ขาว”
“เออ ขาว นี้สองอันครับ”
มันยื่นไปให้พนักงานเอาไปคิดเงินใส่ถุง ทำไมถึงซื้อเคสเหมือนกันได้ ก็เพราะมือถือผมกับมันรุ่นเดียวกัน ตอนแรกผมแปลกใจมากที่มันไม่ได้ใช้ไอโฟน คงนึกว่าคุณชายอย่างมันคงใช้ไอโฟน ซัมซุมก็ไม่ใช้เหอะ ไม่ใช่ลูเมียร์ด้วย มันใช้เหมือนผมเลย LG งงเหมือนกัน ผมถามมันว่าทำไมใช่ยี่ห่อนี้ มันบอกว่า มันต่างจากคนอื่นดีมันไม่ค่อยมีคนใช้ เยี่ยมเลย อาร์ทจริงๆ แล้วทำไมผมถึงใช้ราคามันก็ไม่ได้ว่าถูกหนักหนา เพราะพี่เขยผมให้มาน่ะ เขาทำงานอยู่ที่บริษัทนั้นพอดี คงเอามาใช้เป็นตัวทดลองแหละ ชีวิตนี่ก็มีอะไรดีๆบ้าง
เราเดินกันไปต่อ ไปหยุดที่ร้านไอติม กินไอติม โหชิวเหลือเกินนี่ นับถอยหลังเวลาตายอยู่นะ แต่ผมก็กิน มันสั่งมาถ้วยเดียวที่มันกินได้สองคนอะแหละ มันหยิบนิตยาสารที่ซื้อมานั่งอ่านไปด้วย เออนี้กะนั่งรอเลยใช่มั้ย
“ไม่กลับไปเปลี่ยนผ้าหรอ”
“อือ รอเลย ขี้เกียจกลับ”
หรอ คือกูอยากกลับมากอะ
เราเงียบกันไป คนมองเหมือนเดิมแต่ผมชักจะชินแล้วล่ะ หรือไม่รู้ว่าตอนนี้ผมปลงกันแน่เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรรอบข้างเท่าไหร่ อืม อร่อยดี ผมชอบนะไอติมน่ะ แต่นานแล้วที่ไม่ได้ออกมากิน จำได้ครั้งสุดท้ายก็กินกับแฟนเก่านั้นแหละ มากินอีกทีก็อร่อยเหมือนเดิม มันท่าจะเห็นว่าผมผ่อนคลายมาบ้างแล้วมันเลยเริ่มเปิดบทสนทนา
“อร่อยป่ะ”
“อื้อ”
“ชอบหรอ”
“ใช่ อร่อยดี นายไม่กินหรอ”
“นั่งมองนายกินก็อร่อยละ”
พูดอะไรเนี้ยะ เขินนะเว้ย ก็ผมกินคนเดียวหมดไปครึ่งแล้ว มันหัวเราะพลางหยิบช้อนขึ้นมาตักบ้างบรรยากาศแบบนี้คงไม่ต้องอธิบายหรอกเหมือนคนมาเดทกันมากแต่มันไม่ใช่ไง กูเป็นเพื่อนมันไง แต่ก็อย่างว่าไม่สนใจซะอย่าง เราก็ไม่ต้องไปกังวลมันแล้ว อ๊ะ แดกไงให้ปากเปื้อนวะ ผมบอกมันว่าปากเปื้อนมันก็บอกว่าเช็ดหน่อย กูก็ว่าง่ายยื่นมือไปเช็ดให้ซะงั้น เออดีๆซ้อมไว้ เผื่อเจอคุณนายจะได้ทำได้ ผมได้ยินเสียงอิ๊งอ๊างของสาวๆกลุ่มหลังโต๊ะผม สาววายแน่ๆ กลุ่มใหญ่ซะด้วย
“เฮ้ยๆๆ เรามาแกล้งสาวๆกลุ่มนั้นดีกว่า”
“ยังไง”
“ก็เล่นหวานๆใส่กันไง ให้เขากรี๊ด”
“ไม่มีอะไรทำแล้วรึไง”
“ว่างอะ ไม่เล่นหรอ”
“กิจกรรมนายมันสร้างสรรค์เกิ๊น”
ถึงผมจะพูดแบบนั้นแต่ผมก็ตักไอติมไปป้อนเข้าปากมันคำใหญ่ มันบ่นเย็นๆๆ ฮ่าๆได้แกล้งมันด้วยเว้ย กลุ่มนั้นกรี๊ดใหญ่ๆ เออๆๆสนุกดีว่ะ เหมือนมีคนกรี๊ดให้ ถึงแม้จะกรี๊ดในเรื่องที่ไม่อยากให้กรี๊ดก็เหอะ มันบอกให้ผมไปนั่งข้างมัน เพราะตรงนั้นกลุ่มนั้นเห็นชัด โอโห เต็มที่เพื่อนเต็มที่ เซอร์วิซกันเข้าไป ไม่ใช่ดาราเกาหลีนะเว้ย ว่าแล้วมันต้องมีฉากถ่ายรูป มันจับผมกอดคอแนบหน้าชิดผม ล้ำๆ ล้ำจริงๆ เราสองคนหัวเราะกันคิกคัก ดูเหมือนหวานจริงแต่เปล่าเลย นั่งแอบฟังกลุ่มนั้นคุยกันบทสนทนาน่ากลัวนะ แต่มันก็ตลกดิ
“โอ่ย ทามหกครึ่งแล้วป่ะๆไปกันๆ”
“อ่าวเหรอ เออๆ”
เราลุกขึ้นไปจ่ายตัง มันกระซิบผมบอกว่าเดี๋ยวผ่านกลุ่มนั้นให้หันไปยิ้มให้นะ ผมก็ทำตามมัน คึกคะนอง แม้จะเลยวัยมาแล้วก็เหอะ มันเดินโอบไหล่ผม พอผ่านกลุ่มนั้นปุ๊บ เราก็ยิ้มให้ เท่านั้นแหละกรี๊ดกันทั้งกลุ่มทั้งร้านหันมามอง ฮ่าๆๆๆสนุกดีว่ะ เราออกมาข้างนอกก็ส่งเสียงหัวเราะกัน มันเปลี่ยนจากโอบมาเป็นกอดคอ
“หายเครียดบ้างยัง”
“อือ ดีขึ้นแล้วล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก แม่ฉันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”
หรอ...แต่ที่เห็นนี่ไม่ใช่นะ อย่างกับนางพญา แต่ก็ยอมรับนะว่าตอนเล่นกับมันเมื่อกี้ลืมไปหมดว่าต้องทำอะไร ต้องไปลงนรกขุมไหน อยู่กับมันเมื่อไหร่สบายใจขึ้นเยอะ เอาวะเป็นไงเป็นกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บ้านหลังใหญ่ตรงหน้า ทำผมใจแป้วอีกแล้ว เริ่มไม่ชอบอะไรใหญ่ๆกว้างๆซะแล้วตั้งแต่เจอห้องทำงานคุณนายเจนจิราไป ที่ผมเรียกมันคุณชายนี้ก็ถูกแล้วล่ะ เพราะ พ่อบ้านที่มารับมันก็เรียกมันคุณชายเหมือนกัน เราเดินเข้าไปในตัวบ้าน เออแม่บ้านน้อย พอผมถามมันก็บอกแม่มันไม่ชอบให้คนมาอยู่บ้านเยอะ ก็มีหัวหน้าแม่บ้านกับแม่บ้านอีกไม่กี่คน มันเดินไปกอดป้าคนหนึ่งน่าจะเลี้ยงมันมาแต่เด็ก ชื่อป้าวาว ผมยกมือสวัสดีป้า ก่อนมันจะกระซิบอะไรบางอย่างให้ป้าจนป้าทำตาโตใส่มัน
“อู้นี่แฟน คุณชายหรือค่ะ”
“ครับน่ารักมั้ย”
“จ๊ะ แล้วคุณ ริณยา ล่ะลูก”
มันยิ้มให้ป้าวาวแบบเจือนๆ เฮ้อ...คง...คิดถึงมากอยู่ล่ะสิ แล้วทำไมผมต้องรู้สึกสะเทือนใจด้วยวะเนี้ยะ อะไรที่เป็นนายนี้ไม่ได้เลยนะ
“ไอ้เรย์”
“เฮ้ย เจ๊”
หือ ใครอีกวะ ก่อนที่ผมจะได้คิดอะไร ก็มีร่างหนึ่งโถมเข้าหาเรย์ทั้งตัว สองคนนั้นกอดกันแน่ โห...ใครวะ หุ่นโคตรดีหยั่งกับนางแบบ พอผมดูดีๆ หน้าตาโคตรคล้ายเรย์มีเค้าของคุณนายเจนอีกด้วย
“หูย แม่งไม่ได้เจอกันโครตนาน มึงเป็นไงบ้าง”
“เออกูสบอยดี กลับมาไมไม่บอกวะ จะได้ไปรับ”
“เออผัวกูไปรับมาแล้ว”
“เออ ผัวดีกว่าน้อง”
เออ พี่สาวมันนี้เอง เชปบ๊ะมาก แต่มีสามีแล้วอืมดวงผู้หญิงผมคงไม่มีแล้ว เธอสูงมากสำหรับผู้หญิง 178 นู่นมั้ง จะเท่าผมอยู่แล้วอ่ะ ขนาดไม่ได้ใส่ส้นสูงนะ ถ้านางใส่คงโน่น แตะๆ 185 โน่น ผมที่ภูมิใจกับส่วนสูงถึงกับแป้วกันเลยทีเดียว เธอหันมามองที่ผม สายตานั้นใช่เลยเหมือนของคุณนายเจนจิรามาก แต่คมน้อยกว่าและดูเป็นมิตรกว่า ผมตัดสั้นทำให้เธอดูเป็นสาวมั่น เยี่ยม บ้านนี้มันเพอร์เฟคกันทั้งบ้าน กูธรรมดาที่สุดใช่มั้ย
“โอ้ ทามล่ะสิ ยินดีต้อนรับจ๊ะ ฉันรันเป็นพี่สาวไอ้หล่อนี้”
“ครับสวัสดี ครับ”
“เนี้ยะ เหรอ เมียใหม่มึง”
“ยังๆๆ เจ๊ๆ กูมีไรจะบอกคือ...”
มันหันไปกระซิบกระซาบกับพี่มัน จนพี่มันร้องเสียงหลงออกมา พี่รันรีบตะคลุบปากตัวเองมองมาที่ผมแถมเรียกให้ผมไปสุ่มหัวกันตรงนั้น ทำไรกันเนี้ยะ
“ตกลง มึงเล่นเป็นแฟนกันให้แม่มึงดู”
“เออ ยังไม่ใช่แฟนกูจริง”
“แล้วมึงมาบอกไรกูเนี้ยะ”
“ไม่ได้ต้องมีคนรู้คนนึงดิ เดี๋ยวไปกันทั้งบ้าน”
“แล้ว ทามยอมหรอจ๊ะ”
“ครับ ก็...ครับ”
จะให้พูดยังไง กูก็ไม่ได้ยอมหรอกนะ แต่เหมือนถูกบังคับให้ยอม ก็เลยยอม เอ๊ะยังไง เริ่มงงแล้วเหมือนกัน เราสามคนเดินกันที่ห้องทานอาหาร เจอคุณนายเจนจิราเล่นมือถือรออยู่หัวโต๊ะรออยู่แล้ว
“ลูกๆของแม่มากันแล้ว พี่วาวเอาอาหารมาเลยค่ะ”
คุณนายเจนจิรา หันไปบอกกับป้าวาว ดูสนิทกันทั้งบ้านดีนิ ทำไมนายย้ายออกไปอยู่คนเดียวล่ะ อาหารแต่ละอย่างถูกนำมาวางบนโต๊ะ เอ่อ เยอะไปมั้ยคุณนาย มีกันสี่คน เอามาอย่างกับจะเลี้ยงเป็นสิบ ไม่ใช่ผมที่คิดอย่างงั้นหรอก พี่รันเองก็คิดเหมือนกันเพราะเธอถามออกไป
“แม่ เยอะไปมั้ยค่ะ กินกันสี่นะ ไม่ใช่สิบ”
“ไม่ได้ๆๆรัน แขกพิเศษแม่มา ต้องเลี้ยงกันดีๆหน่อย”
ไม่ต้องบอกเลยว่าเจาะจงมาที่ผม ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไป คุณนายกวักมือเรียกผมให้ไปนั่งข้าง แล้วให้พี่รันมานั่งข้างผม เรย์เลยต้องไปนั้งฝั่งตรงข้ามผม โอ้ คุณนาย คุณนายคิดจะทำอะไรครับ ตั้งแต่นั่งมาคุณนายถามผมละเอียดมาก มาจากไหน ทำงานอะไร รู้จักกันได้ไง รักกันเมื่อไหร่(อันนี้นี่คิดกันไม่ออกกันเลยทีเดียว) อยู่ด้วยกันนายรึยัง เคยมีอะไรกันรึยัง(โหอันนี้ข้าวพุ่งเลย) ผมแทบจะไม่ได้ตักข้าวเข้าปาก แถมคุณนายแกไม่ยอมให้เรย์พูดแม้แต่นิดเดียว คือพอเรย์พูดอะไรก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน เสมือนว่าเรย์ไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย
“เธอคิดว่าจะดูแลลูกชายฉันได้มั้ย”
“เอ่อ...”
“แล้วเธอจะทำเค้าเจ็บเหมือนครั้งก่อนมั้ย”
“เอ่อ...”
“เธอรัก ลูกชายฉันจากใจจริงรึ เปล่า”
“....”
อะไรกัน อยู่ๆคำถามก็เครียดขึ้นมา นัยน์ตาเยี่ยวมองผม คาดครั้นเอาคำตอบเดี๋ยวนี้จนผมทำอะไรไม่ถูก กดดัน...กดดันมาก รักรึเปล่า มันก็ไม่ใช่ เพราะตอนนี้มีแต่ความรู้สึกดีๆให้ ถึงมีมากกว่านั้นแต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่านั้นคืออะไร แล้วยิ่งสถานะตอนนี้ มัน...มันยังไม่ใช่
“แม่ครับ พอก่อน”
คุณนายเจนจิราหันไปมองหน้าลูกชาย สายตาเว้าวอนของเรย์ทำให้คุณนายใจอ่อน เฮ้อ โล่ง เริ่มไม่อยากกินข้าวแล้วเนี้ยะ
“ก็ได้ แต่แม่ยังสัมภาษณ์ไม่เสร็จ เพราะฉะนั้น วันนี้แกสองคนนอนนี่”
“แม่!”
“ไม่รู้แหละ นอนนี่”
มาแล้ว ความเอาแต่ใจของคุณนาย หลังจากนั้นคุณนายก็ไม่ได้ถามอะไร กลับไปคุยกันระหว่างแม่ลูกกันต่อ ผมก็ได้กินข้าวแบบสงบๆของผมไป บางทีคุณนายก็หันมาถามผมบ้างแต่ก็ไม่ได้เครียดอะไร ผมพอจับได้บ้างล่ะ เธอคงไม่อยากให้ลูกตัวเองเป็นเหมือนครั้งก่อน ผมก็ไม่ได้ถามอะนะว่า มันเป็นอะไรบ้างแต่ท่าทางจะหนักหน้าดู พอกินกันเสร็จพวกผมก็โดนกักบริเวณไม่ให้ออกบ้าน เลมเบอร์มันก็ถูกแม่มันยืดเอาไปเที่ยว โหนี่กะไม่ให้ออกไปไหนเลย คุณนายกำชับกับพ่อบ้านว่าไม่ต้องให้กุญแจมันสักดอก แม้พ่อบ้านจะรักมันแค่ไหนก็เหอะ แต่คำสั่งไหนใหญ่กว่าก็ต้องทำตาม
“แม่...แล้วทามนอนไหน”
“เอ้า เป็นแฟนกันก็นอนด้วยกันน่ะสิ”
เออเว้ย ไม่ใช่ ลืมคิดถึงเรื่องนี้เลยอะ มันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนเก่ามัน มันสำรวจอะไรนิดหน่อยแล้วก็โวยวายออกมา
“เฮ้ยแม่ หมอนข้างเรย์อะ ผ้าห่มก็มีผืนเดียว จะนอนกันยังไง”
“แหม่ลูกแม่ หมอนข้างมันกอดไม่อุ่นเท่าคนรักหรอกจ๊ะ ผืนเดียวก็อุ่นได้ลูก”
คุณนายเจนยิ้มอ่อนโยน(หรอ)ให้มัน แววตาของนางดูมีความสุขมาก ไม่ได้มีความสุขที่เห็นลูกมีความสุข แต่มีความสุขมากที่ลูกโดนแกล้ง นางโคตรแสบเลยเหอะ คุณนายยิ้มให้พวกผมก่อนบอกราตรีสวัสดิ์ แล้วเดินลั่นล้าลงบันไดไปเลย ปล่อยพวกผมสองคนยืนเงิบกันหน้าห้อง
“แม่นายโคตรแสบอะเรย์”
“เออสิ บอกแล้ว แย่แน่”
ผมเดินเข้าไปในห้อง ห้องดูโล่งมาก คงเพราะมันย้ายของออกไปหมดแล้ว มันบอกให้ผมเข้าไปอาบน้ำก่อน อ่าห์สบายอย่างแรง อ่างใหญ่มาก ชีวิตคนรวยอะนะ อยู่ที่นี่ก็สบาย ครอบครัวก็อบอุ่นมันย้ายออกทำไมวะ ผมล่ะไม่เข้าใจมันจริงๆ เออแล้วผมจะเอาเสื้อผ้าไหนใส่วะ ผมคิดได้หลังขึ้นจากอ่างเช็ดตัวให้แห้งพันผ้าขนหนูออกไปถามมัน
“เฮ้ยเรย์ เสื้อผ้าอะ”
มันบุ๋ยใบ้ชี้ไปที่เตียง โหพร้อมอะพร้อม พอผมถามว่านี้ของใครมันก็บอกว่าของมัน เออชุดใส่นอนเฉยๆใส่ไปก่อน อะหื้อ ผมเริ่มรู้สึกว่าผมตัวเล็กแล้วล่ะเพราะเสื้อมันใหญ่มากอะ กูควรพิจารณาตัวเองแล้วใช่มั้ยเนี้ยะ
“โคตรโคล่งเลยว่ะ”
มันพูดพลางเดินมาพับแขนเสือให้ ผมก็ยื่นไปให้มันพับโดยดี บอกแล้วมันใหญ่มากอ่ะ แบบคลุมไม่เห็นบอกเซอร์เลยอ่ะ หรือบอกเซอร์มันสั้นวะ
“เฮ้ย บอกเซอร์สั้นไปมั้ยวะ นี่ค้นเอาตัวเล็กสุดมาให้เนี้ยะ”
“มียาวกว่านี้มั้ยอ่ะ”
“เห็นขาอ่อนเลยว่ะ”
ผมย่นจมูกให้มัน มามองไรที่ขาเล่า มันไปค้นในตู้แล้วเอาออกมาให้ผมดู เออกูใส่ตัวนี้ได้ตัวเดียวว่ะ เพราะตัวอื่นใส่นี้คงหลุดหมด ผมพยักหน้าเชิงว่าไม่เป็นไรก่อนปีนขึ้นเตียงไป เอ่อ...สามทุ่มครึ่งมันจะเร็วไปมั้ย เดี๋ยวฟ้าผ่าหรอกแต่มันก็เหนื่อยยังไงไม่รู้ ผมกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงได้ซักพัก เรย์มันก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา เอออิจฉาวุ้ย หุ่นดีไปมั้ย มันเดินไปใส่ผ้า เช็ดผมแล้วก็ปีนขึ้นมานอนกับผม แปลกแฮะ ไม่เคยนอนด้วยกันมาก่อน แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกขัดอะไร มันถามผมว่าจะนอนรึยัง ผมพยักหน้ามันลุกขึ้นเดินไปปิดไฟแล้วกลับมาที่เตียงอีกครั้ง
อ่า...ผ้าห่มผืนเดียว ไม่ได้หนาวอะไรมากนะแต่มันก็เย็นๆอะ ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงคอ ขยับเข้าไปใกล้มันอีกนิดเดี๋ยวแย่งผ้าห่มกัน เริ่มอุ่น ตาผมเริ่มจะปิดแล้วแต่มันยังนอนไม่ได้เพราะเรย์มันนอนพลิกไปพลิกมาอยู่นั้น จนผมทนไม่ไหว ส่งเสียงถามมัน
“นอนสิ พลิกไปพลิกมาอยู่ได้”
“นอนไม่หลับอ่ะ ไม่มีหมอนข้าง”
“ติดหมอนข้าง???”
“อือ”
โคตรเด็ก ติดหมอนข้าง อย่างกับติดตุ๊กตา ผมลุกขึ้นหยิบหมอนที่หนุนอยู่ให้มัน ดูท่ามันงงๆตอนรับ
“อ่ะ จะได้นอนหลับ”
“เฮ้ยไม่เป็นไร”
“เออใช้ๆไป ฉันนอนยังไงก็ได้ได้อยู่แล้ว”
มันเงียบ ผมยิ้มให้มัน ในแสงสลัวผมเห็นมันยิ้มตอบให้ผม ผมลงนอนต่อ มันหยุดพลิกตัวแล้ว อ่า...ดีจะได้นอนสักที
อุ่นดีนะ นอนกันแบบนี้น่ะ.....
ความคิดเห็น