คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Wait a minute 3
Wait a minute…
....I don’t mind spending everyday,Out on your conner in the pouring rain,Look for the girl with the broken smile,Ask her if she want to stay awhile and she will be love she will be….
เสียงเรียกเข้ามือถือผมดังขึ้นลั่นห้อง เพลงเกือบจะจบแล้วผมถึงได้ตะเกียดตะกายขึ้นมารับโทรศัพท์ เบอร์ที่ทำงาน...ใครวะ
“ครับ???”
“ทามเหรอจ๊ะ พี่ เพนต์นะ วันนี้ไม่ต้องมาทำงานนะจ๊ะ พอดีหัวหน้าสั่งกะทันหันน่ะเลยไม่ได้บอกไว้ก่อน”
“อ่อ ครับๆ....ครับ...สวัสดีครับ”
ไม่ไปทำงาน???ทุกทีผมได้เข้างานวันเสาร์อีกวันแต่เข้า10โมงเลิกบ่ายสามน่ะ หยุดอะไรกะทันหันวะ ข้อข้องใจของผมคงไม่ทันได้แถลงไขเพราะผมมึนเกินกว่าจะถามเขากลับ เอาเหอะกี่โมงวะเนี้ยะ 8 โมงครึ่ง อืม...นอนต่อดีมั้ยวะ ความคิดของผมก็หยุดแค่นั้นเมื่อนึกถึงผ้าที่กองอยู่ที่ยังไม่ได้ซัก ปกติแล้วผมจะซักอาทิตย์ละครั้งวันอาทิตย์ ก็นะคนมันไม่มีเวลานิแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วได้วันหยุดเพิ่มอีกวันทั้งทีทำให้มันเสร็จๆไป พรุ่งนี้จะได้พักบ้างตั้งแต่อยู่ที่นี้มาก็เหมือนได้ทำงานเพิ่มอีกหนึ่งวันแต่มันก็ไม่ได้เหนื่อยมากเพราะเจ้าของบ้านก็ยังรับผิดชอบของส่วนตัวของตัวเองอยู่
ผมทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกมาข้างนอกพร้อมกับตะกร้าผ้าของตัวเอง ผมเอามันวางไว้หน้าเครื่องซักผ้าก่อนเดินไปอีกห้องนึงเพื่อเอาอีกตะกร้ามาซัก
“เรย์....เปิดประตูหน่อย”
ผมยืนรออยู่หน้าห้องมันนานมากเคาะแล้วเคาะอีกว่าเจ้าตัวจะยอมมาเปิดประตูให้ ผมเผลอหลุดขำนิดหน่อยเมื่อเห็นสภาพมัน ตานี้โหลมาก หน้าตาดูไม่ได้เลย แฮงค์แน่ๆ แต่ระดับมันนักเที่ยวผู้เชี่ยวชาญคงไม่แฮงค์ง่ายๆหรอกมั้ง
“แฮงค์ว่ะ”
ผมขำพรืดทันทีที่มันพูด โถ่เพิ่งชมไปเมื่อกี้ เสียหมด มันเดินกลับไปนอนต่อ เหอะๆหลับไปเลยแฮะ ทำไงได้สภาพเมื่อวานนี้ดูไม่ได้กันเลยทีเดียว นี้ถือว่าโชคดีนะที่วันนี้วันเสาร์ จะได้นอนทั้งวันได้ ผมยกตะกร้ามันออกมากองไว้รวมกัน ผมแยกผ้าซักผ้าก็ทำทุกอย่างที่เรียกว่าซักผ้านั้นแหละ ระหว่างรอก็ไปกวาดบ้านถูบ้าน...ชีวิตนี้พ่อบ้านจริงๆ คิดๆดูแล้วเรย์มันก็คุณชายพอสมควรแล้วตอนก่อนผมมาอยู่...มันอยู่ยังไงของมัน ผมจินตนาการบ้านที่รก เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและของวางกระจัดกระจาย ไม่มั้ง อย่างน้อยมันคงจ้างแม่บ้านมาดูแลแหละ
ผ้าซักเสร็จแล้ว ผมเอาผ้าทั้งหมดออกไปตากด้านนอกระเบียง ดีว่าช่วงสายๆจนถึงบ่ายๆแดดมันส่องพอดีผ้าเลยจะแห้งเร็ว ดูนาฬิกาอีกทีก็จะเที่ยงแล้ว ทำไรกินดีกว่า
กึกๆ
โอ้ มาแล้วตื่นเที่ยงเป๊ะเลยนะพ่อคุณ มันยืนนิ่งอยู่หน้าห้องมันสักพัก ก่อนเดินออกมา มันเดินเซไปเซมา มันคลานออกมาได้คงคลานออกมาแล้ว พอมือจับเก้าอี้ได้ ก็ทิ้งตัวลงอย่างรวดเร็ว เฮอะๆ พ่อคลาสโนว่า ไม่เหลือชิ้นดีเลย ผมเดินไปเอาน้ำอุ่นมาให้ มันยกกินรวดเดียวหมด ก่อนยื่นมาให้พ่อเป็นเชิงว่าขออีก ผมส่ายหัวแล้วหันกลับไปเอาให้มันอีกแก้ว คราวนี้เกือบเต็มแก้วเลยล่ะ
“อ่าห์ ดีจัง”
“เมื่อคืนไปทำอะไรมาน่ะ เมาซะ”
ผมถามมันก่อนหันตัวไปทำข้าวผัด ทำง่ายๆไม่ได้ซื้อของไว้เดี๋ยวต้องออกไปซื้อสักหน่อย ไอ้นั้นก็หมดไอ้นี้ก็หมดขนาดไม่ค่อยอยู่บ้านของมันยังหมด
“ก็จะไปสอยสาวมาสักคนนั้นแหละ แต่ดันเสียท่า ยัยนั้นดันเป็นคลาสโนวีตัวแม่ เล่นด้วยยาก”
“เลยโดนเค้ามอมเหล้าว่างั้น”
“เหอะ ระดับนี้ไม่โดนหรอกมีแต่ไปมอมเค้า”
“แล้วเมื่อวานเรียกว่าอะไร”
“......”
นั้น...ไปต่อไม่ถูกล่ะสิ อย่างว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้ามีตัวพ่อก็ต้องเจอตัวแม่ จากสภาพดูก็รู้ว่าโดนเข้าไปเต็มๆ แล้วเมาขนาดนั้นขับรถกลับมาได้ไง ไม่โดนด่านรึไงวะ
“เมื่อวานกลับมายังไง”
“เพื่อนมาส่ง”
“อ่าว ทำไมไม่ให้มันไขประตูเข้ามาล่ะ”
“มันส่งด้านล่าง รู้มั้ยกว่าจะเดินขึ้นมาได้จิ้มผิดไป 3 ชั้นแล้ว”
ผมหัวเราะน้อยๆแต่ก็ให้มันได้ยิน มันบ่นถึงสภาพเมื่อวาน บอกว่ารู้สึกตัวนะแต่แม่งทำอะไรไม่ได้ บอกว่าแม่สาวนั้นพูดอะไรก็ไม่รู้รู้ตัวอีกทีก็กินไปเยอะแล้ว สมเพศตัวเองมาก ผมตอบ เออๆอ่าๆตามมันไปขำบ้างอะไรบ้าง
“หอมอ่ะ ทำไรกินน่ะ”
“ข้าวผัด เอามั้ย”
“เอาๆๆ”
ผมตักให้มันจานผมจาน กินข้าวด้วยกันอีกแล้ว...บ่อยนะช่วงนี้ มันก็ดีนะที่จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับมันบ้างอยู่ด้วยกันมาไม่ค่อยได้คุยกันเลยเหอะ เอาจริงๆนะ ต่างคนต่างเวลาขนาดเสาร์อาทิตย์ยังไม่ค่อยได้เจอกัน ผมออกบ้านมันอยู่บ้าน ผมเข้าบ้านมันออกบ้าน เดินสวนกันออกบ้านกันยังมี ยิ่งวันอาทิตย์เหอะ ผมแปลกใจมากผมอยู่บ้านทั้งวันแต่มันหายไปไหนทั้งวันก็ไม่รู้
“เดี๋ยวจะออกไปซื้อของน่ะ เอาอะไรมั้ย”
“ไปที่ไหนอ่ะ”
“โลตัส ใกล้ๆนี้ ยืมรถหน่อยสิ”
ผมไม่มีรถ ก็มันขี้เกียจซื้อ ขี้เกียจผ่อน ที่ทำงานก็อยู่แค่นี้ไม่รู้ว่าจะซื้อไว้ทำไม มันเคยบอกผมว่าจะไปไหนก็ยื้มรถได้อย่าเอาไปชนกับขนยาบ้าก็พอ
“ได้ๆ เอาคันไหนละจ๊ะ”
มันทำหน้ายียวนใส่ ผมย่นจมูกใส่มันคืน จ่ะ พ่อคนรวย มันมีสองคัน ซีวิก กับ เลมเบอร์กินี่อีกคัน ผมคงไม่ต้องบอกนะจะเอาคันไหนไป ผมเคยถามว่าจะเอาซีวิกไว้ทำไม มันบอกว่าถ้าอยากเป็นคนธรรมดาก็ขับ ซีวิก อยากเป็นเจ้าชายก็เอา เลมเบอร์ออก ผมฟังคำตอบมันปุ๊บ ผมก็เดินหนีมันปั๊บเลย
“ถ้าบอกว่าจะเอาเลมเบอร์ไปล่ะ”
“ตามสบาย แต่ตอนนี้คงใช้ไม่ได้นะ”
“อ่าว ทำไมล่ะ”
“เมื่อคืนเมาไง ทิ้งรถไว้ที่ผับ”
“ไม่โดนขโมยไปแล้วรึไง”
“จอดที่ วีไอพี เขาดูแลอย่างดีๆ”
ผมส่ายหัวมันอย่างระอา ก็นะมันหายคงซื้อใหม่ได้อยู่ละมั้งห๊ะ เราสองคนกินไปคุยไป มันเป็นคนพูดมากนะที่จริง เพราะเรื่องส่วนใหญ่มาจากปากมัน ผมไม่ต้องถามก็พอจะรู้แล้วล่ะว่ามันเป็นยังไง หลังกินข้าวเสร็จผมก็เตรียมตัวจะออกไปข้างนอก
“เฮ้ย ทามไปด้วยสิ”
“หา???”
“ไปด้วยยยย”
“รู้แล้วแต่...ไปทำไม”
เอาอีกแล้วคำถามโง่ๆอีกแล้วเมื่อไหร่ผมจะเลิกถามคำถามที่มันกวนส้นสักที ถึงทีมันเลิกคิ้วใส่ผมบ้างแถมเท้าสะเอวอีก
“อ่า...เอาเหอะๆป่ะๆๆ”
“แต่งตัวแปบ”
โอ้นี้แต่งตัวธรรมดาเป็นกับเค้าด้วยเหรอ แต่ทำไมมันดูดีจังวะ แค่เสื้อยืดคอเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ แถมยังมีแต่คนมองมัน อยู่กับมันก็ไม่รู้หรอกรู้แต่ว่ามันก็น่าตาดี แต่พอมาอยู่ต่อหน้าสาธารณชนรู้เลยว่ามันเป็นที่หมายปองของคนทั่วไปไม่ว่าหญิงรึชาย!!!!
“อ่าว...ไมเดินห่างแบบนั้นละ”
“มีแต่คนมอง ไม่อยากเดินใกล้”
“เอ้า คนมันหล่ออ่ะนะทำไงได้”
มันทำท่าเก็กหล่อแถมยังส่งสายตาให้กับสาวสองคนด้านข้างอีกตากหาก พวกหล่อนนี้แทบจะละลายดูจากท่าทาง ผมไม่สนใจรีบเข็นรถเข็นหนี
“อ่าวเฮ้ย รอด้วย”
มันรีบตามผมมาแถมบอกว่าจะเข็นรถให้ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้มันเข็นตาม ส่วนผมก็หยิบของใส่ตามในลิสที่เขียนไว้มันจะสะดวกกว่านี้มากถ้ามันไม่เดินไปนู้นทีไปนี้ที บ้างครั้งเป็นผมต้องเดินตามมัน เอ่อ...ซื้อของ ไม่ได้มาเที่ยว
“ทาม เลือกอะไรนาน”
“ก็ต้องเลือกหน่อยดูปริมาณกับราคาว่ายี่ห้อไหนดีกว่า”
“แต่ฉันชอบยี่ห้อนี้อ่ะ”
“ก็ดูหน่อยสิจะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะ”
“โอ่ย...เลือกไปเหอะๆ กินได้เหมือนกัน”
“ไม่ได้ต้องดูก่อน”
เราเถียงกันไปกันมาอยู่นาน ผมก็ดันไปได้ยินเสียงผู้หญิงสองคนยืนคุยกัน ไม่ได้แอบฟังหรอกแต่มันดันไปได้ยินน่ะ
“เธอๆคนนั้นหล่อเนอะที่ตัวสูงๆอ่ะ ที่ไม่ได้ใส่แว่นอ่ะ”
“เออหล่อเนอะ แต่เสียดายมากับแฟน”
“โอ้ย นั้นสิ แต่อีกคนดูไม่เหมาะกันเลย”
“แต่ฉันก็ว่าน่ารักดีนะ”
อู้! คุณครับเอาอะไรดูครับ มากันสองคนก็คิดเลยหรอว่าเป็นกัน แถมมาวิพาควิจารณ์ผมอีก ผมรีบหยิบของใส่ในรถเข็นแล้วเดินออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
“อ้าวไหนว่าดูก่อนไงว่าอันไหนคุ้มอ่ะ”
มันยังเถียงอีก โอ่ย ไม่รู้ละเดินหนีก่อนเป็นพอวันหลังจะมาซื้อของจะไม่เอามันมาด้วยแล้ว จะไม่บอกมันเลย จะทิ้งไว้บ้านอย่างคนเดียว
“อะไรๆ เขาแค่ว่าเราเป็นแฟนกันเฉยถึงกับเดินหนีเลยหรอ”
“ได้ยิน??”
ผมหยุดกึกทันทีอ้าวนี่ได้ยินแต่ไม่สนใจเลยเรอะ
“ไม่ดีหรอเป็นแฟนคนหล่อเนี้ยะ”
ผมเบิกตาใส่มันไปชุดนึง...ช่างไม่สนใจโลกเลยนะพ่อคุณ เขากำลังว่าเราเป็นแฟนกันนะเว้ย
“แต่ก็ว่าเขาไม่ได้นะทาม มากันสองคน ซื้อข้าวของจำเป็นเข้าบ้าน เหมือนเป็นผัวเมียกันชัดๆ”
ผมกลอกตา อ่า...พอละ จะคุยกับคนแบบนี้อีกชาตินึงก็ยังไม่ทันมัน ดูมันใช่คำ...ผัวเมีย โอ่ย จะบ้า ผมหันกลับมาเข็นรถเข็นต่อไปที่ช่องคิดเงิน ผมได้ยินเสียงมันหัวเราะไล่หลังมา เออๆๆสนุกๆ เฮ้อ...เหนื่อย
พอถึงรถ เราก็ช่วยกันเอาข้าวของที่ซื้อมา(บางอย่างก็ไม่ได้อยู่ในลิสเพราะบางคนอยากได้กะทันหัน)ไว้หลังรถ วันนี้เหนื่อยกว่าจะซื้อของเสร็จกว่าจะผ่านสายตาของฝูงชนอีก ผมยังจำสายตาพนักงานคิดเงินได้อยู่เลย ไม่ต้องบอกว่าหล่อนคิดอะไรอยู่
“อ่า...ซื้อของวันนี้สนุกดี วันหลังมากับนายอีกดีกว่า”
หรอ...ไม่ต้องมาก็ได้นะ เดี๋ยวได้กลายเป็น ‘ผัวเมีย’ กับนายอีก...
ความคิดเห็น